องค์ชายอิงยิ้มอย่างเย่อหยิ่ง “จงวางใจ หากข้าแพ้เพราะทักษะด้อยกว่าผู้อื่น ข้าก็ย่อมมอบอัครเสนาบดีจ้าวคืนให้กับพวกเจ้าอย่างนอบน้อม!”“คนสารเลวที่ทรยศต่อแคว้นและแสวงหาความรุ่งเรืองเช่นนี้ ข้ายังจะต้องเลี้ยงเขาต่อจนข้ามปีอีกหรือ?”เซียวหลินเทียนใจเต้นเมื่อเห็นองค์ชายอิงเปิดโปงพฤติกรรมที่น่ารังเกียจของจ้าวฮุยออกมาอย่างมิปิดบังเขากำลังกังวลมิรู้ว่าควรจะตรวจสอบพฤติกรรมทรยศต่อแคว้นของจ้าวฮุยอย่างไรดี ไหนเลยจะคาดคิดว่าองค์ชายอิงจะพูดออกมาเช่นนี้เซียวหลินเทียนเอ่ยเสียงเรียบ “องค์ชายอิง ข้ามีคำขอ เราเพิ่มหนึ่งข้อในการเดิมพันของเราได้หรือไม่…”“ข้าให้เจ้าห้ากระบวนท่า หากเจ้าแพ้ ก็จงเปิดเผยต่อหน้าทหารของข้าว่าจ้าวฮุยได้ทรยศต่อฉินตะวันตก!”“องค์ชายอิง เจ้ามิสามารถทนต่อคนทรยศแคว้นแสวงหาความรุ่งเรืองเช่นนี้ได้ ฉินตะวันตกของข้าก็ทนมิได้เช่นกัน!”“ห้ากระบวนท่าแลกกับคำให้การของเจ้า เช่นนี้เป็นประโยชน์และมิเป็นอันตรายต่อเจ้า!"เซียวหลินเทียนพยายามโน้มน้าวองค์ชายอิงสีหน้าขององค์ชายอิงเปลี่ยนไป เขาเงียบไปครู่หนึ่งแล้วเอ่ย “ได้ ข้าตกลงเพิ่มเงื่อนไขนี้!” แม้ว่าการทำเช่นนี้จะทำให้องค์ชายอิง
คำพูดดูหมิ่นของทหารเว่ยเหนือทำให้ทหารฉินตะวันตกทั้งกังวลทั้งโกรธ อยากจะไปสังหารองค์ชายอิงแทนเซียวหลินเทียนเสียเดี๋ยวนั้นพวกเขาทั้งหมดมองไปทางเซียวหลินเทียนอย่างทั้งคาดหวังทั้งโกรธ และตะโกนในใจ ‘องค์จักรพรรดิโจมตีเถิดพ่ะย่ะค่ะ! อย่าให้พวกเขาดูถูกฉินตะวันตกของเรา!’‘ถึงแม้จะต้องตาย ก็ต้องต่อสู้อย่างเข้มแข็ง เอาแต่หดหัวอยู่แล้วนับเป็นวีรบุรุษอะไรกัน!’ทหารของทั้งสองกองทัพต่างก็มีเรื่องในใจของตน ทหารของเว่ยเหนือมีขวัญกำลังใจสูงมาก ในขณะที่ทหารของฉินตะวันตกเงียบไปหมดทันใดนั้น เซียวหลินเทียนให้องค์ชายอิงห้ากระบวนท่าไปแล้ว เขาจึงยิ้มพลางเอ่ยกับองค์ชายอิง “องค์ชายอิง ห้ากระบวนท่าครบแล้ว ข้าได้รักษาสัญญาแล้ว ต่อจากนี้ข้าจะมิยอมให้เจ้าแล้ว!”องค์ชายอิงใบหน้ามืดมน มิพูดอะไร จากนั้นก็ใช้หอกยาวนั้นเป็นดาบ แทงไปที่ท้องม้าของเซียวหลินเทียนห้ากระบวนท่าเมื่อครู่นี้ เดินทีเขาเต็มไปด้วยความมั่นใจที่จะฉวยโอกาสตอนที่เซียวหลินเทียนมิโจมตีสังหารเซียวหลินเทียนไปเสีย แต่ไหนเลยจะคิดว่าเซียวหลินเทียนมิได้สู้กลับ แต่เขามีฝีมือคล่องแคล่วราวกับมังกรว่ายน้ำจนตนมิสามารถแทงเขาได้เลยห้ากระบวนท่านี้สู
