“พวกของอู่จวิ้นเคยไปที่ใต้หล้าแห่งนี้มาหรือ?”เซียวหลินเทียนอดมิได้ที่จะเอ่ยถามอย่างอยากรู้ “บนใต้หล้านี้ยังมีอีกใต้หล้าหนึ่งอยู่จริง ๆ หรือ?”มู่หรงเหยียนซงจึงพยักหน้าอย่างจริงจัง “อู่จวิ้นกับอาจารย์ของพวกเราล้วนพูดเช่นนี้ ข้าเชื่อพวกเขา!”“อีกอย่าง ข้ายังมีหลักฐานอื่นที่สามารถพิสูจน์ได้ว่ามีใต้หล้าที่เรียกว่าแดนปีศาจอยู่จริง ๆ!”“หลักฐานอันใด?” เซียวหลินเทียนร้อนใจเอ่ยถามออกไป“นี่ไง!”มู่หรงเหยียนซงหยิบแหวนที่ดูโบราณแปลกตาออกมา หากมองอย่างละเอียดจะเห็นลวดลายที่ซับซ้อนคล้ายกับตัวอักษรอยู่บนแหวนนั้น“อ๋องอี้ เจ้าให้กระบี่เรืองรองกับข้า แหวนพระสุเมรุนี้ ข้าของมอบกลับคืนเป็นของกำนัลให้เจ้าแล้วกัน!”เขาส่งแหวนให้เซียวหลินเทียนเซียวหลินเทียนเห็นว่าแหวนมิได้พิเศษอะไรก็ค่อนข้างผิดหวัง นี่นับว่าเป็นหลักฐานอะไรกัน!แม้ว่าแหวงวงนี้จะดูเก่าแก่ แต่ก็จะว่าเป็นเงินก็มิคล้ายเงิน จะว่าเป็นทองก็มิคล้ายทอง จะมีมูลค่าเท่าใดกัน!แต่เขาก็รับมาตามมารยาทมู่หรงเหยียนซงสังเกตสีหน้าท่าทางเห็นว่าเซียวหลินเทียนมิได้มีท่าทีดีใจมากเป็นพิเศษก็รู้เลยว่าเขามิรู้จักสิ่งนี้“อ๋องอี้ เจ้าดูสิ!”มู่หรงเห
หยกหล้าสุขาวดี?หลิงอวี๋นึกถึงมิติของตนทันที หรือว่ามิติลึกลับของตนจะมาจากแดนปีศาจเหมือนกันกับแหวนพระสุเมรุ?ตอนนั้นหลานฮุ่ยจวนสูญเสียพลังวิญญาณไป มิสามารถเข้าไปในมิติได้อีกดังนั้นจึงเป็นตนเอง?“น้องหลิงอวี๋ ในบรรดาของต่างหน้าของท่านแม่เจ้าไม่มีหยกหล้าสุขาวดีหรือ?”มู่หรงเหยียนซงเอ่ยถามอย่างตื่นเต้น “จากที่อู่จวิ้นบอกมา คนในแดนปีศาจไล่ล่าพวกเขาก็เพื่อจะเอาหยกหล้าสุขาวดีกลับคืน ในหยกหล้าสุขาวดีนี้น่าจะเป็นสมบัติที่ใช้ฝึกฝนพลังวิญญาณทั้งหมด!”“หากเจ้าได้หยกหล้าสุขาวดีมา ก็จะฝึกพลังวิญญาณได้เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดแน่นอน แม้ว่าคนจากแดนปีศาจจะพบเข้า เจ้าก็จะสามารถจัดการกับพวกเขาได้!”หลิงอวี๋ระวังตัวขึ้นมาทันทีจากคำบอกเล่าของอู่จวิ้น หลานฮุ่ยจวนเป็นยอดฝีมือพลังวิญญาณ และนางก็ยังถูกคนไล่ล่าอีกด้วย ตนเพิ่งจะเข้าสู่ศาสตร์นี้ แม้แต่เก๋อเทียนซือยังจัดการมิได้เลยแล้วจะเป็นคู่ต่อสู้กับคนเหล่านั้นได้เยี่ยงไรกัน!นางไม่มีทางยอมรับเด็ดขาดว่าตนมีมิติอยู่!ยิ่งไปกว่านั้น หยกหล้าสุขาวดีที่มู่หรงเหยียนซงพูดถึงก็มิแน่ว่าจะหมายถึงมิติของตนเองด้วยนางยังมิรู้อะไรแน่ชัดทั้งนั้นจะไปชักไฟเข้าหาตัวไ
