Share

บทที่ 46

Author: กานเฟย
“คำไหนคำนั้น!”

หลิงอวี๋ก็ไม่ได้กล่าวเลอะเทอะเรียกให้ลู่หนานมาข้าง ๆ แล้วกระซิบไปสองสามประโยค

แม้หลิงซินยังคุกเข่าอยู่ แต่ในใจกลับตื่นเต้นหวั่นไหวอย่างหนักหน่วง

ปล่อยให้หลิงหลานและแม่นมเกาจนถึงชิวเหวินซวงคำนับให้ตน ให้นางระบายความแค้น นี่ก็เป็นเรื่องที่นางไม่กล้าฝันถึงเช่นกัน!

คุณหนูของพวกนางทำได้จริงหรือ?

หลิงเยว่ก็ตื่นเต้นมากเหมือนกัน แม้เขาจะตัวเล็กแต่ก็ฉลาดยิ่งนัก!

จากบทสนทนาของคนเหล่านี้เขาก็เข้าใจแล้วว่า ท่านแม่อยากช่วยพี่หลิงซินให้พ้นโทษการลักทรัพย์

และยังต้องการให้สตรีชั่วหลายคนนั้นคำนับยอมรับโทษด้วย!

แล้วท่านแม่จะทำได้อย่างไรเล่า?

ในดวงตากลมโตเปี่ยมด้วยความอยากรู้อยากเห็น! แต่เขากลับจับมือแม่นมลี่อย่างน่าเอ็นดูมาก ไม่ไปรบกวนท่านแม่

เซียวหลินเทียนทรงฟังหลิงอวี๋กล่าวอะไรบางอย่างกับลู่หลานไม่ชัด เห็นเพียงลู่หลานมองเขาอย่างลังเลหลังได้ยิน

เซียวหลินเทียนขมวดคิ้ว กล่าวว่า “ลู่หนาน พระชายาให้เจ้าทำสิ่งใดเจ้าก็ไปทำเถอะ! ไม่ต้องมาปรึกษาความเห็นจากข้าทุกครั้งหรอก!”

ลู่หนานเลยไม่ลังเลอีก และทำตามคำสั่งของหลิงอวี๋เรียกองครักษ์ผู้หนึ่งแล้วออกไป

หลังเวลาหนึ่งก้านธูป(1) ลู่หนานกั
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App
Comments (1)
goodnovel comment avatar
Darin Choeitong
จะได้เป็นพระเอกกี่โมง นี่มันตัวร้ายชัดๆ สงสารนางเอกต้องลุกขึ้นมาสู่ หย่าทิ้งเหอะ ไร้สาระจริ้งๆ จะห่วยไปถึงไหนพระเอกจับฉลาก
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 47

    “ผู้ใดกล่าวปดผู้ใดบริสุทธิ์! นี่ยังจำเป็นต้องไต่สวนอีกอยู่หรือไม่?”หลิงอวี๋มองชิวเหวินซวงเยาะหยัน “ชิวเหวินซวง ยินดีด้วยที่เจ้าพ่ายเดิมพัน! พวกเจ้าต้องคำนับแสดงการขออภัยต่อหลิงซิน!”ใบหน้าของชิวเหวินซวงอดกลั้นจนแดงไปหมด หยาดน้ำตาไหลรินอย่างน้อยเนื้อต่ำใจ “ข้า… ข้าถูกหลิงหลานและแม่นมเกาหลอกเจ้าค่ะ!”“ข้ามิสนพวกเจ้าว่าใครหลอกใคร! น้ำตาของเจ้าก็ไร้ค่าสำหรับข้าเช่นกัน!”“หลิงซินถูกกล่าวหาและทุบตี พวกเจ้าไม่มีใครเห็นใจ! เหตุใด คิดว่าหลั่งน้ำตาหยดสองหยดจะทำให้ข้าเห็นใจพวกเจ้าได้งั้นรึ?”“หรือว่าอยากร่ำไห้ให้ท่านอ๋องของพวกเจ้าเห็นอีกและบอกว่าข้าหลิงอวี๋รังแกคน?”วาจาของหลิงอวี๋ไม่มีความปรานีแม้แต่น้อย ทำให้สีหน้าเซียวหลินเทียนแปรเปลี่ยนไปเมื่อชิวเหวินซวงพบก็รีบเช็ดน้ำตาคุกเข่าลงตุ้บ“หลิงซิน ข้าขอโทษ ข้ามิควรเชื่อและฟังความหลิงหลานและแม่นมเกาเพียงข้างเดียว ทำให้เจ้าต้องกล้ำกลืนความอยุติธรรมแล้ว!”“ข้าให้เจ้าแสดงการขอภัย!”นางคำนับสามครั้งติดต่อกันถึงจะลุกขึ้นหลิงอวี๋คลี่ยิ้ม ชิวเหวินซวงผู้นี้เป็นคนมีความสามารถเสียจริง! ปรับตัวเข้าได้กับทุกสถานการณ์!หลิงหลานกับแม่นมเกาเห็นชิวเห

