“ท่านอ๋อง ตอนนี้กระหม่อมยังรู้สึกเหมือนเพ้อฝันอยู่เลยพ่ะย่ะค่ะ!”ลู่หนานพูดทอดถอนใจ “พระชายาจะเป็นแม่นางหลิงหมอชั้นเซียนที่เลื่องลือในเมืองหลวงได้เช่นไร?”“วันนั้นที่พระชายาช่วยหลิงซวน กระหม่อมแค่คิดว่าวิชาแพทย์ของพระชายามหัศจรรย์มากแล้ว!”“ไฉนจะคิดว่าพระชายานางยังช่วยไทเฮาด้วย… ไยเมื่อก่อนกระหม่อมไม่สังเกตวิชาแพทย์ของพระชายานั้นปราดเปรื่องถึงเพียงนี้!”ไม่ใช่เพียงลู่หนานเท่านั้น เซียวหลินเทียนเองก็รู้สึกว่าทั้งหมดค่อนข้างไม่จริงเหมือนกัน!หลังตั้งแต่หลิงอวี๋ถูกตนหวดแส้ นางก็เปลี่ยนไปไกลมากจริง ๆ!ไกลจนเซียวหลินเทียนสงสัยว่า หลิงอวี๋คนนี้ใช่หลิงอวี๋คนนั้นที่ตนรู้จักหรือไม่!คนคนหนึ่งสามารถเปลี่ยนไปไกลขนาดนี้ได้อย่างไร?เซียวหลินเทียนนึกถึงกล่องยาที่มักปรากฏลึกลับนั้นของหลิงอวี๋ ยังมีกระบอกเข็มประหลาดนั่นอีก และมีดผ่าตัดที่ไม่เคยเห็นมาก่อนข้อสงสัยภายในใจยิ่งเยอะขึ้น หลิงอวี๋ศึกษาวิชาแพทย์ตั้งแต่เมื่อใดกัน?แล้วเรียนกับผู้ใด?คนที่วิชาแพทย์เด่นล้ำอย่างท่านหัวยังต้องคารวะนางเป็นอาจารย์ แล้ววิชาแพทย์ของหลิงอวี๋ลึกซึ้งเท่าใดกัน?“ท่านอ๋อง กระหม่อมคิดว่าที่พี่ใหญ่จ้าวพูดคราก่อนม
หลิงอวี๋เห็นหลิงหว่านพูดถึงขึ้นก็นึกถึงความสับสนเมื่อครู่พลางเอ่ยถาม“โรงหุยชุนกับเจ้ามีความแค้นอันใดรึ?”หลิงหว่านพูดเร็วรี่ “พอพูดถึงเรื่องนี้ข้าก็ขัดเคืองนัก!”“การเจ็บไข้นี้ของแม่ข้า ได้เชิญหมอหลายคนที่โรงหุยชุนตรวจแล้ว พวกเขาจ่ายยาให้แม่ข้า ยาก็มาจากโรงหุยชุนเช่นกัน!”“แต่ท่านแม่ข้ากินไปสิบชุดแล้วยังมิหาย! เจ้ารู้ไหมว่ายาทุกชุดที่โรงหุยชุนจ่ายเก็บเงินเราไปเท่าไร? ยี่สิบตำลึง!”“ตั้งแต่แรกจนล่าสุดเราเสียไปหลายร้อยตำลึงแล้ว ถ้ารักษาหายก็ช่างมันไปแล้ว! แต่ดันรักษาไม่หาย!”“ยิ่งโมโหคือข้าเห็นท่านแม่ข้าไม่ดีขึ้นเลยจึงเปลี่ยนหมอซะ”“ผลคือหมอคนนั้นเห็นตำรับยาที่โรงหุยชุนจ่ายให้ข้าก็บอกข้าเงียบ ๆ ว่ายานั่นราคาแค่สามตำลึงเงิน!”หลิงหว่านเอ่ยอย่างขึ้งโกรธ “ข้าโกรธจนไปหาคำอธิบายที่โรงหุยชุน! แต่พวกเขาพูดว่ายาของร้านเขาเพิ่มยาผงสูตรลับเฉพาะ เครื่องยาสมุนไพรบนตำรับยาไม่มีราคา ที่มีราคาคือยาผงเหล่านั้น!”“ยาผงนั่นต้มเป็นกากหมดแล้ว เดิมทีหมอแยกแยะมิออก! นั่นมิใช่ว่าพวกเขาพูดสิ่งใดก็จะเป็นสิ่งนั้น!”หลิงอวี๋ฟังแล้วก็เข้าใจ นี่คือเล่ห์เหลี่ยมหลอกคนที่หมอไร้คุณธรรมใช้ประจำเรื่องที่โรงหุ
