หลิงอวี๋จิตใจว้าวุ่นเมื่อพบฉากนี้เข้านางลงมาข้างล่างตามเกิ่งเสี่ยวหาวพลางนั่งที่โต๊ะกับข้าว จากนั้นนางก็รู้สึกไม่อยากอาหารอันงามประดับที่พ่อครัวเตรียมไว้ครั้นเกิ่งเสี่ยวหาวเห็นหลิงอวี๋อารมณ์ไม่ดี ก็พลันยิ้มตาหยีล้วงเอาตั๋วเงินปึกหนึ่งยัดให้นาง“ท่านพี่ ดูสิ นี่ปันผลกำไรให้ท่าน ท่านกลายเป็นคุณหนูเศรษฐีแล้วหนา…”“ท่านอ๋องอี้อะไรนั่นท่านอย่าไปสนใจเลย อย่างไรไม่ช้าก็เร็วพวกท่านก็ต้องหย่ากัน! แต่หากท่านพี่มีเงินก็จักเหยียบย่ำเขาได้อย่างไรเล่า!”หลิงอวี๋ถือโอกาสพลิกดู นี่มันตั๋วเงินสองแสนกว่า!หัวใจนางสั่นไหว พลันกล่าวยิ้ม ๆ “โอ้ ดูไม่ออกเลยหนาว่าบุรุษน้อยเช่นเจ้าจักทำธุรกิจเก่งเพียงนี้ ได้กำไรมากปานนี้มานานเท่าใดแล้ว!”เกิ่งเสี่ยวหาวกล่าวอย่างภูมิใจ “ท่านหาได้ดูไม่เล่าว่าน้องชายท่านคือใคร ด้วยเคล็ดลับตำรับโอสถและคำชี้แนะของท่าน! หากยังทำกำไรมิได้ นั่นก็แปลว่าเอ้อระเหยไปวัน ๆ แล้ว!”เพราะเงินทำให้ความอารมณ์เสียของหลิงอวี๋หายวับไปในทันที ก่อนนางจะนึกถึงคำพูดของแม่นมลี่‘คุณหนู ท่านหาเงินมากสักหน่อย รอภายหาคหน้าพวกเราไปจากเมืองหลวง แล้วหาที่ที่ไม่มีผู้ใดรู้จักท่าน! บ่าวจักหาบุรุษดี
หลายวันผ่านไปอย่างราบเรียบก่อนหน้านี้เซียวหลินเทียนยังกังวลว่าหลิงอวี๋กับคนของนางจะออกไปทำลายชื่อเสียงของจ้าวเจินเจินอยู่เลยเขายังเจาะจงให้จ้าวซวนจับตาดูความเคลื่อนไหวของทุกคนในเรือนบุหงาไว้ด้วยแต่ผ่านมาหลายวันแล้ว ภายนอกก็ยังคงเงียบสงบ ไม่มีข่าวลือใดแพร่ออกไป เซียวหลินเทียนถึงได้สบายใจไม่ว่าหลิงอวี๋จะฟังคำเตือนของเขาหรือไม่ หรือว่ามีมโนธรรมว่าจะไม่พูดออกไป เซียวหลินเทียนก็ยอมรับในสิ่งนี้วันนี้เซียวหลินเทียนเพิ่งจะอาบน้ำสมุนไพรเสร็จ ครั้นแต่งตัวออกมา ลู่หนานก็เอาจดหมายฉบับหนึ่งมาให้เขาพอเซียวหลินเทียนเห็นลายมือที่คุ้นเคยนั้น ก็ใจสั่น รีบเปิดมันออกมาจดหมายนี้เขียนโดยจ้าวเจินเจิน เซียวหลินเทียนกังวลว่าจะมีข่าวลือแพร่ออกไปส่งผลกระทบต่อนางหรือไม่แต่พอเปิดจดหมายอ่าน เซียวหลินเทียนก็โล่งใจจ้าวเจินเจินแสดงความขอโทษกับสิ่งที่เกิดขึ้นวันนั้น บอกว่าตนเวียนหัวกะทันหัน ถึงได้ทำสิ่งที่น่าละอายเช่นนั้นลงไปวันนี้นางตั้งใจเตรียมสุราอาหารไว้ที่ศาลารงรอง อยากจะขอโทษสำหรับสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนั้น“ท่านพี่สี่ ท่านต้องมานะ! นี่นับว่าเป็นครั้งสุดท้ายที่เราจักได้พบกันตามลำพัง…”“จากนี้ไ
