หลิงเยวี่ยได้ยินเซียวหลินเทียนบอกว่าพวกเขามีศัตรูมากก็เป็นห่วงหลิงอวี๋ขึ้นมาทันทีเซียวหลินเทียนสังเกตคำพูดและท่าทีจึงรีบเอ่ย“เยวี่ยเยวี่ย ท่านแม่ของเจ้าเคยบอกว่าเราเป็นครอบครัวเดียวกัน เมื่อเผชิญหน้ากับความลำบากก็ควรจะร่วมแรงร่วมใจกันฟันฝ่าอุปสรรคไปด้วยกัน!”“เยวี่ยเยวี่ย หากเจ้ามิยอมตามข้าเข้าไปในวัง เจ้ามิกังวลว่าสักวันหนึ่งเจ้าจะมิได้เจอพวกเราอีกแล้วหรือ?”หลิงเยวี่ยได้ยินคำพูดนี้ก็สีหน้าเปลี่ยนทันทีใช่ หากมิตามคนคนนี้เข้าวังไปก็จะมิได้เจอท่านแม่ของตน!เขาจ้องมองเซียวหลินเทียนอย่างเกลียดชังแล้วจึงเอ่ย “กระหม่อมจะตามท่านเข้าวัง!”เขากลัวว่าเซียวหลินเทียนจะเข้าใจผิดว่าตนให้อภัยเขาแล้ว หลิงเยวี่ยจึงเอ่ยต่อ “เพื่อท่านแม่ของกระหม่อม มิใช่เพื่อท่าน!”เซียวหลินเทียนรู้ว่าตนทำให้เขาเสียใจ หากอยากให้เขาเปลี่ยนแปลงทัศนคติที่มีต่อตนในทันทีก็คงจะเป็นไปมิได้เซียวหลินเทียนจึงทำได้เพียงถอยหลังก้าวหนึ่งพลางเอ่ย “ได้ ข้าจะทำตัวดี ๆ ให้เจ้ายอมรับข้า!”หลิงเยวี่ยจึงถูกเซียวหลินเทียนรับกลับเข้าวังไปเช่นนี้ระหว่างทาง เซียวหลินเทียนจึงเอ่ยกำชับ “หลังจากเข้าวังไปแล้วนามเรียกขานของเจ้าก็จะย
หลิงอวี๋เห็นเขาร้องไห้ก็รู้สึกปวดใจแล้วกลั้นน้ำตาหอมแก้มเขาไปพลางเอ่ย “ต่อไปแม่กับเยวี่ยเยวี่ยจะมิต้องแยกจากกันอีกแล้ว เยวี่ยเยวี่ยเด็กดี ไปเปลี่ยนชุดไว้ทุกข์แล้วไปเคารพพระบรมศพเสด็จปู่กันเถอะ!”“ท่านแม่ ท่านผู้นั้นบอกว่าต้องให้ข้าเปลี่ยนนามเป็นเซียวเยวี่ย บอกว่าหากมิเปลี่ยนจะสร้างความยุ่งยากให้ท่านแม่!” หลิงเยวี่ยถือโอกาสกระซิบบอกหลิงอวี๋หลิงอวี๋มองไปทางเซียวหลินเทียนที่อยู่ด้านข้างเซียวหลินเทียนได้ยินหลิงเยวี่ยเรียกตนเองว่าท่านผู้นั้น ใบหน้าก็กระตุก หลิงเยวี่ยมิยอมแม้แต่จะเรียกว่าเสด็จพ่อเลย นี่ยังโกรธตนเองอยู่อีกหรือเมื่อเห็นว่าหลิงอวี๋จ้องมองตนอย่างโกรธเคือง เซียวหลินเทียนก็ทำได้เพียงก้าวเข้าไปพลางกระซิบ“เมื่อก่อนข้าเป็นคนผิดเองที่มิได้ให้นามเยวี่ยเยวี่ย! แต่ตอนนี้ข้ารู้แล้วว่าผิด เจ้าให้เยวี่ยเยวี่ยเปลี่ยนมาใช้สกุลเซียวเถิดนะ!”“อาอวี๋ วังหลวงมิเหมือนข้างนอก หากใช้สกุลหลิงต่อไปจะสร้างความยุ่งยากให้เจ้ากับเยวี่ยเยวี่ยได้!”“เยวี่ยเยวี่ยเป็นลูกชายข้า ให้เขาได้รู้จักบรรพบุรุษของเขาเถิด นี่คือการกลับใจที่จริงใจของข้า!”หลิงอวี๋ขมวดคิ้ว แม้ว่าจะมิรู้ว่าเรื่องราวในภายภาคหน้า
