องค์ชายอิงยิ้มอย่างเย่อหยิ่ง “จงวางใจ หากข้าแพ้เพราะทักษะด้อยกว่าผู้อื่น ข้าก็ย่อมมอบอัครเสนาบดีจ้าวคืนให้กับพวกเจ้าอย่างนอบน้อม!”“คนสารเลวที่ทรยศต่อแคว้นและแสวงหาความรุ่งเรืองเช่นนี้ ข้ายังจะต้องเลี้ยงเขาต่อจนข้ามปีอีกหรือ?”เซียวหลินเทียนใจเต้นเมื่อเห็นองค์ชายอิงเปิดโปงพฤติกรรมที่น่ารังเกียจของจ้าวฮุยออกมาอย่างมิปิดบังเขากำลังกังวลมิรู้ว่าควรจะตรวจสอบพฤติกรรมทรยศต่อแคว้นของจ้าวฮุยอย่างไรดี ไหนเลยจะคาดคิดว่าองค์ชายอิงจะพูดออกมาเช่นนี้เซียวหลินเทียนเอ่ยเสียงเรียบ “องค์ชายอิง ข้ามีคำขอ เราเพิ่มหนึ่งข้อในการเดิมพันของเราได้หรือไม่…”“ข้าให้เจ้าห้ากระบวนท่า หากเจ้าแพ้ ก็จงเปิดเผยต่อหน้าทหารของข้าว่าจ้าวฮุยได้ทรยศต่อฉินตะวันตก!”“องค์ชายอิง เจ้ามิสามารถทนต่อคนทรยศแคว้นแสวงหาความรุ่งเรืองเช่นนี้ได้ ฉินตะวันตกของข้าก็ทนมิได้เช่นกัน!”“ห้ากระบวนท่าแลกกับคำให้การของเจ้า เช่นนี้เป็นประโยชน์และมิเป็นอันตรายต่อเจ้า!"เซียวหลินเทียนพยายามโน้มน้าวองค์ชายอิงสีหน้าขององค์ชายอิงเปลี่ยนไป เขาเงียบไปครู่หนึ่งแล้วเอ่ย “ได้ ข้าตกลงเพิ่มเงื่อนไขนี้!” แม้ว่าการทำเช่นนี้จะทำให้องค์ชายอิง
คำพูดดูหมิ่นของทหารเว่ยเหนือทำให้ทหารฉินตะวันตกทั้งกังวลทั้งโกรธ อยากจะไปสังหารองค์ชายอิงแทนเซียวหลินเทียนเสียเดี๋ยวนั้นพวกเขาทั้งหมดมองไปทางเซียวหลินเทียนอย่างทั้งคาดหวังทั้งโกรธ และตะโกนในใจ ‘องค์จักรพรรดิโจมตีเถิดพ่ะย่ะค่ะ! อย่าให้พวกเขาดูถูกฉินตะวันตกของเรา!’‘ถึงแม้จะต้องตาย ก็ต้องต่อสู้อย่างเข้มแข็ง เอาแต่หดหัวอยู่แล้วนับเป็นวีรบุรุษอะไรกัน!’ทหารของทั้งสองกองทัพต่างก็มีเรื่องในใจของตน ทหารของเว่ยเหนือมีขวัญกำลังใจสูงมาก ในขณะที่ทหารของฉินตะวันตกเงียบไปหมดทันใดนั้น เซียวหลินเทียนให้องค์ชายอิงห้ากระบวนท่าไปแล้ว เขาจึงยิ้มพลางเอ่ยกับองค์ชายอิง “องค์ชายอิง ห้ากระบวนท่าครบแล้ว ข้าได้รักษาสัญญาแล้ว ต่อจากนี้ข้าจะมิยอมให้เจ้าแล้ว!”องค์ชายอิงใบหน้ามืดมน มิพูดอะไร จากนั้นก็ใช้หอกยาวนั้นเป็นดาบ แทงไปที่ท้องม้าของเซียวหลินเทียนห้ากระบวนท่าเมื่อครู่นี้ เดินทีเขาเต็มไปด้วยความมั่นใจที่จะฉวยโอกาสตอนที่เซียวหลินเทียนมิโจมตีสังหารเซียวหลินเทียนไปเสีย แต่ไหนเลยจะคิดว่าเซียวหลินเทียนมิได้สู้กลับ แต่เขามีฝีมือคล่องแคล่วราวกับมังกรว่ายน้ำจนตนมิสามารถแทงเขาได้เลยห้ากระบวนท่านี้สู
