เมื่อเดินส่งป้าสะใภ้ใหญ่ทั้งสอง หลิงอวี๋กำลังคิดพาหลิงซินไปกินข้าว เมื่อออกประตูก็เห็นเซียวหลินเทียนกับลู่หนานรอตนอยู่“พระชายา ตระกูลกวนส่งของกำนัลล้ำค่าชุดหนึ่งแก่ท่าน ของล้วนส่งไปตำหนักอ๋องอี้แล้ว นี่คือรายการของขอรับ!”ลู่หนานมอบรายการของกำนัลให้หลิงอวี๋หลิงอวี๋รับมากวาดมองพลันเบิกตากว้างตะลึงงันทันทีรายการของกำนัลยาวเฟื้อย มีอัญมณี เครื่องยาสมุนไพรล้ำค่า อาภรณ์เครื่องนุ่งห่มและอื่น ๆ สุดท้ายยังมีตั๋วเงินหนึ่งแสนตระกูลกวนมากเงินทรงอำนาจเสียจริง!รายการของกำนัลบนมือหลิงอวี๋สั่นเทาพลางมองทางเซียวหลินเทียน“ทั้งหมดนี่ที่ส่งให้หม่อมฉันมิใช่แค่เพื่อขอรักษาใช่หรือไม่?”เซียวหลินเทียนหัวเราะเล็กน้อย เอ่ยอย่างมีความหมายลึกซึ้ง“แน่นอนว่ามิใช่ทั้งหมด! แม้ว่าวันนี้คุณหนูใหญ่กวนพูดจาพล่อย ๆ ล่วงเกินเจ้า แต่ก็ล่วงเกินไทเฮาด้วยเช่นกัน!”“ของกำนัลเหล่านี้ อาจหวังเจ้าจะพูดแก้หน้าต่อหน้าไทเฮาแทนพวกเขาสักสองสามประโยค!”หลิงอวี๋เข้าใจเหตุผลนี้โดยไม่สงสัย นางไม่ค่อยรู้จักตระกูลกวน แต่จากสิ่งที่หลิงหว่านเอ่ยไว้ก่อนหน้านี้ นางก็กังวลอยู่บ้างด้วยความมั่งคั่งพอ ๆ แคว้นศัตรู นี่มิใช่เท่ากั
หลังรอโรงเหยียนปิดร้าน หมอเลี่ยวพลันเอ่ยต่อหลิงอวี๋หน้านิ่วคิ้วขมวดทันที“แม่นางหลิง การค้าดีมากล้นก็กลุ้มใจเหมือนกันหนา!”“การค้าดียังกลุ้มอีกหรือเจ้าคะ? หมอเลี่ยว ท่านยุ่งหัวมึนไปแล้วรึ? ร้านอื่นการค้าไม่ดีถึงกลุ้มใจสิเจ้าคะ!”หลี่ชุงพูดหยอกล้อหมอเลี่ยวถูมือยิ้มขมขื่น “วันนี้คนมาประจบอาจารย์ท่านมากหลาย ยาที่เรารับซื้อจวนขายเกลี้ยงแล้ว วันพรุ่งยังต้องเปิดร้านอีกจะเอาอันใดขายเล่า?”หลิงอวี๋ได้ยินว่าหมอเลี่ยวกลุ้มใจเรื่องนี้ก็หัวเราะกล่าวว่า“เรื่องเครื่องยาท่านมิต้องพะวง ข้าหารือกับเสี่ยวหาวแล้ว วันข้างหน้าเครื่องยาสมุนไพรโรงเหยียนหลิงก็จัดให้เขารับผิดชอบ! เขาจะส่งเครื่องยามาช้ากว่ากำหนด!”“เจ้าหมอนี่ ตอนนี้คลั่งไคล้อยู่กับการค้าสมุนไพรเสียแล้ว!”“ท่ามิเห็นหรือว่าวันนี้เขาก็มิได้มายกยอข้า? ก็ออกไปรับซื้อเครื่องยาให้ข้านั้นแล!”หมอเลี่ยวฟังแล้วก็วางใจ พยักหน้ากล่าวคำ“ได้ เครื่องยาสมุนไพรไม่มีปัญหา งั้นข้าก็วางใจแล้ว! แม่นางหลิงเจ้ายุ่งมาทั้งวันรีบกลับพักผ่อนเถิด!”“อืม หมอเลี่ยว พวกท่านเก็บกวาดให้เสร็จแล้วรีบพักผ่อนหน่อยหนา!”“หลี่ชุง ที่พักเจ้ากับครอบครัวเจ้าก็จัดการให้เร
