Share

บทที่ 1434

Author: กานเฟย
พระชายาผิงหนานจมอยู่ในความสับสนอย่างเงียบ ๆ

ฝ่ายหนึ่งก็ลูกชายหัวแก้วหัวแหวน อีกฝ่ายก็เป็นเสาหลักของครอบครัว นางลังเลอยู่ครู่หนึ่งแล้วจึงตัดสินใจ

“ฝ่าบาท ในเมื่อท่านอ๋องของหม่อมฉันร้องขอ หม่อมฉันก็ไม่มีอะไรจะพูดเพคะ ตามแต่ใจของเขาเถิด!”

พระชายาผิงหนานได้สติกับคำพูดของท่านอ๋องผิงหนาน

หากองค์จักรพรรดิส่งขุนนางคนอื่นไป หากอันเจ๋อยังมีชีวิตอยู่แต่คนคนนั้นมิพยายามอย่างเต็มที่ เช่นนั้นจะมิเป็นการตัดหนทางการรอดชีวิตของอันเจ๋อหรือ?

หากสามีตนไป แม้ว่าจะเสี่ยง แต่เขาจะต้องพยายามอย่างเต็มที่ในการตามหาอันเจ๋อ!

เซียวหลินเทียนเห็นว่าพระชายาผิงหนานเห็นด้วย จึงออกคำสั่งให้ท่านอ๋องผิงหนานเป็นผู้แทนพระองค์และให้รีบออกจากวังไปเตรียมตัวมุ่งหน้าไปยังเจิ้งโจวทันที

กระทั่งจ้าวฮุยรู้ข่าว ท่านอ๋องผิงหนานก็อยู่ระหว่างเดินทางแล้ว

จ้าวฮุยโกรธมาก เขาคิดว่าอันเจ๋อหายตัวไปแล้ว คราวนี้เซียวหลินเทียนจะต้องใช้คนที่ตนแนะนำให้อย่างแน่นอน

ไหนเลยจะคิดว่าเซียวหลินเทียนจะรวดเร็วเช่นนี้ ยังมิทันได้ขึ้นว่าราชกิจก็สั่งการท่านอ๋องผิงหนานไปแล้ว

“หึ เสียอันเจ๋อไปคนหนึ่งแล้วเจ้าก็ยังจะดื้อดึงอยู่อีก เช่นนั้นข้าจะดูว่าเจ้าจ
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1435

    ในขณะที่แม่ทัพฟางออกเดินทาง ข่าวลือเกี่ยวกับโจรที่เจิ้งโจวก็แพร่กระจายไปทั่วและในเมืองหลวงก็มีข่าวลือบางส่วนที่แพร่ออกไปอย่างเงียบ ๆ ซึ่งมุ่งเป้าไปที่เซียวหลินเทียนข่าวลือเหล่านี้บอกว่า จักรพรรดิองค์ใหม่ไร้คุณธรรมไร้ความสามารถ จึงทำให้เกิดหิมะตกหนักติดต่อกันหลายวัน เป็นการลงโทษจากสวรรค์ ราษฎรผู้บริสุทธิ์ต้องหนาวตาย และโจรก็ออกอาละวาดเซียวหลินเทียนได้ยินศฤคาลเงินเล่าถึงข่าวลือเหล่านี้ก็หัวเราะเยาะออกมาเซียวหลินเทียนจะเดาเจตนาของคนที่ปล่อยข่าวลือมิออกเชียวหรือ?นี่เป็นการอาศัยโจรมาทำให้ตนเสียชื่อเสียง ยั่วให้ตนโมโหทำให้เป็นเรื่องใหญ่โตไปจับตัวผู้แพร่ข่าวลือ กระตุ้นความขุ่นเคืองของราษฎรแล้วยุยงให้ราษฎรโค่นล้มอำนาจทางการเมืองของตนมาตรการตอบโต้ต่อเรื่องนี้ของเซียวหลินเทียนมิใช่การจับกุมตัว แต่เป็นการนำเหล่าขุนนางไปช่วยเหลือเมืองที่อยู่ใกล้ ๆ เมืองหลวงที่ได้รับภัยพิบัติด้วยตนเองเมื่อฝ่าหิมะที่ตกหนักออกมา จักรพรรดิผู้สูงส่งที่ในอดีตจะเห็นได้ที่ตำหนักกระดิ่งทองเท่านั้น กลับมิสนใจความหนาวเหน็บแล้วมาบรรเทาภัยพิบัติถึงบ้านเรือน ทำให้ราษฎรเหล่านั้นหลั่งน้ำตาแห่งความซาบซึ้งออกมาเซียว

