Share

บทที่ 32

Author: กานเฟย
แม่นมลี่กับหลิงซินเข้าห้องมาเห็นหลิงอวี๋ดูสบายดี กำลังนอนคุยกับเสี่ยวเมาอยู่บนเตียง พวกนางก็ตกตะลึงไป

“ฮือ ๆ ...สวรรค์คุ้มครองจริง ๆ ! พระชายาไม่เป็นอะไร! ประเดี๋ยวพวกบ่าวจะไปวัด ไปเพิ่มเงินค่าน้ำมันหอมเสียหน่อยเจ้าค่ะ...”

ภายใต้อาการตกใจของแม่นมลี่ นางก็พนมมือ ร้องไห้ขอบพระคุณเทพเจ้าทุกองค์ไปด้วย

หลิงอวี๋มองเห็นผ้าเปื้อนเลือดที่พันอยู่บนหัวของแม่นมลี่ ในตอนนั้น แม่นมลี่คำนับต่อเซียวหลินเทียนเพื่อขอร้องให้เขาปล่อยตัวเธอไป!

การบาดเจ็บนี้มันเกิดขึ้นจากครั้งนั้น

เพื่อนในยามทุกข์ยากนั้นคือเพื่อนแท้ แม่นมลี่ปฏิบัติต่อนางเทียบเท่าแม่แท้ ๆ ของนางได้แล้ว!

“แม่นมลี่ เจ้าไม่ได้ติดแผ่นปิดแผลที่ข้าให้เจ้าไปรึ?” หลิงอวี๋จำได้ว่าตัวเองให้อผ่นปิดแผลนางไปสองอันนะ

ติดแผ่นปิดแผลบาง ๆ หนึ่งอันก็พอแล้ว!

“แผ่นปิดแผลที่เหลือถูกหลิงหลานแย่งไปให้หลิงผิงแล้วเจ้าค่ะ!”

แม่นมลี่บอกอย่างแค้นเคือง

“นางชั้นต่ำนั่น แย่งแผ่นปิดแผลของข้าไป!”

“บ่าวขอให้นางเอาอาหารให้พวกเรา แต่นางไม่ให้ ทั้งยังสาปแช่งพระชายาอีก บอกว่าไม่ช้าก็เร็วพระชายาก็ต้องตาย อย่าได้ไปสิ้นเปลืองอาหารเลย!”

หลิงอวี้หรี่ตาลง อาหารที่นางได้กิน
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App
Comments (1)
goodnovel comment avatar
ชิดหทัย กฤษวี
ความเป็นธรรมอยู่ที่ไหนเนี่ย
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 33

    หลิงอวี๋แย้มรอยยิ้มเย็นชา ต่อไปนี้ นางจะไม่มีทางทนพวกเขาอีกต่อไปแล้ว!ทันทีที่นางตื่นเต้นขึ้นมา ก็รู้สึกวูบวาบที่หน้าอก แล้วกลิ่นคาวเลือดก็ตีขึ้นมาในปาก ยังไม่ทันจะได้ตอบสนองอะไร ปากของนางก็กระอักเลือดสด ๆ ออกมาแม่นมลี่กับเสี่ยวเมาต่างก็ตกใจเสี่ยวเมาจับชายเสื้อของหลิงอวี๋เอาไว้แน่นทันที พลางร้องออกมาอย่างหวาดกลัว “ท่านแม่… อย่าทำให้เสี่ยวเมากลัวสิขอรับ!”แม่นมลี่เองก็รีบพุ่งเข้าไปพยุงหลิงอวี๋ไว้ ตกใจน้ำตารื้น “ทูนหัวของบ่าว! ท่านเป็นอะไรไปเจ้าคะ!”“เจ้าเพิ่งจะบุกออกมาจากประตูมรณะ ร่างกายยังอ่อนแออยู่ รักษาตัวให้ดีก่อนไม่ได้รึ?”“พระชายา… บ่าวไม่เป็นอะไร พระชายาไม่ต้องโกรธแค้นแทนบ่าวหรอกเจ้าค่ะ!”หลิงซินเองก็ตกใจ เข้าไปพยุงหลิงอวี๋คนละข้างกับแม่นมลี่“พระชายาสบายใจเถิดเจ้าค่ะ! ขอเพียงพระชายาสบายดี บ่าวจะได้รับความคับข้องใจบ้างก็ไม่เป็นอะไรหรอกเจ้าค่ะ!”ที่หน้าอกของหลิงอวี๋ยังคงวูบไหวเจ็บปวดอยู่บ้าง ที่มุมปากก็ยังมีเลือดไหลออกมาอีกครั้ง นางพูดอะไรไม่ออก ทำได้เพียงปล่อยให้ทั้งสองคนกดให้นอนลง เสี่ยวเมาใช้มือเล็ก ๆ ดึงนางเอาไว้อย่างกังวล น้ำตาก็ซึมออกมาด้วยความตกใจแต่ก็ค้างอยู่

