แชร์

บทที่ 1506

ผู้เขียน: กานเฟย
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-11-09 16:00:01
หลิงอวี๋เปิดดูม้วนหนึ่งอย่างสงสัย ทันทีที่เห็นก็ตะลึงไป

นี่คือหนังสือรับรอง!

หนังสือรับรองคือใบรับรองที่จักรพรรดิในสมัยต่าง ๆ มอบให้ขุนนางผู้มีความชอบในสมัยต่าง ๆ ให้ได้รับการดูแลเป็นพิเศษ หรือเป็นการละเว้นโทษ มิว่าจะทำผิดในเรื่องใดก็สามารถใช้หนังสือนี้รับอภัยโทษได้

เซียวหลินเทียนเขียนมอบให้ตนมากมายถึงเพียงนี้ นี่สามารถแลกได้ตั้งกี่ชีวิต!

“อาอวี๋ เมื่อมีสิ่งนี้ก็สามารถรับรองจิตใจของข้าที่มีต่อเจ้าได้แล้วกระมัง!”

เซียวหลินเทียนคิดอยู่นานก็คิดมิออกว่าจะทำอย่างไรให้หลิงอวี๋สบายใจ เมื่อครู่คิดเรื่องหนังสือรับรองออกจึงได้กลับไปเขียน

“ข้ารู้ว่าต่อให้พูดดีแค่ไหนก็มิสู้การกระทำ! เจ้าดูการกระทำของข้าต่อจากนี้เถิด!”

เซียวหลินเทียนเอ่ยอย่างซื่อตรง “ข้ารับรองว่าต่อไปข้าจะมิไปดื่มเหล้ากับกุ้ยเหรินสวีอีกแล้ว ข้าไม่มีทางเอาพวกนางมาทำให้เจ้าโกรธอีก!”

“อาอวี๋ ข้า… ข้าค่อนข้างซื่อบื้อในเรื่องของความรู้สึก ข้าชอบเป็นสหายกับคนฉลาด นั่นก็เพราะว่าสื่อสารกันง่าย!”

“แต่เรื่องจิตใจของสตรีนั้นข้าไร้ประสบการณ์นัก… เจ้าอย่าได้รังเกียจที่ข้าโง่เขลาเลย หากเจ้าเตือนข้ามากหน่อย ข้าก็จะเข้าใจได้!”

หน้าของหลิ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1507

    เมื่อเอ่ยถึงเรื่องวัวนม มีบางเรื่องที่หลิงอวี๋ต้องพูดถึงอย่างไรตนก็มีหนังสือรับรองที่สามารถรักษาชีวิตไว้ได้มากมายถึงเพียงนี้ ชีวิตนี้ก็คงมิอาจไปจากฉินตะวันตกได้แล้ว เช่นนั้นนางจึงต้องทำเพื่อประโยชน์ของฉินตะวันตกเสียหน่อยเมื่อทุกคนมีชีวิตที่ดี ต่อไปเซียวเยวี่ยก็จะสบาย“เซียวหลินเทียน นมที่คั้นมาจากวัวนมนั้นมีประโยชน์มาก ยามนี้ท่านพัฒนาเรื่องเกษตรกรรม ก็ควรจะพัฒนาเรื่องห่วงโซ่อุตสาหกรรมอย่างรอบด้านด้วย!”หลิงอวี๋เผยแพร่เรื่องผลผลิตจากนมวัวให้เซียวหลินเทียนฟัง การพัฒนาห่วงโซ่อุตสาหกรรมเหล่านี้มิเพียงแต่จะช่วยเพิ่มรายได้ของเกษตรกร แต่ยังสามารถกระตุ้นการพัฒนาเศรษฐกิจอื่น ๆ ได้ด้วยเซียวหลินเทียนฟังแล้วก็ประหลาดใจ เขามิเคยคิดมาก่อนเลยว่านมวัวที่ตนมิชอบจะสามารถทำผลิตภัณฑ์ได้มากถึงเพียงนี้เมื่อคิดดูแล้ว หากทำตามที่หลิงอวี๋พูดออกมา แล้วขายไปในแคว้นอื่น ๆ ก็สามารถสร้างรายได้ให้ฉินตะวันตกได้เวลานี้ เซียวหลินเทียนมิกล้าเอ่ยถึงเรื่องที่มาของนโยบายแคว้นของหลิงอวี๋อีก เขาคิดว่าท่านจินต้าพูดถูกความคิดที่คาดคิดมิถึงของหลิงอวี๋เหล่านี้มิว่าจะไปเรียนมาจากที่ใด แต่นางมาบอกตน เจตนาเดิมก็คือหวั

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-10
  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1508