มู่หรงเหยียนซงเห็นใบหน้ากลัดกลุ้มของทั้งสองคนจึงเอ่ย “อย่าได้กังวลไป! น้องหลิงอวี๋ ข้าบอกแล้วว่าหามาพวกเจ้าด้วยสองเรื่อง เรื่องท่านแม่ของเจ้าพูดไปแล้ว เช่นนั้นตอนนี้ก็จะพูดเรื่องที่สองเลยแล้วกัน!”“เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับครอบครัวของพระชายาเว่ย! น้องหลิงอวี๋ ก่อนหน้านี้ไทเฮาถูกวางยาพิษมิใช่หรือ? จากทักษะการแพทย์ของเจ้าคงตรวจมิเจอว่าไทเฮาถูกพิษชนิดใดใช่หรือไม่?”หลิงอวี๋ตะลึงแล้วมองไปทางมู่หรงเหยียนซง นางตรวจสอบมิเจอจริง ๆ ว่าไทเฮาถูกพิษชนิดใด รวมถึงพิษที่ก่อนหน้านี้ตนถูกแม่นมของพระชายาเว่ยวางยาด้วยการแก้พิษทั้งสองครั้งนี้ล้วนพึ่งยาแก้พิษที่อยู่ในกล่องเหล็กของหลานฮุ่ยจวนทั้งสิ้น ตอนนี้นางเหลือเพียงแค่เม็ดสุดท้ายแล้ว หากยังตรวจสอบมิพบแล้วได้รับพิษอีกนางก็คงหมดปัญญาแล้ว“องค์ชายจิ้น ท่านทรงทราบหรือว่านั่นคือพิษชนิดใด?”หลิงอวี๋เอ่ยถามอย่างร้อนใจมู่หรงเหยียนซงส่ายหน้าพลางเอ่ย “เรื่องที่ว่ายาพิษมีส่วนประกอบใดบ้างนั้นเป็นความลับของตระกูลเว่ย เมื่อเอ่ยถึงเรื่องนี้แล้วก็ต้องเอ่ยถึงอีกเรื่องหนึ่งด้วย อ๋องอี้ พวกท่านมิเคยสงสัยสาเหตุการสิ้นพระชนม์ของจักรพรรดิสูงสุดเลยหรือ?”เซียวห
เซียวหลินเทียนเห็นจากด้านหลังว่ามู่หรงเหยียนซงถือกระบี่เรืองรองฟันไปที่หน้าอกของมือสังหารอย่างรวดเร็วเลือดสด ๆ สาดกระเซ็นไปทั่ว มือสังหารอีกคนข้างหลังเห็นสถานการณ์แล้วรูม่านตาก็หดเล็กลง จากนั้นก็ส่งเสียงตะคอกออกไปอย่างเศร้าโศกและโกรธแค้นพร้อมถือดาบแทงไปที่มู่หรงเหยียนซงมู่หรงเหยียนซงยังมิทันชักกระบี่กลับ ดาบของอีกฝ่ายก็โจมตีเข้ามาแล้วเมื่อเห็นว่าดาบของฝ่ายตรงข้ามเล็งไปที่หน้าอกของมู่หรงเหยียนซง ในสถานการณ์คับขันนั้น เซียวหลินเทียนก็พุ่งเข้าไปอย่างรวดเร็วแล้วจ่อดาบไปที่คอของมือสังหารมือสังหารจะป้องกันตัวเองจึงทำได้เพียงชักดาบกลับมาป้องกันไว้ แต่เขาก็ยังมิยอมแพ้ที่จะปล่อยมู่หรงเหยียนซงไปเช่นนี้เขาลังเลอยู่เล็กน้อยแต่ก็พลาดโอกาสที่ดีไปแล้ว หลิงอวี๋เอายาสลบแทงไปที่มือสังหารแล้วส่วนมู่หรงเหยียนซงก็ให้ความร่วมมือไปโดยปริยาย เท้าของเขาลื่นไปกับพื้น แล้วปลายเท้าก็ไปเตะเข้าที่มือสังหารแต่เพราะว่ามือสังหารเป็นยอดฝีมือจึงตัดสินสถานการณ์นี้ได้อย่างรวดเร็วเขารูปร่างค่อนข้างเตี้ย ดาบของเซียวหลินเทียนจึงผ่านหัวเขาไปและเส้นผมก็กระจัดกระจายออกมามือสังหารพุ่งไปข้างหน้าแล้วกระโจนออกจากหน
