ชิวเหวินซวงที่ฟังอยู่ด้านข้างคอยสังเกตท่าทีของเซียวหลินเทียน เมื่อเห็นท่าทางตกตะลึงของเซียวหลินเทียน ชิวเหวินซวงก็สังหรณ์ใจได้ว่าไม่ดีแล้ว! นางมองไปยังหลิงอวี๋ด้วยความตื่นตกใจ! หญิงผู้นี้เปลี่ยนแปลงมากเกินไป! ก่อนหน้านั้นหลิงอวี๋จะมีคารมคมคายดีอย่างนี้ได้อย่างไรกัน! ชิวเหวินซวงอาศัยที่เซียวหลินเทียนมิได้สังเกตเห็นตน รีบขยิบตาให้กับหลิงหลานและหลิงผิง หลิงผิงถูกคำพูดของหลิงอวี๋ที่ให้ตื่นตะลึงเข้า! นางติดตามหลิงอวี๋มานานถึงเพียงนี้ มิเคยพบว่าหลิงอวี๋จะสามารถเอ่ยออกมาเช่นนี้ได้! นางไม่รู้เลยว่าจะต้องหักล้างหลิงอวี๋กลับจากที่ใด! หลิงหลานสามารถอดกลั้นได้มากกว่าหลิงผิง นางฟังไป พลางทั้งคิดวิธีตอบโต้กลับ เมื่อเห็นว่าเซียวหลินเทียนกำลังจะล่าถอยไป ในใจของหลิงหลานก็เคลื่อนไหวขึ้นมา นึกออกแล้ว! หลิงหลานแสร้งหวาดกลัวเอ่ยออกมา “พระชายา ทำไมท่านถึงได้พูดจาได้เก่งกาจ พวกเราฝีปากไม่ดีสู้ท่านไม่ได้!” “ทว่าความจริงอย่างไรเสียก็คือความจริง! ต่อให้ท่านจะเอ่ยออกมาได้น่าฟังเพียงใด ก็มิอาจปิดบังความจริงที่ท่านทรยศท่านอ๋องไปได้!” “ท่านอ๋อง… พวกบ่าววันนี้ต่อให้จะต้องออกไป!” “เพื่อไ
อย่ารังแกเด็กและคนจน! อย่าบีบบังคับผู้คนขึ้นเขาเหลียงซาน!(1) เพราะว่าเจ้าจะไม่มีทางรู้เลยว่า คนที่สิ้นหวังหมดหนทางแล้วจะระเบิดพลังอันน่าตื่นตกใจเพียงใดออกมา หลิงอวี๋ได้ยินเสียงร้องเรียกเสียดแทงหัวใจของเสี่ยวเมา ก็เหมือนราวกับถูกกระตุ้นขึ้นมาอีกครั้ง นางจ้องมองไปยังเซียวหลินเทียนอย่างดุร้าย ชายหนุ่มในชุดสีน้ำเงินเข้มที่นั่งอยู่บนรถเข็น ใบหน้าหล่อเหลาสูงส่งราวกับเทพเจ้า ผู้ควบคุมอำนาจแห่งความเป็นตายเอาไว้! ต่อให้เขาจะใช้แรงเพิ่มมากขึ้น นางหลิงอวี๋ก็จะสู้จนสุดแรงจนกว่าจะตายไป! หลิงอวี๋คนก่อนหน้านั้นตายไปในมือของเซียวหลินเทียนแล้วครั้งหนึ่ง! หรือว่าครั้งนี้ ชีวิตของนางเองก็จะถูกทำลายด้วยน้ำมือของเขาอีกครั้ง! ไม่! ไม่ควรจะมีจุดจบเช่นนี้! ดวงตาคู่งามของหลิงอวี๋ระเบิดความดื้อรั้นของนางในชาติที่แล้วออกมา! ชายสารเลว เจ้าไม่ยอมให้ข้าได้มีชีวิตดี ๆ ครั้งแล้วครั้งเล่า เช่นนั้นก่อนที่ข้าจะตาย ก็จะต้องลากเจ้าลงนรกไปด้วย! หลิงอวี๋คลำมีดผ่าตัดที่แอบเอาไว้ตรงช่วงเอว ไม่สนใจแส้ที่พันอยู่ตรงลำคอ กระโจนไปยังเบื้องหน้าอย่างแรง... ปลายมีดที่แหลมคมตกลงบนลำคอของเซียวหลินเทียน นางกร