ทั้งสามคุยกันเรื่อยเปื่อยบนรถม้า ทว่าผ่านไปครึ่งชั่วยามแล้วยังไม่ถึงคฤหาสน์หลี่ว์เซียงหลิงอวี๋รู้สึกนิด ๆ ว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้องพลันถาม “หลิงซวน คฤหาสน์หลี่ว์เซียงมิได้อยู่ในเมืองรึ?”หลิงซวนผงะครู่หนึ่งพลางเอ่ย “อยู่ในเมืองด้านประตูใหญ่บูรพาเจ้าค่ะ!”“แต่พวกเราเดินทางมาครึ่งค่อนวันแล้วหนา ไยยังไม่ถึงเล่า?”แม้หลิงอวี๋ยังไม่คุ้นเมืองหลวงทั้งหมด แต่ถ้าอยู่ประตูใหญ่บูรพาก็ควรถึงแล้ว“นี่เหมือนจะออกเมืองแล้ว!” หลิงซินออกข้างนอกน้อยมากเลยไม่แน่ใจมากนักหลิงซวนเปิดม่านรถออกมองไปข้างนอก ด้านนอกมืดสนิท ด้วยแสงจันทร์สว่างไสวจึงเห็นทุ่งนาไกลสุดลูกหูลูกตา“สารถี นี่เราจักไปที่ใดกัน?” หลิงซวนเอ่ยเรียกสารถีส่งยิ้มตอบว่า “เรียนพระชายา นายท่านของข้าพอเจ็บป่วยก็พักอยู่ในคฤหาสน์ชนบทตลอด อีกครึ่งชั่วยามก็ถึงแล้วขอรับ!”หลิงอวี๋ฟังแล้วก็ไม่ได้คิดมาก พลางคุยกับหลิงซวนต่อผ่านไปอีกครึ่งชั่วยามยังไม่ถึง รู้สึกว่าทางข้างหน้าขรุขระโคลงเคลงแม้หลิงอวี๋จะดูไม่กังวล แต่ก็รู้สึกทะแม่ง ๆนางเปิดม่านรถม้า พบว่ารถม้าขึ้นเขาแล้วภายใต้แสงจันทร์สว่างไสวจึงเห็นยอดเขาเลือนลางด้านข้างทันใดนั้นหลิงอวี๋ก
วันรุ่งขึ้นตำหนักอ๋องอี้จวนยามซื่อ(1) ถึงพบว่าหลิงอวี๋หายตัวไปตอนเก้าโมงเช้าผู้มาแจ้งข่าวเซียวหลินเทียนคือแม่นมลี่ นางตื่นเช้ามาพลันพบว่าหลิงอวี๋และอีกสองคนไม่อยู่เรือนบุหงาเริ่มแรกแม่นมลี่คิดว่าทั้งสามคนตื่นแต่เช้าไปโรงเหยียนหลิงแล้วแม่นมลีมิได้ใส่ใจนัก พลางทำอาหารเช้าให้หลิงเยวี่ยและคนรับใช้อีกสองคนโดยสั่งฉีฮู๋ ฉีเต๋อพาหลิงเยวี่ยไปทาน ส่วนตัวเองไปซื้อกับข้าวแม่นมลี่เพิ่งออกประตูก็บังเอิญเจอหลี่ชุงเข้า หลี่ชุงกล่าวร้อนรน“แม่นมลี่ อาจารย์ข้าอยู่หรือไม่? คนไข้หลายคนที่ลงทะเบียนนางไว้เมื่อเช้านี้กำลังรอนางตรวจอยู่เจ้าค่ะ!”“จนตอนนี้นางยังไม่ไปโรงเหยียนหลิงเลย หมอเลี่ยวให้ข้ามาถามดูว่าอาจารย์ข้าวันนี้มีธุระไม่อาจไปนั่งตรวจได้แล้วหรือไม่?”“คุณหนูข้ามิใช่ไปตั้งนานแล้วรึ?” แม่นมลี่เอ่ยประหลาดใจ“มิได้ไปเจ้าค่ะ!”หลี่ชุงพูดแปลกใจ “ตระกูลหลี่ว์ก็ส่งคนมาถามแล้วด้วยว่าอาจารย์รับปากกับพวกเขาจะไปตรวจฮูหยินใหญ่หลี่ว์เมื่อคืน ไยมิได้ไป!”“พ่อบ้านหลี่ว์ยังอารมณ์เสียนิดหน่อยด้วย กล่าวว่าอาจารย์ข้าเลื่องชื่อแล้วจะไม่เห็นตระกูลหลี่ว์ในสายตารึ! พูดจาเชื่อถือมิได้!”แม่นมลี่เหงื่อเย็นตก
