“ยกมือขึ้นแล้ววางอาวุธลงเสีย!”หัวหน้าที่นำมาตะคอกใส่พวกนางทีแรกหลิงอวี๋ก็ตกใจคิดว่าเจอใต้เท้าจางซุ่มโจมตี แต่เมื่อได้ยินเสียงที่คุ้นเคยก็หันไปมอง หัวหน้าผู้นี้คือฮุยจื่อคนรับใช้ของอันเจ๋อนั่นเองหลิงอวี๋จึงเรียกเขาทันที “เสี่ยวฮุยจื่อ ข้าคือแม่นางหลิง!”หลิงอวี๋เช็ดหน้าแล้วถอดหน้ากากออกเผยให้เห็นใบหน้าที่แท้จริงของตนเสี่ยวฮุยจื่อเป็นคนฉลาด เมื่อตั้งใจมองดี ๆ ว่าเป็นใบหน้าของหลิงอวี๋ก็ตะลึง แต่มิกล้าเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของหลิงอวี๋จึงเรียกด้วยความเคารพในทันที “แม่นางหลิง ที่แท้ก็เป็นท่านเอง! คนกันเอง วางหน้าไม้เสียลง...”เสี่ยวฮุยจื่อเข้ามาต้อนรับ หลิงอวี๋จึงรีบเอ่ยถาม “ใต้เท้าอันสบายดีหรือไม่?”“ก่อนหน้านี้ใต้เท้าของข้าได้รับบาดเจ็บที่สิงหยาง อาการบาดเจ็บแย่ลงแล้ว พวกท่านมาพอดี จะได้ไปตรวจให้เขา!”เสี่ยวฮุยจื่อขยิบตาให้หลิงอวี๋ หลิงอวี๋มิแน่ใจว่าอาการบาดเจ็บของอันเจ๋อแย่ลงจริง ๆ หรือว่าเป็นแผนการ จึงตามเสี่ยวฮุยจื่อเข้าไปที่ที่พักชั่วคราว“แม่ทัพเผยก็มาแล้วพ่ะย่ะค่ะ!”เสี่ยวฮุยจื่อเห็นว่าแถวนี้มิได้มีคนนอกจึงบอกกับหลิงอวี๋หลิงอวี๋โล่งอก เผยอวี้อยู่ที่นี่ เช่นนั้นหลิงห
“คนที่อยู่ในกระโจมของอันเจ๋อก็คือท่านลุงใหญ่หรือ?”หลิงอวี๋เอ่ยถามอย่างสงสัย“ท่านเจอเขาแล้วหรือ?”หลิงหว่านตาเป็นประกาย “พี่หญิงหลิงหลิง เขาคือท่านพ่อของข้าจริง ๆ ใช่หรือไม่!”“มิได้เห็นหน้า...”หลิงอวี๋ประหลาดใจ “เจ้ามิแน่ใจหรือ?”มีที่ไหนที่ลูกสาวจำพ่อตนเองมิได้?หลิงหว่านแววตาเศร้าไปทันที “ข้ามั่นใจว่าเขาคือท่านพ่อของข้า แต่เขาจำข้ามิได้… เขามิรู้จักข้าแล้ว!”นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?หลิงอวี๋นั่งลงบนเสื่อฟางพลางเอ่ยถาม “เหตุใดเขาจึงมิรู้จักเจ้า?”หลิงหว่านยิ้มอย่างขมขื่น “จากที่พี่อันกับพี่เผยรู้ พวกเขาบอกว่าความทรงจำในอดีตของท่านพ่อข้าหายไปหมดแล้ว เขาเป็นขอทานมาอยู่ที่เจิ้งโจว! ไม่มีผู้ใดรู้ว่าก่อนหน้านั้นเกิดอะไรขึ้นกับเขา!” “อีกทั้ง… อีกทั้ง ท่านพ่อถูกสตรีผู้หนึ่งชื่อว่าเฝิงฉินรับมาอยู่ด้วยและพวกเขาก็แต่งงานกันแล้ว เฝิงฉินบอกว่าตั้งครรภ์ได้สองเดือนกว่าแล้ว!”ว่ากระไรนะ?หลิงอวี๋เบิกตาโตอย่างตกใจหลิงหว่านจิกผมตนเองอย่างหงุดหงิด “พี่หญิงหลิงหลิง ข้าสับสนมาก ข้าหวังให้เขาเป็นท่านพ่อข้าแต่ข้าก็หวังว่าเขาจะมิใช่!”“เมื่อก่อนท่านพ่อไม่มีอนุภรรยา ท่านแม่เป็นฮูหยินเพีย