    งานอภิเษกสมรสขององค์ชายคังกับจ้าวหรุ่ยหรุ่ยคุณหนูตระกูลจ้าวมิได้ด้อยไปกว่าการมอบสินสอดทองหมั้นในวันนั้นองค์ชายคังจัดงานอย่างยิ่งใหญ่ ปูพรมแดงถนนหลายสายตั้งแต่ตำหนักองค์ชายคังไปจนถึงบ้านตระกูลจ้าวตอนที่ไปรับเจ้าสาวก็มีเด็กหญิงเด็กชายหลายสิบคนโปรยดอกไม้ไปตามทาง และยังมีทหารของแม่ทัพฟางคอยรักษาความสงบตลอดทางด้วยเซียวหลินเทียนกับหลิงอวี๋ทานอาหารเช้าเสร็จแล้วจึงไปอาบน้ำแต่งตัว เพื่อเตรียมไปร่วมพิธีอภิเษกสมรสที่ตำหนักองค์ชายคังหลิงอวี๋สวมชุดงานมงคลลายห้าหงส์สีแดงกุหลาบปักด้ายทอง ที่มวยผมทั้งสองด้านปักปิ่นปักผมรูปหงส์คู่สีทอง ตรงกลางเป็นเครื่องประดับดอกโบตั๋นสีทอง ดูสง่างามเป็นอย่างมากหลิงซวนกับหานอวี้กำลังแต่งตัวให้นางอยู่ก็ได้ยินเสียงรายงานจากด้านนอก “ฝ่าบาทเสด็จแล้ว!”“ยังเช้าอยู่เลย เหตุใดองค์จักรพรรดิถึงเสด็จมาแล้วเล่า!”หลิงอวี๋ค่อนข้างแปลกใจ จึงให้หลิงซวนหยุดแล้วเดินออกไปรับเซียวหลินเทียนเซียวหลินเทียนเปลี่ยนเป็นชุดงานมงคลแล้ว เขาสวมชุดจักรพรรดิสีทองอร่าม มือทั้งสองถือกล่องใบใหญ่ใบหนึ่ง เมื่อเห็นหลิงอวี๋ก็เข้าไปหาด้วยรอยยิ้ม“อาอวี๋ ข้าว่าตั้งแต่ที่เจ้าเข้าวังมาก็มิได้แต

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-10
  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1509

    เพราะต้องไปร่วมพิธีอภิเษกขององค์ชายคัง หลิงอวี๋จึงไม่มีเวลาศึกษากำไลหยก นางจึงตกแต่งด้วยเครื่องหน้าผมที่เซียวหลินเทียนมอบให้ด้วยความร่วมมือกันของพวกหลิงซวนเมื่อสวมมงกุฎไข่มุกหงส์สีม่วงทองแล้ว ความรู้สึกสูงศักดิ์สง่างามที่มิอาจระงับได้ของหลิงอวี๋ก็ท่วมท้นขึ้นมาในทันทีต่างจากความหรูหราสง่างามเมื่อครู่ หลิงอวี๋ในเวลานี้ราวกับเทพธิดาที่ผู้สูงสง่าอยู่เหนือทุกคน และมีความสูงส่งมากงดงามยิ่งนัก!เซียวหลินเทียนมองตะลึง รู้สึกว่าหลิงอวี๋ในวันนี้ดูมีสง่าราศียิ่งกว่าวันที่แต่งตั้งฮองเฮาเสียอีกหากหลิงอวี๋ที่เป็นเช่นนี้ไปที่ตำหนักองค์ชายคัง ผู้ใดยังจะกล้าหัวเราะว่าสินสอดของนางในวันนั้นสู้จ้าวหรุ่ยหรุ่ยมิได้อีกหลิงซวนรู้สึกคลายความโกรธลง ความโกรธที่มีต่อเซียวหลินเทียนก่อนหน้านี้ได้ลบล้างไปแล้วนางตั้งใจออกไปบอกให้ลู่หนานเปลี่ยนเป็นรถม้าพระที่นั่งแบบเปิด อยากจะให้รูปลักษณ์ของหลิงอวี๋เช่นนี้ไปร่วมงานแล้วตบหน้าคนที่หัวเราะเยาะหลิงอวี๋เซียวหลินเทียนกับหลิงอวี๋มิรู้ความคิดเช่นนี้ของหลิงซวน เมื่อเห็นว่าใกล้ถึงเวลาแล้วจึงขึ้นรถม้าพระที่นั่ง แล้วมุ่งไปยังตำหนักองค์ชายคังโดยที่มีกองทัพหลวงเปิดทา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-10
  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1510

    นับวันจ้าวฮุยก็ยิ่งมิชอบองค์ชายคัง รู้สึกว่าองค์ชายคังมิได้มีความสามารถอะไรช่วงนี้เขาสนับสนุนองค์ชายคังก็มิได้มีความเชื่อมั่นในใจแล้วแต่ความเสียใจที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตของจ้าวฮุยก็คือไม่มีลูกชาย ฮูหยินจ้าวมีแต่ลูกสาวให้ตนทั้งสองคนเหล่าอนุภรรยาก็มีลูกสาวอดีตจ้าวฮุยไปหาปรมาจารย์ให้ดูดวงให้ เขาบอกว่าชีวิตของตนถูกลิขิตมาว่าจะไม่มีลูกชายเขาเองก็เคยหวั่นใจ คิดจะหาเด็กชายในตระกูล แต่เด็กที่เฉลียวฉลาดในตระกูลมีมิมาก ดูไปดูมาก็ยังสู้ลูกสาวสองคนของตนมิได้จ้าวฮุยมิอยากให้ชื่อเสียงของตนถูกทำลายไปชั่วชีวิตจึงตัดความคิดนี้ไปการตายของจ้าวเจินเจินคราวนี้ยิ่งทำให้จ้าวฮุยมองเห็นถึงความเย็นชาขององค์ชายคังกับไท่เฟยเส้าแม้ว่าเขาจะเรียกลูกสาวของตนกลับมา แต่มิได้วางแผนที่จะให้นางอุทิศตนให้องค์ชายคังอย่างมิเห็นแก่ตัวดังเช่นจ้าวเจินเจินอีกการให้ค่าตอบแทนเท่าเทียมกันของขุนนางชายหญิงที่หลิงอวี๋ผลักดัน ทำให้จ้าวฮุยหวั่นใจบุรุษสามารถเป็นจักรพรรดิได้ สตรีก็เป็นได้เช่นกันจ้าวหรุ่ยหรุ่ยลูกสาวของตนเหนือกว่าองค์ชายคังมากทั้งทักษะและปัญญา เช่นนั้นเหตุใดจะมิสามารถแทนที่ได้เล่า!ดังนั้น จ้าวฮุยเพีย

