ขันทีโม่เห็นใบหน้าหดหู่ของหลิงอวี๋ก็ยิ้มออกมา “สาวน้อย ข้าหาได้ตั้งใจจะทำให้เจ้ากลัวไม่ อย่าทำหน้าเช่นนั้นสิ!”“ตระกูลเหล่านี้ก็เหมือนกับตระกูลใหญ่ในฉินตะวันตกของพวกเจ้า มิแน่ว่าทุกตระกูลที่จะมีความทะเยอทะยานที่จะครองแผ่นดิน และมิใช่ทุกตระกูลจะเป็นศัตรูของเจ้า!”“อีกอย่าง หยกหล้าสุขาวดีก็เข้ากันได้กับสายเลือดของเจ้า มิใช่ว่าสังหารเจ้าแล้วจะเอาหยกหล้าสุขาวดีไปได้ดังที่เจ้าคิด!”แม่นมอูก็เหลือบมองหลิงอวี๋อย่างดูถูกเช่นกัน “รู้จักเศษพระธาตุหรือไม่?”หลิงอวี๋พยักหน้าโดยมิรู้ตัวว่ากันว่าเศษพระธาตุเป็นการตกผลึกของพระภิกษุผู้มีชื่อเสียงหลังจากละสังขารโดยการนั่งสมาธิหรือหลังจากการเผาศพแม่นมอูเอ่ยอย่างเย็นชา “ความแตกต่างระหว่างความศักดิ์สิทธิ์ของหยกหล้าสุขาวดีกับเศษพระธาตุก็คือ มันมิได้มาจากการเผาศพของท่าน!”“หยกหล้าสุขาวดีเป็นมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์ที่มีจิตวิญญาณ จะต้องละลายเลือดเนื้อของท่านด้วยโอสถในยามที่ท่านยังมีชีวิตอยู่จึงจะได้มา มิเช่นนั้น หยกหล้าสุขาวดีจะตายไปพร้อมกับความตายของท่าน!”“กุญแจสำคัญในการได้รับหยกหล้าสุขาวดีก็คือโอสถ โอสถชนิดนี้จะพบได้ในภูเขาศักดิ์สิทธิ์เท่านั้น อีกทั
จ้าวฮุยมองไปทางลู่หนานอย่างเคียดแค้น แม้ว่าในใจจะเต็มไปด้วยความเกลียดชัง แต่ปากก็ยังคงตะโกนออกไปอย่างเข้มแข็ง“แม่ทัพลู่ ข้าทำให้องค์จักรพรรดิต้องทรงผิดหวังในความไว้วางพระทัยนี้ และตกไปอยู่ในเงื้อมมือของเว่ยเหนือ ความเป็นความตายของข้ามิเพียงพอให้เอ่ยถึง แม่ทัพลู่บอกองค์จักรพรรดิเถิดว่าให้ความสำคัญกับสถานการณ์โดยรวมก่อน!”องค์ชายอิงก็ตะโกนไปเช่นกัน “แม่ทัพลู่ ข้าเคารพจักรพรรดิของพวกเจ้าในฐานะบุรุษ ในเมื่อเขาเสนอให้แข่งขัน เช่นนั้นก็มาแข่งขันกัน!”“ยามเที่ยงในวันพรุ่ง เราจะประลองกันต่อหน้ากองทัพทั้งสอง!”“หากข้าแพ้ ข้าจะปล่อยอัครเสนาบดีจ้าวกลับไปตามคำขอของจักรพรรดิพวกเจ้า!”“ข้าเชื่อว่าจักรพรรดิของพวกเจ้าจะพูดคำไหนคำนั้นเช่นกัน!”องค์ชายอิงไม่มีทางเลือกอื่นจึงยอมรับคำท้าของเซียวหลินเทียนก่อนหน้านี้เขาได้นัดหมายกับองค์ชายหนิงแห่งฉีตะวันออกให้มาจัดการกับเซียวหลินเทียนด้วยกันแล้ว แต่องค์ชายหนิงถูกเซียวหลินเทียนกับคนของจักรพรรดิเยี่ยนหนานโจมตีจนมิสามารถดูแลตนเองได้ จึงทรยศต่อความภักดีมิมาช่วยเหลือตนแล้วส่วนทางด้านเยวี่ยใต้ได้ยึดครองป้อมยุทธศาสตร์สำคัญไว้ ในช่วงเวลานี้มิสามารถโจมตีไ
