เซียวหลินเทียนมิได้บอกความสงสัยของตัวเองที่มีต่อสองพี่น้องชิวเฮ่ากับจ้าวซวนและลู่หนานเขาคิดว่าลู่หนานมีนิสัยตรงไปตรงมา หากรู้ว่าสงสัยชิวเฮ่า อาจถูกชิวเฮ่าปะเหลาะเอาได้!และชิวเฮ่าก็ช่วยหลู่ชิ่ง จ้าวซวนเลยตายใจต่อชิวเฮ่าไปเสียแล้ว แม้หาหลักฐานมิพบ และพิสูจน์ความน่าสงสัยของสองพี่น้องชิวเฮ่ามิได้ก็ตามทีเซียวหลินเทียนกลัวจ้าวซวนใจร้อนจนเผยความลับต่อหน้าชิวเฮ่าดังนั้น คราวนี้เซียวหลินเทียนจึงให้แค่คนของอิ๋นฮู๋แอบสืบเท่านั้น ต่อหน้าเหล่าองครักษ์ในตำหนัก เซียวหลินเทียนมิได้แสดงความสงสัยใด ๆ ต่อชิวเฮ่าเลยเซียวหลินเทียนพลิกอ่านเอกสารอย่างสงบเยือกเย็น เขาพลางทำเครื่องหมายลับในเอกสารเหล่านั้นเพียงพลิกเดียวก็พลันรู้การเคลื่อนไหวของชิวเหวินซวงบนเอกสาร!เรื่องที่เซียวหลินเทียนเข้าเป็นกรมโยธาธิการ เอกสารมากมายบนโต๊ะล้วนเป็นแผนที่เมืองหลวงคราก่อนหลิงอวี๋เคยพูดถึงการช่วยชลประทานที่นาของราษฎร เซียวหลินเทียนจึงหาแผนที่ที่เกี่ยวกับการทดน้ำเข้านาจำนวนมากมาศึกษาในแผนที่เหล่านี้มีอ่างเก็บน้ำ และแม่น้ำสายสำคัญแต่ละสายเมื่อเซียวหลินเทียนเห็นก็รู้ทันทีว่าชิวเหวินซวงแก้ไขที่อ่างเก็บน้ำ โดยเน้นแ
“ระยะนี้แช่ยาสมุนไพรผลเป็นเช่นไรบ้างเพคะ?”หลิงอวี๋มาเพื่อรักษาขา สายตานางเปลี่ยนจากมองหน้าเซียวหลินเทียนเป็นขาของเขาแทน พลันถามอย่างเป็นธรรมชาติ“ดีขึ้นมากแล้ว! นับวันขายิ่งมีกำลังขึ้น!”ทว่าเซียวหลินเทียนกลับเกร็ง ๆ เล็กน้อย อย่างไรเสียเมื่อก่อนตนก็ทำกิริยาแย่ ๆ ต่อหลิงอวี๋ บัดนี้ต้องการนางจึงยังรู้สึกอึดอัดอยู่เล็กน้อย“หม่อมฉันขอตรวจท่านสักหน่อย!”หลิงอวี๋นั่งยอง ๆ กำลังจะแตะขาของเซียวหลินเทียน ทันใดนั้นก็นึกถึงเหตุการณ์ที่เขาเลี่ยงจะสัมผัสตนในคราก่อนนางลุกขึ้นพลางหยิบแหนบยาว แล้วขอให้เซียวหลินเทียนพับกางเกงตัวเองขึ้นเซียวหลินเทียนลืมเรื่องที่ตัวเองรังเกียจการสัมผัสของหลิงอวี๋ในคราก่อนหมดสิ้น พลางพับขากางเองขึ้นอย่างว่าง่ายหลิงอวี๋เคาะหัวเข่าเขาพลางตรวจสักพัก พบว่าขาทั้งสองข้างของเซียวหลินเทียนมีกำลังมากกว่าตอนตรวจครั้งก่อนจริง ๆ“หม่อมฉันจักเปลี่ยนเทียบโอสถใหม่ให้ท่าน นี่เป็นโอสถเสวย ต่อไปจะแช่พระบาทในยาสมุนไพรในยามราตรี ควบคู่กับเสวยพระโอสถไปด้วย จากนั้นค่อยเริ่มฟื้นตัวเพคะ!”หลิงอวี๋สอนวิธีฟื้นตัวให้เซียวหลินเทียน นั่นคือการออกกำลังกายห้ามเกินครึ่งชั่วยามในทุกวัน โด