“ท่านพี่สี่ หม่อมฉันดื่มแล้ว ท่านพี่มิดื่มหรือ?”จ้าวเจินเจินมองเซียวหลินเทียนอย่างใจเย็นเซียวหลินเทียนหยิบจอกสุราขึ้นมาอย่างเงียบ ๆ พลางเอ่ยอย่างขมขื่น “เช่นนั้น… ข้าก็ขอให้เจ้ามีความสุข!”เขายกดื่มหมดในอึกเดียว“ท่านพี่สี่… มา กินข้าวกันเถิด...”จ้าวเจินเจินกำลังจะนั่งลง จู่ ๆ ก็นึกอะไรขึ้นมาได้พลางเอ่ย“ท่านพี่รอข้าสักครู่นะ หม่อมฉันลืมเอาสุราที่จะให้ท่านพี่เข้ามา หม่อมฉันออกไปเอาก่อน!”ยังไม่ทันที่เซียวหลินเทียนจะพูดอะไร จ้าวเจินเจินก็วิ่งออกไปแล้วเซียวหลินเทียนมองอาหารที่เต็มโต๊ะล้วนเป็นของโปรดของเขาทั้งหมด!ผ่านไปหลายปีแล้ว จ้าวเจินเจินก็ยังคงจำความชอบของเขาได้อยู่!เซียวหลินเทียนจ้องมองไปเรื่อย ๆ แล้วภาพตรงหน้าก็พร่ามัวไปเล็กน้อยทันใดนั้น ความรู้สึกแสบร้อนก็พุ่งขึ้นมาจากช่องท้องส่วนล่าง ความแปลกประหลาดเช่นนั้นทำให้เขารู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติในทันทีแต่เซียวหลินเทียนก็ยังไม่อยากจะเชื่อ จ้าวเจินเจินจะลอบวางแผนจัดการตนได้ลงหรือ?เหตุใดนางถึงทำเช่นนี้?หรือว่านางยังมิยอมแพ้ อยากทำเช่นนั้นกับตน?ความรู้สึกแสบร้อนบนร่างกายของเซียวหลินเทียนรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ จากนั้น
องค์ชายคังถอนหายใจโล่งอกทันทีแต่ไม่นานสีหน้าของเขาก็มืดมนไปอีกครั้งเขาเพิ่งคิดที่จะแต่งงานให้กวนอิ่งมาเป็นพระชายารองของเขา แต่กวนอิ่งมาทำเรื่องบัดสีอยู่กับเซียวหลินเทียน!หรือว่าเซียวหลินเทียนเองก็กำลังสอดแนมทรัพย์สินของกวนอิ่ง อยากจะแต่งงานให้กวนอิ่งมาเป็นพระชายารองเช่นกัน?“เสด็จพี่สอง...”เซียวหลินเทียนเห็นชัดแล้วว่าคนที่มาคือองค์ชายคัง พอเห็นเขาจ้องมองตนอย่างโกรธเกรี้ยวด้วยสีหน้าไม่ดี ก็เอ่ย“นี่มันเป็นความเข้าใจผิด… ข้าถูกคนวางแผนร้าย!”กวนอิ่งกระอักเลือดออกมาแล้วก็ได้สติขึ้นมากพอเงยหน้าขึ้นเห็นองค์ชายคังมา กวนอิ่งก็ตกใจจนเหงื่อท่วมตัวนางวิเคราะห์อย่างรวดเร็ว เรื่องวันนี้จ้าวเจินเจินวางแผนจัดการตน เพื่อมิให้ตนเองได้เป็นพระชายารององค์ชายคัง!นางอยากจะเล่นตามน้ำแล้วแต่งงานกับเซียวหลินเทียนรักเก่าของนางแต่ก่อนหน้านี้นางทำให้เซียวหลินเทียนกับหลิงอวี๋ขุ่นเคืองไปหนักมาก หากนางตกไปอยู่ในเงื้อมมือของเซียวหลินเทียนกับภริยาของเขา นางจะต้องตายทั้งเป็นอย่างแน่นอน!สู้ถือโอกาสนี้ใช้ความโลภต่อทรัพย์สินในมือตนของเสี่ยวหลินอี้มากำจัดเซียวหลินเทียนดีกว่า!กวนอิ่งมิรอให้เซียวหลินเ
