แชร์

บทที่ 1666

ผู้เขียน: กานเฟย
“ฮองเฮา น่าเสียดายจริง ๆ เพคะ จ้าวหรุ่ยหรุ่ยผู้นั้นมิหลงกล!”

เมื่อเห็นพวกจ้าวหรุ่ยหรุ่ยจากไปด้วยท่าทางหม่นหมองเช่นนี้ หลิงซวนก็เอ่ยอย่างเสียดาย

แต่หลิงอวี๋ทรุดตัวลงบนที่นั่งเสียงดังลั่น

แม้ว่านางจะฟื้นแล้ว แต่ก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส เมื่อครู่พยายามอดทนฝืนอยู่ตลอด มิได้แสดงความอ่อนแอต่อหน้าจ้าวหรุ่ยหรุ่ย

“ฮองเฮา... แม่นมอูมาเร็วเข้า!”

พวกหลิงซวนต่างก็ตกใจแล้วเข้ามารวมตัวกัน

แม่นมอูที่อยู่โถงด้านหลังเดินออกมาอย่างมิรีบมิร้อน พลางเอ่ยอย่างเย็นชา “แตกตื่นกันหาปะไร พระนางมิได้เป็นอะไร!”

“ข้าช่วยชีวิตพระนางไว้แล้ว การพักฟื้นที่เหลือก็มิเกี่ยวกับข้าแล้ว! ข้าจะไปแล้ว!”

หลิงอวี๋หายใจแล้วรีบเอ่ย “แม่นมอยู่ต่ออีกสองสามวันได้หรือไม่! หลิงอวี๋ยังมีเรื่องอยากจะขอคำแนะนำจากแม่นมอีก!”

“แม่นมรู้จักท่านแม่ของหลิงอวี๋ก็เห็นแก่ท่านแม่กับขันทีโม่อยู่ต่ออีกสองสามวันเถิด!”

แม่นมอูมองหลิงอวี๋ด้วยสายตาเย็นชาและซับซ้อน หลังจากนั้นสักพักก็ส่ายหัวแล้วเอ่ย “หยกหล้าสุขาวดีอยู่ในมือของท่าน แต่ท่านกลับอ่อนแอถึงเพียงนี้ ช่างน่าอายเสียจริง ๆ!”

“ได้ เห็นแก่พระมารดาของท่าน บ่าวจะอยู่ต่ออีกสองสามวันและให้คำแนะนำแก
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1667

    จ้าวหรุ่ยหรุ่ยขโมยตำราลับนี้มาจากศิษย์พี่ของตนศิษย์พี่ผู้นี้ชื่อเฉียวเค่อ อายุพอ ๆ กับจ้าวหรุ่ยหรุ่ย หน้าตาหล่อเหลา เพียงแต่เจ้าชู้เกินไปเขาชื่นชมจ้าวหรุ่ยหรุ่ยมาก แต่จ้าวหรุ่ยหรุ่ยดูถูกเขากอปรกับที่เขาไร้พรสวรรค์ทางด้านปัญญา แม้ว่าเขาจะเข้าสำนักเร็วกว่าจ้าวหรุ่ยหรุ่ย แต่การบำเพ็ญของเขาก็มิสูงเท่ากับจ้าวหรุ่ยหรุ่ยแต่เฉียวเค่อมีเงินและมีสหายที่มิดีมากหลายนักปกติแล้วเมื่อได้รับของดี ๆ ก็เอามาประจบจ้าวหรุ่ยหรุ่ยแต่จ้าวหรุ่ยหรุ่ยมิเคยรับอะไรไว้เลยสิ่งเดียวที่ทำให้จ้าวหรุ่ยหรุ่ยสนใจได้ก็คือตำราลับเล่มนี้แต่เฉียวเค่อกลับมิได้มอบมันให้กับจ้าวหรุ่ยหรุ่ยเหมือนกับของเล็กน้อยเหล่านั้นที่ได้รับมา แต่หลังจากที่ได้รับมาก็ทำลับ ๆ ล่อ ๆ ต่อหน้าจ้าวหรุ่ยหรุ่ย แล้วก็ซ่อนมันไว้เขาบอกว่าตำราลับนี้มิเหมาะกับการฝึกของจ้าวหรุ่ยหรุ่ย มันค่อนข้างเป็นวิชาที่มิดียิ่งเขามิให้จ้าวหรุ่ยหรุ่ย จ้าวหรุ่ยหรุ่ยก็ยิ่งสนใจลงเขาครั้งนี้จ้าวหรุ่ยหรุ่ยจึงถือโอกาสที่เฉียวเค่อมิอยู่ขโมยตำราลับมาตำราลับนี้เป็นวิชานอกรีตดังที่เฉียวเค่อบอกไว้จริง ๆ มิเพียงแต่จะมีวิชาทางเพศเท่านั้น แต่ยังมีวิธีการฝึกฝนร่วมก