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1436

    เซียวหลินเทียนเคยชินกับการนำทัพออกรบและมุ่งตรงไปแก้ไขปัญหาหลิงอวี๋จึงอยากเปลี่ยนแนวคิดนี้ของเขา มิฉะนั้นหากมีสงครามแล้วเซียวหลินเทียนนำทัพออกรบเอง เช่นนี้จะมิยุ่งยากและเหนื่อยแย่หรือ!หลี่ว์เซียงก็มิเห็นด้วยเช่นกัน ตอนนี้เซียวหลินเทียนเพิ่งจะขึ้นครองบัลลังก์ พวกขององค์ชายคังต่างกำลังจับตามองอยู่หากเซียวหลินเทียนออกไป เมืองหลวงจะต้องยุ่งวุ่นวายเป็นแน่จากการโน้มน้าวของทั้งสองคน สุดท้ายเซียวหลินเทียนก็ละทิ้งความคิดนี้ไปส่วนอันเจ๋อที่อยู่ไกลออกไปพันลี้นั้น หลังจากที่เขาตกจากที่สูงลงแม่น้ำไปกับม้า ลอยไปได้มิไกลก็ไปชนเข้ากับก้อนหินจึงสลบไปกระทั่งอันเจ๋อฟื้นขึ้นมา เพิ่งจะลืมตาก็เห็นมีดและหน้าไม้หลายอันเล็งมาที่ตนแล้ว และตนก็ถูกมัดแขนมัดขาอยู่อันเจ๋อชะงักไปสักพักหนึ่ง และจ้องมองชาวบ้านเหล่านั้นโดยมิกล้าขยับตัวกระทั่งอันเจ๋อถูกพาตัวมาที่ว่าการอำเภอเขตสิงหยางในฐานะสายลับของราชสำนัก เขาถึงได้รู้ว่าตนถูกน้ำพัดมาที่สิงหยางซึ่งเป็นเขตที่เฉาเฉียงยึดครองอยู่ผู้ที่สอบสวนอันเจ๋อก็คือตัวเฉาเฉียงเอง เขาเป็นคนรูปร่างสูงใหญ่ และดวงตาที่ถูกศัตรูทำร้ายจนบอดนั้นดูน่ากลัวแต่อันเจ๋อมิได้มีความ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1437

    “ฮ่า ๆ ๆ!”เฉาเฉียงได้ยินคำพูดของอันเจ๋อราวกับได้ฟังเรื่องตลก แล้วก็เดินรอบตัวอันเจ๋อไปสองรอบว่ากันตามตรงแล้ว ท่าทางของอันเจ๋อในเวลานี้ คาดว่าหากพระชายาผิงหนานอยู่ต่อหน้าเขาก็คงจะต้องใช้ความพยายามอย่างหนักเช่นกันกว่าจะสามารถจำเขาได้คุณชายรูปงามในอดีต เวลานี้เสื้อผ้าขาดวิ่น ผมเผ้าก็เต็มไปด้วยดินโคลนอีกทั้งตอนอยู่ในแม่น้ำยังถูกก้อนหินกระแทกอยู่ตลอด ทำให้ใบหน้าและจมูกของอันเจ๋อบวม ที่กระดูกขากรรไกรของเขามีก้อนขนาดเท่ากำปั้นนูนขึ้นมา ทำเอาตาข้างหนึ่งของเขาหยีกลายเป็นขีดและอันเจ๋อก็ยังดูซูบผอมด้วย เมื่อดูเช่นนี้ดูเหมือนว่าเฉาเฉียงตีไหล่เขาแค่ครั้งเดียวก็ทำให้เขาทรุดไปได้ครึ่งวันแล้ว“เจ้าท้าทายข้ารึ?”เฉาเฉียงเบ้ปากพลางด่า “คนเช่นเจ้า ข้าใช้มือข้างเดียวก็สามารถเอาชนะเจ้าได้แล้ว เจ้าอย่ามาทำให้ข้าเสียเวลาจะดีกว่า ยอมรับความตายแต่โดยดีไปเสียเถอะ!”“ใครก็ได้! มาลากตัวเขาไปสังหาร!”“เดี๋ยวก่อน!”อันเจ๋อรีบเอ่ย “หัวหน้าเฉา เจ้าเองก็ถูกกลั่นแกล้งจึงต้องเข้าคุก เจ้าก็ควรรู้ถึงความสิ้นหวังที่ถูกกล่าวหาอย่างมิยุติธรรมโดยไม่มีหนทางขอความช่วยเหลือสิ!”“ข้าเองก็มีพ่อมีแม่ ในบ้านมีข้าเป็น