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 34

    “ไม่เป็นไร ข้าก็มิได้มีชื่อเสียงอันใดอยู่แล้ว ยังจะต้องกลัวใครหัวเราะเยาะอีกรึ?”หลิงอวี๋ตำหนิ หากจะอายคนที่ต้องอายคือ เซียวหลินเจียน ที่ทำให้พระชายาของตัวเองอับจนถึงขั้นต้องเอาชุดไปขาย!เขาเป็นอ๋องยังไม่กลัวจะอับอายเลย นางจะกลัวทำไมเล่า!“ท่านแม่ ภายภาคหน้าข้าโตแล้ว จะหาเงินให้ได้มาก ๆ มาให้ท่านแม่ซื้อชุดใหม่ ๆ เองขอรับ!”เสี่ยวเมาลูบที่มือของหลิงอวี๋เพื่อปลอบโยนนางหลิงอวี๋ยิ้ม เห็นหลิงซินดูลำบากใจจึงเอ่ย “ไปเถอะ! เชื่อข้า หลังจากผ่านพ้นสองสามวันนี้ไป ข้าจะทำให้ชีวิตของพวกเจ้าดีขึ้นเรื่อย ๆ เอง!”แม่นมลี่ไม่ได้ห้ามอีก นางมองท่าทางที่หลิงอวี๋พูดจายังดูอ่อนแรงอยู่ ก็ยอม ๆ ไปพระชายาเกือบจะสิ้นชีวิตไปแล้ว ยังจะต้องไปสนใจเรื่องของนอกกายกับชื่อเสียงไปทำไมเล่า!แม่นมลี่และหลิงซินเลือกเสื้อผ้าที่มีราคาแพง เมื่อห่อเรียบร้อยแล้วก็ให้หลิงซินเอาออกไปอย่างอาลัยอาวรณ์“พระชายา พักผ่อนก่อนเถิดเจ้าค่ะ บ่าวจะไปล้างครัวเสียหน่อย ข้างในนั้นฝุ่นเขรอะนัก!”แม่นมลี่เดินงก ๆ เงิ่น ๆ ออกไปหลิงอวี๋มองแผ่นหลังของแม่นมอย่างปวดใจ แต่ร่างกายนางอ่อนแอ ไม่สามารถไปช่วยได้จึงทำได้เพียงให้แม่นมลี่ทำไปก

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 35

    หลิงอวี๋มองไปทางแม่นมลี่แม่นมลี่ยิ้มขมขื่น “หลิงซินขายเสื้อผ้า ความจริงแล้วขายได้สิบตำลึงเจ้าค่ะ!”“ตอนที่นางออกไป ถูกหลิงหลานพบเข้า หลิงหลานเห็นว่านางกลับมามือเปล่า จึงบีบบังคับเอาเงินจากนางไปเจ้าค่ะ!”“พอหลิงซินไม่ให้ ก็ถูกหลิงหลานเอาตะบองตีไปหลายที!”“นางยังใส่ร้ายหลิงซินด้วยว่า เอาของของตำหนักอ๋องอี้ออกมาขาย จะลากตัวหลิงซินไปร้องเรียน!”“เด็กผู้นี้เป็นคนซื่อมาก ก็เลยตกใจ! แล้วก็กลัวว่าบอกอะไรให้ชัดเจนไม่ได้ จึงทำได้เพียงให้เงินนางไปห้าตำลึงเจ้าค่ะ!”หลิงอวี๋หลับตาลง ลอบกัดฟัน หลิงหลาน ไอ้คนที่อาศัยบารมีนายมารังแกคนอื่นี่มัน!คนอย่างพวกเขา เห็นว่าตัวนางตกอับ ถึงได้กล้ารังแกคนของนางอยู่ทุกครั้งไปเช่นนี้!ตัวนางในฐานะที่เป็นพระชายา ก็ไม่สามารถขจัดความอยุติธรรมนี้ต่อหน้าเซียวหลินเทียนได้!หลิงซินผู้เป็นสาวใช้คนหนึ่ง จะกลัวก็เป็นเรื่องธรรมดา!เรื่องนี้พูดไปพูดมา ก็ล้วนเป็นสิ่งที่ผู้ชายเลว ๆ อย่างเซียวหลินเทียนสร้างขึ้น!เพราะว่าเซียวหลินเทียนดูถูกนาง พวกลูกน้องที่อาศัยบารมีเขามารังแกผู้อื่นถึงได้ดูถูกตัวนางเช่นเดียวกัน!แม่นมลี่เห็นสีหน้าของหลิงอวี๋เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา กลัวว่