เซียวหลินเทียนไม่ไปข้างนอกแล้ว กล่าวต่อแม่นมลี่ว่า“เจ้ากลับเรือนบุหงาก่อน ดูแลหลิงเยวี่ยให้ดี ในสองวันนี้พวกเจ้าพักอยู่ตำหนักอ๋องอี้ไม่อนุญาตให้ออกข้างนอก!”“หลี่ชุง เจ้าไปบอกหมอเลี่ยวว่าพระชายาอ๋องอี้ป่วยหนัก ในสองวันนี้ก็ไม่ไปนั่งตรวจที่โรงเหยียนหลิง ให้เขาเชิญท่านหัวช่วยนั่งตรวจก่อนเสีย!”“จำไว้ว่าบอกความจริงหมอเลี่ยวกับท่านหัวได้ แต่เผยต่อสาธารณะมิได้!”หลี่ชุงเข้าใจความร้ายแรงของเหตุการณ์แล้ว พลางผงกศีรษะรู้ความ“หม่อมฉันทราบแล้วเพคะ หม่อมฉันจะทำตามคำสั่งท่านอ๋องแน่นอนเพคะ!”“เหวินซวง เจ้าเตรียมของกำนัลส่งไปคฤหาสน์หลี่ว์บอกว่าพระชายาติดไข้หวัดมิอาจไปรักษาได้ชั่วคราว ให้เจ้าส่งไปขออภัยเสีย”“รอหลังพระชายาหายแล้ว จะไปจวนรักษาฮูหยินใหญ่แน่นอน!”ชิวเหวินซวงพยักหน้า แม้ในใจหมายให้หลิงอวี๋ทำตระกูลหลี่ว์ขุ่นเคืองจะตายแต่พอนึกถึงว่าหลี่ว์เซียงดำรงตำแหน่งอันทรงเกียรติ ซึ่งตนอยากเป็นพระชายาอ๋องอี้ ดังนั้นผลประโยชน์ของเซียวหลินเทียนเลยมาก่อนการคบหาหลี่ว์เซียง นั่นก็เป็นผลประโยชน์ในอนาคตที่ต้องมี!แป๊บเดียวจ้าวซวนก็รุดมาแล้ว หลังได้ยินการวิเคราะห์ของเซียวหลินเทียน จ้าวก็ซวนพลันเ
แต่เดินมาครึ่งค่อนวันแล้วหลิงอวี๋ยังมิได้ออกป่าเลยนางยันไม่ไหวแล้ว พลางพักผ่อนอยู่ใต้ต้นไม้หลิงอวี๋เสียเลือดไปมากและวิงเวียนศีรษะนางหยิบน้ำกลูโคสสองขวดจากมิติแล้วดื่ม ค่อยรู้สึกว่าตัวเองมีชีวิตชีวาขึ้นหน่อยครั้นมองป่าอันไม่มีที่สิ้นสุดข้างหน้า หลิงอวี๋ก็ไม่ใจร้อนหาทางแล้วนางคือคนป่วยบาดเจ็บสาหัส ทำได้แค่ดูแลร่างกายตัวเองไปก่อนนางหยิบพรมออกจากมิติ กะจะหลับก่อนสักตื่นค่อยว่ากันค่ำมืดเสียแล้วในที่สุดหลิงอวี๋ก็ออกจากป่าแล้ว นางทั้งหิวและเหนื่อย ก่อนจะเห็นแสงไฟบ้านคนจากไกล ๆหลิงอวี๋ฝืนยันเดินต่อ กระทั่งถึงบ้านหลังนั้น เนื่องด้วยแสงจันทร์ทำให้มองชัดว่าคือครอบครัวคนชีวิตลำบากยากแค้นกำแพงรั้วส่วนหนึ่งชำรุดทรุดลง ประตูใหญ่คือกระดานไม้หยาบ ๆ สองแผ่น“มีคนอยู่ไหม?”หลิงอวี๋เคาะประตูพลางกล่าวไร้เรี่ยวแรง “ข้ามาเยี่ยมญาติ ฟ้ามืดแล้วขอค้างสักคืน!”แสงไฟภายในบ้านดับลงทันที หลิงอวี๋เห็นแล้วใจก็สิ้นหวังนางเคาะประตู รักษาลมหายใจกล่าวว่า“ได้โปรดช่วยให้ข้าค้างสักคืน ข้าได้รับบาดเจ็บ… ข้าใกล้ยันไว้ไม่ไหวแล้ว… ข้าจะตอบแทนพวกเจ้าด้วย!”ด้านในยังคงไร้ซึ่งเสียงและไร้การเคลื่อนไหวเช่
หลิงอวี๋ก็ไม่ได้พบอะไรมีค่าวางอยู่ในเรือน นางถูกแม่อาเป่าพยุงไปนั่งบนเตียงและยังได้กลิ่นเหม็นฉี่ด้วย“แม่นางน้อยหิวหรือยัง แม่อาเป่าเจ้ายกน้ำมาให้นางล้างหน่อย ข้าจักไปดูว่ายังมีอะไรทำให้นางกินบ้าง!”ท่านป้าเก็บชามเปล่าบนโต๊ะขณะเอ่ยหลิงอวี๋ตาเฉียบแหลมเห็นชามสี่ใบ แต่ในเรือยมีแค่สามคน!นางนึกถึงเสียงที่ตัวเองได้ยินเลือนรางแล้วขบคิดถึงชามสี่ใบนี้อีกที นั่นก็ยืนยันว่าก่อนหน้ามีสี่คนในบ้านจริง ๆเป็นตนมาแล้วรบกวนพวกเขา คนคนนั้นก็รีบเข้าเขาเร้นกายเสียแล้วเหตุในต้องหลบ?