หลิงอวี๋เพิ่งเข้ามาไม่นานก็นั่งลง เถ้าแก่หลี่พาตัวแทนเข้ามาแล้ว และพวกเขาล้วนเป็นพ่อค้าที่ถนนสายนี้ในบรรดานั้นมีเถ้าแก่ถังแห่งโรงน้ำชาที่ใหญ่ที่สุดบนถนนกับลูกชายของเขาเถ้าแก่ถังวัยห้าสิบกว่าปี สวมอาภรณ์คุมยาวสีน้ำเงินเข้มใบหน้าเขาอ้วนจ้ำม่ำ ล่างหน้าผากมีสีชาดำวับวาบ สองคิ้วโก่งโค้ง ดวงตาเรียวยาว เค้าหน้านั้นดุจพระสังกัจจายน์ถังซุนลูกชายของเขาวัยสี่สิบกว่าปี ดวงตาเหมือนเถ้าแก่ถัง มีผิวสีข้าวสาลี เติบโตมารูปงามนักเถ้าแก่หลี่แนะนำพวกเขาให้หลิงอวี๋รู้จัก พลันเอ่ยว่า“เราเลือกเถ้าแก่ถังเป็นตัวแทน ร้านเขาใหญ่สุดและเสียหายมากสุดเช่นกัน!”หลิงอวี๋ก็รู้จักร้านของตระกูลถังแม้ธุรกิจของเถ้าแก่ถังจะไม่ได้เปิดทั่วแคว้นเหมือนตระกูลกวน แต่เหล่าพ่อค้าต่างถิ่นครั้นมาเมืองหลวงต่างมาซื้อใบชาร้านตระกูลถังกลับไปเป็นพื้นฐาน“คารวะเถ้าแก่ถัง!”หลิงอวี๋คำนับมือกระตือรือร้น กล่าวตรง ๆ โดยไร้พิธีรีตอง“เถ้าแก่ถัง เรื่องในวันนี้ท่านว่าเป็นเช่นใด? ท่านคิดว่า หากข้าไปขอประทานอภัยจักแก้ปัญหาได้หรือไม่?”เถ้าแก่ถังมองหลิงอวี๋ยิ้ม ๆ “เกรงว่าพระชายาไปก็ไร้ประโยชน์!”“ข้าเป็นนักการค้าเชื่อในผลประโยชน์
หลิงอวี๋กล่าวเยือกเย็น “ข้าพูดให้พวกท่านฟังมากมายก็เพื่อบอกว่าการทะเลาะเบาะแว้งนั้นแก้ปัญหามิได้!”“ยิ่งพวกเราทะเลาะรุนแรงมากเท่าไร ยิ่งเสียเปรียบ! องค์ชายเว่ยคงคำนวณว่าเราต้องก่อการเป็นแน่ พลางคิดดีแล้วว่าจะเพิ่มโทษให้เราอย่างไร!”เถ้าแก่หลี่ข่มความโกรธมิได้ “พระชายาอ๋องอี้ งั้นหากไม่ก่อการจักทำสิ่งใดเล่า? หรือควรว่านอนสอนง่ายย้ายออกเช่นนี้รึ?”หลิงอวี๋หัวเราะเจ้าเล่ห์ “หากอยากแก้ปัญหาจักมัวแต่ทะเลาะวิวาทมิได้!”“เรามาเปลี่ยนวิธีดู ข้ารับปากว่า หากพวกท่านเชื่อฟังข้า ทุกร้านบนถนนสายนี้จักมิถูกรื้อถอน!”“วิธีใด?” ถังซุนเร่งถามเถ้าแก่ถังมองหลิงอวี๋สนเท่ห์ วันนี้เขาหาเส้นสายมาช่วยกอบกู้ตลอดตั้งแต่ได้รับข่าวทว่าเมื่อคนพวกนั้นได้ยินว่าเป็นองค์ชายเว่ยหมายรื้อถอนก็พลันโน้มน้าวเขากลับลําเนื่องไม่อาจต่อกรองค์ชายเว่ยได้!เขาคิดสมองแตกก็คิดวิธีไม่ออก เมื่อได้ยินว่าหลิงอวี๋มีทางไฉนจะไม่สงสัยหลิงอวี๋หัวเราะซุกชน “พวกท่านรวบรวมพ่อค้าที่จะถูกรื้อถอนบนถนนสายนี้หาคนได้มากยิ่งดี จากนั้นก็กระจายข่าวไป!”“ว่าด้วยความกรุณาขององค์ชายเว่ย ลือว่าบ้านพวกท่านจะถูกรื้อถอนเห็นพวกท่านไร้บ้านกลับจึงยิน
