แชร์

บทที่ 58

ผู้เขียน: กานเฟย
หลิงอวี๋และทั้งสี่คนถูกไป่ซุ่ยพาไปลานจวนเล็ก ๆ ลานหนึ่งที่อยู่ข้างกัน ลานจวนนี้สะอาดเรียบง่ายเป็นสถานที่พักผ่อนรวมตัวตระกูลที่เป็นสตรี

ครั้นรอให้ไป่ซุ่ยออกไป แม่นมลี่ให้หลิงซินไป ก่อนจะดึงหลิงอวี๋มาข้าง ๆ เอ่ยเสียงแผ่ว

“คุณหนู ท่านรู้หรือไม่ว่าเหตุใดบ่าวถึงสนับสนุนให้อยู่ต่อ?”

หลิงอวี๋เดาว่าแม่นมลี่คงไม่เสนอให้ตนอยู่ต่อหากไม่มีสาเหตุจึงเอ่ยถามเสียงเบา

“เป็นเพราะฮูหยินใหญ่เหลียงผู้นั้นมีฐานะที่พิเศษรึ?”

แม่นมลี่มองนางอย่าจนปัญญา กล่าวเสียงแผ่วว่า “คุณหนู ท่านลืมไปแล้วรึ เมื่อท่านยังเด็กเคยพบนาง...นางแซ่เหลียง… ฮ่องเต้องค์ปัจจุบันคือฮ่องเต้อู่อันและหมู่เฟย(1)ของฮ่องเต้ก็แซ่เหลียงเจ้าค่ะ!”

หลิงอวี๋ตกตะลึงชั่วขณะ เอ่ยถามว่า “หรือว่านางคือไทเฮา?”

หลิงอวี๋รู้เพียงว่าฮูหยินใหญ่ผู้นี้มีฐานะสูงศักดิ์ สง่าเกรียงไกร ยังคิดว่าเป็นคุณท่านหญิงจากสกุลร่ำรวยมากอำนาจจากบางแซ่

ผู้ใดจะไปรู้ว่าเป็นไทเฮาในพระราชวัง!

“นั่นน่ะสิ! คุณหนู… เมื่อครู่บ่าวเป็นห่วงท่านแล้ว! หากท่านรักษาไทเฮาไม่หาย พวกเราต้องตายกันหมดเจ้าค่ะ!”

แม่นมลี่ประสานมือ ก่อนจะท่องนะโม อมิตาภพุทธะ แล้วเอ่ยว่า “ยังดีที่คุณหนูช่วยชีว
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 59

    ด้วยตำรับอาหารบำรุงสุขภาพที่ทำตามคำแนะนำของหลิงอวี๋ กอปรกับโอสถพ่นหอบหืดที่หลิงอวี๋ให้ ไทเฮาเหลียงหลับเสถียรภาพตลอดคืนไทเฮาก็รู้สึกร่างกายผ่อนคลายจากที่ไม่เป็นมาก่อน นางก็คลี่ยิ้มพึงพอใจ“ทั้งหมดนี้ต้องยกคุณงามความดีให้ชายาอ๋องอี้! อายเจียรู้สึกว่าถ้าดูแลอย่างนี้ต่อไป อายเจียจะมีชีวิตถึงร้อยปีจริง ๆ ”“เป็นเช่นนั้นแน่นอนเพคะ! ไทเฮามีวาสนาดี… ออกตำหนักก็บังเอิญพบกับผู้สูงศักดิ์แล้ว!”“บ่าวจะไปคอยปรนนิบัติไทเฮาเสวยพระกระยาหารเช้า! ชายาอ๋องอี้บอกว่าหลังเสวยเสร็จก็พักผ่อนครึ่งชั่วยาม นางจะรอท่านอยู่ลานครึ่งทางขึ้นเขาวัดเพื่อชี้แนะวิธีรำไทเก๊กท่าน!”“ดีเลย… แม่นมเว่ย เจ้าควรศึกษาทีหลังด้วย! พวกเราจะได้อายุยืนยาว… เจ้าจะได้อยู่เคียงข้างอายเจียหลาย ๆ ปี” ไทเฮาเหลียงรู้สึกยินดีสุดซึ้งแม่นมเว่ยพยักหน้าส่งยิ้มตอบ “ไทเฮาทรงโปรดปรานรักใคร่ บ่าวจะหมั่นเพียรศึกษาตามอย่างแน่นอน บ่าวจะอยู่คอยปรนนิบัติไทเฮาพันปีพันพันปีเลยเพคะ! ”“ปากเจ้าทาน้ำผึ้งหรือ? เลือกวาจาน่าฟังเสมอเลย… อะไรพันปีกัน อายเจียไม่คาดหวัง มีชีวิตร้อยปีก็พอใจแล้ว!”ไทเฮาเหลียงเสวยพระกระยาหารเช้าอย่างกระหยิ่มยิ้มย่อง และแม่นมเ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 60

