Share

บทที่ 122

Author: กานเฟย
last update Last Updated: 2024-10-29 19:42:56
“ท่านพ่อข้า… คือหมอเลี่ยวจากโรงเหยียนหลิง(1)!” เลี่ยวเซียนเอ่ยแนะนำ

“ข้านามหลิงอวี๋ คารวะหมอเลี่ยว!” หลิงอวี๋แสดงความเคารพ

เลี่ยวเซียนช่วยประคองหมอเลี่ยวเข้ามา

หลิงอวี๋รับรู้ได้ว่า สุขภาพของหมอเลี่ยวไม่ได้มีปัญหาอะไร ทว่าคือความกลัดกลุ้มอัดแน่นในใจต่างหากและไข้หวัดที่ยังเป็นไม่หายเฉย ๆ

“หมอเลี่ยว ท่านอยากขายโรงเหยียนหลิงหรือไม่?” หลิงอวี๋เอ่ยถามโดยไม่คิด

“ขาย!”

“ไม่ขาย!”

หมอเลี่ยวกับเลี่ยวเซียวตอบพร้อมกัน

พอหมอเลี่ยวกล่าวจบก็มองลูกชายพลางถอนหายใจยาวเหยียด ก่อนจะผงกศีรษะเคร่งเครียด

หลิงอวี๋ลอบมองทั้งสองพลางเอ่ยถาม “เหตุใดต้องการขายโรงเหยียนหลิงล่ะ? บริหารไม่สันทัดหรือมีเหตุผลอื่นหรือ?”

เลี่ยวเซียนรินน้ำให้บิดาพลางตอบว่า “โรงเหยียนหลิงสืบทอดจากท่านปู่ข้า ถือเป็นร้านเก่าแก่นับร้อยปี!”

“วิชาแพทย์ของท่านพ่อข้าก็เป็นท่านปู่ชี้แนะเช่นกัน ในเมื่องหลวงข้าไม่กล้าบอกว่าติดสามอันดับแรก แค่ติดสิบอันดับแรกก็สมชื่อแล้ว!”

เลี่ยวเซียนรินน้ำให้หลิงอวี๋เช่นกัน ก่อนจะลอบมองหมอเลี่ยวส่ายศีรษะพลางกล่าวคำ

“ท่านพ่อข้าเหมือนคนใจบุญท่านนั้นที่เจ้าเล่า ยึดมั่นในคำสอนบรรพบุรุษ ช่วยเหลือคนจนอย่างไม่เห
Locked Chapter
Continue to read this book on the APP

Related chapters

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 123

    หลิงอวี๋สิ้นคำกล่าว เหตุใดโรงหุยชุนเผด็จการขนาดนี้!นางเอ่ยถาม “หากเจ้าเผาโรงหุยชุนแล้วพี่เจ้าจะเป็นอย่างไรเล่า?”เลี่ยวซวนก้มหน้างุดหมองหม่นหยาดน้ำตาหมอเลี่ยวร่วงโรยพลางกล่าวคำสิ้นหวัง“แขนไม่อาจบิดต้นขาได้ฉันใดผู้อ่อนแอไม่อาจต่อกรผู้เรืองอำนาจได้ฉันนั้น… ข้าเตือนเจ้าเด็กนี้แล้ว แต่ยังรั้นไม่ยอมประนีประนอม!”“อา เซียนเอ๋อร์ ยอมรับชะตากรรมเสีย! มอบโฉนดที่ดินเถิด! พาพี่ใหญ่เจ้ากลับมา ตราบใดที่เรายังมีชีวิตอยู่ ครอบครัวเราจะได้ออกไปจากเมืองหลวง!”เลี่ยวเซียนบ่ายศีรษะเช็ดหยาดน้ำตาที่หางตาพลางกล่าวประชดประชัน“แต่ข้าก็ไม่อยากให้โรงหุยชุนในราคาถูก ๆ ข้าไม่เชื่อว่าบนใต้หล้าแห่งนี้จะไม่มีความยุติธรรม! หากบีบคั้นข้า ข้าจะไปตีกลองร้องทุกข์(1)ที่พระราชวัง!”“เจ้าเด็กนี่ ไยไม่เชื่อฟังบ้าง!”หมอเลี่ยวตีไหล่เขาหนึ่งฝ่ามือพลางกล่าวตำหนิ“พี่ใหญ่เจ้าโดนขังคุกไปแล้ว หรือว่าเจ้าก็อยากเข้าคุกเหมือนกันเล่า?”“เช่นนั้นเจ้าไม่สู้เอามีดมาแทงข้าให้ตายเลยเล่า! พ่อไม่อยากเห็นพวกเจ้าต้องมาตายก่อนข้านะ!”หมอเลี่ยวนึกถึงเรื่องน่าเศร้า หยาดน้ำตาก็พลันไหลพรากเลี่ยวเซียนทั้งปวดใจและร้อนรน กระทืบเท้ากล

