พอเท่านี้หลิงอวี๋ก็ถือตะบองโบกนำทั้งสามคนเดินออกจากเรือนบุหงาอย่างลำพองแน่นอนว่าแม่นมลี่ไม่ได้ถือไปด้วย ใบหน้านางชราเหี่ยวย่น กำลังจูงมือหลิงเยว่เดินตามด้านหลังแม่นมลี่สิ้นวิธีเกลี้ยกล่อมหลิงอวี๋ แต่นางไม่อาจขัดขวางคุณหนูของตนได้ เลยทำตามความคิดเผชิญความยากลำบากร่วมกันหลิงอวี๋ยังมีรอยแผลเป็นอัปลักษณ์บนหน้าอยู่ แม้แผลจะสมานแล้ว แต่รอยก็ยังไม่หายไป มองไปแล้วยิ่งดูน่าเกลียดยิ่งนัก!เหล่าคนรับใช้เห็นพวกนางสี่คนปรากฏตัวพร้อมกับไม้ตะบองด้วยอิริยาบถกำลังมองหาคนที่จะประมือด้วย ก็ตกใจกลัวจนพูดไม่ออกหลิงอวี๋เห็นสีหน้าประหลาดใจของพวกเขา ก็นึกถึงประโยคยอดฮิตในยุคปัจจุบันอย่างรู้สึกขบขันเป็นคนอัปลักษณ์ไม่ใช่ความผิดของคุณ แต่ออกมาทำให้คนตกใจกลัวนั้นเป็นความผิดของคุณ!เพียงแต่พวกนางยังไม่ได้ไปถึงครัว ความโกลาหลก็ได้แพร่กระจายไปหลังเรือนอย่างเร็วรี่และเรือนริมวารีที่เซียวหลินเทียนกำลังพำนักอยู่“เป็นไปไม่ได้… เส้นลมปราณหัวใจของพระชายาล้วนสูญสิ้นไปหมดแล้วนี่ มีชีวิตเดินออกมาได้เยี่ยงไร!”หลังไป่สือได้ฟังองครักษ์แจ้งให้ทราบ ก็รุดออกไปพร้อมกับเสียงตื่นตระหนกเซียวหลินเทียนสีหน้าผันเปลี่ยนเ
มือของไป๋สือเพิ่งเอื้อมออกไปผลัวะ!ไม้ตะบองในมือหลิงอวี๋ไร้ความปรานีแม้แต่น้อย ฟาดลงหลังมือไป่สือเน้น ๆไป่สือชักมือกลับเนื่องถูกตี แหงนหน้ามองก็เห็นหลิงอวี๋มองเขาด้วยใบหน้าเยาะหยัน“จะจับอะไรหรือ? เจ้าไม่รู้หรือว่าไม่เหมาะสมที่บุรุษสตรีจะใกล้ชิดกัน?”“กระ… กระผมแค่อยากตรวจชีพจรท่าน กระผมไม่มีความหมายอื่น!” ไป่สืออธิบายตะกุกตะกัก“ข้ารักษาอาการป่วยของตัวเองได้! ยิ่งกว่านั้นข้าก็มิต้องคำนับอ้อนวอนให้พวกเจ้ารักษาข้าด้วยซ้ำ ฉะนั้นไม่ต้องลำบากสอดมือ!”หลิงอวี๋เหน็บแนมแม่นมลี่ได้บอกทุกเรื่องที่เกิดขึ้นหลังจากที่นางสลบไสลมาหมดแล้ว!ในครั้นนั้น แม่นมลี่อุ้มหลิงเยว่ไปขอร้องไป่สือแม่นมลี่โขกศีรษะกับพื้นไปหลายหน และอ้อนวอนอย่างขมขื่นอยู่นอกเรือนไปครึ่งค่อนวันไป่สือถึงมอบโอสถเม็ดกลม ๆ ให้อย่างไม่เต็มใจ เขาไม่สนใจออกมาตรวจอาาการของเสี่ยวเมาด้วยซ้ำตาต่อตา ฟันต่อฟัน!นี่คือหลักการของหลิงอวี๋ตั้งไว้เมื่อครั้นที่ตัวเองก้าวเข้าเรือนบุหงา!ตั้งแต่วันนี้ไป คนในจวนอ๋องอี้จะมิมีผู้ใดคิดรังแกนางกับคนของนางอีก!“หลิงอวี๋ ท่านอ๋องทรงห้ามให้เจ้าย่างกรายออกเรือนบุหงาแล้ว เจ้ายังขวัญกล้าออกมา