เมื่อเผชิญกับผลได้ร่วมกัน เหล่าพ่อค้าจึงสามัคคีเป็นพิเศษครั้นได้รับข่าวก็เริ่มเก็บของไม่มีค่ายัดใส่รถม้าทันทีสายลับที่องค์ชายเว่ยส่งมาเห็นสิ่งนี้จึงคิดว่าเหล่าพ่อค้าหวาดกลัวพลางกำลังตระเตรียมย้ายเรือนหลิงอวี๋พาบรรดานางรับใช้เก็บพวกของไม่มีค่าช่วยหมอเลี่ยว หลังทำเสร็จนางก็กลับตำหนักอ๋องอี้สายมากแล้วนางหมายรายงานเซียวหลินเทียนขอยืมองครักษ์ไปช่วยดูว่ามีคนปะปนเข้ามาหรือไม่สักหลาย ๆ คนแต่เมื่อไปถึงศาลาริมน้ำก็เห็นนางรับใช้ของเสิ่นจวนกำลังเฝ้าประตูนางรับใช้คนนั้นเห็นหลิงอวี๋ก็ยิ้มหยันกล่าวว่า “พระชายาอ๋องอี้ ท่านอ๋องบรรทมแล้ว มิอนุญาตคนรบกวน พระชายาเชิญกลับเถอะ!”“มิเจียมตัว!”หลิงอวี๋ตวาดขึ้นอย่างเดือดดาล โชคดีที่วันนี้ไปโรงเหยียนหลิงไม่เกิดเรื่อง หากมีเรื่อง นางคงอยากฆ่านางรับใช้คนนี้ไปแล้ว!ก่อนหน้าวุ่นจัดการเรื่องโรงเหยียนหลิง ไม่ได้คิดจุกจิกกับนาง!ตอนนี้ยังกล้าเล่นมุกเดิม ๆ คิดจริง ๆ เหรอว่าพระชายาอ๋องอี้คือของประดับ?“นี่คือตำหนักอ๋องอี้ ตัวข้าเป็นพระชายาอ๋องอี้ นางรับใช้อาคันตุกะเช่นเจ้ากล้ามาขวางข้าได้ตั้งแต่เมื่อใด?”หลิงอวี๋ตวาด “เถาจื่อ ตบปาก!”เถาจื่อกับหลิงซว
หลิงอวี๋พิงเก้าอี้อย่างเกียจคร้าน เอ่ยปลอบเซียวหลินเทียน“สายาคนใต้หล้าต่างเฉียบคม! ท่านอย่าได้ทรงกังวล องค์ชายเว่ยไร้ทางทำแผนชั่วสำเร็จ หม่อมฉันคิดแผนรับมือไว้แล้วเพคะ!”หลิงอวี๋บอกเซียวหลินเทียนเรื่องที่ตนกระทำเซียวหลินเทียนผงะไปพักใหญ่ ถึงกับมองหลิงอวี๋อย่างเอ่ยมิออกมีแต่หลิงอวี๋ที่คิดอุบายร้ายกาจเช่นนี้ได้เท่านั้น!แต่อุบายอย่างนี้กลับเป็นวิธีที่ได้ผลกับองค์ชายเว่ยที่สุด!“ข้าพะวงองค์ชายเว่ยจะอับอายกลายโทสใช้กำลังทหารสะสางต่อพ่อค้าพวกนั้น! แบบนี้เรามีชัย แต่สูญเสียใหญ่หลวงนัก!”หลิงอวี๋ยิ้มขื่นเอ่ยว่า “หากมีทางอื่น หม่อมฉันไม่ยอมเลือกวิธีนี้เป็นแน่เพคะ!”พอเซียวหลินเทียนฟังก็เข้าใจและยิ่งคิดปรุโปร่งกว่าหลิงอวี๋ เขากังวลว่าองค์ชายคังจะวางหมากอยู่เบื้องหลัง“หลิงอวี๋ องค์ชายคังมิยอมถูกองค์ชายเว่ยแย่งผลประโยชน์ไปแน่!”“ข้าแค่พะวงว่า เขาจงใจสาดโคลนใส่องค์ชชายเว่ยเพื่อเอาหลักฐานความผิดขององค์ชายเว่ย”เซียวหลินเทียนกล่าวกังวล “แม้ถึงเวลานั้นองค์ชายเว่ยจักมิออกมือ องค์ชายคังอาจส่งคนไปแอบอ้างสะสางพวกเจ้า แล้วโทษก็ยังเป็นองค์ชายเว่ยแบกรับ!”แม้การที่องค์ชายคังกัดกับองค์ชายเว่ย
