“ฮองเฮา น่าเสียดายจริง ๆ เพคะ จ้าวหรุ่ยหรุ่ยผู้นั้นมิหลงกล!”เมื่อเห็นพวกจ้าวหรุ่ยหรุ่ยจากไปด้วยท่าทางหม่นหมองเช่นนี้ หลิงซวนก็เอ่ยอย่างเสียดายแต่หลิงอวี๋ทรุดตัวลงบนที่นั่งเสียงดังลั่นแม้ว่านางจะฟื้นแล้ว แต่ก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส เมื่อครู่พยายามอดทนฝืนอยู่ตลอด มิได้แสดงความอ่อนแอต่อหน้าจ้าวหรุ่ยหรุ่ย“ฮองเฮา... แม่นมอูมาเร็วเข้า!”พวกหลิงซวนต่างก็ตกใจแล้วเข้ามารวมตัวกันแม่นมอูที่อยู่โถงด้านหลังเดินออกมาอย่างมิรีบมิร้อน พลางเอ่ยอย่างเย็นชา “แตกตื่นกันหาปะไร พระนางมิได้เป็นอะไร!”“ข้าช่วยชีวิตพระนางไว้แล้ว การพักฟื้นที่เหลือก็มิเกี่ยวกับข้าแล้ว! ข้าจะไปแล้ว!”หลิงอวี๋หายใจแล้วรีบเอ่ย “แม่นมอยู่ต่ออีกสองสามวันได้หรือไม่! หลิงอวี๋ยังมีเรื่องอยากจะขอคำแนะนำจากแม่นมอีก!”“แม่นมรู้จักท่านแม่ของหลิงอวี๋ก็เห็นแก่ท่านแม่กับขันทีโม่อยู่ต่ออีกสองสามวันเถิด!”แม่นมอูมองหลิงอวี๋ด้วยสายตาเย็นชาและซับซ้อน หลังจากนั้นสักพักก็ส่ายหัวแล้วเอ่ย “หยกหล้าสุขาวดีอยู่ในมือของท่าน แต่ท่านกลับอ่อนแอถึงเพียงนี้ ช่างน่าอายเสียจริง ๆ!”“ได้ เห็นแก่พระมารดาของท่าน บ่าวจะอยู่ต่ออีกสองสามวันและให้คำแนะนำแก
จ้าวหรุ่ยหรุ่ยขโมยตำราลับนี้มาจากศิษย์พี่ของตนศิษย์พี่ผู้นี้ชื่อเฉียวเค่อ อายุพอ ๆ กับจ้าวหรุ่ยหรุ่ย หน้าตาหล่อเหลา เพียงแต่เจ้าชู้เกินไปเขาชื่นชมจ้าวหรุ่ยหรุ่ยมาก แต่จ้าวหรุ่ยหรุ่ยดูถูกเขากอปรกับที่เขาไร้พรสวรรค์ทางด้านปัญญา แม้ว่าเขาจะเข้าสำนักเร็วกว่าจ้าวหรุ่ยหรุ่ย แต่การบำเพ็ญของเขาก็มิสูงเท่ากับจ้าวหรุ่ยหรุ่ยแต่เฉียวเค่อมีเงินและมีสหายที่มิดีมากหลายนักปกติแล้วเมื่อได้รับของดี ๆ ก็เอามาประจบจ้าวหรุ่ยหรุ่ยแต่จ้าวหรุ่ยหรุ่ยมิเคยรับอะไรไว้เลยสิ่งเดียวที่ทำให้จ้าวหรุ่ยหรุ่ยสนใจได้ก็คือตำราลับเล่มนี้แต่เฉียวเค่อกลับมิได้มอบมันให้กับจ้าวหรุ่ยหรุ่ยเหมือนกับของเล็กน้อยเหล่านั้นที่ได้รับมา แต่หลังจากที่ได้รับมาก็ทำลับ ๆ ล่อ ๆ ต่อหน้าจ้าวหรุ่ยหรุ่ย แล้วก็ซ่อนมันไว้เขาบอกว่าตำราลับนี้มิเหมาะกับการฝึกของจ้าวหรุ่ยหรุ่ย มันค่อนข้างเป็นวิชาที่มิดียิ่งเขามิให้จ้าวหรุ่ยหรุ่ย จ้าวหรุ่ยหรุ่ยก็ยิ่งสนใจลงเขาครั้งนี้จ้าวหรุ่ยหรุ่ยจึงถือโอกาสที่เฉียวเค่อมิอยู่ขโมยตำราลับมาตำราลับนี้เป็นวิชานอกรีตดังที่เฉียวเค่อบอกไว้จริง ๆ มิเพียงแต่จะมีวิชาทางเพศเท่านั้น แต่ยังมีวิธีการฝึกฝนร่วมก
