แชร์

บทที่ 1250

ผู้เขียน: กานเฟย
แม้ว่าไทเฮาจะชอบหลิงอวี๋ แต่เวลานี้ก็มิพอใจหลิงอวี๋แล้ว จึงตำหนิ “หลิงอวี๋ พอได้แล้วกระมัง! เจ้ารักน้องสาวเจ้า ข้าเข้าใจความรู้สึกของเจ้า!”

“แต่เฮ่อจู้ยอมรับผิดแล้วเจ้ายังมิพออีกหรือ? เจ้าจะบีบให้หรงเอ๋อร์ตายไปจริง ๆ หรือ?”

เว่ยเฉิงเห็นว่าไทเฮาพูดเช่นนี้ก็เอ่ยอย่างปวดใจเช่นกัน “พระชายาอ๋องอี้ เจ้าทำให้ฮองเฮาเว่ยถูกลดขั้นไปอยู่ตำหนักเย็นแล้ว องค์ชายเว่ยก็ถูกส่งไปเฝ้าสุสานหลวงเช่นกัน ยังจะมิยอมปล่อยตระกูลของพระชายาเว่ยอีกหรือ?”

“เจ้าจะกำจัดพวกเขาให้สิ้นซากไปจริง ๆ เลยหรือ?”

“คนเจ็บป่วยเช่นเฮ่อหรงจะกลายเป็นภัยคุกคามต่อพวกเจ้าได้อย่างไร? กความก้าวร้าวเช่นนี้จะทำให้คนเจ็บปวดกันเกินไปแล้ว!”

องค์หญิงใหญ่น้ำตาไหลริน พลางสะอื้นเอ่ยกับไทเฮา “ไทเฮา เฉาฮุ่ยมิควรกลับมาเลย! หากมิกลับมาก็จะมิเกิดเรื่องมากมายเช่นนี้!”

“หรงเอ๋อร์ ไปเก็บข้าวของ เรากลับไปกันเถิด!”

ไทเฮาปวดใจกับการร้องไห้ขององค์หญิงใหญ่เป็นอย่างมาก จึงตะคอกเสียงแข็ง “พอได้แล้ว วันนี้พอแค่นี้ ห้ามผู้ใดทำให้อ๋องหรงลำบากใจอีก เรื่องงานอภิเษกเอาไว้คุยกันวันหลัง!”

นางมองหลิงอวี๋อย่างตักเตือนแล้วประคององค์หญิงใหญ่จะเดินเข้าไปในจวนอ๋องหร
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1251

    ท่านอดีตเสนาบดีได้ยินดังนั้นก็ใจเต้น ตอนนั้นเซียวหลินเทียนส่งคนมาหาตนเองก็มิได้บอกรายละเอียดมากนักแต่จากคำพูดของหลิงอวี๋ เขาก็รู้เลยว่าหลิงอวี๋มิใช่คนที่พูดเหลวไหลไปโดยไม่มีจุดหมายท่านอดีตเสนาบดีจึงจงใจตำหนิออกมา “อาอวี๋ คำพูดเช่นนี้พูดเหลวไหลมิได อ๋องหรงจะเกี่ยวข้องกับหอเหยี่ยวราตรีได้อย่างไรกัน!”“หอเหยี่ยวราตรีนั่นเป็นพวกมือสังหารที่ฆ่าคนโดยมิกะพริบตาเซียวนะ!”หลิงอวี๋เช็ดน้ำตา พลางเอ่ยอย่างทุ่มสุดตัว “ท่านปู่ ข้ารู้ว่าพวกเขาแข็งแกร่ง! ทว่าหากมิใช่เพราะพวกเราถูกรังแกกันจนเกินไป มาลอบสังหารข้ากับท่านอ๋องซ้ำแล้วซ้ำเล่า ข้าเองก็มิอยากจะไปยุ่งกับมือสังหารชั่วร้ายเหล่านี้หรอก!”“ท่านปู่ ท่านดูหลานเขยของท่านเถิด เนื้อตัวของเขายังมีบาดแผลรอยมีดที่ถูกลอบสังหารหลงเหลืออยู่เลย! พวกเราหนีรอดมาได้ครั้งแล้วครั้งเล่า แต่เขาก็ยังมิยอมปล่อยพวกเราไป!”“จริงสิ สองวันก่อนที่เรือนหยกอำไพ ยังมีมือสังหารของหอเหยี่ยวราตรีปลอมตัวเป็นนางรับใช้มาลอบสังหารข้าเลย ข้าไปไร่นานางก็ตามติดเป็นเงาไปลอบสังหารข้า… ข้าบาดเจ็บล้วนมิได้บอกท่าน เพราะกลัวว่าท่านจะเป็นห่วง!”“หากท่านมิเชื่อก็ถามคนที่อยู่ในเหตุการณ์