กระทั่งเข้าไปในกระโจม บุรุษร่างสูงใหญ่ก็หันกลับมาหลิงอวี๋คือคนที่ข้ามเวลามา จึงมิได้มีความทรงจำที่ลึกซึ้งกับท่านลุงใหญ่ผู้นี้นัก แต่หลิงหว่านเป็นลูกสาวแท้ ๆ ของหลิงเสียงกัง นางเชื่อว่าหลิงหว่านไม่มีทางจำผิดคน!กอปรกับที่อาจารย์หลินผู้นี้มีรูปร่างสูงใหญ่ และมีพลังที่น่าเกรงขามคล้าย ๆ กับท่านอดีตเสนาบดี หลิงอวี๋จึงยิ่งแน่ใจว่าอาจารย์หลินผู้นี้ก็คือท่านลุงใหญ่หลิงเสียงกัง“พี่หญิงหลิงหลิง วันนี้พวกเราจะต้องไปโจมตีผิงเนี่ย ข้ากับท่านลุงหลิงจะเป็นแนวหน้า ใต้เท้าอันจะรับผิดชอบคุ้มกันด้านหลัง ที่นี่จะมิปลอดภัย พวกเราได้ปรึกษากันแล้วว่าจะให้ท่านกับหลิงหว่านถอยออกจากพื้นที่ไปก่อนยี่สิบลี้!”เผยอวี้เอ่ยมาตรง ๆ“ท่านอ๋องผิงหนานถูกคนของหลิวจวินจับตัวไปจริงหรือ? จะเป็นกับดักหรือไม่?”หลิงอวี๋มิได้สนใจเรื่องความคับข้องใจระหว่างสามีภรรยาของหลิงเสียงกัง เวลานี้เป็นคราวคับขัน ทำได้เพียงต้องแก้ไขในเรื่องนี้ก่อน“ข้าแน่ใจว่าเป็นพ่อของข้า!”อันเจ๋อเอ่ยเสียงเรียบ “เขาหลงกลแผนของใต้เท้าจาง คิดว่าหาศพข้าเจอจริง ๆ จึงมุ่งหน้าไปตรวจสอบที่ศาลาว่าการเจิ้งโจว ไหนเลยจะคิดว่า หลิวจวินจะถูกใต้เท้าจางซื้อตัว
หลิงอวี๋บอกการวินิจฉัยโรคของหลิงเสียงกังและวิธีรักษาของตนออกไปทันทีที่ได้ยินว่าต้องเปิดสมองเอาลิ่มเลือดออกมา หลิงเสียงกังก็ปฏิเสธทันที “เช่นนี้จะมิถึงแก่ชีวิตหรือ? ข้ามิรักษาแล้ว!”หลิงอวี๋เอ่ยเรียบ ๆ “ผู้อื่นผ่าเปิดกะโหลกอาจจะต้องการชีวิตของท่าน แต่ข้ามิได้เป็นเช่นนั้น ข้ามิเพียงแต่สามารถรับประกันได้ว่าลิ่มเลือดของท่านจะออกมา แต่ยังทำให้ท่านมีชีวิตอยู่อย่างปลอดภัยด้วย!”“ท่านพิจารณาดูก่อนได้ หากต้องการรักษาก็มาหาข้า!”หลิงเสียงกังส่ายหน้าปฏิเสธอย่างดื้อรั้นหลิงอวี๋ก็มิได้เกลี้ยกล่อมอีก การผ่าตัดเปิดกะโหลกศีรษะนี้มิใช่เรื่องเล็ก ๆ แม้ว่าหลิงเสียงกังจะตอบตกลง นางก็ยังต้องบอกหลิงหว่านกับป้าสะใภ้ใหญ่อีกถึงอย่างไรนางก็ได้รู้แล้วว่า ก้อนบวมนี้ของหลิงเสียงกังยังมิได้เปลี่ยนแปลงอะไร ยังมีเวลาที่จะเกลี้ยกล่อมเขาอยู่หลิงอวี๋ปฏิเสธข้อเสนอที่เผยอวี้จะให้นางกับหลิงหว่านถอยไปรอนอกพื้นที่ยี่สิบลี้ และจะปกป้องที่แนวหลังกับหลิงหว่านร่วมกับอันเจ๋อขอเพียงได้ช่วยท่านอ๋องผิงหนานและยึดครองผิงเนี่ยได้ และแม่ทัพลั่วกับแม่ทัพจี้จัดการกับเส้าหมิงเจี๋ยได้ ความมิสงบนี้ก็จะจบสิ้นแล้วทางด้านใต้เท้าจ