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 36

    เงินห้าตำลึงซื้อสิ่งใดได้บ้าง?ในฐานะที่เป็นเจ้าแม่แพทยศาสตร์ยุคปัจจุบันมีภูมิหลังสกุลหลิงอวี๋เรืองอำนาจ ทั้งชั่วชีวิตก่อนนางยังมิเคยขัดสนเงินทอง!แต่เมื่อมาถึงแคว้นซีฉิน หลิงอวี๋ถึงได้รู้แจ้งถึงคุณค่าของเงิน!เงินที่หลิงซินได้จากขายเสื้อผ้าก็เอาไปซื้อข้าวกินประทังและซื้อที่นอนหมอนมุ้งให้นางกับหลิงเยว่ ก็เหลือไม่เท่าไรแล้วโดยเฉพาะหลิงซินกับแม่นมลี่ พวกเขาไม่มีเครื่องนอน สองวันมานี้ใช้เสื้อผ้าคลุมนอนบนเตียงแก้ขัดแทนไปก่อนหลิงอวี๋ไม่ได้รู้เรื่องนี้ตั้งแต่แรก นั่นเป็นหลิงเยว่แอบบอกแก่นางหลิงเยว่พูดถึงเรื่องนี้ด้วยน้ำตาเปี่ยมล้นทั้งสองข้างพร้อมรั้งแขนเสื้อของหลิงอวี๋ไว้พร้อมกล่าวว่า“ท่านแม่ เรายังมีอะไรที่ขายได้อีกหรือไม่ขอรับ? เยว่เยว่อยากซื้อผ้านวมให้แม่นมกับพี่หลิงซิน!”หลิงอวี๋ชะงักไปครู่หนึ่งแล้วถามว่า “เหตุใดซื้อผ้านวม?”หยาดน้ำตาน้อยเนื้อต่ำใจของหลิงเยว่ไหลริน “เราถูกขับไล่ไปเรือนบุหงา นอกจากเครื่องเรือนแตกหักเหล่านั้นแล้วก็ไม่มีอะไรเลย!”“เครื่องนอนอันก่อนของแม่นมกับพี่หลิงซิน หลิงผิงบอกว่า เป็นของตำหนักอ๋องเลยไม่ยอมให้พวกนางนำมาด้วย!”หลิงอวี๋นึกถึงผ้านวมผืนใหม่ที่ต

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 37

    หลิงซินกำลังมองหลิงอวี๋อย่างเหม่อลอย เนื่องถูกคำพูดครานี้ทำให้รู้สึกสะเทือนอารมณ์ และนึกถึงทุกสิ่งอย่างที่หลิงอวี๋ประสบมาทันใดนั้นนางก็เข้าใจความเหนื่อยยากของคุณหนูตัวเองแล้วใช่ หากคนผู้หนึ่งแม้แต่ความตายก็ไม่กลัว แล้วยังจะกลัวอะไรอีกเล่า!“คุณหนู เป็นหลิงหลานตีเจ้าค่ะ! หลิงหลานเคยเรียกบ่าวไปสอบถาม… นางถามว่าคุณหนูตายแล้วหรือยัง!”“หลิงหลาน นางกล่าว… ว่าให้ข้าจับตาดูพระชายา! หากพระชายามีการเคลื่อนไหวอะไรให้รายงานนางทันทีเจ้าค่ะ!”“นาง… นางกล่าวว่าตราบใดที่บ่าวเชื่อฟังจะขอให้ชิวเหวินซวงย้ายบ่าวไปเป็นนางรับใช้ของท่านอ๋องเจ้าค่ะ!”หลิงอวี๋มองนางอย่างเงียบ ๆ ไม่กล่าวคำทว่าแม่นมลี่กลับอดด่าขึ้นไม่ไหว “พระชายายังทรมาน พวกเจ้าทุกคนทรยศเจ้านาย ไยสวรรค์ไม่สาดอสนีบาตฟาดพวกเจ้าให้ตายไปเสีย! ”หลิงซินส่ายหน้าลนลาน “แม่นม มิใช่แบบนั้นเจ้าค่ะ! ข้ามิได้รับปากนาง!”“พระชายาเคยช่วยชีวิตบ่าวในปีนั้น! หากไม่มีพระชายาบ่าวคงสิ้นชีพไปนานแล้ว! บ่าวจะไม่มีวันทรยศพระชายาไปชั่วชีวี”“เพราะเจ้าไม่ยินยอม นางจึงตีเจ้ารึ?”หลิงอวี๋ดูออกว่าหากหลิงซินสาวน้อยผู้นี้รับสินบนจากหลิงหลานจริง ๆ ก็คงไม่ถูกทุบต

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 38

    พอเท่านี้หลิงอวี๋ก็ถือตะบองโบกนำทั้งสามคนเดินออกจากเรือนบุหงาอย่างลำพองแน่นอนว่าแม่นมลี่ไม่ได้ถือไปด้วย ใบหน้านางชราเหี่ยวย่น กำลังจูงมือหลิงเยว่เดินตามด้านหลังแม่นมลี่สิ้นวิธีเกลี้ยกล่อมหลิงอวี๋ แต่นางไม่อาจขัดขวางคุณหนูของตนได้ เลยทำตามความคิดเผชิญความยากลำบากร่วมกันหลิงอวี๋ยังมีรอยแผลเป็นอัปลักษณ์บนหน้าอยู่ แม้แผลจะสมานแล้ว แต่รอยก็ยังไม่หายไป มองไปแล้วยิ่งดูน่าเกลียดยิ่งนัก!เหล่าคนรับใช้เห็นพวกนางสี่คนปรากฏตัวพร้อมกับไม้ตะบองด้วยอิริยาบถกำลังมองหาคนที่จะประมือด้วย ก็ตกใจกลัวจนพูดไม่ออกหลิงอวี๋เห็นสีหน้าประหลาดใจของพวกเขา ก็นึกถึงประโยคยอดฮิตในยุคปัจจุบันอย่างรู้สึกขบขันเป็นคนอัปลักษณ์ไม่ใช่ความผิดของคุณ แต่ออกมาทำให้คนตกใจกลัวนั้นเป็นความผิดของคุณ!เพียงแต่พวกนางยังไม่ได้ไปถึงครัว ความโกลาหลก็ได้แพร่กระจายไปหลังเรือนอย่างเร็วรี่และเรือนริมวารีที่เซียวหลินเทียนกำลังพำนักอยู่“เป็นไปไม่ได้… เส้นลมปราณหัวใจของพระชายาล้วนสูญสิ้นไปหมดแล้วนี่ มีชีวิตเดินออกมาได้เยี่ยงไร!”หลังไป่สือได้ฟังองครักษ์แจ้งให้ทราบ ก็รุดออกไปพร้อมกับเสียงตื่นตระหนกเซียวหลินเทียนสีหน้าผันเปลี่ยนเ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 39

