Share

บทที่ 207

Author: กานเฟย
“ป้ายคำขวัญนี้สำคัญถึงเพียงนั้นเลยหรือ?”

คนข้างล่างได้ยินคำพูดของหลิงอวี๋ ก็เอ่ยวิจารณ์กันขึ้นมา

“ปรมาจารย์ผู้มีชื่อเสียงคนใดมอบมันให้หรือ?”

“ข้าก็บอกแล้วว่า อักษรบนป้ายคำขวัญนั้นไม่ธรรมดา มองปราดเดียวก็ดูเหมือนว่าไม่ใช่คนธรรมดาเขียน!”

"ใช่แล้ว อักษรนั่นเขียนขึ้นอย่างลื่นไหล มีความชดช้อยมาก!"

ทุกคนมองป้ายคำขวัญนั้น คำพูดประจบประแจงก็ออกจากปากมาเรื่อย ๆ โดยไม่ได้หวังเงินอะไร

นี่เป็นโอกาสที่จะทำให้ท่านอ๋องเฉิงกับท่านอ๋องอี้พอใจ พวกเขาจะปล่อยมันผ่านไปได้เยี่ยงไร!

“หึ... ไอ้พวกลิงหลอกเจ้า! พวกประจบสอพลอ!”

ท่ามกลางเสียงสรรเสริญ ก็มีเสียงที่ไม่คล้อยตามดังขึ้น

ทันทีที่ทุกคนหันไปมอง ก็เห็นคุณหนูใหญ่กวนพูดเยาะเย้ย

ท่านอ๋องเฉิงเหลือบมองนาง พลางเอ่ยถามด้วยรอยยิ้ม

“เหตุใดเล่า คุณหนูใหญ่กวนคิดว่าป้ายคำขวัญนี้มิดีหรือ? เพราะว่าอักษรที่เขียนไม่ดี?”

"มันไม่ดีทั้งหมดนั่นเลย!"

เจ้าหนูใหญ่กวนอาศัยคุณงามความดีและความมั่งคั่งของตระกูลกวน นางคอยจับตาดูอยู่ตลอด และนางก็ไม่ได้สนใจท่านอ๋องเฉิงด้วย

ท่านกวนเอ้อร์จะดึงนางไว้ก็ดึงไม่อยู่ นางเดินไปข้างหน้าอย่างอวดดีแล้ว

เมื่อครู่ เซียวหลินเทียนปรากฏต
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 208

    “กวนอิ่ง เจ้ามานี่!”ท่านกวนเอ้อร์เรียก คิดว่าในเมื่อทำให้ขุ่นเคืองแล้ว เขาก็ทำได้เพียงใช้เงินเพื่อแก้ปัญหาแล้วประเดี๋ยวค่อยให้เงินแก่แม่นางหลิง ตระกูลกวนมีเงินตั้งมากมาย เรื่องที่แก้ปัญหาได้ด้วยเงินล้วนไม่ใช่ปัญหากวนอิ่งขมวดคิ้ว พลางเอ่ยอย่างออดอ้อน "ลุงสอง อย่าดังไป เขาคุยเรื่องจริงจังกันอยู่!"“ท่านอ๋องอี้ โปรดคิดให้ดี หม่อมฉันจะให้โอกาสท่านเพียงครั้งเดียวเท่านั้น!”“ท่านพ่อของหม่อมฉันมีหม่อมฉันเป็นบุตรีเพียงผู้เดียว หากท่านอภิเษกกับหม่อมฉัน ทรัพย์สินครึ่งหนึ่งของตระกูลกวนจะเป็นของท่าน! ท่านแม่ของหม่อมฉันก็เตรียมสินสอดมากมายให้ด้วย มีทั้ง…”ยังไม่ทันที่กวนอิ่งจะอวดความมั่งคั่งของนาง เซียวหลินเทียนก็เอ่ยอย่างตรงไปตรงมา"ข้ามีภรรยาแล้ว และข้าจะไม่หย่ากับนางอีกตลอดชีวิตนี้!"“คุณหนูใหญ่กวนหยุดพูดได้แล้ว ท่านอ๋องเฉิงกำลังสอบสวนคดีอยู่ กรุณาถอยออกไป อย่าทำให้ทุกคนเสียเวลา!”กวนอิ่งถูกปฏิเสธอีกครั้ง จู่ ๆ สีหน้าของนางก็เปลี่ยนไป นางจ้องมองที่เซียวหลินเทียนอย่างดุร้าย พลางเอ่ยถามเสียงดัง“หม่อมฉันมีตรงไหนไม่ดีหรือ? เซียวหลินเทียน ท่านปฏิเสธข้าครั้งแล้วครั้งเล่า คิดว่าหม่อมฉันกว