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1438

    “อาจารย์หลิน!”เฉาเฉียงเรียกด้วยความเคารพ “ดีที่ท่านมาได้ทันเวลา มิเช่นนั้นคงจะถูกเจ้าเด็กนี่หลอกไปแล้ว!”อาจารย์หลินก้าวเข้ามาอย่างสงบอันเจ๋อรู้สึกตระหนก คนผู้นี้แค่มองก็รู้เลยว่ามิใช่คนที่จะหลอกได้ง่าย ๆ เรื่องที่ตนอยากจะออกไปอย่างปลอดภัยเกรงว่าจะมิได้แล้วอาจารย์หลินคืออาจารย์ของเฉาเฉียงหรือ?อันเจ๋อยังมิได้ข่าวว่าข้างกายเฉาเฉียงมีคนเช่นนี้อยู่ด้วยจึงมิรู้อะไรเกี่ยวกับเขา“หัวหน้าเฉา บุรุษเมื่อรับปากแล้วมีค่าดั่งทองคำ เจ้าเป็นหัวหน้า จะผิดคำพูดได้อย่างไร!”อันเจ๋อจึงแสร้งเอ่ยอย่างเข้มแข็ง “เจ้าทำเช่นนี้จะมิได้รับการนับถือนะ!”“หุบปาก!”เฉาเฉียงด่าอย่างดุร้าย “เจ้าต่างอะไรกับขุนนางโกงกินที่มีแต่คำโกหกพวกนั้น ข้าหลงกลเจ้าแล้ว! หากเจ้ามีความสามารถ ต่อสู้ชนะอาจารย์หลินได้ ข้าจะปล่อยเจ้าไป!”อันเจ๋อมองอาจารย์หลิน ประเมินความแข็งแกร่งของคนผู้นี้เฉาเฉียงชื่นชมเขาเช่นนี้ ความสามารถของเขาจะต้องแข็งแกร่งมากแน่นอน!“สู้ก็สู้สิ หวังเพียงว่าหากพวกเจ้าแพ้ก็อย่าผิดคำพูดอีกแล้วกัน!”อันเจ๋อพูดแล้วทำมือเชิญอาจารย์หลินอาจารย์หลินยิ้มอย่างดูถูก ท่าทีแปลกประหลาดเช่นนี้ทำให้อันเจ๋อรู้สึ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1439

    ทั้งคุกนี้มีอันเจ๋อเป็นนักโทษอยู่ผู้เดียว เด็กผู้นั้นคิดว่าคงจะว่างไม่มีอะไรคำทำ อีกทั้งเห็นว่าอันเจ๋อถูกล่ามโซ่ไว้ มิน่าจะหนีได้ จึงคุยกับอันเจ๋อจากการพูดคุยกัน อันเจ๋อรู้ว่าเด็กผู้นี้ชื่อว่าเฉาหง เป็นลูกพี่ลูกน้องของเฉาเฉียงอาจารย์หลินผู้นั้น ว่ากันว่าเมื่อก่อนเป็นขอทาน ไม่มีผู้ใดรู้ว่าเขามาจากที่ใด เถ้าแก้เนี้ยที่ขายผ้าอยู่ในเขตเห็นว่าเขาแข็งแรงดีจึงรับเขาไว้ทำงานทั่วไปอาจารย์หลินเก็บกวาดได้สะอาด ทั้งยังเป็นคนดี พูดจาก็มีเหตุมีผลเพียงแต่ดูเหมือนว่าเขาจะสูญเสียความทรงจำไป มิรู้เรื่องในอดีตของตนเองเลยสักนิดแม้ว่าใบหน้าของเขาจะเสียโฉม แต่ก็ตั้งใจทำงานเถ้าแก่เนี้ยเป็นหญิงหม้าย เหลืออยู่เพียงลูกชายอายุแปดขวบ นางเป็นคนหน้าตางดงาม ปกติจึงถูกพวกอันธพาลมาก่อกวนอยู่มิน้อยแต่เถ้าแก่เนี้ยดุมาก และมีวิธีการต่าง ๆ มิสิ้นสุด จึงมิปล่อยให้อันธพาลเหล่านั้นมาเอาเปรียบนับตั้งแต่อาจารย์หลินมา เถ้าแก่เนี้ยก็สนิทสนมกับเขาอยู่นาน แล้วก็ตกลงปลงใจกับเขาและภายใต้การจับคู่กับคนที่นางหามา เถ้าแก่เนี้ยจึงกลายเป็นฮูหยินหลินครานี้ที่เฉาเฉียงโจมตีสิงหยาง เดิมทีฮูหยินหลินเก็บของมีค่าไว้แล้ว คิดว

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1440

    อันเจ๋อกับเฉาหงกำลังพูดคุยกันอยู่ มิได้สังเกตอาจารย์หลินที่มิรู้ว่ามาที่คุกเมื่อใด เขายืนฟังบทสนทนาของทั้งสองคนอยู่ในเงามืดเมืองหลวง?องค์จักรพรรดิ?ในแววตาของอาจารย์หลินที่ก่อนหน้านี้เย็นชาไร้ความปรานีค่อย ๆ ปรากฏความสับสนขึ้นมาสิ่งที่อันเจ๋อพูดมาเหล่านี้ เหตุใดจึงฟังดูคุ้นเคยเช่นนี้?ตรงหน้าปรากฏภาพบางส่วนขึ้นมา...สวมเสื้อเกราะ กองทัพนับล้านที่เป็นระเบียบ!กองทัพทั้งสองต่อสู้กัน เขาควบม้าไปอย่างดุเดือดและเหวี่ยงดาบต่อสู้...แววตาที่เต็มไปด้วยความอบอุ่นมองเขาอย่างลึกซึ้ง “สามี ไปครานี้ต้องดูแลตนเองนะ ข้าจะดูแลท่านอดีตเสนาบดีแทนท่านเอง...”“ท่านพ่อ...พวกเราเชื่อท่าน...”ภาพปรากฏขึ้นมาในหัวของอาจารย์หลินตามการพูดของอันเจ๋อ จากนั้นเขาก็ปวดหัวขึ้นมาอย่างรุนแรงตอนแรกอาจารย์หลินยังสามารถทนได้ แต่มันค่อย ๆ ปวดมากขึ้นเรื่อย ๆ ปวดจนเขากุมหัวทรุดลงไปคุกเข่าอยู่ที่พื้นเสียงนั้นดังจนเรียกให้เฉาหงวิ่งมาดู แล้วก็เห็นอาจารย์หลินกุมหัวคุกเข่าอยู่ เหงื่อเม็ดโตก็หยดลงที่พื้น“อาจารย์หลิน ท่านเป็นอะไรไป? โรคเก่ากำเริบอีกแล้วใช่หรือไม่!”เฉาหงคุกเข่าลงไปตรวจดูเขาอย่างตกใจพลางตะโกนเสียง