    “คุณหนู ทำเช่นไรดีเจ้าคะ?”“งานเฉลิมฉลองของไทเฮาเชิญท่านไป เราก็ต้องเตรียมของขวัญถวายไทเฮา ยังต้องซื้อชุดเสื้อผ้าให้ท่านสวมไปงานด้วย!”ระหว่างทางกลับ แม่นมลี่นึกถึงเงินห้าสิบตำลึงที่หลิวอวี๋ให้ตนก็เกิดความกลุ้มใจของขวัญถวายไทเฮามิอาจกระจอกงอกง่อยได้ เสื้อผ้าที่คุณหนูสวมเข้าวังก็มิอาจะกระจอกงอกง่อยได้เช่นกัน!นี่เป็นเรื่องสำคัญที่ผลาญเงินยิ่ง แต่เหลือเวลาแค่สิบกว่าวันก็ถึงวันงานเฉลิมฉลองพระราชสมภพแล้ว จะไปหาเงินได้จากไหนเล่า!หลิงอวี๋กล่าวคัดค้านว่า “แม่นม พระนางแค่พูดตามพิธีรีตองเท่านั้น ไยเจ้าคิดเป็นจริงเป็นจัง!”“อ่า ตามพิธีรีตอง? เป็นไปมิได้! คำพูดดั่งทองวาจาดั่งหยกของไทเฮา จะตรัสความเท็จได้เยี่ยงไร?” แม่นมลี่ผงะสักพัก“เมื่อก่อนในวังจัดงานเฉลิมฉลองอะไรก็ไม่เคยเชิญข้า! ไทเฮาจะทรงละเว้นได้เยี่ยงไร!”หลิงอวี๋ยิ้มอ่อนจาง “ข้าช่วยคนเป็นหน้าที่ ไม่อยากได้อะไรจากพระนาง! แม่นมก็อย่าพะวงไป… หากต้องพะวงจริง ๆ ก็คอยจนกว่าจะได้เห็นบัตรเชิญค่อยว่ากันเถอะ!”ครั้นแม่นมลี่ได้ฟังคำพูดเช่นนี้ของนางก็หวนนึกถึงทัศนคติของราชวงศ์ที่มีต่อหลิงอวี๋กับหลิงเยว่ก็เลยไม่กอดความหวังแล้วเช่นกัน!ทั้งส

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 61

    เสิ่นจวนเห็นเจิงจื่ออวี้เสียหน้าก็พลันช่วยพูดทันควัน “อย่าว่าแต่เรื่องดูแคลนอันใดเจ้า ตัวข้าสามารถดูแคลนเจ้าได้ประเดี๋ยวนี้เลย!”“หากเจ้าไม่มีเงินกินข้าวจริง ๆ มาเป็นนางรับใช้ให้ข้าสักวัน แล้วข้าจะช่วยค่าอาหารของวันนี้แก่เจ้าเป็นเช่นไร?”สตรีที่กำลังจ้องหลิงอวี๋อย่างอาฆาตคือฉินรั่วซือ น้องสาวของฉินซานนางทนไม่ไหวเลยกล่าวเสียงเย็นชา“เสิ่นจวน นางเลือกภัตตาคารจี๋เสียงแล้วกลับยังต้องการให้เจ้าออกเงินช่วยอีกรึ!”“นางยังติดหนี้เกิ่งเอ้อเหยอยู่เลย ถ้านางจะเข้าไปยืมอีกก็ไม่เห็นจะเป็นไร! ลำบากขนาดนี้แล้วยังจะกลัวอะไรอีก!”คุณหนูคนอื่น ๆ ได้ยินดังนั้นก็หัวเราะเอิ๊กอ๊าก แม้การพรรณนานี้จะหยาบ แต่เหมาะกับหลิงอวี๋ยิ่ง!เมื่อได้ยินเช่นนั้นหัวใจหลิงอวี๋กลับเต้นผิดจังหวะ คาดมิถึงว่านี้คือภัตตาคารที่เกิ่งเอ้อเหยเปิดกิจการ?นางกำลังใคร่ครวญว่า จะไถ่ถอนมรดกตกทอดวงศ์ตระกูลของเซียวหลินเทียนกลับมาอย่างไรดีและคืนเงินกู้ดอกเบี้ยสูงที่ตัวเองติดค้าง!นี่คือการหลับในแล้ววิ่งชนหมอนจริงๆ(1)ชัด ๆ!ในบรรดาร้านยาสมุนไพรพวกนั้นไม่มีความรู้สรรพคุณยาเสียเลย แต่เกิ่งเอ้อเหยเป็นคนในยุทธภพเช่นนี้ต้องรู้เป็นแน่!

