Share

บทที่ 1510

Author: กานเฟย
นับวันจ้าวฮุยก็ยิ่งมิชอบองค์ชายคัง รู้สึกว่าองค์ชายคังมิได้มีความสามารถอะไร

ช่วงนี้เขาสนับสนุนองค์ชายคังก็มิได้มีความเชื่อมั่นในใจแล้ว

แต่ความเสียใจที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตของจ้าวฮุยก็คือไม่มีลูกชาย ฮูหยินจ้าวมีแต่ลูกสาวให้ตนทั้งสองคน

เหล่าอนุภรรยาก็มีลูกสาว

อดีตจ้าวฮุยไปหาปรมาจารย์ให้ดูดวงให้ เขาบอกว่าชีวิตของตนถูกลิขิตมาว่าจะไม่มีลูกชาย

เขาเองก็เคยหวั่นใจ คิดจะหาเด็กชายในตระกูล แต่เด็กที่เฉลียวฉลาดในตระกูลมีมิมาก ดูไปดูมาก็ยังสู้ลูกสาวสองคนของตนมิได้

จ้าวฮุยมิอยากให้ชื่อเสียงของตนถูกทำลายไปชั่วชีวิตจึงตัดความคิดนี้ไป

การตายของจ้าวเจินเจินคราวนี้ยิ่งทำให้จ้าวฮุยมองเห็นถึงความเย็นชาขององค์ชายคังกับไท่เฟยเส้า

แม้ว่าเขาจะเรียกลูกสาวของตนกลับมา แต่มิได้วางแผนที่จะให้นางอุทิศตนให้องค์ชายคังอย่างมิเห็นแก่ตัวดังเช่นจ้าวเจินเจินอีก

การให้ค่าตอบแทนเท่าเทียมกันของขุนนางชายหญิงที่หลิงอวี๋ผลักดัน ทำให้จ้าวฮุยหวั่นใจ

บุรุษสามารถเป็นจักรพรรดิได้ สตรีก็เป็นได้เช่นกัน

จ้าวหรุ่ยหรุ่ยลูกสาวของตนเหนือกว่าองค์ชายคังมากทั้งทักษะและปัญญา เช่นนั้นเหตุใดจะมิสามารถแทนที่ได้เล่า!

ดังนั้น จ้าวฮุยเพีย
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1511

    ทางด้านหลิงอวี๋กำลังเผชิญกับศัตรูที่แข็งแกร่ง จ้าวหรุ่ยหรุ่ยเองก็รู้สึกได้ถึงความผันผวนของพลังวิญญาณของหลิงอวี๋ นางค่อนข้างตกใจ หลิงอวี๋ก็เป็นผู้ฝึกฝนเช่นกันหรือ?อีกทั้งดูเหมือนว่าการฝึกพลังวิญญาณจะถึงดินแดนที่สี่แล้วด้วย?สิ่งนี้ทำให้จ้าวหรุ่ยหรุ่ยตะลึงไปครู่หนึ่ง แต่จ้าวหรุ่ยหรุ่ยก็ยิ้มออกมาอย่างเหยียดหยามหลิงอวี๋เพิ่งจะดินแดนที่สี่ ตนเองอยู่ระดับสูงของดินแดนที่หกแล้ว ขอเพียงตนเองบรรลุผ่านดินแดนที่หกไปก็จะเป็นดินแดนที่เจ็ดอาจารย์บอกไว้แล้วว่า หากถึงดินแดนที่เจ็ด แผ่นดินใหญ่ทั้งสี่แคว้นนี้ก็จะไม่มีผู้ใดเป็นคู่ต่อสู้ของตน!นางจ้าวหรุ่ยหรุ่ยคือคนที่อาจารย์ยกย่องว่ามีปัญญามาก คุณหนูตระกูลขุนนางเช่นหลิงอวี๋ การถึงดินแดนที่สี่ก็เป็นขั้นสุดที่นางฝึกฝนแล้ว!นางไม่มีทางเป็นคู่ต่อสู้ของตนได้แน่!และความผันผวนของพลังวิญญาณบนร่างของจ้าวหรุ่ยหรุ่ยกับหลิงอวี๋นั้นเซียวหลินเทียนก็สัมผัสได้ สีหน้าของเขาจึงเรียบเฉยลงดังเช่นหลิงอวี๋ แรกเริ่มเขาตกใจที่ลูกสาวของจ้าวฮุยเป็นผู้บำเพ็ญตนเช่นกัน จากนั้นก็ตระหนักได้ว่า การที่จ้าวฮุยให้จ้าวหรุ่ยหรุ่ยแต่งงานกับองค์ชายคังมิเพียงแต่เป็นการเชื่อมความสัม