กำลังหลบหนีผู้ใดอยู่หรือ?ขณะหลิงอวี๋กำลังครุ่นคิด แม่อาเป่าก็ยกน้ำมาแล้ว นางเอ่ยค่อนข้างวุ่นใจว่า“ที่บ้านไม่มีน้ำแล้ว ไปหาบน้ำมืด ๆ ค่ำ ๆ ไม่ดีนัก เจ้าเอาไปล้างเถอะ!”หลิงอวี๋วุ่นตลอดวันทั้งเนื้อทั้งตัวเต็มไปด้วยฝุ่น นางเห็นอ่างไม้หยาบ ๆ และผ้าเช็ดหน้าที่พาดด้านบนเป็นเศษผ้าจากเสื้อผ้าหลิงอวี๋ก็ไม่กล้าเมินพลางยันกายลุกไปล้างพร้อมเอ่ยว่า“แม่อาเป่า ข้าแซ่อวี๋ เจ้าเรียกข้าแม่นางอวี๋เถิด!”เมื่อไม่ได้รู้แจ้งว่าตนถูกใครไล่ฆ่าอยู่ หลิงอวี๋เลยไม่กล้าเอ่ยถึงพระชายาอ๋องอี้กับแม่นางหลิงอีก จำต้องปั้นแต่งชื่อปลอมเสีย“
นางหมายซ่อน ทว่าไม่มีที่หลบในเรือนหลังนี้โดยสิ้นเชิง“เปิดประตู… เปิดประตู… ค้นหาทหารหนีทัพ!”หลิงอวี๋ยังไม่ได้ตอบโต้ พลันได้ยินเสียงดังปังและประตูด้านนอกถูกถีบอ้าเสียแล้วอาเป่าตกใจจนร้องไห้งอแงเสียงดัง“แม่อาเป่า เจ้าพาอาเป่าหนีไปผ่านกำแพงหลังเร็ว!”เสียงพูดท่านป้าจางยังไม่ทันจบ ชายหน้าเหี้ยมหลายคนก็พรวดพราดเข้ามาแล้วหลิงอวี๋ดูแล้วไฉนจะเป็นทหารประจำการอะไรล่ะ เป็นแค่พวกกุ๊ยไม่กี่คนเองหัวโจกหน้าตากิริยาถ่อยเหมือนกับชายฟันเหลืองร่างกายฉกรรจ์ จมูกอ้วนใหญ่ สวมแค่เสื้อม่อฮ่อมแขนกุดเผยแขนหยาบสากและดำคล้ำ บนหน้ายังมีแผลเป็นยาวสายหนึ่ง“ป้าจาง นี่ทำอะไรน่าอร่อยจัง? เรียกมาครึ่งค่อนวันแล้วก็ไม่เปิดประตู!”ชายมีแผลเป็นพลันเปิดปากแสดงอารมณ์ขุ่น“อู๋เอ้อร์โก่ว บ้านเราไฉนจะยังมีอะไรกินอีก นี่เพราะมีแขกเลยทำหมี่บัควีตให้นางอิ่มท้องไงล่ะ”ท่านป้าจางส่งยิ้มพลางชี้หลิงอวี๋อู๋เอ้อร์โก่วปรายมองหลิงอวี๋ แม้หลิงอวี๋เป็นแผลที่หน้า แต่ผิวพรรณละเอียดอ่อนหน้าตาสะสวย เดิมไม่เหมือนคนที่โตมาในเขตภูเขาข้นแค้นห่างไกลเลย“นางคือผู้ใด? ไยข้าไม่ยักรู้ว่าเจ้ามีญาติเช่นนี้?”ท่านป้าส่งยิ้ม “แม่นาง
“เย่หรง จ้าวหรุ่ยหรุ่ยอ้างว่าเคยจับตัวหลิงอวี๋ได้มิใช่หรือ? เหตุใดนางมิสังหารหลิงอวี๋แล้วชิงหยกหล้าสุขาวดีไปเล่า?”หลิงอวี๋ถามคำถามที่ตนคิดมิตกออกไปเย่หรงจึงหัวเราะเยาะออกมา “ข้ารู้เหตุผลในเรื่องนี้!”“ข้าได้ยินมาว่า หยกหล้าสุขาวดีเป็นมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์ที่มีวิญญาณ ต้องใช้ยาสลายเลือดเนื้อของผู้ครอบครองในขณะที่คนผู้นั้นยังมีชีวิตอยู่จึงจะนำมันไปได้ มิเช่นนั้นหยกหล้าสุขาวดีจะตายไปพร้อมกับความตายของผู้ครอบครอง!”“เครื่องยาสมุนไพรที่พิเศษนี้ก็มีเพียงที่ภูเขาศักดิ์สิทธิ์เท่านั้น และเมื่อขุดเครื่องยาสมุนไพรนี้ออกมาแล้วจะต้องใช้ภายในครึ่งชั่วยาม มิเช่นนั้นก็จะเฉาตายไป!”