แชร์

บทที่ 1447

ผู้เขียน: กานเฟย
อันเจ๋อชื่นชมการระวังตัวของเจียงเจิ้งเป็นอย่างมาก จากนั้นก็หยิบหุ่นไม้แกะสลักตัวหนึ่งออกมาจากแหวนพระสุเมรุ หุ่นไม้ตัวนั้นเป็นหญิงที่มีรูปร่างคล้ายเจียงอวี้

เจียงเจิ้งมองอย่างนิ่ง ๆ นั่นเป็นของขวัญวันเกิดที่เขาตั้งใจแกะสลักให้เจียงอวี้และให้นางไว้ตอนก่อนที่เขาจะติดตามท่านพ่อออกมารับตำแหน่ง เพราะกลัวว่าจะมิได้มีโอกาสกลับไปฉลองวันเกิดให้เจียงอวี้

เขากลัวว่าตนจะมองผิดไปจึงพุ่งเข้าไปแย่งหุ่นไม้ในมือของอันเจ๋อ

ที่กระโปรงของหุ่นไม้หญิงมีการแกะสลักกระต่ายตัวเล็ก ๆ ไว้หนึ่งตัว กระต่ายตัวนั้นหูขาดไปข้างหนึ่งเพราะว่าตนรีบแกะสลักจึงมิได้ระวังทำพลาดไป

“เจ้าคือว่าที่พี่เขยของข้าจริง ๆ หรือ?”

เจียงเจิ้งเอ่ยถามอย่างมิเชื่อ

“ข้าเอาชื่อท่านพ่อของข้าเป็นประกันว่าข้าคือคือว่าที่พี่เขยของเจ้าจริง ๆ!”

เรื่องการแต่งงานของอันเจ๋อกับเจียงอวี้ได้กำหนดแน่นอนแล้ว อันเจ๋อจึงคุยโวโอ้อวดได้

“พี่เขย!”

เจียงเจิ้งตาแดงทันที จากนั้นน้ำตาเม็ดโตก็ไหลลงมา เขาอยากจะพุ่งเข้าไปกอดอันเจ๋อแต่มือก็ถูกมัดอยู่

อันเจ๋อจึงรีบก้าวเข้าไปแก้มัดให้เขา

เฉาเฉียงก็เอ่ยอย่างกระอักกระอ่วน “เด็กผู้นี้ร้ายมาก ข้ามัดมือเขาไว้เพราะว่
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1448

    อันเจ๋อคิดที่จะโต้แย้งออกไปแต่สิ่งที่ต้อนรับเขาก็คือลูกธนูอย่างหนาแน่นอาจารย์หลินลากอันเจ๋อกลับมาพลางเอ่ยเสียงเรียบ “ไม่มีประโยชน์ พวกเขาตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่าจะสังหารพวกเราทั้งหมด การวินิจฉัยของเจ้าล้วนผิดเพี้ยนไปแล้ว!”อันเจ๋อก็มองความโหดร้ายของหยางเจี้ยนออกเช่นกันจึงกังวลเป็นอย่างมาก “อาจารย์หลิน กองกำลังของพวกเราจะต้านการบุกของพวกเขาไหวหรือไม่?”อาจารย์หลินยิ้มอย่างเย็นชา “สิงหยางของเรามีกองกำลังของราษฎรอยู่เพียงสามพันคนเท่านั้น จะเป็นคู่ต่อสู้ของทหารอาชีพเหล่านี้ได้อย่างไร!”“หยางเจี้ยนมาในคราวนี้นำทหารมาเกือบหกพันคน! ทั้งสองฝ่ายแตกต่างกันมากถึงเพียงนี้ เป็นไปมิได้เลยที่จะป้องกันประตูเมืองไว้ได้!”อันเจ๋อได้ยินดังนั้นก็รู้สึกกังวลมากแต่อาจารย์หลินก็หัวเราะอย่างดูถูกออกมาอีกครั้ง “แต่หากคิดจะต่อสู้ให้พวกเขาพ่ายแพ้ไปก็ใช่ว่าจะเป็นเรื่องที่เป็นไปมิได้!”อันเจ๋อมองอาจารย์หลินอย่างงุนงง เขาเอาความมั่นใจมาจากที่ใดกัน!“มิสามารถต้านทานได้ แต่สามารถใช้สติปัญญาชิงไหวชิงพริบได้!”อาจารย์หลินเอ่ยอย่างมั่นใจเต็มเปี่ยม “ข้าจะสั่งให้คนเอาจดหมายของเจ้าออกไปส่งก่อน!”อันเจ๋อมองอาจารย์