หลิงอวี๋ไม่ได้ป้องกันเลยแม้แต่น้อย ถูกทุบตีไปเช่นนี้จนกระเด็นลอยออกไป พลันพ่นเลือดออกมาพลางอากาศ “ปัง!” ร่างกายที่ผอมบางของหลิงอวี๋กระแทกลงบนพื้นอย่างแรง ก่อนจะกระอักเลือดสดออกมาเป็นจำนวนมาก! หลิงอวี๋รู้สึกได้ว่าทั่วทั้งร่างพังทลายลง ดวงตามือดำ แล้วสลบไป เรื่องที่เกิดขึ้นในขณะนี้เร็วเกินไป เร็วจนแม้แต่เซียวหลินเทียนเองก็ไม่ทันได้คาดคิด เขาและทุกคนต่างพากันตกตะลึง มีเพียงชิวเฮ่าเท่านั้นที่คุกเข่าลงบนพื้นข้างหนึ่ง เอ่ยยอมรับผิดอย่างสงบนิ่ง “ท่านอ๋องได้โปรดยกโทษให้กระหม่อมด้วย! สถานการณ์เร่งด่วน ข้าน้อยเกรงว่าหลิงอวี๋ที่คลุ้มคลั่งจะปลงพระชนม์ท่านเข้า จึงได้ฉวยโอกาสจัดการนาง! ข้าน้อยยินดีรับโทษผิดพ่ะย่ะค่ะ!” “ท่านอ๋อง ท่านพี่เองก็ทำอะไรมิได้เช่นกันเพคะ! เมื่อครู่นี้ทุกคนต่างก็ตื่นตกใจ...ต่างก็พากันคิดว่าพระชายาปลงพระชนม์ท่านอ๋อง!” ชิวเหวินซวงรีบวางเสี่ยวเมาลง คุกเข่าลงด้านหน้าของเซียวหลินเทียนเพื่อร้องขอชีวิต เซียวหลินเทียนเม้มริมฝีปาก ชิวเฮ่ามีใจปกป้องเจ้านาย เขาจะกล่าวโทษชิวเฮ่าได้อย่างไร! เขามองไปยังหลิงอวี๋ที่ยังคงนอนอยู่บนพื้น จู่ ๆ ก็รู้สึกเหนื่อยเล็กน้อย ยกมือข
หลิงอวี๋ไม่เข้าใจในสถานการณ์ที่เกิดขึ้น นางมาที่ใดกัน?นางหันไปมองรอบ ๆ ก็มองเห็นสมุนไพรหลายชนิดที่เติบโตในหมู่วัชพืช ด้านบนนั้นยังมีดอกไม้เล็ก ๆ สีม่วงอยู่สองสามดอกสมุนไพรเหล่านั้นดูคุ้นตา…หลิงอวี๋ปีนขึ้นไปอย่างยากลำบากไม่ผิดแน่ เป็นที่แห่งนั้นที่นางและปู่ไปขุดค้นหญ้าวานรมาจากทางตอนใต้!ว่ากันว่า ลิงจะได้รับบาดเจ็บอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ก็จะนำสมุนไพรชนิดนี้คาบเอาไว้ในปาก สามารถเสริมสร้างกระดูก สร้างเส้นเอ็น และผิวหนังน่าเสียดายที่ในตอนนั้นพวกเขาขุดมาเพียงแค่ไม่กี่ต้นเท่านั้นเมื่อกลับมา คุณปู่เป็นเพราะว่าเกิดอุบัติเหตุระหว่างทาง บาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิตไปทันทีรอจนเมื่อหลิงอวี๋ฟื้นคืนจากความเจ็บปวด ก็เป็นเวลาหนึ่งเดือนแล้ว หญ้าวานรนั่นและกระเป๋าเดินทางหายไปเพราะอุบัติเหตุ…ไม่คิดเลยว่าจะยังพบเห็นได้ที่นี่ฟ้าไม่ได้ลืมข้า!หลิงอวี๋ไม่สนใจอะไรมากนัก ดึงหญ้าวานรออกมาสองต้น ขยี้มันแล้วยัดใส่ปากหวังว่าหญ้าวานรจะมีผลชุบชีวิตขึ้นมาจริง ๆ !หลิงอวี๋เคี้ยวหญ้าวานรที่ทั้งขมและฝาด ก่อนจะผล็อยหลับไปและไม่รู้ว่านอนไปนานเท่าไหร่…“ท่านแม่…”มือเล็กร้อนคู่หนึ่งลูบลงบนใบหน้าของหล
