แชร์

บทที่ 217

ผู้เขียน: กานเฟย
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2023-12-21 16:00:00
ทั้งสามคุยกันเรื่อยเปื่อยบนรถม้า ทว่าผ่านไปครึ่งชั่วยามแล้วยังไม่ถึงคฤหาสน์หลี่ว์เซียง

หลิงอวี๋รู้สึกนิด ๆ ว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้องพลันถาม “หลิงซวน คฤหาสน์หลี่ว์เซียงมิได้อยู่ในเมืองรึ?”

หลิงซวนผงะครู่หนึ่งพลางเอ่ย “อยู่ในเมืองด้านประตูใหญ่บูรพาเจ้าค่ะ!”

“แต่พวกเราเดินทางมาครึ่งค่อนวันแล้วหนา ไยยังไม่ถึงเล่า?”

แม้หลิงอวี๋ยังไม่คุ้นเมืองหลวงทั้งหมด แต่ถ้าอยู่ประตูใหญ่บูรพาก็ควรถึงแล้ว

“นี่เหมือนจะออกเมืองแล้ว!” หลิงซินออกข้างนอกน้อยมากเลยไม่แน่ใจมากนัก

หลิงซวนเปิดม่านรถออกมองไปข้างนอก ด้านนอกมืดสนิท ด้วยแสงจันทร์สว่างไสวจึงเห็นทุ่งนาไกลสุดลูกหูลูกตา

“สารถี นี่เราจักไปที่ใดกัน?” หลิงซวนเอ่ยเรียก

สารถีส่งยิ้มตอบว่า “เรียนพระชายา นายท่านของข้าพอเจ็บป่วยก็พักอยู่ในคฤหาสน์ชนบทตลอด อีกครึ่งชั่วยามก็ถึงแล้วขอรับ!”

หลิงอวี๋ฟังแล้วก็ไม่ได้คิดมาก พลางคุยกับหลิงซวนต่อ

ผ่านไปอีกครึ่งชั่วยามยังไม่ถึง รู้สึกว่าทางข้างหน้าขรุขระโคลงเคลง

แม้หลิงอวี๋จะดูไม่กังวล แต่ก็รู้สึกทะแม่ง ๆ

นางเปิดม่านรถม้า พบว่ารถม้าขึ้นเขาแล้ว

ภายใต้แสงจันทร์สว่างไสวจึงเห็นยอดเขาเลือนลางด้านข้าง

ทันใดนั้นหลิงอวี๋ก
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application
ความคิดเห็น (1)
goodnovel comment avatar
Rungnapa Muanginn
หักเงินไปแล้วดูไม่ได้ตลกละ
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 218

    วันรุ่งขึ้นตำหนักอ๋องอี้จวนยามซื่อ(1) ถึงพบว่าหลิงอวี๋หายตัวไปตอนเก้าโมงเช้าผู้มาแจ้งข่าวเซียวหลินเทียนคือแม่นมลี่ นางตื่นเช้ามาพลันพบว่าหลิงอวี๋และอีกสองคนไม่อยู่เรือนบุหงาเริ่มแรกแม่นมลี่คิดว่าทั้งสามคนตื่นแต่เช้าไปโรงเหยียนหลิงแล้วแม่นมลีมิได้ใส่ใจนัก พลางทำอาหารเช้าให้หลิงเยวี่ยและคนรับใช้อีกสองคนโดยสั่งฉีฮู๋ ฉีเต๋อพาหลิงเยวี่ยไปทาน ส่วนตัวเองไปซื้อกับข้าวแม่นมลี่เพิ่งออกประตูก็บังเอิญเจอหลี่ชุงเข้า หลี่ชุงกล่าวร้อนรน“แม่นมลี่ อาจารย์ข้าอยู่หรือไม่? คนไข้หลายคนที่ลงทะเบียนนางไว้เมื่อเช้านี้กำลังรอนางตรวจอยู่เจ้าค่ะ!”“จนตอนนี้นางยังไม่ไปโรงเหยียนหลิงเลย หมอเลี่ยวให้ข้ามาถามดูว่าอาจารย์ข้าวันนี้มีธุระไม่อาจไปนั่งตรวจได้แล้วหรือไม่?”“คุณหนูข้ามิใช่ไปตั้งนานแล้วรึ?” แม่นมลี่เอ่ยประหลาดใจ“มิได้ไปเจ้าค่ะ!”หลี่ชุงพูดแปลกใจ “ตระกูลหลี่ว์ก็ส่งคนมาถามแล้วด้วยว่าอาจารย์รับปากกับพวกเขาจะไปตรวจฮูหยินใหญ่หลี่ว์เมื่อคืน ไยมิได้ไป!”“พ่อบ้านหลี่ว์ยังอารมณ์เสียนิดหน่อยด้วย กล่าวว่าอาจารย์ข้าเลื่องชื่อแล้วจะไม่เห็นตระกูลหลี่ว์ในสายตารึ! พูดจาเชื่อถือมิได้!”แม่นมลี่เหงื่อเย็นตก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2023-12-21
  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 219