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-10
  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1511

    ทางด้านหลิงอวี๋กำลังเผชิญกับศัตรูที่แข็งแกร่ง จ้าวหรุ่ยหรุ่ยเองก็รู้สึกได้ถึงความผันผวนของพลังวิญญาณของหลิงอวี๋ นางค่อนข้างตกใจ หลิงอวี๋ก็เป็นผู้ฝึกฝนเช่นกันหรือ?อีกทั้งดูเหมือนว่าการฝึกพลังวิญญาณจะถึงดินแดนที่สี่แล้วด้วย?สิ่งนี้ทำให้จ้าวหรุ่ยหรุ่ยตะลึงไปครู่หนึ่ง แต่จ้าวหรุ่ยหรุ่ยก็ยิ้มออกมาอย่างเหยียดหยามหลิงอวี๋เพิ่งจะดินแดนที่สี่ ตนเองอยู่ระดับสูงของดินแดนที่หกแล้ว ขอเพียงตนเองบรรลุผ่านดินแดนที่หกไปก็จะเป็นดินแดนที่เจ็ดอาจารย์บอกไว้แล้วว่า หากถึงดินแดนที่เจ็ด แผ่นดินใหญ่ทั้งสี่แคว้นนี้ก็จะไม่มีผู้ใดเป็นคู่ต่อสู้ของตน!นางจ้าวหรุ่ยหรุ่ยคือคนที่อาจารย์ยกย่องว่ามีปัญญามาก คุณหนูตระกูลขุนนางเช่นหลิงอวี๋ การถึงดินแดนที่สี่ก็เป็นขั้นสุดที่นางฝึกฝนแล้ว!นางไม่มีทางเป็นคู่ต่อสู้ของตนได้แน่!และความผันผวนของพลังวิญญาณบนร่างของจ้าวหรุ่ยหรุ่ยกับหลิงอวี๋นั้นเซียวหลินเทียนก็สัมผัสได้ สีหน้าของเขาจึงเรียบเฉยลงดังเช่นหลิงอวี๋ แรกเริ่มเขาตกใจที่ลูกสาวของจ้าวฮุยเป็นผู้บำเพ็ญตนเช่นกัน จากนั้นก็ตระหนักได้ว่า การที่จ้าวฮุยให้จ้าวหรุ่ยหรุ่ยแต่งงานกับองค์ชายคังมิเพียงแต่เป็นการเชื่อมความสัม

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-11
  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1512

    “จ้าวหรุ่ยหรุ่ยผู้นี้มิธรรมดา!”เมื่อพิธีเสร็จสิ้น หลิงอวี๋กับเซียวหลินเทียนก็กลับวังหลวง เพิ่งจะนั่งรถม้าพระที่นั่งทั้งสองก็เอ่ยปากขึ้นมาโดยพร้อมกันอย่างรู้ใจ“อาอวี๋ การฝึกพลังวิญญาณของนางดูเหมือนจะเหนือกว่าของข้ากับเจ้า!”เซียวหลินเทียนเพิ่งจะบรรลุดินแดนที่สี่ แต่สามารถสัมผัสได้ว่าพลังวิญญาณของจ้าวหรุ่ยหรุ่ยเหนือกว่าตนไปมาก“ระดับสูงของระดับหก!”หลิงอวี๋เอ่ยออกมาตรง ๆ“หา! เช่นนั้นอีกมินานก็จะบรรลุไปถึงดินแดนที่เจ็ดแล้วมิใช่หรือ?”เซียวหลินเทียนตกใจ เขาเพิ่งจะอยู่ในระดับต้นของดินแดนที่สี่ หลิงอวี๋อยู่ระดับสูงของดินแดนที่ห้า มิใช่ระดับเดียวกับจ้าวหรุ่ยหรุ่ย!“อย่าเพิ่งตื่นตูมไปเพคะ!”หลิงอวี๋ยิ้มอย่างปลอบใจ “แม้ว่าจะเป็นระดับสูง ทว่าหากต้องการจะบรรลุดินแดนที่เจ็ดก็มิใช่เรื่องที่ง่ายถึงเพียงนั้น!”“อีกทั้ง จ้าวหรุ่ยหรุ่ยถูกส่งตัวออกไปตั้งแต่เล็ก ร่ำเรียนมาหลายปีจึงได้มีโชคเช่นนี้ มินับว่าเป็นอะไรหรอกเพคะ!”หลิงอวี๋กับเซียวหลินเทียนเพิ่งจะฝึกฝนกันช่วงนี้มิกี่เดือน สามารถเลื่อนขั้นไปถึงดินแดนที่สี่ได้อย่างรวดเร็วก็นับว่ามีพรสวรรค์มากแล้ว!“ตอนนั้นขันทีโม่เคยบอกไว้ว่า คนจำนวน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-11
  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1513

