แชร์

บทที่ 1510

ผู้เขียน: กานเฟย
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-11-10 16:00:01
นับวันจ้าวฮุยก็ยิ่งมิชอบองค์ชายคัง รู้สึกว่าองค์ชายคังมิได้มีความสามารถอะไร

ช่วงนี้เขาสนับสนุนองค์ชายคังก็มิได้มีความเชื่อมั่นในใจแล้ว

แต่ความเสียใจที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตของจ้าวฮุยก็คือไม่มีลูกชาย ฮูหยินจ้าวมีแต่ลูกสาวให้ตนทั้งสองคน

เหล่าอนุภรรยาก็มีลูกสาว

อดีตจ้าวฮุยไปหาปรมาจารย์ให้ดูดวงให้ เขาบอกว่าชีวิตของตนถูกลิขิตมาว่าจะไม่มีลูกชาย

เขาเองก็เคยหวั่นใจ คิดจะหาเด็กชายในตระกูล แต่เด็กที่เฉลียวฉลาดในตระกูลมีมิมาก ดูไปดูมาก็ยังสู้ลูกสาวสองคนของตนมิได้

จ้าวฮุยมิอยากให้ชื่อเสียงของตนถูกทำลายไปชั่วชีวิตจึงตัดความคิดนี้ไป

การตายของจ้าวเจินเจินคราวนี้ยิ่งทำให้จ้าวฮุยมองเห็นถึงความเย็นชาขององค์ชายคังกับไท่เฟยเส้า

แม้ว่าเขาจะเรียกลูกสาวของตนกลับมา แต่มิได้วางแผนที่จะให้นางอุทิศตนให้องค์ชายคังอย่างมิเห็นแก่ตัวดังเช่นจ้าวเจินเจินอีก

การให้ค่าตอบแทนเท่าเทียมกันของขุนนางชายหญิงที่หลิงอวี๋ผลักดัน ทำให้จ้าวฮุยหวั่นใจ

บุรุษสามารถเป็นจักรพรรดิได้ สตรีก็เป็นได้เช่นกัน

จ้าวหรุ่ยหรุ่ยลูกสาวของตนเหนือกว่าองค์ชายคังมากทั้งทักษะและปัญญา เช่นนั้นเหตุใดจะมิสามารถแทนที่ได้เล่า!

ดังนั้น จ้าวฮุยเพีย
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1511

    ทางด้านหลิงอวี๋กำลังเผชิญกับศัตรูที่แข็งแกร่ง จ้าวหรุ่ยหรุ่ยเองก็รู้สึกได้ถึงความผันผวนของพลังวิญญาณของหลิงอวี๋ นางค่อนข้างตกใจ หลิงอวี๋ก็เป็นผู้ฝึกฝนเช่นกันหรือ?อีกทั้งดูเหมือนว่าการฝึกพลังวิญญาณจะถึงดินแดนที่สี่แล้วด้วย?สิ่งนี้ทำให้จ้าวหรุ่ยหรุ่ยตะลึงไปครู่หนึ่ง แต่จ้าวหรุ่ยหรุ่ยก็ยิ้มออกมาอย่างเหยียดหยามหลิงอวี๋เพิ่งจะดินแดนที่สี่ ตนเองอยู่ระดับสูงของดินแดนที่หกแล้ว ขอเพียงตนเองบรรลุผ่านดินแดนที่หกไปก็จะเป็นดินแดนที่เจ็ดอาจารย์บอกไว้แล้วว่า หากถึงดินแดนที่เจ็ด แผ่นดินใหญ่ทั้งสี่แคว้นนี้ก็จะไม่มีผู้ใดเป็นคู่ต่อสู้ของตน!นางจ้าวหรุ่ยหรุ่ยคือคนที่อาจารย์ยกย่องว่ามีปัญญามาก คุณหนูตระกูลขุนนางเช่นหลิงอวี๋ การถึงดินแดนที่สี่ก็เป็นขั้นสุดที่นางฝึกฝนแล้ว!นางไม่มีทางเป็นคู่ต่อสู้ของตนได้แน่!และความผันผวนของพลังวิญญาณบนร่างของจ้าวหรุ่ยหรุ่ยกับหลิงอวี๋นั้นเซียวหลินเทียนก็สัมผัสได้ สีหน้าของเขาจึงเรียบเฉยลงดังเช่นหลิงอวี๋ แรกเริ่มเขาตกใจที่ลูกสาวของจ้าวฮุยเป็นผู้บำเพ็ญตนเช่นกัน จากนั้นก็ตระหนักได้ว่า การที่จ้าวฮุยให้จ้าวหรุ่ยหรุ่ยแต่งงานกับองค์ชายคังมิเพียงแต่เป็นการเชื่อมความสัม

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-11
  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1512

