วันรุ่งขึ้นฟ้ายังไม่สาง ตำหนักขององค์ชายใหญ่ก็ถูกรถม้าหลายคันขวางกั้นทางไปเสียแล้วขณะคนรับใช้ตำหนักองค์ชายเว่ยเปิดประตูก็พบว่าฝูงชนแน่นขนัดต่างตกใจจนคิดว่าเกิดจลาจลเสียแล้ว“องค์ชายเว่ยทรงมีเมตตาโดยแท้ เราจักจุดธูปกราบไหว้แน่นอนที่ทรงเต็มใจรับเราอาศัย ขอให้พระโพธิสัตว์คุ้มครององค์ชายเว่ยอายุมั่นขวัญยืนด้วยเถิด!”“ใช่ ทุกวันนี้คนจิตใจกุศลเช่นนี้มีน้อยนัก องค์ชายเว่ยทรงคำนึงถึงความทุกข์สุขของราษฎรและแคว้น ทรงเห็นอกเห็นใจพวกเรา…”คำพูดเชิดชูถ่ายทอดจากพ่อค้าคนหนึ่งสู่อีกคนโดยไม่ต้องเสียเงิน ณ ปากประตูตำหนักองค์ชายเว่ยเสียงบทเพลงสรรเสริญพระองค์ก้องไปทั่วคนเฝ้ายามรู้สึกมึนงง ไยเขาไม่ได้ยินว่าองค์ชายเว่ยเชิญครัวเรือนที่จะรื้อย้ายเหล่านี้มาอยู่ตำหนักองค์ชายเว่ยเลย!คนเฝ้ายามรีบส่งคนไปทูลองค์ชายเว่ยองค์ชายเว่ยยังไม่ตื่น พลางได้ยินว่ามีคนเรียกอยู่ข้างนอกขณะกำลังหลับ“องค์ชาย ครัวเรือนที่จะรื้อย้ายมากหลายมาข้างนอกแล้วพ่ะย่ะค่ะ โดยว่าท่านคำนึงถึงการไร้บ้านกลับของพวกเขา เชิญพวกเขามาอยู่ตำหนักองค์ชายเว่ยพ่ะย่ะค่ะ…”“กระหม่อมเกรงเป็นข่าวเข้าใจผิดจึงมาสอบถาม… องค์ชาย จริงหรือพ่ะย่ะค่ะ?”
“ถึงคราวนั้นองค์ชายคังสามารถไปเข้าเฝ้าฝ่าบาทฟ้องร้องท่านได้ โดยตรัสว่าท่านบังคับรื้อถอนบ้านเรือนร้านค้าพวกเขาจึงเกิดเรื่องเช่นนี้พ่ะย่ะค่ะ!”“องค์ชาย ยามนี้คือเวลาสำคัญของศึกชิงรัชทายาท หากท่านคร่าชีวิตคน ยั่วยุฝ่าบาทกริ้วโกรธ ท่านจะนั่งบนตำแหน่งนี้ได้อยู่หรือพ่ะย่ะค่ะ?”“กระทั่งโครงการฟื้นฟูย่านการค้าที่เพิ่งได้รับก็อาจถูกฝ่าบาทยกให้คนอื่นทำพ่ะย่ะค่ะ!”หานหลินวิเคราะห์ผลเสียบานปลายเรื่องนี้ให้องค์ชายเว่ยครั้นองค์ชายเว่ยฟังก็ตระหนักถึงความรุนแรงของเรื่องได้ สิ่งที่หลานหลินเอ่ยอาจจะเกิดขึ้นได้จริง ๆ!หากรักษากิจราชการโครงการฟื้นฟูย่านการค้าไว้ได้ เขายังหาเงินจากแหล่งอื่นได้อยู่แต่หากเสียกิจราชการไปจะสะเทือนถึงการชิงตำแหน่งรัชทายาท มันได้ไม่คุ้มเสีย!“ได้ ท่านหาน ตัวข้าเชื่อฟังท่าน ข้าจักออกไปปลอบพวกเข้าประเดี๋ยวนี้!”ขณะองค์ชายเว่ยกล่าวก็รีบรุดหมายไปหานหลินพลันเอ่ย “องค์ชาย โปรดส่งคนของเราออกไปเฝ้าดู จะปล่อยให้คนขององค์ชายคังปะปนด้านในก่อเรื่องมิได้เด็ดขาดพ่ะย่ะค่ะ!”“ไหน ๆ จักเป็นคนดีแล้ว ให้คนของเราช่วยพ่อค้าพวกนั้นส่งของกลับด้วย! อย่างนี้จักได้ชื่อเสียงที่ดีขึ้นอีก!”เม
