ในขณะที่นางกำลังตามซุ่ยเอ๋อร์ไปก็ได้ยินเสียงตะโกนอย่างโกรธเกรี้ยวราวกับฟ้าผ่าของจ้าวซวนดังมา “ตามพระชายาองค์รัชทายาทมาช่วยเร็วเข้า… องค์จักรพรรดิถูกลอบสังหาร...”ว่ากระไรนะ?หลิงอวี๋ตกใจ เซียวหลินเทียนถูกลอบสังหารหรือ?จ้าวซวนตะโกนอย่างสุดกำลังเช่นนี้ หรือว่าจะอยู่ในจุดที่อันตรายมาก?“พระชายา รีบไปช่วยนายน้อยเถิดเพคะ! นายน้อยสำลักน้ำไปมาก มิรู้ว่าจะยังช่วยได้หรือไม่!”ดูเหมือนว่าซุ่ยเอ๋อร์จะร้อนใจมาก นางร้องไห้พลางดึงแขนเสื้อของหลิงอวี๋ไว้แล้วจะลากนางไปทางหนึ่งก็เซียวหลินเทียน ทางหนึ่งก็เซียวเยวี่ย หลิงอวี๋ลำบากใจในทุกทางในขณะที่หลิงอวี๋เตรียมจะไปดูเซียวเยวี่ยก่อนก็มิรู้ว่าพระชายาเส้าโผล่มาตอนไหนแล้วก็เอ่ยเตือนนาง“พระชายาองค์รัชทายาท เจ้ารีบไปช่วยเซียวเยวี่ยเถิด! ทางด้านองค์จักรพรรดิมีองครักษ์อยู่มิน้อย ในวังก็ยังมีกองทัพหลวงอยู่อีกมาก พวกเขาสามารถปกป้ององค์จักรพรรดิได้!”“เซียวเยวี่ยยังเด็ก เด็กน้อยจมน้ำหากไปช่วยเหลือมิทันการหากมิรุนแรงก็จะกลายเป็นซื่อบื้อเอาได้ แต่หากรุนแรงก็อาจถึงตาย! หากเจ้ามิอยากเสียใจไปตลอดชีวิตก็รีบไปช่วยเยวี่ยเยวี่ยเถิด!”หลิงอวี๋ได้ยินดังนั้นก็รีบ
จ้าวเจินเจินรู้สึกกังวลใจขึ้นมาทันที มิอาจเชื่อคำพูดของมือสังหารได้เลย“การตายของข้าเป็นสิ่งที่มิอาจทำตามใจของตนเองได้ แต่น่าสงสารที่เจ้ากลับถูกพ่อของเจ้าเองเป็นคนสั่งให้สังหาร!”มือสังหารหัวเราะอย่างเย็นชา พลางเอ่ยอย่างใจร้าย “หลังจากที่เจ้ากลายเป็นผีแล้ว หากจะแค้นก็แค้นที่เจ้ามิควรเกิดมาในตระกูลจ้าวแล้วกัน!”หลังจากพูดจบ มือสังหารก็เอาดาบปาดคอจ้าวเจินเจินอย่างโหดร้ายเลือดจำนวนมากพุ่งกระฉูดออกมาในทันที จ้าวเจินเจินเห็นเลือดสด ๆ พุ่งกระจายไปในอากาศ จากนั้นก็สาดกระเซ็นมาบนใบหน้าของตนมีเลือดบางส่วนกระเซ๋นเข้ามาในตาจนทำให้ตาของนางเป็นสีแดงฉานตอนนี้นางเชื่อคำพูดของมือสังหารแล้ว!หากไม่มีคำสั่งของท่านพ่อ มือสังหารที่ตระกูลของตนส่งมาจะอาจหาญสังหารตนถึงเพียงนี้ได้เช่นไรกัน!แม้แต่ในความฝันจ้าวเจินเจินก็คิดมิถึงเลยว่า ตนจะมีจุดจบเช่นนี้ได้!นางมิได้ตายด้วยน้ำมือของหลิงอวี๋กับเซียวหลินเทียน แต่ตายด้วยน้ำมือของพ่อตัวเอง!หึ!ช่างน่าขันที่ตนยังคงมาช่วยท่านพ่อกับองค์ชายคังถ่วงเวลาเซียวหลินเทียนไว้อย่างยินดีเช่นนี้ที่แท้แล้วเรื่องนี้ล้วนเป็นข้ออ้างทั้งสิ้น!เป้าหมายของพวกเขามิใช่เพ