    เซียวหลินเทียนไม่ไปข้างนอกแล้ว กล่าวต่อแม่นมลี่ว่า“เจ้ากลับเรือนบุหงาก่อน ดูแลหลิงเยวี่ยให้ดี ในสองวันนี้พวกเจ้าพักอยู่ตำหนักอ๋องอี้ไม่อนุญาตให้ออกข้างนอก!”“หลี่ชุง เจ้าไปบอกหมอเลี่ยวว่าพระชายาอ๋องอี้ป่วยหนัก ในสองวันนี้ก็ไม่ไปนั่งตรวจที่โรงเหยียนหลิง ให้เขาเชิญท่านหัวช่วยนั่งตรวจก่อนเสีย!”“จำไว้ว่าบอกความจริงหมอเลี่ยวกับท่านหัวได้ แต่เผยต่อสาธารณะมิได้!”หลี่ชุงเข้าใจความร้ายแรงของเหตุการณ์แล้ว พลางผงกศีรษะรู้ความ“หม่อมฉันทราบแล้วเพคะ หม่อมฉันจะทำตามคำสั่งท่านอ๋องแน่นอนเพคะ!”“เหวินซวง เจ้าเตรียมของกำนัลส่งไปคฤหาสน์หลี่ว์บอกว่าพระชายาติดไข้หวัดมิอาจไปรักษาได้ชั่วคราว ให้เจ้าส่งไปขออภัยเสีย”“รอหลังพระชายาหายแล้ว จะไปจวนรักษาฮูหยินใหญ่แน่นอน!”ชิวเหวินซวงพยักหน้า แม้ในใจหมายให้หลิงอวี๋ทำตระกูลหลี่ว์ขุ่นเคืองจะตายแต่พอนึกถึงว่าหลี่ว์เซียงดำรงตำแหน่งอันทรงเกียรติ ซึ่งตนอยากเป็นพระชายาอ๋องอี้ ดังนั้นผลประโยชน์ของเซียวหลินเทียนเลยมาก่อนการคบหาหลี่ว์เซียง นั่นก็เป็นผลประโยชน์ในอนาคตที่ต้องมี!แป๊บเดียวจ้าวซวนก็รุดมาแล้ว หลังได้ยินการวิเคราะห์ของเซียวหลินเทียน จ้าวก็ซวนพลันเ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2023-12-21
  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 220

    แต่เดินมาครึ่งค่อนวันแล้วหลิงอวี๋ยังมิได้ออกป่าเลยนางยันไม่ไหวแล้ว พลางพักผ่อนอยู่ใต้ต้นไม้หลิงอวี๋เสียเลือดไปมากและวิงเวียนศีรษะนางหยิบน้ำกลูโคสสองขวดจากมิติแล้วดื่ม ค่อยรู้สึกว่าตัวเองมีชีวิตชีวาขึ้นหน่อยครั้นมองป่าอันไม่มีที่สิ้นสุดข้างหน้า หลิงอวี๋ก็ไม่ใจร้อนหาทางแล้วนางคือคนป่วยบาดเจ็บสาหัส ทำได้แค่ดูแลร่างกายตัวเองไปก่อนนางหยิบพรมออกจากมิติ กะจะหลับก่อนสักตื่นค่อยว่ากันค่ำมืดเสียแล้วในที่สุดหลิงอวี๋ก็ออกจากป่าแล้ว นางทั้งหิวและเหนื่อย ก่อนจะเห็นแสงไฟบ้านคนจากไกล ๆหลิงอวี๋ฝืนยันเดินต่อ กระทั่งถึงบ้านหลังนั้น เนื่องด้วยแสงจันทร์ทำให้มองชัดว่าคือครอบครัวคนชีวิตลำบากยากแค้นกำแพงรั้วส่วนหนึ่งชำรุดทรุดลง ประตูใหญ่คือกระดานไม้หยาบ ๆ สองแผ่น“มีคนอยู่ไหม?”หลิงอวี๋เคาะประตูพลางกล่าวไร้เรี่ยวแรง “ข้ามาเยี่ยมญาติ ฟ้ามืดแล้วขอค้างสักคืน!”แสงไฟภายในบ้านดับลงทันที หลิงอวี๋เห็นแล้วใจก็สิ้นหวังนางเคาะประตู รักษาลมหายใจกล่าวว่า“ได้โปรดช่วยให้ข้าค้างสักคืน ข้าได้รับบาดเจ็บ… ข้าใกล้ยันไว้ไม่ไหวแล้ว… ข้าจะตอบแทนพวกเจ้าด้วย!”ด้านในยังคงไร้ซึ่งเสียงและไร้การเคลื่อนไหวเช่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2023-12-21
  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 221