เมื่อเดินส่งป้าสะใภ้ใหญ่ทั้งสอง หลิงอวี๋กำลังคิดพาหลิงซินไปกินข้าว เมื่อออกประตูก็เห็นเซียวหลินเทียนกับลู่หนานรอตนอยู่“พระชายา ตระกูลกวนส่งของกำนัลล้ำค่าชุดหนึ่งแก่ท่าน ของล้วนส่งไปตำหนักอ๋องอี้แล้ว นี่คือรายการของขอรับ!”ลู่หนานมอบรายการของกำนัลให้หลิงอวี๋หลิงอวี๋รับมากวาดมองพลันเบิกตากว้างตะลึงงันทันทีรายการของกำนัลยาวเฟื้อย มีอัญมณี เครื่องยาสมุนไพรล้ำค่า อาภรณ์เครื่องนุ่งห่มและอื่น ๆ สุดท้ายยังมีตั๋วเงินหนึ่งแสนตระกูลกวนมากเงินทรงอำนาจเสียจริง!รายการของกำนัลบนมือหลิงอวี๋สั่นเทาพลางมองทางเซียวหลินเทียน“ทั้งหมดนี่ที่ส่งให้หม่อมฉันมิใช่แค่เพื่อขอรักษาใช่หรือไม่?”เซียวหลินเทียนหัวเราะเล็กน้อย เอ่ยอย่างมีความหมายลึกซึ้ง“แน่นอนว่ามิใช่ทั้งหมด! แม้ว่าวันนี้คุณหนูใหญ่กวนพูดจาพล่อย ๆ ล่วงเกินเจ้า แต่ก็ล่วงเกินไทเฮาด้วยเช่นกัน!”“ของกำนัลเหล่านี้ อาจหวังเจ้าจะพูดแก้หน้าต่อหน้าไทเฮาแทนพวกเขาสักสองสามประโยค!”หลิงอวี๋เข้าใจเหตุผลนี้โดยไม่สงสัย นางไม่ค่อยรู้จักตระกูลกวน แต่จากสิ่งที่หลิงหว่านเอ่ยไว้ก่อนหน้านี้ นางก็กังวลอยู่บ้างด้วยความมั่งคั่งพอ ๆ แคว้นศัตรู นี่มิใช่เท่ากั
หลังรอโรงเหยียนปิดร้าน หมอเลี่ยวพลันเอ่ยต่อหลิงอวี๋หน้านิ่วคิ้วขมวดทันที“แม่นางหลิง การค้าดีมากล้นก็กลุ้มใจเหมือนกันหนา!”“การค้าดียังกลุ้มอีกหรือเจ้าคะ? หมอเลี่ยว ท่านยุ่งหัวมึนไปแล้วรึ? ร้านอื่นการค้าไม่ดีถึงกลุ้มใจสิเจ้าคะ!”หลี่ชุงพูดหยอกล้อหมอเลี่ยวถูมือยิ้มขมขื่น “วันนี้คนมาประจบอาจารย์ท่านมากหลาย ยาที่เรารับซื้อจวนขายเกลี้ยงแล้ว วันพรุ่งยังต้องเปิดร้านอีกจะเอาอันใดขายเล่า?”หลิงอวี๋ได้ยินว่าหมอเลี่ยวกลุ้มใจเรื่องนี้ก็หัวเราะกล่าวว่า“เรื่องเครื่องยาท่านมิต้องพะวง ข้าหารือกับเสี่ยวหาวแล้ว วันข้างหน้าเครื่องยาสมุนไพรโรงเหยียนหลิงก็จัดให้เขารับผิดชอบ! เขาจะส่งเครื่องยามาช้ากว่ากำหนด!”“เจ้าหมอนี่ ตอนนี้คลั่งไคล้อยู่กับการค้าสมุนไพรเสียแล้ว!”“ท่ามิเห็นหรือว่าวันนี้เขาก็มิได้มายกยอข้า? ก็ออกไปรับซื้อเครื่องยาให้ข้านั้นแล!”หมอเลี่ยวฟังแล้วก็วางใจ พยักหน้ากล่าวคำ“ได้ เครื่องยาสมุนไพรไม่มีปัญหา งั้นข้าก็วางใจแล้ว! แม่นางหลิงเจ้ายุ่งมาทั้งวันรีบกลับพักผ่อนเถิด!”“อืม หมอเลี่ยว พวกท่านเก็บกวาดให้เสร็จแล้วรีบพักผ่อนหน่อยหนา!”“หลี่ชุง ที่พักเจ้ากับครอบครัวเจ้าก็จัดการให้เร