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1252

    ขันทีฉางรับมาส่งให้จักรพรรดิอู่อัน จักรพรรดิอู่อันเปิดดูไปสองสามหน้า แผ่นหลังก็เหงื่อออกแล้วองค์หญิงใหญ่อยากดูว่า สิ่งที่เซียวหลินเทียนส่งให้คือสิ่งใด แต่ไทเฮาบังสายตาไว้นางอยากจะผลักไทเฮาออกไป แต่ตนยังคงมีท่าทีเสียใจอยู่ จะทำกิริยากะทันหันเช่นนั้นได้อย่างไรจักรพรรดิอู่อันมิได้ดูต่ออีก เขาเก็บสมุดแล้วเอ่ยอย่างเย็นชา “ท่านอ๋องเฉิงฟังคำสั่ง พาคนเข้าไปตรวจค้นจวนอ๋องหรง!”“งานอภิเษกสมรสวันนี้สิ้นสุดเพียงเท่านี้ องค์ชายจิ้นพาองค์หญิงชิ่งกลับที่พักไปก่อนเถิด ประเดี๋ยวข้าค้นหาความจริงแน่ชัดแล้ว จะให้คำอธิบายที่พวกเจ้าพอใจอย่างแน่นอน!”“องค์ชายอิง องค์ชายหนิง พวกเจ้าก็กลับไปก่อนเถิด! พรุ่งนี้ข้าจะจัดงานเลี้ยงคุยเรื่องการแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์กันอีกที!”องค์ชายอิงมองเซียวหลินเทียนพลางยิ้มให้แล้วออกไปพร้อมกับมู่หรงเหยียนซงองค์ชายหนิงขยิบตาให้องค์ชายคัง แล้วทั้งสองก็ออกไปตาม ๆ กันขุนนางผู้ใหญ่ที่อยู่ในเหตุการณ์รู้ว่านี่คือเรื่องภายในที่เกี่ยวข้องกับรชวงศ์ ก็กลัวเช่นกันว่าจะเดือดร้อนจึงพากันชิงออกไปเว่ยเฉิงจะว่าไปก็มิใช่จะว่ามิไปก็มิใช่ เขากับองค์ชายเว่ยต่างก็สับสน มิรู้ว่าเซียวหลินเ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1253

    “องค์ชายเว่ย นี่ต่อหน้าธารกำนัล เจ้าคิดว่าจะฆ่าปิดปากพระชายาของข้าหรือ?”มือที่ราวกับเหล็กของเซียวหลินเทียนจับมือขององค์ชายเว่ยไว้แน่น สายตาก็ราวกับมีดคมกริบที่แทงบนใบหน้าขององค์ชายเว่ยอย่างไร้ความปรานีองค์ชายเว่ยสัมผัสได้ถึงสายตาของเขา ความรังเกียจและความไร้ปรานีในนั้นมากจนเอ่อล้นและไม่มีการปิดบังไว้เลยเขาชะงักไปนี่เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นสายตาเช่นนี้ของเซียวหลินเทียน น้องสี่ผู้นี้ ที่แท้ก็สะสมความโกรธที่มีต่อตนไว้มากถึงเพียงนี้!“เจ้ามิถามนางเล่าว่านางพูดสิ่งใดกับข้า!”องค์ชายเว่ยเอ่ยอย่างแข็งนอกอ่อนใน “นางบอกว่าข้าสิ้นทายาทแล้ว! นี่มิใช่การแช่งข้ารึ?”“เซียวหลินเทียน ข้าเป็นพี่ของเจ้า นางพูดเช่นนี้กับข้า เจ้ายังจะให้ท้ายนางอีกรึ?”เซียวหลินเทียนเอ่ยอย่างมิแสดงสีหน้า “พระชายาของข้าเป็นหมอ ทั้งยังเป็นหมอที่ดีที่สุดในเมืองหลวงด้วย! นางบอกว่าเจ้าป่วย เช่นนั้นก็แสดงว่าป่วย!”“นางหวังดีกับเจ้า ให้เจ้าอย่าได้กลัวการรักษา เหตุใดเจ้ามิรู้จักดีชั่วเล่า!”เซียวหลินเทียนพูดแล้วก็ปล่อยมือขององค์ชายเว่ย องค์ชายเว่ยจึงโซเซแล้วล้มไปข้างหน้าเซียวหลินเทียนเดินอยู่รอบ ๆ เขาแล้วคว้าคอเสื้อ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1254

    ค่ายกองทหารเสือนี้คือหมากลับของจักรพรรดิอู่อัน หากทำตามที่เซียวหลินเทียนบอกก็จะสามารถจับเกลือเป็นหนอนในค่ายกองทหารเสือได้ และจะได้รู้แน่ชัดว่าค่ายกองทหารเสือมีกี่คนที่จงรักภักดีกับตนทว่า จักรพรรดิอู่อันเป็นกังวล นี่คือแผนลับของเซียวหลินเทียน หรือต้องการบีบให้ตนเองเปิดเผยความสามารถที่แท้จริงของค่ายกองทหารเสือ...แต่จากกล่องเงินที่บรรจุอยู่เต็มทุกกล่องที่ย้ายออกจากทางลับมากองในเรือน ก็ได้เห็นบัญชีค่ายกองทหารเสือจำนวนมากอีกทั้งยังค้นเจอหนังสือยอมรับผิดของมู่หรงเหยียนซงจากในนั้นด้วย แววตาของจักรพรรดิอู่อันจึงยิ่งมืดมนลงเรื่อย ๆเซียวหลินเทียนพูดถูก ค่ายกองทหารเสือดูภายนอกแล้วตนเป็นผู้ควบคุม แต่แท้จริงแล้วจะใช่ตนหรือไม่ก็ยากที่จะบอก!นี่คือดาบแหลมคมที่แขวนอยู่บนหัวของตน หากมิทำให้ชัดเจน เขาจะนอนหลับอย่างสงบได้หรือ?“ฝ่าบาท ตรวจค้นแน่ชัดแล้วพ่ะย่ะค่ะ จวนอ๋องหรงมีทางลับสามทางจริง ส่วนห้องลับมีการขุดใหม่พ่ะย่ะค่ะ!”หากท่านอ๋องเฉิงมิได้เห็นด้วยตาตนเองก็มิอาจเชื่อได้เช่นกันเขามองเฮ่อหรงอย่างแปลกใจ สีหน้าของเฮ่อหรงขาวซีดราวกับกระดาษ ยังมิทันที่จักรพรรดิอู่อันจะได้เอ่ยสิ่งใด เขาก็คุกเข่

