ไป่สือออกมาหลังจากที่เขาเข้าไปได้สักพักด้วยสีหน้าที่ย่ำแย่มากโดยไม่ทันให้เซียวหลินเทียนถาม เขารีบบอกด้วยตัวเอง "ถวายบังคมทูลท่านอ๋อง ในยามีสารหนูอยู่พ่ะย่ะค่ะ!"“ท่านอ๋อง กระหม่อมสาบานต่อสวรรค์ ยาที่กระหม่อมสั่งไม่มีสารหนูพ่ะย่ะค่ะ!”เซียวหลินเทียนโบกมือ "เอาเถอะ ข้าเชื่อในตัวท่าน!"ชิวเฮ่ากลอกตาไปทางหลินผิง รีบวิ่งไปคว้ามือนางแล้วตะคอกถาม "บ่าวชั่ว บอกมา ทำไมถึงมีสารหนูในยาได้"“เจ้าคิดใส่ร้ายท่านไป๋รึ?”หลิงผิงถูกเขาบีบไหล่อย่างแรง เจ็บมากยิ่งนักนางรู้ว่าชิวเฮ่ากำลังเตือนนางว่าอย่าพูดเรื่องไร้สาระ!“ท่านอ๋อง! บ่าวผิดไปแล้ว!” หลิงผิงคุกเข่าอ้อนวอน"บ่าวไม่รู้ว่าสารหนูมาจากที่ใด บ่าวสาบานต่อสวรรค์ บ่าวไม่มีเจตนาจะทำร้ายพระชายาเพคะ!""แล้วสารหนูมาจากที่ใด?"ชิวเฮ่าพูดด้วยความโกรธ "มันมีขาวิ่งเข้าไปเองงั้นรึ?"หลิงผิงก้มหน้าลงและสะอื้นไห้ "บ่าวไปที่คลังเพื่อรับยาตามเทียบยาที่ท่านไป๋สั่ง บ่าวจัดการต้มยาเองทั้งหมด!"“ตอนที่บ่าวต้มยา พ่อครัวทุกคนในครัวล้วนเห็นอยู่ด้วยกันทั้งหมด บ่าวจะเอาโอกาสที่ไหนลงมือได้เพคะ!”“หลังจากต้มยาเสร็จแล้ว บ่าวและแม่นมหลี่นำมาส่งยาด้วยกัน พวกนางเ
หลิงอวี๋ค่อย ๆ เดินไปข้าง ๆ เซียวหลินเทียนนางเห็นใบหน้าด้านข้างเซียวหลินเทียนสันกรามคมชัดคิ้วที่เฉียงตรงของเขา ดวงตาสีดำที่เฉียบคม ริมฝีปากบางและเม้มเล็กน้อย ล้วนแสดงถึงความสง่างามและสูงศักดิ์!เหมือนอินทรีในยามราตรี เย็นชาและหยิ่งยโส!ชายผู้นี้รูปหล่อยิ่ง!และเย็นชามากด้วย!เซียวหลินเทียนมองหลิงอวี๋ พร้อมกับขมวดคิ้วแสดงท่าทีรังเกียจ เขาไม่ชอบให้นางอยู่ใกล้เขามากนักหลิงอวี๋พูดอย่างไม่รีบร้อนอะไร "ท่านอ๋อง คิดว่าหลิงผิงพูดความจริงหรือไม่?"เซียวหลินเทียนยิ้มอย่างเย็นชาและไม่พูดหลิงอวี๋ยิ้ม "หม่อมฉันเป็นคนที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้! และท่านอ๋องเองก็เป็นผู้ตัดสิน!"“ในเมื่อท่านอ๋องไม่เชื่อหม่อมฉัน ดังนั้นหม่อมฉันพูดไปท่านก็คงไม่ฟัง!”“งั้นท่านอ๋องก็ตัดสินซะสิ!”คิ้วของเซียวหลินเทียนกระตุกหลิงอวี๋หาว่าเขาจะตัดเอ็นของนางโดยไม่ถามอะไรเลยงั้นหรือ?“ท่านอ๋อง สิ่งที่บ่าวพูดนั้นเป็นความจริง! ท่านอ๋องจะเข้าข้างพระชายาเพียงเพราะบ่าวมีฐานะต่ำต้อยหรือเพคะ!”หลิงผิงร้องไห้ "พระชายาตัดเส้นเอ็นบ่าวขาดแล้ว ท่านยังไม่ยอมรับผิดอีกหรือ?"“ท่านยังอยากจะเอาชีวิตบ่าวอีก ทำไมท่านถึงเลวทรามเ