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1668

    แม่นมอูหัวเราะหึ ๆ “ใต้หล้านี้ของยิ่งวิเศษก็ยิ่งหายาก! ยิ่งมิเข้าใจก็ยิ่งแสดงให้เห็นถึงความสูงส่งของมัน!”“โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ถือครองสมบัตินี้เป็นคนแรกสุด สถานะอันสูงส่งของเขายิ่งเพิ่มคุณค่าอันสูงส่งและหายากให้กับมัน!”แม่นมอูมองหลิงอวี๋อย่างเยาะเย้ย “ท่านรู้หรือไม่ว่าผู้ถือหยกหล้าสุขาวดีคนแรกสุดคือผู้ใด?”“ผู้ใด?”หลิงอวี๋ขอคำแนะนำอย่างถ่อมตัว“มหาเทพแห่งแดนปีศาจ… หลงจี้! เขาสร้างแดนปีศาจทั้งหมด พลังของเขาอยู่ในระดับเทพ ว่ากันว่าเขาอายุแปดร้อยกว่าปีแล้ว!”“มีตำนานเกี่ยวกับเขามากมายนัก เรื่องพวกนี้เอาไว้คราวหลังบ่าวะค่อย ๆ เล่าให้ท่านฟังเพคะ!”“มาพูดถึงหยกหล้าสุขาวดีกันก่อนเถิด ว่ากันว่ามันเป็นอาวุธเวทของมหาเทพ หลังจากสร้างพันธะกับมันแล้วจะสามารถเรียกพลังแห่งความโกลาหลภายในออกมาใช้เป็นประโยชน์ให้ตนได้!”“พลังแห่งความโกลาหลนี้คือพลังแห่งธรรมชาติ การเรียกลมเรียกฝนเป็นเพียงผลกระทบเล็กน้อยของมันเท่านั้น!”“การทลายภูเขาและโค่นทะเล หรือกระทั่งการพลิกกลับห้วงเวลาต่างหากจึงจะเป็นผลกระทบยิ่งใหญ่ของมัน!”หลิงอวี๋ได้ยินก็ตกตะลึง หยกหล้าสุขาวดีนี้มีพลังถึงเพียงนี้เชียวหรือ?“ท่านอย่าได

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1669

    หลิงอวี๋มองอาการบาดเจ็บบนใบหน้าของแม่นมอู แล้วก็นึกถึงหลานฮุ่ยจวนเมื่อนั้นหลานฮุ่ยจวนกับอู่จวิ้นหัวหน้าองครักษ์ของนางหนีออกจากแดนปีศาจมา หลานฮุ่ยจวนได้รับบาดเจ็บสาหัสและสูญเสียการฝึกยุทธ์ไปอู่จวิ้นก็ได้รับบาดเจ็บเช่นกัน แล้วสุดท้ายก็ตาทั้งสองข้างก็สูญเสียการมองเห็นไปอาการบาดเจ็บบนใบหน้าของแม่นมอูกับอาการบาดเจ็บของหลานฮุ่ยจวนมีความเกี่ยวข้องกันหรือไม่?อาจเป็นเพราะความสงสัยที่เขียนอยู่บนใบหน้าของหลิงอวี๋นั้นทำให้แม่นมอูมองออกแม่นมอูดูเหมือนจะนึกถึงเมื่อยามนั้นเช่นกัน ในดวงตาที่ขุ่นมัวสะท้อนความเกลียดชังอย่างมากออกมา“แม่นมอู ข้าได้ยินมาว่า หลังจากที่ท่านแม่หนีออกมาจากแดนปีศาจก็พบว่าตั้งครรภ์ ท่านรู้หรือไม่ว่าผู้ใดคือพ่อของข้า?”แม้ว่าหลิงอวี๋จะมิใช่คนเดียวกับเจ้าของร่างเดิม และสำหรับนางแล้วบิดาผู้มีพระคุณในการให้กำเนิดตนผู้นี้จะมีหรือไม่มีก็ได้ทว่าบัดนี้ตนครอบครองร่างนี้อยู่ หากนางมิระลึกถึงบุญคุณของบิดา ก็ต้องระลึกถึงบุญคุณที่หลานฮุ่ยจวนให้กำเนิดมาหลานฮุ่ยจวนถูกคนจากแดนปีศาจตามล่า ยามนี้หลิงอวี๋ครอบครองหยกหล้าสุขาวดีของนางอยู่ หากหลิงอวี๋มิรู้สาเหตุการตายของหลานฮุ่ยจวนให