    มือของไป๋สือเพิ่งเอื้อมออกไปผลัวะ!ไม้ตะบองในมือหลิงอวี๋ไร้ความปรานีแม้แต่น้อย ฟาดลงหลังมือไป่สือเน้น ๆไป่สือชักมือกลับเนื่องถูกตี แหงนหน้ามองก็เห็นหลิงอวี๋มองเขาด้วยใบหน้าเยาะหยัน“จะจับอะไรหรือ? เจ้าไม่รู้หรือว่าไม่เหมาะสมที่บุรุษสตรีจะใกล้ชิดกัน?”“กระ… กระผมแค่อยากตรวจชีพจรท่าน กระผมไม่มีความหมายอื่น!” ไป่สืออธิบายตะกุกตะกัก“ข้ารักษาอาการป่วยของตัวเองได้! ยิ่งกว่านั้นข้าก็มิต้องคำนับอ้อนวอนให้พวกเจ้ารักษาข้าด้วยซ้ำ ฉะนั้นไม่ต้องลำบากสอดมือ!”หลิงอวี๋เหน็บแนมแม่นมลี่ได้บอกทุกเรื่องที่เกิดขึ้นหลังจากที่นางสลบไสลมาหมดแล้ว!ในครั้นนั้น แม่นมลี่อุ้มหลิงเยว่ไปขอร้องไป่สือแม่นมลี่โขกศีรษะกับพื้นไปหลายหน และอ้อนวอนอย่างขมขื่นอยู่นอกเรือนไปครึ่งค่อนวันไป่สือถึงมอบโอสถเม็ดกลม ๆ ให้อย่างไม่เต็มใจ เขาไม่สนใจออกมาตรวจอาาการของเสี่ยวเมาด้วยซ้ำตาต่อตา ฟันต่อฟัน!นี่คือหลักการของหลิงอวี๋ตั้งไว้เมื่อครั้นที่ตัวเองก้าวเข้าเรือนบุหงา!ตั้งแต่วันนี้ไป คนในจวนอ๋องอี้จะมิมีผู้ใดคิดรังแกนางกับคนของนางอีก!“หลิงอวี๋ ท่านอ๋องทรงห้ามให้เจ้าย่างกรายออกเรือนบุหงาแล้ว เจ้ายังขวัญกล้าออกมา

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 40

    หลิงอวี๋คลี่ยิ้ม ตะบองในมือจงใจทุ่มลงพื้น“ท่านอ๋องทรงชอบประมือนัก! อย่างนั้นตัวหม่อมฉันผู้เป็นคุณหนูคนนี้ก็จะสละชีวิตเป็นเพื่อนสุภาพชนอย่างท่าน!”ลู่หนานกับองครักษ์ตามมาต่างก็มองหลิงอวี๋ราวกับนางบ้องตื้อก็มิปานหลิงอวี๋ไม่ได้ลิ้มรสความเก่งฉกาจของเซียวหลินเทียนในคราก่อนแล้วหรอกหรือ?คราก่อนเซียวหลินเทียนก็ไม่ได้อยากฆ่านางจากใจจริง ไม่เช่นนั้นถึงหลิงอวี๋จะมีอีกหลายชีวิตก็ต้านเซียวหลินเทียนลงมือได้มิพอ!พวกเขาเหล่าองครักษ์ล้วนมีฝีมือวรยุทธทั้งสิ้น รวมถึงจ้าวซวนที่ไปเยี่ยมญาติยังไม่กลับมา แต่อย่างไรเสียหากเพิ่มพวกเขามาหมดก็ล้วนลงมือเซียวหลินเทียนได้ไม่เกินสองสามครั้งเท่านั้นหลิงอวี๋สตรีน้อยที่ออกเรือนแล้วผู้นี้ไม่ได้มีฝีมือวรยุทธ มิคาดว่าจะกล้าคุยโวยั่วยุเซียวหลินเทียนอย่างไม่กระดากอาย!เสียสติไปแล้วจริง ๆ !“เซียวหลินเทียน ไม่เช่นนั้นเรามาเดิมพันกันดีหรือไม่? ข้าเดิมพันได้เลยว่า เจ้าต้านการลงมือของช้าไม่ได้เลยสักหนเดียว! เจ้าเชื่อหรือไม่?”ประโยคที่หลิงอวี๋กล่าวออกมายิ่งทำให้ลู่หนานและคนอื่น ๆ ตะลึง!คน… คนผู้นี้ไร้ยางอายเสียจริง!ลู่หนานยืนยันเลยว่า หลิงอวี๋เสียสติไปแล้วจริง