    “จ้าวหรุ่ยหรุ่ยผู้นี้มิธรรมดา!”เมื่อพิธีเสร็จสิ้น หลิงอวี๋กับเซียวหลินเทียนก็กลับวังหลวง เพิ่งจะนั่งรถม้าพระที่นั่งทั้งสองก็เอ่ยปากขึ้นมาโดยพร้อมกันอย่างรู้ใจ“อาอวี๋ การฝึกพลังวิญญาณของนางดูเหมือนจะเหนือกว่าของข้ากับเจ้า!”เซียวหลินเทียนเพิ่งจะบรรลุดินแดนที่สี่ แต่สามารถสัมผัสได้ว่าพลังวิญญาณของจ้าวหรุ่ยหรุ่ยเหนือกว่าตนไปมาก“ระดับสูงของระดับหก!”หลิงอวี๋เอ่ยออกมาตรง ๆ“หา! เช่นนั้นอีกมินานก็จะบรรลุไปถึงดินแดนที่เจ็ดแล้วมิใช่หรือ?”เซียวหลินเทียนตกใจ เขาเพิ่งจะอยู่ในระดับต้นของดินแดนที่สี่ หลิงอวี๋อยู่ระดับสูงของดินแดนที่ห้า มิใช่ระดับเดียวกับจ้าวหรุ่ยหรุ่ย!“อย่าเพิ่งตื่นตูมไปเพคะ!”หลิงอวี๋ยิ้มอย่างปลอบใจ “แม้ว่าจะเป็นระดับสูง ทว่าหากต้องการจะบรรลุดินแดนที่เจ็ดก็มิใช่เรื่องที่ง่ายถึงเพียงนั้น!”“อีกทั้ง จ้าวหรุ่ยหรุ่ยถูกส่งตัวออกไปตั้งแต่เล็ก ร่ำเรียนมาหลายปีจึงได้มีโชคเช่นนี้ มินับว่าเป็นอะไรหรอกเพคะ!”หลิงอวี๋กับเซียวหลินเทียนเพิ่งจะฝึกฝนกันช่วงนี้มิกี่เดือน สามารถเลื่อนขั้นไปถึงดินแดนที่สี่ได้อย่างรวดเร็วก็นับว่ามีพรสวรรค์มากแล้ว!“ตอนนั้นขันทีโม่เคยบอกไว้ว่า คนจำนวน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-11
  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1513

    เซียวหลินเทียนได้ยินคำถามของหลิงอวี๋ก็หัวเราะเบาพลางเอ่ย “อาอวี๋รู้จักข้าดีจริง ๆ!”“ใช่แล้ว ข้าคาดการณ์ไว้ว่าจ้าวฮุยจะส่งมือสังหารไปสังหารใต้เท้าจาง จึงให้คนของค่ายกองทหารเสือซุ่มอยู่ล่วงหน้า สิ่งที่พวกเขาทำคือสังหารคนของจ้าวฮุย ทำให้จ้าวฮุยสูญเสียกำลังคน!”“ในขณะเดียวกัน คนของค่ายกองทหารเสือก็แสร้งเป็นมือสังหารช่วยใต้เท้าจางออกไป คนเหล่านี้จะแบ่งเป็นสองกลุ่ม กลุ่มหนึ่งอยากสังหารใต้เท้าจาง และอีกกลุ่มก็ช่วยชีวิตเขา!”หลิงอวี๋เข้าใจ “เช่นนี้ใต้เท้าจางก็จะคิดว่า จ้าวฮุยอยากจะสังหารเขาเพื่อปิดปากและจะตัดความคาดหวังที่มีต่อจ้าวฮุยไป จากนั้นก็สารภาพความผิดของจ้าวฮุยกับองค์ชายคังออกมา!”เซียวหลินเทียนพยักหน้าอย่างชื่นชม “มิเพียงเท่านี้ ข้ายังให้คนกระจายข่าวออกไปว่าใต้เท้าจางถูกจ้าวฮุยกับองค์ชายคังสังหารเพื่อปิดปากด้วย!”“นี่เพื่อข่มขวัญพวกคนที่จ้าวฮุยใช้งาน ให้พวกเขาเห็นใจกัน ต่อไปเมื่อทำงานให้จ้าวฮุยก็จะระวังตัว!”ใต้เท้าจางโกงกินเงินไปมากมายถึงเพียงนั้น ตายไปก็มิสาสมกับที่ทำเมื่อเทียบกับการเอาตัวเขาออกไปตัดหัวต่อหน้าธารกำนัลแล้ว เซียวหลินเทียนใช้การตายของเขาไปสร้างความแตกแยกพวกจ้า

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-11
  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1514