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 124

    หลี่ต้าหนิวเก็บกวาดห้องเสร็จแล้ว กวาดถูจนสะอาดสะอ้านหลิงอวี๋สั่งหลี่ต้าหนิวแบกหญิงชรามา สบโอกาสเมื่อเขาออกไปรีบเข้ามิติหยิบเครื่องมือผ่าตัดหมอเลี่ยวเดินตามหลี่ต้าหนิวมา เขาขจัดความเศร้าก่อนหน้าจนบัดนี้ดูมีชีวิตชีวาขึ้นเยอะมากพลางกล่าวอย่างเบิกบาน“ฮูหยิน ข้าช่วยเป็นลูกมือเจ้าได้ไหม?”“ข้าเป็นหมอมาหลายปี ยังไม่เคยพบวิธีรักษาแบบนี้มาก่อน หากฮูหยินรู้สึกว่าไม่สะดวก งั้นก็ช่างมันเถิด!”หลิงอวี๋ยิ้มจาง ๆ พลางกล่าวคำ “วิชาแพทย์ข้ามิใช่ความลับส่วนตัว ไม่มีอะไรไม่สะดวก!”“หมอเลี่ยว จากนี้ไปเรียกข้าว่าแม่นางหลิงเถิด! ข้าไม่สะดวกเผยตัวในวงสังคม ภายหลังเป็นหมอก็ขานชื่อนี้เช่นกัน!”“ได้ ๆ เรียกแม่นางหลิง!”หมอเลี่ยวมองท่าทีผิดแผกของหลิงอวี๋ แต่ก็คิดว่าไม่เห็นแปลกอะไรที่หลิงอวี๋จะพะวงถึงตัวตนจึงคิดอำพรางไว้ พลันผงกศีรษะทันที“นี่คือเข็มยาชา เจ้าดูนะว่าฉีดแบบนี้!”หลิงอวี๋หยิบหลอดเข็มมาฉีดหญิงชราพลางอธิบายผลและปริมาณที่ใช้ยาชาไปด้วย ครั้นรอยาชาออกฤทธิ์ หลิงอวี๋ส่งถุงมือปลอดเชื้อคู่หนึ่งและหน้ากากอนามัยพลางแสดงเจตนาให้เขาสวมตามตนนางหยิบมีดผ่าตัดออกมากรีดท้องส่วนใต้ชายโครงขวาของหญิงชรา

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 125

    “ต้าหนิวเป็นเด็กกตัญญูรู้คุณ!”หมอเลี่ยวรินน้ำมาให้หลิงอวี๋พลางเอ่ยโดยไม่ต้องคิด“สองปีที่ผ่านมาเงินเขาเก็บใช้จ่ายค่ารักษาของมารดาจนหมด จนทำให้บ้านเหลือแต่ผนังสี่ด้านยากแค้นแสนเข็ญ”“ลูกสะใภ้ทนความลำบากไม่ไหว จึงทิ้งลูกไว้สองคนแล้วหนีไปกับชายอื่น!”“ก่อนหน้าพี่ใหญ่ของเขาได้รับบาดเจ็บที่ขาขณะทำงานไม้ ครอบครัวฝั่งลูกสะใภ้พานางกลับและบังคับให้นางออกเรือนใหม่ แถมที่บ้านยังมีลูกสามคนไม่มีใครดูแล!”“ครอบครัวแปดคนนี้ต่างมุ่งหวังต้าหนิว! แม้จะยากจน แต่สองครอบครัวก็เข้ากันได้ เด็ก ๆ ก็สามัคคีกัน เงินที่เก็บได้จากการล่าสัตว์ขายฟืนล้วนใช้รักษาอาอึ้มหลี่จนหมดแล้ว!”“อาอึ้มหลี่รู้สึกเสียใจนัก มีคราหนึ่งนางคิดพยายามปลิดชีพตนเนื่องจะได้ไม่เป็นภาระพวกเขา”“สุดท้ายก็ถูกต้าหนิวพบเข้า ต้าหนิวพาเด็ก ๆ มาคุกเข่าต่ออาอึ้มหลี่กล่าวว่า พวกเขาอกตัญญู ปล่อยให้อาอึ้มหลี่พยายามปลิดชีพตน ถ้าอาอึ้มคิดอยากตายจริง งั้นทั้งครอบครัวก็ตายไปด้วยกันเถอะ!”หลิงอวี๋ฟังแล้วปวดใจ ตอนทุกคนคุกเข่าต่อหน้าอาอึ้มหลี่ แม้แต่คนไร้หัวใจก็คงไม่คิดฆ่าตัวตายอีกหรอก!“แม้ทั้งชีวิตอาอึ้มหลี่จะยากไร้นัก แต่ทว่าเด็ก ๆ พวกนี้ที่นางส