ท่าทางออกรบที่น่าเกรงขามของเซียวหลินเทียนสร้างขวัญกำลังใจให้ทหารฉินตะวันตก ภายใต้การนำของจ้าวซวน พวกเขาต่างก็โห่ร้องและโบกกระบี่ไปพร้อมกัน“องค์จักรพรรดิทรงอำนาจ!”“ฉินตะวันตกต้องคว้าชัย!”เมื่อทหารจากเว่ยเหนือได้ยินสิ่งนี้ ก็ตะโกนมาอย่างมิแสดงความอ่อนแอ “จักรพรรดิของเราทรงอำนาจ... เว่ยเหนือจะต้องคว้าชัย!”ทหารทั้งสองฝ่ายต่างก็แข่งขันกัน คนหนึ่งตะโกนอีกคนหนึ่งก็ตะโกนให้ดังกว่า“ฉินตะวันตกต้องคว้าชัย!”“เว่ยเหนือต้องคว้าชัย!”เสียงตะโกนดังเพิ่มขึ้นทีละนิด ทหารทั้งสองฝ่ายต่างก็ตะโกนกันจนหน้าแดงคอเกร็ง แต่ก็ยังคงตะโกนกันต่อไปหลังจากตะโกนกันไปหลายสิบครั้ง สีหน้าขององค์ชายอิงก็เปลี่ยนไปแม้ว่าเสียงทหารฝ่ายตนจะดัง แต่ก็ค่อย ๆ มิสม่ำเสมอเป็นเสียงเดียวกัน ราวกับพวกอันธพาลที่อยู่ตามท้องถนนที่ตะโกนส่งเสียงดังแต่ทางฝั่งฉินตะวันตก เสียงมีความสม่ำเสมอพร้อมเพรียง ในบรรดาปากนับมิถ้วนนั้นราวกับสื่อสารด้วยสมองเดียวกัน มีความพร้อมเพรียงตั้งแต่ต้นจนจบแม้ว่านี่จะเป็นเพียงเสียงตะโกน แต่ก็สามารถสะท้อนถึงภาพลักษณ์ของทหารได้กองทัพของฉินตะวันตกมีความเข้มงวดในการบัญชาการกองทัพ มีความตั้งใจให้สมบ
องค์ชายอิงยิ้มอย่างเย่อหยิ่ง “จงวางใจ หากข้าแพ้เพราะทักษะด้อยกว่าผู้อื่น ข้าก็ย่อมมอบอัครเสนาบดีจ้าวคืนให้กับพวกเจ้าอย่างนอบน้อม!”“คนสารเลวที่ทรยศต่อแคว้นและแสวงหาความรุ่งเรืองเช่นนี้ ข้ายังจะต้องเลี้ยงเขาต่อจนข้ามปีอีกหรือ?”เซียวหลินเทียนใจเต้นเมื่อเห็นองค์ชายอิงเปิดโปงพฤติกรรมที่น่ารังเกียจของจ้าวฮุยออกมาอย่างมิปิดบังเขากำลังกังวลมิรู้ว่าควรจะตรวจสอบพฤติกรรมทรยศต่อแคว้นของจ้าวฮุยอย่างไรดี ไหนเลยจะคาดคิดว่าองค์ชายอิงจะพูดออกมาเช่นนี้เซียวหลินเทียนเอ่ยเสียงเรียบ “องค์ชายอิง ข้ามีคำขอ เราเพิ่มหนึ่งข้อในการเดิมพันของเราได้หรือไม่…”“ข้าให้เจ้าห้ากระบวนท่า หากเจ้าแพ้ ก็จงเปิดเผยต่อหน้าทหารของข้าว่าจ้าวฮุยได้ทรยศต่อฉินตะวันตก!”“องค์ชายอิง เจ้ามิสามารถทนต่อคนทรยศแคว้นแสวงหาความรุ่งเรืองเช่นนี้ได้ ฉินตะวันตกของข้าก็ทนมิได้เช่นกัน!”“ห้ากระบวนท่าแลกกับคำให้การของเจ้า เช่นนี้เป็นประโยชน์และมิเป็นอันตรายต่อเจ้า!"เซียวหลินเทียนพยายามโน้มน้าวองค์ชายอิงสีหน้าขององค์ชายอิงเปลี่ยนไป เขาเงียบไปครู่หนึ่งแล้วเอ่ย “ได้ ข้าตกลงเพิ่มเงื่อนไขนี้!” แม้ว่าการทำเช่นนี้จะทำให้องค์ชายอิง