    หลิงอวี๋หลับตาลงแม้ว่าการตั้งครรภ์ถึงสามเดือนจะยังมิแน่นอน แค่ได้รับความตกใจก็อาจจะทำให้แท้งได้แต่หลิงอวี๋มิเชื่อเด็ดขาดว่าการที่สุ่ยหลิงตบไปสิบครั้งจะทำให้เฝิงฉินแท้งยิ่งไปกว่านั้น เฝิงฉินสามารถติดตามขบวนเดินทางยาวนานจากสิงหยางมาถึงเมืองหลวงได้ โดยที่ตลอดทางเด็กมิเป็นอะไร ถูกตบสิบครั้งจะทำให้แท้งได้อย่างไร!แต่ตอนนี้ ลูกของเฝิงฉินมิอยู่แล้วจริง ๆ!หลิงเสียงกังยังนึกเรื่องเมื่อก่อนมิออก นี่ก็เท่ากับลูกคนแรกของเขากับเฝิงฉินเมื่อเด็กมิอยู่แล้ว นางจะมิโกรธเคืองตน นางซุนและหลิงหว่านได้อย่างไร!หลิงอวี๋ยังคิดที่จะใช้เงินมาแยกเฝิงฉินกับหลิงเสียงกังออกจากกัน ไหนเลยจะคิดว่าเฝิงฉิน...เดี๋ยวนะ!จู่ ๆ หลิงอวี๋ก็ตื่นเต้นขึ้นมา หากเฝิงฉินอยากจะมัดใจของหลิงเสียงกัง การใช้เด็กที่ยังมิเกิดมาก็เห็นได้ชัดว่าวิธีนี้อ่อนแอไปหน่อยตนยังบอกหลิงหว่านเลยว่า เด็กที่ยังมิเกิดเทียบมิได้กับนางที่สามารถพูดได้คล่องแคล่วเฝิงฉินจะต้องคาดการณ์ถึงจุดนี้ ดังนั้นจึงชิงลงมือกับตนก่อนโดยการทำให้เด็กแท้งยังมีสิ่งใดที่จะมัดใจของหลิงเสียงกังได้ดีไปกว่าความเจ็บปวดร่วมกันของการสูญเสียลูกเล่า!ดูจากตอนนี้ ควา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-11
  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1515

    คำพูดของหลิงซวนปลอบใจหลิงอวี๋ได้ทันที นางไม่มีสิ่งใดที่ผิดต่อป้าสะใภ้ใหญ่กับหลิงหว่าน และมิเคยทำเรื่องร้ายแรงหากป้าสะใภ้ใหญ่มิรับน้ำใจ และจะประนีประนอมให้ได้นางเองก็หมดหนทาง อย่างมากที่สุดก็มิเข้าไปยุ่งเรื่องของพวกเขาอีกหลายวันต่อมา เซียวหลินเทียนให้พวกจ้าวซวนไปซื้อวัวนมหลายตัวเข้ามาเลี้ยงที่คอกม้าในวังจริง ๆและด้วยเหตุนี้เขายังตั้งใจเชิญคู่สามีภรรยาที่มีความถนัดในการเลี้ยงวัวนมมาดูแลวัวเหล่านี้ด้วยหลังจากที่เซียวเยวี่ยรู้ พอเลิกเรียนก็พาเซี่ยเหวยกับฉีเต๋อมาดูวัวนมทันทีหลิงอวี๋เองก็พาพวกหลิงซวนมาดูสถานการณ์ของวัวนมเช่นกันเห็นได้ชัดว่าจ้าวซวนมีความพยายามมาก วัวนมที่ซื้อมาล้วนมีสุขภาพที่ดีมากสามีภรรยาที่ดูแลวัวนั้นสกุลหลิว อายุประมาณห้าสิบป้าหลิวรีดนมวัวไปแล้วถังหนึ่ง เซียวเยวี่ยเห็นนมวัวสีขาว ๆ ก็นึกถึงที่หลิงอวี๋บอกว่าสามารถทำอาหารดี ๆ ได้มากมาย เขาจึงมองหลิงอวี๋พลางเอ่ย“ท่านแม่ ท่านรีบทำอาหารอร่อย ๆ ให้พวกเราเถิดขอรับ เยวี่ยเยวี่ยอยากชิมอาหารเลิศรสที่ท่านแม่บอก ดูว่าจะอร่อยอย่างที่ท่านแม่บอกไว้จริง ๆ หรือไม่!”หลิงอวี๋ยิ้มพลางบีบจมูกน้อย ๆ ของเขา “เจ้าลูกแมวตะกละ วั

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-12
  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1516

    เมื่อมีงานเลี้ยงนมวัวมื้อนี้ เซียวหลินเทียนก็มีความเชื่อมั่นในการผลักดันการเพาะเลี้ยงวัวนมอย่างเต็มเปี่ยมเขาให้ฉินซานหาทุ่งนาที่เหมาะกับการเพาะเลี้ยง พลางเตรียมการประชุมของแคว้นเล็ก ๆ ไปด้วยเรื่องที่ใต้เท้าจางถูกลอบสังหารที่เรือนจำกรมอาญาแพร่ออกไปแล้วจ้าวฮุยยังคิดว่าตนทำสำเร็จแล้ว แม้ว่าจะสูญเสียมือสังหารไปมิน้อย แต่สามารถกำจัดใต้เท้าจางได้ ทำให้เขาปิดปากไปตลอดกาล เช่นนี้ก็คุ้มค่าแล้วจ้าวฮุยมิรู้ว่าการตายของใต้เท้าจางทำให้ขุนนางผู้ใหญ่ที่ติดตามองค์ชายคังเกิดความรู้สึกเห็นใจพวกเดียวกันผู้ที่ฉลาดต่างก็รู้ว่าเงินที่ใต้เท้าจางยักยอกจำนวนมากไปอยู่ที่ใต้เท้าจางกับองค์ชายคัง แต่เมื่อเกิดเรื่องกับใต้เท้าจาง จ้าวฮุยกับองค์ชายคังมิเคยคิดจะช่วยเขาทั้งยังสังหารเพื่อปิดปากอีกด้วยใต้เท้าจางทุ่มเททำงานให้พวกเขา แต่กลับมิได้จบลงด้วยดี เช่นนั้นเหตุใดต้องทุ่มเทอดทนทำงานเพื่อพวกเขาอีกเล่า!กอปรกับสินสอดที่องค์ชายคังมอบให้จ้าวหรุ่ยหรุ่ยและการจัดงานแต่งงานที่หรูหราฟุ่มเฟือย สิ่งเหล่านี้หากคำนวณดูก็เป็นเงินที่ใต้เท้าจางหามาเพื่อพวกเขาอย่างยากลำบาก!สิ่งที่ยิ่งทำให้เหล่าขุนนางเหล่านี้ผิดหวังก็ค