หลิงอวี๋กับหลิงหว่านอยู่ด้วยกัน รอคอยให้หลิงเสียงกังส่งสัญญาณว่าช่วยท่านอ๋องผิงหนานออกมาแล้วแม้ว่าหลิงหว่านจะมีใบหน้าเย็นชา แต่ในใจนั้นกำลังเป็นห่วงหลิงเสียงกังนางออกไปดูอยู่เป็นระยะ กังวลว่าท่านพ่อบุกเข้าถ้ำเสือไปเพียงลำพังแล้วจะประสบเหตุร้ายเข้า“พี่หญิงหลิงหลิง ข้าเข้าใจแล้ว เมื่อเทียบกับความปลอดภัยของเขา ขอเพียงเขามีชีวิตอยู่ เขาจะแต่งงานกับเฝิงฉินนั่นก็ช่างเถิด!”หลิงหว่านเข้ามาพูดคุยกับหลิงอวี๋ราวกับเป็นการคลายความกังวลของตน“ท่านแม่ของข้าก็คงจะคิดเช่นเดียวกันกับข้า!”หลิงอวี๋ทำอะไรมิถูก ความต้องการในชีวิตเช่นนี้น้อยเกินไปแล้วกระมัง!การได้คืบจะเอาศอกเป็นข้อบกพร่องทั่วไปของมนุษย์ตอนนี้หลิงเสียงกังกำลังอยู่ในอันตราย ข้อเรียกร้องของหลิงหว่านที่มีต่อเขาจึงลดลง ขอเพียงเขากลับมาอย่างปลอดภัยก็พอแล้วแต่เมื่อทุกอย่างหคลี่คลาย หลิงหว่านจะยังคิดเช่นนี้หรือไม่?หลิงอวี๋เองก็มิอยากทำลายความคิดเพ้อฝันของนางจึงเอ่ยปลอบใจ “ท่านลุงใหญ่มีวรยุทธ์แก่กล้า เขาจะต้องกลับมาอย่างปลอดภัยแน่นอน!”ในขณะที่อันเจ๋อก็รอคอยอยู่อย่างร้อนอกร้อนใจเช่นกันนั้น หอระฆังในเมืองผิงเนี่ยก็เกิดเพลิงไหม้ขึ้
รายงานความสำเร็จแพร่กระจายไปทั่วเมืองหลวงอย่างรวดเร็ว เมื่อเซียวหลินเทียนเห็นว่าหลิงอวี๋มาถึงอย่างปลอดภัย ความกังวลที่มีมาตลอดก็คลายลงส่วนการที่พวกอันเจ๋อปราบปรามการจลาจลได้ก็ทำให้เซียวหลินเทียนโล่งใจเป็นอย่างมาก เขาได้รู้เรื่องที่เจอตัวหลิงเสียงกังจากสาส์นกราบทูลของท่านอ๋องผิงหนานแล้ว และได้รู้ว่าคนที่เรียกกันว่าอาจารย์หลินก็คือหลิงเสียงกังนั่นเองเซียวหลินเทียนสงสัยว่า หลิงเสียงกังสูญเสียความทรงจำได้อย่างไร พลางหาเอกสารการสืบสวนที่หลิงเสียงกังถูกถอดออกจากตำแหน่งตอนนั้นมาอีกครั้งก่อนหน้านี้หลิงอวี๋เชื่อมาโดยตลอดว่า เรื่องของหลิงเสียงกังตอนนั้นเป็นการถูกกล่าวหาโดยมิยุติธรรม นางอยากตามหาหลิงเสียงกังเพื่อตรวจสอบในเรื่องนี้เมื่อเซียวหลินเทียนสามารถช่วยได้ก็ย่อมมิปฏิเสธเซียวหลินเทียนเห็นสาส์นกราบทูลที่อันเจ๋อเสนอให้เฉาเฉียงเป็นผู้ว่าการสิงหยาง เขาก็เงียบไปสักพักหนึ่งแม้ว่าคราวนี้เฉาเฉียงผู้นี้จะเป็นผู้นำการจลาจล แต่ก็เป็นการถูกผู้ว่าการหวางบีบบังคับแต่จากในสาส์นกราบทูลของอันเจ๋อจะเห็นได้ว่า แม้เฉาเฉียงจะมิได้มีความรู้มากนัก แต่ก็จัดการสิงหยางได้อย่างมิกดดันแม้แต่น้อยอีกทั้งเ
เฝิงฉินยังมิทันได้เข้าไปก็เพ้อฝันแล้วว่าจวนเสนาบดีเจิ้นหย่วนที่หลิงเสียงกังอาศัยอยู่ที่เมืองหลวงจะเป็นอย่างไร นั่นคือสัญลักษณ์ของอำนาจและตำแหน่งเชียวนะ!แต่เมื่อหลิงเสียงกังพูดขึ้นมาว่า ที่จวนเสนาบดีมีภรรยาคนแรกของเขาอยู่ด้วย เฝิงฉินก็ตะลึงไปทันทีหลิงเสียงกังมีภรรยา แล้วตนนับว่าเป็นสิ่งใดเล่า?เฝิงฉินกับหลิงเสียงกังทะเลาะกันอยู่สองวันว่าตนจะไม่มีทางเป็นอนุนางเองก็เป็นภรรยาที่แต่งงานกับหลิงเสียงกังอย่างเป็นทางการเช่นกัน แม้ว่าหลิงเสียงกังจะมิรับรู้เรื่องราวในอดีตแต่จะลบล้างความจริงข้อนี้ไปมิได้ยิ่งไปกว่านั้น ในท้องของนางก็มีเลือดเนื้อเชื้อขัยของหลิงเสียงกังอยู่ นางไม่มีทางให้ลูกเกิดมาเป็นลูกอนุเด็ดขาดภายใต้หยดน้ำตาและการข่มขู่ว่าจะเอาลูกออก หลิงเสียงกังจึงถูกบีบให้ตอบตกลงกับนางแล้วกลับไปรายงานท่านอดีตเสนาบดีว่าจะรับนางเป็นภรรยาแต่งเข้ามาอยู่ในบ้านแม้ว่าหลิงเสียงกังจะสูญเสียความทรงจำไป แต่ก็มีนิสัยซื่อตรง เมื่อเผชิญหน้ากับลูกสาวแท้ ๆ ที่มาตามหาตน หลิงเสียงกังก็พูดมิออกว่าจะรับเฝิงฉินเข้ามาอยู่ในฐานะภรรยาแต่งดังนั้นเรื่องนี้จึงต้องปกปิดเอาไว้เช่นนี้เฝิงฉินเห็นหลิงอวี๋กับหล
มาถึงติ้งโจว หากมิไปเจดีย์วัดไคหยวนที่เลื่องชื่อก็คงมิได้ ยังอยู่อีกไกล แต่พวกหลิงอวี๋ก็เห็นเจดีย์วัดไคหยวนที่สูงตระหง่านดูมีพลังอยู่ตรงกลางแล้ว“ต้นไข่มุกตั้งตระหง่านอยู่ยอดรับแดดยามเช้า กระดิ่งทองเคียงเคล้าลมยามเย็น ยามขึ้นไปถึงบนยอดในทุกครา ราวกับว่ากายาต้องฟ้าคราม”หลิงอวี๋เห็นเจดีย์วัดไคหยวนอันงดงามกำลังอาบแสงยามเย็นอยู่จึงนึกถึงกวีของข้าหลวงติ้งโจวขึ้นมาว่ากันว่าเจดีย์วัดไคหยวนนี้ยังเก็บรักษาพระบรมสารีริกธาตุและพระคัมภีร์อันล้ำค่าของปรมาจารย์สายพุทธเต๋าไว้จำนวนนับมิถ้วนภายในช่องของฐานเจดีย์รวมถึงบนผนังตามทางเดินแต่ละชั้นก็มีการฝังพระพุทธรูปไว้เป็นจำนวนมาก ว่ากันว่าพระพุทธรูปที่แกะสลักล้วนทำอย่างประณีตและเหมือนจริงมากหลิงอวี๋เป็นผู้ที่มิเชื่อในพระเจ้า แต่การข้ามเวลาของตนรวมถึงการฝึกฝนพลังวิญญาณทำให้ความเชื่อของนางสั่นคลอนพระพุทธรูปเหล่านั้นบางทีอาจจะมิใช่พระจริง ๆ แต่อาจจะเป็นผู้มีความสามารถของแดนวิญญาณ!นางมาเที่ยวชม จึงพาพวกหลิงหว่านไปชมเมื่อมาใกล้ ๆ หลิงอวี๋ก็รู้สึกได้ถึงพลังงานบางอย่างที่ผิดปกติขันทีโม่ที่สอนตนพัฒนาการฝึกฝนพลังวิญญาณเคยบอกไว้ว่า สถานที่บางแห่งที
รองแม่ทัพจางยังคงกล่าวพลางยิ้มแย้ม “ท่านหญิงฉางเล่อมามิถูกจังหวะ วันนี้ฮองเฮาพร้อมด้วยท่านหญิงชิงเฉิงและท่านหญิงอวิ๋นพาคุณชายน้อยทั้งหลายเสด็จไปชมดอกไม้ที่ภูเขาศักดิ์สิทธิ์พ่ะย่ะค่ะ!”ว่ากระไรนะ?หลงเพ่ยเพ่ยนิ่งอึ้งไป ท่านหญิงชิงเฉิงและท่านหญิงอวิ๋นล้วนเป็นธิดาของเจ้าแห่งทะเล และเป็นลูกพี่ลูกน้องของหลงเพ่ยเพ่ยด้วยเหตุใดพวกนางถึงมิไปชมดอกไม้ตั้งแต่ก่อนหน้านี้เล่า แต่กลับเลือกไปชมดอกไม้ในตอนที่ตนต้องการความช่วยเหลือจากเสด็จย่าพอดีนี่น่ะหรือ?“ไปนานเท่าใดแล้ว?”