องค์ชายอิงรอให้เซียวหลินเทียนตกจากหลังม้าแล้วค่อยสังหารเซียวหลินเทียน!อาวุธลับที่บางราวกับขนวัวเหล่านี้อยู่ห่างไกลจากทหารของทั้งสองกองทัพมากจนไม่มีใครมองเห็นและไม่มีทางที่จะมีใครคิดว่าองค์ชายอิงลอบวางแผนทำร้ายเซียวหลินเทียนด้วย!เซียวหลินเทียนเห็นอาวุธลับมากมายโจมตีมาทางเขา ในดวงตาของเขาก็เต็มไปด้วยจุดแสงสีน้ำเงินเต็มไปหมด...เขาย่อมรู้ว่าอาวุธลับเหล่านี้มีพิษ แต่กะทันหันเช่นนี้จะเลี่ยงได้อย่างไรเล่า?ระยะทางใกล้เช่นนี้ ไม่มีเวลาให้เขาหลบหนีได้!เมื่อจ้าวฮุยเห็นภาพนี้ ก็ทำได้เพียงยกแขนขึ้นและตะโกนอย่างตื่นเต้นเท่านั้นเขาเป็นเพียงผู้เดียวในที่เกิดเหตุที่รู้ว่าการแยกหัวหอกขององค์ชายอิงออกนั้นหมายถึงอะไร!เพราะเขาเป็นคนเสนอแนะให้องค์ชายอิงดัดแปลงหอกนี้ ยาพิษที่แช่อยู่ในนั้นเขาก็เป็นคนส่งให้กับองค์ชายอิงด้วย!พิษชนิดนี้แม้ว่าหลิงอวี๋จะอยู่ที่นี่ แต่หากคิดจะแก้พิษให้เซียวหลินเทียนก็ต้องใช้เวลา มิต้องพูดถึงว่าองค์ชายอิงไม่มีทางให้เวลาเซียวหลินเทียนได้แก้พิษหรอก!เซียวหลินเทียน เจ้าเองก็มีวันนี้เช่นกัน!ฮ่า ๆ ๆ!จ้าวฮุยพยายามระงับความอยากหัวเราะอย่างบ้าคลั่งเอาไว้ และกำลังคิ
ในหัวองค์ชายอิงคิดอย่างรวดเร็ว แล้วก็ได้ยินเซียวหลินเทียนเอ่ยอย่างมิอดทน “องค์ชายอิง ข้าเคารพเจ้าในฐานะลูกผู้ชาย เจ้าอย่าได้แพ้แล้วมิยอมรับเลย!”องค์ชายอิงมิสามารถแยกแยะเจตนาที่แท้จริงของเซียวหลินเทียนได้ จึงตะโกนอย่างโหดร้าย “ข้ายอมรับความพ่ายแพ้!”เซียวหลินเทียนยิ้ม แล้วยกง้าวมังกรเขียวขึ้นมาพลางตะโกน “องค์ชายอิงแห่งเว่ยเหนือยอมแพ้แล้ว!”“กี๊ก ๆ…”ขณะที่ทุกคนในฉินตะวันตกรู้สึกเสียดายที่เซียวหลินเทียนมิสามารถสังหารองค์ชายอิงได้ทันเวลา เสียงร้องของนกเหยี่ยวก็ดังมาจากท้องฟ้าทุกคนเงยหน้าขึ้นมองไปแล้วก็เห็นนกเหยี่ยวสีดำขนาดใหญ่ขององค์ชายอิงโฉบลงมาจากที่สูง แล้วพุ่งเข้าใส่เซียวหลินเทียนปีกของเฮยอิงพัดพาลมแรงไปทางเซียวหลินเทียน คิดว่าทำเช่นนี้แล้วจะทำให้เซียวหลินเทียนตกลงจากหลังม้านกที่ดุร้ายเช่นนี้เต็มไปด้วยความโหดร้าย หากถูกมันฟาดเข้า เซียวหลินเทียนมิตกจากม้าก็ต้องถูกฟาดได้รับบาดเจ็บเซียวหลินเทียนไหนเลยจะถูกมันฟาดบาดเจ็บได้ เขาเหวี่ยงง้าวมังกรเขียวกระแทกพลังใส่เฮยอิงกระเด็นไปแต่เฮยอิงตัวนี้ทรงพลังมากจริง ๆ มันเอียวงตัว หมุนครึ่งวงกลมกลางอากาศ แล้วหันกลับไปโจมตีเซียวหลินเทียน
