การประทานสมรสหลายคนเช่นนี้ทำให้ฮูหยินฉินแม่ของฉินซานก็ตื่นเต้นมาก ๆ ไปด้วย นางจึงจงใจคุยกับฉินซานในคืนหนึ่งฉินซานถูกแม่โน้มน้าวมิยอมหยุด ในที่สุดก็ตกลงแต่งงาน ฮูหยินฉินได้รับการยินยอมจากลูกชายก็ไปหาแม่สื่อหลายคนมาหาคนจับคู่ให้กับฉินซานมาตรฐานของนางลดลงแล้ว ขอเพียงสตรีที่มีภูมิหลังครอบครัวดีและมีความประพฤติดีมาเป็นภรรยาของฉินซานหานอวี้ได้รับรู้ข่าวนี้ก็ร้อนใจแทนพี่สาว จึงไปหาหลิงอวี๋เพื่อพูดเรื่องนี้แทนพี่สาวหลิงอวี๋ทำใจปล่อยให้หานเหมยไปมิได้ แต่เพื่อการแต่งงานของหานเหมย แม้ว่านางจะทำใจมิได้ก็ทำได้เพียงยอม นางจึงเรียกหานเหมยมาซักถามถึงความคิดที่จะแต่งงานกับฉินซานเสียก่อนไหนเลยจะรู้ว่าหานเหมยจะเอ่ย “ฮองเฮา หานเหมยมิอยากแต่งงานกับเจ้ากรมฉินเพคะ!”“เหตุใดเล่า? ฉินซานมิดีหรือ?”หลิงอวี๋สับสนหานเหมยส่ายหน้า “เรื่องคุณสมบัติของเจ้ากรมฉินนั้นมิอาจพูดได้ ตอนนี้หานเหมยเองก็รู้สึกว่าคู่ควรต่อเจ้ากรมฉิน แต่ฮูหยินฉินมิเหมาะที่จะเป็นแม่สามีของหานเหมยเพคะ!”ตอนนี้หานเหมยเป็นผู้ช่วยของหลิงซวนกับเถาจื่อ และมีตำแหน่งเป็นรองหัวหน้า เป็นขุนนางระดับแปด หลุดพ้นจากการเป็นทาสแล้วขอเพียงนางทำง
เมื่อประทานสมรสแล้ว งานอภิเษกสมรสขององค์ชายคังและองค์ชายรุ่ยจึงได้เตรียมการและกำหนดวันไว้อย่างรวดเร็วมิรู้ว่าองค์ชายคังคิดจะใช้โอกาสนี้รวบรวมกำลังพลใหม่ หรือว่าตั้งใจจะให้ความสำคัญกับพระชายาคังคนใหม่กันแน่ สินสอดทองหมั้นจึงอุดมสมบูรณ์เป็นพิเศษจนเกือบจะเป็นทรัพย์สินครึ่งหนึ่งของตำหนักองค์ชายคังแล้ววันส่งมอบสินสอดมีหาบถึงหนึ่งร้อยยี่สิบหาบ และใช้เวลาหาบไปหลายชั่วยาม ขบวนที่ยิ่งใหญ่ดึงดูดความสนใจของราษฎรในเมืองหลวงจนการสัญจรติดขัดอยู่ครึ่งวันเลยทีเดียวความร่ำรวยขององค์ชายคังมากพอที่จะทำให้ผู้คนอิจฉา และจ้าวหรุ่ยหรุ่ยผู้ได้รับสินสอดทองหมั้นก็ยิ่งเป็นสตรีที่จุดรวมความอิจฉาหลิงอวี๋มิรู้เรื่องนี้ เพิ่งจะรู้ตอนไปกินอาหารเย็นแล้วได้ยินพวกนางกำนัลซุบซิบเรื่องนี้กันนางกำนัลเหล่านั้นมิรู้ว่าหลิงอวี๋มาแล้วจึงรวมตัวกันซุบซิบนินทา“ได้ยินว่าคุณหนูรองจ้าวผู้นี้งดงามยิ่งกว่าพี่สาวอีก เป็นคนที่งดงามจนพระจันทร์ต้องหลบ ดอกไม้ละอาย และปลาตกใจจนลืมว่ายน้ำไปจริง ๆ!”“องค์ชายคังโชคดีจึงได้แต่งงานกับนาง!”นางกำนัลอีกคนก็หัวเราะพลางเอ่ย “เกิดมางดงามก็เป็นข้อได้เปรียบ! แต่ก็ต้องดูที่ฝ่ายบุรุษด้วยว่า