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 209

    “เจ้าต้องการให้ข้าขอโทษเจ้า! มันเป็นไปไม่ได้เลยในชีวิตนี้!”ยังไม่ทันที่หลิงอวี๋จะพูดจบ เซียวหลินเทียนก็พูดต่อ "สิ่งที่พระชายาหมายถึงก็เป็นสิ่งเดียวกับที่ข้าจะบอก!"กวนอิ่งถูกทั้งสองแสดงท่าทีเกลียดชังเหมือนกันนั้นก็โกรธมากจนแบบคลั่ง นางยกแส้ขึ้นโดยสัญชาตญาณและคิดจะฟาดไปแต่มือกลับว่างเปล่า แล้วถึงได้นึกขึ้นได้ว่าแส้ถูกเซียวหลินเทียนปัดออกไปแล้วกวนอิ่งหันกลับมาด้วยความโกรธ เห็นแม่ทัพเฉินยังคงยืนอยู่พอดี นางจึงตะโกนทันที“ใต้เท้าเฉิน จับพวกเขา… เซียวหลินเทียนและภรรยาของเขาปลอมลายพระหัตถ์ของไทเฮา มันเทียบเท่ากับการแอบอ้างคำสั่งปลอม รีบจับพวกเขาเร็วเข้า แล้วบั่นหัวพวกเขาต่อหน้าสาธารณชนเสีย!”แม่ทัพเฉินพูดไม่ออก หญิงผู้นี้สมองมีปัญหาเหมือนกับตู้ตงหงหรือไม่?นั่นคือท่านอ๋องอี้ หลานชายแท้ ๆ ของไทเฮานะ?แม้ว่าจะปลอมแปลงป้ายคำขวัญ แต่ไทเฮาจะฆ่าท่านอ๋องอี้ด้วยเรื่องเล็กน้อยเช่นนี้ได้หรือ?“ท่านเฉิน เมื่อครู่ท่านบอกว่าจะจัดการตัดสินอย่างเป็นกลางไม่ใช่หรือ? เหตุใดกัน ตอนนี้หลักฐานก็วางอยู่ตรงหน้าแล้ว แต่ท่านกลับเข้าข้างหลิงอวี๋หรือ?”เสิ่นจวนไม่พอใจกวนอิ่งดึงลูกพี่ลูกน้องของนางไปเกี่ยวข

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 210

    “อุดปากนาง แล้วลากนางลงไป!”ท่านกวนเอ้อร์ตะคอกด้วยสีหน้าเย็นชาคนรับใช้หลายคนไม่พูดพร่ำทำเพลงปิดปากกวนอิ่ง แล้วรีบลากนางลงไปหลิงอวี๋รู้สึกเสียใจเล็กน้อย การแสดงยังไม่ทันเริ่ม เหตุใดจึงจบลงแล้วเล่า!นางยังอยากเห็นกวนอิ่งถูกไทเฮาตบหน้าอีกนะ!“ไทเฮา พระชายาอ๋องอี้ ท่านอ๋องอี้ กระหม่อมผิดไปแล้ว!”“หลานสาวของกระหม่อมมีอาการป่วยทางจิต เดิมทีกระหม่อมพานางมาหาหมอ ไม่คิดว่าในช่วงระยะหนึ่งที่ไม่ได้ดูนางให้ดี แล้วนางจะออกมาพูดจาไร้สาระเช่นนี้!”ท่านกวนเอ้อร์คุกเข่าลง ทำการคำนับไทเฮาก่อน จากนั้นยกมือขึ้นประสานให้หลิงอวี๋กับเซียวหลินเทียน พลางยิ้มอย่างจนใจ“หวังว่าไทเฮาจะทรงเมตตานาง อย่าได้สนใจคำพูดบ้า ๆ บอ ๆ ของนางเลยพ่ะย่ะค่ะ!”“ต่อไปตระกูลกวนจะจับตาดูนางอย่างใกล้ชิด จะไม่มีทางให้นางออกมาพูดจาไร้สาระอีกพ่ะย่ะค่ะ!”หลิงอวี๋มีความประทับใจที่ดีต่อท่านกวนเอ้อร์ แม้จะรู้ว่าเขาหาข้ออ้างมาล้างความผิดให้คุณหนูใหญ่กวนก็ตามแต่ในฐานะลุง เพื่อจะไม่ทำให้ไทเฮาและพวกเขาทั้งสองคนขุ่นเคือง ก็สามารถบอกว่าการยั่วยุของหลานสาวตนเองว่าเป็นอาการป่วยทางจิตไปได้!ความกล้าตัดสินใจเด็ดขาดในยามวิกฤติเช่นนี้ทำใ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 211

