วันรุ่งขึ้นฟ้ายังไม่สาง ตำหนักขององค์ชายใหญ่ก็ถูกรถม้าหลายคันขวางกั้นทางไปเสียแล้วขณะคนรับใช้ตำหนักองค์ชายเว่ยเปิดประตูก็พบว่าฝูงชนแน่นขนัดต่างตกใจจนคิดว่าเกิดจลาจลเสียแล้ว“องค์ชายเว่ยทรงมีเมตตาโดยแท้ เราจักจุดธูปกราบไหว้แน่นอนที่ทรงเต็มใจรับเราอาศัย ขอให้พระโพธิสัตว์คุ้มครององค์ชายเว่ยอายุมั่นขวัญยืนด้วยเถิด!”“ใช่ ทุกวันนี้คนจิตใจกุศลเช่นนี้มีน้อยนัก องค์ชายเว่ยทรงคำนึงถึงความทุกข์สุขของราษฎรและแคว้น ทรงเห็นอกเห็นใจพวกเรา…”คำพูดเชิดชูถ่ายทอดจากพ่อค้าคนหนึ่งสู่อีกคนโดยไม่ต้องเสียเงิน ณ ปากประตูตำหนักองค์ชายเว่ยเสียงบทเพลงสรรเสริญพระองค์ก้องไปทั่วคนเฝ้ายามรู้สึกมึนงง ไยเขาไม่ได้ยินว่าองค์ชายเว่ยเชิญครัวเรือนที่จะรื้อย้ายเหล่านี้มาอยู่ตำหนักองค์ชายเว่ยเลย!คนเฝ้ายามรีบส่งคนไปทูลองค์ชายเว่ยองค์ชายเว่ยยังไม่ตื่น พลางได้ยินว่ามีคนเรียกอยู่ข้างนอกขณะกำลังหลับ“องค์ชาย ครัวเรือนที่จะรื้อย้ายมากหลายมาข้างนอกแล้วพ่ะย่ะค่ะ โดยว่าท่านคำนึงถึงการไร้บ้านกลับของพวกเขา เชิญพวกเขามาอยู่ตำหนักองค์ชายเว่ยพ่ะย่ะค่ะ…”“กระหม่อมเกรงเป็นข่าวเข้าใจผิดจึงมาสอบถาม… องค์ชาย จริงหรือพ่ะย่ะค่ะ?”
“ถึงคราวนั้นองค์ชายคังสามารถไปเข้าเฝ้าฝ่าบาทฟ้องร้องท่านได้ โดยตรัสว่าท่านบังคับรื้อถอนบ้านเรือนร้านค้าพวกเขาจึงเกิดเรื่องเช่นนี้พ่ะย่ะค่ะ!”“องค์ชาย ยามนี้คือเวลาสำคัญของศึกชิงรัชทายาท หากท่านคร่าชีวิตคน ยั่วยุฝ่าบาทกริ้วโกรธ ท่านจะนั่งบนตำแหน่งนี้ได้อยู่หรือพ่ะย่ะค่ะ?”“กระทั่งโครงการฟื้นฟูย่านการค้าที่เพิ่งได้รับก็อาจถูกฝ่าบาทยกให้คนอื่นทำพ่ะย่ะค่ะ!”หานหลินวิเคราะห์ผลเสียบานปลายเรื่องนี้ให้องค์ชายเว่ยครั้นองค์ชายเว่ยฟังก็ตระหนักถึงความรุนแรงของเรื่องได้ สิ่งที่หลานหลินเอ่ยอาจจะเกิดขึ้นได้จริง ๆ!หากรักษากิจราชการโครงการฟื้นฟูย่านการค้าไว้ได้ เขายังหาเงินจากแหล่งอื่นได้อยู่แต่หากเสียกิจราชการไปจะสะเทือนถึงการชิงตำแหน่งรัชทายาท มันได้ไม่คุ้มเสีย!“ได้ ท่านหาน ตัวข้าเชื่อฟังท่าน ข้าจักออกไปปลอบพวกเข้าประเดี๋ยวนี้!”ขณะองค์ชายเว่ยกล่าวก็รีบรุดหมายไปหานหลินพลันเอ่ย “องค์ชาย โปรดส่งคนของเราออกไปเฝ้าดู จะปล่อยให้คนขององค์ชายคังปะปนด้านในก่อเรื่องมิได้เด็ดขาดพ่ะย่ะค่ะ!”“ไหน ๆ จักเป็นคนดีแล้ว ให้คนของเราช่วยพ่อค้าพวกนั้นส่งของกลับด้วย! อย่างนี้จักได้ชื่อเสียงที่ดีขึ้นอีก!”เม