เซียวหลินเทียนมากินอาหารด้วย หลิงอวี๋ก็โกรธเขาอย่างประหลาดเพราะเรื่องนี้ เอาแต่ถามคำตอบคำกับเซียวหลินเทียนต่างจากก่อนหน้านี้ ทั้งยังก้มหน้าก้มตากินในส่วนของตนด้วยใบหน้าเย็นชา“อาอวี๋ วันนี้เป็นอะไรไปหรือ? มิสบายหรือไม่?”เซียวหลินเทียนทำตัวมิถูก แต่ก็ยังเอ่ยถามอย่างเอาใจ“เปล่าเพคะ!”หลิงอวี๋เอ่ยเท่านี้แล้วกินต่อ“เช่นนั้นผู้ใดทำให้เจ้าขุ่นเคืองหรือ? หรือว่าไท่เฟยเส้า?”เซียวหลินเทียนเอ่ยถามด้วยใบหน้ายิ้มแย้มหากไท่เฟยเส้ากล้ามาทำให้หลิงอวี๋ลำบากใจอีก เซียวหลินเทียนตัดสินใจว่าจะมิไว้หน้าองค์ชายคังอีกแล้ว จะบังคับให้ส่งไท่เฟยเส้าไปที่ศาลบูรพกษัตริย์“เปล่าเพคะ!”หลิงอวี๋กลายเป็นคนถามคำตอบคำ ตอบมาเพียงคำเดียวมิพูดไปมากกว่านั้นเซียวหลินเทียนประหลาดใจกับสิ่งนี้ มิได้มีผู้ใดทำให้นางขุ่นเคือง และนางก็มิได้ป่วย เช่นนั้นเหตุใดวันนี้หลิงอวี๋จึงเปลี่ยนไปอย่างน่าแปลกเช่นนี้เล่า!เขากวาดสายตามองไปที่หลิงซวนกับเถาจื่อที่รับใช้อยู่ด้านข้าง หลิงซวนกับเถาจื่อก็แสร้งมิเห็นและเบือนหน้าหนีพวกนางเป็นนางรับใช้ของหลิงอวี๋ เจ้านายก็คือหลิงอวี๋ พวกนางจะมิเปิดเผยเรื่องของเจ้านายตนเซียวหลินเทียน
ความมิสบายใจของหลิงอวี๋มาเร็วก็ไปเร็วมินานนางก็คิดได้เองแล้วว่าตนมิใช่เจ้าของร่าง เหตุใดต้องกังวลเรื่องสินสอดที่ได้รับแทนเจ้าของร่างด้วยเล่า!นางกับเซียวหลินเทียนจะเดินไปด้วยกันได้หรือไม่ก็ยังมิรู้ กังวลเรื่องของนอกกายเหล่านั้นไปจะมีประโยชน์อันใด!หลิงอวี๋กินอาหารเสร็จก็ไปหาเซียวเยวี่ยเซี่ยเหวยถูกรับเข้ามาในวังแล้วและอยู่คนละตำหนักกับเซียวเยวี่ยแรกเริ่มหลิงอวี๋ก็อยากให้เซี่ยเหวยรู้สถานะของตนให้ชัดเจน ดังนั้นตอนที่เซียวเยวี่ยเสนอให้เซี่ยเหวยกับเขาอยู่ที่ตำหนักองค์รัชทายาทด้วยกันจึงถูกหลิงอวี๋ปฏิเสธไปนางมิสามารถให้ใจของเซี่ยเหวยเติบโตมากขึ้นได้ กฎที่ควรจะดูแลก็ควรดูแลไว้ทางด้านเซียวเยวี่ยได้เรียนความรู้ต่าง ๆ อย่างเป็นระบบแล้ว เซียวหลินเทียนยังได้เชิญอาจารย์ด้านวรยุทธ์มาให้เขาด้วย เด็กน้อยมิได้รู้สึกว่าการเรียนเหล่านี้น่าเบื่อและเรียนอย่างสนุกสนานหลิงอวี๋เห็นว่าทุกสิ่งทุกอย่างของเขาเป็นไปด้วยดีจึงกลับพระตำหนักคุนหนิง ให้หลิงซวนกับเถาจื่อเฝ้าหน้าประตูไว้แล้วหลิงอวี๋ก็เข้าไปในมิติเพื่อกลั่นโอสถเซียนที่จะทำให้เซียวหลินเทียนได้พัฒนาการฝึกฝนพลังวิญญาณตอนนี้นางฝึกฝนในดินแดนห้า