หลิงอวี๋คิดว่ามันมีค่าสองร้อยตำลึง แต่นางกลับไม่รู้อะไรเลย!เซียวหลินเทียนจำได้ว่าในสมัยก่อน ตอนที่พระสนมผู้เป็นมารดาได้ความโปรดปรานจากจักรพรรดิ จักรพรรดิหวู่อันประทานต่างหูคู่หนึ่งที่ทำโดยเหลียนหมิงครั้งแรกที่เซียวหลินเทียนรู้เกี่ยวกับเหลียนหมิงคือ ตอนที่พระสนมอธิบายที่มาของต่างหูให้เขาฟัง“หลิงอวี๋ พูดต่อไป!”ชิวเฮ่ามองไปที่ปิ่นปักผมด้วยความประหลาดใจ และถามอย่างไม่แน่ใจว่า "ท่านอ๋อง ปิ่นนี้มีมูลค่าสองร้อยตำลึงจริงหรือพ่ะย่ะค่ะ?"เซียวหลินเทียนพยักหน้าเล็กน้อยชิวเฮ่าจ้องไปที่หลินผิงอย่างดุดัน แม้ว่าหลินผิงจะคุกเข่า แต่นางก็กลัวมากจนร่างกายของนางซวนเซไปหมด!แย่แล้ว! บอกไม่ได้จริง ๆ !แต่นางกลอกตาแอบพูดในใจ ถ้าบอกไม่ได้ นางตายแน่!อย่างไรก็ตาม ชิวเฮ่าและชิวเหวินซวงอยู่ข้างนาง พวกเขาย่อมจะปกป้องตน!หลินผิงยังยืนกราน "บ่าวมิรู้ว่ามันมีค่าเท่าไหร่! บ่าวกล้าสาบานต่อสวรรค์ นี่เป็นสิ่งที่พระชายาประทานให้จริง ๆ!"เมื่อเห็นว่านางยังคงดื้อดึงอยู่ในตอนนี้ หลิงอวี๋ก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมา“สวรรค์คงยุ่งเกินกว่าจะดูแลเจ้าแล้ว!”“เจ้าต้องเลิกนิสัยสาบานพร่ำเพรื่อซะนะ ถ้าพูดมากไปมันจะไม
"ไม่งั้นรึ?"เซียวหลินเทียนขมวดคิ้วทันที และมองไปที่หลิงอวี๋อย่างประหลาดใจผู้หญิงคนนี้? ผู้ใดมอบความกล้าให้นางบอกว่าไม่?เมื่อก่อนเมื่อเขาขมวดคิ้ว นางก็จะตัวสั่นด้วยความตกใจพูดตะกุกตะกักไปหมด!ตอนนี้กลับกล้าพูดเองว่าไม่งั้นหรือ?“สมเหตุสมผลแล้ว! ในเมื่อท่านกำลังตัดสินอย่างเป็นธรรมอยู่ ท่านอ๋องในฐานะที่เป็นผู้ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ มันเกินไปหรือไม่ที่หม่อมจะขอความเป็นธรรม?”หลิงอวี๋ไม่ได้กลัวแต่อย่างใด และยังเผชิญหน้ากับเขาอย่างตรงไปตรงมา"ใครก็ตามที่มีตา ก็เห็นอยู่มิใช่รึสิ่งที่ชิวเฮ่าทำกับข้า!"“ท่านอ๋อง ท่านเชื่อเขา แต่ท่านทรงบังคับให้หม่อมฉันเชื่อเขาด้วยมิได้หรอกเพคะ!”เซียวหลินเทียนกัดฟันแน่น แต่เขาไม่สามารถเถียงสิ่งที่หลิงอวี๋พูดได้!หลิงอวี๋ถูกชิวเฮ่าลากไปทุบตี และเกือบถูกเจ้าปากเบี้ยวทำการหยามเกียรตินาง!นางจะเกลียดแค้นชิวเฮ่าก็ถือเป็นเรื่องปกติ!“ท่านอ๋อง! หรือว่าให้บ่าวไปดีไหมขอรับ!”พ่อบ้านฟั่นเพิ่งมาที่นี่ได้สักพักหนึ่ง เห็นเซียวหลินเทียนเงียบไป เขาก็เลยออกมาพูดขึ้นหลิงอวี๋ไม่รู้ว่าพ่อบ้านฟั่นมาที่นี่เพื่อล้างแค้นแทนเจ้าปากเบี้ยวของเขา!เจ้าปากเบี้ยวเป็นล