ในการประลองครานี้องค์ชายอิงพ่ายแพ้อย่างราบคาบ และข้อเท้าข้างหนึ่งของเขาก็หักด้วยที่ปรึกษาและแม่ทัพขององค์ชายอิงรีบพาตัวจ้าวฮุยออกมาอย่างรวดเร็ว หวังว่าจะได้ตัวองค์ชายอิงกลับมาเมื่อครู่จ้าวฮุยเห็นองค์ชายอิงถูกเซียวหลินเทียนโจมตีจนพ่ายแพ้ก็กังวลขึ้นมา คราวนี้เขาวางแผนไว้อย่างสมบูรณ์แบบแล้ว แต่ก็พ่ายแพ้ เขาจะยินดีได้อย่างไร!แต่ความจริงอยู่ตรงหน้า แม้เขามิยอมรับความพ่ายแพ้ก็ไม่มีแรงที่จะพลิกสถานการณ์กลับมาได้!จ้าวฮุยรู้สึกท้อแท้อยู่ครู่หนึ่งแล้วจึงสงบใจลงได้ ขอเพียงยังมีชีวิตอยู่ ก็มีโอกาสเริ่มใหม่อีกครั้งเขาสัมผัสยาที่จ้าวหรุ่ยหรุ่ยให้มาในอ้อมแขน และรอระหว่างทางกลับจะหาโอกาสใช้มันกับเซียวหลินเทียน เช่นนี้ตนก็มินับว่าแพ้แล้วองค์ชายอิงถูกองครักษ์พยุงให้ลุกขึ้นยืน เขาเหลือบมองจ้าวฮุยอย่างเย็นชาก่อนจะหันไปหาเซียวหลินเทียนพลางเอ่ย“จักรพรรดิเซิ่งอู่ ข้าแพ้การประลอง ข้าจะรักษาสัญญาทำการคืนอัครเสนาบดีจ้าวและคนของเขากลับไปให้หมด!”“ปล่อยพวกเขาไป!”จ้าวฮุยเหลือบมององค์ชายอิงด้วยอารมณ์ที่ซับซ้อนแล้วเดินไปพร้อมกับคนของตนลู่หนานและพวกองครักษ์ยืนอยู่ข้างหลังเซียวหลินเทียน ท่าทางราวกับ
“สังหารเขา… สังหารเขา!”การกระทำที่น่ารังเกียจของพวกจ้าวฮุยกระตุ้นให้เกิดความมิพอใจ ทหารเหล่านั้นต่างกล่าวโทษจ้าวฮุยด้วยความโกรธเกรี้ยวจ้าวฮุยถูกก้อนหินกระแทกจนเลือดออกที่หัวเขามิเคยรู้สึกอับอายเยี่ยงนี้มาก่อนในชีวิตไม่มีข้อแก้ตัว และมิสามารถแก้ตัวได้ด้วยเขาคุกเข่าลงกับพื้นเสียงดังลั่นแล้วตะโกนออกมาอย่างเต็มที่ “ฝ่าบาท แม้ว่ากระหม่อมจะมีความผิด แต่ก็ต้องไต่สวนให้ชัดเจนก่อนจึงจะตัดสินโทษได้พ่ะย่ะค่ะ!”“ฝ่าบาทจะให้คนเหล่านี้ใส่ร้ายและทุบตีกระหม่อมจนตายเลยหรือพ่ะย่ะค่ะ?”“หากจะให้กระหม่อมตายไปเช่นนี้ กระหม่อมมิอาจยอมได้พ่ะย่ะค่ะ!”เซียวหลินเทียนประทับใจในความสามารถต่อต้านอย่างดื้อรั้นของจ้าวฮุยจริง ๆ ถูกกล่าวหาชี้ตัวเช่นนี้แล้ว แต่เขาก็ยังยืนยันว่าตนไม่มีความผิดเขาคิดว่าเมื่อถูกพาตัวกลับไปเมืองหลวงแล้ว เขาจะใช้อำนาจของตระกูลจ้าวพลิกสถานการณ์ได้หรือ?“คุมตัวพวกเขากลับเมืองหลวงก่อน!”เซียวหลินเทียนยิ้มอย่างเยาะเย้ย ในเมื่อจ้าวฮุยรู้สึกว่ายังมีความหวัง เช่นนั้นเขาจะให้จ้าวฮุยกอดความเพ้อฝันกลับเมืองหลวงแล้วกัน!ถึงเวลานั้น ให้ทุกคนในตระกูลจ้าวและทุกคนในใต้หล้าเห็นใบหน้าของจ้า
หลิงอวี๋ใช้เครื่องยาสมุนไพรที่ขันทีโม่ให้มาสกัดเป็นยาอายุวัฒนะอันล้ำค่าหลายเม็ด นางมิได้กินไปทั้งหมด เมื่อเห็นว่าขันทีโม่ได้รับบาดเจ็บเพราะหาเครื่องยาสมุนไพรให้ตน ก็ให้ยาแก่ขันทีโม่สองเม็ดเพื่อช่วยเขาฟื้นคืนพลังหลิงอวี๋ให้ยาสองเม็ดกับแม่นมอูด้วยเช่นกัน ครานี้แม่นมอูพลังอ่อนแอลงมากเพราะช่วยชีวิตนาง หลิงอวี๋รู้สึกขอบคุณนางมากยาอายุวัฒนะที่สกัดมาอย่างยากลำบากในครั้งนี้ แม้ว่าหลิงอวี๋จะเหลือมิมากนัก แต่โชคดีที่ขันทีโม่มิเพียงแต่หาเครื่องยาสมุนไพรมาให้นางเท่านั้น