แม่นมอูหัวเราะหึ ๆ “ใต้หล้านี้ของยิ่งวิเศษก็ยิ่งหายาก! ยิ่งมิเข้าใจก็ยิ่งแสดงให้เห็นถึงความสูงส่งของมัน!”“โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ถือครองสมบัตินี้เป็นคนแรกสุด สถานะอันสูงส่งของเขายิ่งเพิ่มคุณค่าอันสูงส่งและหายากให้กับมัน!”แม่นมอูมองหลิงอวี๋อย่างเยาะเย้ย “ท่านรู้หรือไม่ว่าผู้ถือหยกหล้าสุขาวดีคนแรกสุดคือผู้ใด?”“ผู้ใด?”หลิงอวี๋ขอคำแนะนำอย่างถ่อมตัว“มหาเทพแห่งแดนปีศาจ… หลงจี้! เขาสร้างแดนปีศาจทั้งหมด พลังของเขาอยู่ในระดับเทพ ว่ากันว่าเขาอายุแปดร้อยกว่าปีแล้ว!”“มีตำนานเกี่ยวกับเขามากมายนัก เรื่องพวกนี้เอาไว้คราวหลังบ่าวะค่อย ๆ เล่าให้ท่านฟังเพคะ!”“มาพูดถึงหยกหล้าสุขาวดีกันก่อนเถิด ว่ากันว่ามันเป็นอาวุธเวทของมหาเทพ หลังจากสร้างพันธะกับมันแล้วจะสามารถเรียกพลังแห่งความโกลาหลภายในออกมาใช้เป็นประโยชน์ให้ตนได้!”“พลังแห่งความโกลาหลนี้คือพลังแห่งธรรมชาติ การเรียกลมเรียกฝนเป็นเพียงผลกระทบเล็กน้อยของมันเท่านั้น!”“การทลายภูเขาและโค่นทะเล หรือกระทั่งการพลิกกลับห้วงเวลาต่างหากจึงจะเป็นผลกระทบยิ่งใหญ่ของมัน!”หลิงอวี๋ได้ยินก็ตกตะลึง หยกหล้าสุขาวดีนี้มีพลังถึงเพียงนี้เชียวหรือ?“ท่านอย่าได
หลิงอวี๋มองอาการบาดเจ็บบนใบหน้าของแม่นมอู แล้วก็นึกถึงหลานฮุ่ยจวนเมื่อนั้นหลานฮุ่ยจวนกับอู่จวิ้นหัวหน้าองครักษ์ของนางหนีออกจากแดนปีศาจมา หลานฮุ่ยจวนได้รับบาดเจ็บสาหัสและสูญเสียการฝึกยุทธ์ไปอู่จวิ้นก็ได้รับบาดเจ็บเช่นกัน แล้วสุดท้ายก็ตาทั้งสองข้างก็สูญเสียการมองเห็นไปอาการบาดเจ็บบนใบหน้าของแม่นมอูกับอาการบาดเจ็บของหลานฮุ่ยจวนมีความเกี่ยวข้องกันหรือไม่?อาจเป็นเพราะความสงสัยที่เขียนอยู่บนใบหน้าของหลิงอวี๋นั้นทำให้แม่นมอูมองออกแม่นมอูดูเหมือนจะนึกถึงเมื่อยามนั้นเช่นกัน ในดวงตาที่ขุ่นมัวสะท้อนความเกลียดชังอย่างมากออกมา“แม่นมอู ข้าได้ยินมาว่า หลังจากที่ท่านแม่หนีออกมาจากแดนปีศาจก็พบว่าตั้งครรภ์ ท่านรู้หรือไม่ว่าผู้ใดคือพ่อของข้า?”แม้ว่าหลิงอวี๋จะมิใช่คนเดียวกับเจ้าของร่างเดิม และสำหรับนางแล้วบิดาผู้มีพระคุณในการให้กำเนิดตนผู้นี้จะมีหรือไม่มีก็ได้ทว่าบัดนี้ตนครอบครองร่างนี้อยู่ หากนางมิระลึกถึงบุญคุณของบิดา ก็ต้องระลึกถึงบุญคุณที่หลานฮุ่ยจวนให้กำเนิดมาหลานฮุ่ยจวนถูกคนจากแดนปีศาจตามล่า ยามนี้หลิงอวี๋ครอบครองหยกหล้าสุขาวดีของนางอยู่ หากหลิงอวี๋มิรู้สาเหตุการตายของหลานฮุ่ยจวนให
