แชร์

บทที่ 1520

ผู้เขียน: กานเฟย
วันรุ่งขึ้น ทูตชุดแรกจากแคว้นเล็ก ๆ เดินทางมาถึงเมืองหลวงแล้ว

ชุดแรกที่มาถึงก่อนก็คือสามแคว้นเล็กโดยรอบคือ แคว้นพัน แคว้นเฉิง แคว้นกันกู่

คนที่นำแคว้นพันมาเยี่ยมเยือนก็คือหัวหน้าขุนนางจินอายุเกือบห้าสิบจากแคว้นพัน

ทางแคว้นเฉิงคือท่านชายอวี่เหวินเย่ลูกชายคนโตของอ๋องเฉิงและอวี่เหวินเสียท่านหญิงที่เพิ่งจะถึงวัยปักปิ่นปีนี้

ส่วนคนที่นำแคว้นกันกู่มาก็คือฮูเหยียนเสวี่ยท่านหญิงคนโตของประมุขและฮูเหยียนเจี้ยนกับน้องชายที่เพิ่งจะสิบขวบ

ทั้งสามแคว้นเล็กต่างนำของพิเศษพื้นถิ่นจำนวนมิน้อยมาถวายแด่จักรพรรดิองค์ใหม่ ทั้งผ้าไหม เครื่องประดับหยก ทั้งยังมีผลไม้ตามฤดูกาลและของพิเศษที่มีอยู่ในพื้นถิ่นอีกด้วย

หลิงอวี๋อยู่ที่วังหลัง มิได้พบทูตของทั้งสามแคว้น

หลิงซวนจึงย่อมมิละเลยในเรื่องนี้ นางส่งหานอวี้ผู้ชอบซุบซิบนินทาไปสืบแล้ว

หานอวี้ปลอมตัวเป็นขันทีน้อยคอยดูทูตเหล่านั้นอย่างชัดเจนในเส้นทางที่พวกทูตต้องผ่าน

เมื่อเห็นท่านหญิงทั้งสอง หานอวี้ก็ตาโตมิสนผู้อื่นแล้วรีบกลับไปรายงานหลิงอวี๋

“ฮองเฮาเพคะ ท่านหญิงอวี่เหวินเสียจากแคว้นเฉิงนั้นมิรู้ว่าหน้าตาเป็นเช่นไร นางคลุมผ้าปิดหน้าไว้ แต่ชุดที่นางสวมใส่ท
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1521

    เรื่องนี้เจ้ากรมพิธีได้แจ้งหลิงอวี๋ไว้ก่อนหน้านี้แล้วเซียวหลินเทียนขึ้นครองบัลลังก์ใหม่ แคว้นเล็ก ๆ โดยรอบเหล่านี้ไม่แน่ว่าจะยอมจำนนต่อเขาโดยซื่อสัตย์ การมาประชุมครานี้จะตัดเรื่องที่พวกเขามาดูลาดเลาออกไปมิได้ดังนั้นงานต้อนรับจึงมิเพียงแต่การจัดที่พักเท่านั้น แต่ยังรวมถึงความน่าตกใจที่ซ่อนอยู่ในรายการที่จัดงานเลี้ยงด้วยหลิงอวี๋ย่อมเข้าใจดีก่อนหน้านี้นางขัดแย้งกับเซียวหลินเทียนจึงมิอยากไปยุ่งเรื่องของเขาแต่หลังจากที่เซียวหลินเทียนขอโทษนางอย่างจริงใจแล้ว หลิงอวี๋จึงพยายามที่จะเตรียมการต้อนรับเพื่อช่วยเซียวหลินเทียนเพียงแต่ตอนนี้นางมิอยากบอกกับเซียวหลินเทียน หากบอกเรื่องนี้ไปก่อนก็มิประหลาดใจแล้ว“หม่อมฉันจัดการ ท่านยังมิวางพระทัยอีกหรือเพคะ?”หลิงอวี๋มองเซียวหลินเทียนอย่างตำหนิ พลางเอ่ยถามออกไป “ท่านคิดเห็นอย่างไรกับทูตทั้งสามแคว้นนี้หรือเพคะ?”เซียวหลินเทียนเอ่ยไปตามตรง “ทั้งสามแคว้นนี้นอกจากแคว้นกันกู่แล้ว แคว้นอื่นล้วนแสร้งมาบ่นลำบากกับข้า!””“หัวหน้าขุนนางจินผู้นั้นใบหน้าเย่อหยิ่ง ข้ามิรู้ว่าเขาไปเอาความมั่นใจจากที่ใดจึงกล้าเย่อหยิ่งต่อหน้าข้าเช่นนี้ คิดว่าข้ายังเด็กรั