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-12
  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1517

    เป็นครั้งแรกที่องค์ชายคังรู้สึกกลัว เขามองจ้าวหรุ่ยหรุ่ยเดินเข้ามาทีละก้าวพร้อมกับตัวสั่นโดยมิรู้ตัว“เจ้า... เจ้าคิดจะทำอะไร?”องค์ชายคังลืมที่จะเรียกคนไปแล้ว พลางเอ่ยเสียงสั่น “เจ้าอย่าเข้ามานะ...”ยังมิทันที่องค์ชายคังจะพูดจบ มือที่เนียนละเอียดของจ้าวหรุ่ยหรุ่ยก็คว้าเข้าที่คอของเขา“เซียวหลินอี้ วันนี้ข้าจะสอนท่านว่าอะไรคือภรรยาเป็นใหญ่!”แต่ไหนแต่ไรมามีแต่สามีเป็นใหญ่ มีภรรยาเป็นใหญ่ที่ไหนกันแต่จ้าวหรุ่ยหรุ่ยมิได้สนใจมากมายถึงเพียงนั้น นางกล้าคิดกระทั่งการเป็นจักรพรรดินี แล้วเหตุใดจะมิกล้าพลิกแนวคิดเก่า ๆ เหล่านี้เล่า!“ท่านกินของตระกูลจ้าว ใช้ของตระกูลจ้าว ยังกล้าที่จะใส่อารมณ์กับข้า ใครให้สิทธิ์ท่าน?”จ้าวหรุ่ยหรุ่ยเอ่ยอย่างเย็นชา “ข้าจะทำให้ท่านรู้ว่าข้ามิใช่จ้าวเจินเจินคนโง่เขลานั่น ข้าไม่มีทางยอมรับความลำบากจากท่านโดยมิขัดขืน!”องค์ชายคังถูกจ้าวหรุ่ยหรุ่ยบีบคอจนหายใจมิออกและหน้าเขียวไปแล้วเขาอยากจะดิ้นรน แต่ก็ดิ้นมิหลุดจากมือของจ้าวหรุ่ยหรุ่ยทันทีที่จ้าวหรุ่ยหรุ่ยยกมือขึ้น เขาก็ถูกยกขึ้นจากพื้นจ้าวหรุ่ยหรุ่ยกับเขาอยู่ในระดับสายตาเท่ากันและมองเขาด้วยแววตาเย็นชา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-12
  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1518

    การยั่วยุขององค์ชายคังทำให้จ้าวหรุ่ยหรุ่ยหัวเราะออกมา“สังหารหลิงอวี๋จะไปยากอะไรกัน!”จ้าวหรุ่ยหรุ่ยยิ้มอย่างเย็นชา “รอให้ข้าได้ของที่ข้าต้องการจากนางก่อน ข้าย่อมต้องส่งนางไปตายอยู่แล้ว!”ที่ตัวของหลิงอวี๋มีหยกหล้าสุขาวดี นี่คือสิ่งที่คนแดนปีศาจเฝ้าปรารถนาที่จะได้มา จ้าวหรุ่ยหรุ่ยได้รู้ข่าวก็ใจเต้นขึ้นมาเช่นกันเป็นดังที่หลิงอวี๋คาดการณ์ไว้ จ้าวหรุ่ยหรุ่ยฝึกฝนอยู่ที่ดินแดนที่หกมาหนึ่งปีกว่าแล้วก็ยังมิสามารถบรรลุได้ หากได้หยกหล้าสุขาวดีมา เช่นนั้นก็จะเลื่อนขั้นขึ้นได้อย่างราบรื่นแล้วองค์ชายคังเองก็รู้มาจากไท่เฟยเส้าว่าที่ตัวของหลิงอวี๋มีของล้ำค่าอยู่ แม้ว่าเขาจะมิเข้าใจว่านั่นคือของอะไร แต่แม้แต่จ้าวหรุ่ยหรุ่ยก็อยากได้จะต้องเป็นสมบัติหายากอย่างแน่นอนเขาจึงเอ่ยออกไป “แต่ตอนนี้นับวันหลิงอวี๋ก็ยิ่งเก่งกาจขึ้นเรื่อย ๆ มีนางช่วยเซียวหลินเทียน เซียวหลินเทียนก็มีแต่จะแข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ แล้วข้าจะต้องรอไปถึงเมื่อใด!”จ้าวหรุ่ยหรุ่ยเห็นองค์ชายคังอ่อนลงแล้ว มิกล้าเรียกแสดงอำนาจต่อหน้าตนแล้วจึงเอ่ยออกไปอย่างเย็นชา “มิต้องรอนานจนเกินไป!”“ก่อนหน้านี้ข้ามิได้เห็นหลิงอวี๋อยู่ในสายตา และมิ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-12