องค์ชายอิงรอให้เซียวหลินเทียนตกจากหลังม้าแล้วค่อยสังหารเซียวหลินเทียน!อาวุธลับที่บางราวกับขนวัวเหล่านี้อยู่ห่างไกลจากทหารของทั้งสองกองทัพมากจนไม่มีใครมองเห็นและไม่มีทางที่จะมีใครคิดว่าองค์ชายอิงลอบวางแผนทำร้ายเซียวหลินเทียนด้วย!เซียวหลินเทียนเห็นอาวุธลับมากมายโจมตีมาทางเขา ในดวงตาของเขาก็เต็มไปด้วยจุดแสงสีน้ำเงินเต็มไปหมด...เขาย่อมรู้ว่าอาวุธลับเหล่านี้มีพิษ แต่กะทันหันเช่นนี้จะเลี่ยงได้อย่างไรเล่า?ระยะทางใกล้เช่นนี้ ไม่มีเวลาให้เขาหลบหนีได้!เมื่อจ้าวฮุยเห็นภาพนี้ ก็ทำได้เพียงยกแขนขึ้นและตะโกนอย่างตื่นเต้นเท่านั้นเขาเป็นเพียงผู้เดียวในที่เกิดเหตุที่รู้ว่าการแยกหัวหอกขององค์ชายอิงออกนั้นหมายถึงอะไร!เพราะเขาเป็นคนเสนอแนะให้องค์ชายอิงดัดแปลงหอกนี้ ยาพิษที่แช่อยู่ในนั้นเขาก็เป็นคนส่งให้กับองค์ชายอิงด้วย!พิษชนิดนี้แม้ว่าหลิงอวี๋จะอยู่ที่นี่ แต่หากคิดจะแก้พิษให้เซียวหลินเทียนก็ต้องใช้เวลา มิต้องพูดถึงว่าองค์ชายอิงไม่มีทางให้เวลาเซียวหลินเทียนได้แก้พิษหรอก!เซียวหลินเทียน เจ้าเองก็มีวันนี้เช่นกัน!ฮ่า ๆ ๆ!จ้าวฮุยพยายามระงับความอยากหัวเราะอย่างบ้าคลั่งเอาไว้ และกำลังคิ
ในหัวองค์ชายอิงคิดอย่างรวดเร็ว แล้วก็ได้ยินเซียวหลินเทียนเอ่ยอย่างมิอดทน “องค์ชายอิง ข้าเคารพเจ้าในฐานะลูกผู้ชาย เจ้าอย่าได้แพ้แล้วมิยอมรับเลย!”องค์ชายอิงมิสามารถแยกแยะเจตนาที่แท้จริงของเซียวหลินเทียนได้ จึงตะโกนอย่างโหดร้าย “ข้ายอมรับความพ่ายแพ้!”เซียวหลินเทียนยิ้ม แล้วยกง้าวมังกรเขียวขึ้นมาพลางตะโกน “องค์ชายอิงแห่งเว่ยเหนือยอมแพ้แล้ว!”“กี๊ก ๆ…”ขณะที่ทุกคนในฉินตะวันตกรู้สึกเสียดายที่เซียวหลินเทียนมิสามารถสังหารองค์ชายอิงได้ทันเวลา เสียงร้องของนกเหยี่ยวก็ดังมาจากท้องฟ้าทุกคนเงยหน้าขึ้นมองไปแล้วก็เห็นนกเหยี่ยวสีดำขนาดใหญ่ขององค์ชายอิงโฉบลงมาจากที่สูง แล้วพุ่งเข้าใส่เซียวหลินเทียนปีกของเฮยอิงพัดพาลมแรงไปทางเซียวหลินเทียน คิดว่าทำเช่นนี้แล้วจะทำให้เซียวหลินเทียนตกลงจากหลังม้านกที่ดุร้ายเช่นนี้เต็มไปด้วยความโหดร้าย หากถูกมันฟาดเข้า เซียวหลินเทียนมิตกจากม้าก็ต้องถูกฟาดได้รับบาดเจ็บเซียวหลินเทียนไหนเลยจะถูกมันฟาดบาดเจ็บได้ เขาเหวี่ยงง้าวมังกรเขียวกระแทกพลังใส่เฮยอิงกระเด็นไปแต่เฮยอิงตัวนี้ทรงพลังมากจริง ๆ มันเอียวงตัว หมุนครึ่งวงกลมกลางอากาศ แล้วหันกลับไปโจมตีเซียวหลินเทียน