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1449

    กลุ่มขุนนางทำได้เพียงเดินตามเซียวหลินเทียนต่อ เมื่อออกจากเมืองไปสิบกว่าลี้ ก็เริ่มเห็นที่ดินรกร้างว่างเปล่าเซียวหลินเทียนแสร้งทำเป็นมิรู้ว่าเป็นที่ดินของตระกูลใด พลางเอ่ยอย่างเสียดาย “ที่ดินดีเช่นนี้ หากมิปลูกพืชพรรณใดก็น่าเสียดายแย่!”“ใต้เท้าเจี่ยง ให้ผู้คนในเขตนี้บอกต่อกันออกไปว่า ทางราชสำนักสนับสนุนให้มีการบุกเบิกฟื้นฟูที่ดินรกร้าง ให้ชาวบ้านแถวนี้มาทำการฟื้นฟูที่ดินและเพาะปลูกในช่วงวสันตฤดู!”ใบหน้าของใต้เท้าเจี่ยงกระตุก มิรู้ว่าเซียวหลินเทียนจงใจหรือว่ามิรู้จริง ๆ ว่าที่ดินแห่งนี้เป็นของตระกูลใต้เท้าหลี่ใต้เท้าหลี่เองก็ลำบากใจพูดมิออก ตนเป็นผู้เสนอให้มีการสนับสนุนบุกเบิกที่ดินรกร้าง และตนก็ได้เลื่อนขั้นเพราะเรื่องนี้ด้วยแล้วตอนนี้เขาจะกล้าบอกกับองค์จักรพรรดิหรือว่าที่ดินรกร้างว่างเปล่าแห่งนี้เป็นของตระกูลตน?ผู้ตรวจการซุนเป็นคนซื่อตรงและมีนิสัยตรงไปตรงมา เขามิเกรงกลัวอำนาจของใต้เท้าหลี่ เมื่อเห็นว่าใต้เท้าหลี่มิพูดจา เขาจึงเอ่ยออกไปตามตรง “ฝ่าบาท นี่มิใช่ที่ดินรกร้างพ่ะย่ะค่ะ เป็นที่ดินที่มีเจ้าของ!”“หา? ในเมื่อเป็นที่ดินที่อุดมสมบูรณ์ แล้วเหตุใดจึงมีวัชพืชขึ้นรกเช่นนี

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1450

    เซียวหลินเทียนพูดออกมาพร้อมทำหน้านิ่วคิ้วขมวด จากนั้นก็มองที่ดินรกร้างว่างเปล่าเหล่านั้นด้วยท่าทีที่ดูเสียใจเป็นอย่างมาก“ใต้เท้าหลี่มิสามารถจัดการที่ดินเพาะปลูกได้ แต่ที่ดินที่ดีเหล่านี้จะปล่อยรกร้างไปก็น่าเสียดาย!”ใต้เท้าเฉินหนึ่งในกรมพระคลังได้รับคำสั่งจากหลี่ว์เซียงมาก่อนหน้านี้ ในยามนี้จึงออกมาพลางเอ่ย“ฝ่าบาท กระหม่อมก็รู้สึกว่าที่ดินที่ดีเช่นนี้หากปล่อยรกร้างไปช่างน่าเสียนักพ่ะย่ะค่ะ ในเมื่อใต้เท้าหลี่มิถนัดในการจัดการที่ดิน เช่นนั้นเหตุใดจึงมิให้ใต้เท้าหลี่ขายที่ดินเหล่านี้กลับคืนให้ราชสำนักแล้วให้จวนขุนนางส่งคนมาจัดการอย่างเท่าเทียมหรือพ่ะย่ะค่ะ!”“หากทำเช่นนี้ก็มิต้องปล่อยที่ดินให้รกร้างแล้วและยังทำให้ใต้เท้าหลี่มิต้องมายุ่งวุ่นวายเพราะเหตุนี้อีกด้วยพ่ะย่ะค่ะ!”“ใต้เท้าหลี่ การปล่อยที่ดินรกร้างตามกฎแล้วจะต้องถูกลงโทษตามความร้ายแรงของสถานการณ์! ที่ดินรกร้างของเจ้ามีขนาดหลายร้อยหมู่ ต้องมีการชดเชยภาษีและถูกลงโทษด้วย มันจะได้มิคุ้มเสีย!”ใต้เท้าเฉินยังพูดมิทันจบ ใต้เท้าหลี่ก็ตกใจคุกเข่าลงกับพื้นแล้ว“ฝ่าบาท กระหม่อมมิรู้จริง ๆ พ่ะย่ะค่ะว่าที่ดินเหล่านี้ถูกปล่อยให้รกร้าง