แต่สิ่งที่แม่นมอูพูดต่อไปทำให้หลิงอวี๋รู้ว่าตนมีมุมมองที่คับแคบไปแล้วเนื่องจากผู้บำเพ็ญตนมากมายในแดนปีศาจมีชีวิตที่ยืนยาวได้ จึงมีความอดทนต่อข้อกำหนดในการแต่งงานมากเช่นนั้นจึงมีบุรุษที่มีภรรยาหลายคนมากจนนับมิถ้วน หลงหมิงอายุสิบห้าปีก็แต่งงานเชื่อมความสัมพันธ์แล้ว เขาแต่งงานกับคุณหนูจากตระกูลเก๋อที่มีอำนาจอีกตระกูลหนึ่งมาเป็นภรรยาหลวงครั้นเมื่อหลานฮุ่ยจวนกับแม่นมอูตกหลุมรักหลงหมิง หลงหมิงก็มีลูกชายสองคนแล้วแต่สตรีสองคนนี้ก็ยังคงหลงใหลหลงหมิง และกระโจนเข้าใส่เขาราวกับแมลงเม่าบินเข้ากองไฟแม่นมอูเป็นเผ่าพันธุ์ที่มีเอกลักษณ์เหนือจากตระกูลใหญ่ทั้งห้า ตระกูลอูเป็นตระกูลของนักบวชหญิงในแดนปีศาจเผ่านักบวชหญิงมีหน้าที่รับผิดชอบในการปกป้องภูเขาศักดิ์สิทธิ์หลายแห่งในแดนปีศาจ ภูเขาศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้สามารถจัดหาเครื่องยาสมุนไพรของแดนปีศาจที่ผู้บำเพ็ญตนต้องการได้ดังนั้นเผ่านักบวชจึงได้รับความเคารพจากเหล่าตระกูลใหญ่แม่นมอูมีสถานะสูงตั้งแต่นางยังเป็นเด็ก ครอบครัวใหญ่เห็นนางก็จะต้องคำนับนางด้วยเหตุนี้นางจึงเย่อหยิ่งมาโดยตลอด แต่เมื่อพบหลงหมิงในคราแรกก็ตกหลุมรักเสียแล้วนักบวชหญิงทุกคน
“หลิงอวี๋!” “ในปีนั้นเจ้าวางแผนการชั่วร้ายใส่ข้าอย่างไร้ยางอาย… จากนั้นยังใช้ป้ายทองอาญาสิทธิ์ที่องค์จักรพรรดิพระราชทานให้มาบีบบังคับให้ข้าแต่งงานกับเจ้า...” “มาตอนนี้ยังลอบขโมยของล้ำค่าที่เสด็จแม่ของข้าทิ้งเอาไว้ เพื่อเติมเต็มสิ่งที่เจ้าขาดหายไป! ยิ่งไปกว่านั้นคือทำร้ายเฮยจื่อเสียจนปางตาย!” “หากว่าข้ายังไว้ชีวิตเจ้าอีก ข้าก็คงจะไม่แซ่เซียวแล้ว!” ใคร? ใครกำลังพูดอยู่กัน ขณะที่เธอกึ่งหลับกึ่งตื่นอยู่นั้น ก็ได้ยินเสียงแส้ “เพียะ!” ดังขึ้น ทั่วทั้งตัวของหลิงอวี๋เจ็บปวดจนสั่นสะท้าน จนต้องลืมตาขึ้นมาทันที... จากนั้นเมื่อมองเห็นด้านหน้าของเธอ มีชายหนุ่มหล่อเหลา สูงส่งราวกับเทพเจ้านั่งอยู่บนรถเข็น จ้องมองยังเธออย่างแข็งกร้าว “โบย! ห้าสิบแส้! อย่าให้ขาดแม้แต่หนึ่ง!” “โบยให้ตาย แล้วจงลากไปโยนทิ้งที่สุสานรวมซะ!” เพียะ! เพียะ! เพียะ! เสียงแส้ดังออกมาพร้อมกับเสียงลมครั้งแล้วครั้งเล่ากระแทกลงบนกายของหลิงอวี๋ หลิงอวี๋เจ็บปวดจนดวงตามืดมน อีกเพียงนิดเกือบจะเป็นลมไป... หลิงอวี๋ที่เกือบจะสิ้นลมไป เธอนึกไม่ออกว่านี่มันเกิดอะไรขึ้น? ท่านอ๋องอะไรกัน? เฮยจื่ออะไร? เมื่อคร
“อย่าตีท่านแม่ของข้า...” หลังจากที่เสี่ยวเมาล้มบนพื้น กระอักเลือดออกมาแล้วก็คลานเข้าไปหาหลิงอวี๋อย่างไม่ยินยอม ยังคิดที่จะใช้ร่างกายที่อ่อนแอของตนช่วยรับแส้ให้กับนางอีก หลิงอวี๋มองไปยังมุมปากของเสี่ยวเมาที่ยังคงมีเลือดไหลซึม ในใจก็ยิ่งสั่นสะท้านขึ้นมา… ในความทรงจำนั้น หลิงอวี๋ใส่ใจเสี่ยวเมาน้อยนัก ทำให้เสี่ยวเมาที่คลอดมาแข็งแรงมาก