ในการประลองครานี้องค์ชายอิงพ่ายแพ้อย่างราบคาบ และข้อเท้าข้างหนึ่งของเขาก็หักด้วยที่ปรึกษาและแม่ทัพขององค์ชายอิงรีบพาตัวจ้าวฮุยออกมาอย่างรวดเร็ว หวังว่าจะได้ตัวองค์ชายอิงกลับมาเมื่อครู่จ้าวฮุยเห็นองค์ชายอิงถูกเซียวหลินเทียนโจมตีจนพ่ายแพ้ก็กังวลขึ้นมา คราวนี้เขาวางแผนไว้อย่างสมบูรณ์แบบแล้ว แต่ก็พ่ายแพ้ เขาจะยินดีได้อย่างไร!แต่ความจริงอยู่ตรงหน้า แม้เขามิยอมรับความพ่ายแพ้ก็ไม่มีแรงที่จะพลิกสถานการณ์กลับมาได้!จ้าวฮุยรู้สึกท้อแท้อยู่ครู่หนึ่งแล้วจึงสงบใจลงได้ ขอเพียงยังมีชีวิตอยู่ ก็มีโอกาสเริ่มใหม่อีกครั้งเขาสัมผัสยาที่จ้าวหรุ่ยหรุ่ยให้มาในอ้อมแขน และรอระหว่างทางกลับจะหาโอกาสใช้มันกับเซียวหลินเทียน เช่นนี้ตนก็มินับว่าแพ้แล้วองค์ชายอิงถูกองครักษ์พยุงให้ลุกขึ้นยืน เขาเหลือบมองจ้าวฮุยอย่างเย็นชาก่อนจะหันไปหาเซียวหลินเทียนพลางเอ่ย“จักรพรรดิเซิ่งอู่ ข้าแพ้การประลอง ข้าจะรักษาสัญญาทำการคืนอัครเสนาบดีจ้าวและคนของเขากลับไปให้หมด!”“ปล่อยพวกเขาไป!”จ้าวฮุยเหลือบมององค์ชายอิงด้วยอารมณ์ที่ซับซ้อนแล้วเดินไปพร้อมกับคนของตนลู่หนานและพวกองครักษ์ยืนอยู่ข้างหลังเซียวหลินเทียน ท่าทางราวกับ
“สังหารเขา… สังหารเขา!”การกระทำที่น่ารังเกียจของพวกจ้าวฮุยกระตุ้นให้เกิดความมิพอใจ ทหารเหล่านั้นต่างกล่าวโทษจ้าวฮุยด้วยความโกรธเกรี้ยวจ้าวฮุยถูกก้อนหินกระแทกจนเลือดออกที่หัวเขามิเคยรู้สึกอับอายเยี่ยงนี้มาก่อนในชีวิตไม่มีข้อแก้ตัว และมิสามารถแก้ตัวได้ด้วยเขาคุกเข่าลงกับพื้นเสียงดังลั่นแล้วตะโกนออกมาอย่างเต็มที่ “ฝ่าบาท แม้ว่ากระหม่อมจะมีความผิด แต่ก็ต้องไต่สวนให้ชัดเจนก่อนจึงจะตัดสินโทษได้พ่ะย่ะค่ะ!”“ฝ่าบาทจะให้คนเหล่านี้ใส่ร้ายและทุบตีกระหม่อมจนตายเลยหรือพ่ะย่ะค่ะ?”“หากจะให้กระหม่อมตายไปเช่นนี้ กระหม่อมมิอาจยอมได้พ่ะย่ะค่ะ!”เซียวหลินเทียนประทับใจในความสามารถต่อต้านอย่างดื้อรั้นของจ้าวฮุยจริง ๆ ถูกกล่าวหาชี้ตัวเช่นนี้แล้ว แต่เขาก็ยังยืนยันว่าตนไม่มีความผิดเขาคิดว่าเมื่อถูกพาตัวกลับไปเมืองหลวงแล้ว เขาจะใช้อำนาจของตระกูลจ้าวพลิกสถานการณ์ได้หรือ?“คุมตัวพวกเขากลับเมืองหลวงก่อน!”เซียวหลินเทียนยิ้มอย่างเยาะเย้ย ในเมื่อจ้าวฮุยรู้สึกว่ายังมีความหวัง เช่นนั้นเขาจะให้จ้าวฮุยกอดความเพ้อฝันกลับเมืองหลวงแล้วกัน!ถึงเวลานั้น ให้ทุกคนในตระกูลจ้าวและทุกคนในใต้หล้าเห็นใบหน้าของจ้า
หลิงอวี๋ใช้เครื่องยาสมุนไพรที่ขันทีโม่ให้มาสกัดเป็นยาอายุวัฒนะอันล้ำค่าหลายเม็ด นางมิได้กินไปทั้งหมด เมื่อเห็นว่าขันทีโม่ได้รับบาดเจ็บเพราะหาเครื่องยาสมุนไพรให้ตน ก็ให้ยาแก่ขันทีโม่สองเม็ดเพื่อช่วยเขาฟื้นคืนพลังหลิงอวี๋ให้ยาสองเม็ดกับแม่นมอูด้วยเช่นกัน ครานี้แม่นมอูพลังอ่อนแอลงมากเพราะช่วยชีวิตนาง หลิงอวี๋รู้สึกขอบคุณนางมากยาอายุวัฒนะที่สกัดมาอย่างยากลำบากในครั้งนี้ แม้ว่าหลิงอวี๋จะเหลือมิมากนัก