กวนอิ่งยังใคร่มาชมฉากโรงเหยียนหลิงถูกรื้อถอนนางรุดมาถึงพบว่าพ่อค้าพวกนั้นต่างมิได้ย้ายบ้าน อีกทั้งกำลังขนของกลับเมื่อกวนอิ่งสอบถามถึงรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นนางขาดการมองการณ์ไกลเรื่องพ่อค้าล้อมกั้นตำหนักองค์ชายเว่ย รู้สึกพระองค์ไม่ได้เรื่องโดยแท้!พอโดนขวางประตูก็กลัวจนอะลุ้มอล่วยเสียแล้ว!กวนอิ่งไฉนจะยอมเลิกราเช่นนี้ นางยังคิดยืมอิทธิพลองค์ชายเว่ยกดหลิงอวี๋ จึงพาคนไปประตูตำหนักองค์ชายเว่ยนางคิดว่า หากตนยั่วยุองค์ชายเว่ยไม่กี่ประโยค องค์ชายเว่ยจะช่วยตนรื้อโรงเหยียนหลิงของหลิงอวี๋วันนี้แน่!ขณะนี้องค์ชายเว่ยกริ้วเต็มทรวง เรื่องบังคับรื้อมิเพียงมิได้ประโยชน์ยังเกือบไปถึงหูองค์จักรพรรดิด้วยทั้งหมดนี้เป็นหลุมพรางที่องค์ชายคังกับกวนอิ่งวางใส่ตนเขากำลังมีน้ำโหว่าจะชำระทั้งสองอย่างไร คิดไม่ถึงว่าคนเฝ้ายามจะมาแจ้งว่าคุณหนูใหญ่กวนมา“นางยังกล้ามาอีกรึ? ข้ากำลังจะไปหานาง! ให้นางเข้ามา!”หลังองค์ชายเว่ยเอ่ยจบ จู่ ๆ ก็นึกถึงถ้อยคำนั้นของหานหลิน ‘คุณหนูใหญ่กวนเอ่ยว่าท่านมิเข้าตานาง!’องค์ชายเว่ยแสยะยิ้ม ตัวข้าไม่เข้าตาหรือ?ตัวข้ารับเจ้าเป็นพระชายารอง ข้ายังไม่เข้าตาเจ้าอีกรึ!ได้ งั้
“ไปให้พ้น…!”กวนอิ่งเดือดจัดยกมือขึ้นหมายตบองค์ชายเว่ย ทว่ามือกลับอ่อนแรงยกไม่ขึ้นเลย…“แควก…”กวนอิ่งได้ยินเพียงเสียงเฉียบคม อาภรณ์ส่วนบนถูกฉีกออกจากกันทันใด!“เลวนัก… ท่านจะทำอะไร?”กวนอิ่งตะโกนกราดเกรี้ยว “หยุดซะ ไม่งั้นข้าจะฆ่าท่านแน่!”“เพียะ!”องค์ชายเว่ยตบหน้ากวนอิ่งไวว่อง นัยน์ตาพลางฉายรัศมีโหดเหี้ยม“สารเลว!”กวนอิ่งถูกตบจนล้มกับพื้นนางดิ้นรนหมายลุกขึ้น แต่ตัวอ่อนปวกเปียกไร้เรี่ยวแรง“ท่าน ท่านวางยาในชา?”ในที่สุดกวนอิ่งก็หยั่งรู้ขึ้น กลัวจนหน้าถอดสี“หญิงชั่ว เพิ่งมารู้ตัวเอาตอนนี้รึ! ใครใช้ให้เจ้าใส่ไคล้ตัวข้า!”องค์ชายเว่ยเตะกวนอิ่งอย่างเหี้ยมโหด ครั้นนึกถึงว่าเกือบถูกหญิงชั่วนี่คิดร้ายก็ทวีความเดือดดาลจนคันฟัน พลางหยิบแส้บนผนังหวดร่างกวนอิ่ง“เพียะ!”“เพียะ!”“เพียะ!”กวนอิ่งพลันร่ำร้องน่าสังเวช เจ็บปวดจนแดดิ้นตามพื้นแต่ไหนมาเป็นนางใช้แส้หวดคนอื่น นี่เป็นครั้งแรกที่ได้ลิ้มรสแส้!“เซียวหลินเยี่ยน ท่านกล้าทำกับข้าเช่นนี้ ข้าจะฆ่าท่านแน่!”กวนอิ่งกรีดร้องเสียงแหลมแต่เขากลับตอบนางด้วยแส้อันเหี้ยมเกรียม“หญิงชั่ว เจ้ามีสิทธิ์คิดสังหารข้าเหรอ? ที่ตัวข้า
“เหอะ!”“เห็นแก่หน้าพี่เจ้า ครั้งนี้ตัวข้าจักไว้ชีวิตเจ้า!”องค์ชายเว่ยเห็นว่ากวนอิ่งจวนสิ้นใจก็นึกถึงว่าเขายังต้องการความมั่งคั่งของตระกูลกวนและผลพลอยได้ของกวนซิน พลันคลายมือออกกวนอิ่งทรุดลงแทบเท้าองค์ชายเว่ย หายใจหอบหนักหน่วงในที่สุดนางก็รู้จักความหวั่นเกรง!นางคิดมาตลอดว่าตระกูลกวนร่ำรวยเทียมแคว้น แม้แต่องค์จักรพรรดิยังต้องหวาด ยิ่งไม่ต้องพูดถึงลูก ๆ ทางสายเลือดเขาเลย!