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1522

    หลิงอวี๋มิใช่แม่พระ ผู้ป่วยที่ต้องช่วยเหลือในใต้หล้ามีตั้งมาก นางมิสามารถช่วยเหลือทุกคนได้ยิ่งไปกว่านั้นคือต้องไปแคว้นกันกู่ที่อยู่ไกลถึงเพียงนั้นอีก!แต่ท่านหญิงใหญ่จะยอมแพ้หรือ?หากประมุขแคว้นกันกู่ป่วยหนักจริง ๆ อีกทั้งท่านหญิงใหญ่ก็เป็นลูกกตัญญู นางไม่มีทางยอมแพ้กับคำปฏิเสธนี้ของเซียวหลินเทียนแน่เมื่อนึกถึงที่หานอวี๋บอกว่า ท่านหญิงใหญ่เป็นสตรีที่ดูมีพลังมาก หลิงอวี๋ก็ให้ความสำคัญกับท่านหญิงใหญ่ผู้นี้เป็นพิเศษเดิมทีหลิงอวี๋ยังคิดว่าอีกสองวันจึงจะได้พบกับฮูเหยียนเสวี่ยที่งานเลี้ยงไหนเลยจะคิดว่า วันรุ่งขึ้นยังมิทันที่เซียวหลินเทียนจะว่าราชกิจเสร็จ ป้ายอวยพรของฮูเหยียนเสวี่ยก็ส่งมาที่พระตำหนักคุนหนิงแล้ว“ฮองเฮาเพคะ หากท่านมิทรงต้องการพบ บ่าวจะไปปฏิเสธนางให้เพคะ!”หลิงซวนเอ่ยอย่างเอาใจใส่“เหตุใดจะมิพบเล่า?”หลิงอวี๋ยิ้มพลางเอ่ย “เชิญนางเข้ามาเถิด!”ฮูเหยียนเสวี่ยเข้ามาคารวะตนที่ตำหนักอย่างโจ่งแจ้งเช่นนี้ นางหลิงอวี๋ก็ต้องพบเสียหน่อย เหตุใดจะต้องหลบซ่อนเล่า!หลิงอวี๋เปลี่ยนเป็นชุดเรียบง่านแล้วไปพบฮูเหยียนเสวี่ยที่โถงกลางฮูเหยียนเสวี่ยพานางรับใช้มาเพียงสองคน ตอนที่นางเข

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1523

    สีหน้าของหลิงอวี๋เรียบเฉยลงฮูเหยียนเสวี่ยผู้นี้ ตนเห็นแก่ที่พ่อของนางป่วยและเห็นใจอารมณ์ของนาง จึงพูดกับนางดี ๆแต่นางทำเหมือนตนเป็นแค่คนทั่วไปจริง ๆ ทั้งยังกล้ากล่าวโทษตนอีก!หลิงอวี๋นึกถึงอีกเป้าหมายหนึ่งที่แคว้นเล็ก ๆ เหล่านี้มาประชุมกันในครานี้ นั่นก็คือหยั่งเชิงความสามารถของเซียวหลินเทียนหากวันนี้ตนมิจัดการฮูเหยียนเสวี่ยผู้นี้ เช่นนั้นจะมิเป็นการทำให้เซียวหลินเทียนเสียหน้าหรือ?“เพล้ง!”หลิงอวี๋สะบัดมือแล้วถ้วยชาก็บินไปตกอยู่ตรงเท้าของฮูเหยียนเสวี่ย“ฮูเหยียนเสวี่ย เจ้าช่างกล้าหาญนัก กล้าบ่นโวยวายต่อหน้าข้า!”“เจ้าเห็นที่นี่เป็นอะไร?”หลิงอวี๋ตะคอกอย่างโกรธเกรี้ยว “อะไรคือที่เจ้าบอกว่ากันกู่ของเจ้ามอบบรรณาการมาให้ฉินตะวันตกทุกปี สิบปีมิเคยขาด? เจ้าคิดว่านี่คือความภาคภูมิใจของเจ้าในฐานะคนกันกู่หรือ?” “เจ้ามิเคยเรียนประวัติศาสตร์ของกันกู่หรือ? ตอนนั้นกันกู่ของเจ้าถูกแคว้นเพื่อนบ้านตีพ่าย ชนเผ่าเหลืออยู่เพียงหนึ่งพันกว่าคน สตรีและเด็กถูกทหารแคว้นเพื่อนบ้านทำลายอย่างโหดเหี้ยม!”“ปู่ของเจ้าเป็นดังสุนัขไร้บ้าน ร้องขอความช่วยเหลือไปทั่วทุกที่ สุดท้ายก็มาขอที่แทบเท้าของฉินตะ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1524