แต่โชคดีที่ขันทีโม่มิเพียงแต่หาเครื่องยาสมุนไพรมาให้นางเท่านั้น แต่ยังนำต้นกล้าสมุนไพรมาให้หลายต้นด้วยหลิงอวี๋ปลูกไว้ในมิติและรอให้เติบโตจนนำมาใช้ได้ ก็จะได้เครื่องยาสมุนไพรมากขึ้นอีกแต่เพียงมิกี่วันหลังจากที่จ้าวหรุ่ยหรุ่ยกับไท่เฟยเส้าอยู่อย่างสงบ ในหมู่บ้านใกล้เมืองหลวงก็เกิดเรื่องแปลก ๆ ขึ้นเริ่มแรกคือมีบุรุษวัยกลางคนหายตัวไปอย่างไร้เหตุผล จากนั้นสตรีมีครรภ์หลายคนก็หายตัวไปอีกสิ่งนี้ทำให้คนในหมู่บ้านเหล่านั้นต่างก็ตื่นตระหนกกัน บางคนบอกว่ามีปีศาจภูเขากินคน และบางคนก็บอกว่าบนภูเขาใกล้เคียงนี้มีหมาป่าอยู่แม่ทัพเฉินรับผิดชอบเรื่องความปลอดภัยของเมืองหลวง ขุนนางและผู้ใหญ่บ้านของที่ว
หลิงอวี๋สีหน้าเคร่งเครียดขึ้นมา แล้วเอ่ยถามเสียงเรียบ “แม่นม จากที่ท่านบอก เช่นนั้นจ้าวหรุ่ยหรุ่ยสังหารคนไปมากมายถึงเพียงนี้ อาการบาดเจ็บภายในของนางก็ฟื้นตัวดีแล้วใช่หรือไม่?”“นางได้บรรลุดินแดนที่หกไปสู่ดินแดนที่เจ็ดแล้วด้วยหรือไม่?”แม่นมอูเม้มปาก “เรื่องนี้มิอาจบอกได้ บ่าวมิเข้าใจวิชาบำเพ็ญตนชั่วร้ายเหล่านั้น บางทีอาการบาดเจ็บภายในของนางอาจจะหายแล้ว! แล้วยังบรรลุดินแดนที่เจ็ดหรืออาจจะสูงกว่านั้นแล้วเพคะ!”“เหตุผลที่วิชาบำเพ็ญตนชั่วร้ายสามารถดึงดูดผู้บำเพ็ญตนให้ละทิ้งวิธีบำเพ็ญที่ถูกต้องไปได้ก็คือ มันสามารถทำให้พัฒนาการบำเพ็ญได้อย่างรวดเร็ว มิเช่นนั้นจะมีคนเลือกใช้วิธีที่เสี่ยงต่อการเป็นปีศาจเช่นนี้ได้อย่างไร!”เหงื่อเย็นไหลออกมาที่หลังของหลิงอวี๋หากจ้าวหรุ่ยหรุ่ยบรรลุเข้าสู่ดินแดนที่เจ็ดหรือแปดอย่างรวดเร็วดังเช่นที่แม่นมอูบอก เช่นนั้นนางกับแม่นมอูรวมถึงขันทีโม่ก็ล้วนมิใช่คู่ต่อสู้ของจ้าวหรุ่ยหรุ่ย!“ข้าจะไปสอบสวนดูก่อนสักหน่อยแล้วกัน!”ในสถานการณ์ที่ยังมิรู้แน่นี้ หลิงอวี๋มิกล้าให้แม่นมอูและคนอื่น ๆ ตกอยู่ในอันตรายไปกับตนได้นางเรียกเผยอวี้กับฉินซานมาแล้วเล่าเรื่องนี้ให้พวก
รองแม่ทัพจางยังคงกล่าวพลางยิ้มแย้ม “ท่านหญิงฉางเล่อมามิถูกจังหวะ วันนี้ฮองเฮาพร้อมด้วยท่านหญิงชิงเฉิงและท่านหญิงอวิ๋นพาคุณชายน้อยทั้งหลายเสด็จไปชมดอกไม้ที่ภูเขาศักดิ์สิทธิ์พ่ะย่ะค่ะ!”ว่ากระไรนะ?หลงเพ่ยเพ่ยนิ่งอึ้งไป ท่านหญิงชิงเฉิงและท่านหญิงอวิ๋นล้วนเป็นธิดาของเจ้าแห่งทะเล และเป็นลูกพี่ลูกน้องของหลงเพ่ยเพ่ยด้วยเหตุใดพวกนางถึงมิไปชมดอกไม้ตั้งแต่ก่อนหน้านี้เล่า แต่กลับเลือกไปชมดอกไม้ในตอนที่ตนต้องการความช่วยเหลือจากเสด็จย่าพอดีนี่น่ะหรือ?“ไปนานเท่าใดแล้ว?”หลงเพ่ยเพ่ยสงสัยว่านี่เป็นการจัดฉากโดยเจตนาของชายาเจ้าแห่งทะเล“สองชั่วยามแล้วพ่ะย่ะค่ะ ตอนนี้น่าจะอยู่ในภูเขาศักดิ์สิทธิ์แล้วขอรับ!”