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 62

    หลิงอวี๋มองนางอย่างเฉยเมย “เสียงผู้ใดดังก็เป็นผู้นั้นไร้การศึกษาไงเล่า ขนาดเด็กยังเข้าใจ เจ้ากลับมิเข้าใจรึ?”“ถ้าไม่เข้าใจก็กลับไปให้แม่เจ้าสั่งสอนภาคบังคับเจ้าใหม่อีกแปดปีซะสิ!”เสิ่นจวนบันดาลโทสะจนตัวสั่นเทิ้ม หลิงอวี๋คนต่ำช้าผู้นี้กลายเป็นคนฉลาดพูดเช่นนี้ตั้งแต่เมื่อใดกัน?เมื่อก่อนพอถูกตนกล่าวไม่กี่ประโยคก็กระทืบเท้าด้วยความโกรธตลอดแท้ ๆ !นี่เพิ่งไม่พบกันไปไม่กี่วัน ผู้ที่ถูกทำให้โกรธจนต้องกระทืบเท้ากลับเป็นตนเสียอย่างนั้น!มีคุณหนูผู้หนึ่งในกลุ่มนั้นมองไปโดยรอบ ก่อนจะพบว่า คนที่มากินข้าวที่นี่ทั้งหมดล้วนต่างมองมา และแล้วใบหน้านางก็แดงฉับพลันนางดึงเสิ่นจวนเข้ามากระซิบเตือนข้าง ๆ ว่า “เรามาดูเรื่องบันเทิงของนาง! มิใช่ให้ผู้อื่นมาดูเรื่องบันเทิงเรา!”“ทนรออีกสักเดี๋ยว คอยดูนางไม่มีเงินจ่ายอีกสักหน่อย นั่นคงทำให้นางต้องอับอายเป็นแน่!”คำพูดนี้เอ่ยเพื่อปลอบขวัญเสิ่นจวน ครั้นนางเห็นอันเจ๋ออยู่ที่นี่ ก็พลันนิ่งเงียบไปนางปรารถนาออกเรือนกับเซียวหลินเทียน และอันเจ๋อก็เป็นสหายที่ดีที่สุดของเขา นางเลยจำเป็นต้องรักษาภาพลักษณ์ของตนเอาไว้!อาหารเพิ่งยกมา หลิงอวี๋ก็พลันเห็นลู่หนานพา

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 63

    แต่ว่าเวลานี้นางกำลังขาดแคลนเงินมิใช่รึ?นางไม่รังเกียจทองคำ เงิน หรืออัญมณีสามัญ ๆ หรอกนะ เอาสิ่งพวกนั้นมาอาบนางเลยเถอะ!งานเฉลิมฉลองพระราชสมภพอะไรกันเปล่าประโยชน์ที่สุด!เพราะคุณหนูชอบสิ่งของที่จับต้องได้จริง!แม่นมลี่ใจเต้นผิดจังหวะ เคลื่อนตัวเข้าใกล้หลิงอวี๋กล่าวเสียงแผ่ว“แรกเริ่มสิ่งที่ไทเฮาตรัสเป็นความจริง! คุณหนู บ่าวบอกแล้ว ท่านจะได้รับเทียบเชิญจากไทเฮาในครานี้แน่นอน!”“ถูกต้อง ลือกันว่าไทเฮามิโปรดเสียงดัง ฉะนั้นงานเฉลิมฉลองพระราชสมภพครานี้ไม่ได้เชิญคนเยอะมากมัก!”“เริ่มส่งเทียบเชิญในวังเมื่อเช้านี้ เล่ากันว่าไม่เกินร้อยคน… และตัวข้าได้รับเทียบเชิญแล้ว! พวกเจ้าได้หรือยัง?”ชายาผิงหยางกวาดสายตามองทุกคนอย่างกระหยิ่มยิ้มย่องเต็มประดา แถมยังเจาะจงมองไปทางหลิงอวี๋เป็นพิเศษ“เพียงร้อยคนเองหรือเพคะ? งั้นเทียบเชิญนี้ช่างเลอค่าเสียจริง! ห่อมฉันรู้สึกเป็นเกียรติยิ่ง ท่านพ่อหม่อมฉันได้รับหนึ่งใบแล้วสามารถพาคนไปด้วยได้คนหนึ่ง ท่านแม่เลยบอกให้หม่อมฉันไป!” เสิ่นจวนก็กล่าวกระหยิ่มยิ้มย่องเช่นเดียวกันเจิงจื่ออวี้เองก็เร่งเอ่ยว่า “ท่านพ่อหม่อมฉันก็ได้รับแล้วหนึ่งใบ สามารถพาคนคนหนึ่ง

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 64

    หลิงซินไม่รู้ว่าฮูหยินใหญ่ที่พบอยู่วัดชิงเหลียนคือไทเฮาและไม่รู้ด้วยว่าไทเฮาจะส่งเทียบเชิญให้หลิงอวี๋ครั้นได้ยินดังนั้นก็รีบกล่าวว่า “พระชายาผิงหยาง ท่านช่วยให้คุณหนูของเราได้รับเทียบเชิญได้จริงหรือเพคะ?”“นั่นแน่นอน! ตัวข้าคือพระชายาผิงหยางเชียวนะ ลูกพี่ลูกน้องของข้าคือรองเจ้ากรมวังซึ่งสามารถพูดคุยกับไทเฮาต่อหน้าได้!”“ไทเฮาไม่พบหน้าผู้อื่น แต่ถ้าเป็นเกียรติของตัวข้ากับลูกพี่ลูกน้องล่ะก็ต้องพบแน่นอน!”ชายาผิงหยางกล่าวอย่างกระหยิ่มยิ้มย่อง “อีกอย่าง ตัวข้าจะส่งแม่นมไปลองถามลูกพี่ลูกน้องดูดีไหมเล่า? ลองดูว่าเขาจะช่วยชายาอ๋องอี้ให้รับเทียบเชิญได้หรือไม่!”นางหันศีรษะไปใช้สายตาส่งสัญญาณต่อนางรับใช้อาวุโสที่ด้านหลัง“แม่นม เจ้าไปจวนของท่านลุงเสีย ไปขอเทียบเชิญช่วยพระชายาสักใบ!”แม่นมผู้นั้นเข้าใจตามสัญชาตญาณ ตอบรับเสียงกังวานพลันวิ่งแช่มช้าจากไป“พระชายาผิงหยางกับไทเฮาทรงสนิทรักใคร่กันยิ่ง ลูกพี่ลูกน้องเองก็รับหน้าที่แจกเทียบเชิญด้วย บางทีอาจกู้เกียรติพระชายาได้!” เสิ่นจวนยิ้มกล่าวคำ“แต่ชายาอ๋องอี้เจ้าอย่ากอดความหวังจนมากไป อย่างไรเสียชื่อเสียงเจ้าก็เละเทะ ครานี้อาคันตุกะที่เรีย