วันรุ่งขึ้น หลิงอวี๋เป็นห่วงเรื่องเกิ่งเสี่ยวหาว จึงตื่นตั้งแต่เช้าตรู่เพื่อพาหลิงซวนกับเถาจื่อไปโรงเหยียนหลิงนางให้เถาจื่อส่งข่าวถึงเกิ่งเสี่ยวหาว โดยขอให้เกิ่งเสี่ยวหาวมาพบตนที่โรงเหยียนหลิงเกิ่งเสี่ยวหาวรุดมายามอาหารกลางวันหลิงอวี๋เห็นเขาเข้าประตูด้วยสีหน้ามืดครึ้ม พลันถาม “สืบพบหรือไม่?”“ขอรับ มันเป็นแผนของคนแซ่ผัง! เขาเป็นหนอนบ่อนไส้แทรกซึมอยู่ข้างกายข้า!”เกิ่งเสี่ยวหาวพูดอย่างขุ่นเคือง “เขาแค่เห็นเงินกำไรของข้าก็อิจฉาตาร้อนไปพึ่งพิงตระกูลจ้าวแล้ว!”ท่านผัง?หลิงอวี๋นึกถึงครั้งแรกที่ตนพบหน้าเกิ่งเสี่ยวหาวที่ภัตตาคารจี๋เสียง ตอนนั้นเพราะตนจ่ายค่าข้าวไม่ไหว ท่านผังผู้นี้จึงอยากลากตนไปประจานข้างถนน!“เจ้ามิได้ทำอันใดเขาใช่หรือไม่?” หลิงอวี๋ถาม“หามิได้ เมื่อคืนข้าแค่สืบให้แน่ชัดและคุยกับท่านพ่อ ท่านพ่อบอกให้ข้าอย่าหุนหันพลันแล่น!”“ท่านพ่อข้ากล่าวว่าท่านผังกล้าแว้งกัดข้า ต้องมีแผนสองอีกเป็นแน่! พวกเราต้องจัดการเขา และจำต้องแม่นยำทุกการโจมตี เพื่อให้แน่ใจว่าเขาจะไม่มีโอกาสพลิกสถานการณ์!”เกิ่งเสี่ยวหาวเอ่ยอย่างเคียดแค้นหลิงอวี๋ยิ้มตอบ “พ่อเจ้ามีประสบการณ์กว่าเจ้านัก!
“เหอะ ๆ!”เกิ่งเสี่ยวหาวรู้สึกว่าน่าขบขันนัก สาเหตุที่ก่อความวุ่นวายก็แค่เพื่อสูตรยารักษาแผล!เถ้าแก่เซียวผู้นี้ช่างบ้าบิ่นยิ่งนัก!เขาร่วมเปิดโรงงานยากับหลิงอวี๋ เทียบยาที่หลิงอวี๋เสนอ กำไรล้วนแบ่งกับตนห้าส่วน!เถ้าแก่เซียวมิออกอะไรเลยยังโลภมากต้องการกำไรแปดส่วน!เขาคิดว่าตนโง่หรือไร?“เถ้าแก่เซียวจอมตลบตะแลงที่ใดกัน พอกันที พวกมันคิดว่าข้าโง่งั้นรึ?”เกิ่งเสี่ยวหาวยังข่มความโกรธที่โดนจ้าวเฉียงฮั๋วหลอกสี่แสน เมื่อได้ยินสิ่งนี้ก็พลันระเบิด“ข้ามิย้าย ดูสิว่าคนหมู่บ้านหลี่ของพวกเจ้าจักกล้าพังโรงงานของข้าหรือไม่!”หลี่ต้าหนิวเอ่ยด้วยจิตใจร้อนรุ่ม “ท่านเกิ่ง แม่นางหลิง ข้าคิดว่าพวกท่านย้ายเถิดขอรับ!”“ข้าได้ยินว่าเถ้าแก่ผู้นั้นพากองทัพหลวงมาด้วย และผู้นำคือแม่ทัพฉินแห่งกองทัพหลวงขอรับ!”แม่ทัพฉิน?คนแซ่ฉินที่เป็นแม่ทัพที่หลิงอวี๋รู้จักก็มีเพียงฉินซาน!ในความประทับใจของหลิงอวี๋ ฉินซานคือคนที่เที่ยงธรรมยิ่ง เขาจะกระทำเรื่องช่วยคนชั่วทำผิดได้เยี่ยงไร?หรือมีเงื่อนงำบางอย่างภายใน?อีกอย่าง นอกจากคนในราชวงศ์ยังจะมีผู้ใดได้อีกที่ให้ฉินซานไปด้วยได้ ทั้งยังแซ่เซียว!เพียงแต่ว่า เถ