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1451

    หลังจากหลิงอวี๋ได้รู้วิธีการนี้ก็ชื่นชมเซียวหลินเทียนอย่างจริงใจนางรู้สึกว่านับวันเซียวหลินเทียนก็ยิ่งเก่งขึ้นเรื่อย ๆ การใช้วิธีการนำคำพูดของฝ่ายตรงข้ามมาตอบโต้ฝ่ายตรงข้ามเองนั้นดีมาก!กระทั่งเหตุการณ์วุ่นวายที่เจิ้งโจวสิ้นสุดลง เซียวหลินเทียนก็คงจะทำให้สถานการณ์มั่นคงและสามารถเข้าสู่ช่วงเพาะปลูกในวสันตฤดูได้อย่างราบรื่นแล้วในขณะที่หลิงอวี๋กับเซียวหลินเทียนกำลังให้ความสนใจกับเรื่องที่เจิ้งโจว ป้าสะใภ้ใหญ่ก็นำป้ายของท่านอดีตเสนาบดีเข้าวังมาขอพบหลิงอวี๋หลิงอวี๋ค่อนข้างสงสัย ป้าสะใภ้ใหญ่มีเรื่องด่วนอันใดกัน?นางจึงรีบให้หลิงซวนไปพาป้าสะใภ้ใหญ่เข้าวังทันทีเมื่อป้าสะใภ้ใหญ่เห็นหลิงอวี๋ ยังมิทันได้พูดอะไรก็ตาแดงแล้วหลิงอวี๋จึงเอ่ยถามอย่างประหลาดใจ “ป้าสะใภ้ใหญ่เป็นอะไรไป? เกิดเรื่องอะไรขึ้น? หรือว่าเป็นท่านปู่?”“ไม่ ๆ… มิใช่ท่านปู่ของท่านแต่เป็นหว่านเอ๋อร์เพคะ!”ป้าสะใภ้ใหญ่ควักจดหมายฉบับหนึ่งมาส่งให้หลิงอวี๋พลางเอ่ย“ก่อนหน้านี้แม่ทัพเผยบอกว่าจะช่วยพวกเราตามหาท่านลุงใหญ่ของท่าน แต่เขาไปหลายวันแล้วก็มิได้มีจดหมายมา หว่านเอ๋อร์จึงร้อนใจแล้วทิ้งจดหมายนี้ไว้เมื่อวานว่านางออกไปต

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1452

    เซียวหลินเทียนได้ฟังที่หลิงอวี๋พูดก็หวั่นไหว หลิงอวี๋จึงฉวยโอกาสนี้กอดแขนเขาอย่างสนิทสนมพลางเอ่ย“เซียวหลินเทียน ท่านให้หม่อมฉันไปเถิด! หม่อมฉันหวังว่าเราจะเคารพซึ่งกันและกันนะเพคะ หม่อมฉันมิอยากถูกกักขังอยู่ในวังหลวงไปตลอดชีวิต หม่อมฉันเองก็หวังว่า หม่อมฉันจะสามารถทำในสิ่งที่หม่อมฉันอยากทำได้เช่นกันเพคะ!”“ครอบครัวท่านลุงท่านป้ามีบุญคุณท่วมหัวเราสองพี่น้อง หากเกิดอะไรขึ้นกับหลิงหว่าน หม่อมฉันจะต้องรู้สึกผิดไปตลอดชีวิตเป็นแน่เพคะ!”นางใช้ไม้อ่อนมาพูดจาหว่านล้อมจนในที่สุดเซียวหลินเทียนก็ถูกหลิงอวี๋โน้มน้าวสำเร็จเขาจึงเอ่ยอย่างจนใจ “ข้าให้เจ้าไป แต่เจ้าต้องรับปากข้าว่าจะต้องดูแลตนเองให้ดี ๆ!”“เพคะ!”หลิงอวี๋ขอเซียวหลินเทียนได้แล้วก็โล่งอกโล่งใจการที่นางยืนกรานจะไปตามหาหลิงหว่านที่เจิ้งโจวคราวนี้ นอกจากจะกังวลเรื่องความปลอดภัยของหลิงหว่านแล้ว ก็ยังเป็นการลองใจเซียวหลินเทียนที่อยู่ข้างในนี้ด้วยหลิงอวี๋กังวลว่า เซียวหลินเทียนเป็นจักรพรรดิแล้วจะเผด็จการดังเช่นเมื่อก่อน ยึดติดกับความคิดชายเป็นใหญ่แล้วกักขังตนให้อยู่ที่วังหลังให้เป็นแม่บ้านแม่เรือนการใช้ชีวิตเช่นนั้นแค่คิดก็ทำให้

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1453

    ทหารผู้นั้นส่ายหน้า “ใต้เท้าอันน่าจะเดินทางไปที่ผิงเนี่ยแล้ว พวกกบฏหลิวจวินอยู่ทางนั้นได้ยินว่าจับตัวท่านอ๋องผิงหนานไว้ ใต้เท้าอันน่าจะไปช่วยท่านอ๋องผิงหนานแล้ว!”หลิงอวี๋ตะลึงไปครู่หนึ่ง หลังจากนางออกมาจากวังก็มิรู้เรื่องความคืบหน้าในการจัดการความมิสงบของอันเจ๋ออีกเลย ไหนเลยจะคิดว่าท่านอ๋องผิงหนานจะถูกจับตัวไปแล้ว“แม่ทัพลั่วกับแม่ทัพจี้เล่า?”หลิงอวี๋นึกถึงสองแม่ทัพที่มาช่วยอันเจ๋อจึงถามไปอีกทหารผู้นั้นมองหลิงอวี๋อย่างสงสัย คงจะคิดมิถึงว่าพ่อค้าหนุ่มผู้นี้จะรู้เรื่องแม่ทัพของราชสำนักถึงเพียงนี้แต่เมื่อเผชิญหน้ากับพวกเถาจื่อที่ทำท่าทางดุร้าย ทหารผู้นั้นก็เอ่ยออกมาอย่างช้า ๆ “แม่ทัพลั่วถูกผู้แทนพระองค์คนใหม่ส่งไปจัดการความมิสงบที่กว่างอู่แล้ว ส่วนแม่ทัพจี้ก็ถูกส่งไปจัดการกับเส้าหมิงเจี๋ย!”หลิงอวี๋ได้ยินดังนั้นก็ขมวดคิ้ว แม่ทัพฟางที่รับหน้าที่คนใหม่นี้เป็นคนของจ้าวฮุย ก่อนหน้านี้เซียวหลินเทียนเคยบอกกับนางแล้วตอนนี้อันเจ๋อเป็นบุคคลสำคัญที่เก็บหลักฐานการกระทำผิดของพวกใต้เท้าจางเอาไว้ ท่านอ๋องผิงหนานถูกหลิวจวินจับตัวไป แม่ทัพฟางกลับมิคิดที่จะไปช่วยท่านอ๋องผิงหนาน ทั้งยังทำการแยก