รองแม่ทัพจางกล่าวพลางยิ้มหลงเพ่ยเพ่ยอยากจะชกหน้ายิ้ม ๆ ของรองแม่ทัพจางเสียสักหมัด เหตุใดนางมองรอยยิ้มของรองแม่ทัพจางแล้วเหมือนกำลังสมน้ำหน้าตนอยู่เลยเล่า“เจ้ามิได้หลอกข้าใช่หรือไม่?”หลงเพ่ยเพ่ยถามเสียงเย็นรองแม่ทัพจางกล่าวพลางยิ้ม “ท่านหญิงฉางเล่อพูดเล่นแล้ว ไหนเลยข้าน้อยจะกล้าหลอกท่านหญิง! หากมิเชื่อท่านลองถามใครดูก็ได้ว่าที่ข้าน้อยพูดเป็นเรื่องจริงหรือไม่!”“หากท่านหญิงมีธุระด่วนจร
หลิงอวี๋ฟังแล้วก็อดอมยิ้มมิได้ เซียวหลินเทียนใช้คนตระกูลเก๋อมาจัดการชายาเจ้าแห่งทะเล กลอุบายนี้ช่างเด็ดขาดนักรถม้ามาถึงจวนเจ้าแห่งทะเล เมื่อหลิงอวี๋ลงจากรถก็มองไปยังคฤหาสน์หลังใหม่ที่กำลังก่อสร้างอีกครั้ง กำแพงล้อมรอบสร้างเสร็จแล้ว ดูจากขนาดแล้วใหญ่โตมากจริง ๆนางอดสงสัยมิได้ ข้างในมีเรือนบุหงาแบบเดียวกับตำหนักอ๋องอี้ของตนอย่างที่เถาจื่อบอกจริงหรือ?นางอยากเข้าไปดู อยากเห็นเหลือเกินว่าบ้านในอดีตของตนเป็นอย่างไร!“คุณหนูสิง เชิญ!”พ่อบ้านเว่ยเห็นหลิงอวี๋มองคฤหาสน์ฝั่งตรงข้ามก็ร้องเรียกอย่างมิอดทนหลิงอวี๋หันกลับมา เห็นประตูใหญ่หนาทึบของจวนเจ้าแห่งทะเลเปิดอ้าอยู่ ข้างในลานเรือนซับซ้อนลึกล้ำ มองสุดตามิเห็นปลายทางนี่คือที่ที่เต็มไปด้วยอันตรายโดยแท้!หลิงอวี๋ลอบสูดหายใจลึก ๆ แล้วเดินเข้าไป“ปัง!”ประตูใหญ่หนาทึบปิดลงด้านหลังนางหลิงอวี๋มิได้หันกลับไปมอง เพราะนั่นจะดูมิสง่างามนางรอให้พ่อบ้านเว่ยนำทางอยู่ข้างหน้า เพื่อหลีกเลี่ยงการเดินผิดทางแล้วถูกพ่อบ้านเว่ยหาเรื่องผิดพลาดมาตำหนิขณะเดียวกัน หลงเพ่ยเพ่ยก็ได้พาเย่หรงมุ่งหน้าไปยังวังหลวงแล้ว“อุบายนี้ของชายาเจ้าแห่งทะเลช่างร้า
จวนเจ้าแห่งทะเลตั้งอยู่ในย่านคหบดีและสูงศักดิ์ของเมืองหลวงแดนเทพ อันที่จริงอยู่ห่างจากคฤหาสน์อู่เพียงมิกี่ช่วงถนนเท่านั้นรถม้าวิ่งไปตามทางเรื่อย ๆ เถาจื่อพลันนึกอะไรขึ้นมาได้ จึงกระซิบข้างหูหลิงอวี๋เบา ๆ“คุณหนู อีกประเดี๋ยวท่านจะเห็นคฤหาสน์หลังใหญ่ที่กำลังสร้างอยู่ตรงข้ามจวนเจ้าแห่งทะเล ที่นั่นฝ่าบาททรงสร้างให้ท่านเจ้าค่ะ!”“คราแรกที่พวกเรามาตามหาท่านในเมืองหลวงแดนเทพนั้นมิรู้ว่าจะต้องเสียเวลานานเท่าใด ฝ่าบาทจึงทรงให้สือหรงซื้อคฤหาสน์แถวนี้ไว้ล่วงหน้าแล้วรื้อสร้างใหม่ทั้งหมด!”“ฝ่าบาทตรัสว่า เจ้าแห่งทะเลคือบิดาของท่าน ในเมื่อเขามิยอมรับท่าน ฝ่าบาทก็จะทำให้เขาเห็นว่า ใช่ว่าท่านไม่มีบ้านเสียหน่อย แม้จวนเจ้าแห่งทะเลไม่มีที่ให้ท่าน ฝ่าบาทก็จะสร้างจวนหลังที่ใหญ่กว่าจวนเจ้าแห่งทะเลให้!”“คุณหนู ข้างในมีเรือนหลังหนึ่ง สร้างตามแบบเรือนบุหงาที่ตำหนักอ๋องอี้ในฉินตะวันตกของท่านไม่มีผิดเพี้ยน หากท่านได้เห็นจะต้องชอบอย่างแน่นอนเจ้าค่ะ!”ก่อนหน้านี้หลิงอวี๋เคยได้ยินเผยอวี้พูดถึงคฤหาสน์หลังใหม่ที่พวกเขาสร้างแล้ว ตอนนั้นยังรู้สึกแปลกใจว่าเซียวหลินเทียนคิดจะอยู่เมืองหลวงแดนเทพเป็นการถาวรหรืออย่