Latest chapter

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1878

    หลิงอวี๋ยังคงซ่อนตัวอยู่ในน้ำลุงของเก๋อฮุ่ยหนิงคงถูกพิษของหลิงอวี๋จนตาบอดไปแล้ว ดังนั้นเก๋อฮุ่ยหนิงจะยิ่งไม่มีทางปล่อยตนไปแต่เก๋อฮุ่ยหนิงมิสามารถอยู่ที่ท่าเรือได้นานนัก ข้าหลวงเก๋อต้องรีบกลับไปรับตำแหน่งที่เมืองหลวงแดนเทพ จะเดินทางล่าช้าไปเพราะมาตามหาตนมิได้ขอเพียงตนซ่อนตัวอยู่จนถึงตอนค่ำ ก็จะขึ้นฝั่งโดยที่รอดพ้นจากสายตาของทุกคนได้ แล้ววันพรุ่งค่อยไปตามหาป้าวซวนเก๋อฮุ่ยหนิงมิสามารถอยู่ที่ท่าเรือได้นานดังเช่นที่หลิงอวี๋บอกไว้จริง ๆ นางพาลุงของนางไปหาหมอ แต่หมอทั่วไปที่ท่าเรือเหล่านี้ก็ไม่มีใครสามารถรักษาดวงตาของท่านลุงให้หายดีได้ลูกพี่ลูกน้องคนโตได้ยินข่าวก็รีบมาทันที เขาทั้งโกรธทั้งเคืองเก๋อฮุ่ยหนิง แต่ติดที่อำนาจของตระกูลเก๋อ ทำให้เขามิกล้าบ่นมากเกินไป“พี่ใหญ่ เป็นข้าเองที่ทำให้ท่านลุงลำบาก แต่ผู้ร้ายคือหมอเจียง ข้าจะให้ภาพเหมือนของนางกับพี่ใหญ่ พี่ใหญ่ต้องสังหารนางล้างแค้นให้ท่านลุงให้จงได้นะ!”เก๋อฮุ่ยหนิงรีบวาดรูปหลิงอวี๋มอบให้ลูกพี่ลูกน้องคนโตของนาง และสุดท้ายนางก็มอบเงินส่วนตัวทั้งหมดให้กับลูกพี่ลูกน้องคนโตไป เพื่อให้เขาไปหาหมอที่มีชื่อเสียงมารักษาดวงตาของท่านลุงหล

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1877

    “ตา… ตาของข้า!”ผู้ดูแลหลัวลุงของเก๋อฮุ่ยหนิงยกมือทั้งสองขึ้นปิดตาไว้อย่างเจ็บปวดเก๋อฮุ่ยหนิงทั้งโกรธทั้งกังวล นางจึงตะโกนบอกลูกหาบที่ตามมา “รีบไปจับตัวสตรีผู้นั้นไว้ อย่าปล่อยให้นางหนีไปได้!”เมื่อคนพวกนั้นเห็นว่าผู้ดูแลถูกหลิงอวี๋ทำให้บาดเจ็บ พวกเขาจึงพากันกระโดดลงน้ำไปจับตัวหลิงอวี๋ ตามคำสั่งของเก๋อฮุ่ยหนิงส่วนเก๋อฮุ่ยหนิงก็ประคองผู้ดูแลหลัว “ท่านลุง ข้าจะพาท่านไปหาหมอ!”หลิงอวี๋กระโดดลงไปในน้ำ แล้วนางก็ว่ายน้ำไปที่เรือเหล่านั้นเรือบรรทุกสินค้าจอดเทียบกันอยู่สะเปะสะปะ และกระจายกันอยู่เต็มบริเวณโดยรอบหลิงอวี๋ว่ายน้ำออกไปไกลภายในลมหายใจเดียว แล้วจึงกล้าโผล่ขึ้นมาหายใจบนผิวน้ำอย่างเงียบ ๆ โดยอาศัยเรือบังเอาไว้ จากนั้นก็ว่ายน้ำต่อไปเนื่องด้วยการอาศัยเรือเหล่านั้นบดบังไว้ ทำให้หลิงอวี๋สามารถหลบเลี่ยงพวกลูกหาบที่ลงน้ำมาได้ชั่วคราวแต่นางมิสามารถขึ้นฝั่งได้ ตอนนี้เป็นตอนกลางวัน หากนางขึ้นฝั่งไป ด้วยเนื้อตัวเปียกโชกเช่นนี้ จะต้องดึงดูดความสนใจของทุกคนอย่างแน่นอน แล้วลุงของเก๋อฮุ่ยหนิงก็จะจับตัวนางได้หลิงอวี๋เกาะเชือกของเรือลำหนึ่งที่ลอยอยู่บนผิวน้ำไว้ชั่วคราว ใจของนางเป็นห่ว