หลิงอวี๋คลี่ยิ้ม ตะบองในมือจงใจทุ่มลงพื้น“ท่านอ๋องทรงชอบประมือนัก! อย่างนั้นตัวหม่อมฉันผู้เป็นคุณหนูคนนี้ก็จะสละชีวิตเป็นเพื่อนสุภาพชนอย่างท่าน!”ลู่หนานกับองครักษ์ตามมาต่างก็มองหลิงอวี๋ราวกับนางบ้องตื้อก็มิปานหลิงอวี๋ไม่ได้ลิ้มรสความเก่งฉกาจของเซียวหลินเทียนในคราก่อนแล้วหรอกหรือ?คราก่อนเซียวหลินเทียนก็ไม่ได้อยากฆ่านางจากใจจริง ไม่เช่นนั้นถึงหลิงอวี๋จะมีอีกหลายชีวิตก็ต้านเซียวหลินเทียนลงมือได้มิพอ!พวกเขาเหล่าองครักษ์ล้วนมีฝีมือวรยุทธทั้งสิ้น รวมถึงจ้าวซวนที่ไปเยี่ยมญาติยังไม่กลับมา แต่อย่างไรเสียหากเพิ่มพวกเขามาหมดก็ล้วนลงมือเซียวหลินเทียนได้ไม่เกินสองสามครั้งเท่านั้นหลิงอวี๋สตรีน้อยที่ออกเรือนแล้วผู้นี้ไม่ได้มีฝีมือวรยุทธ มิคาดว่าจะกล้าคุยโวยั่วยุเซียวหลินเทียนอย่างไม่กระดากอาย!เสียสติไปแล้วจริง ๆ !“เซียวหลินเทียน ไม่เช่นนั้นเรามาเดิมพันกันดีหรือไม่? ข้าเดิมพันได้เลยว่า เจ้าต้านการลงมือของช้าไม่ได้เลยสักหนเดียว! เจ้าเชื่อหรือไม่?”ประโยคที่หลิงอวี๋กล่าวออกมายิ่งทำให้ลู่หนานและคนอื่น ๆ ตะลึง!คน… คนผู้นี้ไร้ยางอายเสียจริง!ลู่หนานยืนยันเลยว่า หลิงอวี๋เสียสติไปแล้วจริง
พวกของลู่หนานได้ยินเสียงคำรามนั้นก็ตกใจ ต่างก็รีบเงยหน้าไปมองเห็นหลิงอวี๋หัวเราะเยาะ โยนตะบองไม้ในมือนั้นไปอีกด้าน แล้วยกมือขึ้น ยกนาฬิกาข้อมือแบบพิเศษตรงข้อมือที่เอาออกมาจากมิติขึ้นนางกดที่ปุ่มกดบนนาฬิกาข้อมือ แล้วแสงสีเงินก็สาดส่องไปที่เซียวหลินเทียนเซียวหลินเทียนใช้ดาบแทงไปตามสัญชาตญาณ แต่แสงสีเงินนั้นกลับระเบิดออกกลางอากาศ แล้วกลายเป็นตาข่ายคลุมลงมา...เซียวหลินเทียนและรถเข็นต่างถูกตาข่ายคลุมเอาไว้ แล้วดึงขึ้นไปในอากาศ ในชั่วพริบตาก็ถูกแขวนอยู่บนต้นไม้ใหญ่ข้าง ๆ ทุกคนที่อยู่ในเรือนต่างเบิกตาโพลง เกือบจะอ้าปากค้างอย่างตกใจนี่มันคือของอะไรกัน?วรยุทธของเซียวหลนเทียนอยู่ในระดับสูงมาก แม้ว่าขาทั้งสองข้างของเขาจะพิการ แต่วรยุทธก็ยังอยู่!แต่เซียวหลินเทียนที่มีวรยุทธแข็งแกร่ง ยังไม่ทันได้เข้าใกล้หลิงอวี๋ ยังไม่ทันได้ออกกำลังทำอะไรเลย ก็ถูกตาข่ายนี่คลุมเขาไว้แล้วหรือ?คนที่อยู่ ณ ที่แห่งนั้นต่างไม่รู้ สิ่งที่หลิงอวี๋ปล่อยออกไปมันไม่ใช่ตาข่ายธรรมดา แต่เป็นตาข่ายลวดที่ทำขึ้นมาจากวัสดุพิเศษตาข่ายลวดชนิดนี้ไม่สามารถตัดขาดได้ นอกเสียจากว่าจะใช้เลเซอร์ตัดมัน มิฉะนั้น ดาบทั่วไปก็
