Share

บทที่ 220

Author: กานเฟย
last update Last Updated: 2023-12-21 16:00:00
แต่เดินมาครึ่งค่อนวันแล้วหลิงอวี๋ยังมิได้ออกป่าเลย

นางยันไม่ไหวแล้ว พลางพักผ่อนอยู่ใต้ต้นไม้

หลิงอวี๋เสียเลือดไปมากและวิงเวียนศีรษะ

นางหยิบน้ำกลูโคสสองขวดจากมิติแล้วดื่ม ค่อยรู้สึกว่าตัวเองมีชีวิตชีวาขึ้นหน่อย

ครั้นมองป่าอันไม่มีที่สิ้นสุดข้างหน้า หลิงอวี๋ก็ไม่ใจร้อนหาทางแล้ว

นางคือคนป่วยบาดเจ็บสาหัส ทำได้แค่ดูแลร่างกายตัวเองไปก่อน

นางหยิบพรมออกจากมิติ กะจะหลับก่อนสักตื่นค่อยว่ากัน

ค่ำมืดเสียแล้ว

ในที่สุดหลิงอวี๋ก็ออกจากป่าแล้ว นางทั้งหิวและเหนื่อย ก่อนจะเห็นแสงไฟบ้านคนจากไกล ๆ

หลิงอวี๋ฝืนยันเดินต่อ กระทั่งถึงบ้านหลังนั้น เนื่องด้วยแสงจันทร์ทำให้มองชัดว่าคือครอบครัวคนชีวิตลำบากยากแค้น

กำแพงรั้วส่วนหนึ่งชำรุดทรุดลง ประตูใหญ่คือกระดานไม้หยาบ ๆ สองแผ่น

“มีคนอยู่ไหม?”

หลิงอวี๋เคาะประตูพลางกล่าวไร้เรี่ยวแรง “ข้ามาเยี่ยมญาติ ฟ้ามืดแล้วขอค้างสักคืน!”

แสงไฟภายในบ้านดับลงทันที หลิงอวี๋เห็นแล้วใจก็สิ้นหวัง

นางเคาะประตู รักษาลมหายใจกล่าวว่า

“ได้โปรดช่วยให้ข้าค้างสักคืน ข้าได้รับบาดเจ็บ… ข้าใกล้ยันไว้ไม่ไหวแล้ว… ข้าจะตอบแทนพวกเจ้าด้วย!”

ด้านในยังคงไร้ซึ่งเสียงและไร้การเคลื่อนไหวเช่
Locked Chapter
Continue to read this book on the APP
Comments (1)
goodnovel comment avatar
อรุณี คำเผ่า
สนุกมากค่ะ รอup อยู่นะค่ะ
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 221

    หลิงอวี๋ก็ไม่ได้พบอะไรมีค่าวางอยู่ในเรือน นางถูกแม่อาเป่าพยุงไปนั่งบนเตียงและยังได้กลิ่นเหม็นฉี่ด้วย“แม่นางน้อยหิวหรือยัง แม่อาเป่าเจ้ายกน้ำมาให้นางล้างหน่อย ข้าจักไปดูว่ายังมีอะไรทำให้นางกินบ้าง!”ท่านป้าเก็บชามเปล่าบนโต๊ะขณะเอ่ยหลิงอวี๋ตาเฉียบแหลมเห็นชามสี่ใบ แต่ในเรือยมีแค่สามคน!นางนึกถึงเสียงที่ตัวเองได้ยินเลือนรางแล้วขบคิดถึงชามสี่ใบนี้อีกที นั่นก็ยืนยันว่าก่อนหน้ามีสี่คนในบ้านจริง ๆเป็นตนมาแล้วรบกวนพวกเขา คนคนนั้นก็รีบเข้าเขาเร้นกายเสียแล้วเหตุในต้องหลบ?กำลังหลบหนีผู้ใดอยู่หรือ?ขณะหลิงอวี๋กำลังครุ่นคิด แม่อาเป่าก็ยกน้ำมาแล้ว นางเอ่ยค่อนข้างวุ่นใจว่า“ที่บ้านไม่มีน้ำแล้ว ไปหาบน้ำมืด ๆ ค่ำ ๆ ไม่ดีนัก เจ้าเอาไปล้างเถอะ!”หลิงอวี๋วุ่นตลอดวันทั้งเนื้อทั้งตัวเต็มไปด้วยฝุ่น นางเห็นอ่างไม้หยาบ ๆ และผ้าเช็ดหน้าที่พาดด้านบนเป็นเศษผ้าจากเสื้อผ้าหลิงอวี๋ก็ไม่กล้าเมินพลางยันกายลุกไปล้างพร้อมเอ่ยว่า“แม่อาเป่า ข้าแซ่อวี๋ เจ้าเรียกข้าแม่นางอวี๋เถิด!”เมื่อไม่ได้รู้แจ้งว่าตนถูกใครไล่ฆ่าอยู่ หลิงอวี๋เลยไม่กล้าเอ่ยถึงพระชายาอ๋องอี้กับแม่นางหลิงอีก จำต้องปั้นแต่งชื่อปลอมเสีย“

    Last Updated : 2023-12-22
  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 222