    หลิงอวี๋ก็ไม่ได้พบอะไรมีค่าวางอยู่ในเรือน นางถูกแม่อาเป่าพยุงไปนั่งบนเตียงและยังได้กลิ่นเหม็นฉี่ด้วย“แม่นางน้อยหิวหรือยัง แม่อาเป่าเจ้ายกน้ำมาให้นางล้างหน่อย ข้าจักไปดูว่ายังมีอะไรทำให้นางกินบ้าง!”ท่านป้าเก็บชามเปล่าบนโต๊ะขณะเอ่ยหลิงอวี๋ตาเฉียบแหลมเห็นชามสี่ใบ แต่ในเรือยมีแค่สามคน!นางนึกถึงเสียงที่ตัวเองได้ยินเลือนรางแล้วขบคิดถึงชามสี่ใบนี้อีกที นั่นก็ยืนยันว่าก่อนหน้ามีสี่คนในบ้านจริง ๆเป็นตนมาแล้วรบกวนพวกเขา คนคนนั้นก็รีบเข้าเขาเร้นกายเสียแล้วเหตุในต้องหลบ?กำลังหลบหนีผู้ใดอยู่หรือ?ขณะหลิงอวี๋กำลังครุ่นคิด แม่อาเป่าก็ยกน้ำมาแล้ว นางเอ่ยค่อนข้างวุ่นใจว่า“ที่บ้านไม่มีน้ำแล้ว ไปหาบน้ำมืด ๆ ค่ำ ๆ ไม่ดีนัก เจ้าเอาไปล้างเถอะ!”หลิงอวี๋วุ่นตลอดวันทั้งเนื้อทั้งตัวเต็มไปด้วยฝุ่น นางเห็นอ่างไม้หยาบ ๆ และผ้าเช็ดหน้าที่พาดด้านบนเป็นเศษผ้าจากเสื้อผ้าหลิงอวี๋ก็ไม่กล้าเมินพลางยันกายลุกไปล้างพร้อมเอ่ยว่า“แม่อาเป่า ข้าแซ่อวี๋ เจ้าเรียกข้าแม่นางอวี๋เถิด!”เมื่อไม่ได้รู้แจ้งว่าตนถูกใครไล่ฆ่าอยู่ หลิงอวี๋เลยไม่กล้าเอ่ยถึงพระชายาอ๋องอี้กับแม่นางหลิงอีก จำต้องปั้นแต่งชื่อปลอมเสีย“

    ปรับปรุงล่าสุด : 2023-12-22
  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 222

    นางหมายซ่อน ทว่าไม่มีที่หลบในเรือนหลังนี้โดยสิ้นเชิง“เปิดประตู… เปิดประตู… ค้นหาทหารหนีทัพ!”หลิงอวี๋ยังไม่ได้ตอบโต้ พลันได้ยินเสียงดังปังและประตูด้านนอกถูกถีบอ้าเสียแล้วอาเป่าตกใจจนร้องไห้งอแงเสียงดัง“แม่อาเป่า เจ้าพาอาเป่าหนีไปผ่านกำแพงหลังเร็ว!”เสียงพูดท่านป้าจางยังไม่ทันจบ ชายหน้าเหี้ยมหลายคนก็พรวดพราดเข้ามาแล้วหลิงอวี๋ดูแล้วไฉนจะเป็นทหารประจำการอะไรล่ะ เป็นแค่พวกกุ๊ยไม่กี่คนเองหัวโจกหน้าตากิริยาถ่อยเหมือนกับชายฟันเหลืองร่างกายฉกรรจ์ จมูกอ้วนใหญ่ สวมแค่เสื้อม่อฮ่อมแขนกุดเผยแขนหยาบสากและดำคล้ำ บนหน้ายังมีแผลเป็นยาวสายหนึ่ง“ป้าจาง นี่ทำอะไรน่าอร่อยจัง? เรียกมาครึ่งค่อนวันแล้วก็ไม่เปิดประตู!”ชายมีแผลเป็นพลันเปิดปากแสดงอารมณ์ขุ่น“อู๋เอ้อร์โก่ว บ้านเราไฉนจะยังมีอะไรกินอีก นี่เพราะมีแขกเลยทำหมี่บัควีตให้นางอิ่มท้องไงล่ะ”ท่านป้าจางส่งยิ้มพลางชี้หลิงอวี๋อู๋เอ้อร์โก่วปรายมองหลิงอวี๋ แม้หลิงอวี๋เป็นแผลที่หน้า แต่ผิวพรรณละเอียดอ่อนหน้าตาสะสวย เดิมไม่เหมือนคนที่โตมาในเขตภูเขาข้นแค้นห่างไกลเลย“นางคือผู้ใด? ไยข้าไม่ยักรู้ว่าเจ้ามีญาติเช่นนี้?”ท่านป้าส่งยิ้ม “แม่นาง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2023-12-22
  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 223

    หลิงอวี๋ทั้งโกรธทั้งร้อนใจไม่กล้าดิ้นรน เดิมนางมิใช่คู่ต่อสู้กุ๊ยพวกนี้เลย นางต้องรักษาชีวิตไว้ก่อนค่อยว่ากันรอดูว่ากุ๊ยพวกนี้จะพาตนไปที่ใดแล้วค่อยหาโอกาสหลบหนี…หลิงอวี๋กับแม่อาเป่าถูกลากขึ้นรถม้าคันหนึ่งป้าจางร้องลั่นแทบขาดใจ “อู๋เอ้อร์โก่ว ข้าโขกหัวคำนับให้เจ้าแล้ว เจ้าอย่าพาแม่อาเป่าไป!”“ขอร้องเจ้าปล่อยนางเถิด!”อู้เอ้อร์โก่วไม่สั่นไหว หลังเอาสตรีสองคนโยนขึ้นรถม้าก็ให้ลิ่วล้อบังคับรถม้าไปทันทีเสียงโศกาของป้าจางมากไกลเรื่อย ๆในตู้รถม้า แม่อาเป่าขดตัวอยู่ข้าง ๆ ร่ำไห้ ‘ฮือฮือ’ เสียงแผ่วอย่างพรั่นพรึงหลิงอวี๋ยื่นมือคลำช่วงเอวเปี่ยมโลหิตอย่างเงียบเชียบนางไม่สนใจปลอบแม่อาเป่า พลางควานหายาทาแผลจากในอกมาห้ามเลือดก่อนนี่เป็นภัยไร้เค้าโดยแท้ แค่อาศัยที่พักแรมยังแหย่พวกกุ๊ยนี้จนได้ รู้เช่นนี้นางยอมค้างคืนอยู่ในป่าดีเสียกว่าหลิงอวี๋จัดการปากแผลไว้ชั่วคราวแล้ว พลางหมายสังเกตกุ๊ยเสียหน่อยว่าจะพาพวกนางไปที่ใดแต่นอกรถม้ามืดสนิท เห็นอะไรก็ไม่ชัดทั้งสิ้นหลิงอวี๋จำต้องปล่อยไปรถม้าวิ่งมาครึ่งชั่วยามก็หยุดลงหลิงอวี๋กับแม่อาเป่าถูกกุ๊ยสองสามคนลากลงรถม้าอย่างหยาบคายหลิงอวี๋