แต่นางพอเห็นนัยน์ตาจิตสังหารของเซียวหลินเยี่ยนเท่านั้! เมื่อครู่ชั่วพริบตานั้น นางเกือบคิดว่าตัวเองจะไม่รอดแล้ว!“หญิงชั่ว เจ้ามีแค้นกับพระชายาอ๋องอี้! หมายรื้อร้านนาง เจ้าหลอกใช้ตัวข้ามิเป็นไร แต่เจ้าบังอาจร่วมมือกับองค์ชายคังตลบหลังข้า!”เท้าข้างหนึ่งขององค์ชายเว่ยเหยียบหน้าอกกวนอิ่งพลางขยี้อย่างแรงกวนอิ่งเจียนสลบจากความเจ็บครั้นองค์ชายเว่ยนึกถึงแผนกวนอิ่งกับองค์ชายคังที่เกือบติดกับเข้าให้ พลันกล่าวอย่างน่าหวาดประหวั่น“เจ้ารู้หรือไม่ว่าเป็นพระชายาอ๋องอี้ลอบเผยเรื่องที่เจ้ากับองค์ชายคังใส่ไคล้ตัวข้า! ไม่งั้นข้าคงตกหลุมพรางพวกเจ้า!”“ฉะนั้น ที่เจ้าประสบวันนี้เป็นเจ้าทำตัวเจ้าเอง! ตัวข้ามิฆ่าหญิงชั่วเช
“ท่านพี่! ท่านพี่ต้องตัดสินให้ข้า!”ณ ตำหนักอ๋องอี้ เสิ่นจวนเห็นว่าหลิงอวี๋ไม่อยู่ ก็พานางรับใช้ของตนเองที่ถูกทุบตีมาร้องห่มร้องไห้ฟ้องเซียวหลินเทียน“จวนเอ๋อร์เองก็อยากให้ท่านพี่พักผ่อนอย่างเต็มที่ ถึงได้ให้คนมาคอยเฝ้าท่านพี่!”“ดูสิว่าภรรยาของท่านพี่เผด็จการถึงเพียงนี้ ทุบตีนางรับใช้ของข้าจนกลายเป็นเช่นนี้!”เสิ่นจวนผลักนางรับใช้ที่จมูกช้ำหน้าบวมไปข้างหน้าให้เซียวหลินเทียนเห็นเซียวหลินเทียนเหลือบมองนางรับใช้ผู้นั้นด้วยความรังเกียจ จมูกช้ำใบหน้าบวม นางถูกทุบตีอย่างหนักจริง ๆ!“ท่านพี่ ท่านพี่ต้องตัดสินให้หม่อมฉันนะ! นางรับใช้ก็เป็นมนุษย์เช่นกัน พี่สะใภ้มีสิทธิ์อันใดถึงทำร้ายนางเช่นนี้?”“เรือนของข้ามิต้องการให้คนของเจ้ามาเฝ้า! อีกทั้งเจ้ายังส่งนางรับใช้มากั้นประตูอีก นี่มันเรื่องอันใดกัน?”เซียวหลินเทียนเอ่ยด้วยความโกรธ “หลิงอวี๋เป็นพระชายาของข้า นางมาเยี่ยมข้า พวกตาไม่มีแววพวกนี้ กล้าดีไฉนมาขวางนางไว้ คิดว่านี่คือคฤหาสน์เสิ่นรึ?”“เสิ่นจวน ข้าสบายดีแล้ว มิต้องการให้เจ้ามาดูแลแล้ว วันนี้เจ้าพาพวกนางกลับไปเถอะ!”เสิ่นจวนเห็นว่าเซียวหลินเทียนมิได้เห็นแก่นางเลย ก็ร้อนใจขึ้นมา
“คารวะท่านพี่จ้าวเจ้าค่ะ!”เสิ่นจวนโค้งคำนับอย่างเชื่อฟัง พลางยิ้มเล็กน้อย“พี่จ้าวไปเยี่ยมท่านพี่แล้ว ค่อยมาคุยกับข้านะเจ้าคะ! มิได้เจอพี่จ้าวกันนมนาน จวนเอ๋อร์อยากคุยกับพี่จ้าว!”จ้าวเจินเจินมองนางอย่างประหลาดใจ เสิ่นจวนกะพริบตาอย่างลึกลับ แล้วพานางรับใช้เดินออกไปจ้าวเจินเจินกระตุกริมฝีปาก แล้วก้าวเข้าไปในประตูเรือนเซียวหลินเทียนนั่งอยู่ในเรือน เห็นสาวงามหยดย้อยเดินมาหาตนเขามองนิ่ง มิได้เจอกันมาสี่ปีแล้ว จ้าวเจินเจินสวยขึ้นกว่าเดิม!ใบหน้าที่ในวันเก่า ๆ ยังมีความเคร่งขรึมอยู่หน่อย ๆ ตอนนี้คลายแล้ว ดูงดงามสะดุดตายิ่งนักจ้าวเจินเจินเดินไปหยุดอยู่ตรงที่ห่างจากเซียวหลินเทียนเพียงไม่กี่เมตร นางเองยังมองเซียวหลินเทียนอย่างนิ่ง ๆ เช่นกันหนที่มาครั้งล่าสุด เซียวหลินเทียนยังมิได้สติ จะเป็นจะตายก็ยังมิรู้เลย!