    นางหมายซ่อน ทว่าไม่มีที่หลบในเรือนหลังนี้โดยสิ้นเชิง“เปิดประตู… เปิดประตู… ค้นหาทหารหนีทัพ!”หลิงอวี๋ยังไม่ได้ตอบโต้ พลันได้ยินเสียงดังปังและประตูด้านนอกถูกถีบอ้าเสียแล้วอาเป่าตกใจจนร้องไห้งอแงเสียงดัง“แม่อาเป่า เจ้าพาอาเป่าหนีไปผ่านกำแพงหลังเร็ว!”เสียงพูดท่านป้าจางยังไม่ทันจบ ชายหน้าเหี้ยมหลายคนก็พรวดพราดเข้ามาแล้วหลิงอวี๋ดูแล้วไฉนจะเป็นทหารประจำการอะไรล่ะ เป็นแค่พวกกุ๊ยไม่กี่คนเองหัวโจกหน้าตากิริยาถ่อยเหมือนกับชายฟันเหลืองร่างกายฉกรรจ์ จมูกอ้วนใหญ่ สวมแค่เสื้อม่อฮ่อมแขนกุดเผยแขนหยาบสากและดำคล้ำ บนหน้ายังมีแผลเป็นยาวสายหนึ่ง“ป้าจาง นี่ทำอะไรน่าอร่อยจัง? เรียกมาครึ่งค่อนวันแล้วก็ไม่เปิดประตู!”ชายมีแผลเป็นพลันเปิดปากแสดงอารมณ์ขุ่น“อู๋เอ้อร์โก่ว บ้านเราไฉนจะยังมีอะไรกินอีก นี่เพราะมีแขกเลยทำหมี่บัควีตให้นางอิ่มท้องไงล่ะ”ท่านป้าจางส่งยิ้มพลางชี้หลิงอวี๋อู๋เอ้อร์โก่วปรายมองหลิงอวี๋ แม้หลิงอวี๋เป็นแผลที่หน้า แต่ผิวพรรณละเอียดอ่อนหน้าตาสะสวย เดิมไม่เหมือนคนที่โตมาในเขตภูเขาข้นแค้นห่างไกลเลย“นางคือผู้ใด? ไยข้าไม่ยักรู้ว่าเจ้ามีญาติเช่นนี้?”ท่านป้าส่งยิ้ม “แม่นาง

    Last Updated : 2023-12-22
  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 223

    หลิงอวี๋ทั้งโกรธทั้งร้อนใจไม่กล้าดิ้นรน เดิมนางมิใช่คู่ต่อสู้กุ๊ยพวกนี้เลย นางต้องรักษาชีวิตไว้ก่อนค่อยว่ากันรอดูว่ากุ๊ยพวกนี้จะพาตนไปที่ใดแล้วค่อยหาโอกาสหลบหนี…หลิงอวี๋กับแม่อาเป่าถูกลากขึ้นรถม้าคันหนึ่งป้าจางร้องลั่นแทบขาดใจ “อู๋เอ้อร์โก่ว ข้าโขกหัวคำนับให้เจ้าแล้ว เจ้าอย่าพาแม่อาเป่าไป!”“ขอร้องเจ้าปล่อยนางเถิด!”อู้เอ้อร์โก่วไม่สั่นไหว หลังเอาสตรีสองคนโยนขึ้นรถม้าก็ให้ลิ่วล้อบังคับรถม้าไปทันทีเสียงโศกาของป้าจางมากไกลเรื่อย ๆในตู้รถม้า แม่อาเป่าขดตัวอยู่ข้าง ๆ ร่ำไห้ ‘ฮือฮือ’ เสียงแผ่วอย่างพรั่นพรึงหลิงอวี๋ยื่นมือคลำช่วงเอวเปี่ยมโลหิตอย่างเงียบเชียบนางไม่สนใจปลอบแม่อาเป่า พลางควานหายาทาแผลจากในอกมาห้ามเลือดก่อนนี่เป็นภัยไร้เค้าโดยแท้ แค่อาศัยที่พักแรมยังแหย่พวกกุ๊ยนี้จนได้ รู้เช่นนี้นางยอมค้างคืนอยู่ในป่าดีเสียกว่าหลิงอวี๋จัดการปากแผลไว้ชั่วคราวแล้ว พลางหมายสังเกตกุ๊ยเสียหน่อยว่าจะพาพวกนางไปที่ใดแต่นอกรถม้ามืดสนิท เห็นอะไรก็ไม่ชัดทั้งสิ้นหลิงอวี๋จำต้องปล่อยไปรถม้าวิ่งมาครึ่งชั่วยามก็หยุดลงหลิงอวี๋กับแม่อาเป่าถูกกุ๊ยสองสามคนลากลงรถม้าอย่างหยาบคายหลิงอวี๋

    Last Updated : 2023-12-22
  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 224