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1255

    “คิดจะหนีอย่างนั้นรึ?”มุมปากของเซียวหลินเทียนยิ้มเยาะเย้ย เขาเดินมาเข้ามาและก้มมองเฮ่อเฉียง“ในเมื่อข้ารู้ว่ามีทางลับ แล้วจะมิป้องกันพวกเจ้าหนีได้เยี่ยงไรเล่า!”“เจ้าเองก็อย่าได้ตะโกนโวยวายไป… มือสังหารที่อยู่ในทางลับถูกจับกุมตรงทางออกแล้ว! ยังมีคนที่พวกเจ้าส่งไปช่วยพวกมือสังหารเหล่านั้นที่ราชสำนักฝ่ายในนั้นก็ถูกรวบตัวไว้หมดแล้ว!”“หอเหยี่ยวราตรีของพวกเจ้าจบเห่แล้ว ต่อให้เจ้าจะหนีออกไปได้ก็หัวเดียวกระเทียมลีบแล้ว!”เฮ่อเฉียงโมโหมาก ๆ เขาจ้องมองเซียวหลินเทียนอย่างดุร้ายแล้วยิ้มเยาะพลางเอ่ย “ท่านอย่าทำเป็นพูดดีโกหกกระหม่อมไปหน่อยเลย กระหม่อมมิเชื่อว่าท่านจะมีความสามารถถึงเพียงนั้น!”“คนที่กระหม่อมส่งออกไปเป็นยอดฝีมือของหอเหยี่ยวราตรี! พวกนักการที่ราชสำนักฝ่ายในของพวกท่านจะเป็นคู่ต่อสู้ของพวกเขาได้เยี่ยงไร!”ท่านอ๋องเฉิงส่งเสียงเย็นชา “หากสู้ต่อตัวต่อ คนของข้าอาจจะมิใช่คู่ต่อสู้ของพวกเจ้า! แต่ข้ามีสมอง สามารถแข่งเรื่องไหวพริบได้!”เฮ่อเฉียงตะลึงพลางเอ่ยออกไป “พวกท่านใช้แผนร้ายหรือ?”ท่านอ๋องเฉิงเอ่ยพร้อมรอยยิ้ม “แผนร้ายนั่นหมายถึงวิธีการที่พวกคนเลวต่ำช้ามิเห็นแสงสว่างเช่นพวกเจ้า

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1256

    จักรพรรดิอูอันพูดจบก็มององค์หญิงใหญ่ พลางเอ่ยเหมือนปลอบใจนาง“ท่านพี่ ข้ารู้สึกว่าตำแหน่งอ๋องหรงก็เป็นเพียงคำเรียกขานเท่านั้นเอง ไม่มีตำแหน่งข้าก็ยังคงให้เบี้ยหวัดและรางวัลกับหรงเอ๋อร์ตามเวลาอยู่ดี!”องค์หญิงใหญ่เอ่ยอย่างเฉยเมย “ฝ่าบาทพูดถูก หรงเอ๋อร์ยังมิคู่ควรกับสถานะ ตำแหน่งอ๋องหรงนำพาพวกประจบสอพลอมาหาเขา มิต้องมีก็ได้!”“ให้คนได้เป็นคนที่อยู่ว่าง ๆ ไปอย่างสงบก็ดีแล้ว ขอบพระทัยในความเห็นพระทัยของฝ่าบาทเพคะ!”จักรพรรดิอู่อันมิสนใจว่าองค์หญิงใหญ่พูดจริงหรือประชด เขามองไปทางเฮ่อจู้ที่คุกเข่าอยู่ด้านข้างพลางเอ่ยเสียงขรึม“ในฐานะที่เฮ่อจู้เป็นรองราชองครักษ์ของกองทัพหลวง เขาละเลยศักดิ์ศรีของแคว้นเพื่อประโยชน์ส่วนตน วางแผนร้ายบีบองค์ชายจิ้นและวางยาทำร้ายทายาทขององค์ชายเว่ย จะต้องถูกจำคุก สอบสวนและประหาร!”“เสด็จพ่อเพคะ...”พระชายาเว่ยส่งเสียงเรียกออกมาพลางคุกเข่าตามเขาเป็นลูกคนโต หากถูกประหารไปเช่นนี้แล้วนางจะไปอธิบายให้ท่านพ่อท่านแม่ฟังเยี่ยงไรเล่า!“ขอเสด็จพ่อโปรดเมตตา ทั้งหมดเป็นความผิดของหม่อมฉันเพคะ หม่อมฉันบงการให้พี่ชายทำเรื่องเช่นนี้ ขอเสด็จพ่อโปรดเมตตาเถิดเพคะ หากจะประหา