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1441

    อันเจ๋อยังมิทันได้ชักนิ้วกลับมาก็ถูกอาจารย์หลินกัดเข้าไปอย่างแรง เขาส่งเสียงร้องออกมาอย่างอึดอัด อยากจะดึงนิ้วออกแต่ก็ดึงมิออกอันเจ๋อหมดคำพูดไปเลยทีเดียว นี่อาจารย์หลินคิดว่านิ้วตนเป็นไม้หรือไร?เขาลองเอานิ้วออกอยู่หลายครั้งแต่สุดท้ายแล้วก็มิสำเร็จแรงกัดเช่นนี้ หากเป็นลิ้นของอาจารย์หลินเองก็คงจะถูกเขากัดขาดกระมัง!อันเจ๋อเห็นว่าอาจารย์หลินชักเกร็งพร้อมกับเหงื่อเปียกโชกไปทั้งตัว จึงทำได้เพียงอดกลั้นความเจ็บเอาไว้แล้วปล่อยให้เขากัดต่อไปเฉาเฉียงเห็นว่าเหงื่อของอันเจ๋อไหลลงมาจากบนหัวแต่อันเจ๋อก็มิได้โกรธเกรี้ยวเฉาเฉียงจึงมองอันเจ๋อเปลี่ยนแปลงไป รู้สึกได้ว่ามิใช่ว่าขุนนางทุกคนจะน่ารังเกียจดังเช่นผู้ว่าการหวาง!ขณะที่กำลังคิดอยู่นั้น อาจารย์หลินคงจะกินยาของอันเจ๋อลงไปแล้วมิได้เจ็บปวดมากแล้ว จึงผ่อนคลายแล้วเลิกกัดนิ้วของอันเจ๋ออันเจ๋อดึงนิ้วออกมา ทั้งนิ้วนั้นเต็มไปด้วยเลือดอย่างน่าเวทนาเขาทรุดตัวลงกับพื้น มองอาจารย์หลินที่มิได้ชักแล้วพลางถอนหายใจโล่งอก“ดีขึ้นแล้ว ยาของข้าออกฤทธิ์แล้ว แต่ยังมิได้ตรวจสาเหตุของอาการป่วยให้แน่ชัด ยานี้ทำได้เพียงให้เขาผ่านพ้นครั้งนี้ไปได้เท่านั้น!

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1442

    เซียวหลินเทียนคาดเดาไว้แล้วว่า พวกเขาจะต้องมีปฏิกิริยาเช่นนี้ จึงหย่อนเหยื่อที่ใหญ่กว่าออกไปอย่างช้า ๆ“เหล่าขุนนางทั้งหลาย เพื่อเป็นการกระตุ้นพวกเจ้า ตัวข้าสามารถรับปากได้ว่า หากผู้ใดสามารถเสนอความคิดเห็นดี ๆ ที่แก้ไขเรื่องที่ดินรกร้างได้จริง ๆ จะได้เลื่อนขั้นหนึ่งขั้นและได้เงินเดือนเพิ่มขึ้นสองเท่า”จ้าวฮุยกับหลี่ว์เซียงเป็นขุนนางในระดับสูงอยู่แล้ว ทั้งสองจึงมิสามารถเลื่อนขั้นได้อีก แต่เซียวหลินเทียนก็เอ่ยกับทั้งสองอย่างชัดเจนเพื่อมิให้จ้าวฮุยสร้างปัญหา“อัครเสนาบดีจ้าวกับหลี่ว์เซียงเป็นอัครเสนาบดีอยู่แล้ว พวกท่านทั้งสองมิสามารถเลื่อนขั้นได้!”“แต่เพื่อเป็นรางวัลในความก้าวหน้าของพวกท่าน ตัวข้ารับปาก… ขอเพียงพวกท่านทั้งสองหากผู้ใดสามารถแก้ไขปัญหาเรื่องที่ดินรกร้างได้ ข้าจะแต่งตั้งคนผู้นั้นเป็นอ๋อง!”ทันทีที่คำนี้ออกมา อัครเสนาบดีจ้าวกับหลี่ว์เซียงต่างก็เบิกตาโตอย่างงุนงงหลี่ว์เซียงมิได้สนใจในเรื่องการเป็นอ๋องใด ๆ ทั้งสิ้นแต่อัครเสนาบดีจ้าวนั้นแตกต่างออกไป เขาเป็นอัครเสนาบดีแล้ว ในชีวิตนี้ก็ทำได้เพียงอยู่ในตำแหน่งนี้ไปถึงกว่าจะถึงคราวเกษียณหากสามารถเป็นอ๋องได้ แม้ว่าจะเป็นอ๋