คำพูดดูหมิ่นของทหารเว่ยเหนือทำให้ทหารฉินตะวันตกทั้งกังวลทั้งโกรธ อยากจะไปสังหารองค์ชายอิงแทนเซียวหลินเทียนเสียเดี๋ยวนั้นพวกเขาทั้งหมดมองไปทางเซียวหลินเทียนอย่างทั้งคาดหวังทั้งโกรธ และตะโกนในใจ ‘องค์จักรพรรดิโจมตีเถิดพ่ะย่ะค่ะ! อย่าให้พวกเขาดูถูกฉินตะวันตกของเรา!’‘ถึงแม้จะต้องตาย ก็ต้องต่อสู้อย่างเข้มแข็ง เอาแต่หดหัวอยู่แล้วนับเป็นวีรบุรุษอะไรกัน!’ทหารของทั้งสองกองทัพต่างก็มีเรื่องในใจของตน ทหารของเว่ยเหนือมีขวัญกำลังใจสูงมาก ในขณะที่ทหารของฉินตะวันตกเงียบไปหมดทันใดนั้น เซียวหลินเทียนให้องค์ชายอิงห้ากระบวนท่าไปแล้ว เขาจึงยิ้มพลางเอ่ยกับองค์ชายอิง “องค์ชายอิง ห้ากระบวนท่าครบแล้ว ข้าได้รักษาสัญญาแล้ว ต่อจากนี้ข้าจะมิยอมให้เจ้าแล้ว!”องค์ชายอิงใบหน้ามืดมน มิพูดอะไร จากนั้นก็ใช้หอกยาวนั้นเป็นดาบ แทงไปที่ท้องม้าของเซียวหลินเทียนห้ากระบวนท่าเมื่อครู่นี้ เดินทีเขาเต็มไปด้วยความมั่นใจที่จะฉวยโอกาสตอนที่เซียวหลินเทียนมิโจมตีสังหารเซียวหลินเทียนไปเสีย แต่ไหนเลยจะคิดว่าเซียวหลินเทียนมิได้สู้กลับ แต่เขามีฝีมือคล่องแคล่วราวกับมังกรว่ายน้ำจนตนมิสามารถแทงเขาได้เลยห้ากระบวนท่านี้สู
องค์ชายอิงรอให้เซียวหลินเทียนตกจากหลังม้าแล้วค่อยสังหารเซียวหลินเทียน!อาวุธลับที่บางราวกับขนวัวเหล่านี้อยู่ห่างไกลจากทหารของทั้งสองกองทัพมากจนไม่มีใครมองเห็นและไม่มีทางที่จะมีใครคิดว่าองค์ชายอิงลอบวางแผนทำร้ายเซียวหลินเทียนด้วย!เซียวหลินเทียนเห็นอาวุธลับมากมายโจมตีมาทางเขา ในดวงตาของเขาก็เต็มไปด้วยจุดแสงสีน้ำเงินเต็มไปหมด...เขาย่อมรู้ว่าอาวุธลับเหล่านี้มีพิษ แต่กะทันหันเช่นนี้จะเลี่ยงได้อย่างไรเล่า?ระยะทางใกล้เช่นนี้ ไม่มีเวลาให้เขาหลบหนีได้!เมื่อจ้าวฮุยเห็นภาพนี้ ก็ทำได้เพียงยกแขนขึ้นและตะโกนอย่างตื่นเต้นเท่านั้นเขาเป็นเพียงผู้เดียวในที่เกิดเหตุที่รู้ว่าการแยกหัวหอกขององค์ชายอิงออกนั้นหมายถึงอะไร!เพราะเขาเป็นคนเสนอแนะให้องค์ชายอิงดัดแปลงหอกนี้ ยาพิษที่แช่อยู่ในนั้นเขาก็เป็นคนส่งให้กับองค์ชายอิงด้วย!พิษชนิดนี้แม้ว่าหลิงอวี๋จะอยู่ที่นี่ แต่หากคิดจะแก้พิษให้เซียวหลินเทียนก็ต้องใช้เวลา มิต้องพูดถึงว่าองค์ชายอิงไม่มีทางให้เวลาเซียวหลินเทียนได้แก้พิษหรอก!เซียวหลินเทียน เจ้าเองก็มีวันนี้เช่นกัน!ฮ่า ๆ ๆ!จ้าวฮุยพยายามระงับความอยากหัวเราะอย่างบ้าคลั่งเอาไว้ และกำลังคิ
ในหัวองค์ชายอิงคิดอย่างรวดเร็ว แล้วก็ได้ยินเซียวหลินเทียนเอ่ยอย่างมิอดทน “องค์ชายอิง ข้าเคารพเจ้าในฐานะลูกผู้ชาย เจ้าอย่าได้แพ้แล้วมิยอมรับเลย!”องค์ชายอิงมิสามารถแยกแยะเจตนาที่แท้จริงของเซียวหลินเทียนได้ จึงตะโกนอย่างโหดร้าย “ข้ายอมรับความพ่ายแพ้!”เซียวหลินเทียนยิ้ม แล้วยกง้าวมังกรเขียวขึ้นมาพลางตะโกน “องค์ชายอิงแห่งเว่ยเหนือยอมแพ้แล้ว!”