    ปรับปรุงล่าสุด : 2023-12-22
  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 224

    แม่อาเป่ามองหลิงอวี๋พลางพูดอึก ๆ อัก ๆ ผู้หญิงส่ายหัว “ไม่รู้สิ แต่ผู้คุมเข้มงวดนัก พอมีคนเข้าใกล้ก็ปล่อยหมาป่ามากัดเลย!”“มีคนตัดฟืนผู้หนึ่งในหมู่บ้านเรา เพราะไม่ระวังพลาดถลันเข้าไป ผลคือถูกหมาป่ากัดจนตาย!”“พวกเขายังเดินแบกศพตามถนนด้วย กล่าวอ้างว่านี่คือจุดจบของคนที่บุกรุกเข้าเหมือง!”“กระนั้นแล้วไม่มีคนดูแลเลยหรือ?” หลิงอวี๋ถามอย่างฉงนแม่อาเป่าเช็ดหยาดน้ำตาพลางเอ่ยเสียงคับแค้น“ผู้ใดจะดูแลล่ะ! หมู่บ้านเยี่ยนเจียงแห่งนี้ปกครองโดยตระกูลอู๋ ลือว่าพวกเขายังมีคนชั้นสูงเป็นพรรคพวกอีก ทุกปีจะส่งเงินมหาศาลให้เขา!”“มิใช่ไม่มีคนไปร้องเรียน! แต่คนที่ร้องเรียนพวกนั้นถูกตระกูลอู๋ขัดขวาง แม้แต่ขุนนางก็มิได้พบทั้งสิ้น! เกิดไม่เห็นคน ตายไม่เห็นศพ(1)!”“นี่มิใช่ว่าพวกเจ้ามีประมาณร้อยครัวเรือนรึ? ทุกคนพร้อมใจกันก็ยังไร้ทางแก้ไข้หรือ?” หลิงอวี๋งงงัน“เมื่อก่อนมีประมาณร้อยครัวเรือน แต่บางครอบครัวทนฤทธิ์ของตระกูลอู๋ไม่ไหวเลยย้ายหนีแล้ว!”“ตอนนี้มีแค่ไม่กี่สิบครัวเรือน! บุรุษบางครอบครัวถูกตระกูลอู๋พาไปทำงานในถ้ำหมาป่า คนที่เหลือล้วนเลียแข้งเลียขาผู้มีอิทธิพลทั้งนั้น ใครจะแหย่ตระกูลอู๋เพื่อกง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2023-12-22
  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 225

    จางเหมยมองท่าทีลำบากใจของหลิงอวี๋พลันเดาความคิดนางออกทันทีนางพูดเงียบ ๆ ว่า “แม่นางอวี๋ ข้าจะไปลองโน้มน้าวพวกนางดู!”“พวกนางก็คนเหมือนกัน หัวใจคนเรามันคือก้อนเนื้อ มีความรู้สึก ถ้าไม่ถูกบีบจนสิ้นหนทาง ผู้ใดจะยินยอมรอความตายเล่า!”หลิงอวี๋มองเหตุผลชัดเจนแบบนี้ของจางเหมย ความเด็ดขาดของนางช่างน่าชื่นชมนักหลิงอวี๋กระซิบว่า “เจ้าไปโน้มน้าวเถอะ! หากครอบครัวยอมหนีตามก็ไปหาท่านอ๋องอี้ที่เมืองหลวง เขาจะจัดหางานให้พวกเจ้า!”จางเหมยนัยน์ตาวับวาบพลางเอ่ย “ข้ารู้จักท่านอ๋องอี้ เล่าลือว่าเขาคือคนเก่งวรยุทธร้ายกาจ!”“แต่ข้ากลัวว่าเรายังไม่ถึงเมืองหลวงก็โดนคนตระกูลอู๋สกัดฆ่าเสียแล้ว!”หลิงอวี๋นึกถึงแม่นมลี่ที่เคยพูดว่าเซียวหลินเทียนมีเไร่นาอยู่หมู่บ้านเฉินเจีย พลันกล่าว“ท่านอ๋องอี้มีเไร่นาอยู่หมู่บ้านเฉินเจีย พวกเจ้าไม่ต้องไปเมืองหลวง ไปหลบซ่อนที่หมู่บ้านเฉินเจียก่อน!”“ให้พ่อบ้านในชนบทช่วยส่งข่าวแก่ท่านอ๋องอี้ เขาจะช่วยพวกเจ้า!”จางเหมยยิ่งฟังยิ่งใจสั่นเรื่อย ๆ แต่ยังไม่วางใจพลางกระซิบถาม“แม่นางอวี๋ เจ้าแน่ใจหรือว่าท่านอ๋องอี้จะช่วยเรา? เขาจะไม่เหมือนขุนนางชั้นผู้ใหญ่พวกนั้นเอาเราส่งให