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1257

    กระทั่งถูกองครักษ์ของท่านอ๋องเฉิงมัดไว้กับเสาแล้วโบย องค์ชายเว่ยก็ยังคิดว่าจักรพรรดิอู่อันแค่จะทำให้ตนกลัวเขาจึงตะโกนออกมาอย่างตกใจ “เสด็จพ่อ ลูกสำนึกผิดแล้วพ่ะย่ะค่ะ! เสด็จพ่อโปรดให้โอกาสลูกอีกครั้งเถิด ลูกจะทบทวนตัวเองอย่างดีแน่นอนพ่ะย่ะค่ะ...”“เพียะ...”แส้ฟาดไปบนตัวขององค์ชายเว่ย เขาถูกเฆี่ยนตีจนแทบจะหลุดด่าออกไปแล้วแต่หลังจากถูกเฆี่ยนตีไปหลายครั้ง ก็เห็นว่าจักรพรรดิอู่อันมิได้มีท่าทีจะให้หยุด องค์ชายเว่ยจึงรู้ว่าจักรพรรดิอู่อันจริงจังสายตาของเขาเปลี่ยนจากความมิเชื่อไปเป็นความประหลาดใจ แล้วกลายเป็นความโกรธแค้น...โดยเฉพาะเมื่อเห็นหลิงอวี๋กับเซียวหลินเทียนมองเขาถูกเฆี่ยนตีอย่างเฉยเมย เขารู้สึกเพียงว่า ใบหน้าของตนถูกจักรพรรดิอู่อันกระชากแล้วทิ้งลงไปให้หลิงอวี๋กับเซียวหลินเทียนเหยียบย่ำได้ตามใจ...ความเกลียดชังต่อจักรพรรดิอู่อันพุ่งสูงขึ้นในชั่วพริบตาเขานึกถึงเสด็จแม่ของตนที่ยังอยู่ที่ตำหนักเย็น… ฮองเฮาเว่ยแล้วก็นึกถึงคำพูดที่เว่ยเฉิงเคยพูดกับเขา...‘แม่ขององค์ชายถูกลดขั้นแล้วส่งไปอยู่ตำหนักเย็น นี่เป็นสัญญาณหนึ่ง! นี่มันหมายความว่าองค์จักรพรรดิมิได้โปรดปรานตระกูลเว่ยข

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1258

    เรื่องนี้ยังมิจบ!จักรพรรดิอู่อันกับไทเฮากำลังจะนั่งรถม้ากลับวัง จู่ ๆ พระชายาเว่ยก็ตะโกนขึ้นมา “ฝ่าบาทเพคะ หม่อมฉันมีความผิด ฝ่าบาทตัดสินให้ประหารหม่อมฉัน หม่อมฉันยินยอมจากใจจริงเพคะ!”“แต่บางคนที่เห็น ๆ กันอยู่ว่าเป็นลูกนอกสมรส ทั้งยังปลอมตัวเป็นบุตรีขุนนางมาแต่งงานเข้าราชวงศ์อีก เรื่องนี้ควรจะลงโทษเช่นไรหรือเพคะ?”มาแล้ว!หลิงอวี๋ยิ้มอย่างเย็นชา ก่อนหน้านี้ก็ยังคิดอยู่ว่าเหตุใดพระชายาเว่ยมิเอ่ยถึงเรื่องนี้ ที่แท้ก็รอเวลานี้นี่เอง!จักรพรรดิอู่อันขมวดคิ้ว รู้สึกมิชอบเป็นอย่างยิ่งที่เวลานี้พระชายาเว่ยเพิ่มปัญหาขึ้นมาอีก!องค์ชายเว่ยตาเป็นประกายพลางเอ่ยตาม “เสด็จพ่อ คนที่เฮ่อชื่อเอ่ยถึงคือหลิงอวี๋พระชายาอ๋องอี้นี่เอง นางมิใช่หลานสาวแท้ ๆ ของท่านอดีตเสนาบดีพ่ะย่ะค่ะ!”“ใช่แล้วเพคะ ฝ่าบาท ที่มาของหลิงอวี๋มิแน่ชัด หลานฮุ่ยจวนมารดาของนางลักลอบมีสัมพันธ์กับชายอื่นแล้วตั้งครรภ์ลูกนอกสมรสผู้นี้”“ท่านอดีตเสนาบดีรู้เรื่องแต่กลับมิแจ้ง ทั้งยังทำเหมือนนางเป็นคุณหนูตระกูลร่ำรวยแล้วให้อภิเษกสมรสกับท่านอ๋องอี้อย่างหน้ามิอายอีก! นี่เป็นการทำให้สายเลือดสูงศักดิ์ของราชวงศ์แปดเปื้อนนะเพคะ ลูกนอ