ทั้งสามคุยกันเรื่อยเปื่อยบนรถม้า ทว่าผ่านไปครึ่งชั่วยามแล้วยังไม่ถึงคฤหาสน์หลี่ว์เซียงหลิงอวี๋รู้สึกนิด ๆ ว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้องพลันถาม “หลิงซวน คฤหาสน์หลี่ว์เซียงมิได้อยู่ในเมืองรึ?”หลิงซวนผงะครู่หนึ่งพลางเอ่ย “อยู่ในเมืองด้านประตูใหญ่บูรพาเจ้าค่ะ!”“แต่พวกเราเดินทางมาครึ่งค่อนวันแล้วหนา ไยยังไม่ถึงเล่า?”แม้หลิงอวี๋ยังไม่คุ้นเมืองหลวงทั้งหมด แต่ถ้าอยู่ประตูใหญ่บูรพาก็ควรถึงแล้ว“นี่เหมือนจะออกเมืองแล้ว!” หลิงซินออกข้างนอกน้อยมากเลยไม่แน่ใจมากนักหลิงซวนเปิดม่านรถออกมองไปข้างนอก ด้านนอกมืดสนิท ด้วยแสงจันทร์สว่างไสวจึงเห็นทุ่งนาไกลสุดลูกหูลูกตา“สารถี นี่เราจักไปที่ใดกัน?” หลิงซวนเอ่ยเรียกสารถีส่งยิ้มตอบว่า “เรียนพระชายา นายท่านของข้าพอเจ็บป่วยก็พักอยู่ในคฤหาสน์ชนบทตลอด อีกครึ่งชั่วยามก็ถึงแล้วขอรับ!”หลิงอวี๋ฟังแล้วก็ไม่ได้คิดมาก พลางคุยกับหลิงซวนต่อผ่านไปอีกครึ่งชั่วยามยังไม่ถึง รู้สึกว่าทางข้างหน้าขรุขระโคลงเคลงแม้หลิงอวี๋จะดูไม่กังวล แต่ก็รู้สึกทะแม่ง ๆนางเปิดม่านรถม้า พบว่ารถม้าขึ้นเขาแล้วภายใต้แสงจันทร์สว่างไสวจึงเห็นยอดเขาเลือนลางด้านข้างทันใดนั้นหลิงอวี๋ก
วันรุ่งขึ้นตำหนักอ๋องอี้จวนยามซื่อ(1) ถึงพบว่าหลิงอวี๋หายตัวไปตอนเก้าโมงเช้าผู้มาแจ้งข่าวเซียวหลินเทียนคือแม่นมลี่ นางตื่นเช้ามาพลันพบว่าหลิงอวี๋และอีกสองคนไม่อยู่เรือนบุหงาเริ่มแรกแม่นมลี่คิดว่าทั้งสามคนตื่นแต่เช้าไปโรงเหยียนหลิงแล้วแม่นมลีมิได้ใส่ใจนัก พลางทำอาหารเช้าให้หลิงเยวี่ยและคนรับใช้อีกสองคนโดยสั่งฉีฮู๋ ฉีเต๋อพาหลิงเยวี่ยไปทาน ส่วนตัวเองไปซื้อกับข้าวแม่นมลี่เพิ่งออกประตูก็บังเอิญเจอหลี่ชุงเข้า หลี่ชุงกล่าวร้อนรน“แม่นมลี่ อาจารย์ข้าอยู่หรือไม่? คนไข้หลายคนที่ลงทะเบียนนางไว้เมื่อเช้านี้กำลังรอนางตรวจอยู่เจ้าค่ะ!”“จนตอนนี้นางยังไม่ไปโรงเหยียนหลิงเลย หมอเลี่ยวให้ข้ามาถามดูว่าอาจารย์ข้าวันนี้มีธุระไม่อาจไปนั่งตรวจได้แล้วหรือไม่?”“คุณหนูข้ามิใช่ไปตั้งนานแล้วรึ?” แม่นมลี่เอ่ยประหลาดใจ“มิได้ไปเจ้าค่ะ!”หลี่ชุงพูดแปลกใจ “ตระกูลหลี่ว์ก็ส่งคนมาถามแล้วด้วยว่าอาจารย์รับปากกับพวกเขาจะไปตรวจฮูหยินใหญ่หลี่ว์เมื่อคืน ไยมิได้ไป!”“พ่อบ้านหลี่ว์ยังอารมณ์เสียนิดหน่อยด้วย กล่าวว่าอาจารย์ข้าเลื่องชื่อแล้วจะไม่เห็นตระกูลหลี่ว์ในสายตารึ! พูดจาเชื่อถือมิได้!”แม่นมลี่เหงื่อเย็นตก