    แม่อาเป่ามองหลิงอวี๋พลางพูดอึก ๆ อัก ๆ ผู้หญิงส่ายหัว “ไม่รู้สิ แต่ผู้คุมเข้มงวดนัก พอมีคนเข้าใกล้ก็ปล่อยหมาป่ามากัดเลย!”“มีคนตัดฟืนผู้หนึ่งในหมู่บ้านเรา เพราะไม่ระวังพลาดถลันเข้าไป ผลคือถูกหมาป่ากัดจนตาย!”“พวกเขายังเดินแบกศพตามถนนด้วย กล่าวอ้างว่านี่คือจุดจบของคนที่บุกรุกเข้าเหมือง!”“กระนั้นแล้วไม่มีคนดูแลเลยหรือ?” หลิงอวี๋ถามอย่างฉงนแม่อาเป่าเช็ดหยาดน้ำตาพลางเอ่ยเสียงคับแค้น“ผู้ใดจะดูแลล่ะ! หมู่บ้านเยี่ยนเจียงแห่งนี้ปกครองโดยตระกูลอู๋ ลือว่าพวกเขายังมีคนชั้นสูงเป็นพรรคพวกอีก ทุกปีจะส่งเงินมหาศาลให้เขา!”“มิใช่ไม่มีคนไปร้องเรียน! แต่คนที่ร้องเรียนพวกนั้นถูกตระกูลอู๋ขัดขวาง แม้แต่ขุนนางก็มิได้พบทั้งสิ้น! เกิดไม่เห็นคน ตายไม่เห็นศพ(1)!”“นี่มิใช่ว่าพวกเจ้ามีประมาณร้อยครัวเรือนรึ? ทุกคนพร้อมใจกันก็ยังไร้ทางแก้ไข้หรือ?” หลิงอวี๋งงงัน“เมื่อก่อนมีประมาณร้อยครัวเรือน แต่บางครอบครัวทนฤทธิ์ของตระกูลอู๋ไม่ไหวเลยย้ายหนีแล้ว!”“ตอนนี้มีแค่ไม่กี่สิบครัวเรือน! บุรุษบางครอบครัวถูกตระกูลอู๋พาไปทำงานในถ้ำหมาป่า คนที่เหลือล้วนเลียแข้งเลียขาผู้มีอิทธิพลทั้งนั้น ใครจะแหย่ตระกูลอู๋เพื่อกง

    Last Updated : 2023-12-22
  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 225

    จางเหมยมองท่าทีลำบากใจของหลิงอวี๋พลันเดาความคิดนางออกทันทีนางพูดเงียบ ๆ ว่า “แม่นางอวี๋ ข้าจะไปลองโน้มน้าวพวกนางดู!”“พวกนางก็คนเหมือนกัน หัวใจคนเรามันคือก้อนเนื้อ มีความรู้สึก ถ้าไม่ถูกบีบจนสิ้นหนทาง ผู้ใดจะยินยอมรอความตายเล่า!”หลิงอวี๋มองเหตุผลชัดเจนแบบนี้ของจางเหมย ความเด็ดขาดของนางช่างน่าชื่นชมนักหลิงอวี๋กระซิบว่า “เจ้าไปโน้มน้าวเถอะ! หากครอบครัวยอมหนีตามก็ไปหาท่านอ๋องอี้ที่เมืองหลวง เขาจะจัดหางานให้พวกเจ้า!”จางเหมยนัยน์ตาวับวาบพลางเอ่ย “ข้ารู้จักท่านอ๋องอี้ เล่าลือว่าเขาคือคนเก่งวรยุทธร้ายกาจ!”“แต่ข้ากลัวว่าเรายังไม่ถึงเมืองหลวงก็โดนคนตระกูลอู๋สกัดฆ่าเสียแล้ว!”หลิงอวี๋นึกถึงแม่นมลี่ที่เคยพูดว่าเซียวหลินเทียนมีเไร่นาอยู่หมู่บ้านเฉินเจีย พลันกล่าว“ท่านอ๋องอี้มีเไร่นาอยู่หมู่บ้านเฉินเจีย พวกเจ้าไม่ต้องไปเมืองหลวง ไปหลบซ่อนที่หมู่บ้านเฉินเจียก่อน!”“ให้พ่อบ้านในชนบทช่วยส่งข่าวแก่ท่านอ๋องอี้ เขาจะช่วยพวกเจ้า!”จางเหมยยิ่งฟังยิ่งใจสั่นเรื่อย ๆ แต่ยังไม่วางใจพลางกระซิบถาม“แม่นางอวี๋ เจ้าแน่ใจหรือว่าท่านอ๋องอี้จะช่วยเรา? เขาจะไม่เหมือนขุนนางชั้นผู้ใหญ่พวกนั้นเอาเราส่งให

    Last Updated : 2023-12-22
  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 226

