ตามมาด้วยขุนนางผู้ใหญ่ที่ได้รับเชิญซึ่งทยอยกันมา จ้าวเจินเจินกับองค์ชายคังก็มาแล้ว จากนั้นองค์ชายอิงก็มาชมพิธีพร้อมกับเหล่าองครักษ์ องค์ชายหนิงก็มาด้วยเช่นกันต่อจากนั้น จักรพรรดิอู่อันกับไทเฮาก็มาถึงภายใต้การคุ้มกันของกองทัพหลวง ทั้งสองลงจากรถม้าพระที่นั่งที่หน้าประตูจวนอ๋องหรงเวลานี้ เฮ่อหรงก็พากลุ่มที่ไปรับตัวเจ้าสาวมาถึงมุมถนนแล้วเช่นกันองครักษ์โห่ร้องเสียงดัง “เตรียมรับตัวเจ้าสาว...”องค์หญิงใหญ่อยู่ข้างในได้ยินดังนั้น ก็รีบสั่งคนย้ายเตาไฟไปรอรับคู่บ่าวสาวเข้าเรือนจักรพรรดิอู่อันกับไทเฮาก็ยืนยิ้มอยู่ข้างบนรอดูเฮ่อหรงรับตัวเจ้าสาวมาไทเฮาตารื้นไปด้วยความตื่นเต้น ตนยังได้คืนดีกับพระธิดาในตอนที่มีชีวิตอยู่ ได้เห็นพระโอรสคนเดียวของนางแต่งงานมีลูก ชีวิตนี้มิเสียใจอะไรแล้วหลิงอวี๋ลากเซียวหลินเทียนไปด้านข้าง เขากุมมือของนางไว้ ทั้งสองคนมีความคิดเช่นเดียวกันนั่นคือ จะเข้าประตูนี้ไปมิได้สตรีผู้บริสุทธิ์เช่นมู่หรงชิ่ง จะแต่งงานเข้าจวนอ๋องหรงเช่นนี้ได้เยี่ยงไรกัน!ทั้งสองรออยู่อย่างอดทน วันนี้เซียวหลินเทียนให้ท่านอ๋องเฉิงไปบอกกับมู่หรงเหยียนซงตอนที่ส่งของกำนัลให้แล้ว พวกเขาแค่ร
“มิพอใจ?”มู่หรงเหยียนซงขมวดคิ้วอย่างโกรธเกรี้ยว จากนั้นก็หัวเราะแล้วมองไปทางจักรพรรดิอู่อัน แล้วเขาก็ก้าวไปข้างหน้า ประสานมือให้จักรพรรดิอู่อันพลางเอ่ยเสียงแข็ง“ฝ่าบาท กระหม่อมมายังฉินตะวันตกตามคำสั่งของเสด็จพ่อ มาเพื่อเชื่อมสัมพันธ์ระหว่างสองแคว้นให้ดี! กระหม่อมมิได้มิพอใจการแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์ แต่กระหม่อมทนให้องค์หญิงชิ่งแต่งงานเข้าจวนอ๋องหรงเช่นนี้มิได้!”“กระหม่อมต้องการกราบทูลฟ้องร้องตระกูลเฮ่อ พระชายาเว่ย และเฮ่อหรงที่วางแผนใส่ร้ายกระหม่อมเพื่อต้องการบีบให้กระหม่อมยอมรับการแต่งงาน...”ทันทีที่คำพูดเช่นออกมา มิเพียงแต่ขุนนางผู้ใหญ่ที่ดูอยู่เท่านั้นที่ตกใจ แม้แต่ราษฎรที่มาดูความครึกครื้นเองก็ตกตะลึงไปเช่นกันการแต่งงานนี้ถูกบังคับหรอกหรือ?จักรพรรดิอู่อันใจเต้นรัว ความเสียใจของมู่หรงเหยียนซงนี้เขามิได้เตรียมพร้อมเลยสักนิด ยิ่งไปกว่านั้น นี่มิใช่เรื่องภายในของตนเอง นี่คือเรื่องสำคัญที่เกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ระหว่างแคว้น!“องค์ชายจิ้น เมื่อคืนเจ้าดื่มมากเกินไปหรือไม่ ยังมิสร่างเมามาพูดจาเหลวไหลอะไรกัน!”เฮ่อหรงเห็นสถานการณ์มิดี จึงแสร้งพูดไปพลางเปิดม่านเกี้ยวไปด้วย คิ