    คุณชายกวนหวั่นฝูงชนกระหน่ำซ้ำเติมสกุลกวน ทั้งยังยั่วยุความไม่พอใจของไทเฮาเขามองขอความช่วยเหลือทางท่านอ๋องเฉิง แค่คิดรีบผ่านเรื่องนี้ไปโดยเร็ว หากการสนทนาดำเนินต่อไป เขาจะรู้สึกละอายใจอย่างยิ่งแทนกวนอิ่งสิท่านอ๋องเฉิงยังมีมิตรภาพกับท่านกวนอยู่ ครั้นเห็นสายตาเขาก็ไม่อยากให้ฝูงชนโจมตีอีก บางทีก็ควรไว้หน้าแซ่กวนสักหน่อยท่านอ๋องเฉิงกล่าวยิ้มตาหยี “ไทเฮาเป็นพยานให้พระชายาอ๋องอี้ด้วยพระองค์เอง เช่นนั้นคดีนี้ยุติลงได้พ่ะย่ะค่ะ!”“เซียวหลินเทียน เพื่อคุ้มครองป้ายระลึกที่ไทเฮาพระราชทานแก่ท่าน ได้พลั้งมือฆ่าอันธพาล ตัวข้าจิตใจซื่อสัตย์ภักดีหาสุดมิได้ต่อท่าน ขอตัดสินท่านไร้ความผิด!”“ทุกท่าน ตัวข้าตัดสินคดีเช่นนี้มินับว่าถือหางคนมีอำนาจใช่หรือไม่? ยังมีผู้ใดมิยอมรับอีกหรือไม่?”“ไทเฮาอยู่ที่นี่ หากมิยอมรับพวกเจ้าสามารถยื่นอุทธรณ์ไทเฮาได้!”ฝูงชนชำเลืองมองหน้ากัน อย่าว่าแต่ท่านอ๋องอี้ฆ่าอันธพาล ทุกเรื่องที่เกิดขึ้นมีเหตุจริง ๆ!คิดแค่ว่าอ๋องอี้คือหลานทางสายเลือดของไทเฮา แล้วผู้ใดยังกล้ามิยอมรับเล่า!?เสิ่นจวนหดตัวลดการปรากฏของตนสุดกำลัง หมายล่องหนหายไปจากที่นี่บัดเดี๋ยวนั้น ไฉนจะกล้าพูด

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 212

    เจิงจื่ออวี้พลันรีบหลบในฝูงชนเงียบเชียบ เมื่อสายตาไทเฮาตกสู่ร่างเสิ่นจวนหลังฟังคำพูดไทเฮาจบ เจิงจื่ออวี้มีความคิดแค่ทางเดียวภายหน้าต้องห่าง ๆ กับเสิ่นจวนสักหน่อย นางยังมิได้เป็นแม่สื่อ มิอาจมีสหายอย่างเสิ่นจวนได้เพราะจะพัวพันถึงชื่อเสียงตนหลังไทเฮาเอ่ยจบก็มิได้สนใจอีกกับเสิ่นจวนที่ไร้เรี่ยวแรงดั่งโคลน หน้าหันไปทั่วลานพลางเอ่ยเสียงขรึม“ข้าพูดแนะนำอาอวี๋ก็เพื่อหมอทุกคนในเมืองหลวง!”“ข้าหวังพวกเจ้าทุ่มเทศึกษาวิชาแพทย์ เพื่อรักษาคนป่วยไข้เต็มที่! มีจิตเมตตากรุณาช่วยคนเจียนตายและรักษาผู้บาดเจ็บ!”ทุกคนที่อยู่ลานคุกเข่าลงตาม ๆ กัน หมอเหล่านั้นพูดเป็นเสียงเดียวกันอย่างตื่นเต้น“น้อมรับคำสั่งสอนของไทเฮา พวกเราจะทุ่มเทศึกษาวิชาแพทย์มีจิตเมตตากรุณาช่วยคนเจียนตายและรักษาผู้บาดเจ็บแน่นอนพ่ะย่ะค่ะ!”บัดนี้ไทเฮาเหลียงบ่ายทางหลิงอวี๋อย่างพึงพอใจ“อาอวี๋ เดิมทีข้าออกวังหมายดูเจ้ารักษาคนเช่นไร! แต่วันนี้เสียเวลาออกวังนานเกินไปแล้ว ข้าควรกลับวังได้แล้ว! ไว้คราวหน้าเถอะ!”แม่นมเว่ยก้าวไปข้างหน้าพยุงไทเฮา เอ่ยยิ้มตาหยีว่า“พระชายาอ๋องอี้ พิธีเปิดกิจการวันนี้เอิกเกริกนักเจ้าค่ะ! เมื่อครู่ไทเ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 213

    “ท่านอ๋อง ตอนนี้กระหม่อมยังรู้สึกเหมือนเพ้อฝันอยู่เลยพ่ะย่ะค่ะ!”ลู่หนานพูดทอดถอนใจ “พระชายาจะเป็นแม่นางหลิงหมอชั้นเซียนที่เลื่องลือในเมืองหลวงได้เช่นไร?”“วันนั้นที่พระชายาช่วยหลิงซวน กระหม่อมแค่คิดว่าวิชาแพทย์ของพระชายามหัศจรรย์มากแล้ว!”“ไฉนจะคิดว่าพระชายานางยังช่วยไทเฮาด้วย… ไยเมื่อก่อนกระหม่อมไม่สังเกตวิชาแพทย์ของพระชายานั้นปราดเปรื่องถึงเพียงนี้!”ไม่ใช่เพียงลู่หนานเท่านั้น เซียวหลินเทียนเองก็รู้สึกว่าทั้งหมดค่อนข้างไม่จริงเหมือนกัน!หลังตั้งแต่หลิงอวี๋ถูกตนหวดแส้ นางก็เปลี่ยนไปไกลมากจริง ๆ!ไกลจนเซียวหลินเทียนสงสัยว่า หลิงอวี๋คนนี้ใช่หลิงอวี๋คนนั้นที่ตนรู้จักหรือไม่!คนคนหนึ่งสามารถเปลี่ยนไปไกลขนาดนี้ได้อย่างไร?เซียวหลินเทียนนึกถึงกล่องยาที่มักปรากฏลึกลับนั้นของหลิงอวี๋ ยังมีกระบอกเข็มประหลาดนั่นอีก และมีดผ่าตัดที่ไม่เคยเห็นมาก่อนข้อสงสัยภายในใจยิ่งเยอะขึ้น หลิงอวี๋ศึกษาวิชาแพทย์ตั้งแต่เมื่อใดกัน?แล้วเรียนกับผู้ใด?คนที่วิชาแพทย์เด่นล้ำอย่างท่านหัวยังต้องคารวะนางเป็นอาจารย์ แล้ววิชาแพทย์ของหลิงอวี๋ลึกซึ้งเท่าใดกัน?“ท่านอ๋อง กระหม่อมคิดว่าที่พี่ใหญ่จ้าวพูดคราก่อนม