Latest chapter

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1870

    เซียวหลินเทียนฟังแล้วก็ทั้งโกรธทั้งโมโห ก่อนหน้านี้ที่หานเหมยบอกมิได้ละเอียดถึงเพียงนี้ และหานเหมยก็มิเคยบอกด้วยว่าใบหน้าของหลิงอวี๋ถูกจ้าวหรุ่ยหรุ่ยกรีดจนเป็นแผลความทรงจำของหานเหมยสูญหายไปบางส่วน ซึ่งนี่ก็คือผลกระทบที่ได้มาจากการถูกผนึก ดังนั้นจะโทษหานเหมยก็มิได้เมื่อได้ยินว่าหลิงอวี๋สูญเสียวรยุทธ์ไป ทั้งยังถูกเสวี่ยเหมยกลั่นแกล้งอีก เซียวหลินเทียนก็คิดเพียงอยากจะแทงเสวี่ยเหมยและลิ่งหูหลินผู้นั้นให้ตายไปเสียส่วนเรื่องที่หวงฝู่หลินรับหลิงอวี๋เป็นน้องสาวบุญธรรมนั้น เซียวหลินเทียนมิได้คิดเป็นจริงเป็นจังอะไร เขาหรือจะมิรู้ว่าหวงฝู่หลินไม่มีทางรับหลิงอวี๋เป็นน้องสาวบุญธรรมจริง ๆ หรอก“ท่านเจ้าวังของเราให้ป้าวเฉิงไปตามหาหลิงอวี๋ เพราะต้องการจะขอตำรับยาที่นางมีอยู่ในมือ มิใช่เพราะต้องการจะทำให้นางลำบาก!”ปี้ซงอธิบายทุกสิ่งออกมาอย่างชัดเจนแม้ว่าเซียวหลินเทียนจะรู้สึกว่าเขาไม่มีทางพูดความจริงออกมาทั้งหมด แต่ก็ยังเชื่อไปกว่าครึ่งอยู่ดีหลังจากครุ่นคิดดูแล้ว เซียวหลินเทียนก็รู้สึกว่า ในเมื่อหวงฝู่หมิงจูถูกเสวี่ยเหมยจับตัวไป และเสวี่ยเหมยก็เป็นผู้ร้ายที่ลักพาตัวหลิงอวี๋ไปด้วย เช่นนั้นก

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1869

    ใบหน้าหล่อเหลาของเซียวหลินเทียนมีความเศร้าอยู่จาง ๆ เขายืนอยู่บนบันได ซากปรักหักพังด้านหลังเหล่านั้น เมื่ออยู่ภายใต้แสงสะท้อนของดวงอาทิตย์ยามเย็นก็ทำให้เห็นความหดหู่และโดดเดี่ยวอย่างชัดเจนแต่แสงของดวงอาทิตย์ยามเย็นที่ส่องลงมาบนตัวของเซียวหลินเทียนนั้น ทำให้เขาดูเหมือนมีแสงสีทองระยิบระยับอยู่ทั้งที่เห็น ๆ กันอยู่ว่าเขาก็ยังเป็นคนเดิม แต่กลับดูราวกับว่าเปลี่ยนไปเป็นคนละคน ทำให้มิอาจมองเขาตรง ๆ ได้!ทันใดนั้นหวงฝู่หลินก็รู้สึกถึงความรู้สึกกดดันที่มิเคยมีมาก่อนจู่ ๆ เขาก็มีลางสังหรณ์ว่า ในภายภาคหน้าพลังของเซียวหลินเทียนจะประสบความสำเร็จ จะต้องอยู่เหนือไปกว่าของตนมาก และอยู่เหนือกว่าบรรดายอดฝีมือในแดนเทพอย่างแน่นอน!เหนือกว่าแม้กระทั่งหลงอี้ด้วย...เซียวหลินเทียนมองไปไกล ๆ แล้วนึกฉากเมื่อครู่เหวินเหรินจิ้นพาเขาเข้าไป และมิเพียงแต่มอบรายชื่อบรรดาศิษย์ของตำหนักปีกเงินให้ตนเท่านั้น แต่ยังมอบเงินทั้งหมดที่ตำหนักปีกเงินเก็บไว้หลายปีให้ตนด้วยนอกจากนี้แล้ว ก็ยังมีมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์ศักดิ์สิทธิ์ที่มหาปราชญ์ต้องการอย่างหม้อมังกรศักดิ์สิทธิ์อีกด้วยสุดท้ายเหวินเหรินจิ้นก็ยังพยายามถ่ายพ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1868