เซียวหลินเทียนสงบลงทันทีเพราะว่าเขาเคยเป็นผู้บัญชาการกองทัพมาก่อน เขารู้ว่าเมื่อกองทัพสองฝ่ายต่อสู้กัน สิ่งต้องห้ามที่สุดคือ ความใจร้อนความโกรธและการใช้กำลังไม่ได้แก้ปัญหาได้จริง ๆ !เขามองหลิงอวี๋ที่อยู่ข้างล่าง!นางกล้าที่จะสู้สายตา!นางกล้าที่จะท้าทายการต่อสู้ระหว่างแม่นมกับหลิงผิง!นางกล้ากระทั่งยกดาบขึ้นมาทำให้เขาพินาศไปด้วยกัน!หลิงอวี๋ผู้นี้ ไม่ใช่ผู้หญิงคนที่โง่เขลาที่คิดหาทุกวิถีทางเพื่อเอาใจเขาอีกต่อไปแล้ว!จู่ ๆ เซียวหลินเทียนก็พบว่า...เขาหาความชื่นชมตัวเองในแววตาของหลิงอวี๋ไม่เจอแม้เพียงสักนิดแล้วสายตาที่หลงใหลในตัวเขาของหลิงอวี๋ ดูเหมือนว่าจะหายไปหลังจากที่นางถูกโบย!หลิงอวี๋...คนที่กล้าจ่อมีดกับตัวเขา!นางไม่ได้มีเขาอยู่สายตาอีกต่อไปแล้ว!นางกล้าที่พาคนของนางออกจากเรือนหลานย่วน มิใช่เรื่องง่ายที่จะส่งตัวเองมาถึงที่เพื่อให้โดนสังหาร!เซียวหลินเทียนน่าจะคิดถึงจุดนี้นานแล้ว เพียงแต่ก่อนหน้านี้เข้าใจหลิงอวี๋ผิดไป!เขาก็เหมือนกับทุก ๆ คน ไม่ได้สนใจความเปลี่ยนแปลงของหลิงอวี๋!ดังนั้นชิวเฮ่าถึงได้เสียเปรียบเช่นนี้!เขาถึงได้ประมาทแล้วตกลงในหลุมพรางของนาง!
หลิงอวี๋รู้ว่าเซียวหลินเทียนเป็นคนฉลาด ตัวนางเองทำตัวหน้าใหญ่ใจโตเช่นนี้ต่อหน้าผู้ใต้บังคับบัญชาของเขา แม้ว่าจะโกรธเกรี้ยว แต่ก็ไม่มีทางลงมือกับตนต่อได้อีกหรอก!เซียวหลินเทียนกับทุกคนเห็นว่า หลิงอวี๋กดปุ่มที่สิ่งแปลกประหลาดบนข้อมือ แล้วตาข่ายที่อยู่บนตัวเขาก็หดตัวกลับไปเลยเซียวหลินเทียนใช้กำลังภายในแล้วถึงได้ร่อนลงที่พื้นอย่างช้า ๆ ทันทีที่ชิวเหวินซวงเห็น ก็รีบพุ่งตัวเข้าไป แล้วร้องอย่างปวดใจ “ไปดูท่านอ๋อง ว่าได้รับบาดเจ็บตรงไหนหรือไม่!”ลู่หนานกับไป่สือรีบวิ่งเข้าไป ตอนที่กำลังคิดว่าจะตรวจสอบเซียวหลินเทียนดู เซียวหลินเทียนกลับถอยหนี พลางเอ่ยเสียงขรึม “ข้ามิได้รับบาดเจ็บอันใด!”นอกจากเสื้อผ้าที่ยับยู่ยี่เล็กน้อยแล้ว เขาก็ไม่ได้รับบาดเจ็บอันใดเลยชิวเหวินซวงถึงได้สติขึ้นมา คนที่เย่อหยิ่งเช่นเซียวหลินเทียน แม้ว่าจะได้รับบาดเจ็บ ก็ไม่มีทางให้ผู้ใต้บังคับบัญชารู้ว่า เขาถูกหลิงอวี๋ทำให้บาดเจ็บหรอกเหตุใดนางจึงรีบร้อนแสดงออกเช่นนี้ จนลืมสนใจเรื่องความเย่อหยิ่งของเซียวหลินเทียนไปได้นะ!เซียวหลินเทียนมองไปทางหลิงอวี๋ แล้วใจเขาก็สงบลงระวังความใจร้อนเข้าไว้ เขาจะไม่มีวันลืมคำกล่าวนี้
“หลิงอวี๋ ยาพิษที่เจ้าวางชิวเฮ่า แน่ใจหรือว่าเขาจะไม่ถึงแก่ชีวิต?”เซียวหลินเทียนยังต้องยืนยันให้มั่นใจสักหน่อย หากว่าหลิงอวี๋แค่ลงโทษชิวเฮ่าเพียงเล็กน้อย เขาก็ยอมได้!แต่หากถึงแก่ชีวิต เช่นนั้นก็ทนรับไว้ไม่ได้!“แน่อยู่แล้ว! หากเขาตาย ข้าก็จะชดใช้เขาด้วยชีวิตดีหรือไม่?”