ขณะที่จ้าวเจินเจินกำลังกังวลว่าองค์ชายคังจะสงสัยตนเองจริง ๆ ก็ได้ยินเซียวหลินเทียนตะโกนอย่างเย็นชา “พอแล้ว!”“เสด็จพี่สอง กวนอิ่งเป็นสุนัขบ้า จะจับใครก็ไล่กัดคนนั้น!”“คำพูดของคนเช่นนี้จะเห็นเป็นจริงมิได้หรอก หากเสด็จพี่อยากรู้ความจริงก็ไปแจ้งทางการเถิด!”เซียวหลินเทียนกล้าเดิมพันว่าองค์ชายคังไม่มีทางไปแจ้งทางการหรอกสิ่งที่กวนอิ่งทำกับกวนผิงก่อนหน้านี้ทำให้ไทเฮากับองค์จักรพรรดิมิพอพระทัยแล้ว!หากองค์ชายคังยังอยากแต่งงานกับกวนอิ่ง ก็จะมิกล้าทำให้เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่หรอก!พอจ้าวเจินเจินได้ยินเซียวหลินเทียนหยุดกวนอิ่งไว้มิให้มาแว้งกัดตนก็ลอบถอนหายใจโล่งอกเซียวหลินเทียนยังคงมีความรู้สึกต่อตนอยู่จริง ๆ แม้ว่าตนจะวางแผนจัดการเขา แต่เขาก็มิได้พูดเรื่องของนางออกไปเพื่อชื่อเสียงของนาง!จ้าวเจินเจินมองไปทางองค์ชายคังอย่างเงียบ ๆ ภาวนาขออย่าให้องค์ชายคังเชื่อคำพูดของกวนอิ่ง แล้วรีบปล่อยเซียวหลินเทียนไปเสีย!มิฉะนั้นหากไปแจ้งทางการจริง ๆ แม้ว่าเซียวหลินเทียนจะอยากปกป้องตน แต่สิ่งที่นางทำก็ไม่มีทางจะตรวจไม่พบ!บัดนี้จ้าวเจินเจินไม่มีกะจิตกะใจที่จะวางแผนจัดการเซียวหลินเทียนกับกวนอิ่งแ
“อิ่งเอ๋อร์ ข้าจักมิสนใจเจ้าได้เยี่ยงไรเล่า!”องค์ชายคังกอดกวนอิ่งอย่างอ่อนโยน พลางหันกลับมากับเอ่ยกับเส้าเจิ้งซาน“ท่านลุง ท่านพาพวกเขาไปที่ห้องส่วนตัวห้องอื่นก่อนเถิด! อีกประเดี๋ยวข้าจักตามไป!”“องค์ชาย… องค์ชาย...”กวนอิ่งทนไม่ไหวแล้ว ยังไม่ทันที่พวกเส้าเจิ้งซานจะออกไป นางก็ฉีกทึ้งอาภรณ์ขององค์ชายคังอย่างบ้าคลั่ง ปากก็ร้องครวญครางไปเรื่อยเปื่อยคนของราชการเห็นดังนั้นก็หน้าแดงเขินอายทันที ไม่รอให้เส้าเจิ้งซานเอ่ยเรียก พวกเขาก็วิ่งออกไปแล้ว“เรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้ ห้ามผู้ใดแพร่งพรายเด็ดขาด!”เส้าเจิ้งซานเดินตามออกมาแล้วปิดประตูพลางเอ่ยเตือนทุกคนที่อยู่ตรงนั้นอย่างดุร้ายเขาเป็นลุงขององค์ชายคัง ไม่อยากให้เรื่องนี้แพร่กระจายแล้วส่งผลกระทบต่อองค์ชายคัง!บริกรตกใจกลัวจนตัวสั่นไปหมด และพยักหน้าพวกคนของราชการยังคงต้องพึ่งพาองค์ชายคังอยู่พลันรีบพยักหน้ารับปากทันใดจ้าวเจินเจินเห็นภาพกวนอิ่งฉีกทึ้งอาภรณ์ขององค์ชายคังก็โกรธมากจนตัวสั่นนางสารเลวผู้นี้ ต่อหน้าทุกคนกลางวันแสก ๆ ยังกล้าเกาะแกะองค์ชายคังเช่นนี้ ช่างต่ำเสียจริง! ต่ำตมนัก!จ้าวเจินเจินลืมไปสนิทเลยว่านางเองต่างหากที่เป