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1454

    “มิต้องตะโกนแล้ว คาดว่าอาจารย์หลินเองก็ไปช่วยใต้เท้าอันที่ผิงเนี่ยเช่นกัน เฉาเฉียงคงกังวลว่าพวกเราจะเป็นสายลับที่มาสืบที่อยู่ของอาจารย์หลินจึงเลี่ยงมิให้พบ!”หลิงอวี๋นึกถึงอาจารย์หลินที่อันเจ๋อเอ่ยถึงก่อนหน้านี้ว่าเป็นบุคคลสำคัญของเฉาเฉียง และเป็นคนที่เก่งกาจมากจากที่หลี่ข่ายบอก ผู้นำที่เอาชนะแม่ทัพหยางได้ก็น่าจะเป็นอาจารย์หลินผู้นี้เฉาเฉียงคงกังวลว่า หากเปิดเผยไปว่าอาจารย์หลินมิได้อยู่สิงหยางแล้วจะถูกโจมตีจึงเลี่ยงที่จะมิพบเมื่อเห็นว่าสิงหยางมีการป้องกันที่แน่นหนาเช่นนี้ หลิงหว่านก็คงมิสามารถเข้าไปได้เช่นกัน เช่นนั้นจึงทำได้เพียงไปรวมตัวกับอันเจ๋อที่ผิงเนี่ยก่อนแล้วค่อยไปตามหาหลิงหว่านหลิงอวี๋จึงพาพวกเถาจื่อมุ่งหน้าไปผิงเนี่ย......เวลานี้ ไท่เฟยเส้ากับจ้าวฮุยได้รู้เรื่องที่หลิงอวี๋ออกไปจากวังหลวงแล้วกฎหมายที่ดินของเมืองหลวงก็ถูกประกาศออกไปอย่างรวดเร็วภายใต้ฝีมือและการเร่งเร้าของเซียวหลินเทียนขุนนางพวกของจ้าวฮุยทัดทานแรงกดดันของเซียวหลินเทียนมิไหว บางส่วนกลัวว่าจะถูกลงโทษเช่นใต้เท้าหลี่จึงยอมมอบที่ดินแต่โดยดีเดิมทีขุนนางบางส่วนยังคงดูท่าทีอยู่ แต่เมื่อเห็นว่าจ้าวฮุยกับอ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1455

    “ยกมือขึ้นแล้ววางอาวุธลงเสีย!”หัวหน้าที่นำมาตะคอกใส่พวกนางทีแรกหลิงอวี๋ก็ตกใจคิดว่าเจอใต้เท้าจางซุ่มโจมตี แต่เมื่อได้ยินเสียงที่คุ้นเคยก็หันไปมอง หัวหน้าผู้นี้คือฮุยจื่อคนรับใช้ของอันเจ๋อนั่นเองหลิงอวี๋จึงเรียกเขาทันที “เสี่ยวฮุยจื่อ ข้าคือแม่นางหลิง!”หลิงอวี๋เช็ดหน้าแล้วถอดหน้ากากออกเผยให้เห็นใบหน้าที่แท้จริงของตนเสี่ยวฮุยจื่อเป็นคนฉลาด เมื่อตั้งใจมองดี ๆ ว่าเป็นใบหน้าของหลิงอวี๋ก็ตะลึง แต่มิกล้าเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของหลิงอวี๋จึงเรียกด้วยความเคารพในทันที “แม่นางหลิง ที่แท้ก็เป็นท่านเอง! คนกันเอง วางหน้าไม้เสียลง...”เสี่ยวฮุยจื่อเข้ามาต้อนรับ หลิงอวี๋จึงรีบเอ่ยถาม “ใต้เท้าอันสบายดีหรือไม่?”“ก่อนหน้านี้ใต้เท้าของข้าได้รับบาดเจ็บที่สิงหยาง อาการบาดเจ็บแย่ลงแล้ว พวกท่านมาพอดี จะได้ไปตรวจให้เขา!”เสี่ยวฮุยจื่อขยิบตาให้หลิงอวี๋ หลิงอวี๋มิแน่ใจว่าอาการบาดเจ็บของอันเจ๋อแย่ลงจริง ๆ หรือว่าเป็นแผนการ จึงตามเสี่ยวฮุยจื่อเข้าไปที่ที่พักชั่วคราว“แม่ทัพเผยก็มาแล้วพ่ะย่ะค่ะ!”เสี่ยวฮุยจื่อเห็นว่าแถวนี้มิได้มีคนนอกจึงบอกกับหลิงอวี๋หลิงอวี๋โล่งอก เผยอวี้อยู่ที่นี่ เช่นนั้นหลิงห