กลับยิ่งเลี้ยงดูก็ยิ่งผอมบาง... “ท่านอ๋อง… นี่? โบยต่อหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?” มือเฆี่ยนเอ่ยถามออกมาอย่างระมัดระวัง “ลากลูกนอกสมรสนั่นออกไป โบยต่อ!” ชายหนุ่มสูงส่งราวกับเทพเจ้านั้น ถึงแม้ว่าจะเห็นเสี่ยวเมากระอักเลือดออกมา ก็ยังคงดูเฉยชาไร้ซึ่งอารมณ์ดั่งเก่า “เสี่ยวเมา ไปเถอะ ปกตินางก็ไม่ได้ดูแลเจ้าดีนัก เจ้ายังสนใจว่านางจะเป็นตายไปเพื่อเหตุอันใด!” หญิงชราคนหนึ่งวิ่งเข้ามา เมื่ออุ้มเสี่ยวเมาได้ก็ออกไป “อย่าตีท่านแม่… ปล่อยข้า!” เสี่ยวเมายังคงร้องตะโกนออกมาอย่างเศร้าโศก ไม่สนใจว่าตรงมุมปากของตนจะมีเลือดไหลออกมา ดิ้นรนอย่างแรงอยู่ในอ้อมแขนของหญิงชรา หญิงชรากอดเขาเอาไว้แน่น มือเฆี่ยนยังคงโบยแส้ลงไปบนกายของหลิงอวี๋ เสี่ยวเมาเองก็ไม่รู้ว่าไปเอาแรง
“ตึกตึก… ตึก...” ไม่รู้ว่าสลบไปนานเท่าใด หลิงอวี๋ได้ยินเสียงนาฬิกาดังตึกตึกแว่ว ๆ จนลืมตาขึ้นมา... ทันใดนั้น ดวงตาของหลิงยวี่ก็สว่างขึ้น เธอพบว่าตัวเองอยู่ในห้องทดลองอิสระของตนที่วิทยาลัยแพทย์ หรือว่าตนจะเดินทางข้ามเวลากลับมาแล้ว? หลิงอวี๋ลุกขึ้นมาอย่างตื่นเต้นขึ้นมา ทว่าเพียงเคลื่อนไหวร่างกายก็รู้สึกได้ว่าทั่วทั้งร่างเจ็บปวด และยังมีเลือดสดไหลออกมา... เธอก้มหัวลงไปมองก็พบว่าร่องรอยบาดเจ็บของแส้ก็ถูกนำกลับมาด้วย! เธออดทนต่อความเจ็บปวดตามหากล่องยา แล้วฉีดยาบาดทะยักให้กับตนเอง ก่อนจะรีบจัดการบาดแผลอย่างรวดเร็ว มีรอยแส้มากมายอยู่ตรงหน้าอก แผ่นหลัง และบนใบหน้า ล้วนแต่ลึกลงสู่ผิวหนัง มองดูแล้วช่างน่าหวาดกลัวและโหดร้าย ขณะที่หลิงอวี๋กำลังจัดการอาการบาดเจ็บบนร่างกายอยู่ทางนี้นั้น ก็ก่นด่าสาปแช่งเซียวหลินเทียนไปพลาง สาปแช่งให้เขาไม่ได้ตายดี ขาดลูกหลานสืบสกุล... เมื่อคำด่า “ขาดลูก” สองคำนี้ออกมา ก็คิดถึงเสี่ยวเมาที่ปกป้องตนจนไม่อาจสาปแช่งต่อไปได้ เธอไม่ได้หวังให้เสี่ยวเมาตายไป! บาดแผลของหลิงอวี๋เพิ่งจะใส่ยาลงไป ขณะที่กำลังสวมเสื้อผ้าอยู่นั้น ก็ได้ยินเสียงฝีเท้าดังลอยมา เ
แต่สิ่งที่แม่นมอูพูดต่อไปทำให้หลิงอวี๋รู้ว่าตนมีมุมมองที่คับแคบไปแล้วเนื่องจากผู้บำเพ็ญตนมากมายในแดนปีศาจมีชีวิตที่ยืนยาวได้ จึงมีความอดทนต่อข้อกำหนดในการแต่งงานมากเช่นนั้นจึงมีบุรุษที่มีภรรยาหลายคนมากจนนับมิถ้วน หลงหมิงอายุสิบห้าปีก็แต่งงานเชื่อมความสัมพันธ์แล้ว เขาแต่งงานกับคุณหนูจากตระกูลเก๋อที่มีอำนาจอีกตระกูลหนึ่งมาเป็นภรรยาหลวงครั้นเมื่อหลานฮุ่ยจวนกับแม่นมอูตกหลุมรักหลงหมิง หลงหมิงก็มีลูกชายสองคนแล้วแต่สตรีสองคนนี้ก็ยังคงหลงใหลหลงหมิง