    กระทั่งเห็นไฟโหมกระหน่ำในหมู่บ้านตระกูลอู๋ หลิงอวี๋จึงขี่ม้าออกไปทางประตูด้านหลังอย่างสง่าผ่าเผยหลิงอวี๋รีบขี่ม้าไปที่ภูเขาด้านหลังที่แม่อาเป่าเอ่ยถึงพอมาถึงก็เห็นว่าจางเหมยกำลังรอนางอยู่“แม่นางอวี๋ ในที่สุดเจ้าก็มาแล้ว พวกเรายังกังวลว่าเจ้าจะถูกขังอยู่ข้างในอยู่เลย!”จางเหมยเอ่ยอย่างร้อนใจ “แม่อาเป่ากับป้าจางพาอาเป่าไปก่อนแล้ว!”“เดิมทีนางก็อยากจะรอเจ้า แต่ข้าคิดว่านางพาลูกไปด้วยคงจะหนีไม่สะดวก จึงให้นางไปก่อนเลย!”หลิงอวี๋ซาบซึ้งใจมาก ที่ทั้งจางเหมยและแม่อาเป่าไม่ทอดทิ้งตนเองเพราะว่าจะรีบร้อนหลบหนี“คนอื่นเล่า?” หลิงอวี๋เอ่ยถาม“เสี่ยวเถาพาน้องสาวไปก่อนแล้ว! ยังมีอีกสองครอบครัวที่ยังไม่มา! ไม่ต้องสนใจพวกเขาแล้ว! พวกเราไปกันก่อนเถิด!” จางเหมยเอ่ยเร่งหลิงอวี๋มองไปไกล ๆ ตรงทิศทางของหมู่บ้านตระกูลอู๋ ควันไฟหนาทึบ และเพลิงก็พุ่งขึ้นไปบนฟ้าฟืนมากมายถึงเพียงนั้น น่าจะถูกเผาไปจนหมดแล้วกระมัง!ไฟไหม้เช่นนี้ อาศัยคนไม่กี่คนไม่สามารถดับไฟได้แน่ในใจหลิงอวี๋ไม่รู้สึกผิดใด ๆ ตระกูลอู๋กระทำเรื่องชั่วช้าไว้มากมาย การถูกเผาไปก็ถือได้ว่าเป็นการกำจัดอันตรายออกไปเพื่อคนอื่น!“ไปกันเถิ

    Last Updated : 2023-12-23
  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 227

    หลิงอวี๋มีบาดแผลที่ตัว ไม่สามารถวิ่งเร็วได้ นางจึงสะบัดมือของจางเหมย“ไม่ต้องสนใจข้า หนีไปเถิด ข้าจักหาทางหนีไปเอง!”จางเหมยเอ่ยอย่างกังวล “จะทำเช่นนั้นได้เยี่ยงไรกัน! เจ้าจุดไฟเผาหมู่บ้านตระกูลอู๋หนา หากตกไปอยู่ในเงื้อมมือพวกเขา พวกเขาไม่มีทางปล่อยเจ้าไปแน่!”ไม่ว่าเยี่ยงไรจางเหมยก็จะลากหลิงอวี๋ไปด้วย หลิงอวี๋เห็นว่าสะบัดนางไม่หลุด ก็กังวลขึ้นมา“จางเหมย บอกเจ้าตามตรง ข้าคือพระชายาอ๋องอี้ แม้ว่าข้าจะตกไปอยู่ในเงื้อมมือของพวกเขา พวกเขาก็มิกล้าทำอะไรข้าหรอก!”“เจ้ารีบหนีไปเถิด ข้าจะถ่วงเวลาพวกเขาไว้! เจ้ารีบไปรายงานที่หมู่บ้านตระกูลเฉิง บอกให้ท่านอ๋องอี้มาช่วยข้า!”พระชายาอ๋องอี้?จางเหมยมองหลิงอวี๋อย่างสงสัย เห็นทหารไล่ตามใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ และหลิงอวี๋ก็ไม่สามารถหนีไปได้จริง ๆนางจึงเอ่ยอย่างเด็ดเดี่ยว “แม่นางอวี๋ เช่นนั้นเจ้าดูแลตัวเองด้วย ข้าไปก่อน! เจ้ามิต้องกังวล ข้าจักไปหาคนมาช่วยเจ้าโดยเร็วที่สุด!”จางเหมยพูดจบ ก็รีบมุดเข้าไปในพุ่มไม้ และไม่นานหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยหลิงอวี๋เห็นว่าทหารไล่ตามตนเองใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ จึงหันหลังวิ่งไปอีกทางหนึ่ง ขณะที่วิ่งก็จงใจตะโกนเสียงด

    Last Updated : 2023-12-23
  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 228

    นายทหารมองพิจารณาหลิงอวี๋ด้วยสีหน้าเคร่งขรึมไม่มั่นใจ ราวกับว่ากำลังตัดสินว่าสิ่งที่นางพูดนั้นเป็นเรื่องจริงหรือเท็จหลิงอวี๋ “ตัวสั่น” ท่าทีเหมือนกำลังขอร้องนายทหารขมวดคิ้ว แล้วตะโกนออกมาอย่างรำคาญ“พานางกลับไป! คอยเฝ้าไว้อย่างใกล้ชิด รอจนกว่าจะจับตัวผู้หญิงพวกนั้นได้ แล้วค่อยจัดการพร้อมกัน!”“ขอรับ!”ทหารสองคนก้าวไปข้างหน้า จับตัวหลิงอวี๋อย่างหยาบคายแล้วเดินไปหลิงอวี๋ลอบถอนหายใจ การถ่วงเวลาไว้ครู่หนึ่งนี้ หวังว่าพวกจางเหมยจะหนีไปได้อย่างราบรื่นสำหรับตนเอง ก็ทำได้เพียงค่อยเป็นค่อยไป ดำเนินการไปตามสถานการณ์กระทั่งหลิงอวี๋ถูกพาไปที่ตีนเขา ก็เห็นว่าผู้หญิงสองคนที่มิได้มานั้น รวมถึงครอบครัวของพวกเขาล้วนถูกพาตัวมาหมดแล้วผู้หญิงคนหนึ่งในนั้นเห็นหลิงอวี๋ ก็ตะโกนขึ้นมาอย่างไม่พอใจ“ทั้งหมดเป็นเพราะเจ้า! หากไม่เชื่อเจ้าแล้วหนีกันออกมา ครอบครัวของข้าก็คงไม่ถูกร่างแหไปด้วย!”“เจ้ามันเป็นตัวหายนะ! ท่านอู๋ นางเจ้าค่ะ นางคือคนที่เผาหมู่บ้านตระกูลอู๋!”จางเสี่ยวอิง?หลิงอวี๋พูดไม่ออกเลยคิดว่าจางเสี่ยวอิงที่ทรยศตนเองจะได้รับผลประโยชน์อะไรบ้าง แต่ดูท่าทีในตอนนี้แล้ว นางก็มิได้รับผล