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1512

    “จ้าวหรุ่ยหรุ่ยผู้นี้มิธรรมดา!”เมื่อพิธีเสร็จสิ้น หลิงอวี๋กับเซียวหลินเทียนก็กลับวังหลวง เพิ่งจะนั่งรถม้าพระที่นั่งทั้งสองก็เอ่ยปากขึ้นมาโดยพร้อมกันอย่างรู้ใจ“อาอวี๋ การฝึกพลังวิญญาณของนางดูเหมือนจะเหนือกว่าของข้ากับเจ้า!”เซียวหลินเทียนเพิ่งจะบรรลุดินแดนที่สี่ แต่สามารถสัมผัสได้ว่าพลังวิญญาณของจ้าวหรุ่ยหรุ่ยเหนือกว่าตนไปมาก“ระดับสูงของระดับหก!”หลิงอวี๋เอ่ยออกมาตรง ๆ“หา! เช่นนั้นอีกมินานก็จะบรรลุไปถึงดินแดนที่เจ็ดแล้วมิใช่หรือ?”เซียวหลินเทียนตกใจ เขาเพิ่งจะอยู่ในระดับต้นของดินแดนที่สี่ หลิงอวี๋อยู่ระดับสูงของดินแดนที่ห้า มิใช่ระดับเดียวกับจ้าวหรุ่ยหรุ่ย!“อย่าเพิ่งตื่นตูมไปเพคะ!”หลิงอวี๋ยิ้มอย่างปลอบใจ “แม้ว่าจะเป็นระดับสูง ทว่าหากต้องการจะบรรลุดินแดนที่เจ็ดก็มิใช่เรื่องที่ง่ายถึงเพียงนั้น!”“อีกทั้ง จ้าวหรุ่ยหรุ่ยถูกส่งตัวออกไปตั้งแต่เล็ก ร่ำเรียนมาหลายปีจึงได้มีโชคเช่นนี้ มินับว่าเป็นอะไรหรอกเพคะ!”หลิงอวี๋กับเซียวหลินเทียนเพิ่งจะฝึกฝนกันช่วงนี้มิกี่เดือน สามารถเลื่อนขั้นไปถึงดินแดนที่สี่ได้อย่างรวดเร็วก็นับว่ามีพรสวรรค์มากแล้ว!“ตอนนั้นขันทีโม่เคยบอกไว้ว่า คนจำนวน

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1513

    เซียวหลินเทียนได้ยินคำถามของหลิงอวี๋ก็หัวเราะเบาพลางเอ่ย “อาอวี๋รู้จักข้าดีจริง ๆ!”“ใช่แล้ว ข้าคาดการณ์ไว้ว่าจ้าวฮุยจะส่งมือสังหารไปสังหารใต้เท้าจาง จึงให้คนของค่ายกองทหารเสือซุ่มอยู่ล่วงหน้า สิ่งที่พวกเขาทำคือสังหารคนของจ้าวฮุย ทำให้จ้าวฮุยสูญเสียกำลังคน!”“ในขณะเดียวกัน คนของค่ายกองทหารเสือก็แสร้งเป็นมือสังหารช่วยใต้เท้าจางออกไป คนเหล่านี้จะแบ่งเป็นสองกลุ่ม กลุ่มหนึ่งอยากสังหารใต้เท้าจาง และอีกกลุ่มก็ช่วยชีวิตเขา!”หลิงอวี๋เข้าใจ “เช่นนี้ใต้เท้าจางก็จะคิดว่า จ้าวฮุยอยากจะสังหารเขาเพื่อปิดปากและจะตัดความคาดหวังที่มีต่อจ้าวฮุยไป จากนั้นก็สารภาพความผิดของจ้าวฮุยกับองค์ชายคังออกมา!”เซียวหลินเทียนพยักหน้าอย่างชื่นชม “มิเพียงเท่านี้ ข้ายังให้คนกระจายข่าวออกไปว่าใต้เท้าจางถูกจ้าวฮุยกับองค์ชายคังสังหารเพื่อปิดปากด้วย!”“นี่เพื่อข่มขวัญพวกคนที่จ้าวฮุยใช้งาน ให้พวกเขาเห็นใจกัน ต่อไปเมื่อทำงานให้จ้าวฮุยก็จะระวังตัว!”ใต้เท้าจางโกงกินเงินไปมากมายถึงเพียงนั้น ตายไปก็มิสาสมกับที่ทำเมื่อเทียบกับการเอาตัวเขาออกไปตัดหัวต่อหน้าธารกำนัลแล้ว เซียวหลินเทียนใช้การตายของเขาไปสร้างความแตกแยกพวกจ้า