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 126

    “เจ้าค่ะ ข้ารู้จักเครื่องยาสมุนไพรมากมาย”“ท่านย่าล้มป่วย ครอบครัวใช้เงินจำนวนมากเพื่อรักษานาง ข้าคิดว่า หากได้วิชาแพทย์ก็จะช่วยรักษาท่านย่าได้เจ้าค่ะ!”ต้ายาก้มหน้าเศร้าหมอง “แต่ไม่มีคนสอนข้า! ร้านโอสถต่างไม่รับผู้ช่วยหญิงเลย!”หลิงอวี๋ลอบมองหมอเลี่ยว ส่วนหมอเลี่ยวก็ยิ้มขมขื่น “ไม่มีคนเชื่อใจหมอหญิง ฉะนั้นน้อยนักที่สตรีจะเรียนหมอ!”หลิงอวี๋มองทางต้ายาพลางกล่าวว่า “เรียนหมอลำบากยิ่ง! เจ้ามุ่งมั่นได้หรือ?”ต้ายาเอ่ยหนักแน่น “ข้ามุ่งมั่นได้! ลำบากแค่ไหนข้าก็มิหวั่นเจ้าค่ะ!”หลิงอวี๋มองทางหลี่ต้าหนิว เอ่ยถาม “ต้าหนิว เจ้ายอมให้ต้ายาเรียนหมอหรือไม่?”หลี่ต้าหนิวมองต้ายา ต้ายาก็กำลังมองเขาด้วยดวงหน้าเฝ้าหวังหลี่ต้าหนิวขบฟันกล่าวคำ “มีทักษะในมือ ภายหลังออกเรือนมีชีวิตลำบากก็ยังสามารถหาเลี้ยงตนได้! แม่นางหลิง ข้ายอมให้นางเรียนหมอขอรับ!”ต้ายาพลันหน้าเปื้อนยิ้มทันทีพลางมองทางหมอเลี่ยวอย่างเฝ้าหวังหลิงอวี๋คลี่ยิ้ม กล่าวว่า “ต้ายา หากเจ้าอยากเรียนหมอสามารถติดตามข้าได้ ข้าจักเป็นอาจารย์เจ้าเอง!”หมอเลี่ยวซึ่งมั่นใจในทักษะการแพทย์ที่หลิงอวี๋รักษาป้าหลี่แล้ว พลันรีบกล่าวคำ“ต้ายา แม่น

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 127

    หลิงอวี๋เดินออกจากเรือนของเซียวหลินเทียน และยังรู้สึกแน่นหน้าอกเล็กน้อย นางไม่รู้ว่าตัวเองกำลังโมโหเรื่องอันใดนางรีบรุดกลับเรือนบุหงา เนื่องรู้สึกว่าความโกรธของตัวเองช่างแปลกประหลาดนัก“ท่านแม่ ผู้ใดแหย่ท่านโกรธขอรับ? หรือว่าเจ้าคนหลายใจนั่นตำหนิท่านอีกแล้ว?”หลิงเยวี่ยมองมารดาเดินเข้ามาหน้าบึ้ง พลันเอ่ยถามอย่างเป็นห่วงเจ้าคนหลายใจ?จู่ ๆ หลิงอวี๋ก็รู้สึกขบขันทันที คำนี้นางด่าเซียวหลินเทียนแล้วหลิงเยวี่ยได้ยินก็เรียนรู้แล้วเอามาพูด เมื่อได้เอ่ยแล้วก็รู้สึกดีอย่างอธิบายไม่ถูกเมื่อหลิงอวี๋เห็นดวงตากลมโตของหลิงเยวี่ยกะพริบ ความโกรธก็มลายหายนางบีบหน้าเล็ก ๆ ของหลิงเยวี่ยพลางยิ้มตอบว่า “เขามิได้ตำหนิแม่! และแม่ก็มิได้โกรธด้วย!”“แต่ปากของท่านแม่เมื่อตะกี้เบะจนแขวนตะเกียงได้แล้วนะขอรับ!”หลิงเยวี่ยกล่าวเสียงหวานไร้เดียงสา “มิใช่ว่าท่านแม่สอนเยวี่ยเยวี่ยห้ามพูดปดหรือ? ไม่เช่นนั้ยจมูกจะยาว!”หลิงอวี๋หัวเราะฮ่าฮ่า นี่เป็นนิทานพินอคคิโอที่นางเล่าให้หลิงเยวี่ยฟังในคืนหนึ่ง คิดไม่ถึงเลยว่า หลิงเยวี่ยจะความจำดีขนาดนี้!“ท่านแม่ไม่ได้โกหก! ดูสิ จมูกท่านไม่ได้ยาว! พิสูจน์ว่าท่านแม่พูดค

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 128

    หลิงอวี๋รู้สึกดีขึ้นนิดหน่อยหลังได้ฟังคำพูดของแม่นมลี่ ทว่าแม่นมลี่ก็โพล่งข่าวอีกเรื่องหนึ่งต่อ“ผู้พี่ของพระชายาผิงหยาง รองเจ้ากรมวังผู้นั้นโดนจองจำเข้าคุกเมื่อเช้านี้พร้อมถูกค้นและยึดทรัพย์ไปแล้วเจ้าค่ะ!”“เล่าลือว่า ริบเงินสองล้านกว่าตำลึงและอาภรณ์มากมายในจวนเขา! ผู้นำยึดทรัพย์คือราชองครักษ์ผาง!”หลิงอวี๋พลันนึกถึงเรื่องในงานเฉลิมฉลองพระราชสมภพที่ชายาผิงหยางใส่ไคล้ราชองครักษ์ผาง ขันทีเซี่ยและแม่นมเว่ยว่ารับสินบนตน นางก็พลันไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดีสมองกลวง ๆ ของชายาผิงหยางไม่เข้าใจว่าอะไรเกิดขึ้นเลย ก็โยงถึงพวกขันทีทั้งสามตามอำเภอใจ อีกยังยกตนข่มท่านต่อว่าขันทีเซี่ยซ้ำแล้วซ้ำเล่าวันแรกล่วงเกินคน วันต่อมาก็พัวพันถึงผู้พี่ตัวเองจนโดนยึดทรัพย์ ไม่ต้องคิดก็รู้ว่าคือผลงานของผู้ใด!นอกจากขันทีเซี่ยกับราชองครักษ์ผางที่พูดคุยต่อหน้าจักรพรรดิได้ จะเป็นใครได้อีก!ความรู้สึกผิดของหลิงอวี๋หายวับทันทีขันทีเซี่ย ราชองครักษ์ผางกับแม่นมเว่ยคือคนโปรดใกล้ชิดของจักรพรรดิและไทเฮาชายาผิงหยางล่วงเกินทั้งสามคราวเดียว ถ้าไม่ผูกคอตัวเองตายจะมีทางรอดหรือไรเล่า?บางทีความตายอาจคือเบื้องปลายที