หลิงอวี๋ทำการรักษาซ่อมแซมตรงส่วนกระดูกซี่โครงให้เสี่ยวเมาอีกครั้ง นี่เป็นเพียงแค่การแก้ไขเท่านั้น นางจึงไม่ได้ใช้ยาชากับเสี่ยวเมาเสี่ยวเมาก็ทนเจ็บให้หลิงอวี๋รักษาให้อย่างว่าง่ายเขาไม่มีการร้องใด ๆ ทำเพียงแค่กัดฟันทนไป ปล่อยให้เหงื่อเย็น ๆ หยดลงมาหลิวอวี๋เห็นแล้วก็ปวดใจ แต่ก็แอบชื่นชมอยู่ด้วยเด็กผู้นี้ ยังเด็กแค่นี้ก็สามารถอดทนได้ถึงเพียงนี้ เติบโตไปจะต้องเป็นผู้ชายที่มีอนาคตที่ดีแน่นอน!“ถ้าหากเจ็บมาก เจ้าก็ร้องออกมาเถอะ แม่ไม่หัวเราะเยาะเจ้าหรอก!” นางพูดปลอบใจ“ข้าไม่เจ็บขอรับ!”เสี่ยวเมาพูดอย่างเด็ดเดี่ยว “ท่านแม่ต่างหากที่เจ็บ พวกเขาหวดแส้ใส่ท่านแม่ตั้งห้าสิบแซ่! ท่านแม่ไม่ร้องเลยสักแอะ! เสี่ยวเมาก็จะไม่ร้องเช่นกัน! ”“เสี่ยวเมาอยากเป็นผู้ใหญ่ที่มีจิตใจเด็ดเดี่ยว ท่านลุงปี้บอกว่า ผู้ใหญ่ที่จิตใจเด็ดเดี่ยว เมื่อได้รับบาดเจ็บจะไม่มีทางร้องไห้!”หลิงอวี๋หัวเราะ เจ้าเด็กนี่ ช่างเข้มแข็งนัก!ผู้ชายเฮงซวยอย่างเซียวหลินเทียนผู้นั้น มีลูกชายเช่นนี้ไม่รู้สึกรู้จักภูมิใจ แถมยังไปใจดำสงสัยเขาอีก!ไม่ช้าก็เร็วคนเลวอย่างเซียวหลินเทียนก็จะต้องเสียใจ!ว่าแต่ท่านลุงปี้นี่คือใครกัน?
แม่นมลี่กับหลิงซินเข้าห้องมาเห็นหลิงอวี๋ดูสบายดี กำลังนอนคุยกับเสี่ยวเมาอยู่บนเตียง พวกนางก็ตกตะลึงไป“ฮือ ๆ ...สวรรค์คุ้มครองจริง ๆ ! พระชายาไม่เป็นอะไร! ประเดี๋ยวพวกบ่าวจะไปวัด ไปเพิ่มเงินค่าน้ำมันหอมเสียหน่อยเจ้าค่ะ...”ภายใต้อาการตกใจของแม่นมลี่ นางก็พนมมือ ร้องไห้ขอบพระคุณเทพเจ้าทุกองค์ไปด้วยหลิงอวี๋มองเห็นผ้าเปื้อนเลือดที่พันอยู่บนหัวของแม่นมลี่ ในตอนนั้น แม่นมลี่คำนับต่อเซียวหลินเทียนเพื่อขอร้องให้เขาปล่อยตัวเธอไป!การบาดเจ็บนี้มันเกิดขึ้นจากครั้งนั้นเพื่อนในยามทุกข์ยากนั้นคือเพื่อนแท้ แม่นมลี่ปฏิบัติต่อนางเทียบเท่าแม่แท้ ๆ ของนางได้แล้ว!“แม่นมลี่ เจ้าไม่ได้ติดแผ่นปิดแผลที่ข้าให้เจ้าไปรึ?” หลิงอวี๋จำได้ว่าตัวเองให้อผ่นปิดแผลนางไปสองอันนะติดแผ่นปิดแผลบาง ๆ หนึ่งอันก็พอแล้ว!“แผ่นปิดแผลที่เหลือถูกหลิงหลานแย่งไปให้หลิงผิงแล้วเจ้าค่ะ!”แม่นมลี่บอกอย่างแค้นเคือง“นางชั้นต่ำนั่น แย่งแผ่นปิดแผลของข้าไป!”“บ่าวขอให้นางเอาอาหารให้พวกเรา แต่นางไม่ให้ ทั้งยังสาปแช่งพระชายาอีก บอกว่าไม่ช้าก็เร็วพระชายาก็ต้องตาย อย่าได้ไปสิ้นเปลืองอาหารเลย!”หลิงอวี้หรี่ตาลง อาหารที่นางได้กิน
หลิงอวี๋แย้มรอยยิ้มเย็นชา ต่อไปนี้ นางจะไม่มีทางทนพวกเขาอีกต่อไปแล้ว!ทันทีที่นางตื่นเต้นขึ้นมา ก็รู้สึกวูบวาบที่หน้าอก แล้วกลิ่นคาวเลือดก็ตีขึ้นมาในปาก ยังไม่ทันจะได้ตอบสนองอะไร ปากของนางก็กระอักเลือดสด ๆ ออกมาแม่นมลี่กับเสี่ยวเมาต่างก็ตกใจเสี่ยวเมาจับชายเสื้อของหลิงอวี๋เอาไว้แน่นทันที พลางร้องออกมาอย่างหวาดกลัว “ท่านแม่… อย่าทำให้เสี่ยวเมากลัวสิขอรับ!”