บทล่าสุด

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1874

    ในขณะที่เซียวหลินเทียนกำลังยุ่งอยู่กับการตามหาหลิงอวี๋ และฟื้นฟูตำหนักปีกเงินขึ้นมาอีกครั้งนั้น ทางด้านหลิงอวี๋ก็เตรียมตัวจะออกเดินทางไปเมืองหลวงแดนเทพพร้อมกับครอบครัวของข้าหลวงเก๋อแล้วเพื่อเป็นการลดความเหนื่อยล้าของฮูหยินผู้เฒ่าเก๋อจากการเดินทางทั้งทางเรือและทางรถม้า ข้าหลวงเก๋อจึงเลือกที่จะเดินทางไปยังเมืองหลวงแดนเทพทางน้ำแทนตระกูลเก๋อเช่าเรือขนาดใหญ่สองลำ ลำหนึ่งสำหรับบรรทุกสัมภาระ และอีกลำหนึ่งสำหรับโดยสารคนข้าหลวงเก๋อได้รับการเลื่อนตำแหน่งครั้งนี้ คงจะมิกลับไปที่เมืองจงกวนอีกแล้ว ดังนั้นเขาจึงนำข้าวของเครื่องใช้ที่มีค่าและคนรับใช้ทั้งหมดที่เต็มใจจะติดตามเขาไปที่เมืองหลวงแดนเทพไปด้วยเรือใหญ่มีอยู่สามชั้น ชั้นล่างสุดเป็นที่พักอาศัยของคนรับใช้ ข้าหลวงเก๋อกับบุรุษในตระกูลเก๋อพักกันที่ชั้นสาม ส่วนเหล่าญาติฝ่ายสตรีก็พักอยู่ที่ชั้นสองสองพี่น้องหลิงอวี๋กับป้าวซวนก็ได้พักในห้องเดียวกัน แม้ว่าจะเล็กไปสักหน่อย แต่พวกนางทั้งสองก็รู้สึกว่าเพียงพอแล้วเส้นทางน้ำนี้ถือว่าเป็นแม่น้ำที่ใหญ่ที่สุดในแดนเทพ แบ่งออกเป็นแม่น้ำในและแม่น้ำนอกเส้นทางที่พวกนางเดินทางกันอยู่นี้คือแม่น้ำนอก ซึ่ง

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1873

    “เหยี่ยวผู้กล้าควรกางปีกบินให้สูง และลอยตัวให้อยู่เหนือเก้าชั้นฟ้า!”เซียวหลินเทียนพูดสิ่งที่เหวินเหรินจิ้นบอกตนออกไปอย่างใจเย็นนี่คือคำพูดที่เหวินเหรินจิ้นพูดกับสือหรงตอนที่ให้เขาออกมาจริง ๆ ตอนนั้นนอกจากเขากับเหวินเหรินจิ้นก็ไม่มีใครอยู่อีกเมื่อสือหรงเห็นว่าคำตอบของเซียวหลินเทียนถูกต้อง ใบหน้าของเขาก็กลับซีดลงทันที ราวกับว่าเขาถูกโจมตีอย่างหนัก“ท่านเจ้าตำหนัก… ท่านเจ้าตำหนักสิ้นแล้วหรือ?”หากมิได้เป็นเช่นนั้น เซียวหลินเทียนจะมีป้ายผู้นำของตำหนักปีกเงินได้อย่างไร และจะรู้ได้อย่างไรว่าเหวินเหรินจิ้นพูดอะไรกับเขา!“อืม ร่างของเขาจะถูกเก็บไว้ในสุสานใต้ดินของตำหนักปีกเงินเป็นการชั่วคราว แล้วในภายหน้าเมื่อข้าสามารถฟื้นคืนตำหนักปีกเงินมาได้ ก็ค่อยนำไปฝังให้ดี ๆ!”แล้วเซียวหลินเทียนก็เอ่ยออกมาอย่างเศร้าใจ“พรึ่บ…”สือหรงคุกเข่าลง แล้วน้ำตาของเขาก็ไหลลงมาอย่างควบคุมมิได้เดิมทีเขาคิดว่าจะหลบไปสักประมาณปีครึ่ง แล้วเจ้าตำหนักก็คงจะเรียกพวกเขากลับไป เมื่อถึงเวลานั้นตำหนักปีกเงินก็จะรุ่งโรจน์เหมือนในอดีตอีกครั้ง ไหนเลยจะคาดคิดว่า การลาจากของเจ้าตำหนักในครั้งนี้จะเป็นการจากลากันไปตลอด