คำพูดของจูหลานทำเอาจ้าวเจินเจินพูดมิออกแม้ว่าจ้าวเจินเจินจะสามารถออกเงินค่าผักเหล่านี้ได้เช่นกัน แต่เรื่องอะไรนางจะต้องควักเงินของตนไปซื้อใจคนเพื่อหลิงอวี๋ด้วยเล่า!พระชายาเส้าอยู่ข้าง ๆ ได้ยินดังนั้นแต่ก็มิได้คิดจะช่วยเหลือจ้าวเจินเจินตอนนี้นางมิอยากจะพบจ้าวเจินเจินเลยสตรีผู้นี้ กางปีกภูมิใจว่าตนเป็นสตรีผู้มีความสามารถอันดับหนึ่งในเมืองหลวง แต่นอกจากหน้าตาแล้ว นางมีคุณสมบัติใดที่โดดเด่นกันเล่า!มงกุฎที่เป็นเครื่องหมายของสตรีผู้มีความสามารถอันดับหนึ่งในเมืองหลวงถูกหลิงอวี๋แย่งไปแล้ว!นางใส่ร้ายหลิงอวี๋ครั้งแล้วครั้งเล่าก็มิเป็นผล กลับทำให้ชื่อเสียงของตนได้รับความเสียหายอีก!ที่สำคัญที่สุดก็คือ ยังมิสามารถมีบุตรให้องค์ชายคังได้เลยสตรีที่ไม่มีประโยชน์ต่อองค์ชายคังเลยแม้แต่น้อยเช่นนี้ หากพระชายาเส้ามิสนใจในอำนาจจ้าวฮุยก็คงให้องค์ชายคังขอหย่ากับนางไปตั้งนานแล้ว!เมื่อเห็นว่าในเวลานี้จ้าวเจินเจินจัดการมิได้แม้แต่พระชายาเย่เพียงผู้เดียว พระชายาเส้าก็รังเกียจมากช่วงนี้คนจำนวนมากในเมืองหลวงต่างก็พูดกันว่า หลิงอวี๋คือผู้ส่งเสริมให้ชีวิตสามีเจริญรุ่งเรืองพูดกันว่านับตั้งแต่ที่นา
จ้าวเจินเจินมองไปทางหลิงอวี๋อย่างหงุดหงิดหลิงอวี๋คุกเข่าอยู่อย่างตั้งใจ ก้มหน้าตั้งสมาธิ ท่าทีที่ดูสงบผ่อนคลายนั้นยิ่งทำให้จ้าวเจินเจินแทบบ้าหลิงอวี๋มีสิทธิ์อะไรถึงได้สง่างามเช่นนี้ อีกทั้งด้วยสถานะของนางก็มิต้องคุกเข่าอย่างยากลำบากถึงเพียงนี้ด้วยหากตนมิต้องคุกเข่าก็สงบผ่อนคลายได้เช่นกันหลิงอวี๋มันเป็นโจร!นางแย่งทุกอย่างที่เป็นของตนไป!สารเลว! นางสารเลว!“ข้าจะออกไปสูดอากาศ!”จ้าวเจินเจินทนมิไหวแล้วจริง ๆ นางพูดเสียงเบาแล้วถอยออกไปสายลมเย็นในฤดูหนาวพัดมาปะทะใบหน้าของนาง ความหนาวเหน็บกัดกินไปจนถึงกระดูก จ้าวเจินเจินจึงได้รู้สึกว่าอาการเวียนหัวจากกลิ่นธูปของตนเริ่มดีขึ้นมานางก้าวไปข้างหน้าอย่างช้า ๆ เดินไปถึงเส้นทางที่เซียวหลินเทียนต้องผ่านแล้วรออย่างอดทนอีกมินาน จะต้องมีคนไปรายงานเซียวหลินเทียนว่ามีเรื่องด่วน แล้วเซียวหลินเทียนก็จะต้องหยุดเฝ้าพระบรมศพและผ่านมาทางนี้จ้าวเจินเจินมิรู้ว่า ท่านพ่อให้คนมาส่งข้อความถึงตนว่าให้มารอเซียวหลินเทียนตรงนี้ด้วยเจตนาอันใดแต่นางแอบคาดเดาไปว่า องค์ชายคังกับท่านพ่อคงวางแผนบางอย่างเพราะมิอยากให้เซียวหลินเทียนขึ้นครองบัลลังก์เจตนา