และกระโจนเข้าใส่เขาราวกับแมลงเม่าบินเข้ากองไฟแม่นมอูเป็นเผ่าพันธุ์ที่มีเอกลักษณ์เหนือจากตระกูลใหญ่ทั้งห้า ตระกูลอูเป็นตระกูลของนักบวชหญิงในแดนปีศาจเผ่านักบวชหญิงมีหน้าที่รับผิดชอบในการปกป้องภูเขาศักดิ์สิทธิ์หลายแห่งในแดนปีศาจ ภูเขาศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้สามารถจัดหาเครื่องยาสมุนไพรของแดนปีศาจที่ผู้บำเพ็ญตนต้องการได้ดังนั้นเผ่านักบวชจึงได้รับความเคารพจากเหล่าตระกูลใหญ่แม่นมอูมีสถานะสูงตั้งแต่นางยังเป็นเด็ก ครอบครัวใหญ่เห็นนางก็จะต้องคำนับนางด้วยเหตุนี้นางจึงเย่อหยิ่งมาโดยตลอด แต่เมื่อพบหลงหมิงในคราแรกก็ตกหลุมรักเสียแล้วนักบวชหญิงทุกคน
หลิงอวี๋มองอาการบาดเจ็บบนใบหน้าของแม่นมอู แล้วก็นึกถึงหลานฮุ่ยจวนเมื่อนั้นหลานฮุ่ยจวนกับอู่จวิ้นหัวหน้าองครักษ์ของนางหนีออกจากแดนปีศาจมา หลานฮุ่ยจวนได้รับบาดเจ็บสาหัสและสูญเสียการฝึกยุทธ์ไปอู่จวิ้นก็ได้รับบาดเจ็บเช่นกัน แล้วสุดท้ายก็ตาทั้งสองข้างก็สูญเสียการมองเห็นไปอาการบาดเจ็บบนใบหน้าของแม่นมอูกับอาการบาดเจ็บของหลานฮุ่ยจวนมีความเกี่ยวข้องกันหรือไม่?อาจเป็นเพราะความสงสัยที่เขียนอยู่บนใบหน้าของหลิงอวี๋นั้นทำให้แม่นมอูมองออกแม่นมอูดูเหมือนจะนึกถึงเมื่อยามนั้นเช่นกัน ในดวงตาที่ขุ่นมัวสะท้อนความเกลียดชังอย่างมากออกมา“แม่นมอู ข้าได้ยินมาว่า หลังจากที่ท่านแม่หนีออกมาจากแดนปีศาจก็พบว่าตั้งครรภ์ ท่านรู้หรือไม่ว่าผู้ใดคือพ่อของข้า?”แม้ว่าหลิงอวี๋จะมิใช่คนเดียวกับเจ้าของร่างเดิม และสำหรับนางแล้วบิดาผู้มีพระคุณในการให้กำเนิดตนผู้นี้จะมีหรือไม่มีก็ได้ทว่าบัดนี้ตนครอบครองร่างนี้อยู่ หากนางมิระลึกถึงบุญคุณของบิดา ก็ต้องระลึกถึงบุญคุณที่หลานฮุ่ยจวนให้กำเนิดมาหลานฮุ่ยจวนถูกคนจากแดนปีศาจตามล่า ยามนี้หลิงอวี๋ครอบครองหยกหล้าสุขาวดีของนางอยู่ หากหลิงอวี๋มิรู้สาเหตุการตายของหลานฮุ่ยจวนให
แม่นมอูหัวเราะหึ ๆ “ใต้หล้านี้ของยิ่งวิเศษก็ยิ่งหายาก! ยิ่งมิเข้าใจก็ยิ่งแสดงให้เห็นถึงความสูงส่งของมัน!”“โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ถือครองสมบัตินี้เป็นคนแรกสุด สถานะอันสูงส่งของเขายิ่งเพิ่มคุณค่าอันสูงส่งและหายากให้กับมัน!”แม่นมอูมองหลิงอวี๋อย่างเยาะเย้ย “ท่านรู้หรือไม่ว่าผู้ถือหยกหล้าสุขาวดีคนแรกสุดคือผู้ใด?”“ผู้ใด?”หลิงอวี๋ขอคำแนะนำอย่างถ่อมตัว“มหาเทพแห่งแดนปีศาจ… หลงจี้! เขาสร้างแดนปีศาจทั้งหมด พลังของเขาอยู่ในระดับเทพ ว่ากันว่าเขาอายุแปดร้อยกว่าปีแล้ว!”“มีตำนานเกี่ยวกับเขามากมายนัก เรื่องพวกนี้เอาไว้คราวหลังบ่าวะค่อย ๆ เล่าให้ท่านฟังเพคะ!”