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1514

    หลิงอวี๋หลับตาลงแม้ว่าการตั้งครรภ์ถึงสามเดือนจะยังมิแน่นอน แค่ได้รับความตกใจก็อาจจะทำให้แท้งได้แต่หลิงอวี๋มิเชื่อเด็ดขาดว่าการที่สุ่ยหลิงตบไปสิบครั้งจะทำให้เฝิงฉินแท้งยิ่งไปกว่านั้น เฝิงฉินสามารถติดตามขบวนเดินทางยาวนานจากสิงหยางมาถึงเมืองหลวงได้ โดยที่ตลอดทางเด็กมิเป็นอะไร ถูกตบสิบครั้งจะทำให้แท้งได้อย่างไร!แต่ตอนนี้ ลูกของเฝิงฉินมิอยู่แล้วจริง ๆ!หลิงเสียงกังยังนึกเรื่องเมื่อก่อนมิออก นี่ก็เท่ากับลูกคนแรกของเขากับเฝิงฉินเมื่อเด็กมิอยู่แล้ว นางจะมิโกรธเคืองตน นางซุนและหลิงหว่านได้อย่างไร!หลิงอวี๋ยังคิดที่จะใช้เงินมาแยกเฝิงฉินกับหลิงเสียงกังออกจากกัน ไหนเลยจะคิดว่าเฝิงฉิน...เดี๋ยวนะ!จู่ ๆ หลิงอวี๋ก็ตื่นเต้นขึ้นมา หากเฝิงฉินอยากจะมัดใจของหลิงเสียงกัง การใช้เด็กที่ยังมิเกิดมาก็เห็นได้ชัดว่าวิธีนี้อ่อนแอไปหน่อยตนยังบอกหลิงหว่านเลยว่า เด็กที่ยังมิเกิดเทียบมิได้กับนางที่สามารถพูดได้คล่องแคล่วเฝิงฉินจะต้องคาดการณ์ถึงจุดนี้ ดังนั้นจึงชิงลงมือกับตนก่อนโดยการทำให้เด็กแท้งยังมีสิ่งใดที่จะมัดใจของหลิงเสียงกังได้ดีไปกว่าความเจ็บปวดร่วมกันของการสูญเสียลูกเล่า!ดูจากตอนนี้ ควา

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1515

    คำพูดของหลิงซวนปลอบใจหลิงอวี๋ได้ทันที นางไม่มีสิ่งใดที่ผิดต่อป้าสะใภ้ใหญ่กับหลิงหว่าน และมิเคยทำเรื่องร้ายแรงหากป้าสะใภ้ใหญ่มิรับน้ำใจ และจะประนีประนอมให้ได้นางเองก็หมดหนทาง อย่างมากที่สุดก็มิเข้าไปยุ่งเรื่องของพวกเขาอีกหลายวันต่อมา เซียวหลินเทียนให้พวกจ้าวซวนไปซื้อวัวนมหลายตัวเข้ามาเลี้ยงที่คอกม้าในวังจริง ๆและด้วยเหตุนี้เขายังตั้งใจเชิญคู่สามีภรรยาที่มีความถนัดในการเลี้ยงวัวนมมาดูแลวัวเหล่านี้ด้วยหลังจากที่เซียวเยวี่ยรู้ พอเลิกเรียนก็พาเซี่ยเหวยกับฉีเต๋อมาดูวัวนมทันทีหลิงอวี๋เองก็พาพวกหลิงซวนมาดูสถานการณ์ของวัวนมเช่นกันเห็นได้ชัดว่าจ้าวซวนมีความพยายามมาก วัวนมที่ซื้อมาล้วนมีสุขภาพที่ดีมากสามีภรรยาที่ดูแลวัวนั้นสกุลหลิว อายุประมาณห้าสิบป้าหลิวรีดนมวัวไปแล้วถังหนึ่ง เซียวเยวี่ยเห็นนมวัวสีขาว ๆ ก็นึกถึงที่หลิงอวี๋บอกว่าสามารถทำอาหารดี ๆ ได้มากมาย เขาจึงมองหลิงอวี๋พลางเอ่ย“ท่านแม่ ท่านรีบทำอาหารอร่อย ๆ ให้พวกเราเถิดขอรับ เยวี่ยเยวี่ยอยากชิมอาหารเลิศรสที่ท่านแม่บอก ดูว่าจะอร่อยอย่างที่ท่านแม่บอกไว้จริง ๆ หรือไม่!”หลิงอวี๋ยิ้มพลางบีบจมูกน้อย ๆ ของเขา “เจ้าลูกแมวตะกละ วั

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1516

    เมื่อมีงานเลี้ยงนมวัวมื้อนี้ เซียวหลินเทียนก็มีความเชื่อมั่นในการผลักดันการเพาะเลี้ยงวัวนมอย่างเต็มเปี่ยมเขาให้ฉินซานหาทุ่งนาที่เหมาะกับการเพาะเลี้ยง พลางเตรียมการประชุมของแคว้นเล็ก ๆ ไปด้วยเรื่องที่ใต้เท้าจางถูกลอบสังหารที่เรือนจำกรมอาญาแพร่ออกไปแล้วจ้าวฮุยยังคิดว่าตนทำสำเร็จแล้ว แม้ว่าจะสูญเสียมือสังหารไปมิน้อย แต่สามารถกำจัดใต้เท้าจางได้ ทำให้เขาปิดปากไปตลอดกาล เช่นนี้ก็คุ้มค่าแล้วจ้าวฮุยมิรู้ว่าการตายของใต้เท้าจางทำให้ขุนนางผู้ใหญ่ที่ติดตามองค์ชายคังเกิดความรู้สึกเห็นใจพวกเดียวกันผู้ที่ฉลาดต่างก็รู้ว่าเงินที่ใต้เท้าจางยักยอกจำนวนมากไปอยู่ที่ใต้เท้าจางกับองค์ชายคัง แต่เมื่อเกิดเรื่องกับใต้เท้าจาง จ้าวฮุยกับองค์ชายคังมิเคยคิดจะช่วยเขาทั้งยังสังหารเพื่อปิดปากอีกด้วยใต้เท้าจางทุ่มเททำงานให้พวกเขา แต่กลับมิได้จบลงด้วยดี เช่นนั้นเหตุใดต้องทุ่มเทอดทนทำงานเพื่อพวกเขาอีกเล่า!กอปรกับสินสอดที่องค์ชายคังมอบให้จ้าวหรุ่ยหรุ่ยและการจัดงานแต่งงานที่หรูหราฟุ่มเฟือย สิ่งเหล่านี้หากคำนวณดูก็เป็นเงินที่ใต้เท้าจางหามาเพื่อพวกเขาอย่างยากลำบาก!สิ่งที่ยิ่งทำให้เหล่าขุนนางเหล่านี้ผิดหวังก็ค