    ปรับปรุงล่าสุด : 2023-12-22

บทล่าสุด

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1758

    เผยอวี้กับขันทีโม่ก็มิได้สังเกตเช่นกันขันทีโม่สังเกตเห็นเพียงว่า บุรุษที่ตามหลังบุรุษผู้นั้นไปก็เป็นยอดฝีมือในการบำเพ็ญตนเช่นกัน ดูจากการแต่งตัวของเขา น่าจะเป็นพวกบ่าวมีคนสามกลุ่มนี้ในเมืองเล็กก็หมายความว่าหลิงอวี๋อยู่ใกล้​ ๆ​ นี้พวกเซียวหลินเทียนกับเผยอวี้รีบกินอาหารเย็นแล้วเดินออกไป​ หมายจะติดตามไปตามมิศทางของคนทั้งสามกลุ่มนี้พวกเซียวหลินเทียนสามคนเพิ่งจะเดินออกมา ก็เห็นนางรับใช้ที่วิพากษ์วิจารณ์คุณหนูรองตระกูลเก๋อเมื่อครู่เดินมาหาแล้วมุ่งตรงมาที่เซียวหลินเทียน จากนั้นจึงเอ่ย “คุณชาย หาสถานที่คุยกันสักหน่อยได้หรือไม่?”เซียวหลินเทียนตะลึงอยู่ครู่หนึ่งแล้วระวังตัวทันที หรือว่าคุณหนูใหญ่ตระกูลเก๋อมองออกถึงตัวตนของเขาแล้วจึงจงใจให้นางรับใช้ผู้นี้มารออยู่ที่นี่?“ไปคุยกันที่โรงน้ำชาข้างหน้าแล้วกัน!”เซียวหลินเทียนกวาดสายตามอง เห็นว่าฝั่งตรงข้ามมีโรงน้ำชาที่ยังคงเปิดอยู่ เขาจึงเดินนำไปเผยอวี้กับขันทีโม่มองหน้ากัน ต่างก็เดามิออกว่าคุณหนูใหญ่จากตระกูลเก๋อให้นางรับใช้มาหาเซียวหลินเทียนเพื่ออะไร แต่ทั้งคู่ก็ตามไปอย่างเข้าใจเซียวหลินเทียนหาโต๊ะริมหน้าต่างแล้วนั่งลงมองซูจู๋โดยมิพ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1757

    แม้ว่าเก๋อเฟิ่งฉิงจะชอบเซียวหลินเทียน แต่เกียรติของคุณหนูตระกูลใหญ่ทำให้นางมิสามารถละทิ้งท่าทีของตนแล้วก้าวไปเริ่มพูดคุยกับเซียวหลินเทียนได้ จึงพาคนของตนกลับไปก่อนที่หน้าประตู นางให้ซูจู๋นางรับใช้ของตนไปสืบเรื่องของเซียวหลินเทียนซูจู๋เป็นคนสนิทของเก๋อเฟิ่งฉิง และรู้ว่าเรื่องการแต่งงานของเก๋อเฟิ่งฉิงมิราบรื่นนัก ทันทีที่ได้ยินก็เข้าใจแล้วรับคำสั่งไปโดยมิรีรอคราวนี้เซียวหลินเทียนสงบลงแล้ว หลังจากได้ยินเรื่องการต่อสู้ภายในของตระกูลเก๋อ มุมปากของเขาก็โค้งขึ้นเยาะเย้ยตระกูลเก๋อมิได้สามัคคีกันเหนียวแน่น บางทีอาจจะใช้ความขัดแย้งของพวกนางมาทำให้พวกเขาต่อสู้กันเองได้อาหารมาแล้ว เซียวหลินเทียนกับเผยอวี้เพิ่งจะหยิบตะเกียบขึ้นมาก็เห็นคนสองคนที่นั่งอยู่ตรงมุมลุกขึ้นเดินออกไปบุรุษสองคนเดินตามกันไป บุรุษที่เดินนำหน้ารูปร่างสูง สวมชุดสีขาวดุจหิมะ และบนชุดนั้นก็มีลวดลายลึกลับที่ประณีตอยู่ด้วยหลังจากที่เซียวหลินเทียนได้รับการบำเพ็ญตนจากหลิงอวี๋ ก็พอจะมีความรู้เรื่องผ้าอาภรณ์อยู่บ้าง มองปราดเดียวก็มองออกทันทีว่า แม้ว่าอาภรณ์สีขาวของบุรุษผู้นั้นจะดูเรียบง่าย แต่ก็ทำจากผ้าปักลายดอกที่มูลค่ามห

