คำพูดของตู้ตงหง ทำให้คนบางส่วนสั่นคลอน แบบนี้มันก็เป็นไปได้!ผู้คนเริ่มมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์กันขึ้นมาอีกครั้ง“คำพูดของคุณหนูตู้ฟังดูสมเหตุสมผล โรงหุยชุนกับโรงเหยียนหลิงเป็นศัตรูคู่อาฆาตกัน บางทีพระชายาอ๋องอี้อาจต้องการเป็นใหญ่เพียงฝ่ายเดียว จึงหาคนมาใส่ร้ายโรงหุยชุน!”“ช่างมันเถิด! พระชายาอ๋องอี้มีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม โรงหุยชุนคงไม่สามารถเอาชนะพระชายาอ๋องอี้ได้ จึงคิดหาคนมาใส่ร้ายนาง!”“แต่คำกล่าวอ้างของคุณชายหลี่บอกว่าคุณชายจางเป็นคนสั่งนะ นี่มันก็เข้าทางแล้ว!”“คุณชายหลี่ผู้นี้นิสัยไม่ดี ใครจะรู้ว่าเขาจงใจปั้นแต่งคำพูดแบบนี้มาเอาใจพระชายาอ๋องอี้ เพื่อจะรักษาอาการป่วยหรือไม่!”เมื่อได้ยินว่าท่ามกลางผู้คนนั้น มีเสียงเอนเอียงมาทางตนเอง จางเจ๋อก็ชื่นชมไหวพริบของตู้ตงหงเขาคว้ามือของตู้ตงหง พลางเอ่ยอย่างอารมณ์ดี“คุณหนูตู้ ขอบคุณที่เจ้าเชื่อข้าถึงเพียงนี้! การมีคนรู้ใจเช่นเจ้าในชีวิต แม้ว่าจางเจ๋อจะถูกคนร้าย ก็รู้สึกชื่นใจ!”“คนอื่นไม่เชื่อข้าก็ไม่สำคัญ ขอเพียงเจ้าเชื่อในตัวข้าก็พอแล้ว!”เอ่อ......หลิงอวี๋ หลิงหว่านและอันซินเกือบจะอาเจียนกับคำพูดการแสดงความรักอย่างไร้
จางเจ๋อคิดจะตะโกนกลับด่าว่าคนคนนั้นโกหกแต่เมื่อเงยหน้าขึ้นเห็นว่าคุณชายผู้นั้นคือลูกชายคนโตของราชองครักษ์ผาง จางเจ๋อก็กลืนคำด่ากลับคืนไปเลยเขาหรือจะกล้าทำให้คุณชายผางขุ่นเคือง!จางเจ๋อเกิดความคิดหนึ่งขึ้นมา จึงเอ่ย "จริงอยู่ที่ซื้อมาจากดินแดนม้ง! แต่เพื่อนของข้าซื้อมันให้ข้า!"“พระชายาอ๋องอี้ แม้ว่าข้าจะคาดเข็มขัดที่ซื้อมาจากดินแดนม้ง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าข้าเคยไปดินแดนม้งนี่!”จู่ ๆ ตู้ตงหงก็อารมณ์ขึ้น แล้วตะโกนขึ้นมา“ผู้ใดจะไม่มีเพื่อนเล่า! พระชายาอ๋องอี้ท่านคิดจะเอาเข็มขัดที่ซื้อมาจากดินแดนม้งมาใส่ร้ายพี่จางเจ๋อ นี่มันสมเหตุสมผลแล้วหรือ?”หลิงอวี๋ยิ้มเล็กน้อย“คุณหนูตู้ หูข้างใดของเจ้าที่ได้ยินว่าข้าใส่ร้ายพี่จางเจ๋อของเจ้าหรือ? เจ้าสอบสวนข้าเสียมากมายถึงเพียงนั้น จะไม่อนุญาตให้ข้าย้อนถามบ้างสักประโยคเลยหรือ?”"เห้อ ผู้ที่ไม่เคยไปดินแดนม้ง ทั้งยังไม่เคยได้ยินเรื่องบัวกมลนิล แต่กลับสามารถบอกฤทธิ์ทางยาของบัวกมลนิลได้..."“อีกทั้งยังเอาแต่พูดอยู่ตลอดว่าคุณชายหลี่จะต้องตายภายในธูปครึ่งดอก…”เสียงถอนหายใจของหลิงอวี๋ทำให้เหล่าผู้มีสติปัญญาต่างเข้าใจกันจางเจ๋อสามารถโต้เถีย