หลิงอวี๋เห็นเซียวหลินเทียนกำลังครุ่นคิดก็นึกถึงสิ่งที่ลู่หนานพูดตอนเข้าประตู พลันถามว่า“เซียวหลินเทียน ท่านจัดการกับครอบครัวแม่นมเกาเช่นไร?”เซียวหลินเทียนถูกหลิงอวี๋ปลุกจากภวังค์ ครั้นเอ่ยถึงแม่นมเกาสีหน้าเขาก็มืดลงทันใด“จ้าวซวนพบโฉนดบ้านสองฉบับในเรือนแม่นมเกา และโฉนดที่ดินร้อยกว่าหมู่(1)! ตั๋วเงินห้าแสนกว่าตำลึง!”“นึกไม่ถึงว่าแม่นมในครัวผู้หนึ่งจะกล้าทุจริตเงินมากเพียงนี้! ข้าสั่งให้จ้าวซวนส่งครอบครัวนางไปให้ทางการแล้ว!”หลิงอวี๋เบิกตากว้างงงงัน การทุจริตของแม่นมเกามหาศาลนัก!“แล้วทางการตัดสินเช่นไร?”ทาสในสมัยโบราณ ความเป็นตายของพวกเขาถูกกำหนดโดยนายเหนือหัวเซียวหลินเทียนส่งคนไปให้ทางการ เพราะไม่อยากเปื้อนเลือดของแม่นมเกาและครอบครัวเช่นนั้นหรือ?“แม่นมเการับโทษประหารคนเดียว ครอบครัวที่เหลือถูกขายเป็นทาสให้ขุนนาง!”เซียวหลินเทียนกล่าวเย็นชา “ตัวข้าออมมือแล้ว! ไม่เช่นนั้นตามที่นางกระทำก็ควรถูกหวดจนตายต่อหน้าธารกํานัล เพื่อเชือดไก่ให้ลิงดู!”เมื่อหลิงอวี๋ได้ยินว่าหวดต่อหน้าธารกำนัลก็นึกถึงฉากนั้นที่ตนประสบครั้นข้ามมิติมา นางมีความรังเกียจการลงทัณฑ์เช่นนี้อักโขหลิงอวี๋เป
วันรุ่งขึ้นฟ้ายังไม่สาง ตำหนักขององค์ชายใหญ่ก็ถูกรถม้าหลายคันขวางกั้นทางไปเสียแล้วขณะคนรับใช้ตำหนักองค์ชายเว่ยเปิดประตูก็พบว่าฝูงชนแน่นขนัดต่างตกใจจนคิดว่าเกิดจลาจลเสียแล้ว“องค์ชายเว่ยทรงมีเมตตาโดยแท้ เราจักจุดธูปกราบไหว้แน่นอนที่ทรงเต็มใจรับเราอาศัย ขอให้พระโพธิสัตว์คุ้มครององค์ชายเว่ยอายุมั่นขวัญยืนด้วยเถิด!”“ใช่ ทุกวันนี้คนจิตใจกุศลเช่นนี้มีน้อยนัก องค์ชายเว่ยทรงคำนึงถึงความทุกข์สุขของราษฎรและแคว้น ทรงเห็นอกเห็นใจพวกเรา…”คำพูดเชิดชูถ่ายทอดจากพ่อค้าคนหนึ่งสู่อีกคนโดยไม่ต้องเสียเงิน ณ ปากประตูตำหนักองค์ชายเว่ยเสียงบทเพลงสรรเสริญพระองค์ก้องไปทั่วคนเฝ้ายามรู้สึกมึนงง ไยเขาไม่ได้ยินว่าองค์ชายเว่ยเชิญครัวเรือนที่จะรื้อย้ายเหล่านี้มาอยู่ตำหนักองค์ชายเว่ยเลย!คนเฝ้ายามรีบส่งคนไปทูลองค์ชายเว่ยองค์ชายเว่ยยังไม่ตื่น พลางได้ยินว่ามีคนเรียกอยู่ข้างนอกขณะกำลังหลับ“องค์ชาย ครัวเรือนที่จะรื้อย้ายมากหลายมาข้างนอกแล้วพ่ะย่ะค่ะ โดยว่าท่านคำนึงถึงการไร้บ้านกลับของพวกเขา เชิญพวกเขามาอยู่ตำหนักองค์ชายเว่ยพ่ะย่ะค่ะ…”“กระหม่อมเกรงเป็นข่าวเข้าใจผิดจึงมาสอบถาม… องค์ชาย จริงหรือพ่ะย่ะค่ะ?”