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 48

    หลิงหลานพูดไม่ออกไปชั่วขณะ เรื่องทั้งหมดนั้นเป็นนางแต่งขึ้นมาแล้วจะกล่าวให้กระจ่างได้อย่างไรกัน!แต่ครั้นพบว่าเซียวหลินเทียนกำลังมองมาอยู่ด้านข้าง หลิงหลานไฉนเลยจะบอกว่าตัวเองแต่งเรื่องเพียงจำเป็นต้องกล่าวเท่านั้น “บ่าวเองก็จำว่าเป็นสถานที่ไหนเวลาใดได้ไม่ครบถ้วนแล้วเจ้าค่ะ!”“ถูกต้อง พระชายามิใช่ไปเรือนหยกอำไพหรือเจ้าคะ? ท่านให้บ่าวคอยอยู่ข้างนอก ตัวเองเข้าไปคนเดียวหนึ่งชั่วยาม(1)ถึงออกมา!”ครั้นหลิงอวี๋ได้ยินคำพูดนี้ก็หัวร่อ นางมองหลิงหลานอย่างเย้ยหยัน “การเข้าไปเรือนหยกอำไพหนึ่งชั่วยามคือไปนัดพบ? หลิงหลาน งั้นเจ้าเห็นชายชู้ออกมาหรือไม่?”เซียวหลินเทียนขมวดคิ้ว เขารู้สึกไม่ชอบสองคำว่า “ชายชู้” นี้เลย!หลิงอวี๋ไม่รู้จักละอายเลยหรือกระไร สองคำนี้คิดกล่าวออกมาตามอำเภอใจได้หรือ?“บ่าวมิเห็นเจ้าค่ะ นั้นมิใช่เพราะพระชายาปิดบังอยู่หรอกหรือเจ้าคะ?” หลิงหลานเอ่ยอย่างช่างพูด“อือ เมื่อเดือนก่อนข้าอยู่เรือนหยกอำไพพบบุรุษหนึ่งชั่วยามจริง!”คำพูดนี้ของหลิงอวี๋พลันทำให้คิ้วรูปดาบเซียวหลินเทียนเลิกขึ้นทันทีหลิงหลานเอ่ยขึ้นอย่างกระหยิ่มยิ้มย่องฉับพลัน “ท่านอ๋อง ทรงทอดพระเนตรเถิดเพคะ บ่าวม

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 49

    “เรื่องเงินกู้ดอกเบี้ยสูงนี่!”สองวันนั้นที่หลิงอวี๋เอนนอนบนเตียงก็ทวนความทรงจำในช่วงเวลาใกล้ ๆ นางจึงรู้แจ้งว่าเกิดอะไรขึ้นในตอนนั้นบ้าง“หลิงหลาน เจ้าแน่ใจหรือว่าครานั้นข้าไปนัดพบ?” หลิงอวี๋กล่าวถามเวลานี้หลิงหลานหวั่นน้ำเสียงที่หลิงอวี๋ใช้กล่าวถามนางที่สุด นางมักรู้สึกว่าด้านในมีหลุมพรางกำลังรอนางทะลวงลงไป!แม้คำพูดนั้นล้วนกล่าวมาไม่เป็นความจริงก็ตาม หลิงหลานก็ยังจะยืนกระต่ายสามขาเช่นเดิม“ครานั้นพระชายาผมเผ้ายุ่งเหยิงสวมเสื้อผ้ารุ่งริ่งไม่เรียบร้อย มิใช่ไปนัดพบแล้วจะไปทำสิ่งใดหรือเจ้าคะ?”คราวนี้หลิงอวี๋ก็ไม่สามารถหยิบยกกล่าวถึงเรื่องเสิ่นเจียหยินกับเสิ่นจวนได้อีก!ไฉนเลยจะไปคิดว่า หลิงอวี๋จะหัวเราะอีกแล้ว นางกวักมือเรียกเอ่ยว่า “หลิงซิน มาตบนางสิบฝ่ามือเสียก่อน!”หลิงซินทนมองหลิงหลานใส่ร้ายหลิงอวี๋ครั้งแล้วครั้งเล่าไม่ไหวอีก เมื่อได้ยินเช่นนั้นก็พรวดพราดเข้าไปแล้ว“พระชายา ท่านมีสิทธิ์อะไรมาตีบ่าว! ท่านมีคำอธิบายเรื่องนี้หรือไร!”“หากบ่าวใส่ความ ท่านจะตีบ่าวยี่สิบฝ่ามือ บ่าวก็จะยอมรับ!”หลิงหลานตะโกนขึ้น “แต่ท่านล้วนกล่าวไม่กระจ่างก็จะตีคนก่อน บ่าวไม่ยอมรับ!”“ท่านอ๋อ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 50