เสี่ยวเมาเข้าไปได้ไม่นาน พ่อบ้านฟั่นก็นำแม่นมคนหนึ่งถือถุงใส่ของเอาไว้ “กราบบังคมทูลท่านอ๋อง นี่คือของที่หาพบในห้องของหลิงผิงเพคะ!” พ่อบ้านฟั่นส่งสัญญาณให้แม่นมนำห่อของนั้นมาด้านหน้าของเซียวหลินเทียน แม่นมเปิดออกมา ด้านในนั้นมีเครื่องประดับเรียบง่าย และยังมีชุดอีกสองสามชุด เซียวหลินเทียนเพียงแต่กวาดตามอง แล้วเอ่ยออกมา “หลิงอวี๋ เข้ามาดูเองว่าชิ้นใดเป็นของเจ้า?” หลิวอวี๋ยังไม่คุ้นเคยกับของตนเองมากนัก จึงเอ่ยออกมา “แม่นมลี่จัดการของของข้ามาโดยตลอด แม่นมลี่ ท่านไปดู!” แม่นมลี่เดินเข้ามา มองอย่างละเอียดแล้ว ก็ชี้ไปยังเครื่องประดับเอ่ยออกมา “ทั้งหลายชิ้นนี้ล้วนแต่ไม่ใช่ของพระชายา มีเพียงแค่กระโปรงสองตัวนี้ที่เป็นของพระชายาเพคะ!” หลิงผิงมองไปยังชิวเหวินซวงด้วยความประหลาดใจ นางยังคิดว่าพ่อบ้านฟั่นไปค้นหานั้น จะต้องยืนอยู่ข้างตนเอง ช่วยนางเก็บของแอบซ่อนเอาไว้ ไหนเลยจะคิดว่าพ่อบ้านฟั่นกลับนำชุดของหลิงอวี๋ที่นางนำติดมือไปด้วยกลับมา! ชิวเหวินซวงลอบทำท่าทางให้นางสงบลง หลิงผิงจึงวางใจลงได้ครึ่งหนึ่ง แล้วมองไปยังเครื่องประดับอย่างตั้งใจ เมื่อเห็นว่าในนั้นมีหยกแขวนแปลกตาอยู่ชิ้นหน
“ท่านอ๋องชี้แนะด้วย! เงินเดือนของบ่าว พระชายาค้างมาหลายเดือนแล้ว! บ่าวจะมีเงินที่ไหนไปซื้อหยกแขวนเพคะ!” หลิงผิงฉวยโอกาสนี้ ร้องไห้คร่ำครวญออกมา “ท่านอ๋อง นี่เป็นของพระชายาจริง ๆ เพคะ! แม่นมลี่ปกป้องพระชายา แน่นอนว่าต้องช่วยพระชายาพูด!” “บ่าวรู้ว่าหยกแขวนนี้เป็นของพระชายา นั่นก็เป็นเพราะว่าพระชายาหยิบมันออกมาเล่นอยู่บ่อยครั้ง บ่าวเห็น!” “หากท่านอ๋องมิทรงเชื่อแล้ว ก็สามารถถามหลิงหลานได้ นางเองก็เคยเห็น!” หลิงหลานได้ยินคำนี้เข้า ก็รู้ว่าถึงเวลาที่ตนต้องออกมาแล้ว นางแสร้งทำเป็นขลาดกลัว ก้าวเดินมาเบื้องหน้า มองไปยังหลิงอวี๋อย่างหวาดกลัว ก่อนจะทำท่าทีเอ่ยออกมาอย่างไม่เต็มใจ “กราบบังคมทูลท่านอ๋อง นี่เป็นของพระชายาจริง ๆ เพคะ บ่าวเองก็เคยพบนางเล่นมันมาก่อน! บ่าวมิกล้าปด!” “ดี! แต่ละคนต่างจงรักภักดีกันจริง ๆ !” หลิงอวี๋ตบมือ นางเอ่ยออกมาด้วยรอยยิ้ม “เจ้านายถูกทุบตี พวกเจ้าสองคนก็แทบจะทนรอมิได้ที่จะพุ่งไปหาผู้อื่น!” “เจ้านายถูกใส่ร้าย พวกเจ้าแทบจะทนรอมิไหวที่จะใส่ร้าย!” “เฮ่อ แม่เลี้ยงของข้าช่างเลือกคนที่ภักดีให้กับข้า ช่างซื่อสัตย์จริง ๆ !” หลิงอวี๋ที่เพิ่งจะลุกขึ้นมาอีกด้
หลิงอวี๋ไม่รู้ว่าฉินซานเป็นแม่ทัพตั้งแต่เมื่อใด! กลับรู้มาจากความทรงจำว่า ฉินซานนั้นหลงรักหลิงอวี๋ เขาเต็มใจจะแต่งงานกับหลิงอวี๋! ทว่าเขาและหลิงอวี๋ไม่เคยทำเรื่องที่เกินเลย! เซียวหลินเทียนยิ่งฟัง สีหน้าก็ยิ่งไม่น่ามอง! หลิงอวี๋ตั้งครรภ์เพียงแค่แปดเดือนก็คลอดเสี่ยวเมาออกมา เขาก็สงสัยแล้งว่าเด็กนั้นมิใช่บุตรของตน! ทว่าเขาลอบให้คนตรวจสอบ กลับไม่พบหลักฐานใด! เซียวหลินเทียนนำกำลังพลสู้รบอยู่ด้านนอกจึงไม่มีเวลาไปตรวจสอบให้ละเอียด ในเวลานี้ถูกหลิงผิงเปิดเผยออกมา และก็นึกถึงฉินซานที่มาถึงแม่ทัพทหารม้า ดูแลองครักษ์ติดอาวุธของกองทัพหลวงแล้ว ความคับข้องใจนี้เซียวหลินเทียนกลืนมันลงไปได้แล้ว ฉินซานมีหน้าตาหล่อเหลา ครั้งนี้ออกรบสังหารศัตรูไปอย่างหาญกล้า แม่ทัพทั้งหลายต่างก็ชื่นชมเขา บอกว่าเขามีอนาคตไกล ชายชู้ของหลิงอวี๋กลับกลายเป็นเขา? เช่นนั้นแล้วเสี่ยวเมาเป็นลูกของฉินซานอย่างนั้นหรือ? “หลิงอวี๋ เจ้ายังมีอะไรให้เอ่ยอีกหรือไม่?” เซียวหลินเทียนบีบอัดคำพูดอันเย็นชาลอดไรฟันมา หลิงอวี๋ยิ้มออกมาอย่างเรียบเฉย รู้สึกได้ว่าเซียวหลินเทียนมีความคืบหน้าแล้ว ไม่ได้ฟังคำของหลิงผิงแล้ว
ชิวเหวินซวงที่ฟังอยู่ด้านข้างคอยสังเกตท่าทีของเซียวหลินเทียน เมื่อเห็นท่าทางตกตะลึงของเซียวหลินเทียน ชิวเหวินซวงก็สังหรณ์ใจได้ว่าไม่ดีแล้ว! นางมองไปยังหลิงอวี๋ด้วยความตื่นตกใจ! หญิงผู้นี้เปลี่ยนแปลงมากเกินไป! ก่อนหน้านั้นหลิงอวี๋จะมีคารมคมคายดีอย่างนี้ได้อย่างไรกัน! ชิวเหวินซวงอาศัยที่เซียวหลินเทียนมิได้สังเกตเห็นตน รีบขยิบตาให้กับหลิงหลานและหลิงผิง หลิงผิงถูกคำพูดของหลิงอวี๋ที่ให้ตื่นตะลึงเข้า! นางติดตามหลิงอวี๋มานานถึงเพียงนี้ มิเคยพบว่าหลิงอวี๋จะสามารถเอ่ยออกมาเช่นนี้ได้! นางไม่รู้เลยว่าจะต้องหักล้างหลิงอวี๋กลับจากที่ใด! หลิงหลานสามารถอดกลั้นได้มากกว่าหลิงผิง นางฟังไป พลางทั้งคิดวิธีตอบโต้กลับ เมื่อเห็นว่าเซียวหลินเทียนกำลังจะล่าถอยไป ในใจของหลิงหลานก็เคลื่อนไหวขึ้นมา นึกออกแล้ว! หลิงหลานแสร้งหวาดกลัวเอ่ยออกมา “พระชายา ทำไมท่านถึงได้พูดจาได้เก่งกาจ พวกเราฝีปากไม่ดีสู้ท่านไม่ได้!” “ทว่าความจริงอย่างไรเสียก็คือความจริง! ต่อให้ท่านจะเอ่ยออกมาได้น่าฟังเพียงใด ก็มิอาจปิดบังความจริงที่ท่านทรยศท่านอ๋องไปได้!” “ท่านอ๋อง… พวกบ่าววันนี้ต่อให้จะต้องออกไป!” “เพื่อไ
ผู้นำคนหนึ่งและชาวบ้านของหลายหมู่บ้านพากันคุกเข่าลงอย่างล้นหลาม“ฝ่าบาททรงนึกถึงราษฎรและนำพาความร่ำรวยมาสู่พวกเราเช่นนี้ พวกเราจะให้ความร่วมมือกับฝ่าบาท จะเลี้ยงวัวนมอย่างดี ทำให้ห่วงโซ่อุตสาหกรรมวัวนมพัฒนายิ่ง ๆ ขึ้นไปพ่ะย่ะค่ะ!”“ฝ่าบาทโปรดวางประทัย กระหม่อมเสี่ยวเฮยจะเลี้ยงวัวนมให้ขาวสะอาดและแข็งแรง ในทุกวันจะรีดนมวัวให้ได้มาก ๆ พ่ะย่ะค่ะ!”