หลงเพ่ยเพ่ยสงสัยว่านี่เป็นการจัดฉากโดยเจตนาของชายาเจ้าแห่งทะเล“สองชั่วยามแล้วพ่ะย่ะค่ะ ตอนนี้น่าจะอยู่ในภูเขาศักดิ์สิทธิ์แล้วขอรับ!”รองแม่ทัพจางกล่าวพลางยิ้มหลงเพ่ยเพ่ยอยากจะชกหน้ายิ้ม ๆ ของรองแม่ทัพจางเสียสักหมัด เหตุใดนางมองรอยยิ้มของรองแม่ทัพจางแล้วเหมือนกำลังสมน้ำหน้าตนอยู่เลยเล่า“เจ้ามิได้หลอกข้าใช่หรือไม่?”หลงเพ่ยเพ่ยถามเสียงเย็นรองแม่ทัพจางกล่าวพลางยิ้ม “ท่านหญิงฉางเล่อพูดเล่นแล้ว ไหนเลยข้าน้อยจะกล้าหลอกท่านหญิง! หากมิเชื่อท่านลองถามใครดูก็ได้ว่าที่ข้าน้อยพูดเป็นเรื่องจริงหรือไม่!”“หากท่านหญิงมีธุระด่วนจร
หลิงอวี๋ฟังแล้วก็อดอมยิ้มมิได้ เซียวหลินเทียนใช้คนตระกูลเก๋อมาจัดการชายาเจ้าแห่งทะเล กลอุบายนี้ช่างเด็ดขาดนักรถม้ามาถึงจวนเจ้าแห่งทะเล เมื่อหลิงอวี๋ลงจากรถก็มองไปยังคฤหาสน์หลังใหม่ที่กำลังก่อสร้างอีกครั้ง กำแพงล้อมรอบสร้างเสร็จแล้ว ดูจากขนาดแล้วใหญ่โตมากจริง ๆนางอดสงสัยมิได้ ข้างในมีเรือนบุหงาแบบเดียวกับตำหนักอ๋องอี้ของตนอย่างที่เถาจื่อบอกจริงหรือ?นางอยากเข้าไปดู อยากเห็นเหลือเกินว่าบ้านในอดีตของตนเป็นอย่างไร!“คุณหนูสิง เชิญ!”พ่อบ้านเว่ยเห็นหลิงอวี๋มองคฤหาสน์ฝั่งตรงข้ามก็ร้องเรียกอย่างมิอดทนหลิงอวี๋หันกลับมา เห็นประตูใหญ่หนาทึบของจวนเจ้าแห่งทะเลเปิดอ้าอยู่ ข้างในลานเรือนซับซ้อนลึกล้ำ มองสุดตามิเห็นปลายทางนี่คือที่ที่เต็มไปด้วยอันตรายโดยแท้!หลิงอวี๋ลอบสูดหายใจลึก ๆ แล้วเดินเข้าไป“ปัง!”ประตูใหญ่หนาทึบปิดลงด้านหลังนางหลิงอวี๋มิได้หันกลับไปมอง เพราะนั่นจะดูมิสง่างามนางรอให้พ่อบ้านเว่ยนำทางอยู่ข้างหน้า เพื่อหลีกเลี่ยงการเดินผิดทางแล้วถูกพ่อบ้านเว่ยหาเรื่องผิดพลาดมาตำหนิขณะเดียวกัน หลงเพ่ยเพ่ยก็ได้พาเย่หรงมุ่งหน้าไปยังวังหลวงแล้ว“อุบายนี้ของชายาเจ้าแห่งทะเลช่างร้า
จวนเจ้าแห่งทะเลตั้งอยู่ในย่านคหบดีและสูงศักดิ์ของเมืองหลวงแดนเทพ อันที่จริงอยู่ห่างจากคฤหาสน์อู่เพียงมิกี่ช่วงถนนเท่านั้นรถม้าวิ่งไปตามทางเรื่อย ๆ เถาจื่อพลันนึกอะไรขึ้นมาได้ จึงกระซิบข้างหูหลิงอวี๋เบา ๆ“คุณหนู อีกประเดี๋ยวท่านจะเห็นคฤหาสน์หลังใหญ่ที่กำลังสร้างอยู่ตรงข้ามจวนเจ้าแห่งทะเล ที่นั่นฝ่าบาททรงสร้างให้ท่านเจ้าค่ะ!”“คราแรกที่พวกเรามาตามหาท่านในเมืองหลวงแดนเทพนั้นมิรู้ว่าจะต้องเสียเวลานานเท่าใด ฝ่าบาทจึงทรงให้สือหรงซื้อคฤหาสน์แถวนี้ไว้ล่วงหน้าแล้วรื้อสร้างใหม่ทั้งหมด!”“ฝ่าบาทตรัสว่า เจ้าแห่งทะเลคือบิดาของท่าน ในเมื่อเขามิยอมรับท่าน ฝ่าบาทก็จะทำให้เขาเห็นว่า ใช่ว่าท่านไม่มีบ้านเสียหน่อย แม้จวนเจ้าแห่งทะเลไม่มีที่ให้ท่าน ฝ่าบาทก็จะสร้างจวนหลังที่ใหญ่กว่าจวนเจ้าแห่งทะเลให้!”