    หวงฝู่หลินมองเหวินเหรินจิ้นด้วยความสงสาร จากนั้นก็ประคองเขานั่งขึ้นมา แล้วเอ่ยไปอย่างเรียบ ๆ “เจ้าคงมิอยากจากไปโดยที่มิได้ทิ้งคำพูดอะไรไว้แน่!”“ต่อให้ยานั้นจะล้ำค่ามากเพียงใด ก็มิล้ำค่าเท่ากับเจ้า...พูดมาเถิด ยังมีความปรารถนาใดอีกที่เจ้ายังมิสมหวัง ขอเพียงข้าสามารถทำได้ ข้าก็จะช่วยเจ้าอย่างแน่นอน!”หวงฝู่หลินคิดเช่นนั้นจริง ๆ ดังนั้นเขาจึงป้อนโอสถช่วยชีวิตอันล้ำค่าที่ตนสกัดอย่างพิถีพิถันให้กับเหวินเหรินจิ้น เขามิอยากให้สหายผู้นี้ตายตามิหลับเหวินเหรินจิ้นมองหลานชายที่กำลังร้องไห้อยู่ข้าง ๆ แล้วหวงฝู่หลินก็เข้าใจทันที “ข้าจะให้คนดูแลเขาเอง!”เหวินเหรินจิ้นจึงฝืนยิ้มออกมา “ให้เขาเติบโตอย่างเรียบง่าย ลืมตระกูลนี้ไปเสีย และลืมทุกสิ่งทุกอย่างที่ประสบไปให้หมด!”“ได้!”หวงฝู่หลินมิได้พูดอะไรมาก แต่เหวินเหรินจิ้นรู้ว่า เขาเป็นคนพูดคำไหนคำนั้น จึงพยักหน้าอย่างพึงพอใจ“ข้าขอฝากตำหนักปีกเงินไว้กับเจ้า...ข้าได้คำนวณชะตาไว้แล้วว่าจะมีภัยพิบัติเช่นนี้ ข้าจึงแสร้งป่วยแล้วให้ลูกศิษย์ของตำหนักทั้งหมดกระจายกันออกไป...”“แต่ข้ามิวางใจ ข้ากังวลว่า หากมหาปราชญ์หาหม้อมังกรศักดิ์สิทธิ์มิเจอ แล้วจะ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1867

    เผยอวี้เห็นว่าหวงฝู่หลินหน้าซีดเซียว ดูท่าทางเหมือนจะหมดสติไปได้ทุกเมื่อ ดังนั้นเขาจึงมิรีรอแล้วคุกเข่าลงไป จากนั้นก็ยัดลำไส้ของเสือดาวหิมะกลับตามคำชี้แนะของหวงฝู่หลินแล้วหวงฝู่หลินก็นำเครื่องยาสมุนไพรและเข็มกับด้ายออกมาจากแหวนพระสุเมรุ จากนั้นเขาก็ส่งเข็มกับด้ายให้เผยอวี้ “ช่วยเย็บแผลให้มันที!”เผยอวี้ตะลึงไปทันที เขาจับมีดจับกระบี่ได้ แต่เขาใช้เข็มกับด้ายมิเป็น!เมื่อเซียวหลินเทียนเห็นสถานการณ์เช่นนี้ เขาก็นึกขึ้นได้ว่า ตอนที่ตนพิชิตกระบี่คุนอู๋ ก็เคยบาดมือมาก่อน แต่เมื่อฝ่ามือของเขาจับที่กระบี่คุนอู๋ ก็รักษาตัวได้อย่างน่าอัศจรรย์เขาลังเลอยู่ครู่หนึ่งว่าควรจะใช้กระบี่คุนอู๋รักษาเสือดาวหิมะหรือไม่!เขาเข้าใจหลักการที่ว่า ทรัพย์สมบัติมิควรเปิดเผยออกมา หากว่าในวันนี้มิใช่สถานการณ์วิกฤต เขาก็ไม่มีทางนำกระบี่คุนอู๋ออกมาแน่แต่ตอนนี้มหาปราชญ์รู้แล้วว่า กระบี่คุนอู๋อยู่ในมือของตน มันจะต้องนำความยุ่งยากมาหาตนมิจบสิ้น เช่นเดียวกับหยกหล้าสุขาวดีของหลิงอวี๋อย่างแน่นอน!หากเปิดเผยเรื่องที่กระบี่คุนอู๋สามารถรักษาบาดแผลได้ไปอีก เช่นนั้นจะมิยิ่งทำให้คนสนใจมากขึ้นหรือ?แต่เมื่อเซียวหลินเที