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1517

    เป็นครั้งแรกที่องค์ชายคังรู้สึกกลัว เขามองจ้าวหรุ่ยหรุ่ยเดินเข้ามาทีละก้าวพร้อมกับตัวสั่นโดยมิรู้ตัว“เจ้า... เจ้าคิดจะทำอะไร?”องค์ชายคังลืมที่จะเรียกคนไปแล้ว พลางเอ่ยเสียงสั่น “เจ้าอย่าเข้ามานะ...”ยังมิทันที่องค์ชายคังจะพูดจบ มือที่เนียนละเอียดของจ้าวหรุ่ยหรุ่ยก็คว้าเข้าที่คอของเขา“เซียวหลินอี้ วันนี้ข้าจะสอนท่านว่าอะไรคือภรรยาเป็นใหญ่!”แต่ไหนแต่ไรมามีแต่สามีเป็นใหญ่ มีภรรยาเป็นใหญ่ที่ไหนกันแต่จ้าวหรุ่ยหรุ่ยมิได้สนใจมากมายถึงเพียงนั้น นางกล้าคิดกระทั่งการเป็นจักรพรรดินี แล้วเหตุใดจะมิกล้าพลิกแนวคิดเก่า ๆ เหล่านี้เล่า!“ท่านกินของตระกูลจ้าว ใช้ของตระกูลจ้าว ยังกล้าที่จะใส่อารมณ์กับข้า ใครให้สิทธิ์ท่าน?”จ้าวหรุ่ยหรุ่ยเอ่ยอย่างเย็นชา “ข้าจะทำให้ท่านรู้ว่าข้ามิใช่จ้าวเจินเจินคนโง่เขลานั่น ข้าไม่มีทางยอมรับความลำบากจากท่านโดยมิขัดขืน!”องค์ชายคังถูกจ้าวหรุ่ยหรุ่ยบีบคอจนหายใจมิออกและหน้าเขียวไปแล้วเขาอยากจะดิ้นรน แต่ก็ดิ้นมิหลุดจากมือของจ้าวหรุ่ยหรุ่ยทันทีที่จ้าวหรุ่ยหรุ่ยยกมือขึ้น เขาก็ถูกยกขึ้นจากพื้นจ้าวหรุ่ยหรุ่ยกับเขาอยู่ในระดับสายตาเท่ากันและมองเขาด้วยแววตาเย็นชา

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1518

    การยั่วยุขององค์ชายคังทำให้จ้าวหรุ่ยหรุ่ยหัวเราะออกมา“สังหารหลิงอวี๋จะไปยากอะไรกัน!”จ้าวหรุ่ยหรุ่ยยิ้มอย่างเย็นชา “รอให้ข้าได้ของที่ข้าต้องการจากนางก่อน ข้าย่อมต้องส่งนางไปตายอยู่แล้ว!”ที่ตัวของหลิงอวี๋มีหยกหล้าสุขาวดี นี่คือสิ่งที่คนแดนปีศาจเฝ้าปรารถนาที่จะได้มา จ้าวหรุ่ยหรุ่ยได้รู้ข่าวก็ใจเต้นขึ้นมาเช่นกันเป็นดังที่หลิงอวี๋คาดการณ์ไว้ จ้าวหรุ่ยหรุ่ยฝึกฝนอยู่ที่ดินแดนที่หกมาหนึ่งปีกว่าแล้วก็ยังมิสามารถบรรลุได้ หากได้หยกหล้าสุขาวดีมา เช่นนั้นก็จะเลื่อนขั้นขึ้นได้อย่างราบรื่นแล้วองค์ชายคังเองก็รู้มาจากไท่เฟยเส้าว่าที่ตัวของหลิงอวี๋มีของล้ำค่าอยู่ แม้ว่าเขาจะมิเข้าใจว่านั่นคือของอะไร แต่แม้แต่จ้าวหรุ่ยหรุ่ยก็อยากได้จะต้องเป็นสมบัติหายากอย่างแน่นอนเขาจึงเอ่ยออกไป “แต่ตอนนี้นับวันหลิงอวี๋ก็ยิ่งเก่งกาจขึ้นเรื่อย ๆ มีนางช่วยเซียวหลินเทียน เซียวหลินเทียนก็มีแต่จะแข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ แล้วข้าจะต้องรอไปถึงเมื่อใด!”จ้าวหรุ่ยหรุ่ยเห็นองค์ชายคังอ่อนลงแล้ว มิกล้าเรียกแสดงอำนาจต่อหน้าตนแล้วจึงเอ่ยออกไปอย่างเย็นชา “มิต้องรอนานจนเกินไป!”“ก่อนหน้านี้ข้ามิได้เห็นหลิงอวี๋อยู่ในสายตา และมิ