    การกระทำของหลิงซินทั้งรวดเร็วและดุร้าย ครั้นรอให้ตีเสร็จสามสิบฝ่ามือปรางแก้มสองข้างของหลิงหลานล้วนบวมเป่ง และนางก็ทรุดตัวลงกับพื้น“มาคุยกันต่อเถอะ! ข้ายังมีอะไรไม่อาจแพร่งพรายได้อีก! วันนี้ข้าผู้เป็นพระชายาให้โอกาสเจ้าปรึกษาพูดคุยอย่างดี!”หลิงอวี๋กล่าวถามด้วยรอยยิ้มใบหน้าหลิงหลานปูดบวม ไฉนเลยจะพูดได้!มิหนำซ้ำนางเข้าใจแล้ว วันนี้หลิงอวี๋มีเจตนากรมณ์มาแก้ข่าวให้ตัวเอง นางไม่มีหลักฐานอันเป็นรูปธรรม ไม่ว่าจะกล่าวเช่นไรผลสุดท้ายก็จะคงเดิม“เหตุใดไม่กล่าวแล้วเล่า? มิใช่ว่าเจ้าเคยพูดว่า ข้าว่าท่านอ๋องไร้ประโยชน์กระทำเรื่องด้านนั้นมิได้หรอกรึ?”“วันนี้เจ้าก็กล่าวต่อข้าผู้เป็นพระชายา… ให้กระจ่าง ข้ากล่าวคำพูดนี้ที่ไหนเวลาใดรึ?”หลิงอวี๋บีบคั้นไปทีละก้าว น้ำเสียงดุดันขึ้นในแต่ละประโยค“พระชายา บ่าว… บ่าวผิดไปแล้ว… คำพูดเหล่านั้นบ่าวล้วนฟังหลิงผิงมาทั้งสิ้น บ่าวมิเคยได้ยินพระชายาเอ่ยเลยเจ้าค่ะ!”“บ่าวมิควรเชื่อหลิงผิง เรื่องนี้เป็นนางพูดทั้งนั้น พระชายาไปไต่สวนหลิงผิงเถิดเจ้าค่ะ!”หลิงหลานถูกหลิงอวี๋ทำให้ประหวั่นพรั่นพรึงแล้ว นางร่ำไห้สะอึกสะอื้นและโยนให้ปัญหาหลิงผิงอย่างไรหลิงผิง

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 51

    คำพูดร่ายยาวของหลิงอวี๋ทำเอาทุกคนตกตะลึงลู่หนานมองหยกห้อยเอวอย่างประหลาดใจ คิดไม่ถึงว่าลวดลายนี้มันจะยังมีรายละเอียดพิถีพิถันเหล่านี้ด้วย!เซียวหลินเทียนก็หมดคำพูด เขามิได้ศึกษาเกี่ยวกับของชิ้นนี้เลยจริง ๆ แต่เมื่อก่อนมักจะได้ยินอันเจ๋อเพื่อนสนิทของเขาโจมตีตัวเขาอยู่บ่อย ๆ ว่าเสื้อผ้าที่เขาใส่มันล้าสมัยแล้ว!เครื่องประดับเองก็ไม่ได้ตามสมัยเช่นกัน!เขาฟังแล้วก็ปล่อยผ่านมันไป ไม่เคยเอาคำพูดเรื่อยเปื่อยของอันเจ๋อมาใส่ใจเลยในสายตาของเขา ผู้ชายควรจะตั้งมั่นอยู่กับเป้าหมายที่สูงเข้าไว้พวกเรื่องรูปแบบเสื้อผ้าที่พิถีพิถันเหล่านี้ นั่นเป็นสิ่งที่ผู้หญิงทั่ว ๆ ไปถึงจะให้ความสนใจ!เขาไม่เคยรู้สึกว่าเสื้อผ้าที่ตัวเองใส่มีอะไรที่มันไม่เหมาะสม พวกลู่หนานเองก็ไม่ได้พิถีพิถันอะไรมากมายกับเรื่องพวกนี้ มีหรือจะนึกถึงว่าในนี้จะมีรายละเอียดเหล่านี้อยู่!ครั้งนี้ชิวเหวินซวงทึ่งกับหลิงอวี๋มาก หลิงอวี๋ผู้นี้นับวันจะยิ่งฉลาดมากขึ้นทุกทีแล้ว!พูดน้อยก็จะผิดพลาดน้อย!ตอนนี้นางจะต้องพิจารณาหลิงอวี๋เสียใหม่ก่อน แล้วค่อยแข่งขันกับนาง!หลิงผิงถูกตัดเอ็นร้อยหวายไปแล้ว หลังจากวันนี้ก็จะไม่สามารถใช้งาน

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 52

    “คุณหนู… จู่ ๆ ก็ได้เงินหนึ่งร้อยห้าสิบตำลึงมาฟรี ๆ ! หากหลินผิงนั่นรู้เข้า จะไม่โกรธตายเลยหรือเจ้าคะ!”พอออกมาจากตำหนักอ๋องอี้แล้ว หลิงอวี๋ก็ให้หลิงซินเอาหยกห้อยเอวไปขายก่อนเป็นอันดับแรก หลิงซินขายได้เงินมาหนึ่งร้อยห้าสิบตำลึง รู้สึกเหมือนกำลังฝันอยู่เลย!“หลิงซิน เจ้าคิดจริง ๆ หรือว่า หยกห้อยเอวนั่นเป็นของหลินผิง?”หลิงอวี๋ถือโอกาสสอนนางรับใช้ผู้นี้เสียเลย นางยิ้มเยาะพลางบอก “เงินในมือของหลิงผิงมีมากถึงขนาดไปซื้อหยกห้อยเอวได้ที่ไหนกัน หรือต่อให้จะซื้อ ก็จะต้องซื้อแค่รูปแบบของผู้หญิง!”“เจ้าลองคิดดูดี ๆ ว่าหยกห้อยเอวนี้เป็นของผู้ใด?”หลิงซินใช้สมองพยายามคิดแม่นมลี่มีประสบการณ์มามากกว่านาง พอนึกถึงสถานการณ์ในตอนนั้นก็เอ่ยขึ้นมาอย่างโมโห “พ่อบ้านฟั่นเป็นคนใส่เข้าไป! ที่เขาไปค้นตัว ก็เพียงเพื่อที่เขาจะมีโอกาสเอาหยกห้อยเอวรูปแบบผู้ชายนั้นมาใส่ร้ายคุณหนู!”“แม่นมลี่ฉลาดนัก!”หลิงอวี๋เอ่ยพูดอย่างมีความหมายลึกซึ้ง “พ่อบ้านฟั่นเอาหยกห้อยเอวที่มีมูลค่าสองร้อยตำลึงมาใส่ร้ายข้าได้ง่าย ๆ ! เขาที่เป็นพ่อบ้านคนหนึ่ง จะใจกว้างถึงเพียงนี้ได้เยี่ยงไร?”เพราะว่าแม่นมลี่มาจากเรือนที่มีความกว้า