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1866

    “ท่านเจ้าวัง!”ปี้ซงเห็นว่าหวงฝู่หลินไม่มีแม้แต่เรี่ยวแรงที่จะสู้กลับแล้ว เขาจึงร้องเรียกออกมาอย่างเจ็บปวดจากนั้นเขาก็เหาะเข้าไปหาโดยมิสนใจภัยคุกคามของมือสังหาร แต่เซียวหลินเทียนที่อยู่ข้างกายเขาเร็วกว่า เหาะพุ่งเข้าไปแล้วในช่วงเวลานี้ เซียวหลินเทียนก็มิกลัวที่จะเปิดเผยสมบัติของตนอีกต่อไปแล้ว เขานำกระบี่คุนอู๋ออกมาจากแหวนพระสุเมรุแล้วฟาดไปในอากาศเป็นวงโค้ง...แสงสีขาวลงมาจากท้องฟ้า มหาปราชญ์หันหลังให้เซียวหลินเทียนอยู่จึงมิเห็นแสงนั้น ทว่าหวงฝู่หลินกลับมองเห็นเห็นแสงสีขาวนั้นพุ่งลงมาใส่แขนของมหาปราชญ์ราวกับสายฟ้า ด้วยพลังที่มิอาจต้านทานได้ในตอนที่มหาปราชญ์รู้สึกได้ถึงความหนาวเย็นนั้น เขาก็ได้เห็นแขนครึ่งหนึ่งของตนลอยขึ้นไปบนท้องฟ้าอย่างน่าตกใจ หลังจากนั้นเลือดจากบาดแผลที่แขนขาดไปก็ไหลออกมา“กระบี่คุนอู๋… เจ้าเป็นใคร?”มหาปราชญ์เซถอยหลังไป และในแววตาของเขาก็เต็มไปด้วยความประหลาดใจและยากที่จะเชื่อ“คนที่จะเอาชีวิตเจ้า!”นี่เป็นครั้งแรกที่เซียวหลินเทียนใช้กระบี่คุนอู๋ เขามิคาดคิดเลยว่า กระบี่คุนอู๋จะทรงพลังเช่นนี้ ปราณแห่งกระบี่ที่ฟาดออกมาสามารถตัดแขนของมหาปราชญ์ได้ความมั่

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1865

    ครั้งนี้แม้หวงฝู่หลินอยากจะฝืนก็ฝืนมิอยู่ เลือดสด ๆ พุ่งออกมาจากปากของเขา“หวงฝู่หลิน สวรรค์มีเส้นทางให้เจ้าไปแต่เจ้ามิไป นรกไม่มีประตูแต่เจ้าก็ยังจะบุกเข้ามา!”“ข้ากำลังคิดจะไปยึดวังเทพของเจ้าด้วยตัวข้าเองอยู่แล้วเชียว แต่เจ้าก็มาหาถึงที่ พอดีเสียจริง ข้าก็มิต้องลำบากไปที่นั่น เอาชีวิตเข้ามาเสีย!”มหาปราชญ์เหาะลงมา และยกมือขึ้นโจมตีไปที่หน้าอกของหวงฝู่หลินทางด้านเซียวหลินเทียนก็กำลังต่อสู้กับพวกมือสังหารอยู่ เมื่อเห็นภาพนี้ก็มิอาจแยกตัวออกไปได้ จึงมิสามารถช่วยเหลือได้ทันเวลาส่วนปี้ซงที่ได้รับบาดเจ็บไปแล้วก็ถูกพวกมือสังหารขวางทางอยู่เช่นกันเสือดาวหิมะและหวงฝู่หลินสื่อสารกันด้วยพลังจิต เมื่อมันรู้สึกได้ว่าเจ้านายกำลังเดือดร้อน มันก็คำรามออกมา จากนั้นก็บินเข้าไป และพุ่งเข้าใส่มหาปราชญ์ทันทีเสือดำที่ตามมาติด ๆ ก็ใช้โอกาสนี้กระโจนเข้าใส่หลังของเสือดาวหิมะ แล้วกัดเนื้อของเสือดาวหิมะเข้าไปคำใหญ่เสือดาวหิมะมิสนใจความเจ็บปวดแล้วกระโจมเข้าไป มหาปราชญ์จึงมิทันได้จัดการกับหวงฝู่หลิน แล้วต้องหันไปจัดการกับเสือดาวหิมะแทนแต่ก็สายเกินไปเสียแล้ว เสือดาวหิมะกระชากเสื้อคลุมของมหาปราชญ์ออก

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1864

    เซียวหลินเทียน ปี้ซงและเผยอวี้กำลังต่อสู้อยู่กับพวกบุรุษชุดดำ ก็พลันรู้สึกว่ารอบ ๆ ตัวมีลมพัดอย่างแรง และใบไม้เหล่านั้นก็พัดมาทางหัวพวกเขาสนามแม่เหล็กที่มีพลังมหาศาลนั้นสั่นสะเทือนไปจนทั่วบริเวณเซียวหลินเทียนรีบมองไปทันที แล้วก็เห็นว่าพลังลมแห่งการปะทะกันของหวงฝู่หลินกับฝูหยางกลางอากาศนั้น เป็นแสงสีเขียวและสีน้ำเงินเกี่ยวพันกันไปมา แยกมิออกว่าใครเป็นใครเมื่อครู่ฝูหยางเรียกชื่อของหวงฝู่หลินออกมา เมื่อเซียวหลินเทียนได้ยินดังนั้น เขาก็เข้าใจขึ้นมาในทันที ที่แท้บุรุษชุดขาวที่ดูราวกับเซียนผู้นี้ก็คือ เจ้าวังหวงฝู่แห่งวังเทพบนภูเขาหิมะนี่เองก่อนหน้านี้หลิงอวี๋เคยถูกเขาขังอยู่ที่วังเทพเซียวหลินเทียนไม่มีเวลาที่จะตำหนิหวงฝู่หลินแล้ว การโจมตีรุนแรงของพวกบุรุษชุดดำทำให้เขามิสามารถรับมือได้เซียวหลินเทียนยังต้องดูแลเผยอวี้ที่มีพลังมิสูงด้วย เขาจึงเหลือบมองไปแล้วพยายามจัดการกับพวกมือสังหารอย่างเต็มที่นับตั้งแต่ที่เซียวหลินเทียนได้กระบี่คุนอู๋มา และได้เรียนรู้วิชากระบี่จากลวดลายบนกระบี่มาระยะหนึ่งแล้ว วรยุทธ์ของเขาก็พัฒนาขึ้นอย่างมากเขายกกระบี่ขึ้นมาพร้อมใช้วิชากระบี่คุนอู๋ เขาได้เปร