“ถ่ายทอดคำพูดของข้าออกไปให้ผู้ดูแลงานในแต่ละฝ่ายดูแลงานของตนให้ดี หากมีเรื่องอะไรก็จัดการเองเลย หากไม่มีความสามารถที่จะจัดการได้ก็ให้เปลี่ยนเป็นคนที่ทำได้จัดการแทนเสีย!”หลิงอวี๋ออกคำสั่งอย่างเด็ดขาดทันทีชีวิตของเซียวหลินเทียนอยู่ในความเสี่ยง แต่ละคนกลับคิดจะมาขัดขวางตนมิให้ช่วยเซียวหลินเทียน เช่นนั้นก็มาดูกันว่าผู้ใดที่รั้นจะทำเช่นนั้น!แม้ว่านางหลิงอวี๋จะต้องเข่นฆ่าสังหารก็จะไม่มีทางยอมอ่อนข้อเช่นกัน!คืนนี้ ต่อให้ฟ้าถล่มแผ่นดินทลายก็มิอาจขัดขวางตนมิให้ช่วยเหลือเซียวหลินเทียนได้เทพเจ้าขวางก็จะสังหารเทพเจ้า! พระขัดขวางก็จะสังหารพระ!จักรพรรดิองค์ใหม่ถูกลอบสังหารภายในวังข่าวนี้แพร่กระจายไปในวังหลวงทันที และก็ไปถึงหูไทเฮาด้วยเช่นกันไทเฮาโกรธจนตัวสั่นพลางเอ่ยออกมา “ดี ดีจริง ๆ… ลูกของข้าเพิ่งตายไปมิทันไรก็มีคนคิดจะสังหารเทียนเอ๋อร์เสียแล้ว!”“เพื่อตำแหน่งมังกรนี้ พวกเขามิต้องการกระทั่งแผ่นดินของตระกูลเซียวเลยหรือ?”“ไปตรวจสอบ ตรวจให้เข้มงวด หาให้เจอว่าผู้ใดเป็นคนบ่งการ ข้าต้องการหัวทั้งตระกูลของมันผู้นั้น!”ยังมิทันที่หลิงอวี๋จะส่งคนมาเชิญ ไทเฮาก็มาจัดการสถานการณ์โดยรวมด้ว
องค์ชายคังแอบหงุดหงิด เขามิได้เสียใจกับการตายของจ้าวเจินเจินเสียหน่อย!ในตอนที่วางการจะลอบสังหารเซียวหลินเทียน พระชายาเส้าบอกกับเขาแล้วว่าจะสังหารจ้าวเจินเจินไปด้วย ตอนนั้นองค์ชายคังฟังแล้วก็ตะลึงไปแต่หลังจากนั้นก็ได้ยินพระชายาเส้าบอกว่า จ้าวเจินเจินเป็นคนที่ดึงชีวิตสามีให้ตกต่ำ เมื่อนึกเชื่อมโยงดูตั้งแต่ตนเองแต่งงานให้นางเข้ามาเป็นพระชายาก็มิเคยราบรื่นเลยความรู้สึกเพียงเล็กน้อยที่เดิมทีองค์ชายคังมีต่อจ้าวเจินเจินจึงหายวับไปในทันทีคนผู้หนึ่งที่มิสามารถช่วยเหลือเรื่องอนาคตของตนได้เลยแม้แต่น้อย ตายไปจะมีอะไรต้องเสียดายเล่า!ยิ่งไปกว่านั้น จ้าวฮุยก็สัญญาแล้วว่าจะให้จ้าวหรุ่ยหรุ่ยที่งดงามราวเทพธิดาแห่งตระกูลจ้าวมาหมั้นหมายกับตนองค์ชายคังเห็นว่า จ้าวฮุยเองก็ทอดทิ้งจ้าวเจินเจินแล้วเช่นนั้นตนยังจะมีอะไรต้องทำใจมิได้อีกเล่า“ไทเฮา ให้องค์ชายคังอยู่ช่วยในวังเถิดพ่ะย่ะค่ะ! ตอนนี้องค์จักรพรรดิสูงสุดเพิ่งจะเสด็จสวรรคตไป ทางด้านชายแดนในแคว้นอื่น ๆ ต่างกำลังจับจ้องอยู่พ่ะย่ะค่ะ”“นี่หากว่ามีเรื่องด่วนอันใดขึ้นมา องค์จักรพรรดิเองก็… มิสะดวกเช่นนี้ องค์ชายคังก็สามารถช่วยจัดการได้พ่ะย่ะค่ะ!