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 53

    วันรุ่งขึ้นเป็นวันครบรอบการตายของหลานฮุ่ยจวน ก่อนรุ่งสาง แม่นมลี่ก็เร่งให้ทั้งสามคนลุกขึ้นจากเตียง แล้วรีบไปไหว้หลายฮุ่ยจวนที่วัดชิงเหลียนซึ่งอยู่นอกเมืองยี่สิบลี้แม่นมลี่เตรียมอาหารให้ทั้งสามคนไว้ให้เอาไปกินระหว่างทางหลิงอวี๋แต่งตัวให้หลิงเยว่เรียบร้อย ทั้งสี่คนก็ยกของเดินออกไป แล้วแม่นมลี่ก็เพิ่งนึกขึ้นได้ว่า เมื่อวานเอาแต่สนใจซื้อของ ๆ ๆ จนลืมจองรถม้าไปเลยแม่นมลี่ส่งของให้หลิงซิน แล้วเอ่ยขึ้นอย่างรีบร้อน “พวกเจ้ารอข้าอยู่ตรงนี้นะ ข้าจะไปเรียกรถที่ถนน!”หลิงอวี๋เอ่ยถามอย่างแปลกใจ “ในตำหนักไม่มีรถม้าหรือ?”แม่นมลี่สีหน้าลำบากใจ “หากท่านอ๋องไม่ได้สั่ง ที่โรงม้าก็ไม่สามารถเตรียมรถม้าให้พวกเราได้เจ้าค่ะ!”“ไม่ลองจะรู้ได้เยี่ยงไรกัน!”หลิงอวี๋นึกขึ้นได้ว่า หลิงเยว่กับปี้ไห่เฟิงผู้ดูแลโรงม้ามีมิตรภาพที่ดีต่อกัน จึงหันไปมองแล้วพูด“เยว่เยว่ เจ้าไปกับแม่นมลี่! พวกเราออกเงินก็น่าจะได้แล้ว!”หลิงเยว่ตอบรับอย่างแข็งขัน แล้วเดินจับมือกับแม่นมลี่เข้าไปหลิงอวี๋รอไม่นาน รถม้าก็พาหลิงเยว่ออกมาจากประตูด้านข้างแล้ว คนที่บังคับรถม้าก็คือปี้ไห่เฟิงนั่นเองนี่เป็นครั้งแรกที่หลิงอวี๋ได้เจอป

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 54

    “แม่นม ก่อนหน้านี้เป็นข้าเองที่สับสน หลังจากนี้ข้าจะไม่มีทางสับสนอีกต่อไปแล้ว! รอให้ข้าหาเวลา ไปยอมรับผิดกับท่านปู่ ไปขอให้เขายกโทษให้ข้า!”“ทางด้านท่านตา ข้าก็หาเวลาไปตามหาเขาเช่นกัน!”ในความทรงจำของหลิงอวี๋ ไม่เพียงแต่ท่านเสนาบดีที่ปฏิบัติต่อนางอย่างดี ท่านอัครเสนาบดีก็รักนางมากเช่นกัน!หลิงอวี๋ลูบจมูกอย่างรู้สึกผิด พลางพูดอย่างจริงใจ“เช่นนี้ก็ถูกแล้ว! ท่านเสนาบดีคอยดูคุณหนูเติบโต รักคุณหนูมาก ๆ มาตลอด มีหรือจะโกรธคุณหนูจริง ๆ ได้ลง!”แม่นมลี่พูดอย่างจริงใจ “คุณหนูเป็นลูกหลานในตระกูล ขอเพียงคุณหนูก้มหัวยอมให้ก่อน มีหรือจะโกรธกับท่านเสนาบดีไปตลอดชีวิตเพราะคำพูดที่เกิดจากความโกรธของท่านเพียงชั่วครู่!”“อื้ม ๆ ! ข้าเชื่อฟังเจ้าทั้งหมด!”หลิงอวี๋พยักหน้าอย่างเชื่อฟังขึ้นเขากันมาได้หนึ่งชั่วโมงกว่า ในที่สุดก็ถึงภูเขาด้านหลังของวัดชิงเหลียนแล้ว แม่นมลี่อายุมากแล้วเดินไปก็ขาสั่นไปหมดหลิงเยว่เป็นเด็ก แม้ว่าจะขาเล็ก ๆ จะปวด แต่กลับยืนหยัดอยู่โดยไม่งอแงเลยหลิงซินคิดจะไปแบกเขา เขาก็ยังส่ายหน้าอย่างรู้ความพลางพูด “พี่หลิงซินแบกเครื่องเซ่นไหว้ก็เหนื่อยมากพอแล้ว! เยว่เยว่ช่วยเหลืออะไ