บทล่าสุด

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1758

    เผยอวี้กับขันทีโม่ก็มิได้สังเกตเช่นกันขันทีโม่สังเกตเห็นเพียงว่า บุรุษที่ตามหลังบุรุษผู้นั้นไปก็เป็นยอดฝีมือในการบำเพ็ญตนเช่นกัน ดูจากการแต่งตัวของเขา น่าจะเป็นพวกบ่าวมีคนสามกลุ่มนี้ในเมืองเล็กก็หมายความว่าหลิงอวี๋อยู่ใกล้​ ๆ​ นี้พวกเซียวหลินเทียนกับเผยอวี้รีบกินอาหารเย็นแล้วเดินออกไป​ หมายจะติดตามไปตามมิศทางของคนทั้งสามกลุ่มนี้พวกเซียวหลินเทียนสามคนเพิ่งจะเดินออกมา ก็เห็นนางรับใช้ที่วิพากษ์วิจารณ์คุณหนูรองตระกูลเก๋อเมื่อครู่เดินมาหาแล้วมุ่งตรงมาที่เซียวหลินเทียน จากนั้นจึงเอ่ย “คุณชาย หาสถานที่คุยกันสักหน่อยได้หรือไม่?”เซียวหลินเทียนตะลึงอยู่ครู่หนึ่งแล้วระวังตัวทันที หรือว่าคุณหนูใหญ่ตระกูลเก๋อมองออกถึงตัวตนของเขาแล้วจึงจงใจให้นางรับใช้ผู้นี้มารออยู่ที่นี่?“ไปคุยกันที่โรงน้ำชาข้างหน้าแล้วกัน!”เซียวหลินเทียนกวาดสายตามอง เห็นว่าฝั่งตรงข้ามมีโรงน้ำชาที่ยังคงเปิดอยู่ เขาจึงเดินนำไปเผยอวี้กับขันทีโม่มองหน้ากัน ต่างก็เดามิออกว่าคุณหนูใหญ่จากตระกูลเก๋อให้นางรับใช้มาหาเซียวหลินเทียนเพื่ออะไร แต่ทั้งคู่ก็ตามไปอย่างเข้าใจเซียวหลินเทียนหาโต๊ะริมหน้าต่างแล้วนั่งลงมองซูจู๋โดยมิพ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1757

    แม้ว่าเก๋อเฟิ่งฉิงจะชอบเซียวหลินเทียน แต่เกียรติของคุณหนูตระกูลใหญ่ทำให้นางมิสามารถละทิ้งท่าทีของตนแล้วก้าวไปเริ่มพูดคุยกับเซียวหลินเทียนได้ จึงพาคนของตนกลับไปก่อนที่หน้าประตู นางให้ซูจู๋นางรับใช้ของตนไปสืบเรื่องของเซียวหลินเทียนซูจู๋เป็นคนสนิทของเก๋อเฟิ่งฉิง และรู้ว่าเรื่องการแต่งงานของเก๋อเฟิ่งฉิงมิราบรื่นนัก ทันทีที่ได้ยินก็เข้าใจแล้วรับคำสั่งไปโดยมิรีรอคราวนี้เซียวหลินเทียนสงบลงแล้ว หลังจากได้ยินเรื่องการต่อสู้ภายในของตระกูลเก๋อ มุมปากของเขาก็โค้งขึ้นเยาะเย้ยตระกูลเก๋อมิได้สามัคคีกันเหนียวแน่น บางทีอาจจะใช้ความขัดแย้งของพวกนางมาทำให้พวกเขาต่อสู้กันเองได้อาหารมาแล้ว เซียวหลินเทียนกับเผยอวี้เพิ่งจะหยิบตะเกียบขึ้นมาก็เห็นคนสองคนที่นั่งอยู่ตรงมุมลุกขึ้นเดินออกไปบุรุษสองคนเดินตามกันไป บุรุษที่เดินนำหน้ารูปร่างสูง สวมชุดสีขาวดุจหิมะ และบนชุดนั้นก็มีลวดลายลึกลับที่ประณีตอยู่ด้วยหลังจากที่เซียวหลินเทียนได้รับการบำเพ็ญตนจากหลิงอวี๋ ก็พอจะมีความรู้เรื่องผ้าอาภรณ์อยู่บ้าง มองปราดเดียวก็มองออกทันทีว่า แม้ว่าอาภรณ์สีขาวของบุรุษผู้นั้นจะดูเรียบง่าย แต่ก็ทำจากผ้าปักลายดอกที่มูลค่ามห