แต่ยังนำต้นกล้าสมุนไพรมาให้หลายต้นด้วยหลิงอวี๋ปลูกไว้ในมิติและรอให้เติบโตจนนำมาใช้ได้ ก็จะได้เครื่องยาสมุนไพรมากขึ้นอีกแต่เพียงมิกี่วันหลังจากที่จ้าวหรุ่ยหรุ่ยกับไท่เฟยเส้าอยู่อย่างสงบ ในหมู่บ้านใกล้เมืองหลวงก็เกิดเรื่องแปลก ๆ ขึ้นเริ่มแรกคือมีบุรุษวัยกลางคนหายตัวไปอย่างไร้เหตุผล จากนั้นสตรีมีครรภ์หลายคนก็หายตัวไปอีกสิ่งนี้ทำให้คนในหมู่บ้านเหล่านั้นต่างก็ตื่นตระหนกกัน บางคนบอกว่ามีปีศาจภูเขากินคน และบางคนก็บอกว่าบนภูเขาใกล้เคียงนี้มีหมาป่าอยู่แม่ทัพเฉินรับผิดชอบเรื่องความปลอดภัยของเมืองหลวง ขุนนางและผู้ใหญ่บ้านของที่ว
หลิงอวี๋สีหน้าเคร่งเครียดขึ้นมา แล้วเอ่ยถามเสียงเรียบ “แม่นม จากที่ท่านบอก เช่นนั้นจ้าวหรุ่ยหรุ่ยสังหารคนไปมากมายถึงเพียงนี้ อาการบาดเจ็บภายในของนางก็ฟื้นตัวดีแล้วใช่หรือไม่?”“นางได้บรรลุดินแดนที่หกไปสู่ดินแดนที่เจ็ดแล้วด้วยหรือไม่?”แม่นมอูเม้มปาก “เรื่องนี้มิอาจบอกได้ บ่าวมิเข้าใจวิชาบำเพ็ญตนชั่วร้ายเหล่านั้น บางทีอาการบาดเจ็บภายในของนางอาจจะหายแล้ว! แล้วยังบรรลุดินแดนที่เจ็ดหรืออาจจะสูงกว่านั้นแล้วเพคะ!”“เหตุผลที่วิชาบำเพ็ญตนชั่วร้ายสามารถดึงดูดผู้บำเพ็ญตนให้ละทิ้งวิธีบำเพ็ญที่ถูกต้องไปได้ก็คือ มันสามารถทำให้พัฒนาการบำเพ็ญได้อย่างรวดเร็ว มิเช่นนั้นจะมีคนเลือกใช้วิธีที่เสี่ยงต่อการเป็นปีศาจเช่นนี้ได้อย่างไร!”เหงื่อเย็นไหลออกมาที่หลังของหลิงอวี๋หากจ้าวหรุ่ยหรุ่ยบรรลุเข้าสู่ดินแดนที่เจ็ดหรือแปดอย่างรวดเร็วดังเช่นที่แม่นมอูบอก เช่นนั้นนางกับแม่นมอูรวมถึงขันทีโม่ก็ล้วนมิใช่คู่ต่อสู้ของจ้าวหรุ่ยหรุ่ย!“ข้าจะไปสอบสวนดูก่อนสักหน่อยแล้วกัน!”ในสถานการณ์ที่ยังมิรู้แน่นี้ หลิงอวี๋มิกล้าให้แม่นมอูและคนอื่น ๆ ตกอยู่ในอันตรายไปกับตนได้นางเรียกเผยอวี้กับฉินซานมาแล้วเล่าเรื่องนี้ให้พวก
เมื่อหลิงอวี๋เห็นหยางหงหนิงก็ตะลึงไปเล็กน้อย แล้วก็นึกถึงคำขู่ที่หยางหงหนิงบอกว่าจะทำให้เย่หรงแต่งงานกับนางให้ได้ภายในหนึ่งเดือนหรือว่าหยางหงหนิงทำมิได้ ในตอนนี้จึงคิดจะมาทำให้ตนลำบาก?“สิงอวี๋ เจ้าจะเป็นศัตรูกับข้าจริง ๆ หรือ?”เป็นดังที่คาด ทันทีที่เอ่ยปากหยางหงหนิงก็เอ่ยขึ้นมาอย่างก้าวร้าว “เจ้าก็รู้อยู่ว่าข้าชอบเย่หรง เจ้ายังกล้าชวนเขาไปที่ภูเขาหมางหลิ่งด้วยกันอีก เจ้ายังจะเถียงว่าเจ้ามิชอบเขาอีกหรือ!”“ข้าขอเตือนเจ้า อยู่ให้ห่างจากเย่หรง มิฉะนั้นข้าจะมิเกรงใจเจ้าแน่!”หลิงอวี๋หมดคำพูดไปทันที ตนมาที่สำนักศึกษาชิงหลงเพื่อศึกษาเล่าเรียน มิใช่มาแย่งชิงบุรุษกับผู้ใด!