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 65

    แม่นมถูกสายตานางมองจนเหงื่อกาฬผุดพรายท่วมร่างสวรรค์รู้ว่าเมื่อกี้นางออกไปเพียงเดินวนเรื่อยเปื่อย เดิมทีไม่ได้ไปจวนท่านลุงด้วยซ้ำ!ไฉนเลยจะรู้ว่า พอวนกลับมาก็เห็นคนสวมเสื้อผ้าขันทีสองคนถือเทียบเชิญมาสองใบ!“พระชายา… เดิมทีขันทีสองท่านนั้นอยากมอบให้เองกับมือเพคะ บ่าวเกรงจะลำบากพวกเขาเกินควรเลยตัดสินใจรับมา..”“เทียบเชิญพวกนี้สำหรับมอบให้พระชายาอ๋องอี้เพคะ!”แม่นมยื่นส่งเทียบเชิญสองใบออกไป“โอ้โห พระชายาผิงหยางมีสัมพันธ์อันดีกับไทเฮาจริง ๆ ! เพิ่งไปขอก็ได้มาเลย...”บรรดาคุณหนูไม่รู้ความจริงจึงเกิดเสียงดังอื้ออึงทันใด ก่อนจะพากันมุงชายาผิงหยางกันอย่างพร้อมเพรียงชายาผิงหยางรับเทียบเชิญที่บรรจงเคลือบทองมาอย่างสนเท่ห์แล้วดูให้ละเอียด พบว่านั่นเป็นเทียบเชิญร่วมงานเฉลิมฉลองพระราชสมภพของไทเฮาโดยแท้!บนเทียบเชิญสองใบนั้นเดินทองสวยงาม คือการเชิญชวนหลิงอวี๋กับหลิงเยวี่ยคนละใบ!เทียบเชิญทั้งสองใบเขียนด้วยลายมือมังกรเหินหงส์ระบำ(1) เมฆาล่องลอย สายธารไหลริน(2)ฝูงชนต่างมองอึ้ง พอผ่านไปสักพัก สวี่เหยียนถึงกับมองค้อนไปทางชายาผิงหยางด้วยสีหน้าขุ่นเคือง ก่อนจะกล่าวด้วยแรงริษยา“พระชายากู้เกี

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 66

    ลูกพี่ลูกน้องของชายาผิงหยางเป็นรองเจ้ากรมวังที่แจกเทียบเชิญ ครั้นได้ยินเข้าก็คิดว่าชายาผิงหยางยังไม่ยอมแพ้ในเรื่องเมื่อเช้าแล้วจึงกล่าวอย่างหงุดหงิดว่า“อย่าขอให้ข้าจัดหาเทียบเชิญช่วยเจ้าอีก! ข้าพูดไปแล้วมิใช่หรือ? ข้าทำไม่ได้!”“ข้าบอกเจ้าไปตอนเช้าแล้วว่ามีคนยอมจ่ายหนึ่งแสนตำลึงเงินเพื่อเทียบเชิญเพียงใบเดียว!”“เอาล่ะ เจ้าลองถามขันทีหลาย ๆ คนดู พวกเขาติดตามข้า เมื่อสักครู่เผอิญเจอใต้เท้าหลี่… ใต้เท้าหลี่เสนอสองแสนตำลึงเงินให้ข้า...สองแสนเชียวนะ!”ผู้คนล้วนตะลึงเบิกตากว้าง สองแสนกับเทียบเชิญใบเดียวนี่มันจะราคาสูงเกินไปแล้ว!“สองแสนเยอะมากงั้นหรือ? แต่ในสายตาคนรวยหาเป็นอะไรแบบนั้นไม่!”รองเจ้ากรมวังมองท่าทางตกตะลึงของฝูงชนจึงกล่าวอย่างกระหยิ่มยิ้มย่องไปหลายส่วน“งานเฉลิมฉลองพระราชสมภพของไทเฮาในปีนี้ ผู้ที่เชิญมีจำกัด เพื่อเทียบเชิญใบเดียวเสนาบดีผู้มีคุณธรรมบารมีสูงส่งหลายท่านล้วนมาหาและขอร้องข้า!”“แต่ข้าก็จนปัญญาแล้วเช่นกัน! ถ้าสามารถหาวิถีทางเอาเทียบเชิญได้จริง ๆ ข้าจะมิเอาไว้พึ่งความร่ำรวยทางนี้ได้อย่างไรเล่า?”เขามองค้อนพระชายาผิงหยางและเอ่ยดุ “ฉะนั้นอย่าหยิบเรื่องเล็กน้อยน