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 214

    หลิงอวี๋เห็นหลิงหว่านพูดถึงขึ้นก็นึกถึงความสับสนเมื่อครู่พลางเอ่ยถาม“โรงหุยชุนกับเจ้ามีความแค้นอันใดรึ?”หลิงหว่านพูดเร็วรี่ “พอพูดถึงเรื่องนี้ข้าก็ขัดเคืองนัก!”“การเจ็บไข้นี้ของแม่ข้า ได้เชิญหมอหลายคนที่โรงหุยชุนตรวจแล้ว พวกเขาจ่ายยาให้แม่ข้า ยาก็มาจากโรงหุยชุนเช่นกัน!”“แต่ท่านแม่ข้ากินไปสิบชุดแล้วยังมิหาย! เจ้ารู้ไหมว่ายาทุกชุดที่โรงหุยชุนจ่ายเก็บเงินเราไปเท่าไร? ยี่สิบตำลึง!”“ตั้งแต่แรกจนล่าสุดเราเสียไปหลายร้อยตำลึงแล้ว ถ้ารักษาหายก็ช่างมันไปแล้ว! แต่ดันรักษาไม่หาย!”“ยิ่งโมโหคือข้าเห็นท่านแม่ข้าไม่ดีขึ้นเลยจึงเปลี่ยนหมอซะ”“ผลคือหมอคนนั้นเห็นตำรับยาที่โรงหุยชุนจ่ายให้ข้าก็บอกข้าเงียบ ๆ ว่ายานั่นราคาแค่สามตำลึงเงิน!”หลิงหว่านเอ่ยอย่างขึ้งโกรธ “ข้าโกรธจนไปหาคำอธิบายที่โรงหุยชุน! แต่พวกเขาพูดว่ายาของร้านเขาเพิ่มยาผงสูตรลับเฉพาะ เครื่องยาสมุนไพรบนตำรับยาไม่มีราคา ที่มีราคาคือยาผงเหล่านั้น!”“ยาผงนั่นต้มเป็นกากหมดแล้ว เดิมทีหมอแยกแยะมิออก! นั่นมิใช่ว่าพวกเขาพูดสิ่งใดก็จะเป็นสิ่งนั้น!”หลิงอวี๋ฟังแล้วก็เข้าใจ นี่คือเล่ห์เหลี่ยมหลอกคนที่หมอไร้คุณธรรมใช้ประจำเรื่องที่โรงหุ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 215

    เมื่อเดินส่งป้าสะใภ้ใหญ่ทั้งสอง หลิงอวี๋กำลังคิดพาหลิงซินไปกินข้าว เมื่อออกประตูก็เห็นเซียวหลินเทียนกับลู่หนานรอตนอยู่“พระชายา ตระกูลกวนส่งของกำนัลล้ำค่าชุดหนึ่งแก่ท่าน ของล้วนส่งไปตำหนักอ๋องอี้แล้ว นี่คือรายการของขอรับ!”ลู่หนานมอบรายการของกำนัลให้หลิงอวี๋หลิงอวี๋รับมากวาดมองพลันเบิกตากว้างตะลึงงันทันทีรายการของกำนัลยาวเฟื้อย มีอัญมณี เครื่องยาสมุนไพรล้ำค่า อาภรณ์เครื่องนุ่งห่มและอื่น ๆ สุดท้ายยังมีตั๋วเงินหนึ่งแสนตระกูลกวนมากเงินทรงอำนาจเสียจริง!รายการของกำนัลบนมือหลิงอวี๋สั่นเทาพลางมองทางเซียวหลินเทียน“ทั้งหมดนี่ที่ส่งให้หม่อมฉันมิใช่แค่เพื่อขอรักษาใช่หรือไม่?”เซียวหลินเทียนหัวเราะเล็กน้อย เอ่ยอย่างมีความหมายลึกซึ้ง“แน่นอนว่ามิใช่ทั้งหมด! แม้ว่าวันนี้คุณหนูใหญ่กวนพูดจาพล่อย ๆ ล่วงเกินเจ้า แต่ก็ล่วงเกินไทเฮาด้วยเช่นกัน!”“ของกำนัลเหล่านี้ อาจหวังเจ้าจะพูดแก้หน้าต่อหน้าไทเฮาแทนพวกเขาสักสองสามประโยค!”หลิงอวี๋เข้าใจเหตุผลนี้โดยไม่สงสัย นางไม่ค่อยรู้จักตระกูลกวน แต่จากสิ่งที่หลิงหว่านเอ่ยไว้ก่อนหน้านี้ นางก็กังวลอยู่บ้างด้วยความมั่งคั่งพอ ๆ แคว้นศัตรู นี่มิใช่เท่ากั