“ดังนั้น จ้าวหรุ่ยหรุ่ยจึงทำได้เพียงต้องพาหลิงอวี๋กลับมาที่เมืองหลวงแดนเทพ และเข้าสู่ภูเขาศักดิ์สิทธิ์เพื่อหาเครื่องยาสมุนไพรนั้น จึงจะสามารถนำหยกหล้าสุขาวดีออกมาจากตัวหลิงอวี๋ได้!”หลิงอวี๋ฟังแล้วก็ขนลุกซู่ เข้าใจเหตุผลแล้วว่าเหตุใดจ้าวหรุ่ยหรุ่ยจึงมิสังหารตน!จริงสิ หรือว่านี่จะเป็นสาเหตุที่เซียวหลินเทียนมิสังหารนางเช่นกัน?เขาเองก็อยากได้หยกหล้าสุขาวดีที่ตัวนางด้วยใช่หรือไม่?แต่เมื่อคิดอีกแง่หนึ่ง หลิงอวี๋ก็รู้ส
เย่หรงแสดงสีหน้าสับสนออกมา “ภรรยาของแม่ทัพเฉิงมีเนื้องอกในสมอง สองปีมานี้นางกินยาไปมิน้อยแต่ก็มิดีขึ้น!”“ได้ยินว่าอาการป่วยของฮูหยินเฉิงแย่ลงเรื่อย ๆ แม้แต่คนรอบตัวนางก็จำมิได้แล้ว...”“ใต้หล้านี้มีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่สามารถรักษาโรคนี้ได้!”“แม่ทัพเฉิงกับภรรยาของเขามีความสัมพันธ์ที่ดีมาก หากข้าสามารถหาคนผู้นี้ แล้วช่วยภรรยาของแม่ทัพเฉิงให้หายจากโรคนี้ได้ แม่ทัพเฉิงก็จะเป็นสายลับที่ดีที่สุด!”หลิงอวี๋กลอกตาใส่เย่หรง “สรุปแล้วเป็นผู้ใดกันที่สามารถรักษาโรคเช่นนี้ได้? เหตุใดท่านทำราวกับเป็นนักเล่าเรื่อง เอาแต่ทำให้รอฟังอยู่นั่น!”เย่หรงมองหลิงอวี๋ แล้วเอ่ยด้วยเสียงทุ้ม “เจ้ารู้จักสตรีคนหนึ่งที่ตระกูลเฉียวเสนอรางวัลค่าหัวหรือไม่?”“หลิงอวี๋! นางคือคนเดียวในใต้หล้าที่สามารถรักษาโรคของฮูหยินเฉิงได้!”หลิงอวี๋!หลิงอวี๋ตะลึงไปทันที ที่แท้คนที่เย่หรงพูดถึงก็คือตน!“หลิงอวี๋มีทักษะการแพทย์ยอดเยี่ยม นางผ่าท้องมารดาของข้าหลวงเก๋อรักษาโรคประหลาดท้องโตของนางจนหายได้!”“มีเพียงหลิงอวี๋เท่านั้นที่จะสามารถทำการผ่าตัดเนื้องอกในสมองของฮูหยินเฉิงได้!”เย่หรงยิ้มอย่างขมขื่นแล้วเอ่ย “แต่ขนาดต
หลิงอวี๋มองไปทางเย่หรงอย่างสงสัย “สระเก้ามังกรมีรายละเอียดอะไรหรือ?”เย่หรงยิ้มเยาะแล้วเอ่ยออกมา “เจ้าลองคิดดู หากเป็นเพียงการคุมขังนักโทษจำนวนหนึ่ง จำเป็นต้องส่งแม่ทัพเฉิงที่สำคัญเช่นนี้ไปด้วยหรือ?”“ราชวงศ์มิอนุญาตให้ผู้ใดเข้าไปที่ภูเขาด้านหลัง ก็เพื่อจะปิดบังความลับเอาไว้!”“ในสระมังกรที่ภูเขาด้านหลังมีสัตว์เทพอยู่… และมีความเป็นไปได้สูงว่าจะเป็นมังกรฟ้าที่เป็นพาหนะของหลงอี้ในตอนนั้น!”“ข้าไปสืบจากคนมามากมาย แต่คนที่รู้เรื่องราวภายในมีอยู่น้อยนัก นี่คือสิ่งที่ข้าอนุมานได้จากเบาะแสบางส่วน!”เย่หรงยิ่งพูดก็ยิ่งสนุก “ข้าถึงขนาดสงสัยว่าแผ่นดินไหวเมื่อสองร้อยปีก่อนมิใช่ภัยธรรมชาติ แต่เกิดจากมังกรฟ้าต่างหาก!”