“กี๊ก ๆ…”ขณะที่ทุกคนในฉินตะวันตกรู้สึกเสียดายที่เซียวหลินเทียนมิสามารถสังหารองค์ชายอิงได้ทันเวลา เสียงร้องของนกเหยี่ยวก็ดังมาจากท้องฟ้าทุกคนเงยหน้าขึ้นมองไปแล้วก็เห็นนกเหยี่ยวสีดำขนาดใหญ่ขององค์ชายอิงโฉบลงมาจากที่สูง แล้วพุ่งเข้าใส่เซียวหลินเทียนปีกของเฮยอิงพัดพาลมแรงไปทางเซียวหลินเทียน คิดว่าทำเช่นนี้แล้วจะทำให้เซียวหลินเทียนตกลงจากหลังม้านกที่ดุร้ายเช่นนี้เต็มไปด้วยความโหดร้าย หากถูกมันฟาดเข้า เซียวหลินเทียนมิตกจากม้าก็ต้องถูกฟาดได้รับบาดเจ็บเซียวหลินเทียนไหนเลยจะถูกมันฟาดบาดเจ็บได้ เขาเหวี่ยงง้าวมังกรเขียวกระแทกพลังใส่เฮยอิงกระเด็นไปแต่เฮยอิงตัวนี้ทรงพลังมากจริง ๆ มันเอียวงตัว หมุนครึ่งวงกลมกลางอากาศ แล้วหันกลับไปโจมตีเซียวหลินเทียน
“หลิงอวี๋!” “ในปีนั้นเจ้าวางแผนการชั่วร้ายใส่ข้าอย่างไร้ยางอาย… จากนั้นยังใช้ป้ายทองอาญาสิทธิ์ที่องค์จักรพรรดิพระราชทานให้มาบีบบังคับให้ข้าแต่งงานกับเจ้า...” “มาตอนนี้ยังลอบขโมยของล้ำค่าที่เสด็จแม่ของข้าทิ้งเอาไว้ เพื่อเติมเต็มสิ่งที่เจ้าขาดหายไป! ยิ่งไปกว่านั้นคือทำร้ายเฮยจื่อเสียจนปางตาย!” “หากว่าข้ายังไว้ชีวิตเจ้าอีก ข้าก็คงจะไม่แซ่เซียวแล้ว!” ใคร? ใครกำลังพูดอยู่กัน ขณะที่เธอกึ่งหลับกึ่งตื่นอยู่นั้น ก็ได้ยินเสียงแส้ “เพียะ!” ดังขึ้น ทั่วทั้งตัวของหลิงอวี๋เจ็บปวดจนสั่นสะท้าน จนต้องลืมตาขึ้นมาทันที... จากนั้นเมื่อมองเห็นด้านหน้าของเธอ มีชายหนุ่มหล่อเหลา สูงส่งราวกับเทพเจ้านั่งอยู่บนรถเข็น จ้องมองยังเธออย่างแข็งกร้าว “โบย! ห้าสิบแส้! อย่าให้ขาดแม้แต่หนึ่ง!” “โบยให้ตาย แล้วจงลากไปโยนทิ้งที่สุสานรวมซะ!” เพียะ! เพียะ! เพียะ! เสียงแส้ดังออกมาพร้อมกับเสียงลมครั้งแล้วครั้งเล่ากระแทกลงบนกายของหลิงอวี๋ หลิงอวี๋เจ็บปวดจนดวงตามืดมน อีกเพียงนิดเกือบจะเป็นลมไป... หลิงอวี๋ที่เกือบจะสิ้นลมไป เธอนึกไม่ออกว่านี่มันเกิดอะไรขึ้น? ท่านอ๋องอะไรกัน? เฮยจื่ออะไร? เมื่อคร
ในหัวองค์ชายอิงคิดอย่างรวดเร็ว แล้วก็ได้ยินเซียวหลินเทียนเอ่ยอย่างมิอดทน “องค์ชายอิง ข้าเคารพเจ้าในฐานะลูกผู้ชาย เจ้าอย่าได้แพ้แล้วมิยอมรับเลย!”องค์ชายอิงมิสามารถแยกแยะเจตนาที่แท้จริงของเซียวหลินเทียนได้ จึงตะโกนอย่างโหดร้าย “ข้ายอมรับความพ่ายแพ้!”เซียวหลินเทียนยิ้ม แล้วยกง้าวมังกรเขียวขึ้นมาพลางตะโกน “องค์ชายอิงแห่งเว่ยเหนือยอมแพ้แล้ว!”