Latest chapter

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1930

    ก็มิรู้ว่าเพราะเหตุใดเช่นกัน!เป็นเพราะได้ยินหยางหงหนิงบอกว่าเย่หรงชอบหลิงอวี๋หรือ?หรือเป็นเพราะเมื่อครู่ได้ยินเย่หรงพูดซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าตัวเขาไร้ประโยชน์ และไม่มีอะไรดี?หรือบางทีอาจจะเป็นเพราะเคยได้ยินผู้รอบรู้เล่าเรื่องภูมิหลังของเย่หรง เมื่อหลิงอวี๋เห็นเย่หรงจึงไม่มีความระแวดระวังดังเช่นก่อนหน้านี้นี่คือคนที่น่าสงสารคนหนึ่ง!หลิงอวี๋มองใบหน้าที่คุ้นเคยนั้นแล้วเอ่ยขึ้นมาอย่างประหม่า “คุณชายเย่ ข้ามิได้ตั้งใจจะแอบฟัง ข้าแค่ผ่านมา… แค่ผ่านมาเท่านั้นเอง!”เย่หรงจ้องมองนางอย่างดุร้าย และเมื่อเห็นท่าทางตื่นตระหนกของศิษย์น้อยของเย่ซื่อฝาน ดูมิคล้ายกับพูดโกหกอยู่ เขาก็เอ่ยถามอย่างมิคาดคิด “เจ้าดื่มสุราเป็นหรือไม่?”เอ๊ะ นี่คือคำถามอะไรกัน?“มินับว่าดื่มเป็นเจ้าค่ะ!” หลิงอวี๋เอ่ยด้วยความเขินอายนางมิรู้ด้วยซ้ำว่าตนสามารถดื่มได้มากแค่ไหน แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าดื่มเป็นหรือไม่“ไป ข้าจะเลี้ยงสุราเจ้าเอง!”เย่หรงมิพูดพร่ำทำเพลง แล้วเดินเข้ามาคว้าแขนของหลิงอวี๋เดินไป“คุณชายเย่ ข้าไปดื่มกับท่านมิได้เจ้าค่ะ!”หลิงอวี๋ตกใจ แล้วก็ดิ้นรนพลางเอ่ยออกมาแม้แต่คนตาบอดก็ยังมองเห็นชัดเจนว่

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1929

    เย่ซื่อฝานทำการสอนหลิงอวี๋เป็นเวลาครึ่งวันแล้วก็กังวลว่า นางจะมิสามารถดูดซับความรู้ไปได้ทั้งหมด ในเวลาที่เหลือจึงปล่อยให้หลิงอวี๋ทำความคุ้นเคยกับเครื่องยาสมุนไพรด้วยตนเองหลิงอวี๋จึงขออนุญาตจากเย่ซื่อฝาน เรียนรู้อยู่ในห้องปรุงโอสถของเย่ซื่อฝานไปในตอนอาหารเที่ยง เย่ซื่อฝานก็ชวนหลิงอวี๋ไปกินข้าวด้วยกัน แต่หลิงอวี๋ปฏิเสธ บอกว่าตนมีอาหารแห้งมาแล้วเย่ซื่อฝานหมดคำพูดไปเลย เขาคำนึงถึงหลิงอวี๋ว่าเป็นเพราะความภาคภูมิใจในตนเองอาจทำให้เกิดปัญหา จึงมิอยากกินอาหารร่วมกับคนตระกูลเย่ เขาจึงให้คนรับใช้นำอาหารกลางวันไปให้หลิงอวี๋เพียงลำพังหลิงอวี๋ยืมใช้เตากลั่นโอสถของเย่ซื่อฝาน แล้วทำการกลั่นโอสถเสริมพลังวิญญาณไปสองเตา แต่มีอัตราความสำเร็จเพียงสี่ส่วนเท่านั้นนี่เป็นเพราะว่าพลังของหลิงอวี๋ในตอนนี้มิเพียงพอ จึงทำให้หลิงอวี๋ยิ่งมุ่งมั่นที่จะดึงเข็มเงินออกมากขึ้นหลิงอวี๋นำโอสถไปเพียงขวดเดียว ส่วนที่เหลือก็ถือเป็นการชดเชยการใช้เครื่องยาสมุนไพรของเย่ซื่อฝานไปเสียนอกจากนี้ หลิงอวี๋ยังใช้เครื่องยาสมุนไพรของเย่ซื่อฝานทำสองสิ่งด้วย นั่นก็คือจัดเตรียมเป็นยาพิษหนึ่ง และยาแก้พิษอีกหนึ่งนางพูดไปแล้วว่