    Last Updated : 2023-12-23

Latest chapter

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1758

    เผยอวี้กับขันทีโม่ก็มิได้สังเกตเช่นกันขันทีโม่สังเกตเห็นเพียงว่า บุรุษที่ตามหลังบุรุษผู้นั้นไปก็เป็นยอดฝีมือในการบำเพ็ญตนเช่นกัน ดูจากการแต่งตัวของเขา น่าจะเป็นพวกบ่าวมีคนสามกลุ่มนี้ในเมืองเล็กก็หมายความว่าหลิงอวี๋อยู่ใกล้​ ๆ​ นี้พวกเซียวหลินเทียนกับเผยอวี้รีบกินอาหารเย็นแล้วเดินออกไป​ หมายจะติดตามไปตามมิศทางของคนทั้งสามกลุ่มนี้พวกเซียวหลินเทียนสามคนเพิ่งจะเดินออกมา ก็เห็นนางรับใช้ที่วิพากษ์วิจารณ์คุณหนูรองตระกูลเก๋อเมื่อครู่เดินมาหาแล้วมุ่งตรงมาที่เซียวหลินเทียน จากนั้นจึงเอ่ย “คุณชาย หาสถานที่คุยกันสักหน่อยได้หรือไม่?”เซียวหลินเทียนตะลึงอยู่ครู่หนึ่งแล้วระวังตัวทันที หรือว่าคุณหนูใหญ่ตระกูลเก๋อมองออกถึงตัวตนของเขาแล้วจึงจงใจให้นางรับใช้ผู้นี้มารออยู่ที่นี่?“ไปคุยกันที่โรงน้ำชาข้างหน้าแล้วกัน!”เซียวหลินเทียนกวาดสายตามอง เห็นว่าฝั่งตรงข้ามมีโรงน้ำชาที่ยังคงเปิดอยู่ เขาจึงเดินนำไปเผยอวี้กับขันทีโม่มองหน้ากัน ต่างก็เดามิออกว่าคุณหนูใหญ่จากตระกูลเก๋อให้นางรับใช้มาหาเซียวหลินเทียนเพื่ออะไร แต่ทั้งคู่ก็ตามไปอย่างเข้าใจเซียวหลินเทียนหาโต๊ะริมหน้าต่างแล้วนั่งลงมองซูจู๋โดยมิพ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1757

    แม้ว่าเก๋อเฟิ่งฉิงจะชอบเซียวหลินเทียน แต่เกียรติของคุณหนูตระกูลใหญ่ทำให้นางมิสามารถละทิ้งท่าทีของตนแล้วก้าวไปเริ่มพูดคุยกับเซียวหลินเทียนได้ จึงพาคนของตนกลับไปก่อนที่หน้าประตู นางให้ซูจู๋นางรับใช้ของตนไปสืบเรื่องของเซียวหลินเทียนซูจู๋เป็นคนสนิทของเก๋อเฟิ่งฉิง และรู้ว่าเรื่องการแต่งงานของเก๋อเฟิ่งฉิงมิราบรื่นนัก ทันทีที่ได้ยินก็เข้าใจแล้วรับคำสั่งไปโดยมิรีรอคราวนี้เซียวหลินเทียนสงบลงแล้ว หลังจากได้ยินเรื่องการต่อสู้ภายในของตระกูลเก๋อ มุมปากของเขาก็โค้งขึ้นเยาะเย้ยตระกูลเก๋อมิได้สามัคคีกันเหนียวแน่น บางทีอาจจะใช้ความขัดแย้งของพวกนางมาทำให้พวกเขาต่อสู้กันเองได้อาหารมาแล้ว เซียวหลินเทียนกับเผยอวี้เพิ่งจะหยิบตะเกียบขึ้นมาก็เห็นคนสองคนที่นั่งอยู่ตรงมุมลุกขึ้นเดินออกไปบุรุษสองคนเดินตามกันไป บุรุษที่เดินนำหน้ารูปร่างสูง สวมชุดสีขาวดุจหิมะ และบนชุดนั้นก็มีลวดลายลึกลับที่ประณีตอยู่ด้วยหลังจากที่เซียวหลินเทียนได้รับการบำเพ็ญตนจากหลิงอวี๋ ก็พอจะมีความรู้เรื่องผ้าอาภรณ์อยู่บ้าง มองปราดเดียวก็มองออกทันทีว่า แม้ว่าอาภรณ์สีขาวของบุรุษผู้นั้นจะดูเรียบง่าย แต่ก็ทำจากผ้าปักลายดอกที่มูลค่ามห