แม่ทัพเฉินโบกมือ แล้วเหล่านักการก็หยุด“ให้ตาย… เจ็บจะตายอยู่แล้วโว้...”หวงหยาเจ็บปวดจนหน้าบิดเบี้ยว น้ำหูน้ำตาไหลออกมาหมดเขาคลานไปบนพื้น เห็นใบหน้าเคร่งขรึมของแม่ทัพเฉิน ก็ไม่กล้าพูดคำหยาบออกมา“ใต้เท้าเฉิน หมอหลี่จากโรงหุยชุนเป็นคนสั่งข้า!”“เขาให้เงินข้าห้าสิบตำลึง ให้ข้าหาคนสองสามคนมาก่อปัญหาที่โรงเหยียนหลิง!”“ยาพิษนั้นหมอหลี่ก็เป็นคนให้มาด้วย!”หลังจากทนทุกข์ทรมานจากการลงโทษมามากพอแล้ว หวงหยาก็สารภาพทุกอย่างออกมาในคราวเดียว“หมอหลี่ ข้าขอโทษ… แม้ว่าท่านจะสัญญาว่าจะให้ข้าเพิ่มอีกห้าร้อยตำลึง แต่ข้าเกรงว่าถึงมีเงินแต่ก็คงไม่มีชีวิตให้ได้ใช้เงินแล้ว!”หวงหยาไม่เพียงแต่รู้สึกเจ็บปวดทั่วร่างกาย แต่เมื่อนึกถึงเงินห้าร้อยตำลึงที่เขาสูญเสียไป เขาก็ยังรู้สึกเจ็บปวดใจด้วยหวงหยากลัวว่าหมอหลี่จะโต้แย้งเหมือนจางเจ๋อ แล้วโยนความผิดนั้นให้กับตนเอง จึงชี้ไปที่เหล่าพี่น้องของเขาพลางตะโกน“ใต้เท้าเฉิน สิ่งที่ข้าบอกเป็นเรื่องจริงทั้งหมด ตอนที่หมอหลี่ไปหาข้า พี่น้องเหล่านี้ก็อยู่ที่นั่นด้วย! พวกเขาเป็นพยานให้ข้าได้!”พี่น้องเหล่านั้นเห็นว่าเจ้านายของตนถูกทุบตีจนเนื้อตัวเต็มไปด้วยแผลเห
“ใต้เท้าเฉิน เป็นเพราะมีอะไรบางอย่างมาดลใจข้า กลัวว่าที่โรงเหยียนหลิงเชิญแม่นางหลิงมาตรวจจะส่งผลกระทบต่อการค้า จึงเกิดเจตนามิดีขึ้น!”หมอหลี่หลับตาลง พลางเอ่ยอย่างฮึดสู้“เป็นข้าเองที่เอาเงินไปซื้อตัวหวงหยาให้ทำเรื่องนี้! เป็นข้าเองที่เอายาพิษให้หวงหยา! ข้ายอมรับผิดและทำตามกฎหมายขอรับ!”แม่ทัพเฉินเหลือบมองจางเจ๋ออย่างเย็นชา แล้วจึงเอ่ย“หมอหลี่ เจ้ารู้หรือไม่ว่า การวางยาพิษผู้อื่น เจ้าจะต้องได้รับโทษ?”หมอหลี่ตัวสั่น พลางเอ่ยเสียงสั่นเทา“ใต้เท้าเฉิน แต่… แต่คุณชายหลี่ยังไม่ตายนะขอรับ!”“หึ… หากพระชายาอ๋องอี้มิได้ใช้ทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยมช่วยชีวิตเขาไว้ เขากินยาพิษรุนแรงอย่างบัวกมลนิลเข้าไป เขาจะยังมีชีวิตอยู่ได้หรือ?”แม่ทัพเฉินยิ้มเยาะพลางเอ่ย“หมอหลี่ เจ้าสั่งให้หวงหยาวางยาพิษ จงใจวางยาพิษคุณชายหลี่เพื่อใส่ร้ายพระชายาอ๋องอี้!”“อีกทั้งยังสั่งให้หวงหยาทุบทำลายโรงเหยียนหลิง รังแกข่มเหง นี่คือข้อหาของเจ้า! เพื่อเป็นเยี่ยงอย่างแก่ผู้อื่น ข้าจักตัดสินประหารชีวิตเจ้า!”“หวงหยา เจ้าเห็นแก่เงิน มิแยกแยะอะไรถูกอะไรผิด วางยาพิษคุณชายหลี่ ให้ความช่วยเหลือคนทำชั่ว เจ้ามีความผิด