“มีมือสังหาร!”ลู่หนานเห็นว่าเซียวหลินเทียนถูกลอบสังหารก็ตะโกนเสียงดัง แล้วชักดาบเข้าไปหามือสังหารที่ผลักเซียวหลินเทียนมือสังหารถอยหลังแล้วกลิ้งออกไปอย่างรวดเร็ว แล้วลากจ้าวเจินเจินที่ตรงหน้าตนอย่างรุนแรงดาบของลู่หนานพุ่งไป เมื่อเห็นว่าจ้าวเจินเจินบังหน้าอยู่ก็มิกล้าแทงแต่มือสังหารผู้นั้นกลับมิได้สนใจเช่นนี้ นางชักดาบที่เอวออกมาแทงไปทางลู่หนานลู่หนานหลบไปอย่างรวดเร็วแต่มิทันแล้ว เขาถูกแทงเข้าที่แขน จนดาบที่ถือมิมั่นคงร่วงลงไปที่พื้นจ้าวซวนเห็นว่าที่หน้าอกของเซียวหลินเทียนมีเลือดซึมออกมาก็เข้าไปรับร่างเซียวหลินเทียนไว้อย่างตกใจแล้วลากเขาไปด้านหลังพวกองครักษ์คนอื่น ๆ ก็วิ่งมาป้องกันเซียวหลินเทียนไว้“ฝ่าบาท ช่วยด้วยเพคะ!”ดูเหมือนว่าเสียงการต่อสู้จะปลุกให้จ้าวเจินเจินที่ “สลบ” อยู่ฟื้นขึ้นมาแล้ว จ้าวเจินเจินลืมตาขึ้นมาก็ถูกมือสังหารลากไปข้างหลังจึงตกใจหน้าถอดสีแล้วกรีดร้องออกมาเซียวหลินเทียนพูดมิออกเลย ที่หน้าอกของเขายังมีกริชเล่มนั้นคาอยู่ และกริชก็อาบยาพิษ พิษนั้นแล่นเข้าจู่โจมที่หัวใจทันทีเซียวหลินเทียนจ้องมองมือสังหารกับจ้าวเจินเจินที่อยู่ตรงหน้า เขามิแน่ใจว่าจ้าวเจ
ในขณะที่นางกำลังตามซุ่ยเอ๋อร์ไปก็ได้ยินเสียงตะโกนอย่างโกรธเกรี้ยวราวกับฟ้าผ่าของจ้าวซวนดังมา “ตามพระชายาองค์รัชทายาทมาช่วยเร็วเข้า… องค์จักรพรรดิถูกลอบสังหาร...”ว่ากระไรนะ?หลิงอวี๋ตกใจ เซียวหลินเทียนถูกลอบสังหารหรือ?จ้าวซวนตะโกนอย่างสุดกำลังเช่นนี้ หรือว่าจะอยู่ในจุดที่อันตรายมาก?“พระชายา รีบไปช่วยนายน้อยเถิดเพคะ! นายน้อยสำลักน้ำไปมาก มิรู้ว่าจะยังช่วยได้หรือไม่!”ดูเหมือนว่าซุ่ยเอ๋อร์จะร้อนใจมาก นางร้องไห้พลางดึงแขนเสื้อของหลิงอวี๋ไว้แล้วจะลากนางไปทางหนึ่งก็เซียวหลินเทียน ทางหนึ่งก็เซียวเยวี่ย หลิงอวี๋ลำบากใจในทุกทางในขณะที่หลิงอวี๋เตรียมจะไปดูเซียวเยวี่ยก่อนก็มิรู้ว่าพระชายาเส้าโผล่มาตอนไหนแล้วก็เอ่ยเตือนนาง“พระชายาองค์รัชทายาท เจ้ารีบไปช่วยเซียวเยวี่ยเถิด! ทางด้านองค์จักรพรรดิมีองครักษ์อยู่มิน้อย ในวังก็ยังมีกองทัพหลวงอยู่อีกมาก พวกเขาสามารถปกป้ององค์จักรพรรดิได้!”“เซียวเยวี่ยยังเด็ก เด็กน้อยจมน้ำหากไปช่วยเหลือมิทันการหากมิรุนแรงก็จะกลายเป็นซื่อบื้อเอาได้ แต่หากรุนแรงก็อาจถึงตาย! หากเจ้ามิอยากเสียใจไปตลอดชีวิตก็รีบไปช่วยเยวี่ยเยวี่ยเถิด!”หลิงอวี๋ได้ยินดังนั้นก็รีบ