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1756

    เก๋อเฟิ่งฉิงคุณหนูใหญ่ตระกูลเก๋อถูกน้องสาวกดดันเช่นนี้ ใบหน้าก็พลันมืดมนลง นางดุว่า “หากเจ้ายังพูดเรื่องไร้สาระอีกก็กลับไปเสีย ข้ามิต้องการให้เจ้าตามไป!”เก๋อเฟิ่งเจียวก็ดูเหมือนจะมิใช่คนที่ยอมรับความอับอายเช่นกัน นางยิ้มเยาะเย้ย “ท่านคิดว่าข้าชอบที่จะติดตามท่านหรือไร? หากมิใช่ท่านพ่อให้ข้ามา ข้าก็มิอยากจะมากับท่านหรอก!”“ทำงานขี้ขลาด… ท่านก็แค่อาศัยว่าแก่กว่าข้าจึงถูกท่านยายเลือกเป็นผู้สืบทอดมิใช่รึ? ในแง่ของความสามารถ ข้ามิได้ด้อยไปกว่าท่านเลย!”“ตึง!”เก๋อเฟิ่งเจียวกระแทกตะเกียบลงบนโต๊ะอย่างแรง แล้วลุกขึ้นเดินออกไป “พวกเราไปกันเถอะ!”นางรับใช้สองคนก็เดินตามนางไปสีหน้าของเก๋อเฟิ่งฉิงมืดมนลงซูจู๋นางรับใช้ข้างกายนางยิ้มเยาะ “อย่างน้อยคุณหนูใหญ่ของเราก็เกิดจากภรรยาที่แต่งงานถูกต้องตามธรรมเนียมของตระกูลเก๋อ ไหนเลยจะเหมือนกับมารดาของบางคนที่อาศัยวิธีสกปรกขึ้นสู่ตำแหน่ง!”“พูดให้ฟังง่ายก็คือ คุณหนูรองตระกูลเก๋อ แต่ใครมิรู้บ้างว่าคุณหนูรองผู้นี้ก็เป็นเพียงบุตรีนอกสมรสที่มิอาจออกหน้าทางสังคมได้!”“สารเลว เจ้าพูดว่ากระไรนะ? ผู้ใดมิอาจออกหน้าทางสังคมได้?”เมื่อเก๋อเฟิ่งเจียวได้ยินค

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1755

    ลุงเฉียวมองเฉียวไป๋น้องชายของเฉียวเค่อที่อยู่ตรงข้ามแล้วเอ่ยเสียงทุ้ม “ลุงสามทำนายแล้ว นั่นเป็นลางมิดี สถานที่ที่เฉียวเค่อปรากฏตัวครั้งสุดท้ายอยู่แถวนี้ วันพรุ่งเราค่อยมาตามหาบริเวณใกล้เคียงกันเถิด!”“เฉียวไป๋พูดถูก เฉียวเค่อไม่มีทางที่จะหายตัวไปเช่นนี้ ต่อให้รอดชีวิตแล้วมิพบใคร ตายก็ต้องพบศพ แต่ที่ลุงสามทำนายครั้งสุดท้ายนั้นมิชัดเจน ลุงสามก็มิรู้แน่ชัดว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่!”เซียวหลินเทียนได้ยินก็ใจเต้น ที่แท้คนที่หายไปคือเฉียวเค่อนี่เอง เช่นนั้นคนตระกูลเฉียวปรากฏตัวที่นี่ก็เพื่อตามหาเฉียวเค่อหากพวกเขาตามคนตระกูลเฉียวไป ก็อาจจะได้ข่าวหลิงอวี๋บ้าง“ลุงสาม ความสามารถในการทำนายของท่านไร้ผู้ใดเทียบ แม้แต่ท่านยังมิรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แล้วใต้หล้านี้จะมีผู้ใดรู้กัน!”เฉียวไป๋ทั้งโกรธและกังวล “ลุงสาม หรือว่า… หรือว่าพี่ชายของข้าไม่มีชีวิตอยู่แล้ว?”ใต้คิ้วบางของลุงสามตระกูลเฉียวนั้นดวงตาของเขาประกายวับแวมขึ้นมาเล็กน้อย ก่อนกล่าวด้วยน้ำเสียงทุ้มว่า “เฉียวไป๋ พี่ชายของเจ้าอาจตกอยู่ในอันตราย… แต่หาอย่าได้ผิดหวังเกินไปนัก ลุงสามก็อาจผิดพลาด หรือทำนายผิดไปได้เหมือนกัน!”ทว่าในแดนเทพแห่งนี้