เซียวหลินเทียนมองอยู่นิ่ง ๆ และมิคิดที่จะช่วยการกระทำเช่นนี้ทำให้หลิงอวี๋เย็นชาไปทันทีอย่างมิต้องสงสัย นางมิได้รู้สึกว่าตนทำผิดไปเลยนางมีความลับก็เพื่อปกป้องตนเอง โอสถเซียนที่กลั่นออกมาก็มอบให้เซียวหลินเทียนอย่างมิเห็นแก่ตัว แล้วเซียวหลินเทียนมีสิทธิ์อะไรถึงกล้าทำท่าทีเช่นนี้ใส่ตน?ขอถามว่าสิ่งที่นางทำเพื่อเขายังมิพอหรือ?มิว่าเรื่องอะไรก็เป็นห่วงแทนเขา เรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ในวังนี้มิใช่เรื่องที่นางชอบทำเลยสักนิด แต่นางก็อดทนทำไปก็เหมือนกับที่ป้าสะใภ้ใหญ่ทำเพื่อหลิงเสียงกัง อุทิศตนอยู่เบื้องหลังอย่างเงียบ ๆ แต่หลิงเสียงกังลืมอดีตและลบล้างความยากลำบากของนางไปทั้งหมดตอนนี้เซียวหลินเทียนก็เช่นกัน เขายังมิได้สูญเสียความทรงจำก็ลืมสิ่งที่ตนทำเพื่อเขาแล้ว เอาแต่จับจ้องตนเมื่อมีเรื่องปิดบังเล็กน้อยก็ชักสีหน้าใส่ตนเช่นนี้คู่ควรกับที่ตนทุ่มเทไปหรือ?หลิงอวี๋โยนโอสถเซียนเข้าไปในมิติ แล้วตะโกนไปข้างนอก “หลิงซวน เรียกขันทีน้อยเซี่ยมาดูแลให้องค์จักรพรรดิไปพักผ่อนที่ตำหนักอื่น!”หลิงซวนที่อยู่ด้านนอกได้ยินดังนั้นก็ตะลึงไปครู่หนึ่ง พลางมองไปทางเถาจื่ออย่างทำตัวมิถูกเมื่อครู่หลิงอวี๋ยังเ
ยามทะเลาะย่อมไม่มีคำพูดที่ดี หลิงอวี๋มีหรือจะมิรู้เหตุผลข้อนี้ แต่นางก็ยังยืนกรานที่จะพูดเช่นนี้นางจะดูว่าขีดจำกัดความอดทนของเซียวหลินเทียนที่มีต่อตนจะอยู่ที่ใด...จิตใจของจักรพรรดิยากแท้หยั่งถึง!เมื่อก่อนเซียวหลินเทียนอดทนกับตนได้ มิได้หมายความว่าเป็นจักรพรรดิแล้วจะทนได้เข้าใจตั้งแต่เนิ่น ๆ เพื่อหลีกเลี่ยงในวันหนึ่งตนต้องตายไปอย่างมิเข้าใจ!“หลิงอวี๋ เจ้าไม่มีเหตุผล!”เซียวหลินเทียนถูกบีบจนทั้งหงุดหงิดทั้งโกรธ เขามิได้มีความคิดที่จะประหารนางเสียหน่อย!เขาแค่มิชอบความรู้สึกถูกปิดบัง!“เจ้าอย่าเปลี่ยนเรื่อง! หากเจ้ามิได้มีเรื่องที่มิอาจให้ผู้ใดรู้ได้ปิดบังข้าอยู่ เหตุใดจึงมิอาจพูดกับข้าให้ชัดเจนได้?”เซียวหลินเทียนร้อนใจจนพูดความสงสัยในใจออกมา“ทักษะการแพทย์ของเจ้ามาได้อย่างไร? อย่าใช้คำที่โกหกผู้อื่นมาโกหกข้าอีก!”“คนผู้หนึ่งจะเปลี่ยนแปลงได้มากถึงเพียงนี้ได้อย่างไร? หลิงอวี๋เมื่อก่อนโง่เขลาเบาปัญญา แต่ตอนนี้เจ้าเฉลียวฉลาด!”“อีกอย่าง เจ้ามีความรู้เรื่องการบริหารแคว้นมากถึงเพียงนี้ได้อย่างไร ลูกรอกที่โจมตีเมืองในตอนแรกนั้นเจ้าไปเรียนมาจากที่ใด?”คำถามเหล่านี้ทำให้ใจของหล
เซียวหลินเทียนกับหลิงอวี๋เริ่มต้นสงครามเย็นกันแล้วเซียวหลินเทียนมิเป็นฝ่ายไปกินข้าวกับหลิงอวี๋อีก หลิงอวี๋ก็ย่อมไม่มีทางส่งคนไปเชิญเขาเป็นเช่นนี้เพียงวันสองวันก็ยังไม่มีผู้ใดสังเกต แต่เมื่อเป็นติดต่อกันเช่นนี้หลายวัน อย่าว่าแต่คนที่อยู่ข้างกายเซียวหลินเทียนที่พบความผิดปกติ แม้แต่ไท่เฟยเส้าเองก็พบความผิดปกติเช่นกัน“เหอะ ๆ จะต้องเป็นเรื่องการคัดเลือกสนมแน่ ๆ ที่ทำให้เกิดช่องว่างระหว่างสองคนนั้น!”