แต่ตอนนี้ นอกจากใบหน้าซีดเซียวที่เสียเลือดมากเกินไปแล้ว ก็ไม่มีเค้าของการที่ชีวิตถูกแขวนไว้บนเส้นด้ายอีกต่อไปแล้วไม่ได้เจอกันมาสี่ปี เซียวหลินเทียนเป็นผู้ใหญ่ขึ้นแล้ว ใบหน้าที่ทำให้นางหลงใหลในอดีตนั้นหล่อเหลามาดบุรุษมากขึ้นอีก!หัวใจของจ้าวเจินเจินรู้สึกราวกับว่าถูกแมวข่
“หลิงอวี๋ นาง...”เซียวหลินเทียนกำลังคิดจะบอกออกไปเรื่องที่หลิงอวี๋รักษาขาของตนได้ผล แต่คำพูดติดอยู่บนริมฝีปากเซียวหลินเทียนเห็นจ้าวเจินเจินกำลังเล่นกับจี้หยกบนเข็มขัดของตน!จี้หยกนั่นเป็นจี้หยกไม้ไผ่ของบุรุษ เช่นนั้นคงจะเป็นสิ่งที่องค์ชายคังมอบให้กับจ้าวเจินเจิน!เซียวหลินเทียนนึกขึ้นได้ถึงตัวตนของจ้าวเจินเจินในเวลานี้...นางเป็นภริยาขององค์ชายสอง เป็นพระชายาคัง!เซียวหลินเทียนเพิ่งจะคิดแผนจัดการองค์ชายคังกับองค์ชายเว่ย แล้วจ้าวเจินเจินก็มาเยี่ยมถึงที่!ระหว่างทั้งสองฝ่ายนี้ไม่มีความสัมพันธ์ใดหรือ?“น้องสะใภ้เป็นเยี่ยงไรบ้าง? หาวิธีรักษาขาของท่านได้แล้วหรือไม่?”จ้าวเจินเจินเอ่ยอย่างรีบร้อน “เช่นนี้ก็เยี่ยมมากเลย! หากพี่สี่สามารถยืนขึ้นได้ในเร็ววัน พวกเราล้วนยินดีกับท่านด้วย!”เซียวหลินเทียนหลุบตาลง ในใจรู้สึกสับสนมากจ้าวเจินเจินอยากให้ขาของตนหายขาดจริง ๆ หรือ?นางเป็นห่วงตนจริง ๆ หรือ?แต่หากไม่ใช่เล่า?หากนางมาหยั่งเชิงตนเองแทนองค์ชายสองเล่า?“ไม่… หลิงอวี๋ตรวจขาของข้าแล้ว นางบอกว่าทำอันใดมิได้แล้ว!”เซียวหลินเทียนเอ่ยอย่างเคร่งขรึม “หมอว่านก็บอกด้วยว่า ไม่มีผู้ใดส
“พี่อาอวี๋ เจ้าไปแล้วใครจะเล่นกับข้า? ใครจะดูแลข้า?”“พี่อาอวี๋ เจ้ายังเล่านิทานมิจบเลย! ข้ายังอยากฟังเจ้าเล่านิทานอีก!”คำเรียกพี่อาอวี๋ก็ออกมาอย่างต่อเนื่องทำให้หลิงอวี๋รู้สึกแสบจมูก ทำอะไรมิถูกนางเองก็ทำใจจากหวงฝู่หมิงจูมิได้เช่นกัน แต่วังเทพแห่งนี้มิใช่ที่ที่นางควรอยู่ นางยังต้องไปตามหาน้องสาวของตน!“พี่… อาอวี๋… อย่าไป!”หวงฝู่หมิงจูร้องไห้อย่างใจสลาย น้ำเสียงก็ขาด ๆ หาย ๆ กอดขาหลิงอวี๋ไว้แน่นมิยอมปล่อยมือหวงฝู่หลินทั้งปวดใจทั้งอิจฉา ตนเลี้ยงดูหวงฝู่หมิงจูเติบโตมา หวงฝู่หมิงจูล้วนไม่มีใจที่จะสนใจผู้ใด เมื่อใดกันที่สนใจคนคนหนึ่งถึงเพียงนี้!ท่านน้าหลินเองก็สีหน้ามิสู้ดีเช่นกัน นางก้าวไปข้างหน้าและพยายามดึงหวงฝู่หมิงจูออกพลางเตือนอย่างแสร้งทำดี“หมิงจู เจ้าได้ยินที่อาอวี๋บอกว่านางต้องไปตามหาน้องสาวแล้วหรือไม่? น้องสาวของนางเป็นญาติของนาง เจ้าให้นางไปตามหาน้องสาวนางเถิด!”“ท่านออกไป!”หวงฝู่หมิงจูหันหน้าไปมองท่านน้าหลินด้วยสายตาโกรธเกรี้ยว แล้วตะโกนอย่างมิพอใจอย่างมาก “สตรีสารเลว เป็นเพราะท่านจะตีพี่อาอวี๋จึงบีบให้นางต้องไป!”“ท่านออกไปเสีย ที่นี่มิใช่บ้านของท่าน ข้ามิต้