    ตุ้บ…ฮูเหยียนเสวี่ยคุกเข่าลง คำพูดของเซียวหลินเทียนทำให้นางตกใจจนหน้าซีด“ฝ่าบาท ทำเช่นนี้มิได้เพคะ...”“ข้ามิสามารถทำเช่นไรได้?”เซียวหลินเทียนเอ่ยตัดบทนางด้วยเสียงแข็ง “สองแคว้นมีสัมพันธ์ต่อกันจะมิสังหารทูตที่มาเจรจา ข้าให้เวลาเจ้าออกไปแล้ว!”“ฮูเหยียนเสวี่ย หากเจ้ากล้าพูดจาโอหังอีก ข้าจะสั่งประหารเจ้าทันที กันกู่ของเจ้าก็ทำได้เพียงรับไปอย่างว่าง่ายเท่านั้น!”ฮูเหยียนเสวี่ยทั้งร้อนใจทั้งโกรธ เซียวหลินเทียนมิได้พูดเกินจริง กันกู่เมื่อเทียบกับฉินตะวันตกก็เป็นเพียงเด็กที่เล่นกับผู้ใหญ่เท่านั้นเซียวหลินเทียนแค่ส่งทหารไปสองหมื่นนายก็สามารถทำให้กันกู่แพ้ราบคาบได้แล้วหากเซียวหลินเทียนสังหารนาง กันกู่ก็มิกล้าเอาความนางมิสามารถทำให้ท่านพ่อและครอบครัวเดือดร้อนเพราะความผิดของตนได้ในช่วงนี้ฮูเหยียนเสวี่ยจัดการเรื่องการบ้านการเมืองแทนท่านพ่อ เคยชินกับการสั่งจากตำแหน่งที่สูงแล้ว ความรู้สึกเหนือกว่าที่มีอำนาจยิ่งใหญ่เช่นนี้ทำให้นางเสียตัวตนไปถึงขั้นตำหนิหลิงอวี๋ดังเช่นที่ทำกับเหล่าขุนนางใต้บังคับบัญชาไหนเลยจะคิดว่าหลิงอวี๋มิได้อ่อนโยนดังที่เห็นภายนอก เมื่อโหดเหี้ยมขึ้นมาก็เยือกเย

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1525

    ในส่วนการตัดสินใจของเซียวหลินเทียน หลิงอวี๋มิอยากเข้าไปแทรก แม้ว่าในใจจะค่อนข้างเห็นใจราษฎรกันกู่ แต่นี่คือสิ่งที่ฮูเหยียนเสวี่ยสร้างขึ้นเองใต้หล้านี้ผู้อ่อนแอเป็นเหยื่อของผู้แข็งแกร่ง หากไร้การคุ้มครองจากฉินตะวันตก กันกู่ก็คงดำรงอยู่มิได้และหลายปีมานี้ฉินตะวันตกเองมิได้รับบรรณาการของกันกู่มาเปล่า ๆ พวกเขาเองก็ต้องจ่ายเช่นกันเมื่อกันกู่ลำบาก ฉินตะวันตกล้วนตอบสนองต่อคำร้องขอความช่วยเหลือและไปสนับสนุนเสมอแต่สิ่งนี้มิได้รับคำขอบคุณจากกันกู่ ทั้งยังทำให้ฮูเหยียนเสวี่ยคิดว่าที่พวกเขาช่วยเป็นสิ่งที่ควรทำอีกด้วย!ในเมื่อเป็นเช่นนี้ เหตุใดเซียวหลินเทียนต้องเสียสละทหารของตนไปเพื่อแคว้นเล็ก ๆ ที่ไร้ความภักดีต่อตนด้วยเล่า!ฮูเหยียนเสวี่ยรู้สึกคับข้องใจ เช่นนั้นก็ให้ทุกอย่างกลับไปสู่จุดเริ่มต้นเถิด!ฮูเหยียนเสวี่ยถูกทหารกองทัพหลวงเอาตัวออกจากวังหลวง หลังจากที่นางผิดหวังอยู่ครู่หนึ่งก็เก็บความรู้สึกเหล่านี้เปลี่ยนเป็นความแค้นฝังลึก!ทุกอย่างเป็นเพราะหลิงอวี๋คนเลวนั่น ทำให้ตนถูกบีบไปสู่สถานการณ์สิ้นหวังนางไม่มีทางปล่อยไปเช่นนี้แน่!ใต้หล้านี้มิได้มีเพียงฉินตะวันตกที่เป็นแคว้นที่แข็งแก

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1526

    ข่าวลือที่แพร่ออกไปกะทันหันเหล่านั้นมาถึงหูของหลิงอวี๋ ทีแรกนางมิได้สนใจ ตนอยู่ในตำแหน่งสูง มีคนจำนวนมากมิเชื่อมั่นเรื่องคัดเลือกสนมก่อนหน้านี้ถูกเซียวหลินเทียนปฏิเสธไป พวกคนที่อยากส่งลูกสาวเข้ามาในวังก็ย่อมมิพอใจอยู่แล้วดังนั้นจึงอยากจะอาศัยเรื่องของหลิงเสียงกังมาใส่ความตนคนบริสุทธิ์มิต้องทำสิ่งใดก็จะเห็นเองว่าบริสุทธิ์ นางรู้สึกว่าขอเพียงคนของตนรู้ว่าตนมีจิตใจดีก็เพียงพอแล้วแต่เหล่าขุนนางกลับมิได้เห็นเช่นนั้น ข่าวมิดีมากมายถูกปล่อยออกไปเช่นนี้ ฮองเฮาผู้มีศีลธรรมเสื่อมเสียจะเป็นมารดาแห่งแว่นแคว้นได้อย่างไร!พวกผู้ตรวจการเป็นผู้นำฟ้องร้องหลิงอวี๋ และเกลี้ยกล่อมให้เซียวหลินเทียนถอดถอนฮองเฮาจากนั้นขุนนางของพวกจ้าวฮุยก็พากันยื่นสาส์นกราบทูลฟ้องร้องหลิงอวี๋ เป้าหมายก็คือต้องการถอดถอนฮองเฮาเช่นกันเพียงแค่สองวัน สาส์นกราบทูลฟ้องร้องหลิงอวี๋ก็กองเต็มโต๊ะของเซียวหลินเทียนแล้วเซียวหลินเทียนอ่านไปเพียงมิกี่อันก็โกรธมาก เรื่องบุญคุณความแค้นของหลิงอวี๋กับหลิงเสียงกังนั้นเขารู้ดี ขุนนางเหล่านี้มิรู้สิ่งใดเลยกลับกล้ามาใส่ร้ายหลิงอวี๋เช่นนี้เซียวหลินเทียนให้จ้าวซวนไปหาหลิงเสียงกัง อย