ไท่เฟยเส้าแอบยินดี นางส่งคนไปให้สัญญาณกับกุ้ยเหรินทั้งสองให้ฉวยโอกาสตอนนี้ทันที ขอเพียงเซียวหลินเทียนยอมรับหนึ่งในนั้น พวกจ้าวฮุยก็สามารถเอ่ยเรื่องการคัดเลือกสนมขึ้นมาได้อีกครั้งทันทีที่อู๋จื่อผิงได้ยินว่าองค์จักรพรรดิกับฮองเฮาขัดแย้งกันก็ตื่นเต้นขึ้นมาทันทีเมื่อก่อนตอนที่อยู่ตำหนักอ๋องอี้นางยังคิดอยู่เลยว่า หากเซียวหลินเทียนเป็นจักรพรรดิ ตนก็จะได้รับแต่งตั้งเป็นสนมเอกได้ ไหนเลยจะคิดว่าหลังจากเข้าวังมาแล้วจะเป็นกุ้ยเหรินก่อนหน้านี้นางคิดอยู่ตลอดว่า จะหาโอกาสไปปรนนิบัติเซียวหลินเทียน แต่ก็จนใจที่เซียวหลินเทียนมิเคยเรียกไปปรนนิบัติเลย กฏในวังหากไม่มีการเรียกก็มิสามารถเป็นฝ่ายไปถวายตัว
อู๋จื่อผิงเซไปเซมา ในช่วงนี้ทางเดินทั้งสองด้านล้วนเป็นสระน้ำ และเพื่อความงดงามในการชมดอกบัว รั้วโดยรอบจึงทำถึงแค่เอวเท่านั้นอู๋จื่อผิงพุ่งไปตรงรั้วท่ามกลางความตื่นตระหนก หรืออาจจะเพราะแรงเกินไป ทำให้นางข้ามผ่านรั้วแล้วตกลงไปในสระน้ำเกิดเสียงตู้มดังขึ้น จากนั้นนำในสระก็กระจายตามที่อู๋จื่อผิงตก อู๋จื่อผิงตกลงไปในน้ำทั้งตัวเซียวหลินเทียนตะลึงอยู่ครู่หนึ่งแล้วหัวเราะออกมานี่มันตลกเกินไปแล้ว!เขามิสามารถควบคุมตนเองได้ เขาคาดมิถึงว่าจะมีคนโง่ถึงขั้นนี้ เพียงทักทายก็สามารถพาตนเองไปอยู่ในสระน้ำได้จ้าวซวนกับพวกลู่หนานก็อยากจะขำ แต่ก็พยายามอดกลั้นไว้ถึงอย่างไรนางก็เป็นสตรีขององค์จักรพรรดิ เมื่อเกิดเรื่องแล้วพวกเขาหัวเราะจะมิเหมาะสม“ช่วยด้วย!”“ช่วยด้วย! ฝ่าบาทรีบช่วยกุ้ยเหรินอู๋ด้วยเถิดเพคะ!”เฉี่ยวเอ๋อร์ตะโกนอย่างตกใจจ้าวซวนจึงได้สติแล้วรีบให้องครักษ์ผู้หนึ่งไปหาแม่นมสองคนมาช่วย ตนก็รีบไปดูว่าข้าง ๆ มีไม้ไผ่หรือไม่ เมื่อหาไม้ไผ่เจอก็ยื่นไปในน้ำให้อู๋จื่อผิงจับไว้ก่อนอู๋จื่อผิงอยากจะแสร้งเป็นลมให้ได้รับความเห็นใจจากเซียวหลินเทียน ไหนเลยจะคิดว่าสระน้ำจะหนาวเข้ากระดูกเช่นนี้
หลิงอวี๋กวาดสายตาผ่านผ้าคลุมหน้าไปรอบ ๆ ทั่วทั้งสถานที่ล้วนเป็นญาติสนิทมิตรสหายของพวกเขา พวกเขาเป็นพยานในการเริ่มต้นชีวิตใหม่ของตนกับเซียวหลินเทียนนับตั้งแต่นี้ไป นางมิใช่วิญญาณที่หลงทางจากโลกอื่นอีกแล้ว นางเป็นส่วนหนึ่งของฉินตะวันตกอย่างแท้จริงแล้ว“คารวะบุพการี...”หลิงอวี๋คารวะไปตามเสียงของท่านอ๋องเฉิง“สามีภรรยาคารวะกันและกัน!”หลิงอวี๋จับผ้าสีแดงที่อยู่ในมือแล้วหันไปทางเซียวหลินเทียนร่างสูงใหญ่นั้นเห็นเพียงแค่รูปร่างแต่นางรู้ว่าต่อไปคนผู้นี้จะเป็นที่พึ่งให้ตนได้แม้ว่าในภายภาคหน้าจะมีการทะเลาะเบาะแว้ง หรือมีเรื่องขัดแย้งกัน แต่นางก็เชื่อว่าพวกเขาจะต้องใช้ชีวิตของพวกเขาได้อย่างดี!