Latest chapter

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1850

    เก๋อฮุ่ยหนิงครุ่นคิดอย่างลึกซึ้ง จากที่จื่ออวิ๋นเล่ามา เนื้อตัวของเฉียวไป๋เต็มไปด้วยบาดแผล และหมอเจียงก็เป็นหมอ ดังนั้นบางทีนางอาจจะช่วยชีวิตเฉียวไป๋เอาไว้ก็ได้เฉียวไป๋อยู่ที่นี่ ซึ่งอยู่ห่างจากเมืองหลวงแดนเทพเกือบพันลี้ ดังนั้นขอเพียงตนยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือ ทำให้เฉียวไป๋จดจำความดีของตนเอาไว้ แล้วค่อยยุให้ท่านย่าออกหน้า การแต่งงานครั้งนี้ก็จะมีแนวโน้มประสบความสำเร็จถึงแปดหรือเก้าในสิบแล้วแต่จะเข้าใกล้เฉียวไป๋ได้อย่างไรกัน?เก๋อฮุ่ยหนิงมิคิดว่า หากตนเป็นฝ่ายเริ่มคุยกับเฉียวไป๋ก่อน เขาก็คงจะสนใจนางปกติแล้วคุณชายตระกูลขุนนางเหล่านี้มักจะมิเห็นใครอยู่ในสายตาทั้งนั้น หากมิใช่คนพิเศษสักหน่อย เฉียวไป๋ไม่มีทางยอมให้ตนเข้าใกล้เขาเป็นอันขาด!“จื่ออวิ๋น เจ้าไปสืบมาทีว่าเกิดอะไรขึ้นที่ตระกูลเฉียว เหตุใดคุณชายเฉียวจึงมาลำบากอยู่ที่นี่ได้!”“และหากสืบมาได้ว่าคุณชายเฉียวชอบอะไรก็จะยิ่งดี!”เก๋อฮุ่ยหนิงรู้สึกว่า เมื่อก่อนนั้นตนยอมรับความลำบากมาโดยตลอด จึงได้ถูกเก๋อฮุ่ยซินแย่งชิงเรื่องการแต่งงานไป แต่ครั้งนี้มิว่าอย่างไรนางก็จะต่อสู้เพื่อตนเองให้ได้หากว่ามิสำเร็จ นางค่อยยอมรับชะตากรรมก็ได้

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1849

    จื่ออวิ๋นติดตามเก๋อฮุ่ยหนิงมาตั้งแต่เด็ก เมื่อสามปีก่อนตระกูลเก๋อได้เดินทางไปเข้าร่วมงานเลี้ยงฉลองอายุครบร้อยปีที่ตระกูลหลงจัดขึ้นที่เมืองหลวงแดนเทพตอนนั้นจื่ออวิ๋นได้ติดตามเก๋อฮุ่ยหนิงไปที่เมืองหลวงแดนเทพ เดิมทีท่านย่าของตระกูลเก๋อจะใช้โอกาสนี้พูดคุยเรื่องแต่งงานให้กับเหล่าคุณหนูตระกูลเก๋อ นางจึงพาเหล่าคุณหนูไปด้วยดังนั้นจื่ออวิ๋นจึงเคยพบกับพวกคุณชายจากตระกูลที่มีชื่อเสียงที่ยังมิได้แต่งงาน ในงานเลี้ยงชมบุปผาที่ทางด้านตระกูลเก๋อเป็นผู้จัดขึ้น เฉียวไป๋ก็มาเช่นกัน จื่ออวิ๋นเคยได้พบกับเขาแล้วในเวลานั้นจื่ออวิ๋นยังเคยบอกเก๋อฮุ่ยหนิงด้วยว่า เฉียวไป๋เหมาะกับเก๋อฮุ่ยหนิงมาก ทั้งคู่อายุใกล้เคียงกัน และเฉียวไป๋ก็หน้าตาหล่อเหลาด้วยเพียงแต่เมื่อดูจากภูมิหลังทางครอบครัวของตระกูลเก๋อแล้ว แม้แต่คุณหนูที่เป็นลูกสาวถูกต้องตามกฎหมายก็มิอาจเอื้อมถึงตระกูลเฉียวได้ ยิ่งมิต้องพูดถึงเก๋อฮุ่ยหนิงที่เป็นลูกสาวของอนุภรรยาเลยในตอนนั้นแม้ว่าเก๋อฮุ่ยหนิงจะชื่นชอบเฉียวไป๋เช่นกัน แต่ด้วยฐานะที่แตกต่างกันราวฟ้ากับเหว จึงมิอาจเอื้อม และมิได้เอามาใส่ใจแต่จื่ออวิ๋นไหนเลยจะคาดคิดว่า เฉียวไป๋คุณชายตระกูลขุน