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1527

    เมื่อครู่ชั่วพริบตาหลิงอวี๋เห็นสายตาโกรธแค้นของนางซุนที่มีต่อตน นางจึงรู้สึกมิค่อยสบายใจแต่เมื่อคิดว่าเมื่อก่อนป้าสะใภ้ใหญ่ดีต่อตน หลิงอวี๋ก็มิได้คิดเล็กคิดน้อยกับนาง“ป้าสะใภ้ใหญ่ หากท่านรู้สึกว่าการที่ข้าไล่ท่านลุงออกไปมันมิดีต่อเขา ท่านก็เรียกเขากลับมาเถิด!”หลิงอวี๋ตัดสินใจว่าต่อไปจะมิยื่นมือเข้าไปยุ่งเรื่องสามีภรรยาของลุงกับป้าแล้ว จึงเอ่ยออกไป“เรื่องนี้เอาไว้ค่อยคุยทีหลังเถิด!”นางซุนเอ่ยพอเป็นพิธีทั้งสองคนเดินไปคุยไปจนไปถึงหน้าประตูตำหนักกระดิ่งทองขันทีเหอเห็นก็รีบเข้าไปรายงานเซียวหลินเทียนเซียวหลินเทียนจัดการเรื่องบ้านเมืองไปพอประมาณแล้ว จึงชี้ที่สาส์นกราบทูลบนโต๊ะแล้วเอ่ยกับขุนนางทั้งหมด“สาส์นกราบทูลที่ขุนนางทั้งหลายฟ้องร้องฮองเฮามาข้าได้อ่านหมดแล้ว เช้านี้จะตอบในคราวเดียว”“สิ่งที่เหล่าขุนนางเป็นห่วงที่สุดก็คือ เรื่องที่ฮองเฮาแย่งชิงทรัพย์สินจวนเสนาบดีเจิ้นหย่วนเพื่อพ่อและเรื่องที่รังแกหลิงเสียงกังกับภรรยา วันนี้ข้าตั้งใจเชิญนางซุนฮูหยินหลิงผู้อยู่ในเหตุการณ์มาเล่าสถานการณ์ให้ชัดเจน!”“ฮองเฮาและนางซุนเข้าตำหนัก!”หลิงอวี๋กับนางซุนได้ยินเสียงเรียกก็เข้าไปตำหน

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1528

    คำพูดของนางซุนทำให้เกิดความโกลาหลในราชสำนักทันทีมีคนตะโกนขึ้นมาอย่างมิอยากจะเชื่อ “หกแสน? รักษาอาการปวดหัวต้องให้เงินมากเกินความเป็นจริงเช่นนี้เชียวหรือ! เช่นนั้นในเมืองหลวงนี้ใครจะมีปัญญาไปหาหมอ!”“ฮองเฮาช่างมีวิธีการในการหาเงินเพิ่มโดยแท้!” มีคนเหยียดหยามออกมาอย่างมิหวังดี“หลิงเสียงกังเป็นท่านลุงของพระนาง ยังใจดำเรียกเงินถึงเพียงนี้ เช่นนั้นคนอื่นก็มิอยากจะคิดเลย!”“ข้าว่าพวกเรามิต้องเป็นขุนนางแล้ว ไปเรียนแพทย์กันดีกว่า ที่แท้การตรวจผู้ป่วยคนหนึ่งก็ได้เงินมากกว่าว่าพวกเราทำงานตลอดชีวิตเสียอีก!”สีหน้าของเซียวหลินเทียนเรียบเฉยไปทันที นางมิอาจเชื่อได้ว่านางซุนจะเป็นคนเช่นนี้ ที่กล้าพูดจาเหลวไหลใส่ร้ายหลิงอวี๋ตนคิดว่านางซุนเป็นป้าสะใภ้ใหญ่ของหลิงอวี๋ ดีกับหลิงอวี๋มาโดยตลอด จึงตั้งใจเชิญนางมาที่ราชสำนักเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของหลิงอวี๋ไหนเลยจะคิดว่าจะเชิญคนที่กดหลิงอวี๋อย่างหนักที่สุดมา!“ปัง!”เซียวหลินเทียนตบโต๊ะอย่างทนมิไหวพลางตะคอกอย่างโกรธเกรี้ยว “นางซุน เจ้ารู้หรือไม่ว่ากำลังพูดสิ่งใด?”“นี่เจ้ากำลังใส่ร้ายฮองเฮาอยู่นะ!”นางซุนหมอบลงกับพื้นพลางเอ่ยเสียงสั่น “ฝ่าบา