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1876

    “น้องหญิง!”ในเวลาเพียงชั่วพริบตานั้น หลิงอวี๋ก็นึกถึงสิ่งเหล่านี้ขึ้นมาได้ นางจึงดึงป้าวซวนเอาไว้ “เราไปดูที่ริมแม่น้ำกันเถิด เรือพวกนั้นกำลังบรรทุกสินค้ากันอยู่ ดูน่าสนใจยิ่งนัก!”เมื่อป้าวซวนถูกหลิงอวี๋ดึงตัวไปเช่นนั้น นางก็ตามไปอย่างมิอาจยื้อตนเองไว้ได้“น้องหญิง เก๋อฮุ่ยหนิงจะทำร้ายพวกเรา!”หลิงอวี๋เดินไปพลางกระซิบไปด้วย “เจ้าอย่าได้หันไปดู ทำเป็นว่ามิรู้เรื่องอะไรทั้งนั้น และเมื่อไปถึงเรือเหล่านั้น ข้าจะวิ่งไปด้านหนึ่ง ส่วนเจ้าก็วิ่งไปอีกด้านหนึ่ง พยายามวิ่งไปในที่ที่มีคนอยู่เป็นจำนวนมากเข้าไว้!”“พี่หญิง เกิดเรื่องอันใดขึ้นกันแน่?”ป้าวซวนตกใจกลัวจนสีหน้าเปลี่ยน “เก๋อฮุ่ยหนิงจะทำร้ายพวกเราด้วยเหตุใด? ท่านพ่อของนางยังต้องการเจ้าอยู่มิใช่หรือ?”“ข้าเล่าให้ฟังมิทันแล้ว หลังจากที่เจ้าหนีออกไปให้พยายามหลีกเลี่ยงพวกนาง แล้วซ่อนตัวจนถึงวันพรุ่ง จากนั้นค่อยมาหาข้าที่ใต้หอสังเกตการณ์ที่สูงที่สุดของท่าเรือ!”“หากว่าข้ามิมา เจ้าก็มิต้องรอ หาทางกลับไปหาครอบครัวด้วยตนเองเสีย!”หลิงอวี๋หันไปมอง แล้วก็เห็นว่าลูกหาบเหล่านั้นมิเดินอย่างเชื่องช้าแล้ว แต่กลับวิ่งมาทางพวกนางอย่างรวดเร็ว ดั

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1875

    สองวันต่อมา เรือก็มาถึงท่าเรือฟู่จี๋ตามกำหนดการเดินทาง แล้วก็เป็นไปตามที่จื่ออวิ๋นบอก เมื่อเรือจอดเทียบท่า ผู้คุมเรือก็ให้ทุกคนลงจากเรือไปพักผ่อนครึ่งวันเหล่าสตรีของตระกูลเก๋ออยู่บนเรือกันมาหลายวันแล้ว เมื่อสามารถขึ้นไปเดินบนบกกันได้ทุกคนก็ต่างลงจากเรือกันอย่างกระตือรือร้น แม้แต่ฮูหยินเก๋อเองก็รอมิไหวที่จะลงจากเรือไปสูดอากาศบริสุทธิ์เช่นกันข้าหลวงเก๋อก็เชิญเฉียวไป๋ไปดื่มสุราและกินอาหารที่ภัตตาคาร เฉียวไป๋ก็พร่ำบ่นกับตระกูลเก๋อมาหลายวันแล้ว จึงยากที่จะปฏิเสธการเชื้อเชิญแล้วตามเขาไปเก๋อฮุ่ยหนิงเห็นว่าเฉียวไป๋ไปแล้ว นางก็แอบยิ้ม นางให้จื่ออวิ๋นไปแจ้งท่านลุงเอาไว้ล่วงหน้าแล้ว ที่เหลือก็คือนางต้องหลอกล่อหลิงอวี๋ไปยังถิ่นของท่านลุง“หมอเจียง พวกเราก็ลงไปเดินเล่นกันเถิด ข้าได้ยินมาว่าท่าเรือฟู่จี๋แห่งนี้คึกคักมาก และสามารถเลือกหาของดี ๆ ได้มากมายทีเดียว!”แม้ว่าป้าวซวนจะมิได้เมาเรือแล้ว แต่นางก็ยังคงมิชอบความรู้สึกที่ต้องอยู่บนเรืออยู่ดี เมื่อได้ยินดังนั้น นางจึงดึงหลิงอวี๋แล้วออดอ้อน “พี่หญิง เราก็ลงไปเดินเล่นกันเถิด!”หลิงอวี๋เห็นว่าทุกคนไปกันหมดแล้ว นางก็มิอยากอยู่บนเรือเช่นกัน ดั