กวนอิ่งซุกเข้าไปในอ้อมแขนขององค์ชายคังแสร้งเอ่ยอ่อนแอ“ในตำหนัก มีองค์ชายปกป้องหม่อมฉันอยู่ ไม่มีผู้ใดกล้าทำร้ายหม่อมฉัน!”“องค์ชายเพคะ เมื่อหม่อมฉันแต่งงานเข้าตำหนักองค์ชายคัง ก็จะต้องใช้ทรัพย์สินของตระกูลกวนมาสนับสนุนองค์ชายสุดกำลังแน่นอนเพคะ!”องค์ชายคังนึกถึงคำพูดของมารดา และเห็นว่ากวนอิ่งรีบร้อนจะเข้าตำหนักจึงเอ่ยเสียงนุ่มนวล“เช่นนั้นคืนนี้ก็ตามข้ากลับตำหนักเถอะ! ข้าทำผิดกับเจ้าไปแล้ว… ก่อนหน้านี้ข้าก็อยากแต่งเจ้าเข้าตำหนักอย่างมีพิธีรีตองอยู่แล้ว!”ทันทีที่กวนอิ่งเห็นว่าบรรลุเป้าหมายก็แนบกายเข้าไปพลางเอ่ย“อิ่งเอ๋อร์เข้าใจเจตนาขององค์ชายเพคะ… เรื่องพิธีการมิสำคัญ ขอเพียงได้อยู่กับองค์ชาย อิ่งเอ๋อร์ก็พอใจแล้วเพคะ!”กวนอิ่งก็อยากจะแต่งงานกับองค์ชายคังอย่างมีพิธีรีตองเช่นกัน แต่ตำแหน่งพระชายารองจะต้องมีพิธีรีตองเพียงใดกันเชียว!นางคิดอย่างร้ายกาจ รอให้นางเข้าตำหนักองค์ชายคังก่อน นางจะหาทางปลิดชีพจ้าวเจินเจิน จากนั้นจะให้กำเนิดบุตรชายให้องค์ชายคัง!ถึงเวลานั้น ตัวนางเองก็จะอาศัยความสำคัญของบุตร ขอให้องค์ชายคังจัดงานแต่งงานอีกครั้งจากนั้นจะมีพิธีแต่งงานเข้าตำหนักองค์ชายคัง
ลู่หนานพาเซียวหลินเทียนกลับไปที่ตำหนักอ๋องอี้อย่างรีบร้อนเขาบังคับรถม้าตรงไปที่เรือนของเซียวหลินเทียน และรีบให้จูเผิงไปตามหาจ้าวซวนอย่างเร่งด่วนลู่หนานกับเฉาอี้เพิ่งจะพาเซียวหลินเทียนเข้ามาในห้องนอน จ้าวซวนก็กระหืดกระหอบเข้ามาลู่หนานเห็นเขาก็เอ่ยอย่างกังวลทันที“พี่จ้าว ท่านอ๋องกระอักเลือด!”“เจ้ารีบไปเชิญพระชายามาเร็วเข้า!”จ้าวซวนเห็นรอยเลือดขนาดใหญ่บนหน้าอกของเซียวหลินเทียน และใบหน้าแดงปานโลหิต จึงพอจะคาดเดาได้ว่าเกิดอะไรขึ้น!เขาโกรธมากจนอยากจะอัดลู่หนานให้เละสักที เรื่องที่เซียวหลินเทียนถูกลอบสังหารครั้งที่แล้วไม่เพียงพอให้ลู่หนานระวังตัวอีกหรือ?กล้าออกไปข้างนอกกับเซียวหลินเทียนเป็นการส่วนตัวโดยไม่รายงาน นี่ลู่หนานคิดจะปลิดชีพท่านอ๋องหรือไร?“ประเดี๋ยวข้าจักชำระความกับเจ้าทีหลัง!”จ้าวซวนทิ้งคำพูดดุร้ายนี้ไว้ แล้วรีบวิ่งไปหาหลิงอวี๋ครั้งที่แล้วหลิงอวี๋ช่วยหลู่ชิ่งไว้ ในช่วงสองวันมานี้ก็มาตรวจและเปลี่ยนยาให้หลู่ชิ่งทุกวัน แต่พวกทหารองครักษ์ใต้บังคับบัญชาของเขาล้วนไม่อยากพบหลิงอวี๋แม้ว่าพวกเขาจะมิกล้าพูดคำพูดแย่ ๆ ต่อหน้าหลิงอวี๋อีก แต่การแสดงออกทางสีหน้าว่าดูถูกนั