“ผู้ใดกล้าตีพี่อาอวี๋”“ก็ต้องตีข้าด้วย!”หวงฝู่หมิงจูตะคอกใส่ท่านน้าหลินอย่างโมโห “ข้ายินดีให้พี่อาอวี๋ดูแลข้า… ข้าแค่มิต้อนรับแขกเช่นท่าน!”“ท่านไปเสียเถิด! ข้ามิอยากให้ท่านมาเป็นแขกของตำหนักรุ่ยจู! ข้ามิยินดีให้ท่านกินเกี๊ยวที่พี่อาอวี๋ทำ!”“พวกเจ้าหากผู้ใดกล้ารังแกพี่อาอวี๋ก็คือการรังแกข้า!”“ท่านพ่อ หากท่านกล้าให้พวกนางตีพี่อาอวี๋ ข้าเองก็มิต้องการท่านแล้ว ท่านออกไปพร้อมกับพวกนางเลย!”“ฮือ ๆ ถึงอย่างไรท่านก็มิค่อนอยู่บ้านอยู่แล้ว ข้าถูกรังแกท่านก็มิสนใจ ข้ามีพี่อาอวี๋ก็เพียงพอแล้ว!”หวงฝู่หมิงจูพูดแล้วก็หันไปกอดขาของหลิงอวี๋ไว้แล้วร้องไห้ออกมายกใหญ่ท่าทีเช่นนี้ของหวงฝู่หมิงจูทำเอาท่านน้าหลินไปมิเป็น สีหน้าของนางก็ดูแย่ลงอย่างกระอักกระอ่วนหวงฝู่หลินจึงรีบเอ่ยอย่างปวดใจ “หมิงจูอย่าร้องนะ พ่อมิได้บอกว่าจะตีอาอวี๋ เจ้าอย่าได้โกรธเลย! ระวังโกรธแล้วจะเสียสุขภาพเอาได้!”เขาเดินเข้าไปจะปลอบใจหวงฝู่หมิงจู แต่หวงฝู่หมิงจูมิไว้หน้าเขา ซุกหัวอยู่กับขาของหลิงอวี๋แล้วร้องไห้ต่อหลิงอวี๋หมดคำพูด แม้ว่าหวงฝู่หมิงจูจะกำลังร้องได้ แต่อาอวี๋รู้จักนางดี เด็กน้อยผู้นี้ร้องไห้จริงเสียที่ไห
“พี่อาอวี๋ นี่มานี่สิ!”หวงฝู่หมิงจูเห็นหลิงอวี๋ยืนอยู่ด้านข้างจึงวิ่งไปดึงนางมา“ท่านพ่อ เกี๊ยวที่พี่อาอวี๋ทำอร่อยนะเพคะ เป็นเกี๊ยวที่อร่อยที่สุดที่ข้าเคยกินมาเลย!”“แล้วนางก็ทำอาหารอร่อย ๆ ได้หลากหลายด้วยเพคะ...”“อีกทั้งพี่อาอวี๋ก็เล่านิทานได้ นางเล่าเรื่องผู้ยิ่งใหญ่เสมอฟ้าได้สุดยอดไปเลย!”หวงฝู่หมิงจูพูดชื่นชมหลิงอวี๋ให้หวงฝู่หลินฟังอย่างตื่นเต้นหวงฝู่หลินยังมิได้มีท่าทีใด ๆ สำหรับเขาแล้วการที่ทาสทำดีกับหวงฝู่หมิงจูก็เป็นสิ่งที่ควรทำอยู่แล้วแต่สีหน้าของท่านน้าหลินดูแย่อย่างถึงที่สุด หวงฝู่หมิงจูเอาแต่พูดว่าหลิงอวี๋ดีอย่างนั้นอย่างนี้ นี่เป็นครั้งแรกที่นางเห็นหวงฝู่หมิงจูชมใครเช่นนี้ปกติแล้วตนดูแลหวงฝู่หมิงจูเป็นอย่างดี ซื้ออาหารซื้ออาภรณ์ให้นาง แต่ก็มิเห็นหวงฝู่หมิงจูจะชมตนเช่นนี้เลยดังนั้น แม้ว่าหลิงอวี๋จะมีรอยแผลอยู่เต็มหน้า ท่านน้าหลินก็ระวังตัวขึ้นมาในทันทีหวงฝู่หลินเป็นหมอชั้นเซียน รอยแผลบนในหน้าของหลิงอวี๋นั้น ขอเพียงหวงฝู่หลินอยากจะรักษาก็สามารถสกัดยาออกมาให้หลิงอวี๋ฟื้นคืนใบหน้าได้สตรีผู้นี้เก็บไว้มิได้แล้ว!“หมิงจู พ่อรู้แล้ว พ่อจะขอบคุณอาอวี๋อย่างดี!”