“คุณหนู ข้างในมีเรือนหลังหนึ่ง สร้างตามแบบเรือนบุหงาที่ตำหนักอ๋องอี้ในฉินตะวันตกของท่านไม่มีผิดเพี้ยน หากท่านได้เห็นจะต้องชอบอย่างแน่นอนเจ้าค่ะ!”ก่อนหน้านี้หลิงอวี๋เคยได้ยินเผยอวี้พูดถึงคฤหาสน์หลังใหม่ที่พวกเขาสร้างแล้ว ตอนนั้นยังรู้สึกแปลกใจว่าเซียวหลินเทียนคิดจะอยู่เมืองหลวงแดนเทพเป็นการถาวรหรืออย่
วิธีนี้ของหลิงอวี๋เป็นวิธีเดียวที่จะช่วยนางได้ในยามนี้ ด้วยเซียวหลินเทียนและคนอื่น ๆ ก็ยังคิดหาวิธีที่ดีกว่านี้มิออกเย่หรงกล่าวขึ้นทันที “ข้าจะไปหาหลงเพ่ยเพ่ย บอกนางมิต้องมาแล้ว ให้เข้าวังไปทูลขอเข้าเฝ้าฮองเฮาได้เลย!”“พี่หญิงหลิงหลิง ท่านต้องยื้อจนกว่าพวกเราจะมาช่วยท่านให้ได้นะ!”พูดจบ เย่หรงก็รีบร้อนออกไปเก๋อเฟิ่งฉิงมองหลิงอวี๋ด้วยสายตาซับซ้อน นางหวังให้หลิงอวี๋เข้าจวนเจ้าแห่งทะเลไปแล้วออกมามิได้แต่เรื่องนี้ก็พัวพันถึงความเป็นความตายของเซียวหลินเทียน นางมิอยากให้เซียวหลินเทียนต้องเกิดเรื่อง!ช่างขัดแย้งในใจเสียจริง!“อาอวี๋ เจ้าไปก่อนเถอะ... วางใจได้ ต่อให้ต้องก่อความวุ่นวายครั้งใหญ่ในเมืองหลวงแดนเทพ ข้าก็จะพาเจ้ากลับบ้านให้ได้!”เซียวหลินเทียนกล่าวอย่างหนักแน่นเขายังมีแผ่นป้ายไม้ที่ขันทีโม่ให้มา สามารถใช้ขอความช่วยเหลือจากแม่ทัพฝ่ายซ้ายได้ เซียวหลินเทียนตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่าจะใช้แผ่นป้ายไม้นี้ช่วยหลิงอวี๋ขันทีโม่เคยบอกว่า เพียงอาศัยแผ่นป้ายไม้นี้ ก็สามารถทำให้แม่ทัพฝ่ายซ้ายช่วยตนทำเรื่องหนึ่งเรื่องได้หากแม่ทัพฝ่ายซ้ายสามารถช่วยคนได้เพียงคนเดียว เช่นนั้นเขาก็ยอมตายเ
เผยอวี้และคนอื่น ๆ ต่างมองหน้ากันอย่างจนปัญญา นึกว่ามหาปราชญ์และเจ้าแห่งทะเลกลับไปแล้วพวกตนจะรอดพ้นจากครั้งนี้ไปได้ คาดมิถึงว่าชายาเจ้าแห่งทะเลจะใช้ไม้นี้อีกภายนอกดูเหมือนเป็นการเชิญ แต่จริง ๆ แล้วจะปฏิเสธมิไปได้หรือ?เซียวหลินเทียนสามารถแสร้งป่วยได้ แต่หลิงอวี๋เพิ่งจะปรากฏตัวต่อหน้าเจ้าแห่งทะเลไปเมื่อครู่ ตอนนี้ย่อมมิอาจใช้การแสร้งป่วยมาหลีกเลี่ยงได้อีกแล้ว“บอกไปว่าคุณหนูสิงกำลังรักษาอาการป่วยให้ข้าอยู่ เดี๋ยวค่อยไป!”ในสถานการณ์กะทันหันเช่นนี้เซียวหลินเทียนทำได้เพียงถ่วงเวลาไปก่อนแล้วค่อยคิดหาวิธี“เผยอวี้ เจ้าส่งคนไปแจ้งหลงเพ่ยเพ่ยกับเจ้าแห่งทิศใต้ ให้หลงเพ่ยเพ่ยไปเป็นเพื่อนอาอวี๋!”เป็นเรื่องความเป็นความตายของหลิงอวี๋ เผยอวี้รีบให้คนไปแจ้งหลงเพ่ยเพ่ยทันทีหลิงอวี๋นิ่งเงียบ นั่งคิดอยู่ข้าง ๆเพื่อชิงหยกหล้าสุขาวดีกลับคืนมา ในเวลานั้นชายาเจ้าแห่งทะเลสามารถลงมืออำมหิตกับหลานฮุ่ยจวนที่กำลังตั้งครรภ์ได้ครั้งนี้นางส่งพ่อบ้านมาเชิญตนไปจวนเจ้าแห่งทะเล พูดไปพูดมาก็เพื่อหยกหล้าสุขาวดีบนตัวนางนั่นเองส่วนการที่จะนำหยกหล้าสุขาวดีออกมาได้นั้นต้องใช้วิธีสลายโลหิตละลายกระดูก หรือว่าช