บทล่าสุด

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1930

    ก็มิรู้ว่าเพราะเหตุใดเช่นกัน!เป็นเพราะได้ยินหยางหงหนิงบอกว่าเย่หรงชอบหลิงอวี๋หรือ?หรือเป็นเพราะเมื่อครู่ได้ยินเย่หรงพูดซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าตัวเขาไร้ประโยชน์ และไม่มีอะไรดี?หรือบางทีอาจจะเป็นเพราะเคยได้ยินผู้รอบรู้เล่าเรื่องภูมิหลังของเย่หรง เมื่อหลิงอวี๋เห็นเย่หรงจึงไม่มีความระแวดระวังดังเช่นก่อนหน้านี้นี่คือคนที่น่าสงสารคนหนึ่ง!หลิงอวี๋มองใบหน้าที่คุ้นเคยนั้นแล้วเอ่ยขึ้นมาอย่างประหม่า “คุณชายเย่ ข้ามิได้ตั้งใจจะแอบฟัง ข้าแค่ผ่านมา… แค่ผ่านมาเท่านั้นเอง!”เย่หรงจ้องมองนางอย่างดุร้าย และเมื่อเห็นท่าทางตื่นตระหนกของศิษย์น้อยของเย่ซื่อฝาน ดูมิคล้ายกับพูดโกหกอยู่ เขาก็เอ่ยถามอย่างมิคาดคิด “เจ้าดื่มสุราเป็นหรือไม่?”เอ๊ะ นี่คือคำถามอะไรกัน?“มินับว่าดื่มเป็นเจ้าค่ะ!” หลิงอวี๋เอ่ยด้วยความเขินอายนางมิรู้ด้วยซ้ำว่าตนสามารถดื่มได้มากแค่ไหน แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าดื่มเป็นหรือไม่“ไป ข้าจะเลี้ยงสุราเจ้าเอง!”เย่หรงมิพูดพร่ำทำเพลง แล้วเดินเข้ามาคว้าแขนของหลิงอวี๋เดินไป“คุณชายเย่ ข้าไปดื่มกับท่านมิได้เจ้าค่ะ!”หลิงอวี๋ตกใจ แล้วก็ดิ้นรนพลางเอ่ยออกมาแม้แต่คนตาบอดก็ยังมองเห็นชัดเจนว่

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1929

    เย่ซื่อฝานทำการสอนหลิงอวี๋เป็นเวลาครึ่งวันแล้วก็กังวลว่า นางจะมิสามารถดูดซับความรู้ไปได้ทั้งหมด ในเวลาที่เหลือจึงปล่อยให้หลิงอวี๋ทำความคุ้นเคยกับเครื่องยาสมุนไพรด้วยตนเองหลิงอวี๋จึงขออนุญาตจากเย่ซื่อฝาน เรียนรู้อยู่ในห้องปรุงโอสถของเย่ซื่อฝานไปในตอนอาหารเที่ยง เย่ซื่อฝานก็ชวนหลิงอวี๋ไปกินข้าวด้วยกัน แต่หลิงอวี๋ปฏิเสธ บอกว่าตนมีอาหารแห้งมาแล้วเย่ซื่อฝานหมดคำพูดไปเลย เขาคำนึงถึงหลิงอวี๋ว่าเป็นเพราะความภาคภูมิใจในตนเองอาจทำให้เกิดปัญหา จึงมิอยากกินอาหารร่วมกับคนตระกูลเย่ เขาจึงให้คนรับใช้นำอาหารกลางวันไปให้หลิงอวี๋เพียงลำพังหลิงอวี๋ยืมใช้เตากลั่นโอสถของเย่ซื่อฝาน แล้วทำการกลั่นโอสถเสริมพลังวิญญาณไปสองเตา แต่มีอัตราความสำเร็จเพียงสี่ส่วนเท่านั้นนี่เป็นเพราะว่าพลังของหลิงอวี๋ในตอนนี้มิเพียงพอ จึงทำให้หลิงอวี๋ยิ่งมุ่งมั่นที่จะดึงเข็มเงินออกมากขึ้นหลิงอวี๋นำโอสถไปเพียงขวดเดียว ส่วนที่เหลือก็ถือเป็นการชดเชยการใช้เครื่องยาสมุนไพรของเย่ซื่อฝานไปเสียนอกจากนี้ หลิงอวี๋ยังใช้เครื่องยาสมุนไพรของเย่ซื่อฝานทำสองสิ่งด้วย นั่นก็คือจัดเตรียมเป็นยาพิษหนึ่ง และยาแก้พิษอีกหนึ่งนางพูดไปแล้วว่