มู่หรงเหยียนซงอดกลั้นความโกรธไว้นานแล้ว เมื่อเจอจักรพรรดิอู่อันซักถามเช่นนี้ก็ยิ้มเยาะพลางเอ่ย “หนังสือมีแน่นอนพ่ะย่ะค่ะ แต่กระหม่อมคิดว่าอธิบายจากปากจะดีกว่า!”มู่หรงเหยียนซงเล่าออกมาว่าตนเองถูกเฮ่อหรงเชิญไปที่หมู่บ้านตระกูลเฮ่ออย่างไร แล้วถูกเฮ่อหรงใส่ยาลงในเหล้า เมื่อฟื้นขึ้นมาก็พบว่าหลิงเยี่ยนนอนอยู่ข้าง ๆ ตนเมื่อเล่าไปถึงตรงนี้ หลิงเสียงเซิงก็ตะโกนขึ้นมาอย่างตกใจ “องค์ชายจิ้น ท่านอย่าได้พูดจาเหลวไหล เยี่ยนเอ๋อร์ของกระหม่อมถูกส่งไปที่ตำหนักองค์ชายเว่ย จะไปที่หมู่บ้านตระกูลเฮ่อได้เยี่ยงไร!”หวางซือก็หน้าซีดไปเช่นกัน หลิงเยี่ยนถูกองค์ชายเว่ยรับเข้าตำหนักองค์ชายเว่ย เดิมทีหลังจากสามวันจะต้องกลับบ้านนางยังเตรียมงานเลี้ยงอย่างตื่นเต้นด้วยซ้ำ ไหนเลยจะคิดว่าพระชายาเว่ยจะส่งคนมาบอกว่า หลิงเยี่ยนแพ้ท้องออกไปไหนมิได้ จึงยกเลิกการกลับบ้านหวางซือก็มิได้คิดอะไรมาก นางรู้สึกว่า องค์ชายเว่ยให้ความสำคัญกับลูกในท้องของหลิงเยี่ยนจึงได้มารับหลิงเยี่ยนเข้าตำหนักไป และจะต้องดูแลหลิงเยี่ยนเป็นอย่างดีแน่นอนมู่หรงเหยียนซงมิสนใจคนต่ำต้อยเช่นหลิงเสียงเซิง พลางเอ่ยกับจักรพรรดิอู่อันด้วยเหตุผล “กระห
ทันทีที่หลิงอวี๋พูดสิ่งนี้ออกไป ทุกคนก็ตะลึงไปทันทีเฮ่อหรงกับองค์หญิงใหญ่ต่างก็ตะคอกเสียงแข็ง “พระชายาอ๋องอี้ เจ้าอย่ามาใส่ร้ายผู้อื่น!”องค์หญิงใหญ่จึงยิ่งตะโกนใส่จักรพรรดิอู่อันกับไทเฮาด้วยความโกรธ “ฝ่าบาท ไทเฮา พวกท่านดู… พวกท่านดูเถิด...”“นี่หากคนนอกใส่ร้ายเราก็ช่างเถิด ตอนนี้แม้แต่หลานสะใภ้ก็มาสาดโคลนใส่พวกเราด้วย นี่คือมิชอบที่พวกเรากลับมาแย่งความโปรดปรานของพวกเขาหรือ?”“ไทเฮา หากมิจัดงานแต่งงานนี้แล้ว หม่อมฉันจะพาหรงเอ๋อร์กลับอารามจิ้งซือแล้วก็ได้เพคะ!”พูดแล้ว องค์หญิงใหญ่ก็บีบน้ำตาออกมาไทเฮาโอบกอดองค์หญิงใหญ่ไว้แล้วมองไปทางหลิงอวี๋อย่างมิพอใจนัก แต่คำที่พูดออกมาก็ยังมิเป็นการเข้าข้างผู้ใด“อาอวี๋ จะพูดสิ่งใดออกมาลอย ๆ มิได้ เจ้ามีหลักฐานจริงหรือไม่?”คำพูดของไทเฮาทำให้หลิงอวี๋ค่อนข้างปลื้มใจ อย่างน้องนางก็มิได้ลืมว่าตนดีต่อนาง“กราบทูลไทเฮา หลิงอวี๋มิได้พูดลอย ๆ เพคะ ขอเพียงให้คนเข้าไปตรวจค้น จะต้องพบหลิงเยี่ยนแน่นอนเพคะ!”“อย่ามาก่อเรื่อง วันนี้เป็นงานอภิเษกสมรสของท่านอ๋องหรง จะให้เข้าไปตรวจค้นสุ่มสี่สุ่มห้าได้เยี่ยงไรกัน?”เว่ยเฉิงอดมิได้ที่จะลุกออกมา “พระชายาอ