หลิงอวี๋เดินกลับเข้ามา และบังเอิญได้ยินคำพูดของเย่ซงเฉิงเข้าพอดี“พวกเราต้องเตรียมรับมือสำหรับสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด หากหวงฝู่หลินกลับไปแล้ว มิสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ ถึงกาลนั้นใครจะมารับมือการแก้แค้นของฝูไห่ต่อตระกูลหลงและตระกูลอื่น ๆ อีกหลายตระกูลเล่า?”เจ้าแห่งทิศใต้มองไปยังเย่หรง และกล่าวเสียงเข้ม “เลี่ยวหงเสีย มารดาของเย่หรงอาจจะรู้วิธี!”“ปรมาจารย์เย่ ก่อนหน้านี้ข้าอยากจะพบเลี่ยวหงเสียเพื่อสอบถามสถานการณ์จึงไปที่คุกน้ำมา แต่ข้ากลับมิสามารถพบนางได้!”“คำกล่าวของท่านมีน้ำหนักเมื่ออยู่ต่อหน้าพระพักตร์เสด็จพ่อ บางทีท่านอาจจะสามารถทูลขอเสด็จพ่อให้ทรงอนุญาตท่านเข้าพบเลี่ยวหงเสียได้!”เย่ซงเฉิงขมวดคิ้ว “เจ้าแห่งทิศใต้ก็มิสามารถพบเลี่ยวหงเสียได้เช่นกันหรือพ่ะย่ะค่ะ?”เจ้าแห่งทิศใต้พยักหน้า “แม่ทัพหลี่ผู้เฝ้าประตูบอกว่า นอกเสียจากจะมีพระราชโองการของมหาเทพ มิฉะนั้นก็มิอนุญาตให้ข้าพบเลี่ยวหงเสีย!”เย่ซงเฉิงยิ้มอย่างขมขื่น “เรื่องนี้ข้าน้อยเคยทูลต่อเสด็จพ่อของท่านแล้ว เสด็จพ่อของท่านมิทรงยินยอม ความนับหน้าถือตาของตาเฒ่าผู้นี้ใช้มิได้ผลต่อหน้าพระพักตร์เสด็จพ่อของท่านแล้ว!”ทุกคนต่
หวงฝู่หลินมิรู้จักคนทั้งสองนี้เลย คิดอยู่ครู่หนึ่งจึงกล่าวว่า “ตอนนั้นนอกจากพวกท่านกับตระกูลเฉียวแล้ว ก็มีคนของตระกูลจงเจิ้งที่เข้าไปในภูเขาหิมะ ข้ามิเห็นคนทั้งสองที่ท่านพูดถึงในภูเขาหิมะ!”“บางทีปี้ซงอาจจะเคยเห็น เดี๋ยวลองเรียกเขามาถามดู!”เผยอวี้จึงไปเรียกปี้ซงมาอีกครั้งปี้ซงอุ้มหวงฝู่หมิงจูเข้ามา หลิงอวี๋ก็รับนางมาอุ้มไว้เซียวหลินเทียนมองหวงฝู่หมิงจูกอดคอหลิงอวี๋ด้วยท่าทางสนิทสนม ในใจรู้สึกซับซ้อนอย่างบอกมิถูกหวงฝู่หลินเล่าคำถามให้ปี้ซงฟังอีกครั้งปี้ซงคิดอยู่ครู่หนึ่งจึงกล่าวว่า “ชายชราผู้นั้นข้าพอจำได้ราง ๆ ตอนนั้นเขาเดินวนเวียนอยู่ในภูเขาหิมะอยู่หลายวัน ต่อมาก็จากไป ข้าคิดว่าเขาไม่มีอันตรายอะไรจึงมิได้ใส่ใจ!”“ส่วนแม่นมอู ข้าไม่มีความทรงจำเกี่ยวกับนางเลย มิเคยเห็นนางในภูเขาหิมะ!”เก๋อเฟิ่งฉิงยืนฟังอยู่ข้าง ๆ ตลอด ได้ยินดังนั้นก็กล่าวว่า “อันที่จริงตอนนั้นที่ภูเขาหิมะ นอกจากพวกเราแล้ว น่าจะยังมีคนอีกกลุ่มหนึ่ง”“ข้าก็มาพบพวกนางหลังจากลงจากเขาแล้ว ตอนนั้นยังคิดว่าพวกนางแค่ผ่านทางมา แต่พอลองคิดดูตอนนี้ พวกนางต้องเคยไปภูเขาหิมะแน่นอน แม่นมอูน่าจะถูกพวกนางพาตัวไป!”“พวกเข