แม่นมลี่เองก็รีบพุ่งเข้าไปพยุงหลิงอวี๋ไว้ ตกใจน้ำตารื้น “ทูนหัวของบ่าว! ท่านเป็นอะไรไปเจ้าคะ!”“เจ้าเพิ่งจะบุกออกมาจากประตูมรณะ ร่างกายยังอ่อนแออยู่ รักษาตัวให้ดีก่อนไม่ได้รึ?”“พระชายา… บ่าวไม่เป็นอะไร พระชายาไม่ต้องโกรธแค้นแทนบ่าวหรอกเจ้าค่ะ!”หลิงซินเองก็ตกใจ เข้าไปพยุงหลิงอวี๋คนละข้างกับแม่นมลี่“พระชายาสบายใจเถิดเจ้าค่ะ! ขอเพียงพระชายาสบายดี บ่าวจะได้รับความคับข้องใจบ้างก็ไม่เป็นอะไรหรอกเจ้าค่ะ!”ที่หน้าอกของหลิงอวี๋ยังคงวูบไหวเจ็บปวดอยู่บ้าง ที่มุมปากก็ยังมีเลือดไหลออกมาอีกครั้ง นางพูดอะไรไม่ออก ทำได้เพียงปล่อยให้ทั้งสองคนกดให้นอนลง เสี่ยวเมาใช้มือเล็ก ๆ ดึงนางเอาไว้อย่างกังวล น้ำตาก็ซึมออกมาด้วยความตกใจแต่ก็ค้างอยู่
“ไม่เป็นไร ข้าก็มิได้มีชื่อเสียงอันใดอยู่แล้ว ยังจะต้องกลัวใครหัวเราะเยาะอีกรึ?”หลิงอวี๋ตำหนิ หากจะอายคนที่ต้องอายคือ เซียวหลินเจียน ที่ทำให้พระชายาของตัวเองอับจนถึงขั้นต้องเอาชุดไปขาย!เขาเป็นอ๋องยังไม่กลัวจะอับอายเลย นางจะกลัวทำไมเล่า!“ท่านแม่ ภายภาคหน้าข้าโตแล้ว จะหาเงินให้ได้มาก ๆ มาให้ท่านแม่ซื้อชุดใหม่ ๆ เองขอรับ!”เสี่ยวเมาลูบที่มือของหลิงอวี๋เพื่อปลอบโยนนางหลิงอวี๋ยิ้ม เห็นหลิงซินดูลำบากใจจึงเอ่ย “ไปเถอะ! เชื่อข้า หลังจากผ่านพ้นสองสามวันนี้ไป ข้าจะทำให้ชีวิตของพวกเจ้าดีขึ้นเรื่อย ๆ เอง!”แม่นมลี่ไม่ได้ห้ามอีก นางมองท่าทางที่หลิงอวี๋พูดจายังดูอ่อนแรงอยู่ ก็ยอม ๆ ไปพระชายาเกือบจะสิ้นชีวิตไปแล้ว ยังจะต้องไปสนใจเรื่องของนอกกายกับชื่อเสียงไปทำไมเล่า!แม่นมลี่และหลิงซินเลือกเสื้อผ้าที่มีราคาแพง เมื่อห่อเรียบร้อยแล้วก็ให้หลิงซินเอาออกไปอย่างอาลัยอาวรณ์“พระชายา พักผ่อนก่อนเถิดเจ้าค่ะ บ่าวจะไปล้างครัวเสียหน่อย ข้างในนั้นฝุ่นเขรอะนัก!”แม่นมลี่เดินงก ๆ เงิ่น ๆ ออกไปหลิงอวี๋มองแผ่นหลังของแม่นมอย่างปวดใจ แต่ร่างกายนางอ่อนแอ ไม่สามารถไปช่วยได้จึงทำได้เพียงให้แม่นมลี่ทำไปก
“บริเวณโดยรอบมีต้นไม้สูงใหญ่อยู่มาก ท่านขึ้นไปบนต้นไม้สักต้น พวกเราต้องดูก่อนว่านี่มันคือสัตว์ประหลาดอะไรกันแน่”หลิงอวี๋ชี้แนะเซียวหลินเทียนก็มิพูดพร่ำทำเพลง เขาเชื่อมั่นหลิงอวี๋โดยไม่มีเงื่อนไข แล้วหยิบตะบันไฟออกมาส่งให้หลิงอวี๋ จากนั้นก็อุ้มหลิงอวี๋กระโดดขึ้นไปยืนอยู่บนต้นไม้สูงหลิงอวี๋จึงรีบจุดไฟแล้วมองลงไป สัตว์ประหลาดตัวนั้นไล่ตามมาที่ใต้ต้นไม้แล้ว และมันก็กำลังเงยหน้ามองขึ้นมาด้วยมันเหลือตาเพียงข้างเดียว และกำลังจ้องมองขึ้นมาด้วยสายตาเย็นเยือกแสงสว่างจากตะบันไฟมีอยู่จำกัด หลิงอวี๋มองเห็นเพียงดวงตาที่ถูกซ่อนอยู่ภายใต้ขนที่ยุ่งเหยิงของมันเท่านั้น“ฮึ่ม…”สัตว์ประหลาดส่งเสียงออกมา แล้วก็ถอยหลังไปหลิงอวี๋มองเจตนาของมันออกในทันทีที่สัตว์ประหลาดถอยหลังไปมิได้วางแผนที่จะยอมแพ้ แต่เพื่อรวบรวมพลังจะมาพุ่งชนต้นไม้ให้หักต่างหาก“ที่นี่มิปลอดภัย หนีเร็ว!”