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1848

    เงื่อนไขที่เก๋อฮุ่ยหนิงต่อรองกับหลิงอวี๋คือ หลังจากที่หลิงอวี๋ทำการผ่าตัดให้กระต่ายแล้ว หากว่ากระต่ายตัวนั้นยังมีชีวิตอยู่ ข้าหลวงเก๋อก็จะต้องปล่อยลูกชายของหมอเถาไป“ข้าพยายามเต็มที่แล้ว! แต่ท่านพ่อบอกว่าเขาจะต้องได้เห็นกระต่ายมีชีวิตอยู่เท่านั้น มิฉะนั้นจะไม่มีทางปล่อยตัวคนไปแน่!”เก๋อฮุ่ยหนิงกลับมาแล้วเอ่ยกับหลิงอวี๋ “ถึงอย่างไรเจ้าก็มั่นใจในทักษะการแพทย์ของเจ้าเองมากอยู่แล้วมิใช่หรือ เช่นนั้นรออีกสักวันก็มิเป็นอะไรหรอก!”หลิงอวี๋มองออกว่าเก๋อฮุ่ยหนิงพยายามเต็มที่แล้ว นางจึงพยักหน้ากระทั่งเก๋อฮุ่ยหนิงให้นางรับใช้ไปหากระต่ายมา หลิงอวี๋กับเสี่ยวซิ่งก็นำอุปกรณ์ที่ต้องการออกมา แล้วผ่าท้องกระต่ายต่อหน้าเก๋อฮุ่ยหนิงกระต่ายถูกโอสถหมาฝู่ส่านทำให้สลบไป และทักษะที่ชำนาญของหลิงอวี๋ก็ทำให้เก๋อฮุ่ยหนิงยิ่งมีความมั่นใจมากขึ้น นางรู้สึกว่าหลิงอวี๋จะต้องรักษาท่านย่าของตนได้อย่างแน่นอนกระทั่งหลิงอวี๋เย็บท้องของกระต่ายเรียบร้อยแล้ว และฤทธิ์ของโอสถหมาฝู่ส่านหมดลง เมื่อเก๋อฮุ่ยหนิงเห็นกระต่ายฟื้นขึ้นมา นางก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก จากนั้นก็อยากจะรีบไปบอกข่าวนี้กับท่านย่า“คุณหนูสาม มันดึกแล้ว ค

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1847

    ทันทีที่เก๋อฮุ่ยซินได้ยินว่า เก๋อฮุ่ยหนิงคิดจะสะสางให้ตนใสสะอาด นางก็ตะโกนขึ้นมา “เจ้าอย่าได้พูดให้น่าฟังไปหน่อยเลย ใคร ๆ ก็รู้ความในใจของเจ้ากันทั้งนั้นว่าเจ้าชื่นชอบคุณชายจ้าว…”“พอแล้ว!”ฮูหยินผู้เฒ่าโกรธจนสีหน้าเปลี่ยนไปแล้ว เรื่องน่าอับอายเช่นการที่สองพี่น้องแย่งสามีคนเดียวกันเช่นนี้ จะปกปิดก็ยังมิทัน แต่เก๋อฮุ่ยซินกลับตะโกนออกมาต่อหน้าคนนอก นี่ยังน่าอับอายมิพออีกหรือ?“เก๋อฮุ่ยซิน เจ้าออกไปเสีย!”ฮูหยินผู้เฒ่าดุด้วยความโกรธ “เจ้าถูกกักบริเวณหนึ่งเดือน หากเจ้ากล้าขัดคำสั่งของข้า สินสอดของเจ้าจะลดลงกึ่งหนึ่ง!”เก๋อฮุ่ยซินรู้สึกว่าชีวิตของนางกำลังถูกบีบขึ้นมาทันที นางจึงตะโกนออกไปด้วยความร้อนรน “ท่านย่า ข้าทำเพื่อท่านจริง ๆ ท่านจะเชื่อคำพูดของเก๋อฮุ่ยหนิงกับหมอหญิงผู้นี้มิได้เป็นอันขาดนะเจ้าคะ!”ฮูหยินผู้เฒ่าก็จ้องมองนางอย่างเย็นชา “หากเจ้าพูดออกมาอีกคำ สินสอดของเจ้าจะหายไปทั้งหมด!”เก๋อฮุ่ยซินตกใจจนต้องปิดปากไว้พลันน้ำตาคลอ และวิ่งออกไปร้องไห้ด้วยความคับข้องใจเก๋อฮุ่ยหนิงแอบรู้สึกยินดีอยู่ในใจ แต่นางมิกล้าแสดงท่าทีใด ๆ ออกไป จึงยังคงเช็ดน้ำตาอย่างเสียใจต่อไป“หนิงเอ๋อร์ ย

