แม้ว่าไทเฮาจะชอบหลิงอวี๋ แต่เวลานี้ก็มิพอใจหลิงอวี๋แล้ว จึงตำหนิ “หลิงอวี๋ พอได้แล้วกระมัง! เจ้ารักน้องสาวเจ้า ข้าเข้าใจความรู้สึกของเจ้า!”“แต่เฮ่อจู้ยอมรับผิดแล้วเจ้ายังมิพออีกหรือ? เจ้าจะบีบให้หรงเอ๋อร์ตายไปจริง ๆ หรือ?”เว่ยเฉิงเห็นว่าไทเฮาพูดเช่นนี้ก็เอ่ยอย่างปวดใจเช่นกัน “พระชายาอ๋องอี้ เจ้าทำให้ฮองเฮาเว่ยถูกลดขั้นไปอยู่ตำหนักเย็นแล้ว องค์ชายเว่ยก็ถูกส่งไปเฝ้าสุสานหลวงเช่นกัน ยังจะมิยอมปล่อยตระกูลของพระชายาเว่ยอีกหรือ?”“เจ้าจะกำจัดพวกเขาให้สิ้นซากไปจริง ๆ เลยหรือ?”“คนเจ็บป่วยเช่นเฮ่อหรงจะกลายเป็นภัยคุกคามต่อพวกเจ้าได้อย่างไร? กความก้าวร้าวเช่นนี้จะทำให้คนเจ็บปวดกันเกินไปแล้ว!”องค์หญิงใหญ่น้ำตาไหลริน พลางสะอื้นเอ่ยกับไทเฮา “ไทเฮา เฉาฮุ่ยมิควรกลับมาเลย! หากมิกลับมาก็จะมิเกิดเรื่องมากมายเช่นนี้!”“หรงเอ๋อร์ ไปเก็บข้าวของ เรากลับไปกันเถิด!”ไทเฮาปวดใจกับการร้องไห้ขององค์หญิงใหญ่เป็นอย่างมาก จึงตะคอกเสียงแข็ง “พอได้แล้ว วันนี้พอแค่นี้ ห้ามผู้ใดทำให้อ๋องหรงลำบากใจอีก เรื่องงานอภิเษกเอาไว้คุยกันวันหลัง!”นางมองหลิงอวี๋อย่างตักเตือนแล้วประคององค์หญิงใหญ่จะเดินเข้าไปในจวนอ๋องหร
ท่านอดีตเสนาบดีได้ยินดังนั้นก็ใจเต้น ตอนนั้นเซียวหลินเทียนส่งคนมาหาตนเองก็มิได้บอกรายละเอียดมากนักแต่จากคำพูดของหลิงอวี๋ เขาก็รู้เลยว่าหลิงอวี๋มิใช่คนที่พูดเหลวไหลไปโดยไม่มีจุดหมายท่านอดีตเสนาบดีจึงจงใจตำหนิออกมา “อาอวี๋ คำพูดเช่นนี้พูดเหลวไหลมิได อ๋องหรงจะเกี่ยวข้องกับหอเหยี่ยวราตรีได้อย่างไรกัน!”“หอเหยี่ยวราตรีนั่นเป็นพวกมือสังหารที่ฆ่าคนโดยมิกะพริบตาเซียวนะ!”หลิงอวี๋เช็ดน้ำตา พลางเอ่ยอย่างทุ่มสุดตัว “ท่านปู่ ข้ารู้ว่าพวกเขาแข็งแกร่ง! ทว่าหากมิใช่เพราะพวกเราถูกรังแกกันจนเกินไป มาลอบสังหารข้ากับท่านอ๋องซ้ำแล้วซ้ำเล่า ข้าเองก็มิอยากจะไปยุ่งกับมือสังหารชั่วร้ายเหล่านี้หรอก!”“ท่านปู่ ท่านดูหลานเขยของท่านเถิด เนื้อตัวของเขายังมีบาดแผลรอยมีดที่ถูกลอบสังหารหลงเหลืออยู่เลย! พวกเราหนีรอดมาได้ครั้งแล้วครั้งเล่า แต่เขาก็ยังมิยอมปล่อยพวกเราไป!”“จริงสิ สองวันก่อนที่เรือนหยกอำไพ ยังมีมือสังหารของหอเหยี่ยวราตรีปลอมตัวเป็นนางรับใช้มาลอบสังหารข้าเลย ข้าไปไร่นานางก็ตามติดเป็นเงาไปลอบสังหารข้า… ข้าบาดเจ็บล้วนมิได้บอกท่าน เพราะกลัวว่าท่านจะเป็นห่วง!”“หากท่านมิเชื่อก็ถามคนที่อยู่ในเหตุการณ์