“หลู่ชิ่ง ช้าก่อน เอาศพของมือสังหารไปส่งให้แม่ทัพเฉินด้วย!”เซียวหลินเทียนมองหลิงอวี๋ หลิงอวี๋ก็เข้าในความหมายของเซียวหลินเทียนทันทีในเมื่อมือสังหารทั้งสองเป็นสามีภรรยากัน แทนที่จะเสียแรงไปตามจับหญิงสาวที่หนีไป สู้นำศพชายของนางมาใช้ล่อให้นางติดกับดีกว่าแต่หลิงอวี๋กลับมิคิดว่ามือสังหารหญิงจะมาติดกับด้วยตนเองพวกเขารู้เรื่องการเดินทางของตนกับเซียวหลินเทียนเช่นนี้ ก็มิน่าจะมิรู้ว่าโดยนิสัยของเซียวหลินเทียนแล้ว จะไม่มีการทำร้ายศพเป็นอันขาดขอเพียงมือสังหารหญิงรอคอยอย่างอดทน กระทั่งมือสังหารชายถูกนำไปฝังแล้วค่อยขโมยศพไปก็ได้แล้วแม้ว่าหลิงอวี๋จะนึกถึงจุดนี้ แต่ก็มิอยากขัดความกระตือรือร้นของเซียวหลินเทียนจึงมิพูดอะไรออกไปเรื่องที่พบมือสังหาร ทำให้การพูดคุยของพวกเขากับมู่หรงเหยียนซงไปต่อมิได้แล้วหลิงอวี๋ถูกเลือดของมือสังกหารกระเซ็นไปทั่วร่างกาย จึงเอ่ยอย่างรู้สึกขยะแขยง “ท่านพี่มู่หรง วันนี้พอเท่านี้เถิด ท่านกลับไปพักผ่อนก่อน วันพรุ่งข้าจะเชิญพวกท่านมาทานอาหารกันที่ตำหนักอ๋องอี้ แล้วเราค่อยคุยกันต่อเถิด!”“ได้!”มู่หรงเหยียนซงเองก็กลัวว่าจะเจอเรื่องมิคาดคิดขึ้นอีกจึงพยักหน้า“ว
“ใช่แล้ว เป็นเช่นนี้เลย!”หลิงอวี๋ยกมุมปากขึ้นอย่างดูถูก “แม้ว่าฮองเฮาเว่ยจะเข้าตำหนักเย็นไปแล้ว และองค์ชายเว่ยก็ถูกลงโทษให้ไปเฝ้าสุสานจักรพรรดิ แต่ตระกูลเว่ยก็ยังมีคนที่เป็นขุนนางอยู่ในราชสำนักอีกมิน้อย”“ขุนนางผู้มีอำนาจต่อให้ถูกลดทอนอำนาจลงก็ยังคงมิสิ้นอำนาจอยู่ดี นี่คือแผนการที่คิดจะซ้ำเติมตระกูลเว่ยเพคะ!”เซียวหลินเทียนมองออกไปอย่างครุ่นคิดตอนนี้องค์ชายเว่ยกับฮองเฮาเว่ยเสียอำนาจไป ผู้ที่มีความสามารถที่จะมาแย่งชิงตำแหน่งองค์รัชทายาทกับตนได้ มีเพียงแค่องค์ชายคังเท่านั้น และพระชายาเส้าที่อยู่เบื้องหลังองค์ชายคังก็แอบเล็งตำแหน่งฮองเฮาอยู่ด้วยมีเพียงการทุบตระกูลเว่ยจนมิสามารถที่พลิกฟื้นคืนมาได้เท่านั้น พระชายาเส้ากับองค์ชายคังจึงจะมีความเป็นไปได้ที่จะบรรลุความปรารถนาเช่นนั้นนอกจากพระชายาเส้ากับองค์ชายคังแล้ว ใครกันที่จะทำเรื่องที่ฆ่าแกงผู้คนเช่นนี้ได้!“หึ...”เซียวหลินเทียนส่งเสียงอย่างเย็นชา แล้วเอ่ยกับหลิงอวี๋อย่างเจือน้ำเสียงบ่นไปด้วย“ก่อนหน้านี้เรามิควรปล่อยองค์ชายคังไปเลย เจ้าดูพันธมิตรชั่วคราวของเจ้าเถิด นี่ยังมิถึงสองวันก็หันหัวหอกกลับมาหาเจ้าแล้ว!”หลิงอวี๋ยิ้มออ