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1670

    แต่สิ่งที่แม่นมอูพูดต่อไปทำให้หลิงอวี๋รู้ว่าตนมีมุมมองที่คับแคบไปแล้วเนื่องจากผู้บำเพ็ญตนมากมายในแดนปีศาจมีชีวิตที่ยืนยาวได้ จึงมีความอดทนต่อข้อกำหนดในการแต่งงานมากเช่นนั้นจึงมีบุรุษที่มีภรรยาหลายคนมากจนนับมิถ้วน หลงหมิงอายุสิบห้าปีก็แต่งงานเชื่อมความสัมพันธ์แล้ว เขาแต่งงานกับคุณหนูจากตระกูลเก๋อที่มีอำนาจอีกตระกูลหนึ่งมาเป็นภรรยาหลวงครั้นเมื่อหลานฮุ่ยจวนกับแม่นมอูตกหลุมรักหลงหมิง หลงหมิงก็มีลูกชายสองคนแล้วแต่สตรีสองคนนี้ก็ยังคงหลงใหลหลงหมิง และกระโจนเข้าใส่เขาราวกับแมลงเม่าบินเข้ากองไฟแม่นมอูเป็นเผ่าพันธุ์ที่มีเอกลักษณ์เหนือจากตระกูลใหญ่ทั้งห้า ตระกูลอูเป็นตระกูลของนักบวชหญิงในแดนปีศาจเผ่านักบวชหญิงมีหน้าที่รับผิดชอบในการปกป้องภูเขาศักดิ์สิทธิ์หลายแห่งในแดนปีศาจ ภูเขาศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้สามารถจัดหาเครื่องยาสมุนไพรของแดนปีศาจที่ผู้บำเพ็ญตนต้องการได้ดังนั้นเผ่านักบวชจึงได้รับความเคารพจากเหล่าตระกูลใหญ่แม่นมอูมีสถานะสูงตั้งแต่นางยังเป็นเด็ก ครอบครัวใหญ่เห็นนางก็จะต้องคำนับนางด้วยเหตุนี้นางจึงเย่อหยิ่งมาโดยตลอด แต่เมื่อพบหลงหมิงในคราแรกก็ตกหลุมรักเสียแล้วนักบวชหญิงทุกคน

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1671

    แดนปีศาจถูกสร้างขึ้นโดยมหาเทพ ในช่วงมิกี่ร้อยปีที่มานี้พวกตระกูลใหญ่ ๆ ในแดนปีศาจยอมจำนนต่อการควบคุมของตระกูลหลง ซึ่งก็เพราะเกรงกลัวมหาเทพที่มีสถานะดั่งเทพเจ้าหากข่าวว่ามหาเทพสวรรคตแล้วแพร่ออกไป เหล่าปีศาจและสัตว์ประหลาดเหล่านั้นผู้ใดจะยังเชื่อฟังตระกูลหลงอีก!ถึงเวลานั้น ห้าตระกูลใหญ่ในแดนปีศาจล้วนต้องจะตกอยู่ในการต่อสู้ดังนั้น เพื่อปกป้องอำนาจทางราชสำนัก หลงหมิงกับตระกูลเก๋อจึงมิยอมให้หยกหล้าสุขาวดีหลุดออกไปและเปิดโปงการมีอยู่ของมหาเทพต่อให้หลงหมิงจะชอบหลานฮุ่ยจวนมากเพียงใด ก็มิสำคัญสำหรับเขาเท่ากับตระกูลของตน ดังนั้นเขาจึงมีส่วนร่วมในการสกัดกั้นและสังหารหลานฮุ่ยจวนด้วยตนเอง“เมื่อดูจากที่หลานฮุ่ยจวนหนีออกจากแดนปีศาจพร้อมกับหยกหล้าสุขาวดีในช่วงยี่สิบปีที่ผ่านมานี้แล้ว ในแดนปีศาจไม่มีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ก็พิสูจน์ได้แล้วว่า หลงหมิงกับตระกูลเก๋อรักษาความลับได้ดี!”แม่นมอูหัวเราะเยาะพลางเอ่ย “แต่เก๋อเทียนซือถูกท่านโจมตีได้รับบาดเจ็บหนีกลับไป พวกเขาทุกคนจะรู้ว่าหยกหล้าสุขาวดีอยู่ในมือของท่าน!”“หลิงอวี๋ ความสามารถของท่านในตอนนี้หากปะทะกับพวกเขาก็เป็นเช่นไข่กะเทาะกับก้อนหิน ช่างเป

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1672

    ขันทีโม่เห็นใบหน้าหดหู่ของหลิงอวี๋ก็ยิ้มออกมา “สาวน้อย ข้าหาได้ตั้งใจจะทำให้เจ้ากลัวไม่ อย่าทำหน้าเช่นนั้นสิ!”“ตระกูลเหล่านี้ก็เหมือนกับตระกูลใหญ่ในฉินตะวันตกของพวกเจ้า มิแน่ว่าทุกตระกูลที่จะมีความทะเยอทะยานที่จะครองแผ่นดิน และมิใช่ทุกตระกูลจะเป็นศัตรูของเจ้า!”“อีกอย่าง หยกหล้าสุขาวดีก็เข้ากันได้กับสายเลือดของเจ้า มิใช่ว่าสังหารเจ้าแล้วจะเอาหยกหล้าสุขาวดีไปได้ดังที่เจ้าคิด!”แม่นมอูก็เหลือบมองหลิงอวี๋อย่างดูถูกเช่นกัน “รู้จักเศษพระธาตุหรือไม่?”หลิงอวี๋พยักหน้าโดยมิรู้ตัวว่ากันว่าเศษพระธาตุเป็นการตกผลึกของพระภิกษุผู้มีชื่อเสียงหลังจากละสังขารโดยการนั่งสมาธิหรือหลังจากการเผาศพแม่นมอูเอ่ยอย่างเย็นชา “ความแตกต่างระหว่างความศักดิ์สิทธิ์ของหยกหล้าสุขาวดีกับเศษพระธาตุก็คือ มันมิได้มาจากการเผาศพของท่าน!”“หยกหล้าสุขาวดีเป็นมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์ที่มีจิตวิญญาณ จะต้องละลายเลือดเนื้อของท่านด้วยโอสถในยามที่ท่านยังมีชีวิตอยู่จึงจะได้มา มิเช่นนั้น หยกหล้าสุขาวดีจะตายไปพร้อมกับความตายของท่าน!”“กุญแจสำคัญในการได้รับหยกหล้าสุขาวดีก็คือโอสถ โอสถชนิดนี้จะพบได้ในภูเขาศักดิ์สิทธิ์เท่านั้น อีกทั