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1928

    กระทั่งผู้รอบรู้ฝ่าฝนกลับเข้ามา เขาก็เห็นหลิงอวี๋กำลังนั่งอยู่บนธรณีประตูที่ถูกทำลาย พร้อมทั้งมีห่อสัมภาระเล็ก ๆ สองห่อวางอยู่ข้างกาย“น้องหญิง… มันเกิดอะไรขึ้น? ใครเป็นคนทำ?”เมื่อผู้รอบรู้เห็นประตูใหญ่ถูกทำลายไป เขาก็เอ่ยถามด้วยความประหลาดใจ“ท่านพี่ เราอยู่ที่นี่มิได้แล้ว! คืนนี้พวกเราไปอยู่ที่โรงเตี๊ยมกันก่อน แล้ววันพรุ่งค่อยคิดหาทางกันเถิด!”หลิงอวี๋ยืนขึ้นอย่างสงบ แล้วยื่นสัมภาระห่อหนึ่งให้กับผู้รอบรู้เมื่อผู้รอบรู้เห็นความยุ่งเหยิงและเรือนที่ถูกฝนซัดสาด อีกทั้งหลังคาที่พังทลาย เขาก็เข้าใจทุกอย่างในทันที“เหมียวหยางทำหรือ?”“อืม! ไม่มีทางเป็นผู้อื่นนอกจากเขา!”หลิงอวี๋ยิ้มเยาะแล้วเอ่ยออกไป “ท่านพี่ พวกเราไปกันเถิด! ภายในสิบวัน ข้าจะทำให้เหมียวหยางควักเงินออกมาสร้างบ้านของเราใหม่ให้จงได้!”ผู้รอบรู้ตะลึงไปครู่หนึ่ง แล้วมองไปทางหลิงอวี๋แล้วเขาก็เห็นใบหน้าของนางที่ถูกชะล้างด้วยฝนนั้น เต็มไปด้วยความเย็นชาและความมุ่งมั่น“เจ้าจะทำกระไร?”ผู้รอบรู้มิได้คลางแคลงใจว่าหลิงอวี๋กำลังโอ้อวดหรือไม่ เขามองออกอยู่แล้วว่าที่หลิงอวี๋มั่นใจเช่นนี้นางจะต้องคิดวิธีดี ๆ ออกแล้วแน่นอน“

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1927

    ผลลัพธ์ก็คือ หลังจากทดลองไปหนึ่งคืนหลิงอวี๋ได้กลั่นไปแล้วสามเตา และอัตราความสำเร็จสูงที่สุดในการกลั่นโอสถคือเจ็ดส่วนแต่นางก็พอใจแล้ว เนื่องจากนี่เป็นครั้งแรกในการกลั่นโอสถของตน มีอัตราความสำเร็จสูงถึงเพียงนี้ก็นับว่าดีแล้วเมื่อเห็นว่าฟ้าสางแล้ว หลิงอวี๋ก็รีบอาบน้ำและทำอาหารเช้า กระทั่งผู้รอบรู้ตื่นขึ้นมา นางก็นำโอสถที่กลั่นออกมาได้ให้เขาไปขาย และซื้อเครื่องยาสมุนไพรบางส่วนกลับมาอีกหลิงอวี๋วางแผนจะกลั่นโอสถเสริมพลังวิญญาณในคืนนี้แต่สิ่งที่ทำให้หลิงอวี๋และผู้รอบรู้คาดมิถึงก็คือ หลังจากที่ทั้งสองคนออกจากบ้านไป ก็มีกลุ่มคนเข้ามา และเตะประตูเปิดออกอย่างโหดร้าย จากนั้นก็ทุบทำลายเรือนที่พวกเขาสองคนซ่อมแซมกันมาอย่างยากลำบากจนพังยับเยินเตากลั่นโอสถก็ถูกทำลายไปเช่นกัน และเครื่องยาสมุนไพรที่เหลือก็ถูกทำลายไปด้วยวันนี้หลิงอวี๋เรียนครึ่งวัน นางพะวงเรื่องการกลั่นโอสถจึงกลับมาก่อน แต่เดินไปได้ครึ่งทางฝนก็โปรยปรายลงมาแล้วหลิงอวี๋จึงรีบวิ่งไปอย่างรวดเร็ว แต่ไปถึงแค่ปากตรอก ฝนก็ตกหนักขึ้นเรื่อย ๆ หลิงอวี๋จึงเปียกโชกเป็นลูกหมาตกน้ำไปในชั่วพริบตาจากนั้นนางก็เร่งฝีเท้าไป และขณะที่กำลังวิ่งอ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1926