จ้าวเจินเจินรู้สึกกังวลใจขึ้นมาทันที มิอาจเชื่อคำพูดของมือสังหารได้เลย“การตายของข้าเป็นสิ่งที่มิอาจทำตามใจของตนเองได้ แต่น่าสงสารที่เจ้ากลับถูกพ่อของเจ้าเองเป็นคนสั่งให้สังหาร!”มือสังหารหัวเราะอย่างเย็นชา พลางเอ่ยอย่างใจร้าย “หลังจากที่เจ้ากลายเป็นผีแล้ว หากจะแค้นก็แค้นที่เจ้ามิควรเกิดมาในตระกูลจ้าวแล้วกัน!”หลังจากพูดจบ มือสังหารก็เอาดาบปาดคอจ้าวเจินเจินอย่างโหดร้ายเลือดจำนวนมากพุ่งกระฉูดออกมาในทันที จ้าวเจินเจินเห็นเลือดสด ๆ พุ่งกระจายไปในอากาศ จากนั้นก็สาดกระเซ็นมาบนใบหน้าของตนมีเลือดบางส่วนกระเซ๋นเข้ามาในตาจนทำให้ตาของนางเป็นสีแดงฉานตอนนี้นางเชื่อคำพูดของมือสังหารแล้ว!หากไม่มีคำสั่งของท่านพ่อ มือสังหารที่ตระกูลของตนส่งมาจะอาจหาญสังหารตนถึงเพียงนี้ได้เช่นไรกัน!แม้แต่ในความฝันจ้าวเจินเจินก็คิดมิถึงเลยว่า ตนจะมีจุดจบเช่นนี้ได้!นางมิได้ตายด้วยน้ำมือของหลิงอวี๋กับเซียวหลินเทียน แต่ตายด้วยน้ำมือของพ่อตัวเอง!หึ!ช่างน่าขันที่ตนยังคงมาช่วยท่านพ่อกับองค์ชายคังถ่วงเวลาเซียวหลินเทียนไว้อย่างยินดีเช่นนี้ที่แท้แล้วเรื่องนี้ล้วนเป็นข้ออ้างทั้งสิ้น!เป้าหมายของพวกเขามิใช่เพ
“ถ่ายทอดคำพูดของข้าออกไปให้ผู้ดูแลงานในแต่ละฝ่ายดูแลงานของตนให้ดี หากมีเรื่องอะไรก็จัดการเองเลย หากไม่มีความสามารถที่จะจัดการได้ก็ให้เปลี่ยนเป็นคนที่ทำได้จัดการแทนเสีย!”หลิงอวี๋ออกคำสั่งอย่างเด็ดขาดทันทีชีวิตของเซียวหลินเทียนอยู่ในความเสี่ยง แต่ละคนกลับคิดจะมาขัดขวางตนมิให้ช่วยเซียวหลินเทียน เช่นนั้นก็มาดูกันว่าผู้ใดที่รั้นจะทำเช่นนั้น!แม้ว่านางหลิงอวี๋จะต้องเข่นฆ่าสังหารก็จะไม่มีทางยอมอ่อนข้อเช่นกัน!คืนนี้ ต่อให้ฟ้าถล่มแผ่นดินทลายก็มิอาจขัดขวางตนมิให้ช่วยเหลือเซียวหลินเทียนได้เทพเจ้าขวางก็จะสังหารเทพเจ้า! พระขัดขวางก็จะสังหารพระ!จักรพรรดิองค์ใหม่ถูกลอบสังหารภายในวังข่าวนี้แพร่กระจายไปในวังหลวงทันที และก็ไปถึงหูไทเฮาด้วยเช่นกันไทเฮาโกรธจนตัวสั่นพลางเอ่ยออกมา “ดี ดีจริง ๆ… ลูกของข้าเพิ่งตายไปมิทันไรก็มีคนคิดจะสังหารเทียนเอ๋อร์เสียแล้ว!”“เพื่อตำแหน่งมังกรนี้ พวกเขามิต้องการกระทั่งแผ่นดินของตระกูลเซียวเลยหรือ?”“ไปตรวจสอบ ตรวจให้เข้มงวด หาให้เจอว่าผู้ใดเป็นคนบ่งการ ข้าต้องการหัวทั้งตระกูลของมันผู้นั้น!”ยังมิทันที่หลิงอวี๋จะส่งคนมาเชิญ ไทเฮาก็มาจัดการสถานการณ์โดยรวมด้ว