“กี๊ก ๆ…”ขณะที่ทุกคนในฉินตะวันตกรู้สึกเสียดายที่เซียวหลินเทียนมิสามารถสังหารองค์ชายอิงได้ทันเวลา เสียงร้องของนกเหยี่ยวก็ดังมาจากท้องฟ้าทุกคนเงยหน้าขึ้นมองไปแล้วก็เห็นนกเหยี่ยวสีดำขนาดใหญ่ขององค์ชายอิงโฉบลงมาจากที่สูง แล้วพุ่งเข้าใส่เซียวหลินเทียนปีกของเฮยอิงพัดพาลมแรงไปทางเซียวหลินเทียน คิดว่าทำเช่นนี้แล้วจะทำให้เซียวหลินเทียนตกลงจากหลังม้านกที่ดุร้ายเช่นนี้เต็มไปด้วยความโหดร้าย หากถูกมันฟาดเข้า เซียวหลินเทียนมิตกจากม้าก็ต้องถูกฟาดได้รับบาดเจ็บเซียวหลินเทียนไหนเลยจะถูกมันฟาดบาดเจ็บได้ เขาเหวี่ยงง้าวมังกรเขียวกระแทกพลังใส่เฮยอิงกระเด็นไปแต่เฮยอิงตัวนี้ทรงพลังมากจริง ๆ มันเอียวงตัว หมุนครึ่งวงกลมกลางอากาศ แล้วหันกลับไปโจมตีเซียวหลินเทียน
องค์ชายอิงรอให้เซียวหลินเทียนตกจากหลังม้าแล้วค่อยสังหารเซียวหลินเทียน!อาวุธลับที่บางราวกับขนวัวเหล่านี้อยู่ห่างไกลจากทหารของทั้งสองกองทัพมากจนไม่มีใครมองเห็นและไม่มีทางที่จะมีใครคิดว่าองค์ชายอิงลอบวางแผนทำร้ายเซียวหลินเทียนด้วย!เซียวหลินเทียนเห็นอาวุธลับมากมายโจมตีมาทางเขา ในดวงตาของเขาก็เต็มไปด้วยจุดแสงสีน้ำเงินเต็มไปหมด...เขาย่อมรู้ว่าอาวุธลับเหล่านี้มีพิษ แต่กะทันหันเช่นนี้จะเลี่ยงได้อย่างไรเล่า?ระยะทางใกล้เช่นนี้ ไม่มีเวลาให้เขาหลบหนีได้!เมื่อจ้าวฮุยเห็นภาพนี้ ก็ทำได้เพียงยกแขนขึ้นและตะโกนอย่างตื่นเต้นเท่านั้นเขาเป็นเพียงผู้เดียวในที่เกิดเหตุที่รู้ว่าการแยกหัวหอกขององค์ชายอิงออกนั้นหมายถึงอะไร!เพราะเขาเป็นคนเสนอแนะให้องค์ชายอิงดัดแปลงหอกนี้ ยาพิษที่แช่อยู่ในนั้นเขาก็เป็นคนส่งให้กับองค์ชายอิงด้วย!พิษชนิดนี้แม้ว่าหลิงอวี๋จะอยู่ที่นี่ แต่หากคิดจะแก้พิษให้เซียวหลินเทียนก็ต้องใช้เวลา มิต้องพูดถึงว่าองค์ชายอิงไม่มีทางให้เวลาเซียวหลินเทียนได้แก้พิษหรอก!เซียวหลินเทียน เจ้าเองก็มีวันนี้เช่นกัน!ฮ่า ๆ ๆ!จ้าวฮุยพยายามระงับความอยากหัวเราะอย่างบ้าคลั่งเอาไว้ และกำลังคิ
คำพูดดูหมิ่นของทหารเว่ยเหนือทำให้ทหารฉินตะวันตกทั้งกังวลทั้งโกรธ อยากจะไปสังหารองค์ชายอิงแทนเซียวหลินเทียนเสียเดี๋ยวนั้นพวกเขาทั้งหมดมองไปทางเซียวหลินเทียนอย่างทั้งคาดหวังทั้งโกรธ และตะโกนในใจ ‘องค์จักรพรรดิโจมตีเถิดพ่ะย่ะค่ะ! อย่าให้พวกเขาดูถูกฉินตะวันตกของเรา!’‘ถึงแม้จะต้องตาย ก็ต้องต่อสู้อย่างเข้มแข็ง เอาแต่หดหัวอยู่แล้วนับเป็นวีรบุรุษอะไรกัน!’ทหารของทั้งสองกองทัพต่างก็มีเรื่องในใจของตน ทหารของเว่ยเหนือมีขวัญกำลังใจสูงมาก ในขณะที่ทหารของฉินตะวันตกเงียบไปหมดทันใดนั้น เซียวหลินเทียนให้องค์ชายอิงห้ากระบวนท่าไปแล้ว เขาจึงยิ้มพลางเอ่ยกับองค์ชายอิง “องค์ชายอิง ห้ากระบวนท่าครบแล้ว ข้าได้รักษาสัญญาแล้ว ต่อจากนี้ข้าจะมิยอมให้เจ้าแล้ว!”องค์ชายอิงใบหน้ามืดมน มิพูดอะไร จากนั้นก็ใช้หอกยาวนั้นเป็นดาบ แทงไปที่ท้องม้าของเซียวหลินเทียนห้ากระบวนท่าเมื่อครู่นี้ เดินทีเขาเต็มไปด้วยความมั่นใจที่จะฉวยโอกาสตอนที่เซียวหลินเทียนมิโจมตีสังหารเซียวหลินเทียนไปเสีย แต่ไหนเลยจะคิดว่าเซียวหลินเทียนมิได้สู้กลับ แต่เขามีฝีมือคล่องแคล่วราวกับมังกรว่ายน้ำจนตนมิสามารถแทงเขาได้เลยห้ากระบวนท่านี้สู