หลิงอวี๋แสยะมุมปากอย่างเย้ยหยัน พลางมองเซียวหลินเทียนอย่างยั่วยุเซียวหลินเทียนไม่คุ้นเคยกับสีหน้าเช่นนี้ของหลิงอวี๋เอามาก ๆ ได้แต่หันหน้าหนีไป“ดี ในเมื่อวันนี้ข้าเป็นผู้ตัดสินคดี เช่นนั้นพวกเราก็มาพูดแต่ละเรื่องกันให้กระจ่างชัดกันไป! พูดเรื่องของหลิงซินก่อนแล้วกัน!”หลิงอวี๋ประเมินในใจ แล้วพูด “หลิงหลานออกมาตอบ!”หลิงหลานหลบอยู่อีกทาง ตอนที่ได้ยินบทสนทนาระหว่างหลิงอวี๋กับเซียวหลินเทียน ในใจนางก็ลอบคิดมาตรการรับมือไว้อยู่เมื่อได้ยินหลิงอวี๋เรียกตัวเอง หลิงหลานถึงได้เดินออกมาอย่างช้า ๆ พร้อมกับแสร้งทำเหมือนว่าเจ็บหนักมากไปด้วย“พระชายา… บ่าวอยู่นี่เจ้าค่ะ!” นางทำความเคารพหลิงอวี๋มองท่าทางที่เหมือนทำไปพอเป็นพิธีของนาง แล้วก็ยิ้มเย็นชา “หลิงซินออกมา!”ในมือของหลิงซินยังคงถือตะบองไม้อยู่ เมื่อได้ยินดังนั้นก็
หลิงอวี๋ไม่รอให้ชิวเหวินซวงได้พูดอะไรอีก นางมองหลิงหลานอย่างเย็นชา “ต่อหน้าข้าเรียกแทนตัวเองว่าข้า...?”“หลิงหลานเจ้ามีตัวตนเช่นไร พูดอยู่ต่อหน้าข้า เจ้ามีสิทธิ์เรียกแทนตัวเองว่าข้าอย่างนั้นหรือ?”นางเตะหลิงหลานไปอีกทีอย่างหยาบคาย แล้วหลิงหลานก็คุกเข่าลงกับพื้นอย่างมิเต็มใจนักจู่ ๆ หลิงซินก็ฉลาดเป็นกรดขึ้นมาในวินาทีนี้ นางคุกเข่าตามลงไปทันที“พระชายาพูดถูก บ่าวรับผิดเจ้าค่ะ!”นางรู้สึกตื่นเต้นอยู่ในใจ คุณหนูเปลี่ยนไปเป็นคนที่ยอดเยี่ยมแล้วจริง ๆ ยกข้ออ้างนี้มาพูดถูกต้องมาก ๆ ตบตีหลิงหลานแล้วยังทำให้ทุกคนพูดอะไรไม่ได้ด้วย!ชิวเหวินซวงคิดที่จะติดตามเอาผิดกับหลิงซิน แต่หลิงซินเองก็ยอมรับผิดไปแล้ว ทำให้นางพูดไม่ออกทันทีชิวเหวินซวงเกลียดชังอยู่ในใจสองวันมานี้หลิงซินก็ทำอวดดีกับตัวเองขึ้นมาเช่นกัน หากทำในที่ที่เป็นส่วนตัวก็ช่างมันเถิด แต่อยู่ต่อหน้าท่านอ๋อง กลับไม่มีสายตาเคารพกันเลย!หลิงหลานรู้ว่าตัวเองพลาดท่าเสียทีเข้าแล้ว นางลอบมองหลิงอวี๋ด้วยแววตาอาฆาต แต่ปากกลับเอ่ยอย่างว่าง่าย “บ่าวผิดไปแล้วเจ้าค่ะ!”“เรามาตัดสินคดีกันต่อ! หลิงหลาน เจ้าบอกว่าหลิงซินขโมยของ ขโมยอะไร?”หลิงอ
หลิงอวี๋กวาดสายตาผ่านผ้าคลุมหน้าไปรอบ ๆ ทั่วทั้งสถานที่ล้วนเป็นญาติสนิทมิตรสหายของพวกเขา พวกเขาเป็นพยานในการเริ่มต้นชีวิตใหม่ของตนกับเซียวหลินเทียนนับตั้งแต่นี้ไป นางมิใช่วิญญาณที่หลงทางจากโลกอื่นอีกแล้ว นางเป็นส่วนหนึ่งของฉินตะวันตกอย่างแท้จริงแล้ว“คารวะบุพการี...”หลิงอวี๋คารวะไปตามเสียงของท่านอ๋องเฉิง“สามีภรรยาคารวะกันและกัน!”หลิงอวี๋จับผ้าสีแดงที่อยู่ในมือแล้วหันไปทางเซียวหลินเทียนร่างสูงใหญ่นั้นเห็นเพียงแค่รูปร่างแต่นางรู้ว่าต่อไปคนผู้นี้จะเป็นที่พึ่งให้ตนได้แม้ว่าในภายภาคหน้าจะมีการทะเลาะเบาะแว้ง หรือมีเรื่องขัดแย้งกัน แต่นางก็เชื่อว่าพวกเขาจะต้องใช้ชีวิตของพวกเขาได้อย่างดี!