ทันทีที่หลิงอวี๋พูดจบ สัตว์ประหลาดตัวนั้นก็พุ่งกลับมา มิรู้ว่ามันเกิดมาพร้อมพลังเหนือธรรมชาติหรืออย่างไร ได้ยินเพียงเสียงไม้หัก...ต้นไม้ต้นหนาถูกสัตว์ประหลาดโจมตีจนหักไปแล้วเมื่อเซียวหลินเทียนได้ยินเสียงร้องของหลิงอวี๋
หลิงอวี๋หลบมิทัน จึงถูกสัตว์ประหลาดกระโจนใส่จนหงายหลังไป แล้วสัตว์ประหลาดตัวนั้นก็อ้าปากจะพุ่งไปกัดคอของหลิงอวี๋หลิงอวี๋มองมิชัดในความมืด จึงเห็นเพียงดวงตาสีเขียวที่มีขนาดใหญ่เท่ากับระฆังทองแดงของสัตว์ประหลาดอยู่ใกล้แค่เอื้อม ลมหายใจร้อน ๆ ที่มันพ่นออกมาทั้งคาวทั้งเหม็น จนทำให้หลิงอวี๋รู้สึกอยากจะอาเจียนออกมาก่อนหน้านี้หลิงอวี๋คว้าหินก้อนหนึ่งไว้ในมือ เมื่อรู้สึกถึงลมหายใจร้อนใกล้เข้ามา นางก็ยัดก้อนหินเข้าไปโดยมิคิดทันทีจากนั้นมืออีกข้างที่ถือกริชมาตลอดก็แทงไปที่ดวงตาสีเขียวนั้นอย่างโหดร้าย“โฮก…”สัตว์ประหลาดมีหรือจะคาดคิดว่าหลิงอวี๋จะกล้าต่อต้านมันในเวลานี้ ในระยะที่ใกล้เช่นนี้ ดวงตาของมันจึงถูกหลิงอวี๋แทงเข้าไปเต็ม ๆในปากของมันก็มีหินที่หลิงอวี๋ยัดเข้าไปอุดไว้ และดวงตาของมันก็ถูกแทงจนบาดเจ็บ ขาหน้าที่มันกระโจนเข้ามาจึงเด้งตัวลุกขึ้นยืนในทันทีสัตว์ประหลาดตัวนั้นส่ายหัว แล้วคายก้อนหินออกมา จากนั้นก็ไปไล่กัดหลิงอวี๋อย่างบ้าคลั่งหลิงอวี๋อาศัยตอนที่มันเด้งตัวลุกขึ้นแล้วกลิ้งหนีไปด้านข้าง หลบเลี่ยงมันออกไปนางสั่นไปทั้งตัว การโจมตีเมื่อครู่มิใช่ว่านางมิกลัว เพียงแต่มันเกี่ย
“จริงหรือ?”ผู้รอบรู้มีหรือจะคาดคิดว่าหญ้าที่มีดอกสีขาวธรรมดานี้จะมีมูลค่าถึงเพียงนี้ เขาจึงรีบพุ่งเข้าไปเก็บทันที“ยังมีอีกหรือไม่? หากหาเจอได้มาก ๆ ก็มิต้องกังวลว่าจะไม่มีเงินซื้อยาให้เจ้าแล้ว!”ผู้รอบรู้มองไปรอบ ๆ อย่างตื่นเต้นหลิงอวี๋มองผู้รอบรู้ แล้วจู่ ๆ ก็เกิดความรู้สึกซาบซึ้งขึ้นมาพี่ชายบุญธรรมที่เพิ่งรู้จักกันมินานมานี้ ในตอนที่เสือกระโจนใส่ตนก็พุ่งเข้ามาช่วยตนไว้โดยมิหลีกเลี่ยงในตอนนี้เมื่อพบสมุนไพรที่มีมูลค่า สิ่งแรกที่เขานึกถึงก็คือการซื้อยาให้ตน เขามิเคยคิดว่าเมื่อมีเงินแล้วจะนำไปใช้ชีวิตดี ๆ เลยการได้รู้จักพี่ชายผู้นี้ช่างคุ้มค่าจริง ๆ!