องค์ชายอิงยิ้มอย่างเย่อหยิ่ง “จงวางใจ หากข้าแพ้เพราะทักษะด้อยกว่าผู้อื่น ข้าก็ย่อมมอบอัครเสนาบดีจ้าวคืนให้กับพวกเจ้าอย่างนอบน้อม!”“คนสารเลวที่ทรยศต่อแคว้นและแสวงหาความรุ่งเรืองเช่นนี้ ข้ายังจะต้องเลี้ยงเขาต่อจนข้ามปีอีกหรือ?”เซียวหลินเทียนใจเต้นเมื่อเห็นองค์ชายอิงเปิดโปงพฤติกรรมที่น่ารังเกียจของจ้าวฮุยออกมาอย่างมิปิดบังเขากำลังกังวลมิรู้ว่าควรจะตรวจสอบพฤติกรรมทรยศต่อแคว้นของจ้าวฮุยอย่างไรดี ไหนเลยจะคาดคิดว่าองค์ชายอิงจะพูดออกมาเช่นนี้เซียวหลินเทียนเอ่ยเสียงเรียบ “องค์ชายอิง ข้ามีคำขอ เราเพิ่มหนึ่งข้อในการเดิมพันของเราได้หรือไม่…”“ข้าให้เจ้าห้ากระบวนท่า หากเจ้าแพ้ ก็จงเปิดเผยต่อหน้าทหารของข้าว่าจ้าวฮุยได้ทรยศต่อฉินตะวันตก!”“องค์ชายอิง เจ้ามิสามารถทนต่อคนทรยศแคว้นแสวงหาความรุ่งเรืองเช่นนี้ได้ ฉินตะวันตกของข้าก็ทนมิได้เช่นกัน!”“ห้ากระบวนท่าแลกกับคำให้การของเจ้า เช่นนี้เป็นประโยชน์และมิเป็นอันตรายต่อเจ้า!"เซียวหลินเทียนพยายามโน้มน้าวองค์ชายอิงสีหน้าขององค์ชายอิงเปลี่ยนไป เขาเงียบไปครู่หนึ่งแล้วเอ่ย “ได้ ข้าตกลงเพิ่มเงื่อนไขนี้!” แม้ว่าการทำเช่นนี้จะทำให้องค์ชายอิง
ท่าทางออกรบที่น่าเกรงขามของเซียวหลินเทียนสร้างขวัญกำลังใจให้ทหารฉินตะวันตก ภายใต้การนำของจ้าวซวน พวกเขาต่างก็โห่ร้องและโบกกระบี่ไปพร้อมกัน“องค์จักรพรรดิทรงอำนาจ!”“ฉินตะวันตกต้องคว้าชัย!”เมื่อทหารจากเว่ยเหนือได้ยินสิ่งนี้ ก็ตะโกนมาอย่างมิแสดงความอ่อนแอ “จักรพรรดิของเราทรงอำนาจ... เว่ยเหนือจะต้องคว้าชัย!”ทหารทั้งสองฝ่ายต่างก็แข่งขันกัน คนหนึ่งตะโกนอีกคนหนึ่งก็ตะโกนให้ดังกว่า“ฉินตะวันตกต้องคว้าชัย!”“เว่ยเหนือต้องคว้าชัย!”เสียงตะโกนดังเพิ่มขึ้นทีละนิด ทหารทั้งสองฝ่ายต่างก็ตะโกนกันจนหน้าแดงคอเกร็ง แต่ก็ยังคงตะโกนกันต่อไปหลังจากตะโกนกันไปหลายสิบครั้ง สีหน้าขององค์ชายอิงก็เปลี่ยนไปแม้ว่าเสียงทหารฝ่ายตนจะดัง แต่ก็ค่อย ๆ มิสม่ำเสมอเป็นเสียงเดียวกัน ราวกับพวกอันธพาลที่อยู่ตามท้องถนนที่ตะโกนส่งเสียงดังแต่ทางฝั่งฉินตะวันตก เสียงมีความสม่ำเสมอพร้อมเพรียง ในบรรดาปากนับมิถ้วนนั้นราวกับสื่อสารด้วยสมองเดียวกัน มีความพร้อมเพรียงตั้งแต่ต้นจนจบแม้ว่านี่จะเป็นเพียงเสียงตะโกน แต่ก็สามารถสะท้อนถึงภาพลักษณ์ของทหารได้กองทัพของฉินตะวันตกมีความเข้มงวดในการบัญชาการกองทัพ มีความตั้งใจให้สมบ