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1863

    เมื่อเซียวหลินเทียนเห็นว่า เด็กอายุรุ่นราวคราวเดียวกับเซียวเยวี่ยผู้นั้นร้องไห้ออกมาปานจะขาดใจในชั่วขณะนี้เซียวหลินเทียนก็คิดถึงเซียวเยวี่ยมาก เขาออกมานานมากจนแทบจะจำมิได้แล้วว่าเซียวเยวี่ยหน้าตาเป็นอย่างไรเมื่อเขาเห็นเด็กผู้นั้น เซียวหลินเทียนก็เกิดความรู้สึกสงสารขึ้นมาทันที“ท่าน พวกเราเข้าไปช่วยเขาเถิด!”เซียวหลินเทียนพูดยังมิทันขาดคำ ก็ได้ยินเสียงตะโกนขึ้นมา “ใคร?”จากนั้นก็มีบุรุษชุดดำหลายคนวิ่งกรูกันออกมา พร้อมกับเล็งดาบมาที่เซียวหลินเทียนกับหวงฝู่หลิน“พวกเจ้าเป็นใคร?”บุรุษชุดดำที่เป็นผู้นำตะโกนออกมาด้วยความโกรธหวงฝู่หลินจึงยิ้มเยาะ “พวกเจ้าหรือที่ทำลายตำหนักปีกเงินของสหายข้า? ใครเป็นคนวางเพลิง?”“ฮ่าฮ่าฮ่า!”บุรุษชุดดำที่เป็นผู้นำคนนั้นตะลึงไปทันที จากนั้นเขาก็หัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่ง ราวกับรู้สึกว่า คำถามของหวงฝู่หลินนั้นแปลกมากความตายจะมาเยือนอยู่แล้ว ยังจะเป็นห่วงอีกว่าใครเป็นคนวางเพลิง คนผู้นี้สมองมีปัญหาหรือไร!“อย่าไปคุยกับเขาให้มากความ สังหารไปเสีย!”ฝูหยางที่อยู่ข้างในตะคอกออกมาอย่างรำคาญ “ตาเฒ่าน่ารังเกียจ เจ้าจะนำออกมาให้หรือไม่ หนึ่ง… สอง…”พวกบุร

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1862

    หวงฝู่หลินก็มิได้ใส่ใจ เขาค่อนข้างมิพอใจที่เซียวหลินเทียนตามติดตนมาราวกับกอเอี๊ยะที่เหนียวแน่นเช่นนี้ เขาจึงเร่งฝีเท้าขึ้นอีก แต่พลังของปี้ซงมิเท่าพลังของเขา ดังนั้นในเวลามินานเซียวหลินเทียนก็ตามมาทันแล้วใบหน้าของหวงฝู่หลินดูหม่นหมองลง และกำลังคิดว่าจะสังหารเซียวหลินเทียนดีหรือไม่ แต่แล้วเขาได้ยินเสียงแปลก ๆ… มันคือเสียงการต่อสู้ด้วยอาวุธนั่นเองดวงตาของหวงฝู่หลินดุร้ายขึ้นมาทันที และรีบขึ้นไปบนภูเขาอย่างรวดเร็ว เมื่อเขาขึ้นไปถึงครึ่งทางภูเขา เขาก็เห็นควันหนา ๆ พวยพุ่งออกมาจากตำหนักปีกเงินที่อยู่บนยอดเขานั้นเกิดเรื่องขึ้นแล้ว!หวงฝู่หลินก็ยิ่งร้อนใจ เหตุผลหลักที่เขาเลือกที่จะมาขอความช่วยเหลือจากตำหนักปีกเงินนั้น ก็เพราะว่าเหวินเหรินจิ้นเจ้าตำหนักปีกเงิน คือหนึ่งในสหายสนิทที่มีเพียงมิกี่คนของเขาและเช่นเดียวกับหวงฝู่หลิน ตำหนักปีกเงินแห่งนี้เป็นสถานที่ที่ตระกูลเหวินเหรินอาศัยอยู่มาหลายชั่วอายุคนแล้ว หวงฝู่หลินมิอนุญาตให้ผู้ใดทำลายวังเทพของตน แล้วเหวินเหรินจิ้นจะยอมให้ใครมาทำลายตำหนักปีกเงินของเขาได้อย่างไรกัน!หรือว่าเหวินเหรินจิ้นจะตกอยู่ในอันตราย?หวงฝู่หลินเร่งฝีเท้า แล้วเดิ

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status