ชาวบ้านแต่ละคนแย่งกันแสดงออกถึงความภักดีและความมุ่งมั่นต่อเซียวหลินเทียนเซียวหลินเทียนยิ้มอย่างพึงพอใจ จากนั้นก็ยิ้มให้ชาวบ้านเหล่านั้นอย่างเมตตาพลางเอ่ย “ผลิตภัณฑ์นมเหล่านี้ล้วนเป็นฮองเฮาที่คิดขึ้นมา พวกเรามิอาจทำให้เจตนาของฮองเฮาต้องผิดหวังได้! พวกเราต้องพัฒนาห่วงโซ่อุตสาหกรรมของผลิตภัณฑ์วัวนมให้ดี ทำให้แคว้นฉินตะวันตกร่ำรวยและราษฎรแข็งแกร่ง!”“อีกอย่างผลิตภัณฑ์นมเหล่านี้มิเพียงแต่ทำให้อิ่มท้องแต่ยังทำให้ร่างกายแข็งแรงด้วย คนชรากินเข้าไปกระดูกก็จะดี เด็ก ๆ กินแล้วก็แข็งแรงและเติบโตขึ้น...”“ฉินตะวันตกของเราต้องเลี้ยงวัวนมให้มาก ให้ราษฎรของฉินตะวันตกสามารถดื่มนมได้วันละถ้วย เมื่อร่างกายแข็งแรง ก็จะสร้างฉินตะวันตกที่แข็งแกร่งได้!”คำพูดขอ
เซียวหลินเทียนอยู่บนแท่นสูงเห็นผลิตภัณฑ์นมเหล่านั้นถูกทุกคนลิ้มลองไปอย่างเอร็ดอร่อย มุมปากของเขาก็ปรากฏความเยาะเย้ยต่อหมู่บ้านที่ค้านการเลี้ยงวัวนมเหล่านั้น เรื่องนี้ทำให้เขานึกถึงตอนแรก หลิงอวี๋กับเกิ่งเสี่ยวหาวสร้างโรงงานยาที่หมู่บ้านตระกูลเฉินจนทำให้ชาวบ้านท้องถิ่งนั้นร่ำรวยกันขึ้นมา!แต่องค์หญิงหกต้องการจะแย่งโรงงานยาของหลิงอวี๋ จึงซื้อโรงงานยาด้วยราคาที่สูง เกิ่งเสี่ยวหาวโกรธมากก็เลยย้ายโรงงานยาไปที่หมู่บ้านอื่น!หลิงอวี๋กับตนพยายามคิดทุกทางเพื่อส่งเสริมการเพาะเลี้ยง และคิดที่จะช่วยให้ชาวบ้านท้องถิ่นให้ร่ำรวยขึ้น ในเมื่อพวกเขามิเห็นค่าก็มองหมู่บ้านอื่นร่ำรวยด้วยความอิจฉาตาร้อนไปเสียเถิด!กฎหมายมิได้รับผิดชอบต่อทุกคน เมื่อเทียบกับการลงโทษชาวบ้านเหล่านี้ เซียวหลินเทียนคิดว่าการลงโทษที่ดีที่สุดก็คือปล่อยให้พวกเขาได้มองการสูญเสียความร่ำรวยนั้นไป...ฉินซานกับผู้ใต้บังคับบัญชาของตนเดินตามงานเลี้ยงและแจกใบประชาสัมพันธ์ให้ราษฎรและบัณฑิตเหล่านั้น ประกาศว่าผลิตภัณฑ์นมจะนำพาผลกำไรทางเศรษฐกิจมาให้เทียบกับการโฆษณาปากเปล่าแล้ว การมีผลิตภัณฑ์นมจำนวนมากวางอยู่ตรงหน้าเช่นนี้ ทุกคนทั้งได้ลิ
การผ่าตัดเปิดกะโหลก นี่เป็นครั้งแรกในรอบพันปีของเมืองหลวง!หลิงเสียงกังเลือดท่วม สถานการณ์เร่งด่วนร้ายแรงถึงชีวิตทำให้เหล่าบัณฑิตและราษฎรเหล่านั้นวางความโกรธที่มีต่อหลิงอวี๋ลงชั่วคราวแม้จะมีข้อสงสัยในใจ แต่ท่านอดีตเสนาบดีเป็นบิดาของหลิงเสียงกัง ตามกฎหมายแล้วมีอำนาจในการตัดสินใจว่าจะให้หลิงอวี๋รักษาหรือไม่ และพวกเขาเองก็ไม่มีสิทธิ์คัดค้านนางซุนในฐานะภรรยามิได้มีสิทธิ์ตัดสินใจ การคัดค้านของนางจึงถูกเมินไปหลิงอวี๋พาพวกหลิงหว่านเข้าไปปฐมพยาบาลหลิงเสียงกังข้างในเซียวหลินเทียนมองนางซุนอย่างเย็นชาราวกับมองคนตายนางซุนผู้นี้ใส่ร้ายหลิงอวี๋ซ้ำแล้วซ้ำเล่า แม้ว่าจะมีความยากบำลาก ก็มิคู่ควรที่จะได้รับการอภัยนางซุนเห็นหลิงเสียงกังถูกล้อมไว้ ส่วนนางนั้นเดียวดายไร้ผู้ใดสนใจ เมื่อเห็นเผยอวี้นั่งอยู่ด้านข้างและมีองครักษ์คนหนึ่งกำลังจัดการบาดแผลให้เขาอยู่นางซุนก็เข้าไปอย่างรู้สึกผิด พลางเอ่ยถามอย่างเศร้าใจ “แม่ทัพเผย หว่านเอ๋อร์ของข้าเล่า?”