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1754

    เมื่อเซียวหลินเทียนได้ยินสิ่งนี้ก็ให้พวกจ้าวซวนเก็บค่ายละออกเดินทางสู่เยวี่ยใต้ในวันนั้นทันทีระหว่างทางเซียวหลินเทียนก็ซักถามขันทีโม่เกี่ยวกับสถานการณ์ของวังเทพ และได้รู้เรื่องมากมายเกี่ยวกับวังเทพจากปากของขันทีโม่“วังเทพถูกสร้างขึ้นบนภูเขาน้ำแข็ง ตระกูลหวงฝู่อาศัยอยู่อย่างสันโดษในวังเทพมาเป็นเวลาหลายร้อยปีแล้ว เรื่องนี้วัยรุ่นรุ่นหลังในแดนเทพก็มิรู้ ผู้ที่อายุมากก็ละเรื่องทางโลกเพราะตระกูลหวงฝู่ และไม่มีใครไปยุ่งเกี่ยวพวกเขา!”ขันทีโม่เอ่ย “คาดว่าจ้าวหรุ่ยหรุ่ยจะพาหลิงอวี๋บุกไปที่วังเทพโดยบังเอิญ ตามรูปแบบของตระกูลหวงฝู่แล้ว จะไม่มีทางช่วยคนมิดีกักขังหลิงอวี๋ เว้นแต่ว่าจ้าวหรุ่ยหรุ่ยจะสร้างปัญหา!”เซียวหลินเทียนกังวลมาก หลิงอวี๋หายไประยะหนึ่งแล้ว ตอนนี้นางจะเป็นอย่างไรบ้าง?พวกเขาเข้าสู่เยวี่ยใต้ในวันรุ่งขึ้น ก่อนหน้านี้เซียวหลินเทียนให้จ้าวซวนส่งคนไปแจ้งมู่หรงเหยียนซงว่า เขาแค่อาศัยเส้นทางไปภูเขาเทียนซาน มิจำเป็นต้องให้มู่หรงเหยียนซงมาพบตนภูเขาเทียนซานอยู่บริเวณชายแดนเยวี่ยใต้ ยิ่งเข้าไปก็ยิ่งห่างไกลเพื่อที่จะไปถึงภูเขาเทียนซานโดยเร็วที่สุด เซียวหลินเทียนจึงพาแค่เผยอวี้กับ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1753

    ในตอนแรกเริ่มของคนเรา มีนิสัยเนื้อแท้ที่ดี!หลิงอวี๋คิดว่าหวงฝู่หมิงจูยังเด็ก ยังสามารถปรับตัวได้อยู่ จึงพูดเหตุผลกับนางอย่างอดทนหวงฝู่หมิงจูถูกเจ้าวังกับนางกำนัลเอ็นดูมาโดยตลอด เพราะเกิดมาแล้วมีโรคประหลาดเช่นนี้ จึงแทบไม่มีใครมิเชื่อฟังนางสิ่งเหล่านี้ที่หลิงอวี๋พูดทำให้นางรู้สึกแปลกใหม่ เป็นครั้งแรกที่นางตั้งใจฟังหลังจากที่หลิงอวี๋ป้อนโจ๊กเสร็จ ก็เห็นว่าเจ้าวังน้อยยังคงมองนางอย่างคาดหวังราวกับว่ายังมิอิ่ม“ท่านกำลังป่วยอยู่ กระเพาะและลำไส้อ่อนแอ กินน้อยลงหน่อย รอท่านหายดี แล้วบ่าวจะทำอาหารอร่อย ๆ ให้ท่านกินหลาย ๆ อย่างเลยเพคะ!”หลิงอวี๋เก็บชามกำลังจะจากไป หวงฝู่หมิงจูก็ดึงนางไว้แล้วเอ่ยอย่างอ่อนแอ “พี่อาอวี๋ ข้านอนมิหลับ เจ้าคุยกับข้าหน่อย!"หลิงอวี๋คิดแล้ววางชามลง จากนั้นก็นอนลงข้างเตียงของนาง “หากนอนมิหลับพี่สาวจะเล่านิทานให้ท่านฟัง!”“กาลครั้งหนึ่ง มีลิงตัวน้อยตัวหนึ่งกำเนิดขึ้นจากธรรมชาติ อยู่มาวันหนึ่งภูเขาถล่มแผ่นดินทลาย และแล้วลิงน้อยจึงถือกำเนิดขึ้น...”เรื่องนี้เข้ามาในหัวของหลิงอวี๋ นางจึงเล่าให้หวงฝู่หมิงจูฟังหวงฝู่หมิงจูมิเคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อน จึงฟังอย่างเ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1752

    วันรุ่งขึ้นเมื่อเสวี่ยอวิ๋นตื่นขึ้นมา หลิงอวี๋ก็ซ่อนเห็ดหลินจือหิมะกับเครื่องยาสมุนไพรที่มิรู้จักที่เหลืออยู่ไว้แล้วมิใช่ว่านางตระหนี่ มิยอมบอกเสวี่ยอวิ๋นว่าตนช่วยหวงฝู่หมิงจูไว้ได้อย่างไรแต่เรื่องที่ปู้ติงหายามาให้ตนนั้นมหัศจรรย์มากเกินไป หลิงอวี๋มิอยากให้ใครรู้ยิ่งไปกว่านั้นคือ หลิงอวี๋กังวลว่าท่านน้าหลินจะกลับคำ มิยอมปล่อยตนลงจากภูเขา ดังนั้นจึงเก็บไว้เมื่อเห็นว่าเลือดของหวงฝู่หมิงจูหยุดไหลแล้ว เสวี่ยอวิ๋นก็ตกใจจนมิอยากจะเชื่อ นางสะอื้นแล้วทำมือซักถามหลิงอวี๋ว่าเกิดอะไรขึ้นหลิงอวี๋แสร้งทำเป็นมิเข้าใจ เสวี่ยอวิ๋นก็กังวลจนหาปากกากับกระดาษมาเขียนถามหลิงอวี๋ ‘เครื่องยาสมุนไพรใดที่ได้ผล?’“ข้ามิรู้ ข้าตื่นมาเจ้าวังน้อยก็เลือดหยุดไหลแล้ว!”หลิงอวี๋มิได้รู้สึกผิดแม้แต่น้อย นางมิใช่ทาสของวังเทพ นางเพียงต้องการลงจากภูเขาไปตามหาน้องสาวของตน นี่เป็นวิธีปกป้องตนเองของนางหากท่านน้าหลินพูดคำไหนคำนั้น ก่อนไปนางก็จะบอกท่านน้าหลินว่าเครื่องยาสมุนไพรอะไรที่ใช้ได้เมื่อวานนี้เสวี่ยอวิ๋นร่วมผสมยาอยู่กับหลิงอวี๋ตลอด นางจำวิธีการผสมเหล่านั้นได้แล้ว เมื่อเห็นว่าหลิงอวี๋มิยอมบอก ก็มิถามอี