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1928

    กระทั่งผู้รอบรู้ฝ่าฝนกลับเข้ามา เขาก็เห็นหลิงอวี๋กำลังนั่งอยู่บนธรณีประตูที่ถูกทำลาย พร้อมทั้งมีห่อสัมภาระเล็ก ๆ สองห่อวางอยู่ข้างกาย“น้องหญิง… มันเกิดอะไรขึ้น? ใครเป็นคนทำ?”เมื่อผู้รอบรู้เห็นประตูใหญ่ถูกทำลายไป เขาก็เอ่ยถามด้วยความประหลาดใจ“ท่านพี่ เราอยู่ที่นี่มิได้แล้ว! คืนนี้พวกเราไปอยู่ที่โรงเตี๊ยมกันก่อน แล้ววันพรุ่งค่อยคิดหาทางกันเถิด!”หลิงอวี๋ยืนขึ้นอย่างสงบ แล้วยื่นสัมภาระห่อหนึ่งให้กับผู้รอบรู้เมื่อผู้รอบรู้เห็นความยุ่งเหยิงและเรือนที่ถูกฝนซัดสาด อีกทั้งหลังคาที่พังทลาย เขาก็เข้าใจทุกอย่างในทันที“เหมียวหยางทำหรือ?”“อืม! ไม่มีทางเป็นผู้อื่นนอกจากเขา!”หลิงอวี๋ยิ้มเยาะแล้วเอ่ยออกไป “ท่านพี่ พวกเราไปกันเถิด! ภายในสิบวัน ข้าจะทำให้เหมียวหยางควักเงินออกมาสร้างบ้านของเราใหม่ให้จงได้!”ผู้รอบรู้ตะลึงไปครู่หนึ่ง แล้วมองไปทางหลิงอวี๋แล้วเขาก็เห็นใบหน้าของนางที่ถูกชะล้างด้วยฝนนั้น เต็มไปด้วยความเย็นชาและความมุ่งมั่น“เจ้าจะทำกระไร?”ผู้รอบรู้มิได้คลางแคลงใจว่าหลิงอวี๋กำลังโอ้อวดหรือไม่ เขามองออกอยู่แล้วว่าที่หลิงอวี๋มั่นใจเช่นนี้นางจะต้องคิดวิธีดี ๆ ออกแล้วแน่นอน“

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1927

    ผลลัพธ์ก็คือ หลังจากทดลองไปหนึ่งคืนหลิงอวี๋ได้กลั่นไปแล้วสามเตา และอัตราความสำเร็จสูงที่สุดในการกลั่นโอสถคือเจ็ดส่วนแต่นางก็พอใจแล้ว เนื่องจากนี่เป็นครั้งแรกในการกลั่นโอสถของตน มีอัตราความสำเร็จสูงถึงเพียงนี้ก็นับว่าดีแล้วเมื่อเห็นว่าฟ้าสางแล้ว หลิงอวี๋ก็รีบอาบน้ำและทำอาหารเช้า กระทั่งผู้รอบรู้ตื่นขึ้นมา นางก็นำโอสถที่กลั่นออกมาได้ให้เขาไปขาย และซื้อเครื่องยาสมุนไพรบางส่วนกลับมาอีกหลิงอวี๋วางแผนจะกลั่นโอสถเสริมพลังวิญญาณในคืนนี้แต่สิ่งที่ทำให้หลิงอวี๋และผู้รอบรู้คาดมิถึงก็คือ หลังจากที่ทั้งสองคนออกจากบ้านไป ก็มีกลุ่มคนเข้ามา และเตะประตูเปิดออกอย่างโหดร้าย จากนั้นก็ทุบทำลายเรือนที่พวกเขาสองคนซ่อมแซมกันมาอย่างยากลำบากจนพังยับเยินเตากลั่นโอสถก็ถูกทำลายไปเช่นกัน และเครื่องยาสมุนไพรที่เหลือก็ถูกทำลายไปด้วยวันนี้หลิงอวี๋เรียนครึ่งวัน นางพะวงเรื่องการกลั่นโอสถจึงกลับมาก่อน แต่เดินไปได้ครึ่งทางฝนก็โปรยปรายลงมาแล้วหลิงอวี๋จึงรีบวิ่งไปอย่างรวดเร็ว แต่ไปถึงแค่ปากตรอก ฝนก็ตกหนักขึ้นเรื่อย ๆ หลิงอวี๋จึงเปียกโชกเป็นลูกหมาตกน้ำไปในชั่วพริบตาจากนั้นนางก็เร่งฝีเท้าไป และขณะที่กำลังวิ่งอ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1926

    เรื่องเกี่ยวกับราชวงศ์ในเมืองหลวงแดนเทพและตระกูลใหญ่ทั้งหลายนั้น ผู้รอบรู้บอกหลิงอวี๋ไว้หมดแล้วนับตั้งแต่มหาเทพหลงอี้ก่อตั้งแดนเทพขึ้นมา ตระกูลหลงก็ปกครองมาเป็นเวลาแปดร้อยปีแล้วก่อนหน้านี้มีหลงอี้คอยสนับสนุนตระกูลหลงอยู่ ดังนั้นแม้ว่าจะมีคนมิพอใจ แต่พวกเขาก็ล้วนถูกอำนาจเทพของหลงอี้กดขี่ไว้ ทำให้มิสามารถต่อต้านได้แต่ตอนนี้หลงอี้อาจจะไม่มีชีวิตอยู่แล้ว บรรดาตระกูลใหญ่ที่ถูกกดขี่ไว้เหล่านี้ ผู้ใดจะยอมทนให้ตระกูลหลงกดหัวทุกคนไว้กันเล่า?จากการพัฒนามาหลายร้อยปี ตระกูลใหญ่เหล่านี้ล้วนร่ำรวยพอที่จะเป็นศัตรูกับแผ่นดินได้แล้ว มีลูกหลานอยู่ตั้งมากมาย หากตระกูลใดได้นั่งอยู่ในตำแหน่งนั้น ก็หมายถึงการเปลี่ยนอำนาจ มีเกียรติยศรุ่งเรืองไร้ขีดจำกัด และสามารถกำหนดกฎเกณฑ์ได้เองยามนี้ที่ยังอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข นั่นก็เป็นเพราะตระกูลใหญ่เหล่านี้กำลังรอโอกาสอยู่ก่อนที่พายุจะมาถึง สำนักต่าง ๆ ล้วนรับสมัครคนที่มีความสามารถกันอย่างกระตือรือร้น และการกระทำเช่นนี้ของตระกูลหลงนั้น ก็เพียงเพื่อสร้างความมั่นคงให้กับอำนาจปกครองของตนเองเท่านั้นหลิงอวี๋มิได้สนใจการต่อสู้ภายในเหล่านี้นัก แต่นางกลับถูกดึงเ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1925