“มาพูดถึงหยกหล้าสุขาวดีกันก่อนเถิด ว่ากันว่ามันเป็นอาวุธเวทของมหาเทพ หลังจากสร้างพันธะกับมันแล้วจะสามารถเรียกพลังแห่งความโกลาหลภายในออกมาใช้เป็นประโยชน์ให้ตนได้!”“พลังแห่งความโกลาหลนี้คือพลังแห่งธรรมชาติ การเรียกลมเรียกฝนเป็นเพียงผลกระทบเล็กน้อยของมันเท่านั้น!”“การทลายภูเขาและโค่นทะเล หรือกระทั่งการพลิกกลับห้วงเวลาต่างหากจึงจะเป็นผลกระทบยิ่งใหญ่ของมัน!”หลิงอวี๋ได้ยินก็ตกตะลึง หยกหล้าสุขาวดีนี้มีพลังถึงเพียงนี้เชียวหรือ?“ท่านอย่าได
จ้าวหรุ่ยหรุ่ยขโมยตำราลับนี้มาจากศิษย์พี่ของตนศิษย์พี่ผู้นี้ชื่อเฉียวเค่อ อายุพอ ๆ กับจ้าวหรุ่ยหรุ่ย หน้าตาหล่อเหลา เพียงแต่เจ้าชู้เกินไปเขาชื่นชมจ้าวหรุ่ยหรุ่ยมาก แต่จ้าวหรุ่ยหรุ่ยดูถูกเขากอปรกับที่เขาไร้พรสวรรค์ทางด้านปัญญา แม้ว่าเขาจะเข้าสำนักเร็วกว่าจ้าวหรุ่ยหรุ่ย แต่การบำเพ็ญของเขาก็มิสูงเท่ากับจ้าวหรุ่ยหรุ่ยแต่เฉียวเค่อมีเงินและมีสหายที่มิดีมากหลายนักปกติแล้วเมื่อได้รับของดี ๆ ก็เอามาประจบจ้าวหรุ่ยหรุ่ยแต่จ้าวหรุ่ยหรุ่ยมิเคยรับอะไรไว้เลยสิ่งเดียวที่ทำให้จ้าวหรุ่ยหรุ่ยสนใจได้ก็คือตำราลับเล่มนี้แต่เฉียวเค่อกลับมิได้มอบมันให้กับจ้าวหรุ่ยหรุ่ยเหมือนกับของเล็กน้อยเหล่านั้นที่ได้รับมา แต่หลังจากที่ได้รับมาก็ทำลับ ๆ ล่อ ๆ ต่อหน้าจ้าวหรุ่ยหรุ่ย แล้วก็ซ่อนมันไว้เขาบอกว่าตำราลับนี้มิเหมาะกับการฝึกของจ้าวหรุ่ยหรุ่ย มันค่อนข้างเป็นวิชาที่มิดียิ่งเขามิให้จ้าวหรุ่ยหรุ่ย จ้าวหรุ่ยหรุ่ยก็ยิ่งสนใจลงเขาครั้งนี้จ้าวหรุ่ยหรุ่ยจึงถือโอกาสที่เฉียวเค่อมิอยู่ขโมยตำราลับมาตำราลับนี้เป็นวิชานอกรีตดังที่เฉียวเค่อบอกไว้จริง ๆ มิเพียงแต่จะมีวิชาทางเพศเท่านั้น แต่ยังมีวิธีการฝึกฝนร่วมก
“ฮองเฮา น่าเสียดายจริง ๆ เพคะ จ้าวหรุ่ยหรุ่ยผู้นั้นมิหลงกล!”เมื่อเห็นพวกจ้าวหรุ่ยหรุ่ยจากไปด้วยท่าทางหม่นหมองเช่นนี้ หลิงซวนก็เอ่ยอย่างเสียดายแต่หลิงอวี๋ทรุดตัวลงบนที่นั่งเสียงดังลั่นแม้ว่านางจะฟื้นแล้ว แต่ก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส เมื่อครู่พยายามอดทนฝืนอยู่ตลอด มิได้แสดงความอ่อนแอต่อหน้าจ้าวหรุ่ยหรุ่ย“ฮองเฮา... แม่นมอูมาเร็วเข้า!”พวกหลิงซวนต่างก็ตกใจแล้วเข้ามารวมตัวกันแม่นมอูที่อยู่โถงด้านหลังเดินออกมาอย่างมิรีบมิร้อน พลางเอ่ยอย่างเย็นชา “แตกตื่นกันหาปะไร พระนางมิได้เป็นอะไร!”“ข้าช่วยชีวิตพระนางไว้แล้ว การพักฟื้นที่เหลือก็มิเกี่ยวกับข้าแล้ว! ข้าจะไปแล้ว!”หลิงอวี๋หายใจแล้วรีบเอ่ย “แม่นมอยู่ต่ออีกสองสามวันได้หรือไม่! หลิงอวี๋ยังมีเรื่องอยากจะขอคำแนะนำจากแม่นมอีก!”“แม่นมรู้จักท่านแม่ของหลิงอวี๋ก็เห็นแก่ท่านแม่กับขันทีโม่อยู่ต่ออีกสองสามวันเถิด!”แม่นมอูมองหลิงอวี๋ด้วยสายตาเย็นชาและซับซ้อน หลังจากนั้นสักพักก็ส่ายหัวแล้วเอ่ย “หยกหล้าสุขาวดีอยู่ในมือของท่าน แต่ท่านกลับอ่อนแอถึงเพียงนี้ ช่างน่าอายเสียจริง ๆ!”“ได้ เห็นแก่พระมารดาของท่าน บ่าวจะอยู่ต่ออีกสองสามวันและให้คำแนะนำแก