ตำหนักรุ่ยจูของหวงฝู่หมิงจูยังคงปิดอยู่ แต่เห็นได้ชัดว่าหวงฝู่หมิงจูดีขึ้นแล้วนางมิได้มีไข้แล้ว และตุ่มน้ำก็ตกสะเก็ดแล้วด้วยหลิงอวี๋มิยอมให้นางใช้มือเกาแล้วบอกว่ามันจะทิ้งรอยแผลเป็นเอาไว้ หวงฝู่หมิงจูจึงเชื่อฟังเป็นอย่างดีนางรู้ว่าหลิงอวี๋ทำเพราะหวังดีกับตน อีกทั้งนางเองก็มิอยากให้ใบหน้าเล็ก ๆ ที่ขาวสะอาดมีรอยแผลเป็นด้วยในทุกวันเมื่อหลิงอวี๋มีเวลาก็จะมาเล่านิทานให้นางฟัง ทั้งยังเปลี่ยนอาหารประเภทต่าง ๆ ให้นางกินด้วยหวงฝู่หมิงจูรู้สึกว่านอกจากพ่อของตนแล้ว คนที่นางชอบที่สุดก็คือหลิงอวี๋ในวันนี้ หลิงอวี๋ก็ห่อเกี๊ยวให้หวงฝู่หมิงจูอีก หวงฝู่หมิงจูก็ยืนมองตาปริบ ๆ อยู่ในครัวแล้วจู่ ๆ ปี้เอ๋อร์ก็วิ่งเข้ามาตะโกนอย่างดีใจและลุกลน “เจ้าวังน้อยเพคะ เจ้าวังกลับมาแล้ว มาถึงหน้าประตูแล้วเพคะ!”“ท่านพ่อข้ากลับมาแล้ว!”หวงฝู่หมิงจูตะโกนขึ้นมาด้วยความตื่นเต้นทันที เกี๊ยวก็มิอยากกินแล้ว นางหันหลังแล้ววิ่งออกไปข้างนอกหลิงอวี๋ยังมิเคยเห็นเจ้าวังผู้ลึกลับคนนี้มาก่อน จึงรีบล้างมือแล้วเดินตามออกไปเมื่อมาถึงที่โถงใหญ่ก็เห็นท่านน้าหลินเดินเข้ามาพร้อมกับบุรุษรูปงามที่ดูมีอำนาจมากผู้หนึ่งบุ
อะไรนะ?ทั้งเฉียวไป๋และลุงเฉียวตางก็ตกใจมากในความของพวกเขา หลิงอวี๋มิใช่คนแดนเทพ แม้ว่านางจะได้รับหยกหล้าสุขาวดีมาก็มิสามารถใช้ประโยชน์ที่ยิ่งใหญ่จากมันได้ ระดับพลังการบำเพ็ญของนางจะสูงถึงขั้นที่สามารถสังหารเฉียวเค่อได้อย่างไร?แต่เมื่อเห็นสภาพของจ้าวหรุ่ยหรุ่ยแล้ว พวกเขามิเชื่อก็ต้องเชื่อพลังของจ้าวหรุ่ยหรุ่ยอยู่เหนือกว่าเฉียวเค่อ นางไปถึงดินแดนที่หกนานแล้ว แต่ตอนนี้เพิ่งอยู่ในดินแดนที่สี่เฉียวไป๋กับลุงสามตระกูลเฉียวต่างก็มิรู้ว่า หลิงอวี๋ทำลายตันเถียนของจ้าวหรุ่ยหรุ่ยไปแล้ว หลังจากได้ฟังคำพูดของจ้าวหรุ่ยหรุ่ยก็คิดไปจริง ๆ ว่าหลิงอวี๋ได้ชิงพลังของจ้าวหรุ่ยหรุ่ยกับเฉียวเค่อไป“นางสารเลวผู้นี้ นางอยู่ที่ใด ข้าจะต้องตามหาและสังหารนางให้ได้!”หัวใจของเฉียวไป๋ราวกับมีมีดมากรีด ก่อนหน้านี้คำทำนายของลุงสามตระกูลเฉียวบอกว่า เฉียวเค่อตายไปแล้ว เขาก็เชื่อครึ่งสงสัยครึ่ง หวังว่าคำทำนายของลุงสามจะผิดพลาดแต่ตอนนี้จ้าวหรุ่ยหรุ่ยยืนยันการตายของเฉียวเค่อ ความหวังของเขาพังทลายลงไปแล้ว“ศพพี่ชายข้าอยู่ที่ใด? ข้าจะต้องตามหาเขาแล้วพาเขากลับมาฝังอย่างสงบ...”เฉียวไป๋สะอื้นไห้แม้ว่าเฉียวเค่