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 129

    คำพูดของอันเจ๋อทำให้สีหน้าเซียวหลินเทียนผันแปร พลางก้มศีรษะมองสองขาไร้ความรู้สึกของตน นัยน์ตาพลันมืดครึ้มทันใด“ในเมืองหลวงแห่งนี้มิได้มีเพียงข้าแซ่เซียว!”อันเจ๋อกล่าวอย่างนิ่งสงบ “บางทีเราไม่อาจยุติสงครามให้ใต้หล้าสงบสุขได้!”“แต่เราสามารถลดจำนวนประชาชนล้มตายบาดเจ็บได้ ปกป้องบ้านเมืองเราพ้นจากผลกระทบของเพลิงสงคราม ทำให้พวกเขามีชีวิตได้อย่างไม่หิวโหย...”“เราอาจช่วยคนทั้งใต้หล้ามิได้ แต่เราจะช่วยมากเท่าที่ทำได้! นี่แหละคือความหมายของชีวิต!”“คำพูดเหล่านี้ช่างคุ้นหูนัก?”เซียวหลินเทียนหลับตาทุกข์ใจ คำพูดเหล่านี้ต้องคุ้นหูแน่นอน เพราะนี่คือคำพูดของเขากล่าวปลุกเร้าสามเหล่าทัพให้สู้สุดชีวิตขณะอยู่สนามรบอันเจ๋อลุกขึ้นเดินนั่งยอง ๆ ตรงหน้าเก้าอี้ล้อ เขาเอื้อมมือไปกุมมือของเซียวหลินเทียนเซียวหลินเทียนขัดขืนสักพัก ทว่าถูกอันเจ๋อจับไว้อย่างแน่น“อาเทียน ข้าอยากพูดคำเหล่านี้ต่อเจ้ามานานแล้ว! แต่ข้ารู้สึกว่าเจ้าต้องพักผ่อนเสียบ้าง!”“เพียงแค่ท่านยืนไม่ได้ มันไม่ได้หมายความว่าเจ้ากลายเป็นคนไร้ค่าตามขี้ปากสามัญชนพวกนั้น!”“เจ้ายังมีสมองนะ! ตราบใดที่เจ้าปรารนา แม้จะนั่งเก้าอี้ล้อเจ้าก็

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 130

    แม่นมลี่หาช่างฝีมือได้แล้วก็เริ่มซื้อวัสดุตระเตรียมขยายเรือนหลิงอวี๋กำลังพะวงเรื่องการหาเครื่องยาสมุนไพรให้เซียวหลินเทียน วันรุ่งขึ้นครั้นทานมื้อเที่ยงเสร็จก็พาหลิงซินกับหลิงเยวี่ยไปโรงเหยียนหลิงเมื่อเข้าประตูก็พลันเห็นหลี่ฉินช่วยหมอเลี่ยวชะล้างลานร้านและทำความสะอาดอย่างมือไม้พัลวันหลิงอวี๋หัวเราะแผ่วเบา หลี่ต้าหนิวสั่งสอนเด็กสองคนนี้ไม่เลวจริง ๆ!“หลี่ฉิน พี่สาวเจ้ามาถึงรึยัง?” หลิงอวี๋ร้องเรียก“อาจารย์ ท่านมาแล้ว! ท่านพี่ข้ายังไม่มาเจ้าค่ะ!”หลี่ฉินรั้งศีรษะมองเขา ยิ้มตาหยีกล่าวคำ “วันนี้ท่านย่าข้าดูมีชีวิตชีวาขึ้นเยอะมาก ตอนเช้ายังกินโจ๊กหมดชามหนึ่งด้วยเจ้าค่ะ!”“หมอเลี่ยวตรวจนางแล้ว บาดแผลของนางไม่มีอาการร้ายแรงอันใด!”“แม่นางหลิงมาแล้ว!”หมอเลี่ยวได้ยินความปั่นป่วนพลันรีบเดินมา เขาดูหมดอาลัยตายอยากพลางมองหลิงอวี๋กล่าวอึก ๆ อัก ๆ“เป็นอะไรไป? เลี่ยวเซียนแลกตัวเลี่ยวหมิงออกมามิได้หรือ?”หลิงอวี๋เอ่ยถามอย่างห่วงใย“เข้าเรือนก่อนค่อยกล่าวเถิด!” หมอเลี่ยวทอดถอนใจพลางพาหลิงอวี๋เข้าเรือน“เมื่อวานเซียนเอ๋อร์นำตั๋วเงินไปแลกคนแล้ว แต่ไม่ได้ออกน่ะสิ ทั้งยังโดนคนในหน่วยงานรา