วิธีนี้ของหลิงอวี๋เป็นวิธีเดียวที่จะช่วยนางได้ในยามนี้ ด้วยเซียวหลินเทียนและคนอื่น ๆ ก็ยังคิดหาวิธีที่ดีกว่านี้มิออกเย่หรงกล่าวขึ้นทันที “ข้าจะไปหาหลงเพ่ยเพ่ย บอกนางมิต้องมาแล้ว ให้เข้าวังไปทูลขอเข้าเฝ้าฮองเฮาได้เลย!”“พี่หญิงหลิงหลิง ท่านต้องยื้อจนกว่าพวกเราจะมาช่วยท่านให้ได้นะ!”พูดจบ เย่หรงก็รีบร้อนออกไปเก๋อเฟิ่งฉิงมองหลิงอวี๋ด้วยสายตาซับซ้อน นางหวังให้หลิงอวี๋เข้าจวนเจ้าแห่งทะเลไปแล้วออกมามิได้แต่เรื่องนี้ก็พัวพันถึงความเป็นความตายของเซียวหลินเทียน นางมิอยากให้เซียวหลินเทียนต้องเกิดเรื่อง!ช่างขัดแย้งในใจเสียจริง!“อาอวี๋ เจ้าไปก่อนเถอะ... วางใจได้ ต่อให้ต้องก่อความวุ่นวายครั้งใหญ่ในเมืองหลวงแดนเทพ ข้าก็จะพาเจ้ากลับบ้านให้ได้!”เซียวหลินเทียนกล่าวอย่างหนักแน่นเขายังมีแผ่นป้ายไม้ที่ขันทีโม่ให้มา สามารถใช้ขอความช่วยเหลือจากแม่ทัพฝ่ายซ้ายได้ เซียวหลินเทียนตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่าจะใช้แผ่นป้ายไม้นี้ช่วยหลิงอวี๋ขันทีโม่เคยบอกว่า เพียงอาศัยแผ่นป้ายไม้นี้ ก็สามารถทำให้แม่ทัพฝ่ายซ้ายช่วยตนทำเรื่องหนึ่งเรื่องได้หากแม่ทัพฝ่ายซ้ายสามารถช่วยคนได้เพียงคนเดียว เช่นนั้นเขาก็ยอมตายเ
เผยอวี้และคนอื่น ๆ ต่างมองหน้ากันอย่างจนปัญญา นึกว่ามหาปราชญ์และเจ้าแห่งทะเลกลับไปแล้วพวกตนจะรอดพ้นจากครั้งนี้ไปได้ คาดมิถึงว่าชายาเจ้าแห่งทะเลจะใช้ไม้นี้อีกภายนอกดูเหมือนเป็นการเชิญ แต่จริง ๆ แล้วจะปฏิเสธมิไปได้หรือ?เซียวหลินเทียนสามารถแสร้งป่วยได้ แต่หลิงอวี๋เพิ่งจะปรากฏตัวต่อหน้าเจ้าแห่งทะเลไปเมื่อครู่ ตอนนี้ย่อมมิอาจใช้การแสร้งป่วยมาหลีกเลี่ยงได้อีกแล้ว“บอกไปว่าคุณหนูสิงกำลังรักษาอาการป่วยให้ข้าอยู่ เดี๋ยวค่อยไป!”ในสถานการณ์กะทันหันเช่นนี้เซียวหลินเทียนทำได้เพียงถ่วงเวลาไปก่อนแล้วค่อยคิดหาวิธี“เผยอวี้ เจ้าส่งคนไปแจ้งหลงเพ่ยเพ่ยกับเจ้าแห่งทิศใต้ ให้หลงเพ่ยเพ่ยไปเป็นเพื่อนอาอวี๋!”เป็นเรื่องความเป็นความตายของหลิงอวี๋ เผยอวี้รีบให้คนไปแจ้งหลงเพ่ยเพ่ยทันทีหลิงอวี๋นิ่งเงียบ นั่งคิดอยู่ข้าง ๆเพื่อชิงหยกหล้าสุขาวดีกลับคืนมา ในเวลานั้นชายาเจ้าแห่งทะเลสามารถลงมืออำมหิตกับหลานฮุ่ยจวนที่กำลังตั้งครรภ์ได้ครั้งนี้นางส่งพ่อบ้านมาเชิญตนไปจวนเจ้าแห่งทะเล พูดไปพูดมาก็เพื่อหยกหล้าสุขาวดีบนตัวนางนั่นเองส่วนการที่จะนำหยกหล้าสุขาวดีออกมาได้นั้นต้องใช้วิธีสลายโลหิตละลายกระดูก หรือว่าช