    เซียวหลินเทียนได้ยินคำถามของหลิงอวี๋ก็หัวเราะเบาพลางเอ่ย “อาอวี๋รู้จักข้าดีจริง ๆ!”“ใช่แล้ว ข้าคาดการณ์ไว้ว่าจ้าวฮุยจะส่งมือสังหารไปสังหารใต้เท้าจาง จึงให้คนของค่ายกองทหารเสือซุ่มอยู่ล่วงหน้า สิ่งที่พวกเขาทำคือสังหารคนของจ้าวฮุย ทำให้จ้าวฮุยสูญเสียกำลังคน!”“ในขณะเดียวกัน คนของค่ายกองทหารเสือก็แสร้งเป็นมือสังหารช่วยใต้เท้าจางออกไป คนเหล่านี้จะแบ่งเป็นสองกลุ่ม กลุ่มหนึ่งอยากสังหารใต้เท้าจาง และอีกกลุ่มก็ช่วยชีวิตเขา!”หลิงอวี๋เข้าใจ “เช่นนี้ใต้เท้าจางก็จะคิดว่า จ้าวฮุยอยากจะสังหารเขาเพื่อปิดปากและจะตัดความคาดหวังที่มีต่อจ้าวฮุยไป จากนั้นก็สารภาพความผิดของจ้าวฮุยกับองค์ชายคังออกมา!”เซียวหลินเทียนพยักหน้าอย่างชื่นชม “มิเพียงเท่านี้ ข้ายังให้คนกระจายข่าวออกไปว่าใต้เท้าจางถูกจ้าวฮุยกับองค์ชายคังสังหารเพื่อปิดปากด้วย!”“นี่เพื่อข่มขวัญพวกคนที่จ้าวฮุยใช้งาน ให้พวกเขาเห็นใจกัน ต่อไปเมื่อทำงานให้จ้าวฮุยก็จะระวังตัว!”ใต้เท้าจางโกงกินเงินไปมากมายถึงเพียงนั้น ตายไปก็มิสาสมกับที่ทำเมื่อเทียบกับการเอาตัวเขาออกไปตัดหัวต่อหน้าธารกำนัลแล้ว เซียวหลินเทียนใช้การตายของเขาไปสร้างความแตกแยกพวกจ้า

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-11
  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1514

    หลิงอวี๋หลับตาลงแม้ว่าการตั้งครรภ์ถึงสามเดือนจะยังมิแน่นอน แค่ได้รับความตกใจก็อาจจะทำให้แท้งได้แต่หลิงอวี๋มิเชื่อเด็ดขาดว่าการที่สุ่ยหลิงตบไปสิบครั้งจะทำให้เฝิงฉินแท้งยิ่งไปกว่านั้น เฝิงฉินสามารถติดตามขบวนเดินทางยาวนานจากสิงหยางมาถึงเมืองหลวงได้ โดยที่ตลอดทางเด็กมิเป็นอะไร ถูกตบสิบครั้งจะทำให้แท้งได้อย่างไร!แต่ตอนนี้ ลูกของเฝิงฉินมิอยู่แล้วจริง ๆ!หลิงเสียงกังยังนึกเรื่องเมื่อก่อนมิออก นี่ก็เท่ากับลูกคนแรกของเขากับเฝิงฉินเมื่อเด็กมิอยู่แล้ว นางจะมิโกรธเคืองตน นางซุนและหลิงหว่านได้อย่างไร!หลิงอวี๋ยังคิดที่จะใช้เงินมาแยกเฝิงฉินกับหลิงเสียงกังออกจากกัน ไหนเลยจะคิดว่าเฝิงฉิน...เดี๋ยวนะ!จู่ ๆ หลิงอวี๋ก็ตื่นเต้นขึ้นมา หากเฝิงฉินอยากจะมัดใจของหลิงเสียงกัง การใช้เด็กที่ยังมิเกิดมาก็เห็นได้ชัดว่าวิธีนี้อ่อนแอไปหน่อยตนยังบอกหลิงหว่านเลยว่า เด็กที่ยังมิเกิดเทียบมิได้กับนางที่สามารถพูดได้คล่องแคล่วเฝิงฉินจะต้องคาดการณ์ถึงจุดนี้ ดังนั้นจึงชิงลงมือกับตนก่อนโดยการทำให้เด็กแท้งยังมีสิ่งใดที่จะมัดใจของหลิงเสียงกังได้ดีไปกว่าความเจ็บปวดร่วมกันของการสูญเสียลูกเล่า!ดูจากตอนนี้ ควา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-11