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1751

    หลิงอวี๋มองปู้ติงอย่างกังวล แต่ปู้ติงก็มิได้เป็นอะไรดูเหมือนมันจะมิพอใจที่หลิงอวี๋ง้างปาก ทำให้มันมิสบายตัว มันจึงพยายามดิ้นให้หลุดออกจากมือของหลิงอวี๋แล้วกลิ้งไปบนพื้นอยู่หลายครั้งปู้ติงร้องออกมาแล้ววิ่งออกไปไกล จากนั้นก็หายตัวไปในทันทีหลิงอวี๋รีบจับคาเฟยใส่ในกรงแล้วไล่ตามไปในทิศทางที่ปู้ติงหายไปแต่หลังจากไล่ตามรอบแล้วก็ไม่มีวี่แววของปู้ติงเลยหลิงอวี๋วนดูอีกรอบ แต่ก็ยังมิเจอปู้ติงหลิงอวี๋หาจนเหนื่อยแล้วจึงคิดว่าปู้ติงกังวลว่าจะถูกตนดุก็เลยไปซ่อนอยู่ที่ไหนสักแห่ง รอตอนรุ่งสางแล้วค่อยหาอีกทีแล้วกันนางจึงเดินกลับไปที่โถงใหญ่หวงฝู่หมิงจูยังคงนอนมิได้สติ เสวี่ยอวิ๋นก็ทนมิไหวหลับไปแล้วเช่นกันหลิงอวี๋นั่งอยู่หน้าเตียงของหวงฝู่หมิงจูพลางกังวลใจ หากมิสามารถห้ามเลือดได้ หวงฝู่หมิงจูจะตกอยู่ในอันตราย เช่นนั้นควรทำอย่างไรดี!นางคิดแล้วก็รู้สึกง่วงเล็กน้อย จึงหลับไปอย่างงุนงง มิรู้ว่าหลับไปนานเท่าใด ทันใดนั้นก็ดูเหมือนจะได้ยินเสียงหมาป่าหอนปู้ติงหรือ?หลิงอวี๋ลืมตาขึ้นทันทีแล้วก็เห็นปู้ติงถูไปมาที่ข้างเท้าของตนมิเจอแค่ประเดี๋ยวเดียว ดูเหมือนว่ามันจะโตขึ้นเป็นเท่าตัวแล้วตำ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1750

    หลังจากป้อนยาไปแล้ว หลิงอวี๋กับเสวี่ยอวิ๋นก็รอดูผลลัพธ์กันอย่างกระวนกระวายแต่ผ่านไปหนึ่งชั่วยามแล้ว เลือดของหวงฝู่หมิงจูยังคงมิหยุดไหลและยังคงไหลออกมาอย่างช้า ๆ“เหตุใดมิได้ผล?”หลิงอวี๋รู้สึกปวดหัวขึ้นมา นางมองไปทางเสวี่ยอวิ๋นด้วยสีหน้าสับสนดวงตาที่งดงามของเสวี่ยอวิ๋นฉายแววผิดหวัง แต่เมื่อนึกถึงเจ้าวังที่มีทักษะการแพทย์ที่ยอดเยี่ยมก็ยังหมดหนทางกับอาการป่วยของเจ้าวังน้อย การที่อาอวี๋ผู้นี้จะมิสามารถห้ามเลือดของเจ้าวังน้อยได้ก็เป็นเรื่องปกติ“เจ้าวังเองก็ใช้เครื่องยาสมุนไพรเหล่านี้ด้วยนี่!”เสวี่ยอวิ๋นหยิบปากกากับกระดาษออกมาเขียนยุกยิกแล้วให้หลิงอวี๋อ่านสุดท้ายก็เขียนว่า “เครื่องยาสมุนไพรที่ใช้กับเจ้าวังน้อยคือเห็ดสีม่วงซึ่งหายาก ออกดอกสามสิบปีครั้ง เจ้าวังจึงลงจากภูเขาไปหาเครื่องยาสมุนไพรนี้!”หลิงอวี๋มองเครื่องยาสมุนไพรที่เสวี่ยอวิ๋นเขียนแล้วจมอยู่ในความคิดยาเหล่านี้บางชนิดสามารถห้ามเลือดได้จริง ๆ แต่การรวมกันมิเหมาะสมนัก ดูท่าทางชื่อเสียงการเป็นหมอชั้นเซียนของหวงฝู่หลินนั้นจะเป็นเพียงการโอ้อวด เขามีความรู้เพียงเล็กน้อยในการใช้ยาเหล่านี้หลิงอวี๋มิเคยได้ยินชื่อเห็ดสีม่วง

DMCA.com Protection Status