บทล่าสุด

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1982

    เผยอวี้ตะลึงไปเล็กน้อย และกำลังจะเอ่ยถามออกไป แต่ก็ถูกหลิงอวี๋แย่งคบเพลิงไปเสียแล้วหลิงอวี๋ถือคบเพลิงส่องไปด้านข้าง แล้วเผยอวี้ก็เห็นว่าเถาวัลย์หนาเส้นหนึ่งเคลื่อนไหวอยู่เล็กน้อยเขายังคิดว่าตนเองตาฝาด ที่นี่ก็ไม่มีลม แล้วเถาวัลย์จะเคลื่อนไหวได้อย่างไรกัน?หลิงอวี๋จึงหมุนคบเพลิงไปโดยรอบ และสิ่งที่สายตาของนางมองเห็นก็ทำให้นางรู้สึกหายใจติดขัดเถาวัลย์ที่ห้อยลงมาจากต้นไม้ใหญ่เหล่านั้นมิใช่เถาวัลย์ แต่เห็นได้ชัดว่าเป็นงูพิษฝูงงูที่อยู่กันอย่างหนาแน่นนั้น บางตัวก็มีขนาดเท่าปากชาม และลวดลายบนตัวก็มีสีคล้ายกับเถาวัลย์ หากมิสังเกตก็จะคิดว่าเป็นเถาวัลย์“นั่นงูหรือ?”เสียงของผู้รอบรู้ลดต่ำลงทันที และเริ่มสั่นเครือขึ้นมาโดยมิรู้ตัว “สวรรค์ งูมากถึงเพียงนั้น นี่… นี่… นี่ต้องเป็นหมื่นตัวกระมัง!”เผยอวี้ก็เห็นอย่างชัดเจนเช่นกัน เมื่อเขาได้ยินคำพูดของผู้รอบรู้ เขาก็รู้สึกขนลุกไปทั่วทั้งตัวทันทีเขาเผชิญหน้ากับกองทัพศัตรูมากมายได้อย่างมิเกรงกลัว แต่งูมากถึงเพียงนี้… เขาจะสังหารได้หมดหรือ?“ตอนนี้จะทำอย่างไรดี?”เสียงของเผยอวี้ก็สั่นขึ้นมาโดยมิรู้ตัวเช่นกัน“ค่อย ๆ ถอยออกไปก่อน! ห้ามส่

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1981

    ที่จริงแล้วหลิงอวี๋มิได้หลับ แต่นางกำลังครุ่นคิดเรื่องราวหลังจากนี้อยู่เมื่อได้ยินคำตำหนิอย่างโกรธเคืองของเผยอวี้ เปลือกตาของหลิงอวี๋ก็กระตุก แต่ก็มิอยากตามเผยอวี้ไปตามหาเซียวหลินเทียนเซียวหลินเทียนเป็นศัตรูของตน นางอยากจะให้เขาตาย แล้วความเป็นความตายของเขาเกี่ยวอะไรกับตนเล่า!แต่ภาพก่อนหน้านี้ก็แวบขึ้นมาตรงหน้า ภาพที่เซียวหลินเทียนโยนนางไปบนต้นไม้ฝั่งตรงข้าม เพื่อป้องกันมิให้นางตกเข้าไปในปากของสัตว์ประหลาด มิฉะนั้นหากนางตกลงไป หากมิถูกสัตว์ประหลาดกัดตายก็คงถูกสัตว์ประหลาดเหยียบจนตายไปแล้วเมื่อนับเรื่องนี้แล้ว ก็นับว่าเซียวหลินเทียนช่วยตนไว้เช่นกันหลิงอวี๋จึงลืมตาขึ้นมาอย่างหงุดหงิด แล้วเอ่ยออกไป “พี่ใหญ่ พวกเราก็ไปตามหาเขาด้วยเถิด!”เนื่องเซียวหลินเทียนเองก็ลงมาเพื่อตามหาผู้รอบรู้เช่นกัน ดังนั้นผู้รอบรู้จึงมิคัดค้านแล้วพยายามลุกขึ้นเผยอวี้เดินอยู่ข้างหน้า เมื่อเขาได้ยินว่ามีเสียงจากด้านหลัง ก็รู้ว่าพวกหลิงอวี๋เดินตามมาแล้วเช่นนี้แล้วเผยอวี้จึงรู้สึกโล่งใจ อย่างน้อยแม้ฮองเฮาจะสูญเสียความทรงจำไป แต่ก็ยังมีความจิตใจดีอยู่มิเปลี่ยนแปลงเผยอวี้ถือคบเพลิงแล้วเดินไปอย่างช้า