กวนอิ่งยังใคร่มาชมฉากโรงเหยียนหลิงถูกรื้อถอนนางรุดมาถึงพบว่าพ่อค้าพวกนั้นต่างมิได้ย้ายบ้าน อีกทั้งกำลังขนของกลับเมื่อกวนอิ่งสอบถามถึงรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นนางขาดการมองการณ์ไกลเรื่องพ่อค้าล้อมกั้นตำหนักองค์ชายเว่ย รู้สึกพระองค์ไม่ได้เรื่องโดยแท้!พอโดนขวางประตูก็กลัวจนอะลุ้มอล่วยเสียแล้ว!กวนอิ่งไฉนจะยอมเลิกราเช่นนี้ นางยังคิดยืมอิทธิพลองค์ชายเว่ยกดหลิงอวี๋ จึงพาคนไปประตูตำหนักองค์ชายเว่ยนางคิดว่า หากตนยั่วยุองค์ชายเว่ยไม่กี่ประโยค องค์ชายเว่ยจะช่วยตนรื้อโรงเหยียนหลิงของหลิงอวี๋วันนี้แน่!ขณะนี้องค์ชายเว่ยกริ้วเต็มทรวง เรื่องบังคับรื้อมิเพียงมิได้ประโยชน์ยังเกือบไปถึงหูองค์จักรพรรดิด้วยทั้งหมดนี้เป็นหลุมพรางที่องค์ชายคังกับกวนอิ่งวางใส่ตนเขากำลังมีน้ำโหว่าจะชำระทั้งสองอย่างไร คิดไม่ถึงว่าคนเฝ้ายามจะมาแจ้งว่าคุณหนูใหญ่กวนมา“นางยังกล้ามาอีกรึ? ข้ากำลังจะไปหานาง! ให้นางเข้ามา!”หลังองค์ชายเว่ยเอ่ยจบ จู่ ๆ ก็นึกถึงถ้อยคำนั้นของหานหลิน ‘คุณหนูใหญ่กวนเอ่ยว่าท่านมิเข้าตานาง!’องค์ชายเว่ยแสยะยิ้ม ตัวข้าไม่เข้าตาหรือ?ตัวข้ารับเจ้าเป็นพระชายารอง ข้ายังไม่เข้าตาเจ้าอีกรึ!ได้ งั้
“ไปให้พ้น…!”กวนอิ่งเดือดจัดยกมือขึ้นหมายตบองค์ชายเว่ย ทว่ามือกลับอ่อนแรงยกไม่ขึ้นเลย…“แควก…”กวนอิ่งได้ยินเพียงเสียงเฉียบคม อาภรณ์ส่วนบนถูกฉีกออกจากกันทันใด!“เลวนัก… ท่านจะทำอะไร?”กวนอิ่งตะโกนกราดเกรี้ยว “หยุดซะ ไม่งั้นข้าจะฆ่าท่านแน่!”“เพียะ!”องค์ชายเว่ยตบหน้ากวนอิ่งไวว่อง นัยน์ตาพลางฉายรัศมีโหดเหี้ยม“สารเลว!”กวนอิ่งถูกตบจนล้มกับพื้นนางดิ้นรนหมายลุกขึ้น แต่ตัวอ่อนปวกเปียกไร้เรี่ยวแรง“ท่าน ท่านวางยาในชา?”ในที่สุดกวนอิ่งก็หยั่งรู้ขึ้น กลัวจนหน้าถอดสี“หญิงชั่ว เพิ่งมารู้ตัวเอาตอนนี้รึ! ใครใช้ให้เจ้าใส่ไคล้ตัวข้า!”องค์ชายเว่ยเตะกวนอิ่งอย่างเหี้ยมโหด ครั้นนึกถึงว่าเกือบถูกหญิงชั่วนี่คิดร้ายก็ทวีความเดือดดาลจนคันฟัน พลางหยิบแส้บนผนังหวดร่างกวนอิ่ง“เพียะ!”“เพียะ!”“เพียะ!”กวนอิ่งพลันร่ำร้องน่าสังเวช เจ็บปวดจนแดดิ้นตามพื้นแต่ไหนมาเป็นนางใช้แส้หวดคนอื่น นี่เป็นครั้งแรกที่ได้ลิ้มรสแส้!“เซียวหลินเยี่ยน ท่านกล้าทำกับข้าเช่นนี้ ข้าจะฆ่าท่านแน่!”กวนอิ่งกรีดร้องเสียงแหลมแต่เขากลับตอบนางด้วยแส้อันเหี้ยมเกรียม“หญิงชั่ว เจ้ามีสิทธิ์คิดสังหารข้าเหรอ? ที่ตัวข้า