ชิงพลังไปหรือ?เช่นนั้นหลิงอวี๋จะมิเป็นดังเช่นเมื่อก่อนที่ไม่มีความสามารถที่จะป้องกันตัวแล้วต้องยอมให้คนอื่นรักแกหรือ?ความกังวลของเซียวหลินเทียนกัมีมากกว่าฉินซานนัก เขาขมวดคิ้วแล้วเอ่ย “ตามที่หานเหมยบอกมา จ้าวหรุ่ยหรุ่ยกับอาอวี๋ก็แยกจากกันไปแล้ว ศิษย์พี่ที่ช่วยจ้าวหรุ่ยหรุ่ยกับหานเหมยก็คือเฉียวเค่อ!”“แต่เมื่อวานเผยอวี้ไปสืบมา เฉียวเค่อตายแล้ว แล้วใครเป็นคนสังหารเฉียวเค่อเล่า?”“หรือจะเป็นจ้าวหรุ่ยหรุ่ย?”ฉินซานก็วิเคราะห์ตามไปด้วยเช่นกัน แต่รู้สึกว่าความคิดของตนนั้นเหลวไหลเกินไปเฉียวเค่อเป็นศิษย์พี่ของจ้าวหรุ่ยหรุ่ย จ้าวหรุ่ยหรุ่ยจะสังหารเขาได้อย่างไรกัน!ยิ่งไปกว่านั้น ระดับของเฉียวเค่อก็สูงมาก คนธรรมดาไม่มีทางที่จะสังหารเขาได้อย่างง่ายดาย!“หรือจะเป็นเย่หรง?”เซียวหลินเทียนนึกถึงเย่หรงที่ติดตามจ้าวหรุ่ยหรุ่ยกับเฉียวเค่ออยู่เช่นกัน ดังนั้นจึงพูดชื่อของเขาออกมาโดยมิรู้ตัว“ก็เป็นไปได้!”ขณะที่ทั้งสองกำลังคุยกันอยู่นั้น ขันทีโม่ก็พาหานเหมยกลับมาหานเหมยดูท่าทางอ่อนแอ เมื่อเห็นเซียวหลินเทียนก็คุกเข่าลง“ฝ่าบาท บ่าวมิได้ปกป้องฮองเฮาให้ดี ฝ่าบาทโปรดลงโทษบ่าวเถิดเพคะ!”“เจ้
เซียวหลินเทียน ฉินซานและขันทีโม่นำเกวียนทาสหญิงกลับมาที่โรงเตี๊ยมทาสคุนหลุนผู้นั้นซื่อสัตย์มาก ฉินซานบอกว่า เซียวหลินเทียนเป็นเจ้านายของเขา จากนั้นเขาก็ติดตามเซียวหลินเทียนมิยอมห่างเซียวหลินเทียนเห็นว่าเขาแข็งแกร่งราวกับหอคอยเหล็ก จึงตั้งชื่อให้เขาว่าเถี่ยจู้กระทั่งกลับมาถึงโรงเตี๊ยม เถ้าแก่จูก็บอกว่า มีสตรีสองคนมาหาพวกเขา แล้วบอกว่าเป็นคนคุ้นเคยของพวกเขาเถ้าแก่จูจัดห้องให้สตรีทั้งสองคนเป็นการชั่วคราวเมื่อเห็นว่าเซียวหลินเทียนกลับมาแล้ว เถ้าแก่จูจึงให้เสี่ยวเอ้อร์ไปแจ้งสตรีทั้งสองคนผลก็คือคนที่มาคือเถาจื่อกับหานอวี้นั่นเอง“หานอวี้ เจอพี่หญิงของเจ้าแล้วนะ!”ฉินซานเอ่ยอย่างตื่นเต้น“อยู่ที่ใด!” หานอวี้ตะโกนขึ้นมาอย่างตื่นเต้น“เจ้ารอสักครู่ ข้าจะไปพานางมา!”ฉินซานรีบเดินออกไป แต่หานอวี้รอมิไหวแล้วจึงรีบตามฉินซานไปที่เรือน แล้วก็เห็นทาสหญิงถูกขังอยู่ในเกวียนหานอวี้มิได้สนใจถามฉินซานว่าทาสหญิงเหล่านี้มาจากที่ใด นางรีบเปิดประตูเกวียนนั้นแล้วดึงพวกนางออกมาทีละคนหานเหมยถูกดึงลงมา แล้วหานอวี้ก็กอดนางอย่างตื่นเต้น “พี่หญิง ในที่สุดข้าก็พบเจ้าแล้ว! เจ้ายังมีชีวิตอยู่ ช่างดี