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1756

    เก๋อเฟิ่งฉิงคุณหนูใหญ่ตระกูลเก๋อถูกน้องสาวกดดันเช่นนี้ ใบหน้าก็พลันมืดมนลง นางดุว่า “หากเจ้ายังพูดเรื่องไร้สาระอีกก็กลับไปเสีย ข้ามิต้องการให้เจ้าตามไป!”เก๋อเฟิ่งเจียวก็ดูเหมือนจะมิใช่คนที่ยอมรับความอับอายเช่นกัน นางยิ้มเยาะเย้ย “ท่านคิดว่าข้าชอบที่จะติดตามท่านหรือไร? หากมิใช่ท่านพ่อให้ข้ามา ข้าก็มิอยากจะมากับท่านหรอก!”“ทำงานขี้ขลาด… ท่านก็แค่อาศัยว่าแก่กว่าข้าจึงถูกท่านยายเลือกเป็นผู้สืบทอดมิใช่รึ? ในแง่ของความสามารถ ข้ามิได้ด้อยไปกว่าท่านเลย!”“ตึง!”เก๋อเฟิ่งเจียวกระแทกตะเกียบลงบนโต๊ะอย่างแรง แล้วลุกขึ้นเดินออกไป “พวกเราไปกันเถอะ!”นางรับใช้สองคนก็เดินตามนางไปสีหน้าของเก๋อเฟิ่งฉิงมืดมนลงซูจู๋นางรับใช้ข้างกายนางยิ้มเยาะ “อย่างน้อยคุณหนูใหญ่ของเราก็เกิดจากภรรยาที่แต่งงานถูกต้องตามธรรมเนียมของตระกูลเก๋อ ไหนเลยจะเหมือนกับมารดาของบางคนที่อาศัยวิธีสกปรกขึ้นสู่ตำแหน่ง!”“พูดให้ฟังง่ายก็คือ คุณหนูรองตระกูลเก๋อ แต่ใครมิรู้บ้างว่าคุณหนูรองผู้นี้ก็เป็นเพียงบุตรีนอกสมรสที่มิอาจออกหน้าทางสังคมได้!”“สารเลว เจ้าพูดว่ากระไรนะ? ผู้ใดมิอาจออกหน้าทางสังคมได้?”เมื่อเก๋อเฟิ่งเจียวได้ยินค

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1755

    ลุงเฉียวมองเฉียวไป๋น้องชายของเฉียวเค่อที่อยู่ตรงข้ามแล้วเอ่ยเสียงทุ้ม “ลุงสามทำนายแล้ว นั่นเป็นลางมิดี สถานที่ที่เฉียวเค่อปรากฏตัวครั้งสุดท้ายอยู่แถวนี้ วันพรุ่งเราค่อยมาตามหาบริเวณใกล้เคียงกันเถิด!”“เฉียวไป๋พูดถูก เฉียวเค่อไม่มีทางที่จะหายตัวไปเช่นนี้ ต่อให้รอดชีวิตแล้วมิพบใคร ตายก็ต้องพบศพ แต่ที่ลุงสามทำนายครั้งสุดท้ายนั้นมิชัดเจน ลุงสามก็มิรู้แน่ชัดว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่!”เซียวหลินเทียนได้ยินก็ใจเต้น ที่แท้คนที่หายไปคือเฉียวเค่อนี่เอง เช่นนั้นคนตระกูลเฉียวปรากฏตัวที่นี่ก็เพื่อตามหาเฉียวเค่อหากพวกเขาตามคนตระกูลเฉียวไป ก็อาจจะได้ข่าวหลิงอวี๋บ้าง“ลุงสาม ความสามารถในการทำนายของท่านไร้ผู้ใดเทียบ แม้แต่ท่านยังมิรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แล้วใต้หล้านี้จะมีผู้ใดรู้กัน!”เฉียวไป๋ทั้งโกรธและกังวล “ลุงสาม หรือว่า… หรือว่าพี่ชายของข้าไม่มีชีวิตอยู่แล้ว?”ใต้คิ้วบางของลุงสามตระกูลเฉียวนั้นดวงตาของเขาประกายวับแวมขึ้นมาเล็กน้อย ก่อนกล่าวด้วยน้ำเสียงทุ้มว่า “เฉียวไป๋ พี่ชายของเจ้าอาจตกอยู่ในอันตราย… แต่หาอย่าได้ผิดหวังเกินไปนัก ลุงสามก็อาจผิดพลาด หรือทำนายผิดไปได้เหมือนกัน!”ทว่าในแดนเทพแห่งนี้