บทล่าสุด

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1790

    “อย่า… อย่าฆ่าข้า!”หัวหน้าเสิ่นกลัวจนร้องออกมาเสียงสั่นเขาเชื่อมั่นในวรยุทธ์ของตนว่าจะสามารถหนีไปได้อย่างราบรื่น ไหนเลยจะคิดว่าจะหนีมิพ้นหมาป่าตัวนี้!“หึ! ข้าบอกไปแล้วว่า นอกเสียจากเจ้าจะเร็วกว่าปู้ติง มิเช่นนั้นก็ให้เชื่อฟังคำของข้า! เจ้าอยากจะทนทุกข์ก่อนจึงจะยอมฟังหรือไร?”หลิงอวี๋ยิ้มเยาะพลางเดินเข้าไป เรี่ยวแรงที่ตัวนางกลับคืนมาแล้วลูกปัดสีเขียวนี้มหัศจรรย์จริง ๆ!แต่หลิงอวี๋มิได้มีความคิดที่จะครอบครองเป็นของตน นี่คือของของแม่หมาป่า ในเมื่อให้ปู้ติงไปแล้วเช่นนั้นก็เป็นของปู้ติง“ปู้ติง! ปล่อยเขาเถิด!”ปู้ติงจึงปล่อยหัวหน้าเสิ่นอย่างเชื่อฟัง หลิงอวี๋ก็ลูบหัวมันอย่างเอ็นดู จากนั้นก็เอาลูกปัดสีเขียวยัดเข้าปากมันไป“เสี่ยวเจียง ปิดประตู!”หลิงอวี๋เอ่ยกับเสี่ยวเจียงที่กลัวจนสั่นมิหยุดเสี่ยวเจียงมองขาที่เลือดไหลของหัวหน้าเสิ่น เมื่อครู่หมาป่าตัวนั้นรวดเร็วมาก เขาหนีมิได้เลยมีหรือเสี่ยวเจียงจะกล้ามิฟังคำพูดของหลิงอวี๋ เขาจึงเดินไปปิดประตูด้วยความหวาดกลัวจนตัวสั่น“ข้าถามอะไรเจ้าก็ตอบสิ่งนั้น มิเช่นนั้นครั้งต่อไปที่ปู้ติงกัดจะมิใช่ขาของเจ้า แต่เป็นคอ เข้าใจหรือไม่?”หลิ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1789

    หลิงอวี๋กุมใบหน้าตนเองอย่างสิ้นหวัง นางมิเชื่อว่าปู้ติงจะทิ้งตนไปจะต้องเป็นเพราะที่นี่อยู่ไกลจากวังเทพมากเกินไปอย่างแน่นอน ปู้ติงจึงมิได้ยินเสียงขอความช่วยเหลือของตนในขณะที่หลิงอวี๋กำลังคิดที่จะพยายามกลับไปบนเตียงก็ได้ยินเสียงโหวกเหวกดังมาจากด้านล่าง“นั่นคือหมาป่าหรือ? ข้ามิได้ตาฝาดไปใช่หรือไม่!”“เจ้าตาฝาดแล้ว ที่นี่จะมีหมาป่ามาจากที่ใดกัน!”“แต่ข้าเห็นหมาป่าที่เป็นสีขาวราวกับหิมะทั้งตัววิ่งไปจากบนหลังคาจริง ๆ นะ...”หมาป่าตัวสีขาวราวหิมะ?หลิงอวี๋กำลังจะวางมือก็เห็นว่ามีสายฟ้าสีขาวพุ่งเข้ามาจากหน้าต่างอย่างรวดเร็วหลิงอวี๋ยังมิทันได้เห็นชัด สายฟ้านั้นก็พุ่งเข้ามาในอ้อมแขนของนาง แล้วตัวที่เป็นขนปุกปุยก็ทำให้ทั้งตัวของนางอบอุ่นขึ้นมาหลิงอวี๋ก้มหน้าลงก็เห็นดวงตาสีเขียวของหมาป่าน้อยที่มีขนตาสีขาวข้างหนึ่งดำข้างหนึ่งปู้ติง!ปู้ติงจริง ๆ ด้วย!มิเจอกันหลายวัน ปู้ติงโตขึ้นอีกแล้วและดูแข็งแรงขึ้นด้วย!หลิงอวี๋กอดปู้ติงอย่างดีใจแล้วก็จุ๊บมันไปแล้วหัวใจที่จมลงสู่ก้นบึ้งก็กลับมามีชีวิตชีวาขึ้นทันที“ปู้ติง ข้าถูกคนวางแผนทำร้าย ตัวข้าไม่มีแรงเลย เจ้าหายาแก้พิษให้ข้าหน่อยได้ห