นางคำนับลงไปเซียวหลินเทียนมองหลิงอวี๋ที่มีผ้าคลุมหน้าอยู่ก็พลันตัวสั่นเล็กน้อยอย่างตื่นเต้นนับแต่นี้ไป หลิงอวี๋ก็คือภรรยาของตน อดีตที่เลวร้ายเหล่านั้นเขาไม่มีหน้าจะเอ่ยถึงอีกแล้วชีวิตนี้เขาจะต้องรักนางให้มากเท่าที่จะทำได้ จะปกป้องนาง จะให้สิ่งที่ดีที่สุดแก่นาง ทำให้นางเป็นสตรีที่มีความสุขที่สุดในใต้หล้า!เซียวหลินเทียนเองก็คำนับลงไปเช่นกัน“เสร็จสิ้นพิธี!”ท่านอ๋องเฉิงยังคงยืนอยู่ต่อหน้
หลิงอวี๋กับเซียวหลินเทียนจัดงานแต่งงานคารวะฟ้าดินกันใหม่ เมื่อพวกหลิงซวนรู้เข้าก็ดีใจเป็นอย่างยิ่งกว่าจะเปลี่ยนจากความโกรธเกลียดมาเป็นสามีภรรยาอย่างแท้จริงได้ หลิงอวี๋กับเซียวหลินเทียนข้ามผ่านเส้นทางนี้กันมาอย่างยากลำบากจนนับมิถ้วน!เมื่อเทียบกับงานแต่งที่เหลวไหลเมื่อคราก่อน ครานี้เซียวหลินเทียนขอหลิงอวี๋แต่งงานอย่างจริงใจกำไลหยกเขียวมรกตได้ชดเชยเรื่องสินสอดในคราก่อนไปแล้ว เรื่องพิธีหลิงอวี๋ขอให้เป็นพิธีเรียบง่ายจัดโต๊ะเพียงมิกี่โต๊ะก็พอแล้วมิได้มีการประกาศออกไป และมิได้เชิญแขกคนอื่น ๆ เชิญเพียงแค่ผู้อาวุโสเช่นท่านอดีตเสนาบดี ไทฮองไทเฮาและท่านอ๋องเฉิงสามคนเท่านั้นท่านอดีตเสนาบดีถูกเชิญเข้าวังมาก็ยังคงสับสนมิรู้ว่าด้วยเรื่องใดไทฮองไทเฮาเองก็เช่นกัน ถูกเชิญมาถึงพระตำหนักคุนหนิงก็ยังมิรู้ว่านี่คือพิธีคารวะฟ้าดินที่จัดขึ้นเพื่อทั้งสองคนท่านอ๋องเฉิงคือคนที่เซียวหลินเทียนเพิ่มเข้ามา เขาเป็นราชสำนักฝ่ายใน ทั้งยังเป็นผู้อาวุโสที่เห็นเส้นทางที่พวกเขาผ่านมาอย่างใกล้ชิดที่สุด เมื่อจัดพิธีแต่งงานขึ้นอีกครั้ง จะขาดคนสำคัญผู้นี้ไปได้อย่างไร!แม่นมลี่เปลี่ยนชุดใหม่แล้วดึงเซียวเยวี่ยที่ใ
หลิงอวี๋ตกใจกับการเกี้ยวพาราสีอย่างกะทันหันของเซียวหลินเทียนจึงหน้าแดงขึ้นมาทันทีนี่… นี่คือการขอจะทำเรื่องเช่นนั้นกับตนหรือ?แต่นางยังมิได้คิดให้ดีเลยนะ!“อาอวี๋ ต่อให้คำสาบานใด ๆ จะสวยหรูสักแค่ไหนก็มิสู้การกระทำ! ข้าก็กำลังพยายามเต็มที่แล้ว!”เซียวหลินเทียนคว้ามือของหลิงอวี๋มาแนบที่หน้าอกของตน “ในนี้มีเพียงแค่เจ้า ชั่วชีวิตนี้ก็จะมีเพียงแค่เจ้าเท่านั้น! ไม่มีผู้ใดสามารถมาแทนที่เจ้าในใจของข้าได้!”“อาอวี๋ เรื่องของเมื่อวานก็ปล่อยให้มันผ่านไปแล้วเหลือแต่เรื่องของวันนี้ เรามาเริ่มต้นกันใหม่เถิด!”หลิงอวี๋ปฏิเสธมิออกหลิงซวนเคยบอกกับนางไว้แล้วให้นางลืมอดีต อย่าได้ปิดกั้นเซียวหลินเทียนอีกเลยนางมิใช่เจ้าของร่าง และมิได้เกลียดเรื่องที่เซียวหลินเทียนเฆี่ยนตีตนในตอนแรกแล้ว!