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1754

    เมื่อเซียวหลินเทียนได้ยินสิ่งนี้ก็ให้พวกจ้าวซวนเก็บค่ายละออกเดินทางสู่เยวี่ยใต้ในวันนั้นทันทีระหว่างทางเซียวหลินเทียนก็ซักถามขันทีโม่เกี่ยวกับสถานการณ์ของวังเทพ และได้รู้เรื่องมากมายเกี่ยวกับวังเทพจากปากของขันทีโม่“วังเทพถูกสร้างขึ้นบนภูเขาน้ำแข็ง ตระกูลหวงฝู่อาศัยอยู่อย่างสันโดษในวังเทพมาเป็นเวลาหลายร้อยปีแล้ว เรื่องนี้วัยรุ่นรุ่นหลังในแดนเทพก็มิรู้ ผู้ที่อายุมากก็ละเรื่องทางโลกเพราะตระกูลหวงฝู่ และไม่มีใครไปยุ่งเกี่ยวพวกเขา!”ขันทีโม่เอ่ย “คาดว่าจ้าวหรุ่ยหรุ่ยจะพาหลิงอวี๋บุกไปที่วังเทพโดยบังเอิญ ตามรูปแบบของตระกูลหวงฝู่แล้ว จะไม่มีทางช่วยคนมิดีกักขังหลิงอวี๋ เว้นแต่ว่าจ้าวหรุ่ยหรุ่ยจะสร้างปัญหา!”เซียวหลินเทียนกังวลมาก หลิงอวี๋หายไประยะหนึ่งแล้ว ตอนนี้นางจะเป็นอย่างไรบ้าง?พวกเขาเข้าสู่เยวี่ยใต้ในวันรุ่งขึ้น ก่อนหน้านี้เซียวหลินเทียนให้จ้าวซวนส่งคนไปแจ้งมู่หรงเหยียนซงว่า เขาแค่อาศัยเส้นทางไปภูเขาเทียนซาน มิจำเป็นต้องให้มู่หรงเหยียนซงมาพบตนภูเขาเทียนซานอยู่บริเวณชายแดนเยวี่ยใต้ ยิ่งเข้าไปก็ยิ่งห่างไกลเพื่อที่จะไปถึงภูเขาเทียนซานโดยเร็วที่สุด เซียวหลินเทียนจึงพาแค่เผยอวี้กับ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1753

    ในตอนแรกเริ่มของคนเรา มีนิสัยเนื้อแท้ที่ดี!หลิงอวี๋คิดว่าหวงฝู่หมิงจูยังเด็ก ยังสามารถปรับตัวได้อยู่ จึงพูดเหตุผลกับนางอย่างอดทนหวงฝู่หมิงจูถูกเจ้าวังกับนางกำนัลเอ็นดูมาโดยตลอด เพราะเกิดมาแล้วมีโรคประหลาดเช่นนี้ จึงแทบไม่มีใครมิเชื่อฟังนางสิ่งเหล่านี้ที่หลิงอวี๋พูดทำให้นางรู้สึกแปลกใหม่ เป็นครั้งแรกที่นางตั้งใจฟังหลังจากที่หลิงอวี๋ป้อนโจ๊กเสร็จ ก็เห็นว่าเจ้าวังน้อยยังคงมองนางอย่างคาดหวังราวกับว่ายังมิอิ่ม“ท่านกำลังป่วยอยู่ กระเพาะและลำไส้อ่อนแอ กินน้อยลงหน่อย รอท่านหายดี แล้วบ่าวจะทำอาหารอร่อย ๆ ให้ท่านกินหลาย ๆ อย่างเลยเพคะ!”หลิงอวี๋เก็บชามกำลังจะจากไป หวงฝู่หมิงจูก็ดึงนางไว้แล้วเอ่ยอย่างอ่อนแอ “พี่อาอวี๋ ข้านอนมิหลับ เจ้าคุยกับข้าหน่อย!"หลิงอวี๋คิดแล้ววางชามลง จากนั้นก็นอนลงข้างเตียงของนาง “หากนอนมิหลับพี่สาวจะเล่านิทานให้ท่านฟัง!”“กาลครั้งหนึ่ง มีลิงตัวน้อยตัวหนึ่งกำเนิดขึ้นจากธรรมชาติ อยู่มาวันหนึ่งภูเขาถล่มแผ่นดินทลาย และแล้วลิงน้อยจึงถือกำเนิดขึ้น...”เรื่องนี้เข้ามาในหัวของหลิงอวี๋ นางจึงเล่าให้หวงฝู่หมิงจูฟังหวงฝู่หมิงจูมิเคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อน จึงฟังอย่างเ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1752

    วันรุ่งขึ้นเมื่อเสวี่ยอวิ๋นตื่นขึ้นมา หลิงอวี๋ก็ซ่อนเห็ดหลินจือหิมะกับเครื่องยาสมุนไพรที่มิรู้จักที่เหลืออยู่ไว้แล้วมิใช่ว่านางตระหนี่ มิยอมบอกเสวี่ยอวิ๋นว่าตนช่วยหวงฝู่หมิงจูไว้ได้อย่างไรแต่เรื่องที่ปู้ติงหายามาให้ตนนั้นมหัศจรรย์มากเกินไป หลิงอวี๋มิอยากให้ใครรู้ยิ่งไปกว่านั้นคือ หลิงอวี๋กังวลว่าท่านน้าหลินจะกลับคำ มิยอมปล่อยตนลงจากภูเขา ดังนั้นจึงเก็บไว้เมื่อเห็นว่าเลือดของหวงฝู่หมิงจูหยุดไหลแล้ว เสวี่ยอวิ๋นก็ตกใจจนมิอยากจะเชื่อ นางสะอื้นแล้วทำมือซักถามหลิงอวี๋ว่าเกิดอะไรขึ้นหลิงอวี๋แสร้งทำเป็นมิเข้าใจ เสวี่ยอวิ๋นก็กังวลจนหาปากกากับกระดาษมาเขียนถามหลิงอวี๋ ‘เครื่องยาสมุนไพรใดที่ได้ผล?’“ข้ามิรู้ ข้าตื่นมาเจ้าวังน้อยก็เลือดหยุดไหลแล้ว!”หลิงอวี๋มิได้รู้สึกผิดแม้แต่น้อย นางมิใช่ทาสของวังเทพ นางเพียงต้องการลงจากภูเขาไปตามหาน้องสาวของตน นี่เป็นวิธีปกป้องตนเองของนางหากท่านน้าหลินพูดคำไหนคำนั้น ก่อนไปนางก็จะบอกท่านน้าหลินว่าเครื่องยาสมุนไพรอะไรที่ใช้ได้เมื่อวานนี้เสวี่ยอวิ๋นร่วมผสมยาอยู่กับหลิงอวี๋ตลอด นางจำวิธีการผสมเหล่านั้นได้แล้ว เมื่อเห็นว่าหลิงอวี๋มิยอมบอก ก็มิถามอี