จักรพรรดิอู่อันเห็นท่าทางน้อยใจขององค์หญิงใหญ่ก็รู้สึกผิดอยู่ในใจเขามองหลิงอวี๋อย่างมิพอใจพลางเอ่ยเสียงเรียบ “หลิงอวี๋ เจ้ารู้ใช่หรือไม่ว่าการใส่ความจะต้องถูกเฆี่ยนสามสิบครั้ง?”นี่คือการเตือนให้หลิวอวี๋เก็บคำพูดของตนกลับไปหลิงอวี๋รู้อยู่แก่ใจดีจึงเอ่ยเรียบ ๆ “เสด็จพ่อเพคะ หลิงอวี๋เชื่อว่าเสด็จพ่อจะทรงจัดการอย่างเป็นธรรมและให้ความเสมอภาคแก่ทั้งสองฝ่ายเพคะ!”นี่คือคำพูดต่อต้านจักรพรรดิอู่อันแม้แต่คนที่ซื่อตรงที่สุดก็โกรธได้เช่นกัน หลิงอวี๋เห็นมือสังหารขององค์ชายเว่ยลอบสังหารเซียวหลินเทียนหลายครั้งแล้ว ทว่าทุกครั้งจักรพรรดิอู่อันก็ลงโทษองค์ชายเว่ยมิได้เจ็บปวดเลยครั้งนี้ก็มาขู่ตนว่าจะเฆี่ยนสามสิบครั้งเพื่อองค์หญิงใหญ่อีก!เช่นนั้นก็ได้ หลิงอวี๋รับการเฆี่ยนได้ แต่เรื่องที่องค์ชายเว่ยกับอ๋องหรงทำผิดก็ต้องได้รับเช่นกันองค์ชายคังตะโกนเรียกองครักษ์มากลุ่มหนึ่งอย่างรอมิไหว กำลังคิดจะพุ่งเข้าไปในจวนอ๋องหรง ก็เห็นว่ามีเสียงตะคอกโกรธเคืองดังมาจากด้านในเสียก่อน“เซียวหลินเยี่ยน ท่านอธิบายกับกระหม่อมมา หลานสาวกระหม่อมถูกส่งตัวเข้าไปที่ตำหนักองค์ชายเว่ยในฐานะชายารอง แต่เหตุใดกลับถูกขังอ
มิเพียงแต่ทุกคน จักรพรรดิอู่อันเองพอคิดดูก็เข้าใจความหมายที่องค์ชายอิงมิได้พูดออกมาเขามองไปทางเฮ่อจู้กับพระชายาเว่ยอย่างน่ากลัว ยังมิทันที่องค์ชายอิงจะได้พูดออกมา จักรพรรดิอู่อันก็ยิ้มเยาะพลางเอ่ย“ท่านอดีตเสนาบดีจับตัวหลิงเยี่ยนเข้าไปเพื่อใส่ร้ายอ๋องหรง?”“แม้ว่าข้าจะแก่แล้ว แต่ความทรงจำยังดีอยู่ พระชายาเว่ย เมื่อครู่เจ้าบอกมิใช่หรือว่า หลิงเยี่ยนไปบำรุงครรภ์ที่ตำหนักสวนท้อ?”“ตำหนักสวนท้อเป็นตำหนักพักร้อนขององค์ชายเว่ยอยู่ห่างจากเมืองหลวงไปหลายร้อยลี้กระมัง ท่านอดีตเสนาบดีเดินทางไกลไปถึงตำหนักสวนท้อเพื่อพาตัวหลิงเยี่ยนกลับมา แล้วพาตัวหลิงเยี่ยนกับนางรับใช้สองคนนี้เข้าไปในจวนอ๋องหรงด้วยกำลังของคนคนเดียวน่ะรึ!”“ที่สำคัญยิ่งกว่านั้นคือ คนจวนอ๋องหรงล้วนหูหนวกตาบอด ปล่อยให้พวกท่านอดีตเสนาบดีเข้าออกได้อย่างอิสระรึ?”คำพูดเหล่านี้คือสิ่งที่องค์ชายอิงคิด แต่มีหรือที่จักรพรรดิอู่อันจะปล่อยให้เขาพูดก่อน หากเป็นเช่นนั้นจะมิเห็นได้ชัดหรือว่าจักรพรรดิเช่นตนนั่นโง่เขลาดังที่องค์ชายอิงพูด?คำพูดของจักรพรรดิอูอันทำให้เฮ่อจู้กับพระชายาเว่ยพูดมิออกเลยองค์หญิงใหญ่กับองค์ชายเว่ยเห็นว่า สถานกา