“ก่อนหน้านี้สระเก้ามังกรก็มีเครื่องยาสมุนไพรอยู่มากเช่นกัน และราชวงศ์ก็มิได้ห้ามให้ผู้บำเพ็ญตนไปเก็บสมุนไพร แต่นับตั้งแต่เกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่นั้น ราชวงศ์ก็มิอนุญาตให้ใครไปเก็บสมุนไพรที่ภูเขาด้านหลังของสระเก้ามังกรมาเป็นเวลาเกือบสองร้อยปีแล้ว!”“ข้าไปถามชาวบ้านที่อาศัยอยู่ที่เชิงเขามา ผู้สูงอายุคนหนึ่งในกลุ่มพวกเขาบอกว่า เมื่อนานมาแล้วจะได้ยินเสียงร้องประหลาดอยู่เป็นบางครั้ง
ขณะที่เย่ซื่อฝานกำลังพูดอยู่นั้น จู่ ๆ เขาก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ แล้ววิ่งไปหาที่โต๊ะตำรา จากนั้นก็หยิบจดหมายเชิญส่งให้หลิงอวี๋“วันนี้อย่าเพิ่งไปที่หอธุวดารา ช่วงปลายเดือนนี้พวกเขาจะจัดงานประมูลพิเศษขึ้นมา ถึงเวลานั้นจะมีคนรวยมากหลายไปเข้าร่วมงานประมูลนี้!”“หอธุวดาราส่งจดหมายเชิญมาให้ข้าสองสามฉบับ ถึงเวลานั้นพวกเราไปด้วยกัน จะได้ช่วยเจ้าขายให้ได้ราคาดี”“เจ้าค่ะ!” หลิงอวี๋รับจดหมายเชิญมาแล้วขอลากลับก่อนเมื่อนางมาถึงที่ประตูก็พบกับเย่หรงที่กลับมาพอดีเมื่อหลิงอวี๋เห็นว่าเขาปลอดภัยดี จึงเอ่ยออกไป “ข้ากังวลว่าท่านจะมิได้กลับมาอย่างปลอดภัย ท่านมิเป็นอะไรก็ดีแล้ว!”เย่หรงยิ้มอย่างเก้อเขิน “ตอนนั้นเสือไล่ตามพวกเราจนวิ่งหนีกระเจิดกระเจิง กระทั่งเสือหายไป ข้าก็กลับไปหาพวกเจ้า แต่ก็ไม่มีใครอยู่แล้ว!”“หลังจากนั้นก็เกิดเรื่องบางอย่างขึ้น ข้าจึงได้ออกไปก่อน!”“เฮ้อ หากข้ามิออกไปก่อนก็คงดี จะได้เห็นเสือปีกกาฬ!”เย่หรงมิได้บอกหลิงอวี๋ว่า เขาได้ยินจ้าวหรุ่ยหรุ่ยรวบรวมกำลังคนเพื่อจับตัวเซียวหลินเทียนกับหลิงอวี๋ เขาต้องการให้หลิงอวี๋ช่วยอยู่พอดี จึงตามหาหลิงอวี๋ไปทั่ว“เจ้าพบสมบัติอะไร
หลังจากคุยเรื่องไป่หลี่ไห่จบแล้ว หลิงอวี๋ก็หยิบเครื่องยาสมุนไพรบางส่วนที่ตนมิรู้จักออกมาแล้วเอ่ย “ท่านอาจารย์ นี่คือเครื่องยาสมุนไพรที่ข้าเก็บมาจากภูเขาหมางหลิ่ง ท่านช่วยข้าดูทีว่าคืออะไร?”เย่ซื่อฝานเห็นดังนั้นก็สนใจขึ้นมาทันที แล้วอธิบายให้หลิงอวี๋ฟังทีละอย่างสุดท้ายเย่ซื่อฝานก็เอ่ยขึ้นมา “ข้าสามารถซื้อเครื่องยาสมุนไพรที่เจ้านำมาเหล่านี้ในราคาตลาดได้ แต่นอกจากพวกนี้แล้วหอโอสถซ่างกู่ของเรามิต้องการ หากเจ้าอยากจะขายในราคาดี ให้ไปที่ตลาดเครื่องยาสมุนไพร...”“เดี๋ยวนะ นี่คืออะไร?”เย่ซื่อฝานดูไปก็คัดแยกเครื่องยาสมุนไพรไปด้วย และเมื่อเขาเห็นเครื่องยาสมุนไพรที่ดูคล้ายโสมแต่ก็มิคล้าย เขาก็หยิบขึ้นมาดูอย่างละเอียด“ท่านอาจารย์ ข้าเองก็มิแน่ใจเช่นกันว่าสิ่งนี้คืออะไร!”หลิงอวี๋เห็นว่าเย่ซื่อฝานพิจารณาเครื่องยาสมุนไพรที่ดูแปลกประหลาดนี้จึงเอ่ยขึ้นมา“ข้าได้กลิ่นโสม แต่กลับดูมีพิษ!”ในตอนที่เย่ซื่อฝานคัดแยกเครื่องยาสมุนไพร เขาจะสวมถุงมือพิเศษไว้ เมื่อได้ยินคำพูดของหลิงอวี๋ เขาก็พยักหน้า “ความรู้สึกของเจ้ามิผิด เครื่องยาสมุนไพรนี้มีพิษจริง ๆ!”“เจ้ารอประเดี๋ยว ข้าจำได้ว่าในตำราโบราณเคย