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1874

    ในขณะที่เซียวหลินเทียนกำลังยุ่งอยู่กับการตามหาหลิงอวี๋ และฟื้นฟูตำหนักปีกเงินขึ้นมาอีกครั้งนั้น ทางด้านหลิงอวี๋ก็เตรียมตัวจะออกเดินทางไปเมืองหลวงแดนเทพพร้อมกับครอบครัวของข้าหลวงเก๋อแล้วเพื่อเป็นการลดความเหนื่อยล้าของฮูหยินผู้เฒ่าเก๋อจากการเดินทางทั้งทางเรือและทางรถม้า ข้าหลวงเก๋อจึงเลือกที่จะเดินทางไปยังเมืองหลวงแดนเทพทางน้ำแทนตระกูลเก๋อเช่าเรือขนาดใหญ่สองลำ ลำหนึ่งสำหรับบรรทุกสัมภาระ และอีกลำหนึ่งสำหรับโดยสารคนข้าหลวงเก๋อได้รับการเลื่อนตำแหน่งครั้งนี้ คงจะมิกลับไปที่เมืองจงกวนอีกแล้ว ดังนั้นเขาจึงนำข้าวของเครื่องใช้ที่มีค่าและคนรับใช้ทั้งหมดที่เต็มใจจะติดตามเขาไปที่เมืองหลวงแดนเทพไปด้วยเรือใหญ่มีอยู่สามชั้น ชั้นล่างสุดเป็นที่พักอาศัยของคนรับใช้ ข้าหลวงเก๋อกับบุรุษในตระกูลเก๋อพักกันที่ชั้นสาม ส่วนเหล่าญาติฝ่ายสตรีก็พักอยู่ที่ชั้นสองสองพี่น้องหลิงอวี๋กับป้าวซวนก็ได้พักในห้องเดียวกัน แม้ว่าจะเล็กไปสักหน่อย แต่พวกนางทั้งสองก็รู้สึกว่าเพียงพอแล้วเส้นทางน้ำนี้ถือว่าเป็นแม่น้ำที่ใหญ่ที่สุดในแดนเทพ แบ่งออกเป็นแม่น้ำในและแม่น้ำนอกเส้นทางที่พวกนางเดินทางกันอยู่นี้คือแม่น้ำนอก ซึ่ง

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1873

    “เหยี่ยวผู้กล้าควรกางปีกบินให้สูง และลอยตัวให้อยู่เหนือเก้าชั้นฟ้า!”เซียวหลินเทียนพูดสิ่งที่เหวินเหรินจิ้นบอกตนออกไปอย่างใจเย็นนี่คือคำพูดที่เหวินเหรินจิ้นพูดกับสือหรงตอนที่ให้เขาออกมาจริง ๆ ตอนนั้นนอกจากเขากับเหวินเหรินจิ้นก็ไม่มีใครอยู่อีกเมื่อสือหรงเห็นว่าคำตอบของเซียวหลินเทียนถูกต้อง ใบหน้าของเขาก็กลับซีดลงทันที ราวกับว่าเขาถูกโจมตีอย่างหนัก“ท่านเจ้าตำหนัก… ท่านเจ้าตำหนักสิ้นแล้วหรือ?”หากมิได้เป็นเช่นนั้น เซียวหลินเทียนจะมีป้ายผู้นำของตำหนักปีกเงินได้อย่างไร และจะรู้ได้อย่างไรว่าเหวินเหรินจิ้นพูดอะไรกับเขา!“อืม ร่างของเขาจะถูกเก็บไว้ในสุสานใต้ดินของตำหนักปีกเงินเป็นการชั่วคราว แล้วในภายหน้าเมื่อข้าสามารถฟื้นคืนตำหนักปีกเงินมาได้ ก็ค่อยนำไปฝังให้ดี ๆ!”แล้วเซียวหลินเทียนก็เอ่ยออกมาอย่างเศร้าใจ“พรึ่บ…”สือหรงคุกเข่าลง แล้วน้ำตาของเขาก็ไหลลงมาอย่างควบคุมมิได้เดิมทีเขาคิดว่าจะหลบไปสักประมาณปีครึ่ง แล้วเจ้าตำหนักก็คงจะเรียกพวกเขากลับไป เมื่อถึงเวลานั้นตำหนักปีกเงินก็จะรุ่งโรจน์เหมือนในอดีตอีกครั้ง ไหนเลยจะคาดคิดว่า การลาจากของเจ้าตำหนักในครั้งนี้จะเป็นการจากลากันไปตลอด

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1872

    กระทั่งลงมาจากภูเขาแล้ว เซียวหลินเทียนก็ให้เหยี่ยวดำจิ่วเทียนไปส่งจดหมายให้กับฉินซาน แล้วตนกับเผยอวี้ก็มุ่งหน้าไปที่หมู่บ้านตงหยวน ซึ่งอยู่ห่างจากตำหนักปีกเงินหลายสิบลี้ เพื่อตามหาสือหรงลูกศิษย์คนสำคัญของเหวินเหรินจิ้น อีกทั้งยังเป็นผู้พิทักษ์ฝ่ายซ้ายของตำหนักปีกเงินด้วยเซียวหลินเทียนไม่มีทางจะไปตามหาคนในรายชื่อของเหวินเหรินจิ้นทีละคนได้ หากเขาคิดที่จะรวบรวมลูกศิษย์ทั้งหมดของตำหนักปีกเงินที่เหวินเหรินจิ้นสั่งให้ออกจากตำหนักโดยเร็ว สือหรงผู้นี้ก็คือบุคคลที่เป็นกุญแจสำคัญเหวินเหรินจิ้นเคยบอกไว้ว่า หากตามหาสือหรงพบ พวกเขาก็จะสามารถตามลูกศิษย์ทั้งหมดกลับมาได้ เพราะว่าสือหรงมีช่องทางติดต่อของพวกเขาทุกคนแต่กระทั่งเซียวหลินเทียนกับเผยอวี้มาถึงหมู่บ้านตงหยวน ก็สายเกินไปเสียแล้ว ชาวบ้านส่วนใหญ่ในหมู่บ้านตงหยวนถูกสังหารหมู่ และทางการก็กำลังนำคนมาเคลื่อนย้ายศพแต่ละศพออกไปเซียวหลินเทียนและเผยอวี้สวมหน้ากากผิวหนังมนุษย์แล้ว เผยอวี้จึงแสร้งทำเป็นเข้าไปตามหาญาติเพื่อสอบถามข้อมูลเมื่อถามไปจึงได้รู้ว่าเมื่อคืนหมู่บ้านตงหยวนถูกโจรกลุ่มหนึ่งมาปล้นทรัพย์ ตระกูลที่มีฐานะดีในหมู่บ้านส่วนใหญ่จึงถูก