“ถึงคราวนั้นองค์ชายคังสามารถไปเข้าเฝ้าฝ่าบาทฟ้องร้องท่านได้ โดยตรัสว่าท่านบังคับรื้อถอนบ้านเรือนร้านค้าพวกเขาจึงเกิดเรื่องเช่นนี้พ่ะย่ะค่ะ!”“องค์ชาย ยามนี้คือเวลาสำคัญของศึกชิงรัชทายาท หากท่านคร่าชีวิตคน ยั่วยุฝ่าบาทกริ้วโกรธ ท่านจะนั่งบนตำแหน่งนี้ได้อยู่หรือพ่ะย่ะค่ะ?”“กระทั่งโครงการฟื้นฟูย่านการค้าที่เพิ่งได้รับก็อาจถูกฝ่าบาทยกให้คนอื่นทำพ่ะย่ะค่ะ!”หานหลินวิเคราะห์ผลเสียบานปลายเรื่องนี้ให้องค์ชายเว่ยครั้นองค์ชายเว่ยฟังก็ตระหนักถึงความรุนแรงของเรื่องได้ สิ่งที่หลานหลินเอ่ยอาจจะเกิดขึ้นได้จริง ๆ!หากรักษากิจราชการโครงการฟื้นฟูย่านการค้าไว้ได้ เขายังหาเงินจากแหล่งอื่นได้อยู่แต่หากเสียกิจราชการไปจะสะเทือนถึงการชิงตำแหน่งรัชทายาท มันได้ไม่คุ้มเสีย!“ได้ ท่านหาน ตัวข้าเชื่อฟังท่าน ข้าจักออกไปปลอบพวกเข้าประเดี๋ยวนี้!”ขณะองค์ชายเว่ยกล่าวก็รีบรุดหมายไปหานหลินพลันเอ่ย “องค์ชาย โปรดส่งคนของเราออกไปเฝ้าดู จะปล่อยให้คนขององค์ชายคังปะปนด้านในก่อเรื่องมิได้เด็ดขาดพ่ะย่ะค่ะ!”“ไหน ๆ จักเป็นคนดีแล้ว ให้คนของเราช่วยพ่อค้าพวกนั้นส่งของกลับด้วย! อย่างนี้จักได้ชื่อเสียงที่ดีขึ้นอีก!”เม
กวนอิ่งยังใคร่มาชมฉากโรงเหยียนหลิงถูกรื้อถอนนางรุดมาถึงพบว่าพ่อค้าพวกนั้นต่างมิได้ย้ายบ้าน อีกทั้งกำลังขนของกลับเมื่อกวนอิ่งสอบถามถึงรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นนางขาดการมองการณ์ไกลเรื่องพ่อค้าล้อมกั้นตำหนักองค์ชายเว่ย รู้สึกพระองค์ไม่ได้เรื่องโดยแท้!พอโดนขวางประตูก็กลัวจนอะลุ้มอล่วยเสียแล้ว!กวนอิ่งไฉนจะยอมเลิกราเช่นนี้ นางยังคิดยืมอิทธิพลองค์ชายเว่ยกดหลิงอวี๋ จึงพาคนไปประตูตำหนักองค์ชายเว่ยนางคิดว่า หากตนยั่วยุองค์ชายเว่ยไม่กี่ประโยค องค์ชายเว่ยจะช่วยตนรื้อโรงเหยียนหลิงของหลิงอวี๋วันนี้แน่!ขณะนี้องค์ชายเว่ยกริ้วเต็มทรวง เรื่องบังคับรื้อมิเพียงมิได้ประโยชน์ยังเกือบไปถึงหูองค์จักรพรรดิด้วยทั้งหมดนี้เป็นหลุมพรางที่องค์ชายคังกับกวนอิ่งวางใส่ตนเขากำลังมีน้ำโหว่าจะชำระทั้งสองอย่างไร คิดไม่ถึงว่าคนเฝ้ายามจะมาแจ้งว่าคุณหนูใหญ่กวนมา“นางยังกล้ามาอีกรึ? ข้ากำลังจะไปหานาง! ให้นางเข้ามา!”หลังองค์ชายเว่ยเอ่ยจบ จู่ ๆ ก็นึกถึงถ้อยคำนั้นของหานหลิน ‘คุณหนูใหญ่กวนเอ่ยว่าท่านมิเข้าตานาง!’องค์ชายเว่ยแสยะยิ้ม ตัวข้าไม่เข้าตาหรือ?ตัวข้ารับเจ้าเป็นพระชายารอง ข้ายังไม่เข้าตาเจ้าอีกรึ!ได้ งั้