เผยอวี้มิรู้ว่าควรจะเกลียดหรือโกรธนางซุนดี จึงเอ่ยเรียบ ๆ “นางก็ถูกช่วยออกมาแล้ว อีกประเดี๋ยวก็มาถึง!”นางซุนได้ยินดังนั้นก็โล่งใจแล้วรีบเอ่ย “คนที่ข
“ฉึก… ฉึก...”เสียงลูกธนูคมกริบทั้งสองที่แทงทะลุร่าง ทำให้ราษฎรและบัณฑิตที่พุ่งไปข้างหน้าเมื่อเห็นทหารสองคนถูกยิงเข้าที่อกก็ชะงักอยู่กับที่ทันทียังมิทันที่พวกเขาจะได้ตอบสนองก็ได้ยินเสียงโกรธเกรี้ยวของเซียวหลินเทียนเอ่ยขึ้นมา “ทหารของข้าไม่มีทางสังหารคนบริสุทธิ์มิเลือกหน้า คนเลวสองคนนี้คิดจะสังหารพวกเจ้า กระตุ้นให้เกิดความวุ่นวาย มีเจตนาแอบแฝง เป็นความผิดร้ายแรงมิอาจให้อภัยได้!”“ข้าสังหารพวกเขาเป็นการเตือน! ผู้ใดที่กล้ามิฟังคำสั่งและลงมืออีกก็จะมีจุดจบดังเช่นพวกเขา!”ราษฎรและบัณฑิตเหล่านั้นตกตะลึงไปกับฉากนี้ คนที่มีเหตุผลเมื่อคิดแล้วก็เหงื่อออกทั่วร่างหากมิใช่เพราะมือธนูที่ซ่อนตัวอยู่บนที่สูงสังหารมือสังหารที่ก่อเรื่องสองคนนั้น พวกเขาก็จะถูกปลุกปั่น เมื่อเห็นทหารของจักรพรรดิสังหารราษฎร พวกเขาจะพุ่งเข้าไปทุบตีต่อสู้กับเหล่าทหารหรือไม่!ถึงเวลานั้นจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น?มิว่าจะเป็นราษฎรหรือทหารที่ตายก็ล้านทำให้จัตุรัสเกิดสถานการณ์นองเลือดที่ไหลดั่งสายน้ำ...เมื่อนึกถึงภาพนองเลือดนั้น ทุกคนก็กลัวจนตัวสั่น!และในระยะเวลาสั้น ๆ นี้ เผยอวี้ก็ขี่ม้าพร้อมแบกหลิงเสียงกังมาออกมาตามทางที
เหล่าบัณฑิตและขุนนางที่เดิมทีคล้อยตามท่านอดีตเสนาบดีกับผู้ป่วยแต่ละคนจนเลือกเชื่อหลิงอวี๋แล้ว เมื่อได้ยินคำพูดนี้ก็หวั่นไหวทันทีเมื่อเห็นนางซุนที่คำนับหัวโขกพื้นจนเลือดไหลคุกเข่าขอร้องหลิงอวี๋อยู่ที่พื้น ภาพนองเลือดนี้กระตุ้นให้หัวใจแห่งความชอบธรรมของพวกเขาปั่นป่วนขึ้นอีกครั้งแล้ว“หลิงอวี๋เผด็จการรังแกผู้คนเช่นนี้ จะคู่ควรกับการนั่งเพลิดเพลินอยู่ในตำแหน่งฮองเฮาบนแท่นสูงนั้นได้อย่างไร!”“หลิงอวี๋ ลงมาเสีย เจ้าควรจะฆ่าตัวตายเป็นการขอโทษ!”“ประหารมือสังหารที่บีบให้คนตายผู้นี้เสีย!”เสียงแห่งความโกรธเกรี้ยวดังก้องขึ้นมาในจัตุรัส บัณฑิตเหล่านั้นพยักหน้า และทุกคนก็พุ่งไปที่แท่นสูงกองทัพหลวงก้าวออกมากั้นเอาไว้ แต่พวกเขามิสามารถสังหารราษฎรได้ และมิสามารถลงมือกับพวกเขาได้ด้วย จึงถูกบีบจนต้องถอยร่นไปเซียวหลินเทียนเด้งตัวลุกขึ้นมา สีหน้าของเขามืดครึ้ม วันนี้แม้จะต้องสังหารคนที่ก่อเรื่องเหล่านี้ให้หมดและขึ้นชื่อเรื่องเผด็จการเป็นชนักติดหลัง เขาก็จะมิยอมพูดได้มิชัดเจนแล้วอย่างไร เขาก็จะใช้สถานการณ์ที่นองเลือดยิ่งกว่ามาทำให้นางซุนและคนที่ด่าหลิงอวี๋ต้องหุบปากตลอดไป!หลิงอวี๋เองก็ลุกขึ้