บทล่าสุด

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1754

    เมื่อเซียวหลินเทียนได้ยินสิ่งนี้ก็ให้พวกจ้าวซวนเก็บค่ายละออกเดินทางสู่เยวี่ยใต้ในวันนั้นทันทีระหว่างทางเซียวหลินเทียนก็ซักถามขันทีโม่เกี่ยวกับสถานการณ์ของวังเทพ และได้รู้เรื่องมากมายเกี่ยวกับวังเทพจากปากของขันทีโม่“วังเทพถูกสร้างขึ้นบนภูเขาน้ำแข็ง ตระกูลหวงฝู่อาศัยอยู่อย่างสันโดษในวังเทพมาเป็นเวลาหลายร้อยปีแล้ว เรื่องนี้วัยรุ่นรุ่นหลังในแดนเทพก็มิรู้ ผู้ที่อายุมากก็ละเรื่องทางโลกเพราะตระกูลหวงฝู่ และไม่มีใครไปยุ่งเกี่ยวพวกเขา!”ขันทีโม่เอ่ย “คาดว่าจ้าวหรุ่ยหรุ่ยจะพาหลิงอวี๋บุกไปที่วังเทพโดยบังเอิญ ตามรูปแบบของตระกูลหวงฝู่แล้ว จะไม่มีทางช่วยคนมิดีกักขังหลิงอวี๋ เว้นแต่ว่าจ้าวหรุ่ยหรุ่ยจะสร้างปัญหา!”เซียวหลินเทียนกังวลมาก หลิงอวี๋หายไประยะหนึ่งแล้ว ตอนนี้นางจะเป็นอย่างไรบ้าง?พวกเขาเข้าสู่เยวี่ยใต้ในวันรุ่งขึ้น ก่อนหน้านี้เซียวหลินเทียนให้จ้าวซวนส่งคนไปแจ้งมู่หรงเหยียนซงว่า เขาแค่อาศัยเส้นทางไปภูเขาเทียนซาน มิจำเป็นต้องให้มู่หรงเหยียนซงมาพบตนภูเขาเทียนซานอยู่บริเวณชายแดนเยวี่ยใต้ ยิ่งเข้าไปก็ยิ่งห่างไกลเพื่อที่จะไปถึงภูเขาเทียนซานโดยเร็วที่สุด เซียวหลินเทียนจึงพาแค่เผยอวี้กับ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1753

    ในตอนแรกเริ่มของคนเรา มีนิสัยเนื้อแท้ที่ดี!หลิงอวี๋คิดว่าหวงฝู่หมิงจูยังเด็ก ยังสามารถปรับตัวได้อยู่ จึงพูดเหตุผลกับนางอย่างอดทนหวงฝู่หมิงจูถูกเจ้าวังกับนางกำนัลเอ็นดูมาโดยตลอด เพราะเกิดมาแล้วมีโรคประหลาดเช่นนี้ จึงแทบไม่มีใครมิเชื่อฟังนางสิ่งเหล่านี้ที่หลิงอวี๋พูดทำให้นางรู้สึกแปลกใหม่ เป็นครั้งแรกที่นางตั้งใจฟังหลังจากที่หลิงอวี๋ป้อนโจ๊กเสร็จ ก็เห็นว่าเจ้าวังน้อยยังคงมองนางอย่างคาดหวังราวกับว่ายังมิอิ่ม“ท่านกำลังป่วยอยู่ กระเพาะและลำไส้อ่อนแอ กินน้อยลงหน่อย รอท่านหายดี แล้วบ่าวจะทำอาหารอร่อย ๆ ให้ท่านกินหลาย ๆ อย่างเลยเพคะ!”หลิงอวี๋เก็บชามกำลังจะจากไป หวงฝู่หมิงจูก็ดึงนางไว้แล้วเอ่ยอย่างอ่อนแอ “พี่อาอวี๋ ข้านอนมิหลับ เจ้าคุยกับข้าหน่อย!"หลิงอวี๋คิดแล้ววางชามลง จากนั้นก็นอนลงข้างเตียงของนาง “หากนอนมิหลับพี่สาวจะเล่านิทานให้ท่านฟัง!”“กาลครั้งหนึ่ง มีลิงตัวน้อยตัวหนึ่งกำเนิดขึ้นจากธรรมชาติ อยู่มาวันหนึ่งภูเขาถล่มแผ่นดินทลาย และแล้วลิงน้อยจึงถือกำเนิดขึ้น...”เรื่องนี้เข้ามาในหัวของหลิงอวี๋ นางจึงเล่าให้หวงฝู่หมิงจูฟังหวงฝู่หมิงจูมิเคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อน จึงฟังอย่างเ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1752