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1846

    หลิงอวี๋มิรู้ว่าฮูหยินผู้เฒ่าเก๋อเคยถามคำถามเดียวกันนี้กับหมอคนอื่นมาก่อนแล้ว และทุกคนก็เห็นพ้องต้องกันว่าฮูหยินผู้เฒ่ามิเหมาะที่จะเดินทางไกลไปรับการรักษาที่เมืองหลวงแดนเทพหมอเถาถึงกับเคยบอกอ้อม ๆ ว่าฮูหยินผู้เฒ่านั้นอาจจะตายระหว่างทางก็เป็นได้ส่วนข้าหลวงเก๋อแม้ว่าจะมีอำนาจและอิทธิพล แต่ก็มิสามารถเชิญหมอที่มีชื่อเสียงจากเมืองหลวงแดนเทพมาได้เนื่องจากหมอที่มีชื่อเสียงเหล่านั้นก็เป็นดังที่เก๋อฮุ่ยหนิงบอก พวกเขาล้วนสูงส่ง จำเป็นต้องไปขอร้องถึงหน้าประตูและจ่ายเงินก้อนโตก่อนจึงจะยอมรักษาหากมิให้หลิงอวี๋รักษานาง ในเมืองจงกวนจะไม่มีใครที่สามารถรักษาโรคประหลาดของฮูหยินผู้เฒ่านี้ได้ และหากเป็นเช่นนั้นก็ทำได้เพียงรอความตายเท่านั้นฮูหยินผู้เฒ่ายังใช้ชีวิตอยู่มิเพียงพอ แล้วจะทำใจจากไปเช่นนี้ได้อย่างไรแต่จะให้หลิงอวี๋ผ่าท้องของตน ฮูหยินผู้เฒ่าก็กลัวอีกหลิงอวี๋มองออกถึงความขัดแย้งในใจของฮูหยินผู้เฒ่า นางจึงเอ่ยออกไป “ฮูหยินผู้เฒ่า ยังมีวิธีที่ประนีประนอมกันได้เจ้าค่ะ…”เมื่อฮูหยินผู้เฒ่าได้ยินดังนั้น นางก็รีบเอ่ยขึ้นมาทันที “หมอเจียง วิธีประนีประนอมอย่างไร เจ้าบอกมาเร็วเข้า!”หลิงอวี๋

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1845

    “มีอาการเช่นนี้มานานแค่ไหนแล้วหรือเจ้าคะ?”หลิงอวี๋มิได้สนใจนาง แล้วกดต่อพลางเอ่ยถามไปด้วย“ประมาณครึ่งปีแล้ว! แรกเริ่มก็คิดว่าน้ำหนักขึ้นจึงมิได้สนใจนัก แต่หลัง ๆ พุงก็ใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อกดไปก็เจ็บจึงได้สนใจขึ้นมา!”แม่นมหลี่ก็มองฮูหยินผู้เฒ่าอย่างปวดใจเช่นกัน นางกังวลว่าฮูหยินผู้เฒ่าจะเจ็บปวดจนหมดสติไปโชคดีที่หลิงอวี๋ตรวจเสร็จแล้ว นางจึงรับผ้าที่นางรับใช้ส่งให้มาเช็ดมือ จากนั้นก็นั่งลงที่ข้างเตียงของฮูหยินผู้เฒ่า“หมอเจียง เจ้ามีวิธีรักษาโรคเช่นนี้ของข้าหรือไม่?”ฮูหยินผู้เฒ่ามองไปทางหลิงอวี๋อย่างกระวนกระวายหลิงอวี๋ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเอ่ยออกมา “โรคของฮูหยินผู้เฒ่านั้น หากได้พบข้าตั้งแต่ป่วยช่วงเดือนสองเดือนแรก กินยาไปมิกี่ชุดก็หายแล้ว!”“แต่ตอนนี้ถุงน้ำในร่างกายโตขึ้นแล้ว หากคิดจะรักษาก็มิใช่ว่าจะทำมิได้ แต่ท่านจะต้องลำบากสักหน่อย!”ดวงตาของฮูหยินผู้เฒ่าเป็นประกายขึ้นมาทันที แล้วนางก็เอ่ยอย่างกระวนกระวาย “ลำบากก็ลำบากเถิด ข้าทนความเจ็บปวดได้ แล้วจะทนความยากลำบากมิได้ได้อย่างไร?”หลิงอวี๋ยิ้ม แล้วเอ่ยออกมาอย่างใจเย็น “ฮูหยินผู้เฒ่า ความยากลำบากที่ข้าบอกนั้น อาจจ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1844

    ทุกคนที่อยู่ในที่เกิดเหตุต่างก็ตกตะลึงกันไปหมด ไม่มีใครคาดคิดว่าหมอหญิงผู้นี้จะมีอารมณ์ร้ายถึงเพียงนี้ อีกทั้งมิคิดว่าเมื่อคุยมิถูกคอกันก็จะเดินจากไปในทันที“น้องสาม เจ้าดูเถิดว่าเจ้าหาหมออะไรมา วางท่าเย่อหยิ่งยิ่งกว่าพวกเราเสียอีก!”เก๋อฮุ่ยซินรู้สึกเหมือนตนเองโดนตบหน้า จึงโกรธจนไปใส่อารมณ์กับเก๋อฮุ่ยหนิงเก๋อฮุ่ยหนิงเหลือบมองหลิงอวี๋ แม้ว่านางจะแปลกใจเล็กน้อยว่า เหตุใดสตรีผู้นี้จึงกล้าเช่นนี้ แต่เมื่อคิดดูอีกที หากเปลี่ยนเป็นตนแล้วต้องมาเผชิญกับความก้าวร้าวของเก๋อฮุ่ยซินเช่นนี้ ตนก็คงทนมิได้เช่นกันนางจึงเอ่ยอย่างใจเย็น “พี่รอง มิแปลกหรอกที่นางจะโกรธ ท่านจะมิทบทวนทัศนคติของท่านสักหน่อยหรือ?”“หมอที่มีชื่อเสียงในเมืองหลวงแดนเทพเหล่านั้น ผู้ป่วยจะต้องไปขอร้องถึงที่ให้พวกเขาช่วยรักษาให้มิใช่หรือ? หากท่านได้เผชิญหน้ากับหมอที่มีชื่อเสียงเหล่านั้น ท่านจะยังกล้าทำท่าทีก้าวร้าวกับพวกเขาเช่นนี้หรือ?”เก๋อฮุ่ยซินยิ้มเยาะออกมา “ก็พวกเขาเป็นหมอที่มีชื่อเสียง ย่อมแตกต่างกันอยู่แล้ว แต่สตรีผู้นี้มิได้มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จัก ยังจะกล้าหยิบยกขึ้นมาพูดรวมกับหมอที่มีชื่อเสียงได้หรือ?”หลิงอวี๋ถ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1843