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1673

    จ้าวฮุยมองไปทางลู่หนานอย่างเคียดแค้น แม้ว่าในใจจะเต็มไปด้วยความเกลียดชัง แต่ปากก็ยังคงตะโกนออกไปอย่างเข้มแข็ง“แม่ทัพลู่ ข้าทำให้องค์จักรพรรดิต้องทรงผิดหวังในความไว้วางพระทัยนี้ และตกไปอยู่ในเงื้อมมือของเว่ยเหนือ ความเป็นความตายของข้ามิเพียงพอให้เอ่ยถึง แม่ทัพลู่บอกองค์จักรพรรดิเถิดว่าให้ความสำคัญกับสถานการณ์โดยรวมก่อน!”องค์ชายอิงก็ตะโกนไปเช่นกัน “แม่ทัพลู่ ข้าเคารพจักรพรรดิของพวกเจ้าในฐานะบุรุษ ในเมื่อเขาเสนอให้แข่งขัน เช่นนั้นก็มาแข่งขันกัน!”“ยามเที่ยงในวันพรุ่ง เราจะประลองกันต่อหน้ากองทัพทั้งสอง!”“หากข้าแพ้ ข้าจะปล่อยอัครเสนาบดีจ้าวกลับไปตามคำขอของจักรพรรดิพวกเจ้า!”“ข้าเชื่อว่าจักรพรรดิของพวกเจ้าจะพูดคำไหนคำนั้นเช่นกัน!”องค์ชายอิงไม่มีทางเลือกอื่นจึงยอมรับคำท้าของเซียวหลินเทียนก่อนหน้านี้เขาได้นัดหมายกับองค์ชายหนิงแห่งฉีตะวันออกให้มาจัดการกับเซียวหลินเทียนด้วยกันแล้ว แต่องค์ชายหนิงถูกเซียวหลินเทียนกับคนของจักรพรรดิเยี่ยนหนานโจมตีจนมิสามารถดูแลตนเองได้ จึงทรยศต่อความภักดีมิมาช่วยเหลือตนแล้วส่วนทางด้านเยวี่ยใต้ได้ยึดครองป้อมยุทธศาสตร์สำคัญไว้ ในช่วงเวลานี้มิสามารถโจมตีไ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1674

    ท่าทางออกรบที่น่าเกรงขามของเซียวหลินเทียนสร้างขวัญกำลังใจให้ทหารฉินตะวันตก ภายใต้การนำของจ้าวซวน พวกเขาต่างก็โห่ร้องและโบกกระบี่ไปพร้อมกัน“องค์จักรพรรดิทรงอำนาจ!”“ฉินตะวันตกต้องคว้าชัย!”เมื่อทหารจากเว่ยเหนือได้ยินสิ่งนี้ ก็ตะโกนมาอย่างมิแสดงความอ่อนแอ “จักรพรรดิของเราทรงอำนาจ... เว่ยเหนือจะต้องคว้าชัย!”ทหารทั้งสองฝ่ายต่างก็แข่งขันกัน คนหนึ่งตะโกนอีกคนหนึ่งก็ตะโกนให้ดังกว่า“ฉินตะวันตกต้องคว้าชัย!”“เว่ยเหนือต้องคว้าชัย!”เสียงตะโกนดังเพิ่มขึ้นทีละนิด ทหารทั้งสองฝ่ายต่างก็ตะโกนกันจนหน้าแดงคอเกร็ง แต่ก็ยังคงตะโกนกันต่อไปหลังจากตะโกนกันไปหลายสิบครั้ง สีหน้าขององค์ชายอิงก็เปลี่ยนไปแม้ว่าเสียงทหารฝ่ายตนจะดัง แต่ก็ค่อย ๆ มิสม่ำเสมอเป็นเสียงเดียวกัน ราวกับพวกอันธพาลที่อยู่ตามท้องถนนที่ตะโกนส่งเสียงดังแต่ทางฝั่งฉินตะวันตก เสียงมีความสม่ำเสมอพร้อมเพรียง ในบรรดาปากนับมิถ้วนนั้นราวกับสื่อสารด้วยสมองเดียวกัน มีความพร้อมเพรียงตั้งแต่ต้นจนจบแม้ว่านี่จะเป็นเพียงเสียงตะโกน แต่ก็สามารถสะท้อนถึงภาพลักษณ์ของทหารได้กองทัพของฉินตะวันตกมีความเข้มงวดในการบัญชาการกองทัพ มีความตั้งใจให้สมบ