Latest chapter

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1882

    ในขณะที่หลิงอวี๋กำลังคิดเช่นนี้ ในหัวก็ปรากฏวิธีการรักษาเกี่ยวกับโรคตาหลากหลายวิธีขึ้นมานางมีความมั่นใจเพิ่มขึ้นทันที จึงก้าวไปเรียกเขา “พี่ชาย ข้ามีทักษะการแพทย์อยู่บ้าง มิทราบว่าโรคตาของฮูหยินเว่ยที่เจ้าพูดถึงมีอาการอย่างไรหรือ บางทีข้าอาจจะช่วยรักษาโรคนี้ให้นางได้!”ลูกหาบผู้นั้นมองหลิงอวี๋ และเห็นว่านางสวมอาภรณ์ธรรมดา ๆ เขาจึงส่ายหัวแล้วเอ่ยออกมา “หากเจ้ามีทักษะการแพทย์เพียงเล็กน้อยก็ช่างเถิด โรคตาของฮูหยินเว่ยนั้นมิได้รักษาง่ายถึงเพียงนั้น นางหาหมอมาหลายคนแต่ก็ล้วนจนปัญญาที่จะรักษาทั้งสิ้น เจ้าอย่าไปให้เสียเวลาเลย!”หลิงอวี๋จึงเอ่ยขึ้นมาอย่างดื้อรั้น “หากมิลองแล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าข้าทำมิได้! พี่ชาย เจ้าพาข้าไปเถิด หากข้ารักษาฮูหยินเว่ยได้ เจ้าเองก็จะได้รางวัลเช่นกัน!”ลูกหาบนึกถึงเงินสิบตำลึงที่ฮูหยินเว่ยมอบให้ตน แล้วก็คิดว่าคนจิตใจดีถึงเพียงนั้นมิควรตาบอดไปเช่นนี้เขาจึงตัดสินใจอย่างเด็ดขาดแล้วเอ่ยออกไป “ได้ ข้าจะพาเจ้าไป!”ผู้รอบรู้รีบตามไปอย่างรวดเร็ว เขาเองก็ได้ยินบทสนทนาของพวกลูกหาบเช่นกันหากน้องชายที่เพิ่งรู้จักกันใหม่ผู้นี้สามารถรักษาโรคตาของฮูหยินเว่ยได้จริง ๆ เช

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1881

    หลิงอวี๋เห็นเช่นนั้นก็ใจเต้นขึ้นมา ผู้รอบรู้ผู้นี้เป็นคนมีความสามารถในการสืบข่าว บางทีตลอดการเดินทางร่วมกันนี้อาจจะช่วยดูแลกันและกันได้“พี่ชาย ท่านก็จะไปเมืองหลวงแดนเทพเช่นกันหรือ!”หลิงอวี๋เป็นฝ่ายก้าวเข้าไปทักทายเขาก่อน “เมื่อคืนข้าได้ยินท่านเล่าเรื่องที่โรงเตี๊ยม ข้าชื่นชมในการเรียนรู้ของพี่ชายยิ่งนัก!”หลิงอวี๋มิกล้าใช้ชื่อเจียงอวี๋อีกต่อไปแล้ว เฉียวไป๋รู้จักชื่อนี้ และนางต้องป้องกันเบาะแสต่าง ๆ ที่จะเปิดเผยตัวตนเอาไว้ก่อนเมื่อคืนผู้รอบรู้ดื่มหนักมาก จนมิรู้ว่ามีใครบ้างที่อยู่ในโรงเตี๊ยม เมื่อเห็นว่าคุณชายผู้นี้รู้จักตน ก็คิดว่าเขารู้จักตนที่โรงเตี๊ยมจริง ๆ จึงยิ้มและพยักหน้าให้ผู้รอบรู้อายุราว ๆ ยี่สิบปี หน้าตาหล่อเหลา แต่สวมอาภรณ์ค่อนข้างเรียบง่าย เห็นได้ว่าเขาขัดสนเงิน“เรือใหญ่ที่จะไปเมืองหลวงแดนเทพเหล่านั้น โดยปกติแล้วล้วนเป็นเรือที่ตระกูลร่ำรวยเช่าเอาไว้ มิอนุญาตให้พวกเราโดยสารไปด้วย!”ผู้รอบรู้เอ่ยออกมาอย่างท้อแท้ “เรือขนส่งสินค้าก็มีการป้องกันเข้มงวดมาก หากไม่มีคนคุ้นเคยที่แนะนำให้ก็มิอนุญาตให้พวกเราโดยสารเช่นกัน!”หลิงอวี๋หามานานแล้วก็เป็นอย่างที่ผู้รอบรู้พูดจริ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1880