จ้าวฮุยยิ่งคิดก็ยิ่งหงุดหงิด จึงเอ่ยไปอย่างโมโห“องค์ชายคัง มือสังหารที่กระหม่อมส่งไปสามารถแทงไปตรงหัวใจของเซียวหลินเทียนได้ในการแทงครั้งเดียว อีกทั้งกริชนั้นก็อาบยาพิษไว้ด้วย คนของกระหม่อมทำภารกิจที่นางควรทำสำเร็จได้อย่างยอดเยี่ยมแล้วพ่ะย่ะค่ะ!”“หากมิใช่เพราะพวกท่านไร้ความสามารถ มิอาจถ่วงเวลาหลิงอวี๋เอาไว้ได้ เวลานี้เซียวหลินเทียนก็กลายเป็นศพไปแล้ว!”“ความพลาดพลั้งในตอนนี้ท่านมิมองความผิดพลาดของตนทั้งยังตำหนิว่ากระหม่อมทำงานมิได้เรื่อง เช่นนั้นก็ได้พ่ะย่ะค่ะ ในเมื่อมิพอใจที่กระหม่อมทำงานได้มิเท่าที่ท่านต้องการ คราวต่อไปท่านก็หามือสังหารที่เชื่อถือได้ด้วยตนเองเถิดพ่ะย่ะค่ะ!”หลังจากพูดจบ จ้าวฮุยก็สะบัดแขนเสื้อเดินไปอย่างโมโหสีหน้าองค์ชายคังเปลี่ยนไปในทันใดและมิพอใจจ้าวฮุยเป็นอย่างมากเช่นกันแต่ตนยังคงต้องการจ้าวฮุยอยู่ จึงทำได้เพียงอดกลั้นเอาไว้องค์ชายคังรีบก้าวตามติดจ้าวฮุยไป พลางเอ่ยยิ้ม ๆ “อัครเสนาบดีจ้าว ข้าเองก็ร้อนใจเช่นกัน มิได้จะตำหนิท่านเลย!”“เห็นกันอยู่แท้ ๆ ว่าไม่มีทางผิดพลาดแน่ เหตุใดจึงพลาดได้เล่า!”จ้าวฮุยหน้านิ่งมิพูดจา ยังคงโกรธองค์ชายคังอยู่องค์ชายคังเอ่
หลิงอวี๋ได้ทำการผ่าตัดให้เซียวหลินเทียนเสร็จสิ้นไปสองชั่วยามแล้วที่ด้านนอก ไทเฮา จ้าวซวนและพวกของหลี่ว์เซียงล้วนมารอกันอยู่อย่างใจจดใจจ่อหากเซียวหลินเทียนตายไป เช่นนั้นพรรคพวกขององค์ชายคังก็จะต้องยึดครองราชสำนัก แล้วพวกเขาทุกคนก็จะต้องจบสิ้นอันเจ๋อกับเผยอวี้ได้ข่าวก็รีบมาเช่นกัน อันเจ๋อสีหน้ามิสู้ดีนัก เซียวหลินเทียนเพิ่งเป็นจักรพรรดิได้เพียงมิกี่วันก็มีคนลอบสังหารเขาในวังแล้วนี่เป็นการยั่วยุพวกเขาทั้งนั้น!เผยอวี้ก็หงุดหงิดเช่นกัน คราก่อนองค์ชายเว่ยก่อกบฏ เขากับเซียวหลินเทียนได้กำจัดพวกสายสืบในวังไปรอบหนึ่งแล้ว มิคาดคิดเลยว่าจะยังมีเล็ดลอดอยู่ตอนที่เขาเข้ามาก็ไปหาแม่ทัพสือราชองครักษ์แห่งกองทัพหลวงมาแล้ว แม่ทัพสือได้ทำการตรวจสอบแล้วว่ามือสังหารสองคนนั้นปลอมตัวเป็นนางรับใช้แฝงตัวเข้ามาในวังสองวันมานี้ในวังมีภรรยาของเหล่าขุนนางมาเคารพพระบรมศพ และพวกนางทุกคนได้รับอนุญาตให้พานางรับใช้หนึ่งคนตามเข้าวังมาด้วยนางรับใช้ทุกคนจะมีป้ายแขวนเอวแบบพิเศษ หลังจากเฝ้าพระบรมศพเสร็จสิ้นแล้วป้ายแขวนเอวจะใช้การมิได้อีกแต่แม่ทัพสือตรวจสอบอยู่นานก็มิรู้ว่าผู้ใดที่พานางรับใช้สองคนนี้เข้ามาป