Latest chapter

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1578

    กระทั่งลู่หนานกับทุกคนปีนขึ้นไปถึงแท่นกันหมด ทุกคนออกแรงดันร่วมกัน แต่ประตูเหล็กก็มิขยับ“ฮองเฮา นี่น่าจะเป็นประตูที่มีกลไกควบคุมอยู่พ่ะย่ะค่ะ เพียงแต่มิรู้ว่ากลไกอยู่ข้างในหรือว่าข้างนอก พวกเราลองหากันดูเถิดพ่ะย่ะค่ะ!”ลู่หนานเสนอทุกคนก็แยกย้ายกันตามหาบริเวณใกล้ ๆหลิงอวี๋มองไปที่ประตูเหล็กที่ดูหนักหน่วงนั้น นอกจากมังกรทองนั้นแล้ว บนประตูเหล็กยังมีลวดลายแฝงอีกนับมิถ้วนลวดลายแฝงเหล่านี้มองแวบแรกเป็นเพียงแค่การตกแต่ง แต่เมื่อดูให้ละเอียดแล้วดูคล้ายกับรูปภาพสามมิติที่นางเคยเล่นในยุคปัจจุบัน ขอเพียงจ้องมองดูสักหน่อยก็จะเห็นรูปภาพที่ต่างกันอยู่ข้างในหลิงอวี๋เห็นภาพกลุ่มหนึ่ง บนนั้นเป็นรูปเหมือนคนเก่าแก่มากและแต่งตัวแปลก ๆ พวกเขากำลังต่อสู้กันอยู่อย่างดุเดือดคนกลุ่มสุดท้ายถูกบีบให้ยอมแพ้และอพยพไปในระหว่างการเดินทางที่ยาวไกลนั้น พวกเขาพบกับการไล่ล่า การสู้รบ การเกิดแก่เจ็บตาย และโรคภัยต่าง ๆ เดิมทีพวกเขาเป็นชนเผ่าที่มีกันอยู่หลายร้อยคน สุดท้ายกลับกลายเป็นยิ่งนานวันไปก็ยิ่งน้อยลง...ฉากสงครามเหล่านั้นถูกบรรยายจนทำให้หลิงอวี๋รู้สึกราวกับอยู่ในสถานการณ์จริง ราวกับว่านางเห็นความรุน

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1577

    “งดงามมาก สวรรค์บนหล้ามนุษย์คงเป็นเช่นนี้กระมัง!”สุ่ยหลิงกับหานเหมยต่างก็ร้องออกมาอย่างตกตะลึงลู่หนานกับพวกองครักษ์ก็พากันเออออไปด้วยดอกไม้ที่ผลิบานงดงามเหล่านั้น น้ำตกที่ไหลลงมา ทั้งยังมีไอหมอกที่ลอยอยู่เหนือแอ่งน้ำลึก ทำให้กลายเป็นภาพที่มีความสวยสดงดงามยิ่งนักระหว่างที่หลิงอวี๋ประหลาดใจอยู่นั้น กลับรู้สึกถึงสนามแม่เหล็กที่แข็งแกร่งมากคลื่นสนามแม่เหล็กนั้นแข็งแกร่งยิ่งกว่าบนเจดีย์วัดไคหยวนที่ติ้งโจววันนั้นอีก!สายตาของหลิงอวี๋มองไปทางน้ำตกด้านบน แสงอาทิตย์สาดส่องลงมา น้ำเหล่านั้นที่เป็นราวกับม่านธรรมชาติ สะท้อนเป็นแสงหลากสีราวกับมายาจู่ ๆ หลิงอวี๋ก็นึกถึงถ้ำม่านน้ำในไซอิ๋ว หลังน้ำตกมีถ้ำด้วยหรือไม่?นางรู้สึกได้ว่าศูนย์กลางน้ำตกนั้นเป็นสถานที่ที่สนามแม่เหล็กแข็งแกร่งที่สุด“ลู่หนาน!”หลิงอวี๋เรียกลู่หนาน แล้วเอ่ยเสียงเรียบ “สถานที่แห่งนี้เหมาะแก่การบำเพ็ญตนมาก เจ้าจงแบ่งคน คนกลุ่มหนึ่งบำเพ็ญตนอยู่กับที่ ส่วนอีกกลุ่มรับผิดชอบในการระวังภัย!”“ข้าจะพาพวกเถาจื่อไปดูที่น้ำตกเสียหน่อย อาจจะพบอะไรก็ได้!”“ให้กระหม่อมตามท่านไปเถิดพ่ะย่ะค่ะ!”ลู่หนานเห็นน้ำตกที่สูงนั้นแล้วจะ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1576