    วันรุ่งขึ้นเมื่อเสวี่ยอวิ๋นตื่นขึ้นมา หลิงอวี๋ก็ซ่อนเห็ดหลินจือหิมะกับเครื่องยาสมุนไพรที่มิรู้จักที่เหลืออยู่ไว้แล้วมิใช่ว่านางตระหนี่ มิยอมบอกเสวี่ยอวิ๋นว่าตนช่วยหวงฝู่หมิงจูไว้ได้อย่างไรแต่เรื่องที่ปู้ติงหายามาให้ตนนั้นมหัศจรรย์มากเกินไป หลิงอวี๋มิอยากให้ใครรู้ยิ่งไปกว่านั้นคือ หลิงอวี๋กังวลว่าท่านน้าหลินจะกลับคำ มิยอมปล่อยตนลงจากภูเขา ดังนั้นจึงเก็บไว้เมื่อเห็นว่าเลือดของหวงฝู่หมิงจูหยุดไหลแล้ว เสวี่ยอวิ๋นก็ตกใจจนมิอยากจะเชื่อ นางสะอื้นแล้วทำมือซักถามหลิงอวี๋ว่าเกิดอะไรขึ้นหลิงอวี๋แสร้งทำเป็นมิเข้าใจ เสวี่ยอวิ๋นก็กังวลจนหาปากกากับกระดาษมาเขียนถามหลิงอวี๋ ‘เครื่องยาสมุนไพรใดที่ได้ผล?’“ข้ามิรู้ ข้าตื่นมาเจ้าวังน้อยก็เลือดหยุดไหลแล้ว!”หลิงอวี๋มิได้รู้สึกผิดแม้แต่น้อย นางมิใช่ทาสของวังเทพ นางเพียงต้องการลงจากภูเขาไปตามหาน้องสาวของตน นี่เป็นวิธีปกป้องตนเองของนางหากท่านน้าหลินพูดคำไหนคำนั้น ก่อนไปนางก็จะบอกท่านน้าหลินว่าเครื่องยาสมุนไพรอะไรที่ใช้ได้เมื่อวานนี้เสวี่ยอวิ๋นร่วมผสมยาอยู่กับหลิงอวี๋ตลอด นางจำวิธีการผสมเหล่านั้นได้แล้ว เมื่อเห็นว่าหลิงอวี๋มิยอมบอก ก็มิถามอี

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1751

    หลิงอวี๋มองปู้ติงอย่างกังวล แต่ปู้ติงก็มิได้เป็นอะไรดูเหมือนมันจะมิพอใจที่หลิงอวี๋ง้างปาก ทำให้มันมิสบายตัว มันจึงพยายามดิ้นให้หลุดออกจากมือของหลิงอวี๋แล้วกลิ้งไปบนพื้นอยู่หลายครั้งปู้ติงร้องออกมาแล้ววิ่งออกไปไกล จากนั้นก็หายตัวไปในทันทีหลิงอวี๋รีบจับคาเฟยใส่ในกรงแล้วไล่ตามไปในทิศทางที่ปู้ติงหายไปแต่หลังจากไล่ตามรอบแล้วก็ไม่มีวี่แววของปู้ติงเลยหลิงอวี๋วนดูอีกรอบ แต่ก็ยังมิเจอปู้ติงหลิงอวี๋หาจนเหนื่อยแล้วจึงคิดว่าปู้ติงกังวลว่าจะถูกตนดุก็เลยไปซ่อนอยู่ที่ไหนสักแห่ง รอตอนรุ่งสางแล้วค่อยหาอีกทีแล้วกันนางจึงเดินกลับไปที่โถงใหญ่หวงฝู่หมิงจูยังคงนอนมิได้สติ เสวี่ยอวิ๋นก็ทนมิไหวหลับไปแล้วเช่นกันหลิงอวี๋นั่งอยู่หน้าเตียงของหวงฝู่หมิงจูพลางกังวลใจ หากมิสามารถห้ามเลือดได้ หวงฝู่หมิงจูจะตกอยู่ในอันตราย เช่นนั้นควรทำอย่างไรดี!นางคิดแล้วก็รู้สึกง่วงเล็กน้อย จึงหลับไปอย่างงุนงง มิรู้ว่าหลับไปนานเท่าใด ทันใดนั้นก็ดูเหมือนจะได้ยินเสียงหมาป่าหอนปู้ติงหรือ?หลิงอวี๋ลืมตาขึ้นทันทีแล้วก็เห็นปู้ติงถูไปมาที่ข้างเท้าของตนมิเจอแค่ประเดี๋ยวเดียว ดูเหมือนว่ามันจะโตขึ้นเป็นเท่าตัวแล้วตำ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1750

    หลังจากป้อนยาไปแล้ว หลิงอวี๋กับเสวี่ยอวิ๋นก็รอดูผลลัพธ์กันอย่างกระวนกระวายแต่ผ่านไปหนึ่งชั่วยามแล้ว เลือดของหวงฝู่หมิงจูยังคงมิหยุดไหลและยังคงไหลออกมาอย่างช้า ๆ“เหตุใดมิได้ผล?”หลิงอวี๋รู้สึกปวดหัวขึ้นมา นางมองไปทางเสวี่ยอวิ๋นด้วยสีหน้าสับสนดวงตาที่งดงามของเสวี่ยอวิ๋นฉายแววผิดหวัง แต่เมื่อนึกถึงเจ้าวังที่มีทักษะการแพทย์ที่ยอดเยี่ยมก็ยังหมดหนทางกับอาการป่วยของเจ้าวังน้อย การที่อาอวี๋ผู้นี้จะมิสามารถห้ามเลือดของเจ้าวังน้อยได้ก็เป็นเรื่องปกติ“เจ้าวังเองก็ใช้เครื่องยาสมุนไพรเหล่านี้ด้วยนี่!”เสวี่ยอวิ๋นหยิบปากกากับกระดาษออกมาเขียนยุกยิกแล้วให้หลิงอวี๋อ่านสุดท้ายก็เขียนว่า “เครื่องยาสมุนไพรที่ใช้กับเจ้าวังน้อยคือเห็ดสีม่วงซึ่งหายาก ออกดอกสามสิบปีครั้ง เจ้าวังจึงลงจากภูเขาไปหาเครื่องยาสมุนไพรนี้!”หลิงอวี๋มองเครื่องยาสมุนไพรที่เสวี่ยอวิ๋นเขียนแล้วจมอยู่ในความคิดยาเหล่านี้บางชนิดสามารถห้ามเลือดได้จริง ๆ แต่การรวมกันมิเหมาะสมนัก ดูท่าทางชื่อเสียงการเป็นหมอชั้นเซียนของหวงฝู่หลินนั้นจะเป็นเพียงการโอ้อวด เขามีความรู้เพียงเล็กน้อยในการใช้ยาเหล่านี้หลิงอวี๋มิเคยได้ยินชื่อเห็ดสีม่วง