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1788

    เด็กหนุ่มผอมบางเช่นนี้น่าจะมิใช่คู่ต่อสู้ของตน!หลิงอวี๋หลับตาลงอีกครั้งพลางครุ่นคิดท่านน้าหลิน เสวี่ยเหมยและอี้เหวินให้หัวหน้าเสิ่นที่เป็นผู้ส่งเสบียงพาตนลงจากเขามา จะต้องเป็นเพราะตนได้รับการยกย่องจากหวงฝู่หมิงจูจึงไปดึงดูดความอิจฉาริษยาของพวกนางเป็นแน่นางมิเชื่อว่าท่านน้าหลินเพียงแค่ต้องการให้ตนออกจากวังเทพอย่างเดียวเท่านั้นเมื่อคิดเชื่อมโยงถึงเรื่องเครื่องประดับเหล่านั้นที่หัวหน้าเสิ่นพูดถึง ทั้งยังมีเรื่องที่อี้เหวินอาศัยว่าจะให้ตนดูแลจัดการงานภายในของวังเทพแล้วพาตนไปดูโกดัง อีกทั้งยังบอกตนเรื่องที่หวงฝู่หมิงจูมีจี้หยกราตรีน้ำเงินอีกหลิงอวี๋จึงได้กล้าคาดเดาอะไรเช่นนี้ท่านน้าหลินจะต้องติดสินบนหัวหน้าเสิ่นให้พาตนลงมาจากภูเขา จากนั้นก็ใส่ร้ายว่าตนขโมยเครื่องประดับแล้วหนีไปอย่างแน่นอนขอเพียงมีหนึ่งในเครื่องประดับหนึ่งชิ้นตกหล่นหายไป หวงฝู่หลินก็จะยิ่งเชื่อว่าตนเป็นคนขโมยจากนั้นหัวหน้าเสิ่นก็จะสังหารตนหัวหน้าเสิ่นออกไปแล้ว เสี่ยวเจียงผู้นี้ก็มิใช่คู่ต่อสู่ของตน หากมิหนีเวลานี้แล้วยังจะรออะไรอีกเล่า!หลิงอวี๋คิดแล้วขยับมือเท้าอย่างเงียบ ๆมือเท้ามิได้ถูกมัดไว้ แต่ขยับเ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1787

    “ท่านสี่ เราทำอาหารกันค่อนข้างมาก จึงนำมาให้ท่านสักหน่อย!”เก๋อเฟิ่งฉิงเห็นพวกฉินซานเรียกเซียวหลินเทียนว่าท่านสี่จึงเรียกเซียวหลินเทียนเช่นนั้นตามเซียวหลินเทียนมิแม้แต่จะมองถาดของนางแล้วยกอาหารแห้งในมือขึ้น พร้อมกับเอ่ยเรียบ ๆ “ขอบคุณมาก แต่ข้ากินอิ่มแล้ว!”เขายัดอาหารแห้งที่เหลือใส่ปากแล้วเคี้ยวอย่างเอร็ดอร่อยเก๋อเฟิ่งฉิงเองก็มิได้ท้อ นางวางถาดไว้ตรงหน้าเขาแล้วเอ่ยยิ้ม ๆ “กินอิ่มแล้วก็กินน้ำแกงผักสักหน่อยก็ได้! จะแบ่งให้ลูกน้องของท่านก็ได้!”หลังจากพูดจบ เก๋อเฟิ่งฉิงก็หันหลังเดินไปคนที่มีตาก็ล้วนมองออกว่าเก๋อเฟิ่งฉิงกำลังเอาใจเซียวหลินเทียนอยู่สตรีพรหมจรรย์นางหนึ่งเอาใจบุรุษคนหนึ่งเช่นนี้ จะเป็นเพราะเหตุใดไปได้เล่า!“ขันทีโม่ ท่านกินเถิด!”เซียวหลินเทียนดันถาดไปให้ขันทีโม่ขันทีโม่มองอาหารตรงหน้า มีเนื้อมีผัก ดูคุณค่าทางอาหารสมบูรณ์มาก เขาจึงยิ้มแล้วเอ่ย“คุณหนูใหญ่ตระกูลเก๋อคงยังมิยอมถอดใจจากท่านเลยนะ! ท่านสี่ เช่นนั้น ยินดีรับไว้ดีหรือไม่?”ขันทีโม่ก็เหมือนกับคนจำนวนมากที่คิดว่าการที่เซียวหลินเทียนจะมีสนมมากมายนั้นเป็นเรื่องปกติแม้ว่าคุณหนูใหญ่ตระกูลเก๋อผู้นี้จะแสร