    หลิงอวี๋ตกอยู่ในห้วงความคิดหากตนสังหารเฉียวเค่อไปจริง ๆ เช่นนั้นตนก็คือศัตรูของตระกูลเฉียวส่วนเฉียวไป๋นั้น ตนจับพลัดจับผลูช่วยเหลือเอาไว้ และตอนนั้นตนก็แปลงโฉมไปแล้ว ดังนั้นเฉียวไป๋จึงมิรู้ว่าตนก็คือหลิงอวี๋!หากเขารู้ เฉียวไป๋จะปล่อยตนไปหรือ?ตนไปสร้างเรื่องกับตระกูลที่มีอำนาจเช่นนี้ จนทำให้เกิดเงินรางวัลจำนวนมหาศาล และคนจากทุกเส้นทางต่างก็กำลังตามหาตนเพื่อเงินรางวัลเช่นนั้นการไปเมืองหลวงแดนเทพครั้งนี้จะต้องระวังให้มากขึ้นแล้ว!หลิงอวี๋คิดฟุ้งซ่านอยู่นานเท่าใดก็มิรู้ กระทั่งนางเรียกสติกลับคืนมา นางก็พบว่าคนในโถงรับแขกออกไปกันจำนวนมากแล้วส่วนผู้รอบรู้ผู้นั้นยังคงดื่มสุราอยู่ผู้เดียว ดูท่าทางเศร้าหมองยิ่งนักหลิงอวี๋ครุ่นคิด แล้วเดินไปนั่งฝั่งตรงข้ามเขา“พี่ชาย ข้ากำลังวางแผนไปตามหาญาติที่เมืองหลวงแดนเทพ เห็นว่าท่านรู้เรื่องเมืองหลวงแดนเทพอยู่มาก ข้าขอถามอะไรท่านสักหน่อยได้หรือไม่?”หลิงอวี๋ให้เสี่ยวเอ้อร์นำสุราดีและอาหารเนื้อ ๆ มาให้อีกสองสามอย่าง ผู้รอบรู้ดื่มจนมึนเล็กน้อยแล้ว เมื่อเขาได้ยินว่ามีสุราและอาหารดี ๆ มาอีก เขาก็เหลือบมองหลิงอวี๋แล้วเอ่ยถามออกไป “เจ้าอยากรู้เร

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1879

    หลิงอวี๋กลับมาถึงที่โรงเตี๊ยมก็เห็นว่าวันนี้โรงเตี๊ยมคลาคล่ำไปด้วยผู้คน คนทุกประเภทล้วนอยู่ที่นี่หลิงอวี๋สั่งอาหารสองสามอย่างกับเสี่ยวเอ้อร์ และให้เขานำอาหารไปส่งที่ห้องของตน และขณะที่นางกำลังจะกลับห้อง ในตอนที่เดินผ่านโถงรับแขกนั้น นางก็ได้ยินชื่อที่คุ้นเคย… หลิงอวี๋!หลิงอวี๋ตะลึงไปครู่หนึ่ง แต่มิได้รีบหันกลับไป คราวที่แล้วเป็นเพราะนางได้ยินชื่อนี้แล้วหันกลับไป นางจึงถูกแม่ทัพผู้นั้นเผยเพ่งเล็ง ทั้งยังทำให้ป้าวเฉิงเกิดความสงสัยอีกด้วยหลิงอวี๋ หรือว่านี่คือชื่อจริงของตน?ก่อนหน้านี้หลิงอวี๋ก็สงสัยอยู่ และในใจของนางก็คิดว่าตนคือหลิงอวี๋ไปแล้วเช่นกันดังนั้นเมื่อได้ยินชื่อนี้ นางจึงเดินไปสองสามก้าวก่อนจะหยุดจากนั้นก็ได้ยินว่ามีคนเอ่ยขึ้นมา “ตอนนี้ตระกูลเฉียวเสนอรางวัลก้อนโตเป็นการนำจับสตรีชื่อหลิงอวี๋ รางวัลนั้นเป็นเงินจำนวนห้าล้าน! หากสามารถจับหลิงอวี๋ได้ พวกเราก็จะมีเงินกันเป็นกอบเป็นกำแล้ว!”ที่แท้ก็มิได้เรียกตน แค่เอ่ยชื่อนี้ขึ้นมาในการสนทนาก็เท่านั้นหลิงอวี๋ใจเต้นรัว แล้วหันกลับไปเอ่ยกับเสี่ยวเอ้อร์ “หากอาหารของข้าเสร็จแล้วก็ยกมาที่นี่แล้วกัน ข้าจะกินที่โถงรับแขก!”“ขอ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1878

    หลิงอวี๋ยังคงซ่อนตัวอยู่ในน้ำลุงของเก๋อฮุ่ยหนิงคงถูกพิษของหลิงอวี๋จนตาบอดไปแล้ว ดังนั้นเก๋อฮุ่ยหนิงจะยิ่งไม่มีทางปล่อยตนไปแต่เก๋อฮุ่ยหนิงมิสามารถอยู่ที่ท่าเรือได้นานนัก ข้าหลวงเก๋อต้องรีบกลับไปรับตำแหน่งที่เมืองหลวงแดนเทพ จะเดินทางล่าช้าไปเพราะมาตามหาตนมิได้ขอเพียงตนซ่อนตัวอยู่จนถึงตอนค่ำ ก็จะขึ้นฝั่งโดยที่รอดพ้นจากสายตาของทุกคนได้ แล้ววันพรุ่งค่อยไปตามหาป้าวซวนเก๋อฮุ่ยหนิงมิสามารถอยู่ที่ท่าเรือได้นานดังเช่นที่หลิงอวี๋บอกไว้จริง ๆ นางพาลุงของนางไปหาหมอ แต่หมอทั่วไปที่ท่าเรือเหล่านี้ก็ไม่มีใครสามารถรักษาดวงตาของท่านลุงให้หายดีได้ลูกพี่ลูกน้องคนโตได้ยินข่าวก็รีบมาทันที เขาทั้งโกรธทั้งเคืองเก๋อฮุ่ยหนิง แต่ติดที่อำนาจของตระกูลเก๋อ ทำให้เขามิกล้าบ่นมากเกินไป“พี่ใหญ่ เป็นข้าเองที่ทำให้ท่านลุงลำบาก แต่ผู้ร้ายคือหมอเจียง ข้าจะให้ภาพเหมือนของนางกับพี่ใหญ่ พี่ใหญ่ต้องสังหารนางล้างแค้นให้ท่านลุงให้จงได้นะ!”เก๋อฮุ่ยหนิงรีบวาดรูปหลิงอวี๋มอบให้ลูกพี่ลูกน้องคนโตของนาง และสุดท้ายนางก็มอบเงินส่วนตัวทั้งหมดให้กับลูกพี่ลูกน้องคนโตไป เพื่อให้เขาไปหาหมอที่มีชื่อเสียงมารักษาดวงตาของท่านลุงหล