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1980

    เมื่อผู้รอบรู้ได้ฟังที่เผยอวี้พูดมาก็มิรู้ว่าควรจะเชื่อใครแล้ว“สิงจั๋ว ถึงอย่างไรตอนนี้เราก็ยังไปไหนมิได้อยู่แล้ว เจ้าลองไปถามพี่น้องในอดีตของเจ้าดูก็ได้ว่าความเป็นจริงเป็นเช่นนี้หรือไม่?”เผยอวี้เอ่ยอย่างอดทน “เจี่ยงหัวถูกจักรพรรดิของเราสังหารไปแล้ว เขาทรยศสือหรง และทำให้ครอบครัวของเขาต้องตายอย่างน่าอนาถด้วยน้ำมือของมหาปราชญ์ ครั้งนี้สือหรงก็ติดตามพวกเรามาที่เมืองหลวงแดนเทพเช่นกัน และต้องการจะสร้างตำหนักปีกเงินขึ้นใหม่ที่เมืองหลวงแดนเทพ!”“นอกจากนี้ ข้าก็มีวรยุทธ์สูงกว่าเจ้าด้วย หากข้าเป็นคนเลว เหตุใดข้าต้องอธิบายให้เจ้าฟังด้วย ข้าสังหารเจ้าไปเสียก็จบแล้ว!”ผู้รอบรู้คิดแล้วก็รู้สึกว่าสมเหตุสมผล เขาจึงเอ่ยอย่างโกรธ ๆ “ข้าจะไปสืบดู หากพิสูจน์ได้ว่าเจ้าพูดโกหก ข้าจะไม่มีวันปล่อยพวกเจ้าไปแน่!”“แม้ว่าวรยุทธ์ของข้าจะมิสูงเท่าของเจ้า แต่ข้าจะใช้วิธีของข้าเองแก้แค้นให้อาจารย์ของข้าอย่างแน่นอน!”หลิงอวี๋นั่งฟังอยู่ด้านข้างอย่างเงียบ ๆ ก็รู้สึกตกใจเล็กน้อยหากเป็นเช่นนี้ ก็แสดงว่าคนของตำหนักปีกเงินเหล่านั้นก็ล้วนกลายเป็นคนของเซียวหลินเทียนแล้ว เช่นนั้นเซียวหลินเทียนจะยิ่งแข็งแกร่งขึ้น

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1979

    เผยอวี้ช่วยประคองผู้รอบรู้ที่เปียกโชกไปทั้งตัวเดินมา และด้วยความช่วยเหลือของทั้งสองคน หลิงอวี๋จึงลงมาจากต้นไม้ได้อย่างราบรื่นนางปวดร้าวไปทั้งตัว อาภรณ์ที่สวมอยู่บนตัวก็ฉีกขาดไปหมด และตามเนื้อตัวก็มีบาดแผลอยู่มิน้อย“พี่ใหญ่ของข้าเล่า?”เผยอวี้มิเห็นเซียวหลินเทียน จึงเอ่ยถามออกมา“เขาถูกสัตว์ประหลาดตัวนั้นพาตัวไปแล้ว!”หลิงอวี๋จึงเอ่ยปลอบใจ “ข้าว่าลูกพี่ลูกน้องของท่านมีวรยุทธ์สูงมากนะ เขาน่าจะกลับมาได้อย่างปลอดภัย!”“ข้าจะไปดูสักหน่อย พวกเจ้ารออยู่ที่นี่เถิด!”เผยอวี้เป็นห่วงเซียวหลินเทียน ดังนั้นหลังจากที่ทำคบเพลิงให้พวกเขาหนึ่งอันแล้ว เขาก็จะไปตามหาเซียวหลินเทียนตามเส้นทางที่สัตว์ประหลาดทิ้งร่องรอยเอาไว้“ทางที่ดีเจ้าอย่าไปจะดีกว่า มิใช่ว่าข้าจะขู่ให้เจ้ากลัว แต่บริเวณนี้ล้วนเป็นหญ้าพิษและสมุนไพรพิษทั้งนั้น บางชนิดแม้แต่ข้าก็มิรู้ว่ามันคืออะไร!”หลิงอวี๋เอ่ยอย่างมีเจตนาดี “สัตว์ประหลาดตัวนี้เติบโตมาด้วยการกินหญ้าพิษและสมุนไพรพิษ เจ้าช่วยมิได้ก็อย่าไปเพิ่มภาระจะดีกว่า! เชื่อพี่ใหญ่ของเจ้าเถิด เขาจะต้องกลับมาอย่างปลอดภัยแน่นอน!”เผยอวี้ เซียวหลินเทียนและคนอื่น ๆ ล้วนเดาออกว่า