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1786

    กลุ่มของเก๋อเฟิ่งฉิงกับเซียวหลินเทียนเข้าไปในเขาด้วยกันแล้วก็เห็นคนของตระกูลเฉียว แต่ทุกคนก็ต่างคนต่างไปการปะทะกันในเวลานี้มิใช่เรื่องที่ฉลาด เพราะว่าการลงมือในถิ่นของหวงฝู่หลินนั้นอาจจะทำให้หวงฝู่หลินโกรธได้แม้ว่าตระกูลหวงฝู่จะอยู่อย่างสันโดษมาหลายชั่วอายุคน แต่ในฐานะของผู้สืบทอดของตระกูลหวงฝู่หลินก็มีความเป็นไปได้ที่พลังจะสูงกว่าพวกเขาทั้งหลายสำหรับหวงฝู่หลิน ผู้นำของทั้งสองตระกูลต่างก็เสนอจุดประสงค์ที่จะดึงมาให้เป็นพวกเดียวกัน ดังนั้นหากมิถึงคราวจำใจจริง ๆ เก๋อเฟิ่งฉิงกับเฉียวไป๋ไม่มีทางทำเรื่องที่จะทำให้หวงฝู่หลินขุ่นเคืองแน่เมื่อเข้าไปในภูเขาหิมะ เริ่มแรกยังมีเส้นทาง แต่เดินไปได้สิบกว่าลี้ก็ไม่มีเส้นทางแล้วทั่วทุกที่ล้วนเป็นสีขาวโพลน แม้ว่าหานเหมยจะเคยมาที่ภูเขาหิมะ แต่เมื่อเห็นสีขาวโพลนนี้นางก็หลงทางเช่นกัน มิรู้ว่าภูเขาแห่งนั้นคือภูเขาที่มีวังเทพอยู่“มิต้องรีบร้อน ค่อย ๆ หาไป ขอเพียงฮูหยินอยู่ที่วังเทพ พวกเราจะต้องตามหานางพบแน่นอน!”ต่อหน้าเก๋อเฟิ่งฉิง เซียวหลินเทียนจึงเรียกหลิงอวี๋ว่าฮูหยินหานเหมยอยากจะร้องไห้แต่ไม่มีน้ำตา ก่อนหน้านี้นางบอกอย่างมั่นใจว่าตนรู้เส้น

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1785

    หวงฝู่หลินพูดถึงตรงนี้แล้วก็เปลี่ยนน้ำเสียง “ปี้ซง เสวี่ยเหมยที่อยู่ข้างกายหมิงจูผู้นั้นมิอาจใช้งานได้แล้ว!”“ที่หลิงอวี๋หายตัวไปครานี้ จะต้องมีนางสมรู้ร่วมคิดอยู่ด้วยเป็นแน่! เจ้าให้คนของเจ้าจับตาดูนางไว้แล้วให้คนคุ้มกันหมิงจูไว้ให้ดี ๆ อย่าได้เกิดเรื่องอะไรกับนางเป็นอันขาด!”“พ่ะย่ะค่ะ!”ปี้ซงพยักหน้าพร้อมกับแววตาที่ล้ำลึกหวงฝู่หลินมิได้อยู่ที่วังเทพเป็นเวลานาน เดิมทียังคิดว่าลิ่งหูหลินสามารถดูแลหมิงจูเป็นอย่างดีได้ แต่ในเมื่อลิ่งหูหลินคิดมิซื่อ เช่นนั้นทาสในวังเทพเหล่านี้ก็ต้องถูกนางซื้อตัวไว้แล้วเป็นแน่! คราวนี้จะต้องเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่แล้วเซียวหลินเทียนคาดมิถึงเลยว่าเขามาถึงที่ภูเขาหิมะ แต่หลิงอวี๋กลับมิอยู่ที่วังเทพแล้วจะว่าไปแล้ว เซียวหลินเทียนก็เกือบจะเฉียดกับหลิงอวี๋อยู่เหมือนกันที่ด้านนอกภูเขาหิมะ กลุ่มของเซียวหลินเทียนได้พบกับกลุ่มส่งเสบียงของวังเทพหลิงอวี๋ถูกป้อนยาสลบและทำให้กระดูกอ่อนแรงไปจึงนอนหมดสติอยู่บนรถม้ากลุ่มของเซียวหลินเทียนเห็นรถม้าที่ขนของสารพัดมาก็หาได้ใส่ใจไม่ ทั้งสองคนจึงคลาดกันไปเช่นนั้นกลุ่มของเซียวหลินเทียนเข้าไปในอาณาเขตของภูเขาหิมะแล้

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1784

    ธารน้ำแข็งที่ไม่มีที่สิ้นสุดเต็มไปด้วยน้ำแข็งที่สะสมมาตลอดหลายพันปี บุรุษวัยกลางคนผู้หนึ่งถูกโซ่เหล็กขนาดเท่าแขนหลายเส้นมัดเอาไว้ และฝังอยู่ในน้ำแข็งที่สะสมอยู่นั้นฝูไห่หลับตาอยู่เหมือนยังมีชีวิต คล้ายกับคนที่กำลังหลับอยู่และสามารถตื่นขึ้นมาได้ตลอดเวลา!พ่อของหวงฝู่หลินบอกกับหวงฝู่หลินไว้ว่า “คนที่มีพลังล้ำลึกเช่นฝูไห่นี้ หากโอกาสเอื้ออำนวย แม้ว่าจะถูกฝังอยู่ในน้ำแข็งเขาก็สามารถฟื้นคืนชีพขึ้นมาได้!”“ปู่ของเจ้ากับหลงอี้เห็นแก่ความสัมพันธ์ที่เป็นศิษย์พี่ศิษย์น้องกันจึงมิได้สังหารเขาไปตรง ๆ แต่ใช้วิธีเช่นนี้กักขังเขาเอาไว้แทน!”“ตระกูลหวงฝู่ของเรารับผิดชอบในการปกป้องเขา เจ้ารู้ว่าเข้ามาอย่างไรก็พอแล้ว มิต้องไปสนใจเขามากเกินไป เพราะว่าใต้หล้านี้นอกจากหลงอี้กับปู่ของเจ้าจะยินยอม มิฉะนั้นใครก็ไม่มีทางจะคืนชีพเขาได้!”นี่เท่ากับว่าเป็นโลงศพน้ำแข็งที่อยู่ในสุสานน้ำแข็งน่ะสิ!หวงฝู่หลินเห็นแล้วก็มิได้ใส่ใจ หากมิใช่เพราะท่านพ่อพาตนไป เขาก็หาทางเข้าไปมิเจออย่าว่าแต่ตลอดทางยังมีกลไกและกับดักมากมาย เพียงแค่มิระวังนิดเดียว ตัวเองก็อาจต้องตายอยู่ในธารน้ำแข็งเหล่านี้ก่อนหน้านี้หวงฝู่หลินมิ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1783