    คราวนี้หลิงอวี๋วางแผนไว้ว่าจะไปสามวัน หลี่ชุงบอกว่าภูเขาด้านหลังของหมู่บ้านตระกูลหลี่นั้นใหญ่มาก เครื่องยาสมุนไพรล้ำค่าเหล่านั้นสามารถพบได้ในสถานที่ที่คนมิอาจเข้าถึงได้เท่านั้นออกไปหนนี้ หลิงอวี๋เตรียมเสบียงไปจำนวนหนึ่ง คนที่พาไปก็ล้วนเป็นคนที่มีวรยุทธ์ และเข้าไปในส่วนลึกของภูเขาด้านหลังในวันนั้นเลยดังที่หลี่ชุงได้บอกไว้ ยิ่งเดินลึกเข้าไป เครื่องยาสมุนไพรก็ยิ่งมาก หลิงอวี๋มิสนใจเครื่องยาสมุนไพรทั่วไป แล้วเลือกเก็บเอาเครื่องยาสมุนไพรที่ยากจะพบในยามปกติการฝึกฝนของหลิงอวี๋พัฒนาขึ้น ทั้งยังเรียนรู้การสร้างแหวนพระสุเมรุระดับต่ำในมิติอีกด้วย นางจึงทำมอบให้เถาจื่อ สุ่ยหลิงและพวกนางรับใช้ข้างกายทุกคนเช่นนี้แล้วเมื่อทุกคนเก็บเครื่องยาสมุนไพรจึงมิต้องแบก ล้วนใส่ไว้ในแหวนพระสุเมรุกันทั้งหมดเถาจื่อกับพวกสุ่ยหลิงได้รับแหวนพระสุเมรุครั้งแรกก็ตกใจมาก พวกนางมิคาดคิดว่าข้างในของแหวนเล็ก ๆ จะมีพื้นที่ใหญ่ถึงเพียงนั้น ที่สามารถเก็บสิ่งของของตนเข้าไปได้ทั้งหมด อีกทั้งหลิงอวี๋ก็บอกพวกนางว่าพื้นที่นี้จะขยายใหญ่ตามการฝึกฝนของพวกนางที่พัฒนาขึ้นด้วยพวกนางรับใช้จึงถูกล่อลวงในทันที พวกนางจึงยิ่งฝึก

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1575

    เซียวหลินเทียนพูดเช่นนี้ หลิงอวี๋ก็วางใจไปได้มากก็จริง แม้ว่าการฝึกฝนพลังวิญญาณของเซียวหลินเทียนจะมิสู้จ้าวหรุ่ยหรุ่ย ทว่าหากจ้าวหรุ่ยหรุ่ยคิดจะวางแผนใส่โดยที่เขามิรู้ตัวนั้น เป็นเรื่องที่แทบจะเป็นไปมิได้แต่แม้ว่าจะเป็นเช่นนี้ แต่หลิงอวี๋เองก็มิสามารถวางใจได้อย่างเต็มที่ จึงเอ่ยกับเซียวหลินเทียนอย่างเอาแต่ใจ “อยู่ในวังหลวง จ้าวหรุ่ยหรุ่ยก็ยังกล้าจะลองหยั่งเชิงท่าน นางจะต้องรู้แล้วอย่างแน่นอนว่าการฝึกฝนของท่านมิสู้ของนาง!”“เซียวหลินเทียน คืนนี้ท่านจะต้องฝึกฝนต่อ พยายามบรรลุไปให้ถึงขั้นสูงของดินแดนที่สี่ให้ได้!”เซียวหลินเทียนใบหน้าขมขื่นไปทันที แล้วมองหลิงอวี๋อย่างน่าสงสารหากฝึกฝนก็ต้องเสียเวลาทั้งคืนไป เขายังอยากจะมีลูกกับหลิงอวี๋อีกสักคน หากมิขยันแล้วจะมีลูกได้อย่างไรกัน!“ใช้สายตาเช่นนี้มามองหม่อมฉันก็ไม่มีประโยชน์เพคะ! คืนนี้หากมิเลื่อนไปถึงขั้นสูงของดินแดนที่สี่ ต่อไปก็มิอนุญาตให้ขึ้นเตียงของหม่อมฉัน!”หลิงอวี๋เท้าเอวจ้องมองเซียวหลินเทียนราวกับสตรีผู้โหดร้ายคนผู้นี้เคยได้อะไรแล้วก็อยากจะได้อีก ทุกคืนเอาแต่เอาเรื่องที่จะมีลูกอีกคนมาคลอเคลียตน เอวของนางเกือบจะหักอยู่แล้ว