บทล่าสุด

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 2014

    หลิงอวี๋ยิ้มออกมา ต่อให้นางใจดีแค่ไหนก็มีขอบเขตของตน ในเมื่อรู้อยู่แก่ใจว่าเป็นกับดักแล้วตนจะพาตัวเองเข้าไปได้อย่างไรกัน!หากตนรู้จักฮูหยินเฉิง บางทีอาจจะเสี่ยงไปช่วยชีวิตนาง!แต่ตนกับฮูหยินเฉิงมิได้รู้จักกัน มิรู้ด้วยซ้ำว่านางเป็นคนดีหรือคนเลวแม้ว่าจะเห็นใจฮูหยินเฉิงที่ต้องประสบความทรมานของการเจ็บป่วย แต่นางก็มิใช่แม่พระ มิสามารถไปช่วยชีวิตทุกคนที่เจ็บป่วยได้หรอก!หลิงอวี๋ครุ่นคิดแล้วเอ่ยกับเย่หรง “ในช่วงสองวันนี้ท่านคอยติดตามอาการป่วยของฮูหยินเฉิงไว้ และไปตรวจสอบตัวตนของแม่ทัพเฉิงให้ละเอียดอีกสักหน่อย!”“หากเขาสามารถเป็นสายลับให้ท่านไปช่วยมารดาของท่านออกมาได้จริง ๆ ข้าจะหาวิธีตามหาหลิงอวี๋มาช่วยชีวิตนาง!”สำหรับเย่หรงแล้ว คนที่สำคัญที่สุดนั้นคือมารดาของเขาหากมั่นใจได้ว่าแม่ทัพเฉิงยินดีจะช่วยเป็นสายลับให้เย่หรง ต่อให้หลิงอวี๋ต้องเสี่ยงอันตรายก็จะช่วยเย่หรงทำสิ่งนี้“เจ้ามีวิธีตามหานางหรือ?”เย่หรงเอ่ยถามอย่างประหลาดใจ“พี่ชายข้าเก่งเรื่องการสืบหาข่าวมาก บางทีคนที่ผู้อื่นหามิเจอ เขาอาจจะตามหาเจอก็ได้!”หลิงอวี๋ยิ้มแล้วเอ่ยออกมา “เอาตามนี้ก่อนแล้วกัน หากแม่ทัพเฉิงมิควรเชื่อ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 2013

    วันรุ่งขึ้นเมื่อหลิงอวี๋ไปที่บ้านตระกูลเย่ นางก็บอกเรื่องหลงเพ่ยเพ่ยกับเย่ซื่อฝานในบ้านตระกูลเย่นั้นเย่ซื่อฝานจัดการเพียงแค่การปรุงโอสถเท่านั้น มิได้จัดการเรื่องการบริหาร เนื่องจากการบริหารเป็นเรื่องของผู้นำตระกูลแต่ในฐานะที่เย่ซื่อฝานเป็นสมาชิกตระกูลเย่ เขาก็รู้เรื่องภายในบางส่วนเช่นกันเขาจึงเอ่ยขึ้นมาอย่างจริงจัง “เจ้ารู้หรือไม่ว่าเหตุใดเจ้าแห่งทิศใต้จึงให้หลงเพ่ยเพ่ยมาแสดงความปรารถนาดีต่อเจ้าในเวลานี้?”“ก่อนหน้านี้เขามิได้สนใจการต่อสู้ระหว่างหอโอสถไป๋เป่าและหอโอสถซ่างกู่ เขาแค่หวังว่าหอโอสถไป๋เป่าจะกดหอโอสถซ่างกู่ลงไปให้ถึงจุดต่ำสุดเสียก่อน จากนั้นก็ค่อยยื่นไมตรี เช่นนี้ก็จะเป็นการช่วยเหลือในยามลำบาก แล้วกูลเย่ของข้าก็จะจงรักภักดีต่อเขาอย่างสุดหัวใจ!”เมื่อหลิงอวี๋ได้ยินเช่นนั้น จึงเอ่ยขึ้นมา “หากท่านอาจารย์รู้สึกว่ามิเหมาะสม เช่นนั้นข้าก็จะรักษาระยะห่างกับหลงเพ่ยเพ่ยเจ้าค่ะ!”ถึงอย่างไรตอนนี้หลิงอวี๋ก็เป็นศิษย์ของเย่ซื่อฝาน นางจะมิละทิ้งสำนักไปทำดีกับศัตรูของอาจารย์เพื่อความปลอดภัยของตน“ไม่! มิต้อง!”เย่ซื่อฝานส่ายหัวแล้วเอ่ย “เมื่อเทียบกับเจ้าแห่งทะเละชายาเจ้าแห่งทะเล