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1872

    กระทั่งลงมาจากภูเขาแล้ว เซียวหลินเทียนก็ให้เหยี่ยวดำจิ่วเทียนไปส่งจดหมายให้กับฉินซาน แล้วตนกับเผยอวี้ก็มุ่งหน้าไปที่หมู่บ้านตงหยวน ซึ่งอยู่ห่างจากตำหนักปีกเงินหลายสิบลี้ เพื่อตามหาสือหรงลูกศิษย์คนสำคัญของเหวินเหรินจิ้น อีกทั้งยังเป็นผู้พิทักษ์ฝ่ายซ้ายของตำหนักปีกเงินด้วยเซียวหลินเทียนไม่มีทางจะไปตามหาคนในรายชื่อของเหวินเหรินจิ้นทีละคนได้ หากเขาคิดที่จะรวบรวมลูกศิษย์ทั้งหมดของตำหนักปีกเงินที่เหวินเหรินจิ้นสั่งให้ออกจากตำหนักโดยเร็ว สือหรงผู้นี้ก็คือบุคคลที่เป็นกุญแจสำคัญเหวินเหรินจิ้นเคยบอกไว้ว่า หากตามหาสือหรงพบ พวกเขาก็จะสามารถตามลูกศิษย์ทั้งหมดกลับมาได้ เพราะว่าสือหรงมีช่องทางติดต่อของพวกเขาทุกคนแต่กระทั่งเซียวหลินเทียนกับเผยอวี้มาถึงหมู่บ้านตงหยวน ก็สายเกินไปเสียแล้ว ชาวบ้านส่วนใหญ่ในหมู่บ้านตงหยวนถูกสังหารหมู่ และทางการก็กำลังนำคนมาเคลื่อนย้ายศพแต่ละศพออกไปเซียวหลินเทียนและเผยอวี้สวมหน้ากากผิวหนังมนุษย์แล้ว เผยอวี้จึงแสร้งทำเป็นเข้าไปตามหาญาติเพื่อสอบถามข้อมูลเมื่อถามไปจึงได้รู้ว่าเมื่อคืนหมู่บ้านตงหยวนถูกโจรกลุ่มหนึ่งมาปล้นทรัพย์ ตระกูลที่มีฐานะดีในหมู่บ้านส่วนใหญ่จึงถูก

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1871

    หวงฝู่หลินก็เหมือนกับเซียวหลินเทียน ในตอนนี้มีคนที่จะต้องเร่งตามหาให้พบ ดังนั้นแม้ว่าจะมีความขัดแย้งต่อกัน แต่เมื่อเผชิญหน้ากับศัตรูที่แข็งแกร่ง พวกเขาก็ทำได้เพียงต้องร่วมมือกันจึงจะต่อต้านศัตรูได้หวงฝู่หลินมองตำหนักปีกเงินที่ค่อนข้างหดหู่นี้ แล้วเอ่ยด้วยเสียงทุ้ม “เซียวหลินเทียน วันนี้เจ้าเปิดเผยเรื่องที่เจ้ามีกระบี่คุนอู๋อยู่ในมือไปแล้ว มหาปราชญ์ไม่มีทางปล่อยเจ้าไปง่าย ๆ แน่!”“พวกเราต้องรีบรวบรวมกลุ่มที่สามารถต่อสู้กับมหาปราชญ์ให้ได้โดยเร็วที่สุด ก่อนที่มหาปราชญ์จะรวมกำลังคนมาจัดการกับเจ้า!”“เจ้าลงจากภูเขาไปรวบรวมบรรดาลูกศิษย์ของตำหนักปีกเงินมา ส่วนข้าจะช่วยหาคนมาสร้างตำหนักปีกเงินขึ้นใหม่เอง!”“หากเจ้าหาลูกสาวของข้าพบก่อน ก็ให้ส่งข้อความมาหาข้า! และหากข้าพบหลิงอวี๋ ข้าก็จะแจ้งเจ้าทันทีเช่นกัน!”เซียวหลินเทียนพยักหน้าโดยมิต้องคิด “ตกลง! เช่นนั้นพวกเราก็แยกกันเป็นสองกลุ่มไปดำเนินการ!”“เผยอวี้ เราลงจากภูเขากันก่อนเถอะ!”หวงฝู่หลินมองเผยอวี้แล้วเอ่ยออกมา “ประเดี๋ยวก่อน…”เขาหยิบยาหนึ่งขวดออกมาจากแหวนพระสุเมรุของตน แล้วโยนไปที่เผยอวี้ “พลังของเจ้าต่ำเกินไป หากเจ้าติดตามเขาก็จ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1870