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1756

    เก๋อเฟิ่งฉิงคุณหนูใหญ่ตระกูลเก๋อถูกน้องสาวกดดันเช่นนี้ ใบหน้าก็พลันมืดมนลง นางดุว่า “หากเจ้ายังพูดเรื่องไร้สาระอีกก็กลับไปเสีย ข้ามิต้องการให้เจ้าตามไป!”เก๋อเฟิ่งเจียวก็ดูเหมือนจะมิใช่คนที่ยอมรับความอับอายเช่นกัน นางยิ้มเยาะเย้ย “ท่านคิดว่าข้าชอบที่จะติดตามท่านหรือไร? หากมิใช่ท่านพ่อให้ข้ามา ข้าก็มิอยากจะมากับท่านหรอก!”“ทำงานขี้ขลาด… ท่านก็แค่อาศัยว่าแก่กว่าข้าจึงถูกท่านยายเลือกเป็นผู้สืบทอดมิใช่รึ? ในแง่ของความสามารถ ข้ามิได้ด้อยไปกว่าท่านเลย!”“ตึง!”เก๋อเฟิ่งเจียวกระแทกตะเกียบลงบนโต๊ะอย่างแรง แล้วลุกขึ้นเดินออกไป “พวกเราไปกันเถอะ!”นางรับใช้สองคนก็เดินตามนางไปสีหน้าของเก๋อเฟิ่งฉิงมืดมนลงซูจู๋นางรับใช้ข้างกายนางยิ้มเยาะ “อย่างน้อยคุณหนูใหญ่ของเราก็เกิดจากภรรยาที่แต่งงานถูกต้องตามธรรมเนียมของตระกูลเก๋อ ไหนเลยจะเหมือนกับมารดาของบางคนที่อาศัยวิธีสกปรกขึ้นสู่ตำแหน่ง!”“พูดให้ฟังง่ายก็คือ คุณหนูรองตระกูลเก๋อ แต่ใครมิรู้บ้างว่าคุณหนูรองผู้นี้ก็เป็นเพียงบุตรีนอกสมรสที่มิอาจออกหน้าทางสังคมได้!”“สารเลว เจ้าพูดว่ากระไรนะ? ผู้ใดมิอาจออกหน้าทางสังคมได้?”เมื่อเก๋อเฟิ่งเจียวได้ยินค

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1755

    ลุงเฉียวมองเฉียวไป๋น้องชายของเฉียวเค่อที่อยู่ตรงข้ามแล้วเอ่ยเสียงทุ้ม “ลุงสามทำนายแล้ว นั่นเป็นลางมิดี สถานที่ที่เฉียวเค่อปรากฏตัวครั้งสุดท้ายอยู่แถวนี้ วันพรุ่งเราค่อยมาตามหาบริเวณใกล้เคียงกันเถิด!”“เฉียวไป๋พูดถูก เฉียวเค่อไม่มีทางที่จะหายตัวไปเช่นนี้ ต่อให้รอดชีวิตแล้วมิพบใคร ตายก็ต้องพบศพ แต่ที่ลุงสามทำนายครั้งสุดท้ายนั้นมิชัดเจน ลุงสามก็มิรู้แน่ชัดว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่!”เซียวหลินเทียนได้ยินก็ใจเต้น ที่แท้คนที่หายไปคือเฉียวเค่อนี่เอง เช่นนั้นคนตระกูลเฉียวปรากฏตัวที่นี่ก็เพื่อตามหาเฉียวเค่อหากพวกเขาตามคนตระกูลเฉียวไป ก็อาจจะได้ข่าวหลิงอวี๋บ้าง“ลุงสาม ความสามารถในการทำนายของท่านไร้ผู้ใดเทียบ แม้แต่ท่านยังมิรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แล้วใต้หล้านี้จะมีผู้ใดรู้กัน!”เฉียวไป๋ทั้งโกรธและกังวล “ลุงสาม หรือว่า… หรือว่าพี่ชายของข้าไม่มีชีวิตอยู่แล้ว?”ใต้คิ้วบางของลุงสามตระกูลเฉียวนั้นดวงตาของเขาประกายวับแวมขึ้นมาเล็กน้อย ก่อนกล่าวด้วยน้ำเสียงทุ้มว่า “เฉียวไป๋ พี่ชายของเจ้าอาจตกอยู่ในอันตราย… แต่หาอย่าได้ผิดหวังเกินไปนัก ลุงสามก็อาจผิดพลาด หรือทำนายผิดไปได้เหมือนกัน!”ทว่าในแดนเทพแห่งนี้

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1754

    เมื่อเซียวหลินเทียนได้ยินสิ่งนี้ก็ให้พวกจ้าวซวนเก็บค่ายละออกเดินทางสู่เยวี่ยใต้ในวันนั้นทันทีระหว่างทางเซียวหลินเทียนก็ซักถามขันทีโม่เกี่ยวกับสถานการณ์ของวังเทพ และได้รู้เรื่องมากมายเกี่ยวกับวังเทพจากปากของขันทีโม่“วังเทพถูกสร้างขึ้นบนภูเขาน้ำแข็ง ตระกูลหวงฝู่อาศัยอยู่อย่างสันโดษในวังเทพมาเป็นเวลาหลายร้อยปีแล้ว เรื่องนี้วัยรุ่นรุ่นหลังในแดนเทพก็มิรู้ ผู้ที่อายุมากก็ละเรื่องทางโลกเพราะตระกูลหวงฝู่ และไม่มีใครไปยุ่งเกี่ยวพวกเขา!”ขันทีโม่เอ่ย “คาดว่าจ้าวหรุ่ยหรุ่ยจะพาหลิงอวี๋บุกไปที่วังเทพโดยบังเอิญ ตามรูปแบบของตระกูลหวงฝู่แล้ว จะไม่มีทางช่วยคนมิดีกักขังหลิงอวี๋ เว้นแต่ว่าจ้าวหรุ่ยหรุ่ยจะสร้างปัญหา!”เซียวหลินเทียนกังวลมาก หลิงอวี๋หายไประยะหนึ่งแล้ว ตอนนี้นางจะเป็นอย่างไรบ้าง?พวกเขาเข้าสู่เยวี่ยใต้ในวันรุ่งขึ้น ก่อนหน้านี้เซียวหลินเทียนให้จ้าวซวนส่งคนไปแจ้งมู่หรงเหยียนซงว่า เขาแค่อาศัยเส้นทางไปภูเขาเทียนซาน มิจำเป็นต้องให้มู่หรงเหยียนซงมาพบตนภูเขาเทียนซานอยู่บริเวณชายแดนเยวี่ยใต้ ยิ่งเข้าไปก็ยิ่งห่างไกลเพื่อที่จะไปถึงภูเขาเทียนซานโดยเร็วที่สุด เซียวหลินเทียนจึงพาแค่เผยอวี้กับ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1753