    เรื่องเกี่ยวกับราชวงศ์ในเมืองหลวงแดนเทพและตระกูลใหญ่ทั้งหลายนั้น ผู้รอบรู้บอกหลิงอวี๋ไว้หมดแล้วนับตั้งแต่มหาเทพหลงอี้ก่อตั้งแดนเทพขึ้นมา ตระกูลหลงก็ปกครองมาเป็นเวลาแปดร้อยปีแล้วก่อนหน้านี้มีหลงอี้คอยสนับสนุนตระกูลหลงอยู่ ดังนั้นแม้ว่าจะมีคนมิพอใจ แต่พวกเขาก็ล้วนถูกอำนาจเทพของหลงอี้กดขี่ไว้ ทำให้มิสามารถต่อต้านได้แต่ตอนนี้หลงอี้อาจจะไม่มีชีวิตอยู่แล้ว บรรดาตระกูลใหญ่ที่ถูกกดขี่ไว้เหล่านี้ ผู้ใดจะยอมทนให้ตระกูลหลงกดหัวทุกคนไว้กันเล่า?จากการพัฒนามาหลายร้อยปี ตระกูลใหญ่เหล่านี้ล้วนร่ำรวยพอที่จะเป็นศัตรูกับแผ่นดินได้แล้ว มีลูกหลานอยู่ตั้งมากมาย หากตระกูลใดได้นั่งอยู่ในตำแหน่งนั้น ก็หมายถึงการเปลี่ยนอำนาจ มีเกียรติยศรุ่งเรืองไร้ขีดจำกัด และสามารถกำหนดกฎเกณฑ์ได้เองยามนี้ที่ยังอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข นั่นก็เป็นเพราะตระกูลใหญ่เหล่านี้กำลังรอโอกาสอยู่ก่อนที่พายุจะมาถึง สำนักต่าง ๆ ล้วนรับสมัครคนที่มีความสามารถกันอย่างกระตือรือร้น และการกระทำเช่นนี้ของตระกูลหลงนั้น ก็เพียงเพื่อสร้างความมั่นคงให้กับอำนาจปกครองของตนเองเท่านั้นหลิงอวี๋มิได้สนใจการต่อสู้ภายในเหล่านี้นัก แต่นางกลับถูกดึงเ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1925

    ขณะที่หลิงอวี๋กำลังจะออกไป จู่ ๆ นางก็นึกถึงบางอย่างขึ้นมา จึงเอ่ยถามออกไป “คุณหนูหลง เจ้าประสบความสำเร็จในเรื่องนั้นแล้วหรือไม่?”เมื่อหลงอิงได้ยินเช่นนั้น นางก็รู้ทันทีว่าหลิงอวี๋ถามนางว่าฮูหยินผู้เฒ่าเฉียวชอบนางแล้วหรือไม่ การที่นางเอาชนะจ้าวหรุ่ยหรุ่ยได้ในครั้งนี้ ทั้งยังกลายเป็นคนที่ได้รับความนิยมในสำนักด้วย ซึ่งเป็นผลอันเนื่องมาจากความเสียสละของหลิงอวี๋หลงอิงยังมีจุดที่ต้องใช้หลิงอวี๋อยู่ จึงขยับตัวไปกระซิบที่ข้างหูนาง “สำเร็จไปกึ่งหนึ่งแล้ว ฮูหยินผู้เฒ่าเฉียวชอบข้ามาก แต่จ้าวหรุ่ยหรุ่ยเจ้าเล่ห์นั่น มิรู้ว่าใช้กลอุบายอะไรเข้าไปอยู่ในตระกูลเฉียว!”“ผู้ที่อยู่ใกล้ก็ย่อมได้ประโยชน์ก่อนผู้อื่น ข้ากังวลว่านางจะใช้คำพูดสวยหรูมาหลอกลวงฮูหยินผู้เฒ่า ทำให้ฮูหยินผู้เฒ่าไปเข้าข้างนางอีก!”“เฮ้อ มิรู้ว่าเฉียวไป๋รู้สึกอย่างไรกับข้าด้วย ช่างเฉยเมยนัก!”“จริงสิ มีคุณหนูตระกูลเก๋อคนหนึ่ง นางก็ไปตระกูลเฉียวทุกวันเช่นกัน ว่ากันว่านางเป็นผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตเฉียวไป๋ไว้!”“เฮ้อ ชีวิตข้าช่างขมขื่นเหลือเกิน เหตุใดจึงมีศัตรูหัวใจมากมายถึงเพียงนี้!”ตระกูลเก๋อหรือ? คุณหนูที่หลงอิงพูดถึงผู้นี้

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1924

    หลิงอวี๋อยู่ในห้อง นางกินโอสถเสริมพลังวิญญาณไปห้าเม็ดในคราวเดียว หลังจากที่นางประสบกับความเจ็บปวดอย่างแสนสาหัสไป เข็มเงินในท้องน้อยส่วนล่างสุดก็ถูกบีบออกจากในร่างกายของนางหลิงอวี๋รู้สึกเพียงว่า ทันทีที่เข็มเงินออกจากร่างกายไป ภายในตันเถียนก็มีกระแสลมก็พุ่งขึ้นมา ราวกับเขื่อนที่ระบายน้ำออกมา แล้วแรงดันที่มีพลังมหาศาลก็ไหลเข้าสู่ตันเถียนของนางความเจ็บปวดที่ตามมานั้นรุนแรงเป็นอย่างมาก แรงจนไม่มีอะไรหยุดยั้งได้ หลิงอวี๋ที่ถูกโจมตีกะทันหันเช่นนั้นจึงมิสามารถทนรับไหว และหมดสติไป“น้องหญิง… น้องหญิง เจ้าตื่นได้แล้ว!”หลิงอวี๋เองก็มิรู้ว่าตนหมดสติไปนานแค่ไหน เมื่อนางตื่นขึ้นมาก็เห็นแววตาที่ทั้งกังวลและทุกข์ใจของผู้รอบรู้แล้ว“เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง?”ผู้รอบรู้เห็นว่าหลิงอวี๋มองตนอย่างสับสน เขาจึงเอ่ยอย่างปวดใจ “รู้สึกแย่มากใช่หรือไม่?”หลิงอวี๋มองผ่านเขาไปเห็นหน้าต่าง และด้านนอกหน้าต่างนั้นดวงอาทิตย์ขึ้นแล้ว“ท่านพี่ ข้าสลบไปทั้งคืนเลยหรือ?”หลิงอวี๋เอ่ยถามอย่างมิอยากจะเชื่อ“อืม ข้าตกใจแทบแย่ นึกว่าเจ้าจะตายไปเช่นนี้เสียแล้ว! หากมิใช่ว่าข้าเห็นว่าเจ้ามิได้รับบาดเจ็บอะไร ข้าก็คงจะแบกเ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1923