    เซียวหลินเทียนฟังแล้วก็ทั้งโกรธทั้งโมโห ก่อนหน้านี้ที่หานเหมยบอกมิได้ละเอียดถึงเพียงนี้ และหานเหมยก็มิเคยบอกด้วยว่าใบหน้าของหลิงอวี๋ถูกจ้าวหรุ่ยหรุ่ยกรีดจนเป็นแผลความทรงจำของหานเหมยสูญหายไปบางส่วน ซึ่งนี่ก็คือผลกระทบที่ได้มาจากการถูกผนึก ดังนั้นจะโทษหานเหมยก็มิได้เมื่อได้ยินว่าหลิงอวี๋สูญเสียวรยุทธ์ไป ทั้งยังถูกเสวี่ยเหมยกลั่นแกล้งอีก เซียวหลินเทียนก็คิดเพียงอยากจะแทงเสวี่ยเหมยและลิ่งหูหลินผู้นั้นให้ตายไปเสียส่วนเรื่องที่หวงฝู่หลินรับหลิงอวี๋เป็นน้องสาวบุญธรรมนั้น เซียวหลินเทียนมิได้คิดเป็นจริงเป็นจังอะไร เขาหรือจะมิรู้ว่าหวงฝู่หลินไม่มีทางรับหลิงอวี๋เป็นน้องสาวบุญธรรมจริง ๆ หรอก“ท่านเจ้าวังของเราให้ป้าวเฉิงไปตามหาหลิงอวี๋ เพราะต้องการจะขอตำรับยาที่นางมีอยู่ในมือ มิใช่เพราะต้องการจะทำให้นางลำบาก!”ปี้ซงอธิบายทุกสิ่งออกมาอย่างชัดเจนแม้ว่าเซียวหลินเทียนจะรู้สึกว่าเขาไม่มีทางพูดความจริงออกมาทั้งหมด แต่ก็ยังเชื่อไปกว่าครึ่งอยู่ดีหลังจากครุ่นคิดดูแล้ว เซียวหลินเทียนก็รู้สึกว่า ในเมื่อหวงฝู่หมิงจูถูกเสวี่ยเหมยจับตัวไป และเสวี่ยเหมยก็เป็นผู้ร้ายที่ลักพาตัวหลิงอวี๋ไปด้วย เช่นนั้นก

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1869

    ใบหน้าหล่อเหลาของเซียวหลินเทียนมีความเศร้าอยู่จาง ๆ เขายืนอยู่บนบันได ซากปรักหักพังด้านหลังเหล่านั้น เมื่ออยู่ภายใต้แสงสะท้อนของดวงอาทิตย์ยามเย็นก็ทำให้เห็นความหดหู่และโดดเดี่ยวอย่างชัดเจนแต่แสงของดวงอาทิตย์ยามเย็นที่ส่องลงมาบนตัวของเซียวหลินเทียนนั้น ทำให้เขาดูเหมือนมีแสงสีทองระยิบระยับอยู่ทั้งที่เห็น ๆ กันอยู่ว่าเขาก็ยังเป็นคนเดิม แต่กลับดูราวกับว่าเปลี่ยนไปเป็นคนละคน ทำให้มิอาจมองเขาตรง ๆ ได้!ทันใดนั้นหวงฝู่หลินก็รู้สึกถึงความรู้สึกกดดันที่มิเคยมีมาก่อนจู่ ๆ เขาก็มีลางสังหรณ์ว่า ในภายภาคหน้าพลังของเซียวหลินเทียนจะประสบความสำเร็จ จะต้องอยู่เหนือไปกว่าของตนมาก และอยู่เหนือกว่าบรรดายอดฝีมือในแดนเทพอย่างแน่นอน!เหนือกว่าแม้กระทั่งหลงอี้ด้วย...เซียวหลินเทียนมองไปไกล ๆ แล้วนึกฉากเมื่อครู่เหวินเหรินจิ้นพาเขาเข้าไป และมิเพียงแต่มอบรายชื่อบรรดาศิษย์ของตำหนักปีกเงินให้ตนเท่านั้น แต่ยังมอบเงินทั้งหมดที่ตำหนักปีกเงินเก็บไว้หลายปีให้ตนด้วยนอกจากนี้แล้ว ก็ยังมีมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์ศักดิ์สิทธิ์ที่มหาปราชญ์ต้องการอย่างหม้อมังกรศักดิ์สิทธิ์อีกด้วยสุดท้ายเหวินเหรินจิ้นก็ยังพยายามถ่ายพ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1868

    หวงฝู่หลินมองเหวินเหรินจิ้นด้วยความสงสาร จากนั้นก็ประคองเขานั่งขึ้นมา แล้วเอ่ยไปอย่างเรียบ ๆ “เจ้าคงมิอยากจากไปโดยที่มิได้ทิ้งคำพูดอะไรไว้แน่!”“ต่อให้ยานั้นจะล้ำค่ามากเพียงใด ก็มิล้ำค่าเท่ากับเจ้า...พูดมาเถิด ยังมีความปรารถนาใดอีกที่เจ้ายังมิสมหวัง ขอเพียงข้าสามารถทำได้ ข้าก็จะช่วยเจ้าอย่างแน่นอน!”หวงฝู่หลินคิดเช่นนั้นจริง ๆ ดังนั้นเขาจึงป้อนโอสถช่วยชีวิตอันล้ำค่าที่ตนสกัดอย่างพิถีพิถันให้กับเหวินเหรินจิ้น เขามิอยากให้สหายผู้นี้ตายตามิหลับเหวินเหรินจิ้นมองหลานชายที่กำลังร้องไห้อยู่ข้าง ๆ แล้วหวงฝู่หลินก็เข้าใจทันที “ข้าจะให้คนดูแลเขาเอง!”เหวินเหรินจิ้นจึงฝืนยิ้มออกมา “ให้เขาเติบโตอย่างเรียบง่าย ลืมตระกูลนี้ไปเสีย และลืมทุกสิ่งทุกอย่างที่ประสบไปให้หมด!”“ได้!”หวงฝู่หลินมิได้พูดอะไรมาก แต่เหวินเหรินจิ้นรู้ว่า เขาเป็นคนพูดคำไหนคำนั้น จึงพยักหน้าอย่างพึงพอใจ“ข้าขอฝากตำหนักปีกเงินไว้กับเจ้า...ข้าได้คำนวณชะตาไว้แล้วว่าจะมีภัยพิบัติเช่นนี้ ข้าจึงแสร้งป่วยแล้วให้ลูกศิษย์ของตำหนักทั้งหมดกระจายกันออกไป...”“แต่ข้ามิวางใจ ข้ากังวลว่า หากมหาปราชญ์หาหม้อมังกรศักดิ์สิทธิ์มิเจอ แล้วจะ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1867