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1871

    หวงฝู่หลินก็เหมือนกับเซียวหลินเทียน ในตอนนี้มีคนที่จะต้องเร่งตามหาให้พบ ดังนั้นแม้ว่าจะมีความขัดแย้งต่อกัน แต่เมื่อเผชิญหน้ากับศัตรูที่แข็งแกร่ง พวกเขาก็ทำได้เพียงต้องร่วมมือกันจึงจะต่อต้านศัตรูได้หวงฝู่หลินมองตำหนักปีกเงินที่ค่อนข้างหดหู่นี้ แล้วเอ่ยด้วยเสียงทุ้ม “เซียวหลินเทียน วันนี้เจ้าเปิดเผยเรื่องที่เจ้ามีกระบี่คุนอู๋อยู่ในมือไปแล้ว มหาปราชญ์ไม่มีทางปล่อยเจ้าไปง่าย ๆ แน่!”“พวกเราต้องรีบรวบรวมกลุ่มที่สามารถต่อสู้กับมหาปราชญ์ให้ได้โดยเร็วที่สุด ก่อนที่มหาปราชญ์จะรวมกำลังคนมาจัดการกับเจ้า!”“เจ้าลงจากภูเขาไปรวบรวมบรรดาลูกศิษย์ของตำหนักปีกเงินมา ส่วนข้าจะช่วยหาคนมาสร้างตำหนักปีกเงินขึ้นใหม่เอง!”“หากเจ้าหาลูกสาวของข้าพบก่อน ก็ให้ส่งข้อความมาหาข้า! และหากข้าพบหลิงอวี๋ ข้าก็จะแจ้งเจ้าทันทีเช่นกัน!”เซียวหลินเทียนพยักหน้าโดยมิต้องคิด “ตกลง! เช่นนั้นพวกเราก็แยกกันเป็นสองกลุ่มไปดำเนินการ!”“เผยอวี้ เราลงจากภูเขากันก่อนเถอะ!”หวงฝู่หลินมองเผยอวี้แล้วเอ่ยออกมา “ประเดี๋ยวก่อน…”เขาหยิบยาหนึ่งขวดออกมาจากแหวนพระสุเมรุของตน แล้วโยนไปที่เผยอวี้ “พลังของเจ้าต่ำเกินไป หากเจ้าติดตามเขาก็จ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1870

    เซียวหลินเทียนฟังแล้วก็ทั้งโกรธทั้งโมโห ก่อนหน้านี้ที่หานเหมยบอกมิได้ละเอียดถึงเพียงนี้ และหานเหมยก็มิเคยบอกด้วยว่าใบหน้าของหลิงอวี๋ถูกจ้าวหรุ่ยหรุ่ยกรีดจนเป็นแผลความทรงจำของหานเหมยสูญหายไปบางส่วน ซึ่งนี่ก็คือผลกระทบที่ได้มาจากการถูกผนึก ดังนั้นจะโทษหานเหมยก็มิได้เมื่อได้ยินว่าหลิงอวี๋สูญเสียวรยุทธ์ไป ทั้งยังถูกเสวี่ยเหมยกลั่นแกล้งอีก เซียวหลินเทียนก็คิดเพียงอยากจะแทงเสวี่ยเหมยและลิ่งหูหลินผู้นั้นให้ตายไปเสียส่วนเรื่องที่หวงฝู่หลินรับหลิงอวี๋เป็นน้องสาวบุญธรรมนั้น เซียวหลินเทียนมิได้คิดเป็นจริงเป็นจังอะไร เขาหรือจะมิรู้ว่าหวงฝู่หลินไม่มีทางรับหลิงอวี๋เป็นน้องสาวบุญธรรมจริง ๆ หรอก“ท่านเจ้าวังของเราให้ป้าวเฉิงไปตามหาหลิงอวี๋ เพราะต้องการจะขอตำรับยาที่นางมีอยู่ในมือ มิใช่เพราะต้องการจะทำให้นางลำบาก!”ปี้ซงอธิบายทุกสิ่งออกมาอย่างชัดเจนแม้ว่าเซียวหลินเทียนจะรู้สึกว่าเขาไม่มีทางพูดความจริงออกมาทั้งหมด แต่ก็ยังเชื่อไปกว่าครึ่งอยู่ดีหลังจากครุ่นคิดดูแล้ว เซียวหลินเทียนก็รู้สึกว่า ในเมื่อหวงฝู่หมิงจูถูกเสวี่ยเหมยจับตัวไป และเสวี่ยเหมยก็เป็นผู้ร้ายที่ลักพาตัวหลิงอวี๋ไปด้วย เช่นนั้นก

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status