มู่หรงเหยียนซงเอ่ยถามติด ๆ กัน ทั้งยังดึงให้คดีที่ผิดทิศทางกลับมาเข้าที่ด้วยจักรพรรดิอู่อันมองไปทางเฮ่อหรงอย่างเย็นชา เฮ่อหรงจึงคุกเข่าลงอย่างจนใจพลางเอ่ยเสียงเรียบ “ฝ่าบาท หลานมิรู้จริง ๆ พ่ะย่ะค่ะว่ามันเกิดเรื่องอันใดขึ้น!”“หลานชื่นชอบองค์หญิงชิ่ง… แต่ร่างกายหลานมิแข็งแรงมาโดยตลอด ดังนั้นจึงมิกล้าคิดว่าจะสามารถแต่งงานกับองค์หญิงชิ่งได้!”“วันนั้นหลานเชิญองค์ชายจิ้นไปกินดื่มพูดคุยกันที่หมู่บ้านจริง ๆ พ่ะย่ะค่ะ หลานคิดว่า อีกมินานองค์หญิงชิ่งก็จะกลับเยวี่ยใต้แล้ว จึงอยากจะใช้โอกาสนี้สนิทสนมกับพวกเขาพ่ะย่ะค่ะ!”“ผลก็คือ หลานดื่มไปเพียงมิกี่แก้วก็หมดสติแล้ว! หลังจากฟื้นขึ้นมาจึงได้รู้ว่าองค์ชายจิ้นเข้าวังมาคุยเรื่องแต่งงานกับฝ่าบาท!”เฮ่อหรงเอ่ยอย่างจริงใจ “ฝ่าบาท หลานมิรู้จริง ๆ ว่าหลิงเยี่ยนมาอยู่ที่จวนอ๋องหรงได้เยี่ยงไร! จวนอ๋องหรงนี้ฝ่าบาทเพิ่งประทานให้หลานเมื่อเร็ว ๆ นี้เอง คนรับใช้ในตำหนักเหล่านี้หลานก็ยังมิได้รู้จักมักคุ้นมากนักด้วยซ้ำพ่ะย่ะค่ะ!”องค์หญิงใหญ่ฟังถึงตรงนี้แล้วก็ช่วยเอ่ย “ฝ่าบาท บางทีรองราชองครักษ์เฮ่อกับพระชายาเว่ยอาจจะสงสารหรงเอ๋อร์ก็ได้นะเพคะ มิอยากให้เขาต
แม้ว่าไทเฮาจะชอบหลิงอวี๋ แต่เวลานี้ก็มิพอใจหลิงอวี๋แล้ว จึงตำหนิ “หลิงอวี๋ พอได้แล้วกระมัง! เจ้ารักน้องสาวเจ้า ข้าเข้าใจความรู้สึกของเจ้า!”“แต่เฮ่อจู้ยอมรับผิดแล้วเจ้ายังมิพออีกหรือ? เจ้าจะบีบให้หรงเอ๋อร์ตายไปจริง ๆ หรือ?”เว่ยเฉิงเห็นว่าไทเฮาพูดเช่นนี้ก็เอ่ยอย่างปวดใจเช่นกัน “พระชายาอ๋องอี้ เจ้าทำให้ฮองเฮาเว่ยถูกลดขั้นไปอยู่ตำหนักเย็นแล้ว องค์ชายเว่ยก็ถูกส่งไปเฝ้าสุสานหลวงเช่นกัน ยังจะมิยอมปล่อยตระกูลของพระชายาเว่ยอีกหรือ?”“เจ้าจะกำจัดพวกเขาให้สิ้นซากไปจริง ๆ เลยหรือ?”“คนเจ็บป่วยเช่นเฮ่อหรงจะกลายเป็นภัยคุกคามต่อพวกเจ้าได้อย่างไร? กความก้าวร้าวเช่นนี้จะทำให้คนเจ็บปวดกันเกินไปแล้ว!”องค์หญิงใหญ่น้ำตาไหลริน พลางสะอื้นเอ่ยกับไทเฮา “ไทเฮา เฉาฮุ่ยมิควรกลับมาเลย! หากมิกลับมาก็จะมิเกิดเรื่องมากมายเช่นนี้!”“หรงเอ๋อร์ ไปเก็บข้าวของ เรากลับไปกันเถิด!”ไทเฮาปวดใจกับการร้องไห้ขององค์หญิงใหญ่เป็นอย่างมาก จึงตะคอกเสียงแข็ง “พอได้แล้ว วันนี้พอแค่นี้ ห้ามผู้ใดทำให้อ๋องหรงลำบากใจอีก เรื่องงานอภิเษกเอาไว้คุยกันวันหลัง!”นางมองหลิงอวี๋อย่างตักเตือนแล้วประคององค์หญิงใหญ่จะเดินเข้าไปในจวนอ๋องหร