    หลิงอวี๋กอดโอสถสร้างรากฐานปราณและตำราบำเพ็ญตนออกจากบ้านตระกูลเย่ไปตลอดทางนั้นนางก็ได้แต่กังวล เพราะว่าตนถูกผนึกไว้จึงได้สูญเสียพลังไปเช่นนั้นหากฝึกฝนตามวิธีที่เย่ซื่อฝานสอนไว้ แล้วจะเกิดประโยชน์หรือ?หากนางมิสามารถเรียนการบำเพ็ญพลังวิญญาณได้ เย่ซื่อฝานจะผิดหวังในตัวนาง และยอมแพ้กับศิษย์เช่นนางหรือไม่?นางเดินกลับไปที่เรือนเล็กของตนอย่างมิรู้จะทำอย่างไร ผู้รอบรู้กลับมาถึงเรือนก่อนแล้ว เมื่อเขาเห็นหลิงอวี๋เดินเข้ามาด้วยใบหน้าเคร่งเครียด จึงเอ่ยถามด้วยความกังวล“น้องหญิง เกิดเรื่องอันใดขึ้น? เย่ซื่อฝานเปลี่ยนใจ มิยอมรับเจ้าเป็นศิษย์แล้วหรืออย่างไร?”“มิใช่!”หลิงอวี๋ส่ายหัว แล้วบอกผู้รอบรู้เรื่องที่เย่ซื่อฝานให้ตนเรียนการบำเพ็ญตนเมื่อผู้รอบรู้ได้ยินเช่นนั้น เขาก็เอ่ยออกมาอย่างมิเห็นด้วยนัก “เจ้าก็บอกเขาไปเถิดว่ามีคนปิดผนึกเจ้าไว้ พลังของเขาก็มิได้ต่ำ เขาน่าจะมีวิธีช่วยปลดผนึกให้เจ้าได้นะ!”หลิงอวี๋ยิ้มขมขื่น “พี่ใหญ่ ข้ามิกล้าบอกเขาหรอก! หากเขาถามข้าว่าใครเป็นคนปิดผนึกข้า ข้าจะอธิบายอย่างไรเล่า?”“นอกจากนี้ ข้าก็กังวลด้วยว่าหากมีคนรู้เรื่องนี้มากเกินไป มันจะดึงดูดศัตรูของข้าเ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1922

    “ท่านอาจารย์ ไป๋จื่อมิใช่กุญแจสำคัญของการทำยาหรอกเจ้าค่ะ แต่เป็นน้ำต่างหาก!”หลิงอวี๋ตอบออกไปอย่างอดทน “ในตอนที่ข้าระบุส่วนผสมยา ข้าพบว่าในโอสถชะลอวัยนั้นมีน้ำตะกั่วอยู่เจ้าค่ะ!”“ที่จริงแล้วสารตะกั่วนี้มิสามารถนำไปใช้ในเครื่องสำอางได้ แม้ว่ามันจะมีผลในการส่งเสริมการดูดซึมของเครื่องยาสมุนไพรตัวอื่น ๆ เข้าสู่ผิวหนังได้ แต่ตัวมันเองก็เป็นพิษเช่นกันเจ้าค่ะ!”หลิงอวี๋บอกสิ่งที่ตนรู้เกี่ยวกับสารตะกั่วให้เย่ซื่อฝานฟัง เมื่อเย่ซื่อฝานฟังแล้วก็พยักหน้าซ้ำ ๆแวดวงปรุงโอสถรู้เพียงแค่ผลการส่งเสริมการดูดซึมของสารตะกั่วมาโดยตลอด แต่กลับรู้อันตรายของสารตะกั่วเพียงผิวเผินเท่านั้นเมื่อเครื่องยาสมุนไพรที่เลือกใช้กับสารตะกั่วขัดขวางกันและกัน อัตราความสำเร็จในการทำยานั้นก็ย่อมต่ำลงเป็นธรรมดาหลิงอวี๋เลือกใช้เพียงแค่น้ำเปล่า และทิ้งสารตะกั่วไป เมื่อเป็นเช่นนี้น้ำเปล่าก็จะมิสามารถขัดขวางสรรพคุณของเครื่องยาสมุนไพรได้ และอัตราความสำเร็จในการทำยาก็จะสูงขึ้น“เช่นนั้นเหตุใดเจ้าจึงเติมน้ำปูนใสลงไปในโอสถสมานแผลเล่า?”เย่ซื่อฝานลืมตัวไปเสียสิ้นว่าตัวตนของเขากับหลิงอวี๋ในตอนนี้สลับกันอยู่ น้ำเสียงของเขาคล

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status