หลิงอวี๋แอบสาบานว่า ในภายภาคหน้านางจะต้องใช้สิ่งที่ตนได้เรียนรู้มา ทำให้ผู้รอบรู้ได้ใช้ชีวิตที่ดีอย่างแน่นอน“พี่ใหญ่ หากเครื่องยาสมุนไพรล้ำค่าเช่นนี้มีอยู่เต็มภูเขา เช่นนั้นก็คงจะไร้ค่าไปแล้ว!”“สิ่งนี้สามารถเก็บได้! ถึงแม้มูลค่าจะมิได้เท่าช่อสัตตะดารา แต่ก็สามารถขายได้หลายหมื่นทีเดียว!”หลิงอวี๋ให้คำแนะนำ ทำให้ผู้รอบรู้มีความสุขขึ้นมาผู้รอบรู้ตามหลิงอวี๋ไปอย่างมีความสุข หลิงอวี๋ให้เก็บอะไรเขาก็เก็บสิ่งนั้นหลิงอวี๋ให้เข
“อย่างไร?”เผยอวี้และเถาจื่อต่างมองไปทางฉินซานฉินซานจึงเอ่ยออกมา “กระหม่อมสังเกตเห็นว่าพลังของฮองเฮานั้นต่ำมาก ทั้งยังลืมพวกเราไปแล้วด้วย นี่คือเหตุจากการถูกปิดผนึกพ่ะย่ะค่ะ! หากพวกเราสามารถหาคนมาช่วยพระนางปลดผนึกไปได้ ฮองเฮาก็จะจำพวกเราได้แล้วมิใช่หรือพ่ะย่ะค่ะ?”“ก็เหมือนกับเสวี่ยเหมยก่อนหน้านี้ ตอนนั้นนางก็จำพวกเรามิได้ แต่เพราะขันทีโม่ช่วยปลดผนึกให้นาง นางจึงจำอดีตขึ้นมาได้!”เซียวหลินเทียนยิ้มขมขื่น “หากพวกเราบอกนางไปตามตรงว่านางถูกปิดผนึก เจ้าคิดว่านางจะยอมให้เราปลดให้กับนางแต่โดยดีหรือ?”“มิแน่ว่า นางอาจจะคิดว่าพวกเราปิดผนึกนาง แล้วหนีไปเร็วยิ่งกว่าเดิมก็ได้!”เถาจื่อพยักหน้าอย่างเห็นด้วย “นับตั้งแต่ที่ฮองเฮาถูกจ้าวหรุ่ยหรุ่ยพาตัวไป ทุกคนที่พระนางพบล้วนเป็นคนที่ต้องการจะทำร้ายพระนาง”“เก๋อฮุ่ยหนิงตอบแทนบุญคุณด้วยความแค้น เหมียวหยางก็อาศัยอำนาจมารังแก ส่วนหยางหงหนิงก็มิได้มีเจตนาที่ดีต่อพระนางอีก เมื่อได้เผชิญหน้ากับคนเหล่านี้แล้ว พระนางไม่มีทางไว้ใจพวกเราง่าย ๆ แน่!”เซียวหลินเทียนสนใจกับคำพูดของเถาจื่อ แล้วเอ่ยด้วยเสียงทุ้ม “มีหนึ่งคนที่เป็นข้อยกเว้น!”เขามองลงไปในเหว
พวกเซียวหลินเทียนรีบดึงเถาวัลย์ขึ้นมาอย่างรวดเร็ว และเมื่อพวกเขาเห็นข้อความของหลิงอวี๋ ก็รู้สึกโล่งใจแต่เซียวหลินเทียนสังเกตเห็นจากหางตาว่ามีคำสองคำเขียนด้วยอักษรแบบย่อนี่คือความเคยชินเล็ก ๆ ของหลิงอวี๋ ตอนนั้นเซียวหลินเทียนเคยล้อเลียนหลิงอวี๋ว่าขี้เกียจ มิเขียนตัวอักษรให้สมบูรณ์แต่หลิงอวี๋กลับเอ่ยออกมาอย่างมิเห็นด้วย ‘ท่านมิคิดหรือเพคะว่าการเขียนเช่นนี้สะดวกกว่า? ราษฎรจำนวนมากมิรู้หนังสือ ก็เพราะอักษรหลายตัวมีขีดเยอะและเรียนรู้ได้ยากเพคะ!’‘หากทำให้กระชับลงเช่นนี้ เด็ก ๆ ก็จะเรียนรู้ได้ง่าย และราษฎรที่มิรู้หนังสือก็จะจำได้ง่ายด้วยเพคะ!’‘เซียวหลินเทียน เมื่อสถานการณ์ราชสำนักมั่นคงแล้ว ท่านควรส่งเสริมให้บรรดาครูปฏิวัติการเขียนตัวอักษรเพคะ เขียนตัวอักษรให้กระชับ ทำให้ราษฎรอ่านออกเขียนได้มากขึ้นด้วย!’เหอะ ๆ!เซียวหลินเทียนมองอักษรที่กระชับสองตัวนั้น พลางคิดถึงคำพูดของหลิงอวี๋ แล้วก็อดมิได้ที่จะหัวเราะออกมา“นายท่านอู่ ท่านหัวเราะอะไรหรือ?”เผยอวี้เอ่ยถามอย่างแปลกใจ“พวกเจ้าดูเถิด นี่คือหลักฐานที่ดีที่สุด! สิงอวี๋ก็คือหลิงอวี๋!”เซียวหลินเทียนยื่นข้อความให้กับเผยอวี้ พร้อมก