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1978

    “บริเวณโดยรอบมีต้นไม้สูงใหญ่อยู่มาก ท่านขึ้นไปบนต้นไม้สักต้น พวกเราต้องดูก่อนว่านี่มันคือสัตว์ประหลาดอะไรกันแน่”หลิงอวี๋ชี้แนะเซียวหลินเทียนก็มิพูดพร่ำทำเพลง เขาเชื่อมั่นหลิงอวี๋โดยไม่มีเงื่อนไข แล้วหยิบตะบันไฟออกมาส่งให้หลิงอวี๋ จากนั้นก็อุ้มหลิงอวี๋กระโดดขึ้นไปยืนอยู่บนต้นไม้สูงหลิงอวี๋จึงรีบจุดไฟแล้วมองลงไป สัตว์ประหลาดตัวนั้นไล่ตามมาที่ใต้ต้นไม้แล้ว และมันก็กำลังเงยหน้ามองขึ้นมาด้วยมันเหลือตาเพียงข้างเดียว และกำลังจ้องมองขึ้นมาด้วยสายตาเย็นเยือกแสงสว่างจากตะบันไฟมีอยู่จำกัด หลิงอวี๋มองเห็นเพียงดวงตาที่ถูกซ่อนอยู่ภายใต้ขนที่ยุ่งเหยิงของมันเท่านั้น“ฮึ่ม…”สัตว์ประหลาดส่งเสียงออกมา แล้วก็ถอยหลังไปหลิงอวี๋มองเจตนาของมันออกในทันทีที่สัตว์ประหลาดถอยหลังไปมิได้วางแผนที่จะยอมแพ้ แต่เพื่อรวบรวมพลังจะมาพุ่งชนต้นไม้ให้หักต่างหาก“ที่นี่มิปลอดภัย หนีเร็ว!”ทันทีที่หลิงอวี๋พูดจบ สัตว์ประหลาดตัวนั้นก็พุ่งกลับมา มิรู้ว่ามันเกิดมาพร้อมพลังเหนือธรรมชาติหรืออย่างไร ได้ยินเพียงเสียงไม้หัก...ต้นไม้ต้นหนาถูกสัตว์ประหลาดโจมตีจนหักไปแล้วเมื่อเซียวหลินเทียนได้ยินเสียงร้องของหลิงอวี๋

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1977

    หลิงอวี๋หลบมิทัน จึงถูกสัตว์ประหลาดกระโจนใส่จนหงายหลังไป แล้วสัตว์ประหลาดตัวนั้นก็อ้าปากจะพุ่งไปกัดคอของหลิงอวี๋หลิงอวี๋มองมิชัดในความมืด จึงเห็นเพียงดวงตาสีเขียวที่มีขนาดใหญ่เท่ากับระฆังทองแดงของสัตว์ประหลาดอยู่ใกล้แค่เอื้อม ลมหายใจร้อน ๆ ที่มันพ่นออกมาทั้งคาวทั้งเหม็น จนทำให้หลิงอวี๋รู้สึกอยากจะอาเจียนออกมาก่อนหน้านี้หลิงอวี๋คว้าหินก้อนหนึ่งไว้ในมือ เมื่อรู้สึกถึงลมหายใจร้อนใกล้เข้ามา นางก็ยัดก้อนหินเข้าไปโดยมิคิดทันทีจากนั้นมืออีกข้างที่ถือกริชมาตลอดก็แทงไปที่ดวงตาสีเขียวนั้นอย่างโหดร้าย“โฮก…”สัตว์ประหลาดมีหรือจะคาดคิดว่าหลิงอวี๋จะกล้าต่อต้านมันในเวลานี้ ในระยะที่ใกล้เช่นนี้ ดวงตาของมันจึงถูกหลิงอวี๋แทงเข้าไปเต็ม ๆในปากของมันก็มีหินที่หลิงอวี๋ยัดเข้าไปอุดไว้ และดวงตาของมันก็ถูกแทงจนบาดเจ็บ ขาหน้าที่มันกระโจนเข้ามาจึงเด้งตัวลุกขึ้นยืนในทันทีสัตว์ประหลาดตัวนั้นส่ายหัว แล้วคายก้อนหินออกมา จากนั้นก็ไปไล่กัดหลิงอวี๋อย่างบ้าคลั่งหลิงอวี๋อาศัยตอนที่มันเด้งตัวลุกขึ้นแล้วกลิ้งหนีไปด้านข้าง หลบเลี่ยงมันออกไปนางสั่นไปทั้งตัว การโจมตีเมื่อครู่มิใช่ว่านางมิกลัว เพียงแต่มันเกี่ย

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1976

    “จริงหรือ?”ผู้รอบรู้มีหรือจะคาดคิดว่าหญ้าที่มีดอกสีขาวธรรมดานี้จะมีมูลค่าถึงเพียงนี้ เขาจึงรีบพุ่งเข้าไปเก็บทันที“ยังมีอีกหรือไม่? หากหาเจอได้มาก ๆ ก็มิต้องกังวลว่าจะไม่มีเงินซื้อยาให้เจ้าแล้ว!”ผู้รอบรู้มองไปรอบ ๆ อย่างตื่นเต้นหลิงอวี๋มองผู้รอบรู้ แล้วจู่ ๆ ก็เกิดความรู้สึกซาบซึ้งขึ้นมาพี่ชายบุญธรรมที่เพิ่งรู้จักกันมินานมานี้ ในตอนที่เสือกระโจนใส่ตนก็พุ่งเข้ามาช่วยตนไว้โดยมิหลีกเลี่ยงในตอนนี้เมื่อพบสมุนไพรที่มีมูลค่า สิ่งแรกที่เขานึกถึงก็คือการซื้อยาให้ตน เขามิเคยคิดว่าเมื่อมีเงินแล้วจะนำไปใช้ชีวิตดี ๆ เลยการได้รู้จักพี่ชายผู้นี้ช่างคุ้มค่าจริง ๆ!หลิงอวี๋แอบสาบานว่า ในภายภาคหน้านางจะต้องใช้สิ่งที่ตนได้เรียนรู้มา ทำให้ผู้รอบรู้ได้ใช้ชีวิตที่ดีอย่างแน่นอน“พี่ใหญ่ หากเครื่องยาสมุนไพรล้ำค่าเช่นนี้มีอยู่เต็มภูเขา เช่นนั้นก็คงจะไร้ค่าไปแล้ว!”“สิ่งนี้สามารถเก็บได้! ถึงแม้มูลค่าจะมิได้เท่าช่อสัตตะดารา แต่ก็สามารถขายได้หลายหมื่นทีเดียว!”หลิงอวี๋ให้คำแนะนำ ทำให้ผู้รอบรู้มีความสุขขึ้นมาผู้รอบรู้ตามหลิงอวี๋ไปอย่างมีความสุข หลิงอวี๋ให้เก็บอะไรเขาก็เก็บสิ่งนั้นหลิงอวี๋ให้เข