เซียวหลินเทียนผงะไปครู่หนึ่ง พลันมองทางจ้าวซวนจ้าวซวนขบคิดแล้วกล่าวว่า “พระชายาอ๋องอี้ บางทีหลี่ต้าหนิวอาจเข้าใจผิด! คนแซ่เซียวมิใช่องค์ชายแน่ อาจเป็นองค์หญิงก็ได้ขอรับ!”“ข้าได้ยินว่าช่วงนี้ฉินซานกับองค์หญิงหกเดินแนบชิดกันนัก… ก่อนหน้านี้ก็เคยถามเรื่องอภิเษกขององค์หญิงหก ไทเฮาก็ทรงเร่งเร้าฮองเฮาให้แสวงเลือกคนที่เหมาะสมกับองค์หญิงหกขอรับ!”“ไทเฮาอาจจะคิดว่าฉินซานก็ไม่เลว จึงให้โอกาสทั้งสองสร้างความสัมพันธ์ขอรับ!”“สองวันก่อน ฉินซานก็ออกไปจุดธูปบูชาเป็นเพื่อนองค์หญิงหกขอรับ…”หลิงอวี๋ตะลึงตาค้างเมื่อได้ยิน และคำอธิบายของจ้าวซวนก็ดูสมเหตุสมผลองค์หญิงหกเซียวทงออกไปจุดธูปบูชา บางทีอาจเป็นหญิงแต่งชาย ฉะนั้นคนในหมู่บ้านหลี่จึงเข้าใจผิดคิดว่าเป็นพวกลักเพศ!“ข้ามิได้เป็นศัตรูคู่แค้นกับองค์หญิงหก เหตุใดพระนางถึงหมายหัวข้าเช่นนี้?”หลิงอวี๋ส่ายศีรษะ “มิใช่บังเอิญแน่นอน! มีที่ไหนพระนางเสด็จออกจากวังครั้งแรกแล้วถูกใจโรงงานยาของข้าพอดิบพอดี! ยังใช้อำนาจระรานจักเอาเทียบยากับโรงงานยาของข้า!”หลิงอวี๋ลืมเรื่องที่เซียวทงบงการนางกำนัลมิให้จัดที่นั่งของตนในงานฉลองพระราชสมภพครั้งก่อนไปนานแล้ว
จักรพรรดิอู่อันกำลังพิจารณาสาส์นกราบทูล ณ ห้องทรงพระอักษร และมีขันทีเซี่ยบดหมึกอยู่ข้าง ๆเวลานี้เองขันทีน้อยเซี่ยก็เข้ามากราบทูล“ฝ่าบาท พระชายาบอกว่านางมาขอรับโทษพ่ะย่ะค่ะ ท่านอ๋องอี้ก็เสด็จมากับพระชายาด้วยพ่ะย่ะค่ะ!”“ขอรับโทษ?”จักรพรรดิอู่อันพิจารณาสาส์นเหนื่อยพอดี จึงวางพู่กันลงพลางกล่าวไม่พอใจ“พระชายาอ๋องอี้ก่อเรื่องอันใดอีก? เรื่องวังชั้นในให้ไปขอวิธีแก้ไขจากฮองเฮา เข้าเฝ้าข้าหาปะไร?”ขันทีน้อยเซี่ยส่งยิ้มกล่าว “พระชายาอ๋องอี้อ้างว่าความผิดของนางมิอาจผ่อนปรนได้ มีเพียงฝ่าบาทตัดสินความผิดได้เท่านั้นพ่ะย่ะค่ะ!”ก่อนหน้านี้ขันทีเซี่ยเห็นหลิงซวนมีชีวิตดีนักที่ตำหนักอ๋องอี้ พลางรู้สึกตื้นตันต่อหลิงอวี๋ภายในใจ จึงพูดโพล่งทันที“ฝ่าบาท ไหน ๆ สามีภรรยาอ๋องอี้ก็ต่างมากันแล้ว พระองค์มิลองพบหน่อยหรือพ่ะย่ะค่ะ?”“หากพระชายาอ๋องอี้ทำผิดร้ายแรงจริง ๆ ฝ่าบาทก็ทรงจัดการได้อย่างยุติธรรมพ่ะย่ะค่ะ!”“หากมิร้ายแรงอันใด… ช่วงนี้พระองค์ทรงงานจนเหนื่อยล้า พระชายาเป็นหมอ ให้นางช่วยลองตรวจพระองค์ก็เป็นการดีพ่ะย่ะค่ะ!”จักรพรรดิอู่อันนึกถึงรำมวยที่ไทเฮาสอนตนซึ่งถูกหลิงอวี๋สอนมาอีกที ตนฝึกตาม