หลิงอวี๋จัดการเครื่องยาสมุนไพรที่เก็บมาจากภูเขาหมางหลิ่งครั้งนี้ วางแผนว่าจะนำไปขายบางส่วนก่อนจากนั้นค่อยไปซื้อโอสถกลับมานางนึกขึ้นได้ว่า เมื่อวานนางและเย่หรงแยกทางกันที่ภูเขาหมางหลิ่งเพื่อหนีเสือ หลังจากนั้นก็มิได้เจอเย่หรงอีก มิรู้ว่าเขากลับมาอย่างปลอดภัยหรือไม่หลิงอวี๋จึงไปที่บ้านตระกูลเย่ก่อนเมื่อมาถึงบ้านตระกูลเย่ นางก็ถามคนเฝ้ายามว่าเย่หรงกลับมาแล้วหรือไม่คนเฝ้ายามยิ้มแล้วเอ่ยตอบ “กลับมาแล้วขอรับ แต่ออกไปตั้งแต่เช้าแล้ว บอกว่าจะไปหาสหาย! จริงสิ แม่นางสิง เขาบอกว่าหากท่านมา ให้ท่านรอเขากลับมาด้วย!”“ได้ ข้าจะไปที่ห้องปรุงโอสถของอาจารย์ข้าก่อนก็แล้วกัน!”หลิงอวี๋ได้รู้ว่าเย่หรงมิเป็นอะไรก็สบายใจแล้วนางมาที่ห้องปรุงโอสถของเย่ซื่อฝาน เย่ซื่อฝานกำลังกลั่นโอสถอยู่ เมื่อเห็นว่าหลิงอวี๋มา เขาก็เอ่ยถามออกไป “เมื่อวานพวกเจ้าพบเสือปีกกาฬหรือ?”“เจ้าค่ะ ท่านอาจารย์ก็รู้ด้วยหรือ?”หลิงอวี๋ทอดถอนใจที่ข่าวกระจายเร็วเกินไป แม้แต่คนที่มิออกจากบ้านเช่นเย่ซื่อฝานก็ยังรู้เรื่อง!“ท่านผู้อาวุโสของเจ้าถูกผู้นำตระกูลเก๋อ ตระกูลเฉียวและตระกูลจงเจิ้งเชิญไปตั้งแต่เช้าเพื่อหารือเรื่องการจับเ
สีหน้าของหลงอิงเปลี่ยนแล้วเปลี่ยนอีก นางมิอาจปฏิเสธได้เพราะสิ่งที่หลิงอวี๋พูดมานั้นเป็นความจริง หากเป็นนาง ใครกล้ามาทำลายบ้านของนาง นางก็จะมิยอมปล่อยเขาไปง่าย ๆ แน่!และท่าทางมิยี่หระต่อความตายของหลิงอวี๋ ก็ทำให้หลงอิงมองเห็นความมุ่งมั่นของนางหากคิดจะใช้วิธีการข่มขู่ให้หลิงอวี๋มอบยาแก้พิษให้นั้นคงเป็นไปมิได้แน่!ทว่าหากปล่อยให้เหมียวหยางถูกพิษจนตาย เช่นนี้ก็จะเป็นการพิสูจน์ว่าวิชาพิษของหอโอสถไป๋เป่าด้อยกว่าสิงอวี๋!แต่หากให้เหมียวหยางยอมรับต่อหน้าธารกำนัลว่าเขาทำลายเรือนของหลิงอวี๋ ก็จะทำให้ไป่หลี่ไห่และหอโอสถไป๋เป่าอับอายขายหน้าเช่นกันฝีมือมิสู้เขาแต่คิดจะไปแก้แค้นเขา จะทางไหนก็ล้วนอับอายทั้งนั้น!ไป่หลี่ไห่รู้อยู่แล้วว่าผลลัพธ์จะเป็นเช่นนี้จึงได้ส่งหลงอิงไป เขาอยากจะอาศัยการข่มขู่ของตระกูลหลง และความสัมพันธ์ส่วนตัวของหลงอิงกับสิงอวี๋ ใช้ทั้งไม้อ่อนและไม้แข็งมาบีบให้สิงอวี๋มอบยาแก้พิษให้ตอนนี้หากไม้อ่อนใช้กับหลิงอวี๋มิได้ผล ภารกิจของหลงอิงก็มิสามารถสำเร็จได้“เสี่ยวอวี๋ เช่นนั้นถอยกันคนละก้าวดีหรือไม่ ข้าจะให้เหมียวหยางชดเชยเงินสร้างเรือนใหม่ให้เจ้า เจ้าก็มิต้องให้เขาขอโทษต