“เหอะ!”“เห็นแก่หน้าพี่เจ้า ครั้งนี้ตัวข้าจักไว้ชีวิตเจ้า!”องค์ชายเว่ยเห็นว่ากวนอิ่งจวนสิ้นใจก็นึกถึงว่าเขายังต้องการความมั่งคั่งของตระกูลกวนและผลพลอยได้ของกวนซิน พลันคลายมือออกกวนอิ่งทรุดลงแทบเท้าองค์ชายเว่ย หายใจหอบหนักหน่วงในที่สุดนางก็รู้จักความหวั่นเกรง!นางคิดมาตลอดว่าตระกูลกวนร่ำรวยเทียมแคว้น แม้แต่องค์จักรพรรดิยังต้องหวาด ยิ่งไม่ต้องพูดถึงลูก ๆ ทางสายเลือดเขาเลย!แต่นางพอเห็นนัยน์ตาจิตสังหารของเซียวหลินเยี่ยนเท่านั้! เมื่อครู่ชั่วพริบตานั้น นางเกือบคิดว่าตัวเองจะไม่รอดแล้ว!“หญิงชั่ว เจ้ามีแค้นกับพระชายาอ๋องอี้! หมายรื้อร้านนาง เจ้าหลอกใช้ตัวข้ามิเป็นไร แต่เจ้าบังอาจร่วมมือกับองค์ชายคังตลบหลังข้า!”เท้าข้างหนึ่งขององค์ชายเว่ยเหยียบหน้าอกกวนอิ่งพลางขยี้อย่างแรงกวนอิ่งเจียนสลบจากความเจ็บครั้นองค์ชายเว่ยนึกถึงแผนกวนอิ่งกับองค์ชายคังที่เกือบติดกับเข้าให้ พลันกล่าวอย่างน่าหวาดประหวั่น“เจ้ารู้หรือไม่ว่าเป็นพระชายาอ๋องอี้ลอบเผยเรื่องที่เจ้ากับองค์ชายคังใส่ไคล้ตัวข้า! ไม่งั้นข้าคงตกหลุมพรางพวกเจ้า!”“ฉะนั้น ที่เจ้าประสบวันนี้เป็นเจ้าทำตัวเจ้าเอง! ตัวข้ามิฆ่าหญิงชั่วเช
“ท่านพี่! ท่านพี่ต้องตัดสินให้ข้า!”ณ ตำหนักอ๋องอี้ เสิ่นจวนเห็นว่าหลิงอวี๋ไม่อยู่ ก็พานางรับใช้ของตนเองที่ถูกทุบตีมาร้องห่มร้องไห้ฟ้องเซียวหลินเทียน“จวนเอ๋อร์เองก็อยากให้ท่านพี่พักผ่อนอย่างเต็มที่ ถึงได้ให้คนมาคอยเฝ้าท่านพี่!”“ดูสิว่าภรรยาของท่านพี่เผด็จการถึงเพียงนี้ ทุบตีนางรับใช้ของข้าจนกลายเป็นเช่นนี้!”เสิ่นจวนผลักนางรับใช้ที่จมูกช้ำหน้าบวมไปข้างหน้าให้เซียวหลินเทียนเห็นเซียวหลินเทียนเหลือบมองนางรับใช้ผู้นั้นด้วยความรังเกียจ จมูกช้ำใบหน้าบวม นางถูกทุบตีอย่างหนักจริง ๆ!“ท่านพี่ ท่านพี่ต้องตัดสินให้หม่อมฉันนะ! นางรับใช้ก็เป็นมนุษย์เช่นกัน พี่สะใภ้มีสิทธิ์อันใดถึงทำร้ายนางเช่นนี้?”“เรือนของข้ามิต้องการให้คนของเจ้ามาเฝ้า! อีกทั้งเจ้ายังส่งนางรับใช้มากั้นประตูอีก นี่มันเรื่องอันใดกัน?”เซียวหลินเทียนเอ่ยด้วยความโกรธ “หลิงอวี๋เป็นพระชายาของข้า นางมาเยี่ยมข้า พวกตาไม่มีแววพวกนี้ กล้าดีไฉนมาขวางนางไว้ คิดว่านี่คือคฤหาสน์เสิ่นรึ?”“เสิ่นจวน ข้าสบายดีแล้ว มิต้องการให้เจ้ามาดูแลแล้ว วันนี้เจ้าพาพวกนางกลับไปเถอะ!”เสิ่นจวนเห็นว่าเซียวหลินเทียนมิได้เห็นแก่นางเลย ก็ร้อนใจขึ้นมา