หลิงอวี๋เดินกลับเข้ามา และบังเอิญได้ยินคำพูดของเย่ซงเฉิงเข้าพอดี“พวกเราต้องเตรียมรับมือสำหรับสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด หากหวงฝู่หลินกลับไปแล้ว มิสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ ถึงกาลนั้นใครจะมารับมือการแก้แค้นของฝูไห่ต่อตระกูลหลงและตระกูลอื่น ๆ อีกหลายตระกูลเล่า?”เจ้าแห่งทิศใต้มองไปยังเย่หรง และกล่าวเสียงเข้ม “เลี่ยวหงเสีย มารดาของเย่หรงอาจจะรู้วิธี!”“ปรมาจารย์เย่ ก่อนหน้านี้ข้าอยากจะพบเลี่ยวหงเสียเพื่อสอบถามสถานการณ์จึงไปที่คุกน้ำมา แต่ข้ากลับมิสามารถพบนางได้!”“คำกล่าวของท่านมีน้ำหนักเมื่ออยู่ต่อหน้าพระพักตร์เสด็จพ่อ บางทีท่านอาจจะสามารถทูลขอเสด็จพ่อให้ทรงอนุญาตท่านเข้าพบเลี่ยวหงเสียได้!”เย่ซงเฉิงขมวดคิ้ว “เจ้าแห่งทิศใต้ก็มิสามารถพบเลี่ยวหงเสียได้เช่นกันหรือพ่ะย่ะค่ะ?”เจ้าแห่งทิศใต้พยักหน้า “แม่ทัพหลี่ผู้เฝ้าประตูบอกว่า นอกเสียจากจะมีพระราชโองการของมหาเทพ มิฉะนั้นก็มิอนุญาตให้ข้าพบเลี่ยวหงเสีย!”เย่ซงเฉิงยิ้มอย่างขมขื่น “เรื่องนี้ข้าน้อยเคยทูลต่อเสด็จพ่อของท่านแล้ว เสด็จพ่อของท่านมิทรงยินยอม ความนับหน้าถือตาของตาเฒ่าผู้นี้ใช้มิได้ผลต่อหน้าพระพักตร์เสด็จพ่อของท่านแล้ว!”ทุกคนต่
หวงฝู่หลินมิรู้จักคนทั้งสองนี้เลย คิดอยู่ครู่หนึ่งจึงกล่าวว่า “ตอนนั้นนอกจากพวกท่านกับตระกูลเฉียวแล้ว ก็มีคนของตระกูลจงเจิ้งที่เข้าไปในภูเขาหิมะ ข้ามิเห็นคนทั้งสองที่ท่านพูดถึงในภูเขาหิมะ!”“บางทีปี้ซงอาจจะเคยเห็น เดี๋ยวลองเรียกเขามาถามดู!”เผยอวี้จึงไปเรียกปี้ซงมาอีกครั้งปี้ซงอุ้มหวงฝู่หมิงจูเข้ามา หลิงอวี๋ก็รับนางมาอุ้มไว้เซียวหลินเทียนมองหวงฝู่หมิงจูกอดคอหลิงอวี๋ด้วยท่าทางสนิทสนม ในใจรู้สึกซับซ้อนอย่างบอกมิถูกหวงฝู่หลินเล่าคำถามให้ปี้ซงฟังอีกครั้งปี้ซงคิดอยู่ครู่หนึ่งจึงกล่าวว่า “ชายชราผู้นั้นข้าพอจำได้ราง ๆ ตอนนั้นเขาเดินวนเวียนอยู่ในภูเขาหิมะอยู่หลายวัน ต่อมาก็จากไป ข้าคิดว่าเขาไม่มีอันตรายอะไรจึงมิได้ใส่ใจ!”“ส่วนแม่นมอู ข้าไม่มีความทรงจำเกี่ยวกับนางเลย มิเคยเห็นนางในภูเขาหิมะ!”เก๋อเฟิ่งฉิงยืนฟังอยู่ข้าง ๆ ตลอด ได้ยินดังนั้นก็กล่าวว่า “อันที่จริงตอนนั้นที่ภูเขาหิมะ นอกจากพวกเราแล้ว น่าจะยังมีคนอีกกลุ่มหนึ่ง”“ข้าก็มาพบพวกนางหลังจากลงจากเขาแล้ว ตอนนั้นยังคิดว่าพวกนางแค่ผ่านทางมา แต่พอลองคิดดูตอนนี้ พวกนางต้องเคยไปภูเขาหิมะแน่นอน แม่นมอูน่าจะถูกพวกนางพาตัวไป!”“พวกเข