    ขณะที่หลิงอวี๋กำลังจะออกไป จู่ ๆ นางก็นึกถึงบางอย่างขึ้นมา จึงเอ่ยถามออกไป “คุณหนูหลง เจ้าประสบความสำเร็จในเรื่องนั้นแล้วหรือไม่?”เมื่อหลงอิงได้ยินเช่นนั้น นางก็รู้ทันทีว่าหลิงอวี๋ถามนางว่าฮูหยินผู้เฒ่าเฉียวชอบนางแล้วหรือไม่ การที่นางเอาชนะจ้าวหรุ่ยหรุ่ยได้ในครั้งนี้ ทั้งยังกลายเป็นคนที่ได้รับความนิยมในสำนักด้วย ซึ่งเป็นผลอันเนื่องมาจากความเสียสละของหลิงอวี๋หลงอิงยังมีจุดที่ต้องใช้หลิงอวี๋อยู่ จึงขยับตัวไปกระซิบที่ข้างหูนาง “สำเร็จไปกึ่งหนึ่งแล้ว ฮูหยินผู้เฒ่าเฉียวชอบข้ามาก แต่จ้าวหรุ่ยหรุ่ยเจ้าเล่ห์นั่น มิรู้ว่าใช้กลอุบายอะไรเข้าไปอยู่ในตระกูลเฉียว!”“ผู้ที่อยู่ใกล้ก็ย่อมได้ประโยชน์ก่อนผู้อื่น ข้ากังวลว่านางจะใช้คำพูดสวยหรูมาหลอกลวงฮูหยินผู้เฒ่า ทำให้ฮูหยินผู้เฒ่าไปเข้าข้างนางอีก!”“เฮ้อ มิรู้ว่าเฉียวไป๋รู้สึกอย่างไรกับข้าด้วย ช่างเฉยเมยนัก!”“จริงสิ มีคุณหนูตระกูลเก๋อคนหนึ่ง นางก็ไปตระกูลเฉียวทุกวันเช่นกัน ว่ากันว่านางเป็นผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตเฉียวไป๋ไว้!”“เฮ้อ ชีวิตข้าช่างขมขื่นเหลือเกิน เหตุใดจึงมีศัตรูหัวใจมากมายถึงเพียงนี้!”ตระกูลเก๋อหรือ? คุณหนูที่หลงอิงพูดถึงผู้นี้

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1924

    หลิงอวี๋อยู่ในห้อง นางกินโอสถเสริมพลังวิญญาณไปห้าเม็ดในคราวเดียว หลังจากที่นางประสบกับความเจ็บปวดอย่างแสนสาหัสไป เข็มเงินในท้องน้อยส่วนล่างสุดก็ถูกบีบออกจากในร่างกายของนางหลิงอวี๋รู้สึกเพียงว่า ทันทีที่เข็มเงินออกจากร่างกายไป ภายในตันเถียนก็มีกระแสลมก็พุ่งขึ้นมา ราวกับเขื่อนที่ระบายน้ำออกมา แล้วแรงดันที่มีพลังมหาศาลก็ไหลเข้าสู่ตันเถียนของนางความเจ็บปวดที่ตามมานั้นรุนแรงเป็นอย่างมาก แรงจนไม่มีอะไรหยุดยั้งได้ หลิงอวี๋ที่ถูกโจมตีกะทันหันเช่นนั้นจึงมิสามารถทนรับไหว และหมดสติไป“น้องหญิง… น้องหญิง เจ้าตื่นได้แล้ว!”หลิงอวี๋เองก็มิรู้ว่าตนหมดสติไปนานแค่ไหน เมื่อนางตื่นขึ้นมาก็เห็นแววตาที่ทั้งกังวลและทุกข์ใจของผู้รอบรู้แล้ว“เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง?”ผู้รอบรู้เห็นว่าหลิงอวี๋มองตนอย่างสับสน เขาจึงเอ่ยอย่างปวดใจ “รู้สึกแย่มากใช่หรือไม่?”หลิงอวี๋มองผ่านเขาไปเห็นหน้าต่าง และด้านนอกหน้าต่างนั้นดวงอาทิตย์ขึ้นแล้ว“ท่านพี่ ข้าสลบไปทั้งคืนเลยหรือ?”หลิงอวี๋เอ่ยถามอย่างมิอยากจะเชื่อ“อืม ข้าตกใจแทบแย่ นึกว่าเจ้าจะตายไปเช่นนี้เสียแล้ว! หากมิใช่ว่าข้าเห็นว่าเจ้ามิได้รับบาดเจ็บอะไร ข้าก็คงจะแบกเ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1923