นางคำนับลงไปเซียวหลินเทียนมองหลิงอวี๋ที่มีผ้าคลุมหน้าอยู่ก็พลันตัวสั่นเล็กน้อยอย่างตื่นเต้นนับแต่นี้ไป หลิงอวี๋ก็คือภรรยาของตน อดีตที่เลวร้ายเหล่านั้นเขาไม่มีหน้าจะเอ่ยถึงอีกแล้วชีวิตนี้เขาจะต้องรักนางให้มากเท่าที่จะทำได้ จะปกป้องนาง จะให้สิ่งที่ดีที่สุดแก่นาง ทำให้นางเป็นสตรีที่มีความสุขที่สุดในใต้หล้า!เซียวหลินเทียนเองก็คำนับลงไปเช่นกัน“เสร็จสิ้นพิธี!”ท่านอ๋องเฉิงยังคงยืนอยู่ต่อหน้
หลิงอวี๋กับเซียวหลินเทียนจัดงานแต่งงานคารวะฟ้าดินกันใหม่ เมื่อพวกหลิงซวนรู้เข้าก็ดีใจเป็นอย่างยิ่งกว่าจะเปลี่ยนจากความโกรธเกลียดมาเป็นสามีภรรยาอย่างแท้จริงได้ หลิงอวี๋กับเซียวหลินเทียนข้ามผ่านเส้นทางนี้กันมาอย่างยากลำบากจนนับมิถ้วน!เมื่อเทียบกับงานแต่งที่เหลวไหลเมื่อคราก่อน ครานี้เซียวหลินเทียนขอหลิงอวี๋แต่งงานอย่างจริงใจกำไลหยกเขียวมรกตได้ชดเชยเรื่องสินสอดในคราก่อนไปแล้ว เรื่องพิธีหลิงอวี๋ขอให้เป็นพิธีเรียบง่ายจัดโต๊ะเพียงมิกี่โต๊ะก็พอแล้วมิได้มีการประกาศออกไป และมิได้เชิญแขกคนอื่น ๆ เชิญเพียงแค่ผู้อาวุโสเช่นท่านอดีตเสนาบดี ไทฮองไทเฮาและท่านอ๋องเฉิงสามคนเท่านั้นท่านอดีตเสนาบดีถูกเชิญเข้าวังมาก็ยังคงสับสนมิรู้ว่าด้วยเรื่องใดไทฮองไทเฮาเองก็เช่นกัน ถูกเชิญมาถึงพระตำหนักคุนหนิงก็ยังมิรู้ว่านี่คือพิธีคารวะฟ้าดินที่จัดขึ้นเพื่อทั้งสองคนท่านอ๋องเฉิงคือคนที่เซียวหลินเทียนเพิ่มเข้ามา เขาเป็นราชสำนักฝ่ายใน ทั้งยังเป็นผู้อาวุโสที่เห็นเส้นทางที่พวกเขาผ่านมาอย่างใกล้ชิดที่สุด เมื่อจัดพิธีแต่งงานขึ้นอีกครั้ง จะขาดคนสำคัญผู้นี้ไปได้อย่างไร!แม่นมลี่เปลี่ยนชุดใหม่แล้วดึงเซียวเยวี่ยที่ใ
หลิงอวี๋ตกใจกับการเกี้ยวพาราสีอย่างกะทันหันของเซียวหลินเทียนจึงหน้าแดงขึ้นมาทันทีนี่… นี่คือการขอจะทำเรื่องเช่นนั้นกับตนหรือ?แต่นางยังมิได้คิดให้ดีเลยนะ!“อาอวี๋ ต่อให้คำสาบานใด ๆ จะสวยหรูสักแค่ไหนก็มิสู้การกระทำ! ข้าก็กำลังพยายามเต็มที่แล้ว!”เซียวหลินเทียนคว้ามือของหลิงอวี๋มาแนบที่หน้าอกของตน “ในนี้มีเพียงแค่เจ้า ชั่วชีวิตนี้ก็จะมีเพียงแค่เจ้าเท่านั้น! ไม่มีผู้ใดสามารถมาแทนที่เจ้าในใจของข้าได้!”“อาอวี๋ เรื่องของเมื่อวานก็ปล่อยให้มันผ่านไปแล้วเหลือแต่เรื่องของวันนี้ เรามาเริ่มต้นกันใหม่เถิด!”หลิงอวี๋ปฏิเสธมิออกหลิงซวนเคยบอกกับนางไว้แล้วให้นางลืมอดีต อย่าได้ปิดกั้นเซียวหลินเทียนอีกเลยนางมิใช่เจ้าของร่าง และมิได้เกลียดเรื่องที่เซียวหลินเทียนเฆี่ยนตีตนในตอนแรกแล้ว!