เมื่อทุกคนร่วมแรงร่วมใจกัน เวลาหนึ่งชั่วยามก็ผูกบันไดให้ยาวเพียงพอได้แล้ว เซียวหลินเทียนจึงช่วยหลิงอวี๋วางบันไดลงไปบันไดเหล่านั้นจมเข้าไปในหมอกหนา และมิรู้ด้วยว่าเพียงพอไปถึงด้านล่างหน้าผาหรือไม่“ข้าจะลงไปดู!”เซียวหลินเทียนจับบันไดให้มั่นคงแล้วเอ่ยออกมา“ไม่ ข้าจะลงไป!”หลิงอวี๋หยุดเขาไว้แล้วเอ่ยออกมา “ข้าน้ำหนักเบากว่าท่าน บันไดสามารถรับน้ำหนักข้าได้!”“อีกอย่าง ในหมอกหนาทึบเหล่านั้นมิรู้ว่ามีพิษอยู่หรือไม่ ข้ามีความรู้เรื่องทักษะการแพทย์ ข้าสามารถปรับตามสถานการณ์ได้!”เมื่อหลิงอวี๋เอ่ยเช่นนี้ พวกเผยอวี้ก็คิดว่าสมเหตุสมผลดี“ศิษย์พี่หญิง เช่นนั้นเจ้าระวังตัวด้วย พวกเราจะรออยู่ข้างบน หากเจ้าเจอพี่ชายของเจ้า ก็ส่งสัญญาณมา พวกเราจะดึงพวกเจ้าขึ้นมาเอง!”เถาจื่อกำชับ“อืม เช่นนั้นข้าลงไปแล้ว!”แล้วหลิงอวี๋ก็ไต่บันไดลงไปทีละขั้น ๆเซียวหลินเทียนมองอยู่ด้านข้างอย่างกังวล มิรู้ว่าบันไดนี้ปลอดภัยหรือไม่ คงจะมิพังลงกลางคันกระมัง!“พวกเจ้านำเถาวัลย์เหล่านั้นมาต่อเข้าด้วยกันเสีย หากบันไดยาวมิพอ จะได้สามารถใช้ได้!”เซียวหลินเทียนเอ่ยออกมา แล้วเผยอวี้กับเถาจื่อก็รีบต่อเถาวัลย์แรก
ในบรรดาคนเหล่านี้ นอกจากหลิงอวี๋ที่มีพลังต่ำแล้ว คนอื่น ๆ ล้วนเป็นยอดฝีมือทั้งสิ้น บางคนก็ใช้กระบี่ บางคนก็ใช้มีด ในเวลามินานที่ขอบหน้าผาก็มีกองเถาวัลย์อยู่กองหนึ่ง“พวกเจ้าตัดไป ข้าจะทำบันไดเอง!”หลิงอวี๋ถอดเสื้อคลุมออก จากนั้นก็ฉีกจนเป็นผ้าเส้น ๆ แล้วนำมามัดกับเถาวัลย์ไว้เมื่อเถาจื่อเห็นว่าเถาวัลย์กองอยู่มาก จึงมาผูกเถาวัลย์กับหลิงอวี๋ด้วย“ศิษย์พี่หญิง เจ้าต้องการเท่าใดก็บอกมาได้ พวกพี่ชายของข้ามีกำลังเหลือเฟือ! จัดการให้เจ้าได้สบาย!”เถาจื่อเริ่มต้นพูดคุยกับหลิงอวี๋“ขอบคุณ!”ในใจของหลิงอวี๋มีความระแวงคนพวกนี้อยู่แล้ว จึงมิได้พูดอะไรมากแล้วก้มหน้ามัดต่อไปแม้ว่าเซียวหลินเทียนจะกังวลมาก เพราะเขาต้องการลงจากภูเขาไปตามหาหลิงอวี๋ที่จัตุรัสเมืองหลวงแดนเทพแต่เส้นทางลงจากภูเขาล้วนถูกตระกูลเฉียวหรือแม้แต่คนของมหาปราชญ์ปิดกั้นไว้หมดแล้ว หากเขาลงจากภูเขาไปในเวลานี้ จะต้องถูกตรวจสอบอย่างเข้มงวดแน่นอน เขาจึงทำได้เพียงเลื่อนออกไปก่อนก่อนหน้านี้ตอนที่ฉินซานมาที่เมืองหลวงแดนเทพ เขาได้ทำแขนเทียมครึ่งหนึ่งมาใส่แขนข้างที่ขาดไว้ เพื่อหลีกเลี่ยงการเปิดเผยตัวตน หลังจากที่สับเถาวัลย์ด้วยแขน