วันรุ่งขึ้น ขณะที่หลิงอวี๋กับผู้รอบรู้กำลังกินอาหารเช้ากันอยู่ ก็มีเสียงเคาะประตูบ้านดังขึ้นมาหลิงอวี๋กับผู้รอบรู้มองหน้ากันแล้วระวังตัวขึ้นมาทันที“ผู้ใด?”ผู้รอบรู้เอ่ยถามเสียงดัง“สิงอวี๋ ข้าเอง หลงอิง!”เสียงของหลงอิงเอ่ยขึ้นมาผู้รอบรู้จึงมองหลิงอวี๋แล้วหลิงอวี๋ก็นึกเรื่องที่ตนวางยาพิษเหมียวหยางขึ้นมาได้เหมียวหยางถูกพิษกำเริบขึ้นมาแล้ว ตอนนี้หลงอิงก็นับว่าเป็นศิษย์น้องหญิงของเหมียวหยาง นางคงมาขอยาแก้พิษให้เหมียวหยางกระมัง?“พี่ใหญ่ เปิดประตูเถิด!”เมื่อผู้รอบรู้ได้รับอนุญาตจากหลิงอวี๋แล้วก็เปิดประตูออกหลงอิงเดินเข้ามาพร้อมรอยยิ้ม นางพานางรับใช้มาด้วยหนึ่งคนผู้รอบรู้โบกมือให้หลิงอวี๋อยู่ด้านหลังหลงอิง เป็นการบอกหลิงอวี๋ว่าข้างนอกไม่มีใครแล้ว“สิงอวี๋ ข้าได้ยินมาว่าเจ้าไปที่ภูเขาหมางหลิ่งมา พบสมบัติอะไรหรือไม่?”หลงอิงมีท่าทางอยากรู้อยากเห็น “ข้าได้ยินมาด้วยว่ามีเสือปีกกาฬสัตว์อสูรพันปีปรากฏตัวที่ภูเขาหมางหลิ่ง เป็นความจริงหรือ?”เมื่อหลิงอวี๋เห็นว่านางมิได้เอ่ยถึงเรื่องเหมียวหยาง นางก็มิได้เอ่ยถึงเช่นกัน จากนั้นก็พยักหน้าแล้วเอ่ยออกมา “เป็นความจริง มันกัดคนตายไปมา
“สตรีที่กล่าวหาว่าเจ้าช่วยเซียวหลินเทียนที่ภูเขาหมางหลิ่งวันนี้นั่นน่ะหรือ?”ผู้รอบรู้นึกขึ้นมาได้ ว่ากันว่าใบหน้าของสตรีผู้นั้นก็ถูกเซียวหลินเทียนกรีดเช่นกัน จึงคลุมผ้าคลุมไว้“พี่ใหญ่ เป็นนาง! ข้าลืมเรื่องราวในอดีตไป ตอนที่ข้ารู้สึกตัวนางบอกว่าข้าเป็นนางรับใช้ของนาง ข้ายังเชื่อคิดว่าเป็นความจริง!”เมื่อหลิงอวี๋นึกถึงสิ่งที่จ้าวหรุ่ยหรุ่ยทำกับตน ก็ตื่นเต้นจนตัวสั่นไปหมด“ข้านึกมิออกว่าตนเองเป็นใคร แต่บางครั้งในหัวของข้าก็จะมีบางช่วงบางตอนแวบเข้ามา… หลังจากที่หน้ากากผิวหนังมนุษย์ของเซียวหลินเทียนถูกทำลายไป แล้วข้าก็ได้เห็นใบหน้าที่แท้จริงของเขาอย่างชัดเจน เขาก็คือคนที่ปรากฏขึ้นมาในภาพที่ข้าเห็น!”“พี่ใหญ่ จ้าวหรุ่ยหรุ่ยบอกข้าว่า เซียวหลินเทียนเตะลูกชายของข้าจนตาย ข้าเห็นลูกชายของข้าในภาพเหล่านั้น ทั้งยังเห็นว่าเซียวหลินเทียนให้คนเฆี่ยนตีข้าด้วย!”“จ้าวหรุ่ยหรุ่ยบอกว่า ที่เซียวหลินเทียนไล่ล่าข้าก็เพราะว่าข้าสังหารสตรีที่เขารักที่สุดไป! แต่ข้ามิรู้เรื่องเหล่านี้เลย ข้านึกอะไรมิออกทั้งนั้น!”“พี่ใหญ่ ข้ามิเชื่อคำพูดของจ้าวหรุ่ยหรุ่ย แต่ดูจากการแสดงออกของเซียวหลินเทียนในวันนี้แล้ว ก