จ้าวหรุ่ยหรุ่ยตกใจจนเหงื่อตก!ใช่แล้ว เหตุใดนางจึงลืมไปว่าด้านหลังมีผู้ฝึกยุทธ์ซุ่มอยู่ข้างหลังนาง!หลิงอวี๋กับนางรับใช้ของนางทำให้ตนอับอายเช่นนี้ นี่อาจเป็นแผนการร้ายของหลิงอวี๋ก็เป็นได้!คิดจะกระตุ้นความโกรธให้ตนลงมือแล้วเปิดเผยว่าตนเป็นผู้ฝึกยุทธ์ พวกนางจะได้สังหารตนกับไท่เฟยเส้าอย่างสมเหตุสมผล!จ้าวหรุ่ยหรุ่ยระงับความโกรธของตนไว้ แล้วเอ่ยอย่างยอมจำนน “สิ่งที่ฮองเฮาทรงสอน หม่อมฉันรู้แล้วว่าหม่อมฉันผิดเพคะ!”“กลับไปหม่อมฉันจะทบทวนตนเองและแก้ไขข้อผิดพลาดของตนเพคะ!”หลิงอวี๋มองเห็นได้ชัดเจนถึงการเปลี่ยนแปลงทั้งหมดในสีหน้าของจ้าวหรุ่ยหรุ่ยเดิมคิดว่าการกระทำของตนกับหลิงซวนจะทำให้จ้าวหรุ่ยหรุ่ยโกรธได้ แต่จ้าวหรุ่ยหรุ่ยก็ยังอดทนได้อยู่หลิงอวี๋รู้ดีอยู่แล้วว่านางกำลังกังวลเรื่องอะไร เพราะนี่ก็คือสิ่งที่หลิงอวี๋เตรียมไว้นางหวังให้จ้าวหรุ่ยหรุ่ยระงับความโกรธมิไหวแล้วลงมือ เช่นนี้ก็จะได้ถือโอกาสที่จ้าวหรุ่ยหรุ่ยได้รับบาดเจ็บเช่นกันจัดการกับจ้าวหรุ่ยหรุ่ยเสียจ้าวหรุ่ยหรุ่ยอดทนไว้ได้ หลิงอวี๋ก็มิได้ผิดหวังมากนักเพราะนางรู้ถึงร่างกายของตนกับความแข็งแกร่งของแม่นมอูแม่นมอูใช้พ
“พระชายาคัง!”หลิงอวี๋หยุดอยู่ตรงหน้าทั้งสองคน และมิรีบร้อนที่จะบอกให้ทั้งสองลุกขึ้นนางมองลงไปที่จ้าวหรุ่ยหรุ่ยคนที่ทำร้ายตนคือจ้าวหรุ่ยหรุ่ย หลิงอวี๋มั่นใจมากแต่ก็เพราะตอนนั้นนางสวมหน้ากากของแม่นมหนานอยู่ หลิงอวี๋จึงมิสามารถกล่าวหานางได้ดังนั้นแม้ว่าหลิงอวี๋จะรู้ว่าคนที่คุกเข่าต่อหน้าตนเป็นงูพิษ และอยากจะถลกหนังนางออกมา แต่หลิงอวี๋ก็ทำอะไรมิได้แต่มิสามารถทุบตีหรือดุด่าได้ ก็มิได้หมายความว่าหลิงอวี๋จะมิสามารถใช้สถานะของตนกดขี่นางได้คนที่หยิ่งยโสเช่นจ้าวหรุ่ยหรุ่ย ให้นางคุกเข่าต่อหน้าตนนั้นถือเป็นการตบหน้านางอย่างมิต้องสงสัยจ้าวหรุ่ยหรุ่ยมีหรือจะเดามิออกถึงความคิดของหลิงอวี๋ นางรู้สึกอับอายและอยากจะสังหารหลิงอวี๋เช่นเดียวกับที่หลิงอวี๋อยากสังหารนางนางก้มหน้าลงแล้วจิกเล็บไปบนฝ่ามือนางรู้สึกถึงความหงุดหงิดใจอีกครั้งแล้ว!ครานี้ตนมิได้ทำผิดพลาดอะไร แล้วเหตุใดยังสังหารหลิงอวี๋มิได้เล่า?หลิงอวี๋เป็นปีศาจแบบใดกันแน่ เหตุใดจึงสังหารได้ยากเช่นนี้!“พระชายาคัง ก่อนหน้านี้ข้าได้ยินมาว่า เจ้ารู้หนังสือและมารยาทดี ทั้งยังมีคุณธรรมมากกว่าพี่หญิงของเจ้าด้วย! แต่สิ่งที่เจ้าทำทำใ