แน่นอนว่าพระชายาเส้ารู้ว่าไทเฮาหมายถึงตน แต่ในเมื่อไทเฮามิได้เอ่ยนามออกมาอย่างชัดเจนแล้วนางจะกระโดดออกไปยอมรับเองได้หรือ?“พระชายาองค์รัชทายาทเหนื่อยแย่เลยนะ!”พระชายาเส้าใช้ผ้าเช็ดน้ำตาที่อาจจะมีอยู่ที่หางตา พลางเอ่ยอย่างเอาอกเอาใจ “ไทเฮาเพคะ หม่อมฉันอยู่กับไทเฮานะเพคะ! หม่อมฉันคุ้นเคยเรื่องการจัดการภายในวัง คงจะพอช่วยเหลือไทเฮาได้บ้าง!”ไทเฮามิได้คัดค้าน ให้พระชายาเส้าอยู่ข้างกายตนไว้ก็พลอยหลีกเลี่ยงที่นางจะมีเวลาไปก่อปัญหาได้ด้วยหลิงอวี๋กลับเข้าไปในห้อง นางให้น้ำเกลือเซียวหลินเทียนเพื่อขจัดสารพิษในร่างกายของเขาองครักษ์หลายคนที่มีกลุ่มเลือดเดียวกับเซียวหลินเทียนต่างก็มาให้เลือดกับเซียวหลินเทียนหลังจากที่หลิงอวี๋ให้น้ำเกลือเสร็จก็ลองใช้พลังวิญญาณที่ตนได้ฝึกฝนมาทำการรักษาบาดแผลให้เซียวหลินเทียนหลังจากที่ขันทีโม่แนะนำมา พลังของหลิงอวี๋ก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วขันทีโม่บอกว่า พลังวิญญาณแบ่งระดับไปตามสี มีอยู่เจ็ดระดับคือสีแดง สีส้ม สีเหลือง สีเขียว สีฟ้า สีน้ำเงินและสีม่วง สียิ่งเข้มเท่าไรก็หมายความว่ายิ่งแข็งแกร่งขึ้นเท่านั้นหลิงอวี๋ได้ฝึกฝนมาจนถึงระดับต้นของสีฟ้าแล้ว นี่เท่
“อาอวี๋!”เซียวหลินเทียนยื่นมือออกไปดึงหลิงอวี๋เบา ๆหลิงอวี๋ตื่นขึ้นมาก็เห็นว่าเซียวหลินเทียนมองตนอยู่ก็โล่งอก “ท่านฟื้นแล้ว!”“อืม เจ้าขึ้นมานอนสักหน่อยสิ!”เซียวหลินเทียนขยับเข้าไปด้านใน แม้ว่าทันทีที่ขยับตัวจะทำให้บาดแผลของตนเจ็บขึ้นมาเล็กน้อย แต่ก็มิได้เกินทน“ทักษะการแพทย์ของเจ้านับวันก็ยิ่งดีขึ้น ข้าบาดเจ็บสาหัสถึงเพียงนี้ เพียงมินานก็รู้สึกว่ามิเจ็บแล้ว!”เซียวหลินเทียนอดมิได้ที่จะเอ่ยชมออกไป“นี่มิใช่เพราะทักษะการแพทย์ยอดเยี่ยมหรอกเพคะ แต่เป็นผลของพลังวิญญาณกับยาอายุวัฒนะเพคะ!”หลิงอวี๋นั่งอยู่จนปวดหลัง แต่ก็มิอยากจะไปนอนกับเซียวหลินเทียนเรื่องฉินรั่วซือทำให้ใจของนางมีกำแพงกับเซียวหลินเทียน การขึ้นไปนอนด้วยกันจะมิได้หมายความว่าให้อภัยเซียวหลินเทียนแล้วหรอกหรือ?นางยังมิได้ใจกว้างเช่นนั้นหรอก!หลายวันมานี้แม้ว่าหลิงอวี๋จะช่วยเซียวหลินเทียนจัดการดูแลวังหลัง แต่นั่นก็เป็นเพราะจำใจต้องทำ มิได้หมายความว่าหลิงอวี๋ให้อภัยเซียวหลินเทียนแล้วหากทั้งสองคนอยู่ด้วยกันก็ต้องเป็นต่างฝ่ายต่างมอบให้กัน แล้วเขาเซียวหลินเทียนได้ทำสิ่งใดเพื่อตนเองและเยวี่ยเยวี่ยบ้างเล่า?เมื่อครู่พ