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 2012

    จงเจิ้งเฟยได้ยินเช่นนั้น ก็เอ่ยขึ้นมา “ใช่แล้ว เมื่อขัดแย้งกันก็ควรจะแก้ปัญหามิใช่สร้างความบาดหมาง ท่านพ่อท่านแม่หลายตระกูลล้วนเป็นมิตรสนิทกัน ไม่มีใครอยากให้คนรุ่นหลังทะเลาะกันอย่างเอาเป็นเอาตายหรอก!”“ศิษย์พี่หญิง เย่หรงกับเจ้ามีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน เจ้าก็ไปโน้มน้าวเขาด้วยเถิด แม้ว่าจะมิยอมแต่งงานกับหยางหงหนิง ก็อย่าได้ทะเลาะกันจนตึงเครียดเกินไปนัก!”เมื่อหลิงอวี๋เห็นว่าทั้งสองคนล้วนเอ่ยเช่นนี้ นางก็คิดแล้วเอ่ยออกมา “ข้าจะไปคุยกับเย่หรงดู ขอเพียงมิบังคับให้เขาแต่งงานกับหยางหงหนิง ข้าคิดว่าเขาก็น่าจะยอมคืนดี!”“ใช่ แตงที่ฝืนเด็ดจากต้นย่อมมิหวาน พวกเราล้วนรู้เหตุผลข้อนี้ดี เราไม่มีทางไปบังคับให้เย่หรงทำเรื่องเช่นนั้นแน่!”หลงเพ่ยเพ่ยพยักหน้าแล้วเอ่ย “เจ้ากลับไปโน้มน้าวเย่หรงดูก่อน ประเดี๋ยววันหลังข้าจะจัดงานเลี้ยง เมื่อทุกคนมารวมตัวกัน เช่นนี้พวกเขาก็จะมิอึดอัด แล้วก็ปรับความเข้าใจกันได้!”“อืม!”หลิงอวี๋พยักหน้า และกำลังจะเดินไป หลงเพ่ยเพ่ยก็เรียกนางไว้อีก “สิงอวี๋ ข้าได้ยินมาว่าเจ้ากับเหมียวหยางผู้เป็นศิษย์ของปรมาจารย์ไป่หลี่ก็ทะเลาะกันหรือ?”“เรื่องนี้ข้าจะยืนอยู่ข้างเจ้า

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 2011

    กระทั่งเดินตามจงเจิ้งเฟยมาถึงในศาลาแห่งหนึ่งของสำนักศึกษาชิงหลง หลงเพ่ยเพ่ยก็รออยู่ที่นั่นแล้วเมื่อเห็นหลิงอวี๋ นางก็มองพิจารณาหลิงอวี๋อย่างสงสัยใคร่รู้อยู่หลายครั้ง ก่อนจะยิ้มแล้วเอ่ยออกมา “ข้าได้ยินมาว่า หงหนิงแพ้การประลองปรุงยากับเจ้า ฮ่า ๆ นางหยิ่งทะนงมาโดยตลอด ควรจะมีคนมาทำให้นางรับรู้ได้แล้วว่าเหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือคนยังมีคนอีก!”“สิงอวี๋ เรื่องสาเหตุและขั้นตอนในการประลองของเจ้ากับหงหนิงนั้นข้ารู้ทั้งหมดแล้ว ข้ามิได้เข้าข้างผู้ใด ข้าคิดว่าเจ้าทำถูกต้องแล้ว หากใครมาใส่ร้ายข้าเช่นนี้ ข้าก็จะสู้กับนางจนถึงที่สุดเช่นกัน!”หลิงอวี๋ย่อมมิเชื่อหลงเพ่ยเพ่ยเสียทั้งหมดเพราะคำพูดมิกี่คำอยู่แล้ว“คุณหนูหลงมาหาข้ามีธุระอันใดหรือไม่?” หลิงอวี๋เอ่ยถามไปตามตรงหลงเพ่ยเพ่ยยิ้มแล้วเอ่ยออกมา “ข้าชอบผูกมิตร และนิสัยของเจ้าก็ถูกใจข้ายิ่งนัก!”“แน่นอนว่าสิ่งสำคัญที่สุดก็คือ ข้ายังอยากให้เจ้ากับหงหนิงปรับความเข้าใจกันอยู่ หงหนิงมิใช่คนเลว เพียงแต่นางหลงเย่หรงจนหน้ามืดตามัว จึงได้ทำเรื่องโง่ ๆ เหล่านั้นไป!”“ควรจะหาทางแก้ไขมิใช่สร้างความบาดหมางต่อกัน เจ้าเห็นแก่ข้าเถิด อย่าได้ถือสาหาความกับนางเล