เมื่อจักรพรรดิอู่อันได้ฟังก็พลันขมวดหัวคิ้วแน่นยารักษาแผลของหลิงอวี๋มีประโยชน์มากต่อทหารแนวหน้า แถมดูเหมือนที่นางพูดจะมิได้เงินกำไรเท่าไรจริง ๆ ในการขายยารักษาแผลให้กองทัพ!ด้านกรมกลาโหมต้องเสียค่าใช้จ่ายเลือกซื้อยารักษาแผลทหารในทุกปี แต่ตั้งแต่ที่ใช้ยารักษาแผลของหลิงอวี๋ ค่าใช้จ่ายของกรมกลาโหมประหยัดลงกว่าครึ่ง!หากโรงงานยาของหลิงอวี๋ปิดตัวลง เช่นนั้นค่าใช้จ่ายของกรมกลาโหมจะมิเพิ่มขึ้นหรือไร?“พ่อค้าร่ำรวยผู้นี้มาจากที่ใด ไยใช้อำนาจบาตรใหญ่เยี่ยงนี้!”จักรพรรดิอู่อันโกรธขึ้งทันใด แผ่นดินแห่งฉินตะวันตกคือผืนดินของกษัตริย์ โรงงานยาที่หลิงอวี๋เปิดก็เป็นประโยชน์ต่อแคว้นและราษฎร ผู้ใดไม่มีตาดูแล้วกล้ารังแกคนเช่นนี้!“หลิงอวี๋ ก่อนหน้าข้าก็บอกเจ้าไปแล้ว อย่าออกไปเสนอหน้าทำธุรกิจ!”“เจ้าดูตัวเจ้าเถอะ บัดนี้ก่อเรื่องวุ่นวายเสียแล้ว!”เซียวหลินเทียนกล่าวเคืองขุ่น “เสด็จพ่อ หลิงอวี๋ก่อเรื่องทำให้แม่ทัพเหยียนล่าช้า มิสมควรให้อภัยโดยแท้ เสด็จพ่อโปรดลงโทษตามวินัยทหาร! กระหม่อมมิเข้าข้างนางเด็ดขาดพ่ะย่ะค่ะ!”หลิงอวี๋กล่าวทั้งร่ำไห้ “เสด็จพ่อเพคะ หลิงอวี๋ผิดไปแล้ว! มิกล้าขอให้เสด็จพ่อให้อภ
เพล้ง…เสียงพังข้าวของดังก้องเรือนธาราจิตรขององค์หญิงหกนางกำนัลน้อยหลายคนต่างไม่กล้าเข้าไป หวั่นได้รองรับความโกรธเกรี้ยวขององค์หญิงหกเซียวทง“นางชั่วหลิงอวี๋… นางหญิงชั่ว… คาดไม่ถึงว่าจะกล้าต่อต้านข้า!”“ข้าจักฆ่านางแน่! กรี๊ด กรี๊ด…”ฉินรั่วซือยืนตัวสั่นงันงกอยู่ข้าง ๆ รอเซียวทงระบายความโกรธให้เสร็จ นางจึงเดินอ้อมเศษของแตกบนพื้นอย่างเจี๋ยมเจี้ยมพลางเทน้ำแก้วหนึ่งส่งให้เซียวทง“ผลัวะ…”เซียวทงสะบัดมือด้วยท่าทีสบาย ๆ พลางปัดถ้วยชาของฉินรั่วซือตกพื้นนางมองค้อนใส่ฉินรั่วซืออย่างโหดเหี้ยม ตะคอกว่า“ทั้งหมดเป็นเพราะความคิดโง่เขลาของเจ้า… เจ้าบอกว่าขอแค่ตัวข้าซื้อที่ดินนั่น นางชั่วหลิงอวี๋ผู้นี้จักมาอ้อนวอนข้าแน่นอนมิใช่รึ?”“เจ้ายังพูดอีกว่าแม้หลิงอวี๋มิมอบสูตร แต่ข้าก็บีบให้นางซื้อที่ดินคืนในราคาที่สูงได้!”“เจ้าดูตอนนี้สิ ตัวข้ามิเพียงมิได้กำไรสักเฟินเดียว ยังกลับเสียหกหมื่นไปด้วย!”ฉินรั่วซือกล่าวเจื่อน ๆ “องค์หญิง หม่อมฉันมิทราบว่าหลิงอวี๋เจ้าเล่ห์เพียงนี้เพคะ! มิคาดว่าจักโน้มน้าวองค์จักรพรรดิมอบที่ดินให้นางเพคะ!”“องค์หญิงเพคะ ตั๋วเงินหกหมื่นเอาคืนได้! เราไปหาผู้ใหญ่บ้าน