ขันทีฉางรับมาส่งให้จักรพรรดิอู่อัน จักรพรรดิอู่อันเปิดดูไปสองสามหน้า แผ่นหลังก็เหงื่อออกแล้วองค์หญิงใหญ่อยากดูว่า สิ่งที่เซียวหลินเทียนส่งให้คือสิ่งใด แต่ไทเฮาบังสายตาไว้นางอยากจะผลักไทเฮาออกไป แต่ตนยังคงมีท่าทีเสียใจอยู่ จะทำกิริยากะทันหันเช่นนั้นได้อย่างไรจักรพรรดิอู่อันมิได้ดูต่ออีก เขาเก็บสมุดแล้วเอ่ยอย่างเย็นชา “ท่านอ๋องเฉิงฟังคำสั่ง พาคนเข้าไปตรวจค้นจวนอ๋องหรง!”“งานอภิเษกสมรสวันนี้สิ้นสุดเพียงเท่านี้ องค์ชายจิ้นพาองค์หญิงชิ่งกลับที่พักไปก่อนเถิด ประเดี๋ยวข้าค้นหาความจริงแน่ชัดแล้ว จะให้คำอธิบายที่พวกเจ้าพอใจอย่างแน่นอน!”“องค์ชายอิง องค์ชายหนิง พวกเจ้าก็กลับไปก่อนเถิด! พรุ่งนี้ข้าจะจัดงานเลี้ยงคุยเรื่องการแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์กันอีกที!”องค์ชายอิงมองเซียวหลินเทียนพลางยิ้มให้แล้วออกไปพร้อมกับมู่หรงเหยียนซงองค์ชายหนิงขยิบตาให้องค์ชายคัง แล้วทั้งสองก็ออกไปตาม ๆ กันขุนนางผู้ใหญ่ที่อยู่ในเหตุการณ์รู้ว่านี่คือเรื่องภายในที่เกี่ยวข้องกับรชวงศ์ ก็กลัวเช่นกันว่าจะเดือดร้อนจึงพากันชิงออกไปเว่ยเฉิงจะว่าไปก็มิใช่จะว่ามิไปก็มิใช่ เขากับองค์ชายเว่ยต่างก็สับสน มิรู้ว่าเซียวหลินเ
“องค์ชายเว่ย นี่ต่อหน้าธารกำนัล เจ้าคิดว่าจะฆ่าปิดปากพระชายาของข้าหรือ?”มือที่ราวกับเหล็กของเซียวหลินเทียนจับมือขององค์ชายเว่ยไว้แน่น สายตาก็ราวกับมีดคมกริบที่แทงบนใบหน้าขององค์ชายเว่ยอย่างไร้ความปรานีองค์ชายเว่ยสัมผัสได้ถึงสายตาของเขา ความรังเกียจและความไร้ปรานีในนั้นมากจนเอ่อล้นและไม่มีการปิดบังไว้เลยเขาชะงักไปนี่เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นสายตาเช่นนี้ของเซียวหลินเทียน น้องสี่ผู้นี้ ที่แท้ก็สะสมความโกรธที่มีต่อตนไว้มากถึงเพียงนี้!“เจ้ามิถามนางเล่าว่านางพูดสิ่งใดกับข้า!”องค์ชายเว่ยเอ่ยอย่างแข็งนอกอ่อนใน “นางบอกว่าข้าสิ้นทายาทแล้ว! นี่มิใช่การแช่งข้ารึ?”“เซียวหลินเทียน ข้าเป็นพี่ของเจ้า นางพูดเช่นนี้กับข้า เจ้ายังจะให้ท้ายนางอีกรึ?”เซียวหลินเทียนเอ่ยอย่างมิแสดงสีหน้า “พระชายาของข้าเป็นหมอ ทั้งยังเป็นหมอที่ดีที่สุดในเมืองหลวงด้วย! นางบอกว่าเจ้าป่วย เช่นนั้นก็แสดงว่าป่วย!”“นางหวังดีกับเจ้า ให้เจ้าอย่าได้กลัวการรักษา เหตุใดเจ้ามิรู้จักดีชั่วเล่า!”เซียวหลินเทียนพูดแล้วก็ปล่อยมือขององค์ชายเว่ย องค์ชายเว่ยจึงโซเซแล้วล้มไปข้างหน้าเซียวหลินเทียนเดินอยู่รอบ ๆ เขาแล้วคว้าคอเสื้อ