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 2010

    เมื่อหลิงอวี๋เห็นหยางหงหนิงก็ตะลึงไปเล็กน้อย แล้วก็นึกถึงคำขู่ที่หยางหงหนิงบอกว่าจะทำให้เย่หรงแต่งงานกับนางให้ได้ภายในหนึ่งเดือนหรือว่าหยางหงหนิงทำมิได้ ในตอนนี้จึงคิดจะมาทำให้ตนลำบาก?“สิงอวี๋ เจ้าจะเป็นศัตรูกับข้าจริง ๆ หรือ?”เป็นดังที่คาด ทันทีที่เอ่ยปากหยางหงหนิงก็เอ่ยขึ้นมาอย่างก้าวร้าว “เจ้าก็รู้อยู่ว่าข้าชอบเย่หรง เจ้ายังกล้าชวนเขาไปที่ภูเขาหมางหลิ่งด้วยกันอีก เจ้ายังจะเถียงว่าเจ้ามิชอบเขาอีกหรือ!”“ข้าขอเตือนเจ้า อยู่ให้ห่างจากเย่หรง มิฉะนั้นข้าจะมิเกรงใจเจ้าแน่!”หลิงอวี๋หมดคำพูดไปทันที ตนมาที่สำนักศึกษาชิงหลงเพื่อศึกษาเล่าเรียน มิใช่มาแย่งชิงบุรุษกับผู้ใด!ในหัวของหยางหงหนิงนั้นนอกจากเรื่องระหว่างบุรุษกับสตรีแล้ว ก็ไม่มีเรื่องอื่นเลยหรือ?“คุณหนูหยาง ข้าได้แสดงทัศนคติของจ้าไปอย่างชัดเจนแล้ว เย่หรงเป็นผู้ใหญ่แล้ว เขาจะชอบใครก็เป็นอิสระของเขา!”“ข้ามิได้ตั้งใจจะแย่งเขากับเจ้า เจ้าก็อย่ามายุ่งกับข้าเช่นกัน!”หลิงอวี๋เอ่ยด้วยน้ำเสียงทุ้ม “ก่อนหน้านี้ข้าก็เคยบอกไปแล้วว่า เจ้าอย่าได้ผลักเขาให้ไกลออกไปเรื่อย ๆ แล้วเจ้าดูพฤติกรรมของเจ้าในตอนนี้สิ แพ้แล้วก็มิรักษาคำพูด แล้ว

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 2009

    “ฮูหยินเฉียว นอกจากนี้แล้ว พวกเราต้องตามหาป้าวซวนให้เจอโดยเร็วที่สุดด้วย!”นี่คือสิ่งที่จ้าวหรุ่ยหรุ่ยนึกขึ้นได้ตอนที่ถูกเซียวหลินเทียนซักถาม แม้ว่าตอนนั้นจะเป็นการรับมือกับเซียวหลินเทียน แต่หลังจากนั้นจ้าวหรุ่ยหรุ่ยก็รู้สึกว่าคำโกหกที่ตนพูดไปนั้นสามารถนำมาใช้ได้เช่นกันหลิงอวี๋เป็นคนที่ให้ความสำคัญกับมิตรภาพและศีลธรรม นางกับป้าวซวนร่วมทุกข์ร่วมสุขมาด้วยกัน หากจับตัวป้าวซวนไว้ จะต้องล่อให้หลิงอวี๋มาติดกับได้อย่างแน่นอนเป็นดังที่นางบอกกับเซียวหลินเทียนไว้ว่า ป้าวซวนมิได้ฉลาดเท่าหลิงอวี๋ นางไม่มีทางหนีการไล่ล่าของตำหนักหมาป่าสวรรค์ได้อย่างแน่นอน“ฮูหยินเฉียว ข้าเคยบอกเซียวหลินเทียนไว้ว่า หลิงอวี๋จะไปช่วยป้าวซวน เซียวหลินเทียนจะต้องมิอยากให้หลิงอวี๋ตกอยู่ในอันตรายแน่นอน ขอเพียงพวกเราปล่อยข่าวออกไปว่าป้าวซวนอยู่ในมือพวกเรา เซียวหลินเทียนจะต้องชิงมาช่วยป้าวซวนก่อนหลิงอวี๋เป็นแน่!”“เมื่อเป็นเช่นนี้ มิว่าใครจะมาช่วย พวกเราก็จะสามารถหนึ่งในนั้นได้แล้ว!”กลยุทธ์ของจ้าวหรุ่ยหรุ่ยได้รับการชื่นชมจากฮูหยินเฉียว ฮูหยินเฉียวจึงให้คนออกไปแพร่ข่าวลือในทันทีในขณะเดียวกันก็วางกับดักไว้อย่างรัดกุม

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 2008

    หลิงอวี๋คิดตามความคิดนี้ต่อไป ก่อนหน้านี้เถาจื่อขอให้ตนช่วย และบอกไว้ว่าหากตัวตนของเซียวหลินเทียนถูกเปิดเผยออกไป ชีวิตของคนนับร้อยในคฤหาสน์อู่อาจตกอยู่ในอันตรายนั่นก็คือปัจจัยที่เซียวหลินเทียนกังวลเซียวหลินเทียนมิได้เปิดเผยตัวตนของตน ก็แค่มิอยากเปิดโปงตนให้ผู้อื่นรู้เขาต้องการเก็บหยกหล้าสุขาวดีไว้ผู้เดียว!นี่ก็หมายความว่า ในตอนที่เซียวหลินเทียนยังคลี่คลายวิกฤตมิได้นั้น นางจะปลอดภัยอยู่ก่อนชั่วคราวหลิงอวี๋บอกสิ่งที่ตนนึกได้กับผู้รอบรู้ แล้วสุดท้ายก็เอ่ยออกมา “พวกเรายังมีเวลา กระทั่งงานประมูลตอนปลายเดือนจัดขึ้น แล้วจะได้รับเงินจากการประมูลโสมเก้าคด จากนั้นพวกเราก็จะหาวิธีออกไปจากเมืองหลวงแดนเทพกัน!”“ตอนนี้เซียวหลินเทียนไม่มีทางทำให้พวกเราลำบากแน่ หากเขากล้าทำอะไรหุนหันพลันแล่น พวกเราก็จะกระจายข่าวเรื่องเสือปีกกาฬออกไปเพื่อดึงดูดความสนใจของตระกูลเหล่านั้น!”หลิงอวี๋นึกถึงคำพูดของเย่หรงเมื่อครู่ ในเมื่อนางกับเย่หรงมีโชคชะตาของเมื่อชาติที่แล้ว เช่นนั้นก่อนจากไปนางจะต้องช่วยให้เขาช่วยมารดาของเขาออกมาให้ได้“พี่ใหญ่ ท่านช่วยข้าสืบอีกสักหน่อยเถิดว่า ในเกวียนทาสหญิงที่เซียวหลินเที