และครานี้เมื่อเกิดเรื่องกับตน เซียวหลินเทียนก็ทำงานหนักเพื่อตนอย่างเต็มที่ นางเห็นความทุ่มเทของเขาทั้งหมดแล้วนางยังจะมีเหตุผลอะไรไปปฏิเสธเขาอีกเล่า?“หม่อมฉัน...”หลิงอวี๋พูดมิออก ปฏิเสธมิออกจริง ๆดูเหมือนว่าเซียวหลินเทียนจะมองความลังเลของนางออก มือทั้งสองของเขาจึงโอบนางไว้แล้วดึงเข้ามาในอ้อมแขนเขาก้มหน้
เมื่อเซียวหลินเทียนพูดออกมา หลิงอวี๋ก็นึกขึ้นได้ว่าเขาเคยเอ่ยถึงใต้เท้าเจี่ยงผู้นี้ว่าหอบรรพบุรุษในตระกูลเขาทำด้วยทองคำก่อนหน้านี้เซียวหลินเทียนส่งคนไปตรวจสอบแล้ว เช่นนั้นหลักฐานก็น่าจะสรุปได้แล้ว“อาอวี๋ เจ้าให้ข้าคิดหาวิธีสักหน่อยว่าจะโจมตีร้านตั๋วเงินสี่หลายอย่างไรโดยมิให้ราษฎรเหล่านั้นได้รับความเสียหาย”ก่อนหน้านี้เซียวหลินเทียนก็อยากจะจัดการใต้เท้าเจี่ยง แต่ก็คิดวิธีดี ๆ ที่จะทำให้ได้ผลดีทั้งสองฝ่ายมิได้ใต้เท้าเจี่ยงกับร้านตั๋วเงินสี่หลายมีความโยงใยกันไปหมด เซียวหลินเทียนกังวลว่าหากไปแตะใต้เท้าเจี่ยงแล้วจะทำให้ราษฎรเหล่านั้นได้รับความเสียหายไปด้วยก่อนหน้านี้หลิงอวี๋มิได้สนใจเรื่องนี้มากนัก แต่นางเป็นคนยุคปัจจุบัน เคยได้ยินได้เห็นธนาคารล้มเหลวมามากมาย การระดมทุนอย่างผิดกฎหมายสร้างความเสียหายให้ราษฎรอย่างหนักหากราชสำนักปล่อยปละละเลยร้านตั๋วเงินเหล่านี้ เช่นนั้นก็คงจะได้เห็นหายนะครั้งใหญ่การที่เซียวหลินเทียนใส่ใจในจุดนี้เป็นการกระโดดเชิงคุณภาพ เป็นกษัตริย์ผู้ทรงปัญญาที่ล้ำหน้ากว่าแคว้นใด ๆแต่เท่านี้ยังมิพอ ตอนนี้เซียวหลินเทียนตระหนักได้เพียงว่าร้านตั๋วเงินสี่หลายเป็นพวก
เซียวหลินเทียนทอดถอนใจพลางเอ่ย “ตอนนั้นเสด็จพ่อยังต้องพึ่งพาท่านอดีตเสนาบดีให้ช่วยพระองค์เฝ้าระวังที่ชายแดน ท่านอดีตเสนาบดีขอร้องให้หลิงเสียงกัง เสด็จพ่อก็มิอยากทำร้ายจิตใจขุนนางเก่าแก่ จึงไว้ชีวิตหลิงเสียงกัง!”หลิงอวี๋ยิ้มเยาะ มีจักรพรรดิสูงสุดเป็นเกราะป้องกันให้องค์ชายคัง มิน่าหลิงเสียงกังอยากจะพลิกคดีแต่กลับยากเย็นนักเกรงว่าตอนนั้นที่หลิงเสียงกังออกจากเมืองหลวงแล้วบอกจะออกไปตามหาความจริงก็คงเพราะมองจุดนี้ออกแล้ว“คดีกล่าวหาท่านลุงของหม่อมฉันคือเสด็จพ่อที่สร้างขึ้น หากตอนนี้ท่านจะพลิกคดีให้เขาก็จะเป็นการตั้งคำถามเสด็จพ่อของท่าน ไม่มีเหตุผลที่จะทำให้เหล่าขุนนางเชื่อมั่น การดึงคดีนี้ขึ้นมาก็จะเป็นการอกตัญญู!”หลิงอวี๋วิเคราะห์ได้ตรงประเด็นมากเซียวหลินเทียนกังวลว่า หลิงอวี๋จะเข้าใจผิดว่าตนมิยินดีจะล้างมลทินชื่อเสียงให้หลิงเสียงกัง จึงรีบเอ่ย “ข้าแค่จะบอกว่าหากต้องการจะพลิกคดีนี้ในเวลามินานนั้นเป็นไปมิได้! มิได้หมายความว่าข้าจะมิยินดีช่วยหลิงเสียงกังพลิกคดี!”“อาอวี๋ เรายังมีพื้นที่ให้จัดการเรื่องนี้!”เซียวหลินเทียนเอ่ยเสียงเรียบ “จนถึงตอนนี้เงินทหารสองล้านตำลึงนั้นก็ยังมิปราก