การกระทำนี้ของเซียวหลินเทียนทำให้เก๋อเฟิ่งฉิงถอนหายใจโล่งอก ก่อนหน้านี้นางยังคิดว่าจะยอมลดทิฐิลงขอร้องให้เซียวหลินเทียนช่วยเหลือ ไหนเลยจะคิดว่า มิต้องให้ตนเอ่ยปากเซียวหลินเทียนช่วยเหลือแล้วในใจของเก๋อเฟิ่งฉิงเต็มไปด้วยความซาบซึ้ง มิรู้สึกอยากแข่งขันกับเซียวหลินเทียนอีกต่อไปแล้วนางพยักหน้าให้เซียวหลินเทียนเล็กน้อยเพื่อแสดงความขอบคุณ จากนั้นก็เอ่ยขึ้นมาเรียบ ๆ “ในเมื่อคุณชายผู้นี้ซื้อทาสหญิงเหล่านี้ด้วยความจริงใจแล้ว เช่นนั้นข้าจะมิสู้กับท่านอีก!”หม่าเฉียงเห็นเช่นนี้ก็พอใจแล้ว และแทบจะรอมิไหวที่จะลากฉินซานไปดำเนินการซื้อขายกันป้าวเฉิงมองเซียวหลินเทียนแล้วพาคนของตนเดินออกไปเขามองออกว่า เซียวหลินเทียนมิใช่คนธรรมดา แต่ตราบใดที่รับรองว่าตนจะได้ส่วนแบ่งทางการค้า เขาก็จะมิสนใจว่าเซียวหลินเทียนเป็นใครขันทีโม่ใช้เงินห้าร้อยตำลึงไปซื้อตัวทาสหญิงที่เชี่ยวชาญเรื่องการติดตามและทาสคุนหลุนที่มีพลังมากมาหม่าเฉียงมอบให้ฉินซานแม้กระทั่งเกวียน ฉินซานเห็นว่าคนตระกูลเก๋อยังมิไป จึงมิยอมปล่อยหานเหมยออกมา เพื่อหลีกเลี่ยงมิให้ดึงดูดความสนใจของคนตระกูลเก๋อเซียวหลินเทียนยังต้องการถามคำถามหม่าเฉีย
หลังจากเสียงนั้น คนที่มุงกันอยู่เหล่านั้นก็หลีกทางให้โดยมิรู้ตัว แล้วกลุ่มคนที่มาก็เผยตัว...เซียวหลินเทียนก็มองไปเช่นกัน แล้วก็เห็นว่าคนที่นำมาเป็นบุรุษอายุประมาณห้าสิบปี รูปร่างสูง แขนทั้งสองข้างที่เผยออกมานั้นเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อ บนนั้นมีห่วงทองคำทองรูปสัตว์ประหลาดคล้องอยู่สองห่วงด้วย“ท่านป้าว!”มีคนจากในฝูงชนนั้นตะโกนขึ้นมาเซียวหลินเทียนรู้ทันทีว่า คนผู้นี้คือป้าวเฉิงเจ้าถิ่นตลาดซื้อขายทาสแห่งนี้ป้าวเฉิงเดินเข้ามาโดยที่ลูกน้องของคนล้อมรอบอยู่ เขาสูงกว่าเซียวหลินเทียนไปครึ่งหัว เขามองเซียวหลินเทียนแล้วมองเก๋อเฟิ่งฉิง จากนั้นก็ยิ้มเย็นชา“การประมูลก็มีกฎเกณฑ์ของการประมูล ท่านสองคนรู้หรือไม่ว่า ต่อให้ตะโกนเสนอราคาสูงแค่ไหน หากตอนที่ส่งมอบจริงแล้วจ่ายมิได้จะโดนลงโทษอย่างไร?”ในเมื่อป้าวเฉิงเป็นเจ้าถิ่นลานประมูลแห่งนี้ เขาจึงมิยอมให้ใครมาสร้างปัญหาในถิ่นของตนเมื่อครู่เขาเห็นจากด้านบนว่า คนในลานประมูลมารวมตัวกันอยู่ที่นี่ ก็กังวลว่าสองคนนี้จะมาสร้างปัญหา เขาจึงลงมาดู“หากจ่ายมิได้ ท่านจะต้องอยู่ที่ลานประมูลนี้และต้องนำเงินจำนวนสามเท่าจากที่เสนอราคามาไถ่ตัว!”ผู้ค้ามนุษย์คนห