ในหัวของหยางหงหนิงนั้นนอกจากเรื่องระหว่างบุรุษกับสตรีแล้ว ก็ไม่มีเรื่องอื่นเลยหรือ?“คุณหนูหยาง ข้าได้แสดงทัศนคติของจ้าไปอย่างชัดเจนแล้ว เย่หรงเป็นผู้ใหญ่แล้ว เขาจะชอบใครก็เป็นอิสระของเขา!”“ข้ามิได้ตั้งใจจะแย่งเขากับเจ้า เจ้าก็อย่ามายุ่งกับข้าเช่นกัน!”หลิงอวี๋เอ่ยด้วยน้ำเสียงทุ้ม “ก่อนหน้านี้ข้าก็เคยบอกไปแล้วว่า เจ้าอย่าได้ผลักเขาให้ไกลออกไปเรื่อย ๆ แล้วเจ้าดูพฤติกรรมของเจ้าในตอนนี้สิ แพ้แล้วก็มิรักษาคำพูด แล้ว
“ฮูหยินเฉียว นอกจากนี้แล้ว พวกเราต้องตามหาป้าวซวนให้เจอโดยเร็วที่สุดด้วย!”นี่คือสิ่งที่จ้าวหรุ่ยหรุ่ยนึกขึ้นได้ตอนที่ถูกเซียวหลินเทียนซักถาม แม้ว่าตอนนั้นจะเป็นการรับมือกับเซียวหลินเทียน แต่หลังจากนั้นจ้าวหรุ่ยหรุ่ยก็รู้สึกว่าคำโกหกที่ตนพูดไปนั้นสามารถนำมาใช้ได้เช่นกันหลิงอวี๋เป็นคนที่ให้ความสำคัญกับมิตรภาพและศีลธรรม นางกับป้าวซวนร่วมทุกข์ร่วมสุขมาด้วยกัน หากจับตัวป้าวซวนไว้ จะต้องล่อให้หลิงอวี๋มาติดกับได้อย่างแน่นอนเป็นดังที่นางบอกกับเซียวหลินเทียนไว้ว่า ป้าวซวนมิได้ฉลาดเท่าหลิงอวี๋ นางไม่มีทางหนีการไล่ล่าของตำหนักหมาป่าสวรรค์ได้อย่างแน่นอน“ฮูหยินเฉียว ข้าเคยบอกเซียวหลินเทียนไว้ว่า หลิงอวี๋จะไปช่วยป้าวซวน เซียวหลินเทียนจะต้องมิอยากให้หลิงอวี๋ตกอยู่ในอันตรายแน่นอน ขอเพียงพวกเราปล่อยข่าวออกไปว่าป้าวซวนอยู่ในมือพวกเรา เซียวหลินเทียนจะต้องชิงมาช่วยป้าวซวนก่อนหลิงอวี๋เป็นแน่!”“เมื่อเป็นเช่นนี้ มิว่าใครจะมาช่วย พวกเราก็จะสามารถหนึ่งในนั้นได้แล้ว!”กลยุทธ์ของจ้าวหรุ่ยหรุ่ยได้รับการชื่นชมจากฮูหยินเฉียว ฮูหยินเฉียวจึงให้คนออกไปแพร่ข่าวลือในทันทีในขณะเดียวกันก็วางกับดักไว้อย่างรัดกุม
หลิงอวี๋คิดตามความคิดนี้ต่อไป ก่อนหน้านี้เถาจื่อขอให้ตนช่วย และบอกไว้ว่าหากตัวตนของเซียวหลินเทียนถูกเปิดเผยออกไป ชีวิตของคนนับร้อยในคฤหาสน์อู่อาจตกอยู่ในอันตรายนั่นก็คือปัจจัยที่เซียวหลินเทียนกังวลเซียวหลินเทียนมิได้เปิดเผยตัวตนของตน ก็แค่มิอยากเปิดโปงตนให้ผู้อื่นรู้เขาต้องการเก็บหยกหล้าสุขาวดีไว้ผู้เดียว!นี่ก็หมายความว่า ในตอนที่เซียวหลินเทียนยังคลี่คลายวิกฤตมิได้นั้น นางจะปลอดภัยอยู่ก่อนชั่วคราวหลิงอวี๋บอกสิ่งที่ตนนึกได้กับผู้รอบรู้ แล้วสุดท้ายก็เอ่ยออกมา “พวกเรายังมีเวลา กระทั่งงานประมูลตอนปลายเดือนจัดขึ้น แล้วจะได้รับเงินจากการประมูลโสมเก้าคด จากนั้นพวกเราก็จะหาวิธีออกไปจากเมืองหลวงแดนเทพกัน!”“ตอนนี้เซียวหลินเทียนไม่มีทางทำให้พวกเราลำบากแน่ หากเขากล้าทำอะไรหุนหันพลันแล่น พวกเราก็จะกระจายข่าวเรื่องเสือปีกกาฬออกไปเพื่อดึงดูดความสนใจของตระกูลเหล่านั้น!”หลิงอวี๋นึกถึงคำพูดของเย่หรงเมื่อครู่ ในเมื่อนางกับเย่หรงมีโชคชะตาของเมื่อชาติที่แล้ว เช่นนั้นก่อนจากไปนางจะต้องช่วยให้เขาช่วยมารดาของเขาออกมาให้ได้“พี่ใหญ่ ท่านช่วยข้าสืบอีกสักหน่อยเถิดว่า ในเกวียนทาสหญิงที่เซียวหลินเที