ดูเหมือนว่าทุกอย่างจะสิ้นสุดลงไปกับการโกนหัวของนางซุนแล้ว!นางซุนใช้วิธีเด็ดขาดนี้มาตัดการแต่งงานครึ่งชีวิตของตนกับหลิงเสียงกังแล้วทิ้งหลิงหว่านกับหลิงเสียงกังไว้และสุดท้ายนางก็มิอาจต้านทานการเกลี้ยกล่อมของหลิงหว่านได้ จึงเลือกที่จะเป็นแม่ชีอยู่ที่อารามเล็ก ๆ ซึ่งห่างจากเมืองหลวงไปห้าสิบลี้‘พิธีศพ’ ของนางซุน หลิงอวี๋ก็ออกจากวังมาร่วมงานด้วยในฐานะหลานสาวสำหรับการช่วยครั้งสุดท้ายของนางซุนที่มีต่อหลิงเสียงกังกับหลิงหว่าน ทำให้ความโกรธที่หลิงอวี๋มีต่อนางหายไปสำหรับนางซุน บทสรุปเช่นนี้ก็นับว่าสบายใจเช่นกันแต่สำหรับคนที่ยังมีชีวิตอยู่ หลิงเสียงกังกับหลิงหว่านล้วนมีเส้นทางยาวไกลที่ตนต้องเดินไป...หลิงเสียงกังสามารถลงมาเดินได้แล้ว จึงมาร่วมงานศพนางซุนโดยมีหลิงหว่านประคองมาหลังจากงานศพเสร็จสิ้น เขาก็คุกเข่าให้หลิงอวี๋“ฮองเฮา เรื่องต่าง ๆ ก่อนหน้านี้เป็นหลิงเสียงกังเองที่ผิด กระหม่อมเป็นหนี้นางซุนและทุกคน!”“กระหม่อมสมควรตาย แต่กระหม่อมตายมิได้ กระหม่อมต้องแสวงหาความยุติธรรมเพื่อชื่อเสียงของตนและแสวงหาความยุติธรรมให้แก่เหล่าทหารที่ติดตามกระหม่อมและต้องตายไปอย่างอยุติธรรม!”หล
มิเพียงแต่หลิงอวี๋ที่กลุ้ม ท่านอดีตเสนาบดีเองก็โกรธมาก หลิงเสียงกังยังมิทันจะเดินลงพื้นได้ ท่านอดีตเสนาบดีก็ได้ยินเขาบอกว่าจะตามนางซุนไปที่บ้านเกิด จึงพุ่งเข้าไปด่าหลิงเสียงกังที่เตียงผู้ป่วย“หลิงเสียงกัง นางซุนทำเรื่องเลวร้ายเอง นางรนหาที่ตายข้าก็ปล่อยนางไปแล้ว แต่เหตุใดเจ้าต้องตามนางไปด้วย?”“ข้าดูแลเจ้ามา ลำบากลำบนสอนสั่งเจ้ามา มิใช่เพื่อให้เจ้าทำให้เสียเปล่าเองเช่นนี้!”หลิงเสียงกังมองท่านอดีตเสนาบดีที่แก่ลงไปมากอย่างขมขื่น พลางเอ่ยอย่างรู้สึกผิด “ขอโทษขอรับท่านพ่อ ลูกทำให้ท่านผิดหวัง!”“อย่ามาพูดไร้สาระกับข้า เจ้ามันอกตัญญูมิรู้คุณ...”ท่านอดีตเสนาบดีเอ่ยอย่างปวดใจ “เจ้าอายุยังน้อย วรยุทธ์ในกายยังสามารถทำประโยชน์ให้บ้านเมืองได้ เจ้าไปเช่นนี้จะมิใช่การชดใช้ แต่เป็นการหลบหนี!”“ตอนนั้นเหตุใดเจ้าถึงถูกถอดออกจากตำแหน่ง? ก่อนหน้ามิสามารถพูดให้ชัดเจนได้ ตอนนี้หลิงอวี๋ก็เป็นฮองเฮาแล้ว ขอเพียงเจ้าอยากพลิกคดี นางจะมิช่วยเหลือเจ้าหรือ?”“ตระกูลหลิงของเรามิเคยเกิดเรื่องเช่นนี้ เจ้ามิคิดเพื่อตัวเจ้าเอง เจ้าก็ต้องนึกถึงฮองเฮากับหลิงเสี่ยงบ้าง!”หลิงหว่านยืนอยู่ข้างเตียงเงียบ ๆ นางมิ