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1877

    “ตา… ตาของข้า!”ผู้ดูแลหลัวลุงของเก๋อฮุ่ยหนิงยกมือทั้งสองขึ้นปิดตาไว้อย่างเจ็บปวดเก๋อฮุ่ยหนิงทั้งโกรธทั้งกังวล นางจึงตะโกนบอกลูกหาบที่ตามมา “รีบไปจับตัวสตรีผู้นั้นไว้ อย่าปล่อยให้นางหนีไปได้!”เมื่อคนพวกนั้นเห็นว่าผู้ดูแลถูกหลิงอวี๋ทำให้บาดเจ็บ พวกเขาจึงพากันกระโดดลงน้ำไปจับตัวหลิงอวี๋ ตามคำสั่งของเก๋อฮุ่ยหนิงส่วนเก๋อฮุ่ยหนิงก็ประคองผู้ดูแลหลัว “ท่านลุง ข้าจะพาท่านไปหาหมอ!”หลิงอวี๋กระโดดลงไปในน้ำ แล้วนางก็ว่ายน้ำไปที่เรือเหล่านั้นเรือบรรทุกสินค้าจอดเทียบกันอยู่สะเปะสะปะ และกระจายกันอยู่เต็มบริเวณโดยรอบหลิงอวี๋ว่ายน้ำออกไปไกลภายในลมหายใจเดียว แล้วจึงกล้าโผล่ขึ้นมาหายใจบนผิวน้ำอย่างเงียบ ๆ โดยอาศัยเรือบังเอาไว้ จากนั้นก็ว่ายน้ำต่อไปเนื่องด้วยการอาศัยเรือเหล่านั้นบดบังไว้ ทำให้หลิงอวี๋สามารถหลบเลี่ยงพวกลูกหาบที่ลงน้ำมาได้ชั่วคราวแต่นางมิสามารถขึ้นฝั่งได้ ตอนนี้เป็นตอนกลางวัน หากนางขึ้นฝั่งไป ด้วยเนื้อตัวเปียกโชกเช่นนี้ จะต้องดึงดูดความสนใจของทุกคนอย่างแน่นอน แล้วลุงของเก๋อฮุ่ยหนิงก็จะจับตัวนางได้หลิงอวี๋เกาะเชือกของเรือลำหนึ่งที่ลอยอยู่บนผิวน้ำไว้ชั่วคราว ใจของนางเป็นห่ว

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1876

    “น้องหญิง!”ในเวลาเพียงชั่วพริบตานั้น หลิงอวี๋ก็นึกถึงสิ่งเหล่านี้ขึ้นมาได้ นางจึงดึงป้าวซวนเอาไว้ “เราไปดูที่ริมแม่น้ำกันเถิด เรือพวกนั้นกำลังบรรทุกสินค้ากันอยู่ ดูน่าสนใจยิ่งนัก!”เมื่อป้าวซวนถูกหลิงอวี๋ดึงตัวไปเช่นนั้น นางก็ตามไปอย่างมิอาจยื้อตนเองไว้ได้“น้องหญิง เก๋อฮุ่ยหนิงจะทำร้ายพวกเรา!”หลิงอวี๋เดินไปพลางกระซิบไปด้วย “เจ้าอย่าได้หันไปดู ทำเป็นว่ามิรู้เรื่องอะไรทั้งนั้น และเมื่อไปถึงเรือเหล่านั้น ข้าจะวิ่งไปด้านหนึ่ง ส่วนเจ้าก็วิ่งไปอีกด้านหนึ่ง พยายามวิ่งไปในที่ที่มีคนอยู่เป็นจำนวนมากเข้าไว้!”“พี่หญิง เกิดเรื่องอันใดขึ้นกันแน่?”ป้าวซวนตกใจกลัวจนสีหน้าเปลี่ยน “เก๋อฮุ่ยหนิงจะทำร้ายพวกเราด้วยเหตุใด? ท่านพ่อของนางยังต้องการเจ้าอยู่มิใช่หรือ?”“ข้าเล่าให้ฟังมิทันแล้ว หลังจากที่เจ้าหนีออกไปให้พยายามหลีกเลี่ยงพวกนาง แล้วซ่อนตัวจนถึงวันพรุ่ง จากนั้นค่อยมาหาข้าที่ใต้หอสังเกตการณ์ที่สูงที่สุดของท่าเรือ!”“หากว่าข้ามิมา เจ้าก็มิต้องรอ หาทางกลับไปหาครอบครัวด้วยตนเองเสีย!”หลิงอวี๋หันไปมอง แล้วก็เห็นว่าลูกหาบเหล่านั้นมิเดินอย่างเชื่องช้าแล้ว แต่กลับวิ่งมาทางพวกนางอย่างรวดเร็ว ดั