    ในตอนแรกเริ่มของคนเรา มีนิสัยเนื้อแท้ที่ดี!หลิงอวี๋คิดว่าหวงฝู่หมิงจูยังเด็ก ยังสามารถปรับตัวได้อยู่ จึงพูดเหตุผลกับนางอย่างอดทนหวงฝู่หมิงจูถูกเจ้าวังกับนางกำนัลเอ็นดูมาโดยตลอด เพราะเกิดมาแล้วมีโรคประหลาดเช่นนี้ จึงแทบไม่มีใครมิเชื่อฟังนางสิ่งเหล่านี้ที่หลิงอวี๋พูดทำให้นางรู้สึกแปลกใหม่ เป็นครั้งแรกที่นางตั้งใจฟังหลังจากที่หลิงอวี๋ป้อนโจ๊กเสร็จ ก็เห็นว่าเจ้าวังน้อยยังคงมองนางอย่างคาดหวังราวกับว่ายังมิอิ่ม“ท่านกำลังป่วยอยู่ กระเพาะและลำไส้อ่อนแอ กินน้อยลงหน่อย รอท่านหายดี แล้วบ่าวจะทำอาหารอร่อย ๆ ให้ท่านกินหลาย ๆ อย่างเลยเพคะ!”หลิงอวี๋เก็บชามกำลังจะจากไป หวงฝู่หมิงจูก็ดึงนางไว้แล้วเอ่ยอย่างอ่อนแอ “พี่อาอวี๋ ข้านอนมิหลับ เจ้าคุยกับข้าหน่อย!"หลิงอวี๋คิดแล้ววางชามลง จากนั้นก็นอนลงข้างเตียงของนาง “หากนอนมิหลับพี่สาวจะเล่านิทานให้ท่านฟัง!”“กาลครั้งหนึ่ง มีลิงตัวน้อยตัวหนึ่งกำเนิดขึ้นจากธรรมชาติ อยู่มาวันหนึ่งภูเขาถล่มแผ่นดินทลาย และแล้วลิงน้อยจึงถือกำเนิดขึ้น...”เรื่องนี้เข้ามาในหัวของหลิงอวี๋ นางจึงเล่าให้หวงฝู่หมิงจูฟังหวงฝู่หมิงจูมิเคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อน จึงฟังอย่างเ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1752

    วันรุ่งขึ้นเมื่อเสวี่ยอวิ๋นตื่นขึ้นมา หลิงอวี๋ก็ซ่อนเห็ดหลินจือหิมะกับเครื่องยาสมุนไพรที่มิรู้จักที่เหลืออยู่ไว้แล้วมิใช่ว่านางตระหนี่ มิยอมบอกเสวี่ยอวิ๋นว่าตนช่วยหวงฝู่หมิงจูไว้ได้อย่างไรแต่เรื่องที่ปู้ติงหายามาให้ตนนั้นมหัศจรรย์มากเกินไป หลิงอวี๋มิอยากให้ใครรู้ยิ่งไปกว่านั้นคือ หลิงอวี๋กังวลว่าท่านน้าหลินจะกลับคำ มิยอมปล่อยตนลงจากภูเขา ดังนั้นจึงเก็บไว้เมื่อเห็นว่าเลือดของหวงฝู่หมิงจูหยุดไหลแล้ว เสวี่ยอวิ๋นก็ตกใจจนมิอยากจะเชื่อ นางสะอื้นแล้วทำมือซักถามหลิงอวี๋ว่าเกิดอะไรขึ้นหลิงอวี๋แสร้งทำเป็นมิเข้าใจ เสวี่ยอวิ๋นก็กังวลจนหาปากกากับกระดาษมาเขียนถามหลิงอวี๋ ‘เครื่องยาสมุนไพรใดที่ได้ผล?’“ข้ามิรู้ ข้าตื่นมาเจ้าวังน้อยก็เลือดหยุดไหลแล้ว!”หลิงอวี๋มิได้รู้สึกผิดแม้แต่น้อย นางมิใช่ทาสของวังเทพ นางเพียงต้องการลงจากภูเขาไปตามหาน้องสาวของตน นี่เป็นวิธีปกป้องตนเองของนางหากท่านน้าหลินพูดคำไหนคำนั้น ก่อนไปนางก็จะบอกท่านน้าหลินว่าเครื่องยาสมุนไพรอะไรที่ใช้ได้เมื่อวานนี้เสวี่ยอวิ๋นร่วมผสมยาอยู่กับหลิงอวี๋ตลอด นางจำวิธีการผสมเหล่านั้นได้แล้ว เมื่อเห็นว่าหลิงอวี๋มิยอมบอก ก็มิถามอี