    ยังมิทันที่เก๋อฮุ่ยซินจะได้เอ่ยคำหวานออดอ้อนให้ฮูหยินผู้เฒ่าเก๋อมีความสุขอีกครั้ง เก๋อฮุ่ยหนิงก็ยกม่านประตูขึ้นแล้วเดินเข้าไปข้างในเสียงของนางก็เปลี่ยนเป็นเสียงอ่อนโยนในทันที นางเอ่ยเบา ๆ “ท่านย่า หนิงเอ๋อร์กำลังจะออกไปข้างนอกแล้วก็ได้พบกับหมอเถาเข้า เขาพาหมอมีชื่อเสียงสกุลเจียงมาตรวจรักษาท่านเจ้าค่ะ!”“ท่านย่า หนิงเอ๋อร์เห็นว่าสตรีผู้นั้นดูท่าทางมีความสามารถ จึงตั้งใจที่จะพานางมาให้ท่านย่าดูสักหน่อย...”เก๋อฮุ่ยหนิงยังพูดมิทันจบ เก๋อฮุ่ยซินก็ขัดจังหวะนางขึ้นมาก่อน “น้องสาม นี่เจ้าหมดปัญญาจนไร้หนทางแล้วหรือไร?”“หมอเถามีทักษะการแพทย์ยอดเยี่ยมยังจนปัญญากับโรคของท่านย่าเลย นี่เจ้ากลับไปหาหมอหญิงที่ชื่อเสียงมิเป็นที่รู้จักมา แล้วก็บอกว่านางเป็นหมอที่มีชื่อเสียง ท่านย่ายังมิได้แก่เลอะเลือนดสียหน่อย เจ้าจะหลอกนางได้หรือไร?”เก๋อฮุ่ยหนิงจึงเอ่ยออกไปอย่างมิพอใจ “ท่านย่า พี่รอง มิได้เป็นเช่นนั้นนะเจ้าคะ!”“หนิงเอ๋อร์เห็นว่าท่านย่าเจ็บปวดมากก็รู้สึกแย่ที่มิอาจเจ็บปวดแทนได้! อีกทั้งมีคำกล่าวที่ว่า หากมีคนสามคนเดินมา หนึ่งในนั้นต้องมีคนที่เป็นอาจารย์ของเราได้ แม้ว่าหมอเถาจะเป็นหมอที่มีชื่อ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1842

    พวกคนรับใช้หลายคนจึงพุ่งเข้าไปหาหมอเถากันอย่างดุร้าย หลิงอวี๋จึงรีบดึงหมอเถาไปไว้ด้านหลังของนาง แล้วเอ่ยเสียงเรียบ“พ่อบ้านผิง อย่าได้รังแกกันมากเกินไปนักเลย! หมอเถาครุ่นคิดเรื่องอาการป่วยของฮูหยินผู้เฒ่าอย่างหนักหนา หากเขามีสูตรลับจริง ๆ เขาจะมินำออกมาช่วยชีวิตฮูหยินผู้เฒ่าหรือ?”“ลูกชายของเขาก็ยังอยู่ในกำมือของพวกท่าน ท่านลองคิดอย่างใจเขาใจเราดูเถิดว่า เขาจะคิดว่าสูตรลับสำคัญกว่าลูกชายของตนเองได้หรือ?”“ยิ่งไปกว่านั้น ข้าหลวงเก๋อยังกำหนดเวลากับหมอเถาไว้สิบวัน ซึ่งตอนนี้ยังมิถึงเวลา เหตุใดเขาจะหาคนมาช่วยชีวิตฮูหยินผู้เฒ่ามิได้เล่า!”พ่อบ้านผิงจ้องมองหลิงอวี๋อย่างโหดร้าย แล้วก็เอ่ยขึ้นมาอย่างโกรธเคือง “สตรีเช่นเจ้าช่างคารมคมคายและหยิ่งยโสนัก จะมีความสามารถใดมารักษาฮูหยินผู้เฒ่าได้กันเชียว!”“ไสหัวไปเสีย อย่ามาถ่วงเวลาพวกเราอยู่ที่นี่!”หลิงอวี๋จึงเอ่ยอย่างมิรีบมิร้อน “พ่อบ้านผิง ข้าจะรักษาฮูหยินผู้เฒ่าได้หรือไม่นั้น ท่านยังมิได้ตรวจสอบก็ปฏิเสธข้าเสียแล้ว หรือว่าใจจริงแล้วท่านมิอยากให้ฮูหยินผู้เฒ่าหาย จึงได้ขัดขวางทุกวิถีทางเช่นนี้?”สีหน้าของพ่อบ้านผิงเปลี่ยนไปทันที และเขาก็กำลั

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status