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1875

    สองวันต่อมา เรือก็มาถึงท่าเรือฟู่จี๋ตามกำหนดการเดินทาง แล้วก็เป็นไปตามที่จื่ออวิ๋นบอก เมื่อเรือจอดเทียบท่า ผู้คุมเรือก็ให้ทุกคนลงจากเรือไปพักผ่อนครึ่งวันเหล่าสตรีของตระกูลเก๋ออยู่บนเรือกันมาหลายวันแล้ว เมื่อสามารถขึ้นไปเดินบนบกกันได้ทุกคนก็ต่างลงจากเรือกันอย่างกระตือรือร้น แม้แต่ฮูหยินเก๋อเองก็รอมิไหวที่จะลงจากเรือไปสูดอากาศบริสุทธิ์เช่นกันข้าหลวงเก๋อก็เชิญเฉียวไป๋ไปดื่มสุราและกินอาหารที่ภัตตาคาร เฉียวไป๋ก็พร่ำบ่นกับตระกูลเก๋อมาหลายวันแล้ว จึงยากที่จะปฏิเสธการเชื้อเชิญแล้วตามเขาไปเก๋อฮุ่ยหนิงเห็นว่าเฉียวไป๋ไปแล้ว นางก็แอบยิ้ม นางให้จื่ออวิ๋นไปแจ้งท่านลุงเอาไว้ล่วงหน้าแล้ว ที่เหลือก็คือนางต้องหลอกล่อหลิงอวี๋ไปยังถิ่นของท่านลุง“หมอเจียง พวกเราก็ลงไปเดินเล่นกันเถิด ข้าได้ยินมาว่าท่าเรือฟู่จี๋แห่งนี้คึกคักมาก และสามารถเลือกหาของดี ๆ ได้มากมายทีเดียว!”แม้ว่าป้าวซวนจะมิได้เมาเรือแล้ว แต่นางก็ยังคงมิชอบความรู้สึกที่ต้องอยู่บนเรืออยู่ดี เมื่อได้ยินดังนั้น นางจึงดึงหลิงอวี๋แล้วออดอ้อน “พี่หญิง เราก็ลงไปเดินเล่นกันเถิด!”หลิงอวี๋เห็นว่าทุกคนไปกันหมดแล้ว นางก็มิอยากอยู่บนเรือเช่นกัน ดั

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1874

    ในขณะที่เซียวหลินเทียนกำลังยุ่งอยู่กับการตามหาหลิงอวี๋ และฟื้นฟูตำหนักปีกเงินขึ้นมาอีกครั้งนั้น ทางด้านหลิงอวี๋ก็เตรียมตัวจะออกเดินทางไปเมืองหลวงแดนเทพพร้อมกับครอบครัวของข้าหลวงเก๋อแล้วเพื่อเป็นการลดความเหนื่อยล้าของฮูหยินผู้เฒ่าเก๋อจากการเดินทางทั้งทางเรือและทางรถม้า ข้าหลวงเก๋อจึงเลือกที่จะเดินทางไปยังเมืองหลวงแดนเทพทางน้ำแทนตระกูลเก๋อเช่าเรือขนาดใหญ่สองลำ ลำหนึ่งสำหรับบรรทุกสัมภาระ และอีกลำหนึ่งสำหรับโดยสารคนข้าหลวงเก๋อได้รับการเลื่อนตำแหน่งครั้งนี้ คงจะมิกลับไปที่เมืองจงกวนอีกแล้ว ดังนั้นเขาจึงนำข้าวของเครื่องใช้ที่มีค่าและคนรับใช้ทั้งหมดที่เต็มใจจะติดตามเขาไปที่เมืองหลวงแดนเทพไปด้วยเรือใหญ่มีอยู่สามชั้น ชั้นล่างสุดเป็นที่พักอาศัยของคนรับใช้ ข้าหลวงเก๋อกับบุรุษในตระกูลเก๋อพักกันที่ชั้นสาม ส่วนเหล่าญาติฝ่ายสตรีก็พักอยู่ที่ชั้นสองสองพี่น้องหลิงอวี๋กับป้าวซวนก็ได้พักในห้องเดียวกัน แม้ว่าจะเล็กไปสักหน่อย แต่พวกนางทั้งสองก็รู้สึกว่าเพียงพอแล้วเส้นทางน้ำนี้ถือว่าเป็นแม่น้ำที่ใหญ่ที่สุดในแดนเทพ แบ่งออกเป็นแม่น้ำในและแม่น้ำนอกเส้นทางที่พวกนางเดินทางกันอยู่นี้คือแม่น้ำนอก ซึ่ง

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status