ตู้ตงหงมีหรือจะคิดว่าคู่หมั้นที่อ่อนโยนต่อนางเมื่อครู่นี้ ทันทีที่หันหน้ามาก็ดูเหมือนจะเปลี่ยนเป็นคนละคนไปเลยการตบครั้งนี้นี้ทำให้นางตาพร่า ที่มุมปากก็มีเลือดไหลออกมาด้วยตู้ตงหงกุมหน้าไว้ ยังไม่เข้าใจว่าตนเองผิดอันใด!หลิงอวี๋ทำให้จางเจ๋ออับอาย ท่านอ๋องอี้ผู้พิการนี้ก็เป็นสามีของนาง!ตู้ตงหงและจางเจ๋อควรร่วมมือกันทำให้อับอายกลับไปบ้างไม่ใช่หรือ?“เจ้า… เจ้าตบข้าหรือ?”ตู้ตงหงร้องไห้ออกมา "ข้าทำทั้งหมดนี้เพื่อผู้ใดกัน?"“พี่จางเจ๋อ… คำพูดที่พวกเขาว่ากล่าวเจ้าเมื่อครู่มันไม่น่าฟังถึงเพียงนั้น นี่ข้าจะล้างแค้นให้เจ้านะ!”เมื่อจางเจ๋อได้ยินว่าจนถึงตอนนี้ตู้ตงหงยังคงสร้างความเกลียดชังให้ตนเอง ก็ยิ่งโกรธ แล้วผลักนางออกไปด้วยความรังเกียจพลางดุด่านาง“ข้ากับท่านอ๋องอี้และพระชายาอ๋องอี้มิได้มีความโกรธแค้นต่อกัน! มันแค่ความเข้าใจผิดเล็กน้อย!”“หากเจ้ายังพูดจาไร้สาระอีก ชีวิตคู่ของเราก็นับว่าจบ!”“ไม่… พี่จางเจ๋อ ข้าจะฟังเจ้าทุกอย่าง เจ้าว่าเยี่ยงไรข้าก็ว่าเยี่ยงนั้น!”“เช่นนั้น ข้าจะไม่พูดเรื่องลงโทษท่านอ๋องอี้อีกแล้ว!”เมื่อตู้ตงหงได้ยินว่าการแต่งงานจะจบลง น้ำตาก็ร่วง คว้าแขนเสื้
“ป้ายคำขวัญนี้สำคัญถึงเพียงนั้นเลยหรือ?”คนข้างล่างได้ยินคำพูดของหลิงอวี๋ ก็เอ่ยวิจารณ์กันขึ้นมา“ปรมาจารย์ผู้มีชื่อเสียงคนใดมอบมันให้หรือ?”“ข้าก็บอกแล้วว่า อักษรบนป้ายคำขวัญนั้นไม่ธรรมดา มองปราดเดียวก็ดูเหมือนว่าไม่ใช่คนธรรมดาเขียน!”"ใช่แล้ว อักษรนั่นเขียนขึ้นอย่างลื่นไหล มีความชดช้อยมาก!"ทุกคนมองป้ายคำขวัญนั้น คำพูดประจบประแจงก็ออกจากปากมาเรื่อย ๆ โดยไม่ได้หวังเงินอะไรนี่เป็นโอกาสที่จะทำให้ท่านอ๋องเฉิงกับท่านอ๋องอี้พอใจ พวกเขาจะปล่อยมันผ่านไปได้เยี่ยงไร!“หึ... ไอ้พวกลิงหลอกเจ้า! พวกประจบสอพลอ!”ท่ามกลางเสียงสรรเสริญ ก็มีเสียงที่ไม่คล้อยตามดังขึ้นทันทีที่ทุกคนหันไปมอง ก็เห็นคุณหนูใหญ่กวนพูดเยาะเย้ยท่านอ๋องเฉิงเหลือบมองนาง พลางเอ่ยถามด้วยรอยยิ้ม“เหตุใดเล่า คุณหนูใหญ่กวนคิดว่าป้ายคำขวัญนี้มิดีหรือ? เพราะว่าอักษรที่เขียนไม่ดี?”"มันไม่ดีทั้งหมดนั่นเลย!"เจ้าหนูใหญ่กวนอาศัยคุณงามความดีและความมั่งคั่งของตระกูลกวน นางคอยจับตาดูอยู่ตลอด และนางก็ไม่ได้สนใจท่านอ๋องเฉิงด้วยท่านกวนเอ้อร์จะดึงนางไว้ก็ดึงไม่อยู่ นางเดินไปข้างหน้าอย่างอวดดีแล้วเมื่อครู่ เซียวหลินเทียนปรากฏต