และครานี้เมื่อเกิดเรื่องกับตน เซียวหลินเทียนก็ทำงานหนักเพื่อตนอย่างเต็มที่ นางเห็นความทุ่มเทของเขาทั้งหมดแล้วนางยังจะมีเหตุผลอะไรไปปฏิเสธเขาอีกเล่า?“หม่อมฉัน...”หลิงอวี๋พูดมิออก ปฏิเสธมิออกจริง ๆดูเหมือนว่าเซียวหลินเทียนจะมองความลังเลของนางออก มือทั้งสองของเขาจึงโอบนางไว้แล้วดึงเข้ามาในอ้อมแขนเขาก้มหน้
เมื่อเซียวหลินเทียนพูดออกมา หลิงอวี๋ก็นึกขึ้นได้ว่าเขาเคยเอ่ยถึงใต้เท้าเจี่ยงผู้นี้ว่าหอบรรพบุรุษในตระกูลเขาทำด้วยทองคำก่อนหน้านี้เซียวหลินเทียนส่งคนไปตรวจสอบแล้ว เช่นนั้นหลักฐานก็น่าจะสรุปได้แล้ว“อาอวี๋ เจ้าให้ข้าคิดหาวิธีสักหน่อยว่าจะโจมตีร้านตั๋วเงินสี่หลายอย่างไรโดยมิให้ราษฎรเหล่านั้นได้รับความเสียหาย”ก่อนหน้านี้เซียวหลินเทียนก็อยากจะจัดการใต้เท้าเจี่ยง แต่ก็คิดวิธีดี ๆ ที่จะทำให้ได้ผลดีทั้งสองฝ่ายมิได้ใต้เท้าเจี่ยงกับร้านตั๋วเงินสี่หลายมีความโยงใยกันไปหมด เซียวหลินเทียนกังวลว่าหากไปแตะใต้เท้าเจี่ยงแล้วจะทำให้ราษฎรเหล่านั้นได้รับความเสียหายไปด้วยก่อนหน้านี้หลิงอวี๋มิได้สนใจเรื่องนี้มากนัก แต่นางเป็นคนยุคปัจจุบัน เคยได้ยินได้เห็นธนาคารล้มเหลวมามากมาย การระดมทุนอย่างผิดกฎหมายสร้างความเสียหายให้ราษฎรอย่างหนักหากราชสำนักปล่อยปละละเลยร้านตั๋วเงินเหล่านี้ เช่นนั้นก็คงจะได้เห็นหายนะครั้งใหญ่การที่เซียวหลินเทียนใส่ใจในจุดนี้เป็นการกระโดดเชิงคุณภาพ เป็นกษัตริย์ผู้ทรงปัญญาที่ล้ำหน้ากว่าแคว้นใด ๆแต่เท่านี้ยังมิพอ ตอนนี้เซียวหลินเทียนตระหนักได้เพียงว่าร้านตั๋วเงินสี่หลายเป็นพวก
เซียวหลินเทียนทอดถอนใจพลางเอ่ย “ตอนนั้นเสด็จพ่อยังต้องพึ่งพาท่านอดีตเสนาบดีให้ช่วยพระองค์เฝ้าระวังที่ชายแดน ท่านอดีตเสนาบดีขอร้องให้หลิงเสียงกัง เสด็จพ่อก็มิอยากทำร้ายจิตใจขุนนางเก่าแก่ จึงไว้ชีวิตหลิงเสียงกัง!”หลิงอวี๋ยิ้มเยาะ มีจักรพรรดิสูงสุดเป็นเกราะป้องกันให้องค์ชายคัง มิน่าหลิงเสียงกังอยากจะพลิกคดีแต่กลับยากเย็นนักเกรงว่าตอนนั้นที่หลิงเสียงกังออกจากเมืองหลวงแล้วบอกจะออกไปตามหาความจริงก็คงเพราะมองจุดนี้ออกแล้ว“คดีกล่าวหาท่านลุงของหม่อมฉันคือเสด็จพ่อที่สร้างขึ้น หากตอนนี้ท่านจะพลิกคดีให้เขาก็จะเป็นการตั้งคำถามเสด็จพ่อของท่าน ไม่มีเหตุผลที่จะทำให้เหล่าขุนนางเชื่อมั่น การดึงคดีนี้ขึ้นมาก็จะเป็นการอกตัญญู!”หลิงอวี๋วิเคราะห์ได้ตรงประเด็นมากเซียวหลินเทียนกังวลว่า หลิงอวี๋จะเข้าใจผิดว่าตนมิยินดีจะล้างมลทินชื่อเสียงให้หลิงเสียงกัง จึงรีบเอ่ย “ข้าแค่จะบอกว่าหากต้องการจะพลิกคดีนี้ในเวลามินานนั้นเป็นไปมิได้! มิได้หมายความว่าข้าจะมิยินดีช่วยหลิงเสียงกังพลิกคดี!”“อาอวี๋ เรายังมีพื้นที่ให้จัดการเรื่องนี้!”เซียวหลินเทียนเอ่ยเสียงเรียบ “จนถึงตอนนี้เงินทหารสองล้านตำลึงนั้นก็ยังมิปราก