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1751

    หลิงอวี๋มองปู้ติงอย่างกังวล แต่ปู้ติงก็มิได้เป็นอะไรดูเหมือนมันจะมิพอใจที่หลิงอวี๋ง้างปาก ทำให้มันมิสบายตัว มันจึงพยายามดิ้นให้หลุดออกจากมือของหลิงอวี๋แล้วกลิ้งไปบนพื้นอยู่หลายครั้งปู้ติงร้องออกมาแล้ววิ่งออกไปไกล จากนั้นก็หายตัวไปในทันทีหลิงอวี๋รีบจับคาเฟยใส่ในกรงแล้วไล่ตามไปในทิศทางที่ปู้ติงหายไปแต่หลังจากไล่ตามรอบแล้วก็ไม่มีวี่แววของปู้ติงเลยหลิงอวี๋วนดูอีกรอบ แต่ก็ยังมิเจอปู้ติงหลิงอวี๋หาจนเหนื่อยแล้วจึงคิดว่าปู้ติงกังวลว่าจะถูกตนดุก็เลยไปซ่อนอยู่ที่ไหนสักแห่ง รอตอนรุ่งสางแล้วค่อยหาอีกทีแล้วกันนางจึงเดินกลับไปที่โถงใหญ่หวงฝู่หมิงจูยังคงนอนมิได้สติ เสวี่ยอวิ๋นก็ทนมิไหวหลับไปแล้วเช่นกันหลิงอวี๋นั่งอยู่หน้าเตียงของหวงฝู่หมิงจูพลางกังวลใจ หากมิสามารถห้ามเลือดได้ หวงฝู่หมิงจูจะตกอยู่ในอันตราย เช่นนั้นควรทำอย่างไรดี!นางคิดแล้วก็รู้สึกง่วงเล็กน้อย จึงหลับไปอย่างงุนงง มิรู้ว่าหลับไปนานเท่าใด ทันใดนั้นก็ดูเหมือนจะได้ยินเสียงหมาป่าหอนปู้ติงหรือ?หลิงอวี๋ลืมตาขึ้นทันทีแล้วก็เห็นปู้ติงถูไปมาที่ข้างเท้าของตนมิเจอแค่ประเดี๋ยวเดียว ดูเหมือนว่ามันจะโตขึ้นเป็นเท่าตัวแล้วตำ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1750

    หลังจากป้อนยาไปแล้ว หลิงอวี๋กับเสวี่ยอวิ๋นก็รอดูผลลัพธ์กันอย่างกระวนกระวายแต่ผ่านไปหนึ่งชั่วยามแล้ว เลือดของหวงฝู่หมิงจูยังคงมิหยุดไหลและยังคงไหลออกมาอย่างช้า ๆ“เหตุใดมิได้ผล?”หลิงอวี๋รู้สึกปวดหัวขึ้นมา นางมองไปทางเสวี่ยอวิ๋นด้วยสีหน้าสับสนดวงตาที่งดงามของเสวี่ยอวิ๋นฉายแววผิดหวัง แต่เมื่อนึกถึงเจ้าวังที่มีทักษะการแพทย์ที่ยอดเยี่ยมก็ยังหมดหนทางกับอาการป่วยของเจ้าวังน้อย การที่อาอวี๋ผู้นี้จะมิสามารถห้ามเลือดของเจ้าวังน้อยได้ก็เป็นเรื่องปกติ“เจ้าวังเองก็ใช้เครื่องยาสมุนไพรเหล่านี้ด้วยนี่!”เสวี่ยอวิ๋นหยิบปากกากับกระดาษออกมาเขียนยุกยิกแล้วให้หลิงอวี๋อ่านสุดท้ายก็เขียนว่า “เครื่องยาสมุนไพรที่ใช้กับเจ้าวังน้อยคือเห็ดสีม่วงซึ่งหายาก ออกดอกสามสิบปีครั้ง เจ้าวังจึงลงจากภูเขาไปหาเครื่องยาสมุนไพรนี้!”หลิงอวี๋มองเครื่องยาสมุนไพรที่เสวี่ยอวิ๋นเขียนแล้วจมอยู่ในความคิดยาเหล่านี้บางชนิดสามารถห้ามเลือดได้จริง ๆ แต่การรวมกันมิเหมาะสมนัก ดูท่าทางชื่อเสียงการเป็นหมอชั้นเซียนของหวงฝู่หลินนั้นจะเป็นเพียงการโอ้อวด เขามีความรู้เพียงเล็กน้อยในการใช้ยาเหล่านี้หลิงอวี๋มิเคยได้ยินชื่อเห็ดสีม่วง

DMCA.com Protection Status