เซียวหลินเทียนไม่ไปข้างนอกแล้ว กล่าวต่อแม่นมลี่ว่า“เจ้ากลับเรือนบุหงาก่อน ดูแลหลิงเยวี่ยให้ดี ในสองวันนี้พวกเจ้าพักอยู่ตำหนักอ๋องอี้ไม่อนุญาตให้ออกข้างนอก!”“หลี่ชุง เจ้าไปบอกหมอเลี่ยวว่าพระชายาอ๋องอี้ป่วยหนัก ในสองวันนี้ก็ไม่ไปนั่งตรวจที่โรงเหยียนหลิง ให้เขาเชิญท่านหัวช่วยนั่งตรวจก่อนเสีย!”“จำไว้ว่าบอกความจริงหมอเลี่ยวกับท่านหัวได้ แต่เผยต่อสาธารณะมิได้!”หลี่ชุงเข้าใจความร้ายแรงของเหตุการณ์แล้ว พลางผงกศีรษะรู้ความ“หม่อมฉันทราบแล้วเพคะ หม่อมฉันจะทำตามคำสั่งท่านอ๋องแน่นอนเพคะ!”“เหวินซวง เจ้าเตรียมของกำนัลส่งไปคฤหาสน์หลี่ว์บอกว่าพระชายาติดไข้หวัดมิอาจไปรักษาได้ชั่วคราว ให้เจ้าส่งไปขออภัยเสีย”“รอหลังพระชายาหายแล้ว จะไปจวนรักษาฮูหยินใหญ่แน่นอน!”ชิวเหวินซวงพยักหน้า แม้ในใจหมายให้หลิงอวี๋ทำตระกูลหลี่ว์ขุ่นเคืองจะตายแต่พอนึกถึงว่าหลี่ว์เซียงดำรงตำแหน่งอันทรงเกียรติ ซึ่งตนอยากเป็นพระชายาอ๋องอี้ ดังนั้นผลประโยชน์ของเซียวหลินเทียนเลยมาก่อนการคบหาหลี่ว์เซียง นั่นก็เป็นผลประโยชน์ในอนาคตที่ต้องมี!แป๊บเดียวจ้าวซวนก็รุดมาแล้ว หลังได้ยินการวิเคราะห์ของเซียวหลินเทียน จ้าวก็ซวนพลันเ
แต่เดินมาครึ่งค่อนวันแล้วหลิงอวี๋ยังมิได้ออกป่าเลยนางยันไม่ไหวแล้ว พลางพักผ่อนอยู่ใต้ต้นไม้หลิงอวี๋เสียเลือดไปมากและวิงเวียนศีรษะนางหยิบน้ำกลูโคสสองขวดจากมิติแล้วดื่ม ค่อยรู้สึกว่าตัวเองมีชีวิตชีวาขึ้นหน่อยครั้นมองป่าอันไม่มีที่สิ้นสุดข้างหน้า หลิงอวี๋ก็ไม่ใจร้อนหาทางแล้วนางคือคนป่วยบาดเจ็บสาหัส ทำได้แค่ดูแลร่างกายตัวเองไปก่อนนางหยิบพรมออกจากมิติ กะจะหลับก่อนสักตื่นค่อยว่ากันค่ำมืดเสียแล้วในที่สุดหลิงอวี๋ก็ออกจากป่าแล้ว นางทั้งหิวและเหนื่อย ก่อนจะเห็นแสงไฟบ้านคนจากไกล ๆหลิงอวี๋ฝืนยันเดินต่อ กระทั่งถึงบ้านหลังนั้น เนื่องด้วยแสงจันทร์ทำให้มองชัดว่าคือครอบครัวคนชีวิตลำบากยากแค้นกำแพงรั้วส่วนหนึ่งชำรุดทรุดลง ประตูใหญ่คือกระดานไม้หยาบ ๆ สองแผ่น“มีคนอยู่ไหม?”หลิงอวี๋เคาะประตูพลางกล่าวไร้เรี่ยวแรง “ข้ามาเยี่ยมญาติ ฟ้ามืดแล้วขอค้างสักคืน!”แสงไฟภายในบ้านดับลงทันที หลิงอวี๋เห็นแล้วใจก็สิ้นหวังนางเคาะประตู รักษาลมหายใจกล่าวว่า“ได้โปรดช่วยให้ข้าค้างสักคืน ข้าได้รับบาดเจ็บ… ข้าใกล้ยันไว้ไม่ไหวแล้ว… ข้าจะตอบแทนพวกเจ้าด้วย!”ด้านในยังคงไร้ซึ่งเสียงและไร้การเคลื่อนไหวเช่