    หลิงอวี๋กอดโอสถสร้างรากฐานปราณและตำราบำเพ็ญตนออกจากบ้านตระกูลเย่ไปตลอดทางนั้นนางก็ได้แต่กังวล เพราะว่าตนถูกผนึกไว้จึงได้สูญเสียพลังไปเช่นนั้นหากฝึกฝนตามวิธีที่เย่ซื่อฝานสอนไว้ แล้วจะเกิดประโยชน์หรือ?หากนางมิสามารถเรียนการบำเพ็ญพลังวิญญาณได้ เย่ซื่อฝานจะผิดหวังในตัวนาง และยอมแพ้กับศิษย์เช่นนางหรือไม่?นางเดินกลับไปที่เรือนเล็กของตนอย่างมิรู้จะทำอย่างไร ผู้รอบรู้กลับมาถึงเรือนก่อนแล้ว เมื่อเขาเห็นหลิงอวี๋เดินเข้ามาด้วยใบหน้าเคร่งเครียด จึงเอ่ยถามด้วยความกังวล“น้องหญิง เกิดเรื่องอันใดขึ้น? เย่ซื่อฝานเปลี่ยนใจ มิยอมรับเจ้าเป็นศิษย์แล้วหรืออย่างไร?”“มิใช่!”หลิงอวี๋ส่ายหัว แล้วบอกผู้รอบรู้เรื่องที่เย่ซื่อฝานให้ตนเรียนการบำเพ็ญตนเมื่อผู้รอบรู้ได้ยินเช่นนั้น เขาก็เอ่ยออกมาอย่างมิเห็นด้วยนัก “เจ้าก็บอกเขาไปเถิดว่ามีคนปิดผนึกเจ้าไว้ พลังของเขาก็มิได้ต่ำ เขาน่าจะมีวิธีช่วยปลดผนึกให้เจ้าได้นะ!”หลิงอวี๋ยิ้มขมขื่น “พี่ใหญ่ ข้ามิกล้าบอกเขาหรอก! หากเขาถามข้าว่าใครเป็นคนปิดผนึกข้า ข้าจะอธิบายอย่างไรเล่า?”“นอกจากนี้ ข้าก็กังวลด้วยว่าหากมีคนรู้เรื่องนี้มากเกินไป มันจะดึงดูดศัตรูของข้าเ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1922

    “ท่านอาจารย์ ไป๋จื่อมิใช่กุญแจสำคัญของการทำยาหรอกเจ้าค่ะ แต่เป็นน้ำต่างหาก!”หลิงอวี๋ตอบออกไปอย่างอดทน “ในตอนที่ข้าระบุส่วนผสมยา ข้าพบว่าในโอสถชะลอวัยนั้นมีน้ำตะกั่วอยู่เจ้าค่ะ!”“ที่จริงแล้วสารตะกั่วนี้มิสามารถนำไปใช้ในเครื่องสำอางได้ แม้ว่ามันจะมีผลในการส่งเสริมการดูดซึมของเครื่องยาสมุนไพรตัวอื่น ๆ เข้าสู่ผิวหนังได้ แต่ตัวมันเองก็เป็นพิษเช่นกันเจ้าค่ะ!”หลิงอวี๋บอกสิ่งที่ตนรู้เกี่ยวกับสารตะกั่วให้เย่ซื่อฝานฟัง เมื่อเย่ซื่อฝานฟังแล้วก็พยักหน้าซ้ำ ๆแวดวงปรุงโอสถรู้เพียงแค่ผลการส่งเสริมการดูดซึมของสารตะกั่วมาโดยตลอด แต่กลับรู้อันตรายของสารตะกั่วเพียงผิวเผินเท่านั้นเมื่อเครื่องยาสมุนไพรที่เลือกใช้กับสารตะกั่วขัดขวางกันและกัน อัตราความสำเร็จในการทำยานั้นก็ย่อมต่ำลงเป็นธรรมดาหลิงอวี๋เลือกใช้เพียงแค่น้ำเปล่า และทิ้งสารตะกั่วไป เมื่อเป็นเช่นนี้น้ำเปล่าก็จะมิสามารถขัดขวางสรรพคุณของเครื่องยาสมุนไพรได้ และอัตราความสำเร็จในการทำยาก็จะสูงขึ้น“เช่นนั้นเหตุใดเจ้าจึงเติมน้ำปูนใสลงไปในโอสถสมานแผลเล่า?”เย่ซื่อฝานลืมตัวไปเสียสิ้นว่าตัวตนของเขากับหลิงอวี๋ในตอนนี้สลับกันอยู่ น้ำเสียงของเขาคล

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status