ดูเหมือนว่าทุกอย่างจะสิ้นสุดลงไปกับการโกนหัวของนางซุนแล้ว!นางซุนใช้วิธีเด็ดขาดนี้มาตัดการแต่งงานครึ่งชีวิตของตนกับหลิงเสียงกังแล้วทิ้งหลิงหว่านกับหลิงเสียงกังไว้และสุดท้ายนางก็มิอาจต้านทานการเกลี้ยกล่อมของหลิงหว่านได้ จึงเลือกที่จะเป็นแม่ชีอยู่ที่อารามเล็ก ๆ ซึ่งห่างจากเมืองหลวงไปห้าสิบลี้‘พิธีศพ’ ของนางซุน หลิงอวี๋ก็ออกจากวังมาร่วมงานด้วยในฐานะหลานสาวสำหรับการช่วยครั้งสุดท้ายของนางซุนที่มีต่อหลิงเสียงกังกับหลิงหว่าน ทำให้ความโกรธที่หลิงอวี๋มีต่อนางหายไปสำหรับนางซุน บทสรุปเช่นนี้ก็นับว่าสบายใจเช่นกันแต่สำหรับคนที่ยังมีชีวิตอยู่ หลิงเสียงกังกับหลิงหว่านล้วนมีเส้นทางยาวไกลที่ตนต้องเดินไป...หลิงเสียงกังสามารถลงมาเดินได้แล้ว จึงมาร่วมงานศพนางซุนโดยมีหลิงหว่านประคองมาหลังจากงานศพเสร็จสิ้น เขาก็คุกเข่าให้หลิงอวี๋“ฮองเฮา เรื่องต่าง ๆ ก่อนหน้านี้เป็นหลิงเสียงกังเองที่ผิด กระหม่อมเป็นหนี้นางซุนและทุกคน!”“กระหม่อมสมควรตาย แต่กระหม่อมตายมิได้ กระหม่อมต้องแสวงหาความยุติธรรมเพื่อชื่อเสียงของตนและแสวงหาความยุติธรรมให้แก่เหล่าทหารที่ติดตามกระหม่อมและต้องตายไปอย่างอยุติธรรม!”หล
มิเพียงแต่หลิงอวี๋ที่กลุ้ม ท่านอดีตเสนาบดีเองก็โกรธมาก หลิงเสียงกังยังมิทันจะเดินลงพื้นได้ ท่านอดีตเสนาบดีก็ได้ยินเขาบอกว่าจะตามนางซุนไปที่บ้านเกิด จึงพุ่งเข้าไปด่าหลิงเสียงกังที่เตียงผู้ป่วย“หลิงเสียงกัง นางซุนทำเรื่องเลวร้ายเอง นางรนหาที่ตายข้าก็ปล่อยนางไปแล้ว แต่เหตุใดเจ้าต้องตามนางไปด้วย?”“ข้าดูแลเจ้ามา ลำบากลำบนสอนสั่งเจ้ามา มิใช่เพื่อให้เจ้าทำให้เสียเปล่าเองเช่นนี้!”หลิงเสียงกังมองท่านอดีตเสนาบดีที่แก่ลงไปมากอย่างขมขื่น พลางเอ่ยอย่างรู้สึกผิด “ขอโทษขอรับท่านพ่อ ลูกทำให้ท่านผิดหวัง!”“อย่ามาพูดไร้สาระกับข้า เจ้ามันอกตัญญูมิรู้คุณ...”ท่านอดีตเสนาบดีเอ่ยอย่างปวดใจ “เจ้าอายุยังน้อย วรยุทธ์ในกายยังสามารถทำประโยชน์ให้บ้านเมืองได้ เจ้าไปเช่นนี้จะมิใช่การชดใช้ แต่เป็นการหลบหนี!”“ตอนนั้นเหตุใดเจ้าถึงถูกถอดออกจากตำแหน่ง? ก่อนหน้ามิสามารถพูดให้ชัดเจนได้ ตอนนี้หลิงอวี๋ก็เป็นฮองเฮาแล้ว ขอเพียงเจ้าอยากพลิกคดี นางจะมิช่วยเหลือเจ้าหรือ?”“ตระกูลหลิงของเรามิเคยเกิดเรื่องเช่นนี้ เจ้ามิคิดเพื่อตัวเจ้าเอง เจ้าก็ต้องนึกถึงฮองเฮากับหลิงเสี่ยงบ้าง!”หลิงหว่านยืนอยู่ข้างเตียงเงียบ ๆ นางมิ