นางซุนแขวนคอตาย!วันรุ่งขึ้นข่าวนี้ก็ไปถึงหูของหลิงอวี๋ หลิงซวนยิ้มขมขื่นพลางเอ่ยกับหลิงอวี๋ “ข้างนอกพูดกันว่านางซุนทำเรื่องแย่ ๆ ไว้ มิสามารถสู้หน้าครอบครัวและฮองเฮาได้จึงยอมตายชดใช้ความผิดเพคะ!”“แต่ความจริงคือหลิงหว่านไปพบทันเวลาจึงช่วยนางซุนลงมาแล้ว!”“ท่านอดีตเสนาบดีให้คนมาส่งข่าวบอกให้ฮองเฮาถือเสียว่านางตายไปแล้วเถิด! หลิงเสียงกังก็ฟื้นแล้วบอกว่าตนทำให้นางเดือดร้อนจึงขอร้องแทนนาง บอกว่าครอบครัวของพวกเขาจะไปจากเมืองหลวง นับแต่นี้ไปจะมิปรากฏตัวที่เมืองหลวงอีกเพคะ”หลิงอวี๋ฟังแล้วก็ทอดถอนใจ เพราะว่านางซุนมีบุญคุณต่อตน นางเองก็มิได้มีความคิดว่าจะต้องสังหารเสียให้หมดนางซุนจะฆ่าตัวตายเพราะอยากจะหลีกหนีการใส่โซ่ตรวนเดินตามถนน หลิงอวี๋เองก็มิอยากเห็นนางซุนทำให้กระทบต่อชื่อเสียงของจวนเสนาบดีเจิ้นหย่วน เช่นนั้นก็เอาตามนี้เถิด!“ความทรงจำของหลิงเสียงกังกลับมาแล้วหรือไม่?”หลิงอวี๋เอ่ยถามอย่างเป็นห่วง แม้ว่าจะเอาก้อนเลือดออกมาสำเร็จแล้ว นางก็มิอาจรับประกันว่าประสาทของหลิงเสียงกังจะมิได้รับความเสียหาย“เห็นว่าจำได้มากแล้วเพคะ แต่ลืมรายละเอียดต่าง ๆ ไปแล้ว! อย่างน้อยเขาก็จำหลิงหว่านกั
หลิงหว่านกลั้นน้ำตาที่กำลังจะร่วงหล่นลงมาแล้วรีบเอ่ย “ขอบคุณท่านพี่เผยที่ช่วยข้ากับท่านพ่อ! แล้วก็ขอบคุณฮูหยินผู้เฒ่าเผยที่ให้เกียรติข้าก่อนหน้านี้...”“เป็นข้าเองที่มิคู่ควรกับท่านพี่เผย ขอให้ในภายภาคหน้าท่านพี่เผยได้พบกับภรรยาที่ดีและมีคุณธรรมยิ่งกว่าข้า ข้าขอให้พวกท่านมีความสุข!”หลังจากพูดจบ หลิงหว่านก็หันหลังวิ่งเข้าบ้านไปเผยอวี้ตามนางไปแล้วรั้งนางไว้ จากนั้นก็กอดนางไว้ในอ้อมแขน“หว่านเอ๋อร์ นี่มิใช่ความผิดของเจ้า ข้าจะมิยอมถอนหมั้น!”“ข้าคิดแล้ว… การแต่งงานของเราเป็นการประทานจากองค์จักรพรรดิ มีพระราชโองการลงมาแล้ว ขอเพียงองค์จักรพรรดิมิเห็นด้วย ท่านพ่อกับท่านย่าของข้าก็มิอาจคัดค้านได้!”เผยอวี้ยิ่งพูดก็ยิ่งลนลาน “เจ้าเป็นภรรยาที่ดีและมีคุณธรรมที่สุด ข้ามิต้องการผู้อื่น หากต้องแต่งงานข้าก็จะแต่งกับเจ้าเท่านั้น!”“ท่านพี่เผย!”หลิงหว่านมิอาจกลั้นน้ำตาไว้ได้อีกแล้ว จึงปล่อยให้น้ำใสไหลรินลงมาเป็นไปได้หรือ?นางยังแต่งงานกับเผยอวี้ได้หรือ?ท่านแม่ของนางทำเรื่องแย่กับพี่หญิงหลิงหลิงมากถึงเพียงนั้น องค์จักรพรรดิจะยังอนุญาตให้เผยอวี้แต่งงานกับตนหรือ?“เจ้าดูแลท่านพ่อของเจ้าอ