“เย่หรง!”หลิงอวี๋เรียกงึมงำ และกำลังคิดว่าจะบอกเรื่องภาพที่ตนเห็นกับเย่หรงเพื่อยืนยันสักหน่อย แล้วก็ได้ยินเสียงประตูใหญ่ดังมาแย่แล้ว!หรือว่ามีคนแอบฟัง?หลิงอวี๋ตกใจจนเด้งตัวลุกขึ้นทันที เย่หรงเองก็ชักกระบี่ออกมาอย่างรวดเร็วเช่นกัน“น้องหญิง ข้ากลับมาแล้ว!”เสียงของผู้รอบรู้ดังขึ้นมา เมื่อหลิงอวี๋ได้ยินว่าเป็นผู้รอบรู้จึงได้ถอนหายใจโล่งอก แล้วเก็บแผนที่ไปอย่างรวดเร็ว“พี่ชายข้ามิรู้ว่าท่านกำลังวางแผนเรื่องพวกนี้ อย่าได้หลุดปากไปนะ ข้ามิอยากลากเขาเข้ามาเกี่ยวด้วย!”เย่หรงพยักหน้าแล้วซ่อนแผนที่ไว้ในมิติ“น้องหญิง…”ผู้รอบรู้พุ่งเข้ามา เมื่อเขาเห็นเย่หรงก็ตะลึงไปเล็กน้อย แล้วกวาดสายตามองทั้งสองคนอย่างสงสัย“เสี่ยวชี ข้ามีธุระอื่นอีก ข้าไปก่อนนะ ไว้วันหลังข้าค่อยมาพาเจ้าไปงานประมูล!”เย่หรงรีบบอกกับหลิงอวี๋แล้วเดินจากไป“เขามาทำอะไร?”ผู้รอบรู้เอ่ยถามออกมา“มาหารือกับข้าเรื่องขายเครื่องยาสมุนไพร!”หลิงอวี๋ตอบออกไปแล้วเปลี่ยนหัวข้อ "ท่านสืบได้ข่าวอะไรมาหรือไม่?”ผู้รอบรู้เห็นว่ามีชาอยู่บนโต๊ะ จึงดื่มไปรวดเดียว ก่อนจะเอ่ยออก “น้องหญิง พวกเราต้องออกจากเมืองหลวงแดนเทพโดยเร็ว
“เย่หรง จ้าวหรุ่ยหรุ่ยอ้างว่าเคยจับตัวหลิงอวี๋ได้มิใช่หรือ? เหตุใดนางมิสังหารหลิงอวี๋แล้วชิงหยกหล้าสุขาวดีไปเล่า?”หลิงอวี๋ถามคำถามที่ตนคิดมิตกออกไปเย่หรงจึงหัวเราะเยาะออกมา “ข้ารู้เหตุผลในเรื่องนี้!”“ข้าได้ยินมาว่า หยกหล้าสุขาวดีเป็นมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์ที่มีวิญญาณ ต้องใช้ยาสลายเลือดเนื้อของผู้ครอบครองในขณะที่คนผู้นั้นยังมีชีวิตอยู่จึงจะนำมันไปได้ มิเช่นนั้นหยกหล้าสุขาวดีจะตายไปพร้อมกับความตายของผู้ครอบครอง!”“เครื่องยาสมุนไพรที่พิเศษนี้ก็มีเพียงที่ภูเขาศักดิ์สิทธิ์เท่านั้น และเมื่อขุดเครื่องยาสมุนไพรนี้ออกมาแล้วจะต้องใช้ภายในครึ่งชั่วยาม มิเช่นนั้นก็จะเฉาตายไป!”“ดังนั้น จ้าวหรุ่ยหรุ่ยจึงทำได้เพียงต้องพาหลิงอวี๋กลับมาที่เมืองหลวงแดนเทพ และเข้าสู่ภูเขาศักดิ์สิทธิ์เพื่อหาเครื่องยาสมุนไพรนั้น จึงจะสามารถนำหยกหล้าสุขาวดีออกมาจากตัวหลิงอวี๋ได้!”หลิงอวี๋ฟังแล้วก็ขนลุกซู่ เข้าใจเหตุผลแล้วว่าเหตุใดจ้าวหรุ่ยหรุ่ยจึงมิสังหารตน!จริงสิ หรือว่านี่จะเป็นสาเหตุที่เซียวหลินเทียนมิสังหารนางเช่นกัน?เขาเองก็อยากได้หยกหล้าสุขาวดีที่ตัวนางด้วยใช่หรือไม่?แต่เมื่อคิดอีกแง่หนึ่ง หลิงอวี๋ก็รู้ส