นางซุนแขวนคอตาย!วันรุ่งขึ้นข่าวนี้ก็ไปถึงหูของหลิงอวี๋ หลิงซวนยิ้มขมขื่นพลางเอ่ยกับหลิงอวี๋ “ข้างนอกพูดกันว่านางซุนทำเรื่องแย่ ๆ ไว้ มิสามารถสู้หน้าครอบครัวและฮองเฮาได้จึงยอมตายชดใช้ความผิดเพคะ!”“แต่ความจริงคือหลิงหว่านไปพบทันเวลาจึงช่วยนางซุนลงมาแล้ว!”“ท่านอดีตเสนาบดีให้คนมาส่งข่าวบอกให้ฮองเฮาถือเสียว่านางตายไปแล้วเถิด! หลิงเสียงกังก็ฟื้นแล้วบอกว่าตนทำให้นางเดือดร้อนจึงขอร้องแทนนาง บอกว่าครอบครัวของพวกเขาจะไปจากเมืองหลวง นับแต่นี้ไปจะมิปรากฏตัวที่เมืองหลวงอีกเพคะ”หลิงอวี๋ฟังแล้วก็ทอดถอนใจ เพราะว่านางซุนมีบุญคุณต่อตน นางเองก็มิได้มีความคิดว่าจะต้องสังหารเสียให้หมดนางซุนจะฆ่าตัวตายเพราะอยากจะหลีกหนีการใส่โซ่ตรวนเดินตามถนน หลิงอวี๋เองก็มิอยากเห็นนางซุนทำให้กระทบต่อชื่อเสียงของจวนเสนาบดีเจิ้นหย่วน เช่นนั้นก็เอาตามนี้เถิด!“ความทรงจำของหลิงเสียงกังกลับมาแล้วหรือไม่?”หลิงอวี๋เอ่ยถามอย่างเป็นห่วง แม้ว่าจะเอาก้อนเลือดออกมาสำเร็จแล้ว นางก็มิอาจรับประกันว่าประสาทของหลิงเสียงกังจะมิได้รับความเสียหาย“เห็นว่าจำได้มากแล้วเพคะ แต่ลืมรายละเอียดต่าง ๆ ไปแล้ว! อย่างน้อยเขาก็จำหลิงหว่านกั
หลิงหว่านกลั้นน้ำตาที่กำลังจะร่วงหล่นลงมาแล้วรีบเอ่ย “ขอบคุณท่านพี่เผยที่ช่วยข้ากับท่านพ่อ! แล้วก็ขอบคุณฮูหยินผู้เฒ่าเผยที่ให้เกียรติข้าก่อนหน้านี้...”“เป็นข้าเองที่มิคู่ควรกับท่านพี่เผย ขอให้ในภายภาคหน้าท่านพี่เผยได้พบกับภรรยาที่ดีและมีคุณธรรมยิ่งกว่าข้า ข้าขอให้พวกท่านมีความสุข!”หลังจากพูดจบ หลิงหว่านก็หันหลังวิ่งเข้าบ้านไปเผยอวี้ตามนางไปแล้วรั้งนางไว้ จากนั้นก็กอดนางไว้ในอ้อมแขน“หว่านเอ๋อร์ นี่มิใช่ความผิดของเจ้า ข้าจะมิยอมถอนหมั้น!”“ข้าคิดแล้ว… การแต่งงานของเราเป็นการประทานจากองค์จักรพรรดิ มีพระราชโองการลงมาแล้ว ขอเพียงองค์จักรพรรดิมิเห็นด้วย ท่านพ่อกับท่านย่าของข้าก็มิอาจคัดค้านได้!”เผยอวี้ยิ่งพูดก็ยิ่งลนลาน “เจ้าเป็นภรรยาที่ดีและมีคุณธรรมที่สุด ข้ามิต้องการผู้อื่น หากต้องแต่งงานข้าก็จะแต่งกับเจ้าเท่านั้น!”“ท่านพี่เผย!”หลิงหว่านมิอาจกลั้นน้ำตาไว้ได้อีกแล้ว จึงปล่อยให้น้ำใสไหลรินลงมาเป็นไปได้หรือ?นางยังแต่งงานกับเผยอวี้ได้หรือ?ท่านแม่ของนางทำเรื่องแย่กับพี่หญิงหลิงหลิงมากถึงเพียงนั้น องค์จักรพรรดิจะยังอนุญาตให้เผยอวี้แต่งงานกับตนหรือ?“เจ้าดูแลท่านพ่อของเจ้าอ