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1574

    เมื่อมีท่าทีเล็ก ๆ นี้ หลิงอวี๋จึงยิ่งระวังจ้าวหรุ่ยหรุ่ยมิเพียงแต่ของที่ตนกินดื่ม แม้แต่ของที่ไทฮองไทเฮากินและดื่ม หลิงอวี๋ก็จะระวังจ้าวหรุ่ยหรุ่ยมากแต่ท่าทีที่จ้าวหรุ่ยหรุ่ยแสดงออกมานั้นปกติมาก มิได้แตะต้องของกินของทั้งสองคนแต่แม้ว่าจะเป็นเช่นนี้ หลิงอวี๋ก็ยังมิอาจวางใจได้นางรู้สึกว่าจ้าวหรุ่ยหรุ่ยลึกลับมาก ยอดฝีมือในดินแดนที่หก หากจะลงมือต้องมิทันได้รู้ตัวอย่างแน่นอน นางมิอยากให้ตนตายไปแบบมิรู้เรื่องใดที่จริงแล้วสตรีทั้งสี่ก็มิได้มีสิ่งใดให้พูดคุยกัน ภายนอกพวกนางคือครอบครัวเดียวกัน แต่ในความเป็นจริงแล้วเป็นศัตรู เมื่อถอดหน้ากากความเป็นครอบครัวออกก็ล้วนเกลียดกันจนมิใครก็มิใครต้องตายหลังจากคุยกันไปสักพัก และรับประทานอาหารเสร็จ ไท่เฟยเส้ากับจ้าวหรุ่ยหรุ่ยก็ขอตัวลาหลิงอวี๋รอให้พวกนางไป แล้วให้หลิงซวนกับแม่นมเว่ยรีบตรวจสอบในจุดที่จ้าวหรุ่ยหรุ่ยกับไท่เฟยเส้าแตะต้องอย่างละเอียดทันทีไทฮองไทเฮาเห็นดังนั้นก็ยิ้มออกมา “อาอวี๋ เจ้ากังวลมากเกินไปหรือไม่? พวกนางสองคนมิได้ไปที่อื่นเลยนอกจากโถงใหญ่ ในโถงใหญ่เองก็มีทุกคนจับตามองอยู่ พวกนางจะทำสิ่งใดได้!”หลิงอวี๋เอ่ยอย่างเคร่งขรึม “

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1573

    “ข้านึกขึ้นได้ว่ามีธุระ ขอตัวก่อน!”“อาอวี๋ เจ้าอยู่กินอาหารกับไท่เฟยเส้าและไทฮองไทเฮาเถิด!”จ้าวหรุ่ยหรุ่ยเป็นพี่สะใภ้ ไม่มีเหตุผลที่จะต้องร่วมโต๊ะอาหารกับเซียวหลินเทียน เซียวหลินเทียนจึงบอกกับหลิงอวี๋และไทฮองไทเฮาแล้วกำลังจะไป“ฝ่าบาท หรุ่ยหรุ่ยรบกวนการเสวยของพวกท่านหรือเพคะ?”จ้าวหรุ่ยหรุ่ยเอ่ยด้วยใบหน้าที่อึดอัดเจือความรู้สึกผิด “หรุ่ยหรุ่ยแค่อยากจะมาคารวะไทฮองไทเฮาเพคะ หากมิสะดวก เช่นนั้นหรุ่ยหรุ่ยขอทูลลา!”หลิงอวี๋ยิ้มเยาะอยู่ในใจ ระดับความเสแสร้งของจ้าวหรุ่ยหรุ่ยผู้นี้มิได้ด้อยไปว่าจ้าวเจินเจินเลยแม้แต่น้อย!เซียวหลินเทียนกำลังหลีกเลี่ยง แม้ว่าคนที่เข้าใจจะรู้ว่าเป็นเพียงข้ออ้างก็มิควรเอ่ยออกมาอย่างชัดเจน แต่จ้าวหรุ่ยหรุ่ยกลับหยิบยกมาพูดแสร้งทำเป็นกระต่ายขาวตัวน้อยผู้ไร้เดียงสา!“พี่สะใภ้รอง องค์จักรพรรดิมีธุระจริง ๆ เมื่อครู่ก็บอกไว้แล้ว ให้เขาไปเถิด พวกเราบรรดาสตรีกินด้วยกันก็พอแล้ว!”หลิงอวี๋ยิ้มให้เซียวหลินเทียนเล็กน้อยพลางเอ่ย “ฝ่าบาท กลางคืนหม่อมฉันจะเตรียมพระกระยาหารมื้อดึกไว้ให้ ท่านจัดการเรื่องบ้านเมืองเสร็จแล้วก็มาเสวยเถิดเพคะ!”เซียวหลินเทียนสับสนไปในทันที เข

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1572

    ไท่เฟยเส้ามิได้พอใจกับจ้าวหรุ่ยหรุ่ยผู้เป็นสะใภ้มากนัก ก่อนหน้านี้นางหวังให้ตระกูลจ้าวให้จ้าวหรุ่ยหรุ่ยแต่งงานเข้ามาและสามารถช่วยให้องค์ชายคังประสบความสำเร็จได้แต่จ้าวหรุ่ยหรุ่ยเผชิญหน้ากับหลิงอวี๋ครั้งแรกก็พ่ายแพ้แล้ว สิ่งนี้ทำให้ไท่เฟยเส้าผิดหวังเป็นอย่างมากเมื่อได้ยินว่าจ้าวหรุ่ยหรุ่ยจะมาไหว้ตน ไท่เฟยเส้าก็เรียกเข้ามาตำหนิภายนอกจ้าวหรุ่ยหรุ่ยฟังอย่างนอบน้อม แต่ในใจอยากจะจัดการนางดังเช่นที่ทำกับองค์ชายคัง“สิ่งที่หมู่เฟยสอนก็คือ คราวนี้หรุ่ยหรุ่ยไม่มีประสบการณ์ เตรียมการมิมากพอ ครั้งต่อไปจะมิให้หลิงอวี๋รอดไปได้แล้วเพคะ!”คำพูดอ่อนโยนของจ้าวหรุ่ยหรุ่ยทำให้ความโกรธของไท่เฟยเส้าเบาบางลงไปมาก อย่างน้อยจ้าวหรุ่ยหรุ่ยก็สามารถบีบให้หลิงอวี๋อยู่ในสถานการณ์อับจนได้ เมื่อเทียบกับจ้าวเจินเจินแล้วจ้าวหรุ่ยหรุ่ยดีมากแล้วไท่เฟยเส้าได้ต่อว่าไปแล้วน้ำเสียงก็อ่อนลงมา แล้วก็เอ่ยด้วยความเกลียด “ตอนนี้ในวังอยู่ในการควบคุมของหลิงอวี๋กับยายเฒ่านั่น หมู่เฟยจะทำอะไรก็มิได้สะดวกนัก”“หมู่เฟยอยากให้ยายแก่นั่นตายไปเร็ว ๆ เช่นนี้แล้วหลิงอวี๋กับเซียวหลินเทียนก็จะไม่มียายเฒ่าคอยหนุนหลัง ก็จะจัดการได้ง่