“คารวะท่านพี่จ้าวเจ้าค่ะ!”เสิ่นจวนโค้งคำนับอย่างเชื่อฟัง พลางยิ้มเล็กน้อย“พี่จ้าวไปเยี่ยมท่านพี่แล้ว ค่อยมาคุยกับข้านะเจ้าคะ! มิได้เจอพี่จ้าวกันนมนาน จวนเอ๋อร์อยากคุยกับพี่จ้าว!”จ้าวเจินเจินมองนางอย่างประหลาดใจ เสิ่นจวนกะพริบตาอย่างลึกลับ แล้วพานางรับใช้เดินออกไปจ้าวเจินเจินกระตุกริมฝีปาก แล้วก้าวเข้าไปในประตูเรือนเซียวหลินเทียนนั่งอยู่ในเรือน เห็นสาวงามหยดย้อยเดินมาหาตนเขามองนิ่ง มิได้เจอกันมาสี่ปีแล้ว จ้าวเจินเจินสวยขึ้นกว่าเดิม!ใบหน้าที่ในวันเก่า ๆ ยังมีความเคร่งขรึมอยู่หน่อย ๆ ตอนนี้คลายแล้ว ดูงดงามสะดุดตายิ่งนักจ้าวเจินเจินเดินไปหยุดอยู่ตรงที่ห่างจากเซียวหลินเทียนเพียงไม่กี่เมตร นางเองยังมองเซียวหลินเทียนอย่างนิ่ง ๆ เช่นกันหนที่มาครั้งล่าสุด เซียวหลินเทียนยังมิได้สติ จะเป็นจะตายก็ยังมิรู้เลย!แต่ตอนนี้ นอกจากใบหน้าซีดเซียวที่เสียเลือดมากเกินไปแล้ว ก็ไม่มีเค้าของการที่ชีวิตถูกแขวนไว้บนเส้นด้ายอีกต่อไปแล้วไม่ได้เจอกันมาสี่ปี เซียวหลินเทียนเป็นผู้ใหญ่ขึ้นแล้ว ใบหน้าที่ทำให้นางหลงใหลในอดีตนั้นหล่อเหลามาดบุรุษมากขึ้นอีก!หัวใจของจ้าวเจินเจินรู้สึกราวกับว่าถูกแมวข่
“หลิงอวี๋ นาง...”เซียวหลินเทียนกำลังคิดจะบอกออกไปเรื่องที่หลิงอวี๋รักษาขาของตนได้ผล แต่คำพูดติดอยู่บนริมฝีปากเซียวหลินเทียนเห็นจ้าวเจินเจินกำลังเล่นกับจี้หยกบนเข็มขัดของตน!จี้หยกนั่นเป็นจี้หยกไม้ไผ่ของบุรุษ เช่นนั้นคงจะเป็นสิ่งที่องค์ชายคังมอบให้กับจ้าวเจินเจิน!เซียวหลินเทียนนึกขึ้นได้ถึงตัวตนของจ้าวเจินเจินในเวลานี้...นางเป็นภริยาขององค์ชายสอง เป็นพระชายาคัง!เซียวหลินเทียนเพิ่งจะคิดแผนจัดการองค์ชายคังกับองค์ชายเว่ย แล้วจ้าวเจินเจินก็มาเยี่ยมถึงที่!ระหว่างทั้งสองฝ่ายนี้ไม่มีความสัมพันธ์ใดหรือ?“น้องสะใภ้เป็นเยี่ยงไรบ้าง? หาวิธีรักษาขาของท่านได้แล้วหรือไม่?”จ้าวเจินเจินเอ่ยอย่างรีบร้อน “เช่นนี้ก็เยี่ยมมากเลย! หากพี่สี่สามารถยืนขึ้นได้ในเร็ววัน พวกเราล้วนยินดีกับท่านด้วย!”เซียวหลินเทียนหลุบตาลง ในใจรู้สึกสับสนมากจ้าวเจินเจินอยากให้ขาของตนหายขาดจริง ๆ หรือ?นางเป็นห่วงตนจริง ๆ หรือ?แต่หากไม่ใช่เล่า?หากนางมาหยั่งเชิงตนเองแทนองค์ชายสองเล่า?“ไม่… หลิงอวี๋ตรวจขาของข้าแล้ว นางบอกว่าทำอันใดมิได้แล้ว!”เซียวหลินเทียนเอ่ยอย่างเคร่งขรึม “หมอว่านก็บอกด้วยว่า ไม่มีผู้ใดส