เย่หรงแสดงสีหน้าสับสนออกมา “ภรรยาของแม่ทัพเฉิงมีเนื้องอกในสมอง สองปีมานี้นางกินยาไปมิน้อยแต่ก็มิดีขึ้น!”“ได้ยินว่าอาการป่วยของฮูหยินเฉิงแย่ลงเรื่อย ๆ แม้แต่คนรอบตัวนางก็จำมิได้แล้ว...”“ใต้หล้านี้มีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่สามารถรักษาโรคนี้ได้!”“แม่ทัพเฉิงกับภรรยาของเขามีความสัมพันธ์ที่ดีมาก หากข้าสามารถหาคนผู้นี้ แล้วช่วยภรรยาของแม่ทัพเฉิงให้หายจากโรคนี้ได้ แม่ทัพเฉิงก็จะเป็นสายลับที่ดีที่สุด!”หลิงอวี๋กลอกตาใส่เย่หรง “สรุปแล้วเป็นผู้ใดกันที่สามารถรักษาโรคเช่นนี้ได้? เหตุใดท่านทำราวกับเป็นนักเล่าเรื่อง เอาแต่ทำให้รอฟังอยู่นั่น!”เย่หรงมองหลิงอวี๋ แล้วเอ่ยด้วยเสียงทุ้ม “เจ้ารู้จักสตรีคนหนึ่งที่ตระกูลเฉียวเสนอรางวัลค่าหัวหรือไม่?”“หลิงอวี๋! นางคือคนเดียวในใต้หล้าที่สามารถรักษาโรคของฮูหยินเฉิงได้!”หลิงอวี๋!หลิงอวี๋ตะลึงไปทันที ที่แท้คนที่เย่หรงพูดถึงก็คือตน!“หลิงอวี๋มีทักษะการแพทย์ยอดเยี่ยม นางผ่าท้องมารดาของข้าหลวงเก๋อรักษาโรคประหลาดท้องโตของนางจนหายได้!”“มีเพียงหลิงอวี๋เท่านั้นที่จะสามารถทำการผ่าตัดเนื้องอกในสมองของฮูหยินเฉิงได้!”เย่หรงยิ้มอย่างขมขื่นแล้วเอ่ย “แต่ขนาดต
หลิงอวี๋มองไปทางเย่หรงอย่างสงสัย “สระเก้ามังกรมีรายละเอียดอะไรหรือ?”เย่หรงยิ้มเยาะแล้วเอ่ยออกมา “เจ้าลองคิดดู หากเป็นเพียงการคุมขังนักโทษจำนวนหนึ่ง จำเป็นต้องส่งแม่ทัพเฉิงที่สำคัญเช่นนี้ไปด้วยหรือ?”“ราชวงศ์มิอนุญาตให้ผู้ใดเข้าไปที่ภูเขาด้านหลัง ก็เพื่อจะปิดบังความลับเอาไว้!”“ในสระมังกรที่ภูเขาด้านหลังมีสัตว์เทพอยู่… และมีความเป็นไปได้สูงว่าจะเป็นมังกรฟ้าที่เป็นพาหนะของหลงอี้ในตอนนั้น!”“ข้าไปสืบจากคนมามากมาย แต่คนที่รู้เรื่องราวภายในมีอยู่น้อยนัก นี่คือสิ่งที่ข้าอนุมานได้จากเบาะแสบางส่วน!”เย่หรงยิ่งพูดก็ยิ่งสนุก “ข้าถึงขนาดสงสัยว่าแผ่นดินไหวเมื่อสองร้อยปีก่อนมิใช่ภัยธรรมชาติ แต่เกิดจากมังกรฟ้าต่างหาก!”“ก่อนหน้านี้สระเก้ามังกรก็มีเครื่องยาสมุนไพรอยู่มากเช่นกัน และราชวงศ์ก็มิได้ห้ามให้ผู้บำเพ็ญตนไปเก็บสมุนไพร แต่นับตั้งแต่เกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่นั้น ราชวงศ์ก็มิอนุญาตให้ใครไปเก็บสมุนไพรที่ภูเขาด้านหลังของสระเก้ามังกรมาเป็นเวลาเกือบสองร้อยปีแล้ว!”“ข้าไปถามชาวบ้านที่อาศัยอยู่ที่เชิงเขามา ผู้สูงอายุคนหนึ่งในกลุ่มพวกเขาบอกว่า เมื่อนานมาแล้วจะได้ยินเสียงร้องประหลาดอยู่เป็นบางครั้ง