ผู้ป่วยเหล่านี้แต่ละคนต่างก็แย่งกันเล่าว่าหลิงอวี๋รักษาโรคให้พวกเขาอย่างไร จนเสียงดังที่จัตุรัสยิ่งวุ่นวายมากขึ้นแต่ใต้เท้าเถี่ยมิได้คิดจะห้ามแม้แต่น้อยคนที่ด่าเหล่านั้นก็ยังคงตะโกนอย่างมิพอใจ “พวกเจ้าถูกหลิงอวี๋ซื้อตัวเพื่อมาล้างมลทินให้ชื่อของนาง!”“พวกเจ้าจะต้องเห็นว่านางเป็นฮองเฮาจึงได้ตั้งใจจะเอาใจนาง พูดดีกับนาง!”ครอบครัวผู้ป่วยคนหนึ่งมีคนด่าที่ลุกออกไปด้านข้าง เมื่อได้ยินคำพูดนี้ ครอบครัวนั้นก็ทนมิไหวแล้วซัดหมัดให้หน้าคนที่ด่าไปเต็ม ๆ“พล่ามไร้สาระอะไรของเจ้า ข้ามิเคยได้รับเงินจากฮองเฮาสักตำลึง!”“เรามีกันมากถึงเพียงนี้ ล้วนรู้บุญคุณของฮองเฮา มิอยากเห็นพระนางที่มีความคิดที่ดีต่อราษฎรเช่นนี้ต้องถูกคำต่ำช้าเยี่ยงพวกเจ้าใส่ร้าย!”“หมู่บ้านข้าก็มีคนมา เจ้ามิเชื่อคำพูดของข้าก็ไปถามคนในหมู่บ้านว่าฮองเฮาส่งคนไปจ่ายเงินซื้อพวกเราหรือไม่?”“หากฮองเฮาซื้อพวกเราได้ แล้วพระนางจะสามารถซื้อตัวคนในหลายหมู่บ้านทั้งหมดนั้นได้หรือ?”คนที่ด่าเหล่านั้นเห็นว่าคนนับมิถ้วนส่งสายตาโกรธเกรี้ยวมาให้พวกเขา คนที่ด่าคนหนึ่งยังคงเอ่ยอย่างแข็งกร้าว “พูดเรื่องพวกนี้หาได้มีประโยชน์ไม่… ต้องให้หลิงเส
เมื่อไต่สวนคดีนี้แล้ว หลี่ต้าหนิวมิเพียงแต่มิถูกลงโทษ แต่ยังได้รับชื่อเสียงที่ดีมากอีกด้วย ครอบครัวผู้เสียหายเหล่านั้นก็รู้สึกละอายใจต่อหลี่ต้าหนิววันที่อาคารศึกษาถล่ม พวกเขาโกรธจนมีคนวิ่งไปที่บ้านของหลี่ต้าหนิวแล้วทุบบ้านเขาจนพังตอนนี้เมื่อรู้ว่าถูกคนทำให้เข้าใจหลี่ต้าหนิวผิด คนเหล่านั้นจึงละอายกับการกระทำของตน“เมื่อพูดเรื่องของหลี่ต้าหนิวกระจ่างแล้ว ตอนนี้จะไต่สวนคดีที่หลิงอวี๋เรียกเงินค่ารักษาเกินจริงและเห็นชีวิตคนเป็นผักปลา!”ใต้เท้าเถี่ยเป็นคนที่เที่ยงตรงมิเห็นแก่หน้าใครอย่างแท้จริง ยามไต่สวนคดีก็ถือว่าหลิงอวี๋เป็นคนผิด มิเรียกแม้แต่ฮองเฮาแต่เรียกชื่อออกไปตรง ๆการกระทำนี้ได้รับการยอมรับจากบัณฑิตอย่างล้นหลาม พวกเขารู้สึกว่าใต้เท้าเถี่ยจะต้องตัดสินคดีโดยยึดมั่นในความยุติธรรมอย่างแน่นอนเมื่อเห็นหลิงอวี๋แต่งกายด้วยชุดฮองเฮา รอให้คดีตัดสินเสร็จสิ้น นางจะไม่มีวาสนาได้แต่งชุดฮองเฮาอีกต่อไป!ใต้เท้าเถี่ยยังมิได้รับข่าวว่าเผยอวี้พาตัวหลิงเสียงกังกลับมา ภายนอกเขาดูสงบ แต่กลับแอบมองไปทางแม่ทัพสือตอนนี้คำให้การของหลิงเสียงกังสำคัญที่สุด หากเขามิมาให้การ คำให้การของพวกท่านอดีตเสน