เมื่อฟังคำพูดของเย่ซงเฉิงจบ หลิงอวี๋ หลงเพ่ยเพ่ยและเผยอวี้ก็ร้องอุทานออกมาพร้อมกัน“เจ้าสำนักซิงหลัวเป็นสตรี! หรือว่านางคือตงกู่อวี้ที่กลับชาติมาเกิด?”หวงฝู่หลินก็นึกขึ้นได้ ตอนที่ทุกคนรุมล้อมโจมตีเจ้าสำนักซิงหลัว เผยอวี้ใช้กระบี่เดียวตัดเชือกรัดผมที่มัดผมของเจ้าสำนักซิงหลัวขาดตอนนั้นผมสลวยของนางสยายลงมาบดบังดวงตาของนางทุกคนมัวแต่ยุ่งอยู่กับการรับมือ จึงมิทันได้คิดให้ลึกซึ้งเมื่อเย่ซงเฉิงพูดเช่นนี้ ทุกคนจึงได้นึกถึงสภาพการณ์ในยามนั้นขึ้นมา“ตงกู่อวี้กลับชาติมาเกิดจริง ๆ หรือ?”ในฐานะลูกหลานตระกูลหลง เจ้าแห่งทิศใต้จะมิรู้ได้อย่างไรว่าในใต้หล้านี้มีวิชาลับเช่นนี้อยู่จริง ทันใดนั้นก็ตกใจจนเหงื่อเย็นไหลซึมหลงจิ้งและหลงเพ่ยเพ่ยก็ตกใจเช่นกัน วรยุทธ์ของสตรีนางนั้นสูงส่งกว่ามหาปราชญ์เสียอีก แต่ก่อนหน้านี้พวกเขามิเคยรู้มาก่อนเลยว่าสำนักซิงหลัวยังมียอดฝีมือเช่นนี้อยู่“ท่านพ่อ ยามนั้นเจ้าวังหวงฝู่พร้อมด้วยท่านเซียวและพวกเราช่วยกันรุมล้อมโจมตีนางก็ยังมิสามารถสังหารนางได้ ลูกดูจากวรยุทธ์ของนางแล้ว เกรงว่าจะมีเพียงท่านอาเจ้าแห่งทะเลเท่านั้นที่พอจะต่อกรกับนางได้!”หลงเพ่ยเพ่ยกล่าวด้วย
หลงจิ้งยังคงยากที่จะเชื่อ “คำพูดของตระกูลเหล่านั้นก็มิได้ผลหรือพ่ะย่ะค่ะ?”เจ้าแห่งทิศใต้ส่ายหน้าอย่างหดหู่ “เสด็จปู่ของเจ้าตรัสว่าจะตรวจสอบให้ จึงส่งเจ้าแห่งทะเลไปตรวจสอบ แต่ผลที่ได้จากเจ้าแห่งทะเลก็มิสามารถสรุปอะไรได้เลย หรือกระทั่ง...”กระทั่งเจ้าแห่งทะเลอาจจะใช้ขี้ผึ้งหอม ควบคุมบุตรหลานของตระกูลใหญ่เหล่านั้นไว้ในมือตนเอง!เซียวหลินเทียน หลงจิ้งและหลิงอวี๋ต่างก็เข้าใจความหมายที่เจ้าแห่งทิศใต้ยังพูดมิจบใจของหลงจิ้งพลันหล่นวูบ เช่นนั้นเรื่องที่ตนไปเผาขี้ผึ้งหอมก็เท่ากับมิได้ช่วยใครเลย กลับยิ่งทำให้อำนาจของเจ้าแห่งทะเลเพิ่มทวีคูณขึ้นงั้นหรือ?หลงเพ่ยเพ่ยกล่าวอย่างมิยอม “หรือว่าหัวหน้าตระกูลใหญ่เหล่านั้นล้วนเลอะเลือนไปแล้ว? ไยจึงปล่อยให้ท่านอาเจ้าแห่งทะเลควบคุมชะตากรรมของพวกเขาเช่นนี้?”เซียวหลินเทียนขมวดคิ้ว มิน่าแปลกใจที่เมื่อครู่เจ้าแห่งทะเลยอมถอยกลับไปง่าย ๆ ที่แท้ก็มีแผนการเช่นนี้เองก่อนที่จะควบคุมตระกูลใหญ่เหล่านั้นไว้ในมือ เจ้าแห่งทะเลย่อมมิอาจแตกหักกับเจ้าแห่งทิศใต้ได้ในยามนี้แต่เมื่อใดที่เขาควบคุมตระกูลใหญ่เหล่านั้นไว้ในมือได้แล้ว เจ้าแห่งทะเลย่อมมิปล่อยเจ้าแห่งทิศใต