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1751

    หลิงอวี๋มองปู้ติงอย่างกังวล แต่ปู้ติงก็มิได้เป็นอะไรดูเหมือนมันจะมิพอใจที่หลิงอวี๋ง้างปาก ทำให้มันมิสบายตัว มันจึงพยายามดิ้นให้หลุดออกจากมือของหลิงอวี๋แล้วกลิ้งไปบนพื้นอยู่หลายครั้งปู้ติงร้องออกมาแล้ววิ่งออกไปไกล จากนั้นก็หายตัวไปในทันทีหลิงอวี๋รีบจับคาเฟยใส่ในกรงแล้วไล่ตามไปในทิศทางที่ปู้ติงหายไปแต่หลังจากไล่ตามรอบแล้วก็ไม่มีวี่แววของปู้ติงเลยหลิงอวี๋วนดูอีกรอบ แต่ก็ยังมิเจอปู้ติงหลิงอวี๋หาจนเหนื่อยแล้วจึงคิดว่าปู้ติงกังวลว่าจะถูกตนดุก็เลยไปซ่อนอยู่ที่ไหนสักแห่ง รอตอนรุ่งสางแล้วค่อยหาอีกทีแล้วกันนางจึงเดินกลับไปที่โถงใหญ่หวงฝู่หมิงจูยังคงนอนมิได้สติ เสวี่ยอวิ๋นก็ทนมิไหวหลับไปแล้วเช่นกันหลิงอวี๋นั่งอยู่หน้าเตียงของหวงฝู่หมิงจูพลางกังวลใจ หากมิสามารถห้ามเลือดได้ หวงฝู่หมิงจูจะตกอยู่ในอันตราย เช่นนั้นควรทำอย่างไรดี!นางคิดแล้วก็รู้สึกง่วงเล็กน้อย จึงหลับไปอย่างงุนงง มิรู้ว่าหลับไปนานเท่าใด ทันใดนั้นก็ดูเหมือนจะได้ยินเสียงหมาป่าหอนปู้ติงหรือ?หลิงอวี๋ลืมตาขึ้นทันทีแล้วก็เห็นปู้ติงถูไปมาที่ข้างเท้าของตนมิเจอแค่ประเดี๋ยวเดียว ดูเหมือนว่ามันจะโตขึ้นเป็นเท่าตัวแล้วตำ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1750

    หลังจากป้อนยาไปแล้ว หลิงอวี๋กับเสวี่ยอวิ๋นก็รอดูผลลัพธ์กันอย่างกระวนกระวายแต่ผ่านไปหนึ่งชั่วยามแล้ว เลือดของหวงฝู่หมิงจูยังคงมิหยุดไหลและยังคงไหลออกมาอย่างช้า ๆ“เหตุใดมิได้ผล?”หลิงอวี๋รู้สึกปวดหัวขึ้นมา นางมองไปทางเสวี่ยอวิ๋นด้วยสีหน้าสับสนดวงตาที่งดงามของเสวี่ยอวิ๋นฉายแววผิดหวัง แต่เมื่อนึกถึงเจ้าวังที่มีทักษะการแพทย์ที่ยอดเยี่ยมก็ยังหมดหนทางกับอาการป่วยของเจ้าวังน้อย การที่อาอวี๋ผู้นี้จะมิสามารถห้ามเลือดของเจ้าวังน้อยได้ก็เป็นเรื่องปกติ“เจ้าวังเองก็ใช้เครื่องยาสมุนไพรเหล่านี้ด้วยนี่!”เสวี่ยอวิ๋นหยิบปากกากับกระดาษออกมาเขียนยุกยิกแล้วให้หลิงอวี๋อ่านสุดท้ายก็เขียนว่า “เครื่องยาสมุนไพรที่ใช้กับเจ้าวังน้อยคือเห็ดสีม่วงซึ่งหายาก ออกดอกสามสิบปีครั้ง เจ้าวังจึงลงจากภูเขาไปหาเครื่องยาสมุนไพรนี้!”หลิงอวี๋มองเครื่องยาสมุนไพรที่เสวี่ยอวิ๋นเขียนแล้วจมอยู่ในความคิดยาเหล่านี้บางชนิดสามารถห้ามเลือดได้จริง ๆ แต่การรวมกันมิเหมาะสมนัก ดูท่าทางชื่อเสียงการเป็นหมอชั้นเซียนของหวงฝู่หลินนั้นจะเป็นเพียงการโอ้อวด เขามีความรู้เพียงเล็กน้อยในการใช้ยาเหล่านี้หลิงอวี๋มิเคยได้ยินชื่อเห็ดสีม่วง

DMCA.com Protection Status