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1749

    หลิงอวี๋มิเชื่อข่าวลือเรื่องการถูกสาป แต่คำพูดของปี้เอ๋อร์ให้แนวทางแก่นาง ทำให้นางรู้ว่าที่หวงฝู่หมิงจูเลือดออกมิได้เกิดจากไข้ฝีดาษหลิงอวี๋สงบใจลงพลางครุ่นคิดว่าจะรักษาหวงฝู่หมิงจูอย่างไรดีสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ต้องห้ามเลือดก่อน มิฉะนั้นหวงฝู่หมิงจูจะมิได้ตายด้วยเชื้อไข้ฝีดาษ แต่จะตายเพราะเลือดออกมากเกินไปแต่ต้องใช้อะไรห้ามเลือดเล่า?จู่ ๆ ก็มีเครื่องยาสมุนไพรจำนวนนับมิถ้วนผุดขึ้นมาในหัวของหลิงอวี๋ นางจึงรีบเดินไปที่หน้าต่างแล้วตะโกนออกไปข้างนอก “ใครก็ได้ เชิญพี่เสวี่ยเหมยมาพบข้าที!”ด้านนอกตำหนักรุ่ยจูมีคนเฝ้ายามอยู่ จึงนำคำขอของหลิงอวี๋ส่งต่อไปทันทีมินานเสวี่ยเหมยก็รีบมา ยืนอยู่นอกโถงแล้วตะโกน “อาอวี๋ มีเรื่องอันใดหรือ?”“ข้าต้องการเครื่องยาสมุนไพร เจ้าให้คนส่งมาให้ข้าที!”หลิงอวี๋จึงบอกเครื่องยาสมุนไพรที่ต้องการไปเสวี่ยเหมยสงสัย “อาอวี๋ เจ้ามีทักษะการแพทย์หรือ? เจ้าอย่าได้ให้ยาสุ่มสี่สุ่มห้ากับเจ้าวังน้อย หากเจ้าทำให้เจ้าวังน้อยตาย ข้าช่วยเจ้ามิได้นะ!”“เจ้าวังน้อยติดเชื้อไข้ฝีดาษ ไม่มีเครื่องยาสมุนไพรนางก็ตาย! ข้ามีทักษะการแพทย์เล็กน้อย เจ้าหาเครื่องยาสมุนไพรมาให้ข้า

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1748

    คืนนั้นหลิงอวี๋กับปี้เอ๋อร์ก็พาปู้ติงกับคาเฟยย้ายไปที่ตำหนักรุ่ยจูหลิงอวี๋มิได้ไปดูสภาพน่าสังเวชที่เสวี่ยหลานถูกโยนเข้าไปในถ้ำหมาป่า ถึงอย่างไรเมื่อเห็นความตื่นเต้นที่ยากจะซ่อนเร้นบนใบหน้าเย็นชาของเสวี่ยเหมยนั้นก็เดาได้เลยว่า เสวี่ยหลานต้องถูกหมาป่ากัดฉีกเป็นชิ้น ๆ เป็นแน่สำหรับเสวี่ยเหมย หลิงอวี๋ก็มิกล้าเข้าใกล้มากเกินไปเช่นกันก่อนหน้านี้เป็นเพราะมีเป้าหมายเดียวกัน ดังนั้นเสวี่ยเหมยจึงมองตนแตกต่างออกไป หากวันหนึ่งตนไปคุกคามถึงตำแหน่งของเสวี่ยเหมย เสวี่ยเหมยไม่มีทางเมตตาต่อตนแน่หวงฝู่หมิงจูถูกทรมานจนลมปราณเสียหายอย่างรุนแรง แม้ว่าชีวิตจะมิได้ตกอยู่ในอันตรายแล้วแต่ก็มีไข้สูงในคืนนั้นเมื่ออาการป่วยแย่ลง ตุ่มน้ำก็เกิดขึ้นเสวี่ยเหมยได้ยินข่าวก็รีบมา เมื่อเห็นตุ่มน้ำบนใบหน้าของหวงฝู่หมิงจูก็ตกใจจนถอยหลังไปหลายก้าว แล้ววิ่งออกไปอย่างตื่นตระหนกไข้ฝีดาษ!นี่เป็นโรคติดต่อที่สามารถทำให้ตายได้!ปีที่แล้วนางกำนัลน้อยติดเชื้อไข้ฝีดาษแล้วแพร่เชื้อให้นางกำนัลหลายคน โรคนี้ไม่มียารักษาให้หายขาดได้ จึงถูกเจ้าวังสังหารแล้วเผาศพไปเสวี่ยเหมยรู้ถึงความร้ายแรงของโรคนี้เสวี่ยเหมยตกใจจนมิรู