จ้าวฮุยมองไปทางลู่หนานอย่างเคียดแค้น แม้ว่าในใจจะเต็มไปด้วยความเกลียดชัง แต่ปากก็ยังคงตะโกนออกไปอย่างเข้มแข็ง“แม่ทัพลู่ ข้าทำให้องค์จักรพรรดิต้องทรงผิดหวังในความไว้วางพระทัยนี้ และตกไปอยู่ในเงื้อมมือของเว่ยเหนือ ความเป็นความตายของข้ามิเพียงพอให้เอ่ยถึง แม่ทัพลู่บอกองค์จักรพรรดิเถิดว่าให้ความสำคัญกับสถานการณ์โดยรวมก่อน!”องค์ชายอิงก็ตะโกนไปเช่นกัน “แม่ทัพลู่ ข้าเคารพจักรพรรดิของพวกเจ้าในฐานะบุรุษ ในเมื่อเขาเสนอให้แข่งขัน เช่นนั้นก็มาแข่งขันกัน!”“ยามเที่ยงในวันพรุ่ง เราจะประลองกันต่อหน้ากองทัพทั้งสอง!”“หากข้าแพ้ ข้าจะปล่อยอัครเสนาบดีจ้าวกลับไปตามคำขอของจักรพรรดิพวกเจ้า!”“ข้าเชื่อว่าจักรพรรดิของพวกเจ้าจะพูดคำไหนคำนั้นเช่นกัน!”องค์ชายอิงไม่มีทางเลือกอื่นจึงยอมรับคำท้าของเซียวหลินเทียนก่อนหน้านี้เขาได้นัดหมายกับองค์ชายหนิงแห่งฉีตะวันออกให้มาจัดการกับเซียวหลินเทียนด้วยกันแล้ว แต่องค์ชายหนิงถูกเซียวหลินเทียนกับคนของจักรพรรดิเยี่ยนหนานโจมตีจนมิสามารถดูแลตนเองได้ จึงทรยศต่อความภักดีมิมาช่วยเหลือตนแล้วส่วนทางด้านเยวี่ยใต้ได้ยึดครองป้อมยุทธศาสตร์สำคัญไว้ ในช่วงเวลานี้มิสามารถโจมตีไ
ขันทีโม่เห็นใบหน้าหดหู่ของหลิงอวี๋ก็ยิ้มออกมา “สาวน้อย ข้าหาได้ตั้งใจจะทำให้เจ้ากลัวไม่ อย่าทำหน้าเช่นนั้นสิ!”“ตระกูลเหล่านี้ก็เหมือนกับตระกูลใหญ่ในฉินตะวันตกของพวกเจ้า มิแน่ว่าทุกตระกูลที่จะมีความทะเยอทะยานที่จะครองแผ่นดิน และมิใช่ทุกตระกูลจะเป็นศัตรูของเจ้า!”“อีกอย่าง หยกหล้าสุขาวดีก็เข้ากันได้กับสายเลือดของเจ้า มิใช่ว่าสังหารเจ้าแล้วจะเอาหยกหล้าสุขาวดีไปได้ดังที่เจ้าคิด!”แม่นมอูก็เหลือบมองหลิงอวี๋อย่างดูถูกเช่นกัน “รู้จักเศษพระธาตุหรือไม่?”หลิงอวี๋พยักหน้าโดยมิรู้ตัวว่ากันว่าเศษพระธาตุเป็นการตกผลึกของพระภิกษุผู้มีชื่อเสียงหลังจากละสังขารโดยการนั่งสมาธิหรือหลังจากการเผาศพแม่นมอูเอ่ยอย่างเย็นชา “ความแตกต่างระหว่างความศักดิ์สิทธิ์ของหยกหล้าสุขาวดีกับเศษพระธาตุก็คือ มันมิได้มาจากการเผาศพของท่าน!”“หยกหล้าสุขาวดีเป็นมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์ที่มีจิตวิญญาณ จะต้องละลายเลือดเนื้อของท่านด้วยโอสถในยามที่ท่านยังมีชีวิตอยู่จึงจะได้มา มิเช่นนั้น หยกหล้าสุขาวดีจะตายไปพร้อมกับความตายของท่าน!”“กุญแจสำคัญในการได้รับหยกหล้าสุขาวดีก็คือโอสถ โอสถชนิดนี้จะพบได้ในภูเขาศักดิ์สิทธิ์เท่านั้น อีกทั