“กวนอิ่ง เจ้ามานี่!”ท่านกวนเอ้อร์เรียก คิดว่าในเมื่อทำให้ขุ่นเคืองแล้ว เขาก็ทำได้เพียงใช้เงินเพื่อแก้ปัญหาแล้วประเดี๋ยวค่อยให้เงินแก่แม่นางหลิง ตระกูลกวนมีเงินตั้งมากมาย เรื่องที่แก้ปัญหาได้ด้วยเงินล้วนไม่ใช่ปัญหากวนอิ่งขมวดคิ้ว พลางเอ่ยอย่างออดอ้อน "ลุงสอง อย่าดังไป เขาคุยเรื่องจริงจังกันอยู่!"“ท่านอ๋องอี้ โปรดคิดให้ดี หม่อมฉันจะให้โอกาสท่านเพียงครั้งเดียวเท่านั้น!”“ท่านพ่อของหม่อมฉันมีหม่อมฉันเป็นบุตรีเพียงผู้เดียว หากท่านอภิเษกกับหม่อมฉัน ทรัพย์สินครึ่งหนึ่งของตระกูลกวนจะเป็นของท่าน! ท่านแม่ของหม่อมฉันก็เตรียมสินสอดมากมายให้ด้วย มีทั้ง…”ยังไม่ทันที่กวนอิ่งจะอวดความมั่งคั่งของนาง เซียวหลินเทียนก็เอ่ยอย่างตรงไปตรงมา"ข้ามีภรรยาแล้ว และข้าจะไม่หย่ากับนางอีกตลอดชีวิตนี้!"“คุณหนูใหญ่กวนหยุดพูดได้แล้ว ท่านอ๋องเฉิงกำลังสอบสวนคดีอยู่ กรุณาถอยออกไป อย่าทำให้ทุกคนเสียเวลา!”กวนอิ่งถูกปฏิเสธอีกครั้ง จู่ ๆ สีหน้าของนางก็เปลี่ยนไป นางจ้องมองที่เซียวหลินเทียนอย่างดุร้าย พลางเอ่ยถามเสียงดัง“หม่อมฉันมีตรงไหนไม่ดีหรือ? เซียวหลินเทียน ท่านปฏิเสธข้าครั้งแล้วครั้งเล่า คิดว่าหม่อมฉันกว
“เจ้าต้องการให้ข้าขอโทษเจ้า! มันเป็นไปไม่ได้เลยในชีวิตนี้!”ยังไม่ทันที่หลิงอวี๋จะพูดจบ เซียวหลินเทียนก็พูดต่อ "สิ่งที่พระชายาหมายถึงก็เป็นสิ่งเดียวกับที่ข้าจะบอก!"กวนอิ่งถูกทั้งสองแสดงท่าทีเกลียดชังเหมือนกันนั้นก็โกรธมากจนแบบคลั่ง นางยกแส้ขึ้นโดยสัญชาตญาณและคิดจะฟาดไปแต่มือกลับว่างเปล่า แล้วถึงได้นึกขึ้นได้ว่าแส้ถูกเซียวหลินเทียนปัดออกไปแล้วกวนอิ่งหันกลับมาด้วยความโกรธ เห็นแม่ทัพเฉินยังคงยืนอยู่พอดี นางจึงตะโกนทันที“ใต้เท้าเฉิน จับพวกเขา… เซียวหลินเทียนและภรรยาของเขาปลอมลายพระหัตถ์ของไทเฮา มันเทียบเท่ากับการแอบอ้างคำสั่งปลอม รีบจับพวกเขาเร็วเข้า แล้วบั่นหัวพวกเขาต่อหน้าสาธารณชนเสีย!”แม่ทัพเฉินพูดไม่ออก หญิงผู้นี้สมองมีปัญหาเหมือนกับตู้ตงหงหรือไม่?นั่นคือท่านอ๋องอี้ หลานชายแท้ ๆ ของไทเฮานะ?แม้ว่าจะปลอมแปลงป้ายคำขวัญ แต่ไทเฮาจะฆ่าท่านอ๋องอี้ด้วยเรื่องเล็กน้อยเช่นนี้ได้หรือ?“ท่านเฉิน เมื่อครู่ท่านบอกว่าจะจัดการตัดสินอย่างเป็นกลางไม่ใช่หรือ? เหตุใดกัน ตอนนี้หลักฐานก็วางอยู่ตรงหน้าแล้ว แต่ท่านกลับเข้าข้างหลิงอวี๋หรือ?”เสิ่นจวนไม่พอใจกวนอิ่งดึงลูกพี่ลูกน้องของนางไปเกี่ยวข