ค่ายกองทหารเสือนี้คือหมากลับของจักรพรรดิอู่อัน หากทำตามที่เซียวหลินเทียนบอกก็จะสามารถจับเกลือเป็นหนอนในค่ายกองทหารเสือได้ และจะได้รู้แน่ชัดว่าค่ายกองทหารเสือมีกี่คนที่จงรักภักดีกับตนทว่า จักรพรรดิอู่อันเป็นกังวล นี่คือแผนลับของเซียวหลินเทียน หรือต้องการบีบให้ตนเองเปิดเผยความสามารถที่แท้จริงของค่ายกองทหารเสือ...แต่จากกล่องเงินที่บรรจุอยู่เต็มทุกกล่องที่ย้ายออกจากทางลับมากองในเรือน ก็ได้เห็นบัญชีค่ายกองทหารเสือจำนวนมากอีกทั้งยังค้นเจอหนังสือยอมรับผิดของมู่หรงเหยียนซงจากในนั้นด้วย แววตาของจักรพรรดิอู่อันจึงยิ่งมืดมนลงเรื่อย ๆเซียวหลินเทียนพูดถูก ค่ายกองทหารเสือดูภายนอกแล้วตนเป็นผู้ควบคุม แต่แท้จริงแล้วจะใช่ตนหรือไม่ก็ยากที่จะบอก!นี่คือดาบแหลมคมที่แขวนอยู่บนหัวของตน หากมิทำให้ชัดเจน เขาจะนอนหลับอย่างสงบได้หรือ?“ฝ่าบาท ตรวจค้นแน่ชัดแล้วพ่ะย่ะค่ะ จวนอ๋องหรงมีทางลับสามทางจริง ส่วนห้องลับมีการขุดใหม่พ่ะย่ะค่ะ!”หากท่านอ๋องเฉิงมิได้เห็นด้วยตาตนเองก็มิอาจเชื่อได้เช่นกันเขามองเฮ่อหรงอย่างแปลกใจ สีหน้าของเฮ่อหรงขาวซีดราวกับกระดาษ ยังมิทันที่จักรพรรดิอู่อันจะได้เอ่ยสิ่งใด เขาก็คุกเข่
“คิดจะหนีอย่างนั้นรึ?”มุมปากของเซียวหลินเทียนยิ้มเยาะเย้ย เขาเดินมาเข้ามาและก้มมองเฮ่อเฉียง“ในเมื่อข้ารู้ว่ามีทางลับ แล้วจะมิป้องกันพวกเจ้าหนีได้เยี่ยงไรเล่า!”“เจ้าเองก็อย่าได้ตะโกนโวยวายไป… มือสังหารที่อยู่ในทางลับถูกจับกุมตรงทางออกแล้ว! ยังมีคนที่พวกเจ้าส่งไปช่วยพวกมือสังหารเหล่านั้นที่ราชสำนักฝ่ายในนั้นก็ถูกรวบตัวไว้หมดแล้ว!”“หอเหยี่ยวราตรีของพวกเจ้าจบเห่แล้ว ต่อให้เจ้าจะหนีออกไปได้ก็หัวเดียวกระเทียมลีบแล้ว!”เฮ่อเฉียงโมโหมาก ๆ เขาจ้องมองเซียวหลินเทียนอย่างดุร้ายแล้วยิ้มเยาะพลางเอ่ย “ท่านอย่าทำเป็นพูดดีโกหกกระหม่อมไปหน่อยเลย กระหม่อมมิเชื่อว่าท่านจะมีความสามารถถึงเพียงนั้น!”“คนที่กระหม่อมส่งออกไปเป็นยอดฝีมือของหอเหยี่ยวราตรี! พวกนักการที่ราชสำนักฝ่ายในของพวกท่านจะเป็นคู่ต่อสู้ของพวกเขาได้เยี่ยงไร!”ท่านอ๋องเฉิงส่งเสียงเย็นชา “หากสู้ต่อตัวต่อ คนของข้าอาจจะมิใช่คู่ต่อสู้ของพวกเจ้า! แต่ข้ามีสมอง สามารถแข่งเรื่องไหวพริบได้!”เฮ่อเฉียงตะลึงพลางเอ่ยออกไป “พวกท่านใช้แผนร้ายหรือ?”ท่านอ๋องเฉิงเอ่ยพร้อมรอยยิ้ม “แผนร้ายนั่นหมายถึงวิธีการที่พวกคนเลวต่ำช้ามิเห็นแสงสว่างเช่นพวกเจ้า