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1747

    สายตาเยือกเย็นของท่านน้าหลินจับจ้องไปที่เสวี่ยหลาน เสวี่ยหลานถูกมองเช่นนั้นก็รู้สึกหนาวไปทั้งตัวแต่นางก็ยังคงยืนกรานแล้วเอ่ย “ท่านน้าหลิน ข้ามิได้ทำจริง ๆ เจ้าค่ะ! ข้ามิรู้…”“มิรู้?”ท่านน้าหลินเค้นคำนี้ลอดไรฟันออกมาทีละคำเสวี่ยหลานผู้นี้อาศัยความงามของตน อยากจะปีนขึ้นเตียงของหวงฝู่หลินก่อนหน้านี้ท่านน้าหลินยอมให้นาง เพราะอาหารที่นางทำได้รับความพึงพอใจจากหวงฝู่หมิงจูมากจริง ๆท่านน้าหลินมิอยากทำให้หวงฝู่หมิงจูมิพอใจ แล้วส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ของตนกับหวงฝู่หลิน จึงควบคุมตนเองมาโดยตลอดทว่ายามนี้ เสวี่ยหลานกล้าใช้ข้อห้ามเรื่องอาหารของหวงฝู่หมิงจูมาทำร้ายนาง!ท่านน้าหลินยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกกลัว วันนี้โชคดีที่อาอวี๋ช่วยหวงฝู่หมิงจูไว้ได้ มิฉะนั้นหากเกิดอะไรขึ้นกับหวงฝู่หมิงจู หวงฝู่หลินไม่มีทางปล่อยตนที่เป็นผู้ดูแลวังเทพไปแน่!ท่านน้าหลินก้าวเข้าไปใกล้ทีละก้าว เสวี่ยหลานก็ตกใจจนตัวสั่นนางร้องออกมาอย่างสิ้นหวัง “เจ้าวังน้อย ช่วยด้วยเพคะ บ่าวมิได้จะทำร้ายท่านจริง ๆ โปรดช่วยบ่าวขอความเมตตาด้วยเพคะ!”แม้ว่าหวงฝู่หมิงจูจะพ้นขีดอันตรายแล้ว แต่ก็นอนอยู่อย่างหมดเรี่ยวหมดแรงเมื่

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1746

    ทุกคนฟังคำพูดของเสวี่ยหลานแล้วก็รู้สึกว่าปกติมาก เมื่อยกอาหารมาก็แทบจะเป็นไปมิได้ที่เสวี่ยหลานจะพลิกดูข้างล่าง แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าหลิงอวี๋ซ่อนอะไรที่เจ้าวังน้อยกินมิได้ไว้ใต้จานนั้นแต่หลิงอวี๋จับช่องโหว่ในคำพูดของเสวี่ยหลานได้ นางจ้องมองเสวี่ยหลานอย่างน่ากลัวโดยมิพูดอะไรเสวี่ยหลานก็จ้องหลิงอวี๋อย่างโมโห “เจ้าทาสชั่ว เถียงมิได้แล้วสิ! เจ้าก็แค่ยอมรับมาว่าเจ้าคิดจะสังหารเจ้าวังน้อย!”หลิงอวี๋ยิ้มเยาะ พลางเอ่ยกับท่านน้าหลิน “ท่านน้าหลิน ท่านได้ยินสิ่งที่นางเอ่ยหรือไม่เจ้าคะ?”ท่านน้าหลินพยักหน้าโดยมิรู้ตัว แต่มิได้สังเกตเห็นความผิดปกติเมื่อเห็นว่าไม่มีใครโต้ตอบ หลิงอวี๋จึงเอ่ยอย่างอดทน “ท่านน้าหลิน ก่อนหน้านี้ข้าบอกหรือไม่ว่าเจ้าวังน้อยกินสิ่งใดแล้วแพ้?”“ไม่!”ท่านน้าหลินนึกย้อนดู หลิงอวี๋แค่บอกว่าหมิงจูแพ้อาหาร แต่มิได้บอกว่ากินอะไรเข้าไป“ท่านน้าหลิน เมื่อครู่เสวี่ยหลานบอกว่า นางรับจานนั้นมาแล้วมิได้พลิกดู ดังนั้นจึงมิรู้ว่าข้าใส่อะไรไว้ด้านล่าง!”หลิงอวี๋เอ่ยเสียงเรียบ “ท่านน้าหลิน ข้าขอถามสักหน่อยเถิดว่า เสวี่ยหลานได้กินอาหารจานนี้ไปแล้วหรือไม่?”“ไม่ นางเป็นแค่ทาส ไห

DMCA.com Protection Status