กระทั่งมาถึงพระตำหนักคุนหนิง นางรับใช้ของจ้าวหรุ่ยหรุ่ยก็ถูกขวางเอาไว้ จ้าวหรุ่ยกับไท่เฟยเส้าสบตากันแล้วเดินเข้าไปอย่างสงบภายในโถงหลักว่างเปล่า หลิงอวี๋มิได้อยู่“ไท่เฟยเส้า พระชายาคัง โปรดรอสักครู่เพคะ ฮองเฮาเปลี่ยนพระฉลองแล้วจะเสด็จมาเพคะ!”หานอวี้ให้พวกนางรับใช้ช่วยยกที่นั่งและโต๊ะชาให้อย่างเย็นชาไท่เฟยเส้าเอ่ยโดยมิแสดงสีหน้าใด “ฮองเฮาทรงได้รับบาดเจ็บมิใช่หรือ? พวกเราล้วนเป็นสตรี มิจำเป็นต้องหลีกเลี่ยงใด ๆ เข้าไปพบพระนางในห้องได้!”ว่าแล้วไท่เฟยเส้าก็จะเดินเข้าไปหานอวี้กับพวกนางรับใช้มาขวางหน้าไว้ แล้วหานอวี้ก็เอ่ยเสียงเรียบ “ไท่เฟยเส้า ฮองเฮาตรัสว่าจะพบพวกท่านที่โถงหลักเพคะ ขอท่านโปรดกลับไปนั่งรอเถิดเพคะ!”“บังอาจ เจ้านับว่าเป็นอะไรกัน! กล้ามาขวางข้า วันนี้ข้าจะไปพบพระนางที่ห้องบรรทม หลีกไป...”ไท่เฟยเส้าเห็นว่าบ่าวเช่นหานอวี้กล้ามาขวางตนก็โกรธมาก“ไท่เฟยเส้า ช่างวางอำนาจเสียจริงนะ!”เสียงตำหนิด้วยความโกรธของหลิงอวี๋ดังมาจากด้านหลัง“นี่คือพระตำหนักคุนหนิงของข้า ท่านมีสิทธิ์มาแสดงท่าทีดุร้ายเยี่ยงนี้เมื่อใดกัน?”หลังจากเสียงนั้น หลิงอวี๋ก็เดินออกไปพร้อมกับหานเหมยกับเ
จ้าวหรุ่ยหรุ่ยใช้ขุนนางที่อยู่ที่นี่เหล่านี้เป็นโล่ในการเข้าไปเข้าเฝ้าหลิงอวี๋ หากพวกเขาปฏิเสธก็จะยืนยันว่าตนมีความผิดท่านอ๋องเฉิงยังมิเคยได้ข่าวเรื่องอาการของหลิงอวี๋ จึงมิรู้ว่าควรปล่อยให้เข้าไปหรือไม่“ท่านอ๋องเฉิง...”ขณะที่ท่านอ๋องเฉิงกำลังปวดหัวอยู่นั้น สุ่ยหลิงก็วิ่งเข้ามา “ให้พวกนางเข้ามาเถิดเพคะ ฮองเฮาฟื้นแล้ว!”ในที่สุดหินก้อนใหญ่ในใจของท่านอ๋องเฉิงและหลี่ว์เซียงก็วางลงได้เสียที“ท่านอ๋องเฉิง ท่านรับพวกนางเข้าวัง และหากถ่วงเวลาไว้ได้ก็ถ่วงไว้สักหน่อยเถิดเพคะ ฮองเฮายังต้องการเวลาสักหน่อยเพคะ!”สุ่ยหลิงอธิบายอีกครั้งฟื้นขึ้นมาก็ดีแล้ว เรื่องอื่นเป็นเรื่องเล็ก จัดการง่าย!ท่านอ๋องเฉิงหันไปด้านล่างแล้วเอ่ย “ไท่เฟยเส้า พระชายาคัง รอสักครู่ อีกประเดี๋ยวฮองเฮาจะพบพวกเจ้า เกี้ยวที่จะมารับพวกเจ้าจะมาถึงแล้ว!”ไท่เฟยเส้ากับจ้าวหรุ่ยหรุ่ยสามารถเข้าไปเยี่ยมได้ แต่ทั้งสองต่างก็มิเชื่อว่าหลิงอวี๋ยังมีชีวิตอยู่ท่านอ๋องเฉิงปล่อยให้พวกนางเข้าไปเช่นนี้ หรือว่าจะวางกับดักไว้ข้างใน?ทั้งสองคนมิกล้าเข้าไปง่าย ๆ!หากมิสามารถนำทัพเข้าไปได้ เช่นนั้นหากเข้าวังไป จะมิเป็นปลาให้ผู้อื่นเช