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1975

    “อย่างไร?”เผยอวี้และเถาจื่อต่างมองไปทางฉินซานฉินซานจึงเอ่ยออกมา “กระหม่อมสังเกตเห็นว่าพลังของฮองเฮานั้นต่ำมาก ทั้งยังลืมพวกเราไปแล้วด้วย นี่คือเหตุจากการถูกปิดผนึกพ่ะย่ะค่ะ! หากพวกเราสามารถหาคนมาช่วยพระนางปลดผนึกไปได้ ฮองเฮาก็จะจำพวกเราได้แล้วมิใช่หรือพ่ะย่ะค่ะ?”“ก็เหมือนกับเสวี่ยเหมยก่อนหน้านี้ ตอนนั้นนางก็จำพวกเรามิได้ แต่เพราะขันทีโม่ช่วยปลดผนึกให้นาง นางจึงจำอดีตขึ้นมาได้!”เซียวหลินเทียนยิ้มขมขื่น “หากพวกเราบอกนางไปตามตรงว่านางถูกปิดผนึก เจ้าคิดว่านางจะยอมให้เราปลดให้กับนางแต่โดยดีหรือ?”“มิแน่ว่า นางอาจจะคิดว่าพวกเราปิดผนึกนาง แล้วหนีไปเร็วยิ่งกว่าเดิมก็ได้!”เถาจื่อพยักหน้าอย่างเห็นด้วย “นับตั้งแต่ที่ฮองเฮาถูกจ้าวหรุ่ยหรุ่ยพาตัวไป ทุกคนที่พระนางพบล้วนเป็นคนที่ต้องการจะทำร้ายพระนาง”“เก๋อฮุ่ยหนิงตอบแทนบุญคุณด้วยความแค้น เหมียวหยางก็อาศัยอำนาจมารังแก ส่วนหยางหงหนิงก็มิได้มีเจตนาที่ดีต่อพระนางอีก เมื่อได้เผชิญหน้ากับคนเหล่านี้แล้ว พระนางไม่มีทางไว้ใจพวกเราง่าย ๆ แน่!”เซียวหลินเทียนสนใจกับคำพูดของเถาจื่อ แล้วเอ่ยด้วยเสียงทุ้ม “มีหนึ่งคนที่เป็นข้อยกเว้น!”เขามองลงไปในเหว

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1974

    พวกเซียวหลินเทียนรีบดึงเถาวัลย์ขึ้นมาอย่างรวดเร็ว และเมื่อพวกเขาเห็นข้อความของหลิงอวี๋ ก็รู้สึกโล่งใจแต่เซียวหลินเทียนสังเกตเห็นจากหางตาว่ามีคำสองคำเขียนด้วยอักษรแบบย่อนี่คือความเคยชินเล็ก ๆ ของหลิงอวี๋ ตอนนั้นเซียวหลินเทียนเคยล้อเลียนหลิงอวี๋ว่าขี้เกียจ มิเขียนตัวอักษรให้สมบูรณ์แต่หลิงอวี๋กลับเอ่ยออกมาอย่างมิเห็นด้วย ‘ท่านมิคิดหรือเพคะว่าการเขียนเช่นนี้สะดวกกว่า? ราษฎรจำนวนมากมิรู้หนังสือ ก็เพราะอักษรหลายตัวมีขีดเยอะและเรียนรู้ได้ยากเพคะ!’‘หากทำให้กระชับลงเช่นนี้ เด็ก ๆ ก็จะเรียนรู้ได้ง่าย และราษฎรที่มิรู้หนังสือก็จะจำได้ง่ายด้วยเพคะ!’‘เซียวหลินเทียน เมื่อสถานการณ์ราชสำนักมั่นคงแล้ว ท่านควรส่งเสริมให้บรรดาครูปฏิวัติการเขียนตัวอักษรเพคะ เขียนตัวอักษรให้กระชับ ทำให้ราษฎรอ่านออกเขียนได้มากขึ้นด้วย!’เหอะ ๆ!เซียวหลินเทียนมองอักษรที่กระชับสองตัวนั้น พลางคิดถึงคำพูดของหลิงอวี๋ แล้วก็อดมิได้ที่จะหัวเราะออกมา“นายท่านอู่ ท่านหัวเราะอะไรหรือ?”เผยอวี้เอ่ยถามอย่างแปลกใจ“พวกเจ้าดูเถิด นี่คือหลักฐานที่ดีที่สุด! สิงอวี๋ก็คือหลิงอวี๋!”เซียวหลินเทียนยื่นข้อความให้กับเผยอวี้ พร้อมก

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status