เมื่อฟังคำพูดของเย่ซงเฉิงจบ หลิงอวี๋ หลงเพ่ยเพ่ยและเผยอวี้ก็ร้องอุทานออกมาพร้อมกัน“เจ้าสำนักซิงหลัวเป็นสตรี! หรือว่านางคือตงกู่อวี้ที่กลับชาติมาเกิด?”หวงฝู่หลินก็นึกขึ้นได้ ตอนที่ทุกคนรุมล้อมโจมตีเจ้าสำนักซิงหลัว เผยอวี้ใช้กระบี่เดียวตัดเชือกรัดผมที่มัดผมของเจ้าสำนักซิงหลัวขาดตอนนั้นผมสลวยของนางสยายลงมาบดบังดวงตาของนางทุกคนมัวแต่ยุ่งอยู่กับการรับมือ จึงมิทันได้คิดให้ลึกซึ้งเมื่อเย่ซงเฉิงพูดเช่นนี้ ทุกคนจึงได้นึกถึงสภาพการณ์ในยามนั้นขึ้นมา“ตงกู่อวี้กลับชาติมาเกิดจริง ๆ หรือ?”ในฐานะลูกหลานตระกูลหลง เจ้าแห่งทิศใต้จะมิรู้ได้อย่างไรว่าในใต้หล้านี้มีวิชาลับเช่นนี้อยู่จริง ทันใดนั้นก็ตกใจจนเหงื่อเย็นไหลซึมหลงจิ้งและหลงเพ่ยเพ่ยก็ตกใจเช่นกัน วรยุทธ์ของสตรีนางนั้นสูงส่งกว่ามหาปราชญ์เสียอีก แต่ก่อนหน้านี้พวกเขามิเคยรู้มาก่อนเลยว่าสำนักซิงหลัวยังมียอดฝีมือเช่นนี้อยู่“ท่านพ่อ ยามนั้นเจ้าวังหวงฝู่พร้อมด้วยท่านเซียวและพวกเราช่วยกันรุมล้อมโจมตีนางก็ยังมิสามารถสังหารนางได้ ลูกดูจากวรยุทธ์ของนางแล้ว เกรงว่าจะมีเพียงท่านอาเจ้าแห่งทะเลเท่านั้นที่พอจะต่อกรกับนางได้!”หลงเพ่ยเพ่ยกล่าวด้วย
หลงจิ้งยังคงยากที่จะเชื่อ “คำพูดของตระกูลเหล่านั้นก็มิได้ผลหรือพ่ะย่ะค่ะ?”เจ้าแห่งทิศใต้ส่ายหน้าอย่างหดหู่ “เสด็จปู่ของเจ้าตรัสว่าจะตรวจสอบให้ จึงส่งเจ้าแห่งทะเลไปตรวจสอบ แต่ผลที่ได้จากเจ้าแห่งทะเลก็มิสามารถสรุปอะไรได้เลย หรือกระทั่ง...”กระทั่งเจ้าแห่งทะเลอาจจะใช้ขี้ผึ้งหอม ควบคุมบุตรหลานของตระกูลใหญ่เหล่านั้นไว้ในมือตนเอง!เซียวหลินเทียน หลงจิ้งและหลิงอวี๋ต่างก็เข้าใจความหมายที่เจ้าแห่งทิศใต้ยังพูดมิจบใจของหลงจิ้งพลันหล่นวูบ เช่นนั้นเรื่องที่ตนไปเผาขี้ผึ้งหอมก็เท่ากับมิได้ช่วยใครเลย กลับยิ่งทำให้อำนาจของเจ้าแห่งทะเลเพิ่มทวีคูณขึ้นงั้นหรือ?หลงเพ่ยเพ่ยกล่าวอย่างมิยอม “หรือว่าหัวหน้าตระกูลใหญ่เหล่านั้นล้วนเลอะเลือนไปแล้ว? ไยจึงปล่อยให้ท่านอาเจ้าแห่งทะเลควบคุมชะตากรรมของพวกเขาเช่นนี้?”เซียวหลินเทียนขมวดคิ้ว มิน่าแปลกใจที่เมื่อครู่เจ้าแห่งทะเลยอมถอยกลับไปง่าย ๆ ที่แท้ก็มีแผนการเช่นนี้เองก่อนที่จะควบคุมตระกูลใหญ่เหล่านั้นไว้ในมือ เจ้าแห่งทะเลย่อมมิอาจแตกหักกับเจ้าแห่งทิศใต้ได้ในยามนี้แต่เมื่อใดที่เขาควบคุมตระกูลใหญ่เหล่านั้นไว้ในมือได้แล้ว เจ้าแห่งทะเลย่อมมิปล่อยเจ้าแห่งทิศใต