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 2007

    “เย่หรง!”หลิงอวี๋เรียกงึมงำ และกำลังคิดว่าจะบอกเรื่องภาพที่ตนเห็นกับเย่หรงเพื่อยืนยันสักหน่อย แล้วก็ได้ยินเสียงประตูใหญ่ดังมาแย่แล้ว!หรือว่ามีคนแอบฟัง?หลิงอวี๋ตกใจจนเด้งตัวลุกขึ้นทันที เย่หรงเองก็ชักกระบี่ออกมาอย่างรวดเร็วเช่นกัน“น้องหญิง ข้ากลับมาแล้ว!”เสียงของผู้รอบรู้ดังขึ้นมา เมื่อหลิงอวี๋ได้ยินว่าเป็นผู้รอบรู้จึงได้ถอนหายใจโล่งอก แล้วเก็บแผนที่ไปอย่างรวดเร็ว“พี่ชายข้ามิรู้ว่าท่านกำลังวางแผนเรื่องพวกนี้ อย่าได้หลุดปากไปนะ ข้ามิอยากลากเขาเข้ามาเกี่ยวด้วย!”เย่หรงพยักหน้าแล้วซ่อนแผนที่ไว้ในมิติ“น้องหญิง…”ผู้รอบรู้พุ่งเข้ามา เมื่อเขาเห็นเย่หรงก็ตะลึงไปเล็กน้อย แล้วกวาดสายตามองทั้งสองคนอย่างสงสัย“เสี่ยวชี ข้ามีธุระอื่นอีก ข้าไปก่อนนะ ไว้วันหลังข้าค่อยมาพาเจ้าไปงานประมูล!”เย่หรงรีบบอกกับหลิงอวี๋แล้วเดินจากไป“เขามาทำอะไร?”ผู้รอบรู้เอ่ยถามออกมา“มาหารือกับข้าเรื่องขายเครื่องยาสมุนไพร!”หลิงอวี๋ตอบออกไปแล้วเปลี่ยนหัวข้อ "ท่านสืบได้ข่าวอะไรมาหรือไม่?”ผู้รอบรู้เห็นว่ามีชาอยู่บนโต๊ะ จึงดื่มไปรวดเดียว ก่อนจะเอ่ยออก “น้องหญิง พวกเราต้องออกจากเมืองหลวงแดนเทพโดยเร็ว

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 2006

    “เย่หรง จ้าวหรุ่ยหรุ่ยอ้างว่าเคยจับตัวหลิงอวี๋ได้มิใช่หรือ? เหตุใดนางมิสังหารหลิงอวี๋แล้วชิงหยกหล้าสุขาวดีไปเล่า?”หลิงอวี๋ถามคำถามที่ตนคิดมิตกออกไปเย่หรงจึงหัวเราะเยาะออกมา “ข้ารู้เหตุผลในเรื่องนี้!”“ข้าได้ยินมาว่า หยกหล้าสุขาวดีเป็นมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์ที่มีวิญญาณ ต้องใช้ยาสลายเลือดเนื้อของผู้ครอบครองในขณะที่คนผู้นั้นยังมีชีวิตอยู่จึงจะนำมันไปได้ มิเช่นนั้นหยกหล้าสุขาวดีจะตายไปพร้อมกับความตายของผู้ครอบครอง!”“เครื่องยาสมุนไพรที่พิเศษนี้ก็มีเพียงที่ภูเขาศักดิ์สิทธิ์เท่านั้น และเมื่อขุดเครื่องยาสมุนไพรนี้ออกมาแล้วจะต้องใช้ภายในครึ่งชั่วยาม มิเช่นนั้นก็จะเฉาตายไป!”“ดังนั้น จ้าวหรุ่ยหรุ่ยจึงทำได้เพียงต้องพาหลิงอวี๋กลับมาที่เมืองหลวงแดนเทพ และเข้าสู่ภูเขาศักดิ์สิทธิ์เพื่อหาเครื่องยาสมุนไพรนั้น จึงจะสามารถนำหยกหล้าสุขาวดีออกมาจากตัวหลิงอวี๋ได้!”หลิงอวี๋ฟังแล้วก็ขนลุกซู่ เข้าใจเหตุผลแล้วว่าเหตุใดจ้าวหรุ่ยหรุ่ยจึงมิสังหารตน!จริงสิ หรือว่านี่จะเป็นสาเหตุที่เซียวหลินเทียนมิสังหารนางเช่นกัน?เขาเองก็อยากได้หยกหล้าสุขาวดีที่ตัวนางด้วยใช่หรือไม่?แต่เมื่อคิดอีกแง่หนึ่ง หลิงอวี๋ก็รู้ส

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status