ขณะที่เย่ซื่อฝานกำลังพูดอยู่นั้น จู่ ๆ เขาก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ แล้ววิ่งไปหาที่โต๊ะตำรา จากนั้นก็หยิบจดหมายเชิญส่งให้หลิงอวี๋“วันนี้อย่าเพิ่งไปที่หอธุวดารา ช่วงปลายเดือนนี้พวกเขาจะจัดงานประมูลพิเศษขึ้นมา ถึงเวลานั้นจะมีคนรวยมากหลายไปเข้าร่วมงานประมูลนี้!”“หอธุวดาราส่งจดหมายเชิญมาให้ข้าสองสามฉบับ ถึงเวลานั้นพวกเราไปด้วยกัน จะได้ช่วยเจ้าขายให้ได้ราคาดี”“เจ้าค่ะ!” หลิงอวี๋รับจดหมายเชิญมาแล้วขอลากลับก่อนเมื่อนางมาถึงที่ประตูก็พบกับเย่หรงที่กลับมาพอดีเมื่อหลิงอวี๋เห็นว่าเขาปลอดภัยดี จึงเอ่ยออกไป “ข้ากังวลว่าท่านจะมิได้กลับมาอย่างปลอดภัย ท่านมิเป็นอะไรก็ดีแล้ว!”เย่หรงยิ้มอย่างเก้อเขิน “ตอนนั้นเสือไล่ตามพวกเราจนวิ่งหนีกระเจิดกระเจิง กระทั่งเสือหายไป ข้าก็กลับไปหาพวกเจ้า แต่ก็ไม่มีใครอยู่แล้ว!”“หลังจากนั้นก็เกิดเรื่องบางอย่างขึ้น ข้าจึงได้ออกไปก่อน!”“เฮ้อ หากข้ามิออกไปก่อนก็คงดี จะได้เห็นเสือปีกกาฬ!”เย่หรงมิได้บอกหลิงอวี๋ว่า เขาได้ยินจ้าวหรุ่ยหรุ่ยรวบรวมกำลังคนเพื่อจับตัวเซียวหลินเทียนกับหลิงอวี๋ เขาต้องการให้หลิงอวี๋ช่วยอยู่พอดี จึงตามหาหลิงอวี๋ไปทั่ว“เจ้าพบสมบัติอะไร
หลังจากคุยเรื่องไป่หลี่ไห่จบแล้ว หลิงอวี๋ก็หยิบเครื่องยาสมุนไพรบางส่วนที่ตนมิรู้จักออกมาแล้วเอ่ย “ท่านอาจารย์ นี่คือเครื่องยาสมุนไพรที่ข้าเก็บมาจากภูเขาหมางหลิ่ง ท่านช่วยข้าดูทีว่าคืออะไร?”เย่ซื่อฝานเห็นดังนั้นก็สนใจขึ้นมาทันที แล้วอธิบายให้หลิงอวี๋ฟังทีละอย่างสุดท้ายเย่ซื่อฝานก็เอ่ยขึ้นมา “ข้าสามารถซื้อเครื่องยาสมุนไพรที่เจ้านำมาเหล่านี้ในราคาตลาดได้ แต่นอกจากพวกนี้แล้วหอโอสถซ่างกู่ของเรามิต้องการ หากเจ้าอยากจะขายในราคาดี ให้ไปที่ตลาดเครื่องยาสมุนไพร...”“เดี๋ยวนะ นี่คืออะไร?”เย่ซื่อฝานดูไปก็คัดแยกเครื่องยาสมุนไพรไปด้วย และเมื่อเขาเห็นเครื่องยาสมุนไพรที่ดูคล้ายโสมแต่ก็มิคล้าย เขาก็หยิบขึ้นมาดูอย่างละเอียด“ท่านอาจารย์ ข้าเองก็มิแน่ใจเช่นกันว่าสิ่งนี้คืออะไร!”หลิงอวี๋เห็นว่าเย่ซื่อฝานพิจารณาเครื่องยาสมุนไพรที่ดูแปลกประหลาดนี้จึงเอ่ยขึ้นมา“ข้าได้กลิ่นโสม แต่กลับดูมีพิษ!”ในตอนที่เย่ซื่อฝานคัดแยกเครื่องยาสมุนไพร เขาจะสวมถุงมือพิเศษไว้ เมื่อได้ยินคำพูดของหลิงอวี๋ เขาก็พยักหน้า “ความรู้สึกของเจ้ามิผิด เครื่องยาสมุนไพรนี้มีพิษจริง ๆ!”“เจ้ารอประเดี๋ยว ข้าจำได้ว่าในตำราโบราณเคย