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1571

    สำหรับคำถามของหลิงอวี๋ ฮูหยินผู้เฒ่าเผยกับใต้เท้าเผยได้หารือกันในบ้านแล้วฮูหยินผู้เฒ่าเผยเองก็รู้ว่า หากเอาเรื่องที่หลิงหว่านต้องไว้ทุกข์แม่สามปีมาถอนหมั้นนั้นฟังมิขึ้น แต่นางกับตระกูลเผยล้วนมิชอบหลิงหว่าน จึงยอมที่จะถูกด่าลับหลังและยืนกรานที่จะถอนหมั้นฮูหยินผู้เฒ่าเผยมิกล้าพูดสิ่งที่อยู่ในใจออกมา จึงทำได้เพียงเอ่ยอย่างนุ่มนวล “ฮองเฮา การแต่งงานเป็นการผูกสัมพันธ์ที่ดีของสองตระกูล มิใช่การผูกความโกรธแค้น...”“ถือเสียว่าตระกูลเผยขอโทษคุณหนูหลิง ขอร้องให้ฮองเฮาทรงเห็นใจ ตกลงกับคำร้องที่จะถอนพระราชโองการด้วยเถิดเพคะ สินสอดก่อนหน้านี้ก็ถือเป็นการชดใช้ให้คุณหนูหลิงเถิด!”หลิงหว่านได้ยินก็โกรธมาก จึงเอ่ยเรียบ ๆ “หม่อมฉันมิต้องการการชดใช้! ฮองเฮา ท่านตกลงเถิดเพคะ! หม่อมฉันหลิงหว่าน แม้ว่าชีวิตนี้จะมิได้แต่งงานก็ไม่มีทางร้องขอแต่งงานเข้าตระกูลเผย!”หลิงอวี๋ทอดถอนใจอยู่ในใจ แม้ว่านางจะรู้สึกว่าเผยอวี้คือคนที่หลิงหว่านสามารถไว้วางใจไปได้ตลอดชีวิต แต่ตระกูลเผยทั้งหลายต่อต้านหลิงหว่านเช่นนี้ หากหลิงหว่านแต่งงานเข้าไปก็ไม่มีทางใช้ชีวิตอย่างมีความสุขการแต่งงานมิใช่การแต่งกับคนคนเดียว โดยเฉพา

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1570

    จ้าวฮุยได้ยินคำสั่งนี้ก็ตะลึงไปทันที ถึงจะเป็นในความฝันเขาก็มิคาดคิดว่าเซียวหลินเทียนจะส่งตนออกไปแคว้นพันและแคว้นเฉิงนี้อยู่ห่างจากเมืองหลวงไปหลายพันลี้ การเดินทางไปกลับนั้นอย่าว่าแต่ห่างไกลและลำบากเลย หากไม่มีตนอยู่คอยช่วยองค์ชายคังอยู่ที่เมืองหลวง กระทั่งตนไปกลับใช้เวลาหลายเดือนนี้ สถานการณ์ในราชสำนักจะเป็นอย่างไรเล่า?“ฝ่าบาท...”จ้าวฮุยรู้สึกสับสนวุ่นวายในทันที หากเขาอ้างว่าป่วยมิไป เซียวหลินเทียนเองก็มิอาจบังคับให้ตนไปได้ทว่าเซียวหลินเทียนอาจจะใช้เรื่องที่ตนอ้างว่าป่วยมาบีบให้ตนพักผ่อนและถือโอกาสผลักตนออกไปได้และเพียงชั่วครู่ จ้าวฮุยก็ได้ทำการตัดสินใจเขาก้าวออกไปเอ่ยเสียงเรียบ “การผลักดันห่วงโซ่อุตสาหกรรมวัวนมเป็นเรื่องดีที่เป็นประโยชน์ต่อแคว้นและราษฎร ฝ่าบาทมอบหมายเรื่องสำคัญเช่นนี้ให้กระหม่อมทำ กระหม่อมก็จะตั้งใจทำงานนี้อย่างดีเพื่อฝ่าบาท ให้สมกับความไว้วางพระทัยของฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ”“กระหม่อมรับพระบัญชา!”องค์ชายคังได้ยินดังนั้นก็รู้สึกกังวลมาก นี่เซียวหลินเทียนกำลังตัดกำลังของตนให้อ่อนแอลงทีละขั้น!จ้าวฮุยรับปากว่าจะไป เหตุใดจึงได้โง่เช่นนี้!“ฝ่าบาท อัครเสนาบดีจ้าว

DMCA.com Protection Status