จักรพรรดิอูอันพูดจบก็มององค์หญิงใหญ่ พลางเอ่ยเหมือนปลอบใจนาง“ท่านพี่ ข้ารู้สึกว่าตำแหน่งอ๋องหรงก็เป็นเพียงคำเรียกขานเท่านั้นเอง ไม่มีตำแหน่งข้าก็ยังคงให้เบี้ยหวัดและรางวัลกับหรงเอ๋อร์ตามเวลาอยู่ดี!”องค์หญิงใหญ่เอ่ยอย่างเฉยเมย “ฝ่าบาทพูดถูก หรงเอ๋อร์ยังมิคู่ควรกับสถานะ ตำแหน่งอ๋องหรงนำพาพวกประจบสอพลอมาหาเขา มิต้องมีก็ได้!”“ให้คนได้เป็นคนที่อยู่ว่าง ๆ ไปอย่างสงบก็ดีแล้ว ขอบพระทัยในความเห็นพระทัยของฝ่าบาทเพคะ!”จักรพรรดิอู่อันมิสนใจว่าองค์หญิงใหญ่พูดจริงหรือประชด เขามองไปทางเฮ่อจู้ที่คุกเข่าอยู่ด้านข้างพลางเอ่ยเสียงขรึม“ในฐานะที่เฮ่อจู้เป็นรองราชองครักษ์ของกองทัพหลวง เขาละเลยศักดิ์ศรีของแคว้นเพื่อประโยชน์ส่วนตน วางแผนร้ายบีบองค์ชายจิ้นและวางยาทำร้ายทายาทขององค์ชายเว่ย จะต้องถูกจำคุก สอบสวนและประหาร!”“เสด็จพ่อเพคะ...”พระชายาเว่ยส่งเสียงเรียกออกมาพลางคุกเข่าตามเขาเป็นลูกคนโต หากถูกประหารไปเช่นนี้แล้วนางจะไปอธิบายให้ท่านพ่อท่านแม่ฟังเยี่ยงไรเล่า!“ขอเสด็จพ่อโปรดเมตตา ทั้งหมดเป็นความผิดของหม่อมฉันเพคะ หม่อมฉันบงการให้พี่ชายทำเรื่องเช่นนี้ ขอเสด็จพ่อโปรดเมตตาเถิดเพคะ หากจะประหา
กระทั่งถูกองครักษ์ของท่านอ๋องเฉิงมัดไว้กับเสาแล้วโบย องค์ชายเว่ยก็ยังคิดว่าจักรพรรดิอู่อันแค่จะทำให้ตนกลัวเขาจึงตะโกนออกมาอย่างตกใจ “เสด็จพ่อ ลูกสำนึกผิดแล้วพ่ะย่ะค่ะ! เสด็จพ่อโปรดให้โอกาสลูกอีกครั้งเถิด ลูกจะทบทวนตัวเองอย่างดีแน่นอนพ่ะย่ะค่ะ...”“เพียะ...”แส้ฟาดไปบนตัวขององค์ชายเว่ย เขาถูกเฆี่ยนตีจนแทบจะหลุดด่าออกไปแล้วแต่หลังจากถูกเฆี่ยนตีไปหลายครั้ง ก็เห็นว่าจักรพรรดิอู่อันมิได้มีท่าทีจะให้หยุด องค์ชายเว่ยจึงรู้ว่าจักรพรรดิอู่อันจริงจังสายตาของเขาเปลี่ยนจากความมิเชื่อไปเป็นความประหลาดใจ แล้วกลายเป็นความโกรธแค้น...โดยเฉพาะเมื่อเห็นหลิงอวี๋กับเซียวหลินเทียนมองเขาถูกเฆี่ยนตีอย่างเฉยเมย เขารู้สึกเพียงว่า ใบหน้าของตนถูกจักรพรรดิอู่อันกระชากแล้วทิ้งลงไปให้หลิงอวี๋กับเซียวหลินเทียนเหยียบย่ำได้ตามใจ...ความเกลียดชังต่อจักรพรรดิอู่อันพุ่งสูงขึ้นในชั่วพริบตาเขานึกถึงเสด็จแม่ของตนที่ยังอยู่ที่ตำหนักเย็น… ฮองเฮาเว่ยแล้วก็นึกถึงคำพูดที่เว่ยเฉิงเคยพูดกับเขา...‘แม่ขององค์ชายถูกลดขั้นแล้วส่งไปอยู่ตำหนักเย็น นี่เป็นสัญญาณหนึ่ง! นี่มันหมายความว่าองค์จักรพรรดิมิได้โปรดปรานตระกูลเว่ยข