แดนปีศาจถูกสร้างขึ้นโดยมหาเทพ ในช่วงมิกี่ร้อยปีที่มานี้พวกตระกูลใหญ่ ๆ ในแดนปีศาจยอมจำนนต่อการควบคุมของตระกูลหลง ซึ่งก็เพราะเกรงกลัวมหาเทพที่มีสถานะดั่งเทพเจ้าหากข่าวว่ามหาเทพสวรรคตแล้วแพร่ออกไป เหล่าปีศาจและสัตว์ประหลาดเหล่านั้นผู้ใดจะยังเชื่อฟังตระกูลหลงอีก!ถึงเวลานั้น ห้าตระกูลใหญ่ในแดนปีศาจล้วนต้องจะตกอยู่ในการต่อสู้ดังนั้น เพื่อปกป้องอำนาจทางราชสำนัก หลงหมิงกับตระกูลเก๋อจึงมิยอมให้หยกหล้าสุขาวดีหลุดออกไปและเปิดโปงการมีอยู่ของมหาเทพต่อให้หลงหมิงจะชอบหลานฮุ่ยจวนมากเพียงใด ก็มิสำคัญสำหรับเขาเท่ากับตระกูลของตน ดังนั้นเขาจึงมีส่วนร่วมในการสกัดกั้นและสังหารหลานฮุ่ยจวนด้วยตนเอง“เมื่อดูจากที่หลานฮุ่ยจวนหนีออกจากแดนปีศาจพร้อมกับหยกหล้าสุขาวดีในช่วงยี่สิบปีที่ผ่านมานี้แล้ว ในแดนปีศาจไม่มีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ก็พิสูจน์ได้แล้วว่า หลงหมิงกับตระกูลเก๋อรักษาความลับได้ดี!”แม่นมอูหัวเราะเยาะพลางเอ่ย “แต่เก๋อเทียนซือถูกท่านโจมตีได้รับบาดเจ็บหนีกลับไป พวกเขาทุกคนจะรู้ว่าหยกหล้าสุขาวดีอยู่ในมือของท่าน!”“หลิงอวี๋ ความสามารถของท่านในตอนนี้หากปะทะกับพวกเขาก็เป็นเช่นไข่กะเทาะกับก้อนหิน ช่างเป
แต่สิ่งที่แม่นมอูพูดต่อไปทำให้หลิงอวี๋รู้ว่าตนมีมุมมองที่คับแคบไปแล้วเนื่องจากผู้บำเพ็ญตนมากมายในแดนปีศาจมีชีวิตที่ยืนยาวได้ จึงมีความอดทนต่อข้อกำหนดในการแต่งงานมากเช่นนั้นจึงมีบุรุษที่มีภรรยาหลายคนมากจนนับมิถ้วน หลงหมิงอายุสิบห้าปีก็แต่งงานเชื่อมความสัมพันธ์แล้ว เขาแต่งงานกับคุณหนูจากตระกูลเก๋อที่มีอำนาจอีกตระกูลหนึ่งมาเป็นภรรยาหลวงครั้นเมื่อหลานฮุ่ยจวนกับแม่นมอูตกหลุมรักหลงหมิง หลงหมิงก็มีลูกชายสองคนแล้วแต่สตรีสองคนนี้ก็ยังคงหลงใหลหลงหมิง และกระโจนเข้าใส่เขาราวกับแมลงเม่าบินเข้ากองไฟแม่นมอูเป็นเผ่าพันธุ์ที่มีเอกลักษณ์เหนือจากตระกูลใหญ่ทั้งห้า ตระกูลอูเป็นตระกูลของนักบวชหญิงในแดนปีศาจเผ่านักบวชหญิงมีหน้าที่รับผิดชอบในการปกป้องภูเขาศักดิ์สิทธิ์หลายแห่งในแดนปีศาจ ภูเขาศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้สามารถจัดหาเครื่องยาสมุนไพรของแดนปีศาจที่ผู้บำเพ็ญตนต้องการได้ดังนั้นเผ่านักบวชจึงได้รับความเคารพจากเหล่าตระกูลใหญ่แม่นมอูมีสถานะสูงตั้งแต่นางยังเป็นเด็ก ครอบครัวใหญ่เห็นนางก็จะต้องคำนับนางด้วยเหตุนี้นางจึงเย่อหยิ่งมาโดยตลอด แต่เมื่อพบหลงหมิงในคราแรกก็ตกหลุมรักเสียแล้วนักบวชหญิงทุกคน