“ศิษย์พี่หญิง ทางลงเขาถูกปิดกั้นไปแล้ว ตอนนี้พวกเราออกไปมิได้ แกล้งทำเป็นช่วยพวกเขาจับตัวคนกันไปก่อนเถิด!”เมื่อเถาจื่อเห็นพวกจ้าวหรุ่ยหรุ่ยเดินไปข้างหน้า นางจึงดึงหลิงอวี๋เดินไปส่วนหลิงอวี๋ที่ล้มเลิกการแก้แค้น เพราะกังวลเรื่องความเป็นความตายของเถาจื่อและคนอื่น ๆ ก็รู้สึกอึดอัดเล็กน้อย จึงสะบัดมือของเถาจื่อออกแล้วเอ่ยออกไปอย่างเย็นชา“เรื่องที่เจ้าให้ข้าทำข้าก็ทำให้แล้ว ข้าจะไปตามหาพี่ชายของข้า! เจ้าอย่าได้ตามข้ามา และอย่าได้คิดที่จะขู่ข้าอีก มิเช่นนั้นก็อย่ามาโทษว่าข้าไร้ความปรานี!”หลังจากพูดจบแล้ว หลิงอวี๋ก็เดินตรงไปอีกทางหนึ่ง“ศิษย์พี่หญิง!”เถาจื่อรู้สึกกระอักกระอ่วนเป็นอย่างมาก นางรู้ว่าคำพูดที่ตนขู่สิงอวี๋ไปเมื่อครู่นั้นทำให้นางโกรธเสียแล้วที่สิงอวี๋ช่วยก็เพียงเพราะนางมิอาจทนเห็นคนมากมายต้องตายไปก็เท่านั้น“ข้าจะไปตามหาด้วยกันกับเจ้า! ข้าสาบานว่าข้าจะไม่มีทางทำร้ายเจ้าเด็ดขาด!”เถาจื่อพูดแล้วก็รีบหยิบตั๋วเงินออกมายัดให้หลิงอวี๋อย่างรวดเร็ว “ศิษย์พี่หญิง ข้าขอโทษ เมื่อครู่ข้าร้อนใจจึงขู่เจ้าไป แต่ข้ามิได้คิดจะสังหารเจ้าจริง ๆ นะ!”“นายหญิงของข้าเป็นคนจิตใจดี นางสอนพว
หลิงอวี๋ตะลึงกับคำพูดของเถาจื่อไปครู่หนึ่ง ตอนนี้นางจึงได้รู้ว่าเรื่องที่เถาจื่อขอให้ตนทำนั้นสำคัญมากเพียงใดนางสามารถวางยาพิษสังหารเซียวหลินเทียนได้ แต่ในขณะเดียวกัน ตัวตนของเซียวหลินเทียนก็มิอาจปกปิดได้เช่นกันเช่นนั้นเถาจื่อและคนที่อยู่ในคฤหาสน์อู่ทุกคนก็จะหนีมิทัน และจะต้องถูกมหาปราชญ์สังหารจนหมดสิ้นอย่างแน่นอน!เซียวหลินเทียนสังหารลูกชายของตน แต่ชีวิตของคนจำนวนมากมายเหล่านั้นล้วนเป็นผู้บริสุทธิ์ หากนางวางยาพิษสังหารเซียวหลินเทียน ก็จะเป็นการสังหารคนเหล่านั้นทางอ้อมไม่มีเวลาให้หลิงอวี๋ได้คิดแล้ว เซียวหลินเทียนพี่ใหญ่ของเถาจื่อมุดตัวออกมาจากพุ่มไม้แล้วเซียวหลินเทียนพบว่าตนตกหลุมพรางแผนการร้ายของจ้าวหรุ่ยหรุ่ยและเช่นเดียวกับที่เถาจื่อพูดไปเมื่อครู่ เขาสามารถอาศัยวรยุทธ์ของตนหนีไปจากภูเขาหมางหลิ่งเพียงลำพังได้แต่เผยอวี้ ฉินซานและผู้คุ้มกันของคฤหาสน์อู่ที่พามาด้วย ก็จะถูกเปิดเผยตัวตนเพราะเหตุนี้ และจะต้องถูกมหาปราชญ์ล้อมโจมตีเป็นแน่เซียวหลินเทียนจะปล่อยให้เผยอวี้และคนอื่น ๆ ต้องลำบากเพราะตนเพียงผู้เดียวได้อย่างไร ดังนั้นในความเร่งรีบเขาจึงนึกถึงสิงอวี๋ขึ้นมาสิงอวี๋มีความ