เถ้าแก่เหอถูกใต้เท้าเถี่ยรัวคำถามใส่ก็พูดมิออก เหงื่อเย็นพลันผุดออกมาเต็มไปหมด“เถ้าแก่เหอ ข้าไปเยี่ยมชมร้านค้าที่อยู่ใกล้ ๆ กับร้านตั๋วเงินมาแล้ว ทั้งยังมีผู้ที่อยู่แถวนั้นอีกหลายสิบคน วันที่ในสมุดบัญชีเจ้าบันทึกว่าหลี่ต้าหนิวไปฝากเงินสองแสนไว้ ไม่มีผู้ใดเห็นหลี่ต้าหนิวมาฝากเงินเลย!”“สองแสนนี้มาโผล่ในสมุดบัญชีอย่างน่าประหลาดได้อย่างไร?”“หรือเจ้ามิพอใจหลี่ต้าหนิวจึงจงใจปลอมแปลงบัญชีเพื่อกล่าวหาเท็จว่าเขาทุจริต?”เถ้าแก่เหอทนมิไหวอีกต่อไปแล้วจึงตะโกนออกไป “ใต้เท้าเถี่ย ข้าหรือจะกล้ากล่าวหาหลี่ต้าหนิวอย่างเป็นเท็จ มีคนที่รูปร่างหน้าตาดูเหมือนหลี่ต้าหนิวเอาตั๋วเงินของร้านตั๋วเงินไท่เหอมาที่ร้านตั๋วเงินสี่หลายแล้วฝากในชื่อของหลี่ต้าหนิวจริง ๆ ขอรับ!”“ตอนนั้นเขาใช้ตั๋วเงิน ย่อมไม่มีทางที่จะมีคนมาขนย้าย!”“คล้ายหลี่ต้าหนิว มิได้หมายความว่าคนที่มาฝากเงินคือหลี่ต้าหนิว เงินนี้ก็มีความเป็นไปได้ว่ามีคนจงใจใช้ชื่อเขาฝากเงินเพื่อใส่ร้ายหลี่ต้าหนิว ใช่หรือไม่?”“ขอรับ!” เถ้าแก่เหอทำได้เพียงยอมรับ“เรื่องนี้หยุดไว้ก่อน ตอนนี้ข้าจะไต่สวนเรื่องที่พวกเจ้าฟ้องร้องว่าหลี่ต้าหนิวทุจริตเงินก่อสร
คนที่จ้าวหรุ่ยหรุ่ยสั่งการล้วนปะปนอยู่ในฝูงชน เมื่อเห็นคนนั้นกระโดดออกมาฟ้องร้องหลี่ต้าหนิว ก็มีคนตามกันออกมา“ใต้เท้าเถี่ยทำเพื่อฮองเฮา จึงจงใจปกปิดหลี่ต้าหนิว!”“สังหารหลี่ต้าหนิว ลงโทษฮองเฮาสถานหนัก ถอดถอนฮองเฮา!”“ถอดถอนฮองเฮา!”เสียงคัดค้านเหล่านั้นแหลมสูงขึ้นเรื่อย ๆ“เงียบ!”แม่ทัพสือตะโกนขึ้นมาอีกครั้ง พลางตะคอกเสียงแข็ง “ใต้เท้าเถี่ยกำลังไต่สวน ห้ามพวกเจ้าเอะอะเสียงดัง มิเช่นนั้นจะถูกลงโทษที่ส่งเสียงดัง!”“เกรียงไกร...”ทหารกองทัพหลงที่อยู่รอบ ๆ ตะโกนขึ้นมาโดยพร้อมเพรียงกันบรรยากาศที่ทรงอำนาจและหอกที่ส่องประกายในมือพวกเขาปรามให้คนที่โวยวายจำนวนมากมิกล้าพูดคนหนึ่งคิดว่าแม่ทัพสือมิกล้าสังหารตนต่อหน้าคนจำนวนมากเช่นนี้ จึงตะโกนขึ้นมา“ใต้เท้าเถี่ยตัดสินคดีมิยุติธรรม ยังมิให้เราเอ่ยทวงความยุติธรรมอีกหรือ? พวกเราเรียกร้องให้เปลี่ยนตัวใต้เท้าเถี่ยแล้วไต่สวนคดีนี้ใหม่อีกครั้ง!เซียวหลินเทียนสีหน้าเรียบนิ่งลง นี่มิได้กำลังท้าทายใต้เท้าเถี่ย แต่กำลังท้าทายอำนาจของตน!เขามองแม่ทัพสือ แม่ทัพสือจึงโบกมือทันที จากนั้นทหารกองทัพหลวงหลายคนก็พุ่งไปข้างหน้าแล้วกดคนผู้นั้นลงกับพื้