    ในขณะที่เสวี่ยเหมยกำลังระวังตัวอยู่เงียบ ๆ นั้น วังเทพก็ได้ต้อนรับแขกที่มิได้รับเชิญจากหลายทางคนเหล่านี้ก็คือเซียวหลินเทียน คนของตระกูลเฉียวและคนของตระกูลเก๋อทันทีที่คนสามกลุ่มนั้นเข้ามาในพื้นที่ของภูเขาหิมะ องครักษ์ที่ยืนเวรอยู่ด้านหน้าหุบเขาก็ส่งนกพิราบมาส่งข่าวให้หวงฝู่หลินอย่างรวดเร็วหวงฝู่หลินเห็นแล้วก็ตะลึงเป็นเล็กน้อย ตระกูลหวงฝู่มิข้องเกี่ยวกับเรื่องภายนอกมาหลายร้อยปีแล้ว คนเหล่านี้ดาหน้ามาพร้อมกันด้วยเรื่องอันใด?“ทำตามกฎเดิม มิต้องสนใจพวกเขา หากสามารถบุกเข้ามาถึงวังเทพได้ค่อยว่ากัน!”หวงฝู่หลินยิ้มอย่างดูถูกหลายร้อยปีมานี้ มีคนจำนวนนับมิถ้วนที่อยากจะบุกเข้ามาปล้นวังเทพแต่เข้ามาได้ก็กลับออกไปมิได้เขามิเชื่อว่าคนเหล่านั้นจะสามารถบุกเข้ามาในวังเทพได้อย่างราบรื่นภายใต้การวางกับดักที่ซับซ้อนและค่ายกลจำนวนมากแต่ปี้ซงมิได้มองในแง่ดีเช่นหวงฝู่หลิน เขาดูข่าวที่ส่งมาอย่างละเอียดแล้วเอ่ย “ท่านเจ้าวัง กลุ่มที่มาสองกลุ่มคือตระกูลเก๋อกับตระกูลเฉียว นี่คือคนของทางแดนเทพพ่ะย่ะค่ะ!”“หากมิได้มีเรื่องสำคัญนักพวกเขาจะมาที่แดนเทพด้วยกันได้อย่างไร?”“ส่วนคนกลุ่มนี้มิใช่คนของแดนเทพ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1782

    หวงฝู่หลินสีหน้าเปลี่ยนไป แล้วในที่สุดก็ตะโกนขึ้นมา “ปี้ซง!”ปี้ซงเดินเข้ามา“ส่งข่าวออกไปทันทีให้ป้าวเฉิงระดมคนทั้งหมดจับเป็นอาอวี๋!”ที่ตัวของอาอวี๋ยังมีตำรับยาที่หวงฝู่หลินต้องการอยู่ ก่อนที่จะได้ตำรับยานั้นมา หวงฝู่หลินต้องการให้อาอวี๋ยังมีชีวิตอยู่ปี้ซงเป็นคนสนิทของหวงฝู่หลินจึงเข้าใจเจตนาของหวงฝู่หลินในทันที แล้วเอ่ยเสียงเรียบ “พ่ะย่ะค่ะ!”ปี้ซงรีบใช้นกพิราบส่งข่าวหาป้าวเฉิงอย่างรวดเร็วท่านน้าหลินแอบภูมิใจ หัวหน้าเสิ่นรับเครื่องประดับเหล่านั้นที่ตนให้เขาไปแล้ว จะต้องสังหารหลิงอวี๋แล้วอย่างแน่นอนแม้ว่าปี้ซงจะตามหาหลิงอวี๋กลับมาได้ หลิงอวี๋ก็เป็นศพไปแล้ว ไม่มีทางเป็นภัยคุกคามตำแหน่งของตนได้อีก“เสวี่ยเหมย เจ้านำศพปี้เอ๋อร์ไปฝังเถิด เด็กสาวผู้นี้เองก็เป็นคนที่น่าสงสารที่เจอคนมิดี!”ท่านน้าหลินแสร้งทอดถอนใจแล้วบอกหวงฝู่หมิงจูคือคนที่เสียใจที่สุดในจำนวนเหล่านี้ นางเชื่อใจอาอวี๋ถึงเพียงนั้น อาอวี๋หนีไปได้อย่างไร?หลักการที่ปกตินางสอนให้ตนในการเป็นคนนั้นเป็นของปลอมทั้งหมดเลยหรือ?หวงฝู่หมิงจูรู้สึกว่าตนถูกหักหลัง ในเวลาชั่วครู่นี้ นางได้รู้จักกับความเกลียดเป็นครั้งแรกแล้

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status