    เผยอวี้เห็นว่าหวงฝู่หลินหน้าซีดเซียว ดูท่าทางเหมือนจะหมดสติไปได้ทุกเมื่อ ดังนั้นเขาจึงมิรีรอแล้วคุกเข่าลงไป จากนั้นก็ยัดลำไส้ของเสือดาวหิมะกลับตามคำชี้แนะของหวงฝู่หลินแล้วหวงฝู่หลินก็นำเครื่องยาสมุนไพรและเข็มกับด้ายออกมาจากแหวนพระสุเมรุ จากนั้นเขาก็ส่งเข็มกับด้ายให้เผยอวี้ “ช่วยเย็บแผลให้มันที!”เผยอวี้ตะลึงไปทันที เขาจับมีดจับกระบี่ได้ แต่เขาใช้เข็มกับด้ายมิเป็น!เมื่อเซียวหลินเทียนเห็นสถานการณ์เช่นนี้ เขาก็นึกขึ้นได้ว่า ตอนที่ตนพิชิตกระบี่คุนอู๋ ก็เคยบาดมือมาก่อน แต่เมื่อฝ่ามือของเขาจับที่กระบี่คุนอู๋ ก็รักษาตัวได้อย่างน่าอัศจรรย์เขาลังเลอยู่ครู่หนึ่งว่าควรจะใช้กระบี่คุนอู๋รักษาเสือดาวหิมะหรือไม่!เขาเข้าใจหลักการที่ว่า ทรัพย์สมบัติมิควรเปิดเผยออกมา หากว่าในวันนี้มิใช่สถานการณ์วิกฤต เขาก็ไม่มีทางนำกระบี่คุนอู๋ออกมาแน่แต่ตอนนี้มหาปราชญ์รู้แล้วว่า กระบี่คุนอู๋อยู่ในมือของตน มันจะต้องนำความยุ่งยากมาหาตนมิจบสิ้น เช่นเดียวกับหยกหล้าสุขาวดีของหลิงอวี๋อย่างแน่นอน!หากเปิดเผยเรื่องที่กระบี่คุนอู๋สามารถรักษาบาดแผลได้ไปอีก เช่นนั้นจะมิยิ่งทำให้คนสนใจมากขึ้นหรือ?แต่เมื่อเซียวหลินเที

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1866

    “ท่านเจ้าวัง!”ปี้ซงเห็นว่าหวงฝู่หลินไม่มีแม้แต่เรี่ยวแรงที่จะสู้กลับแล้ว เขาจึงร้องเรียกออกมาอย่างเจ็บปวดจากนั้นเขาก็เหาะเข้าไปหาโดยมิสนใจภัยคุกคามของมือสังหาร แต่เซียวหลินเทียนที่อยู่ข้างกายเขาเร็วกว่า เหาะพุ่งเข้าไปแล้วในช่วงเวลานี้ เซียวหลินเทียนก็มิกลัวที่จะเปิดเผยสมบัติของตนอีกต่อไปแล้ว เขานำกระบี่คุนอู๋ออกมาจากแหวนพระสุเมรุแล้วฟาดไปในอากาศเป็นวงโค้ง...แสงสีขาวลงมาจากท้องฟ้า มหาปราชญ์หันหลังให้เซียวหลินเทียนอยู่จึงมิเห็นแสงนั้น ทว่าหวงฝู่หลินกลับมองเห็นเห็นแสงสีขาวนั้นพุ่งลงมาใส่แขนของมหาปราชญ์ราวกับสายฟ้า ด้วยพลังที่มิอาจต้านทานได้ในตอนที่มหาปราชญ์รู้สึกได้ถึงความหนาวเย็นนั้น เขาก็ได้เห็นแขนครึ่งหนึ่งของตนลอยขึ้นไปบนท้องฟ้าอย่างน่าตกใจ หลังจากนั้นเลือดจากบาดแผลที่แขนขาดไปก็ไหลออกมา“กระบี่คุนอู๋… เจ้าเป็นใคร?”มหาปราชญ์เซถอยหลังไป และในแววตาของเขาก็เต็มไปด้วยความประหลาดใจและยากที่จะเชื่อ“คนที่จะเอาชีวิตเจ้า!”นี่เป็นครั้งแรกที่เซียวหลินเทียนใช้กระบี่คุนอู๋ เขามิคาดคิดเลยว่า กระบี่คุนอู๋จะทรงพลังเช่นนี้ ปราณแห่งกระบี่ที่ฟาดออกมาสามารถตัดแขนของมหาปราชญ์ได้ความมั่

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status