คำพูดของหลิงอวี๋ทำให้ดวงตาของเซียวหลินเทียนเป็นประกายขึ้นมาทันที เขาได้รู้เรื่องที่หลิงอวี๋สามารถใช้พลังวิญญาณเก็บและเรียกดาบวิเศษออกมาได้หากสิ่งที่หลิงอวี๋พูดเป็นเรื่องจริง เช่นนั้นหากเจอดาบวิเศษที่ตนหยดเลือดสร้างพันธะด้วยได้ เขาก็จะสามารถใช้พลังวิญญาณคุมดาบไปสังหารคนได้เช่นกันมิใช่หรือ?“อาอวี๋ เช่นนั้นข้าจะต้องตั้งใจฝึกฝนพลังวิญญาณ!”เซียวหลินเทียนยิ่งคิดก็ยิ่งตื่นเต้น เขาต้องรีบบำเพ็ญเพียรพัฒนาตนเอง เพื่อหลีกเลี่ยงตอนที่ได้รับดาบวิเศษเช่นนั้นจริง ๆ แล้วตนเองกลับมิสามารถควบคุมมันได้หลิงอวี๋เองก็คล้อยตามไปกับความตื่นเต้นของเซียวหลินเทียนเช่นกัน คำพูดของมู่หรงเหยียนซงเป็นการยืนยันแล้วว่า ใต้หล้าผืนนี้ยังมีอีกใต้หล้าที่เหนือชั้นกว่านี้ไปอีกเก๋อเทียนซือสามารถมาที่ฉินตะวันตกได้ ก็อาจจะมีศัตรูอีกมากที่มาได้เช่นกันหากนางมิอยากถูกคนอื่นทำร้ายแล้วมิสามารถตอบโต้ได้ ก็ทำได้เพียงพัฒนาตนเองเท่านั้น “เซียวหลินเทียน ท่านสอนวรยุทธให้หม่อมฉันเถิดเพคะ! หม่อมฉันเองก็ต้องขยันแล้วเช่นกัน!”ในบรรดาคนที่หลิงอวี๋รู้จักในตอนนี้ก็มีเซียวหลินเทียนที่มีวรยุทธสูงที่สุด นางทำได้เพียงให้เซียวหลินเทีย
นี่มันหยิ่งผยองเกินไปจริง ๆ!เซียวหลินเทียนลุกขึ้นอย่างเดือดดาลแล้วรีบแต่งตัวออกไปที่หลุมศพของหลี่ว์กังพร้อมกับหลิงอวี๋อย่างรวดเร็วระหว่างทางก็ได้พบกับหลี่ว์เซียงกับหลี่ว์จงเจ๋อที่ได้ข่าวแล้วรีบมาเช่นกันหลี่ว์เซียงโกรธจนพูดติด ๆ ขัด ๆ เอ่ยขึ้นมา “รังแกกันมากไปแล้ว… รังแกกันมากเกินไปแล้วจริง ๆ! เซี่ยโฮ่วตานรั่วผู้นี้คิดว่าฉินตะวันตกไม่มีใครเลยจริง ๆ หรือไร?”“นางกล้าเฆี่ยนตีศพ! ข้า… ข้าจะต้องกราบทูลต่อองค์จักรพรรดิให้นางชดใช้!”สายตาของหลี่ว์จงเจ๋อมองหลิงอวี๋อย่างซับซ้อน หลิงอวี๋คาดการณ์ถูกอีกแล้ววันนี้ตอนที่เสร็จสิ้นพิธีศพของหลี่ว์กัง ก่อนที่หลิงอวี๋จะกลับไปก็ได้บอกกับหลี่ว์จงเจ๋อเป็นการส่วนตัว“ฮูหยินสามไปอาศัยอยู่ที่ไร่นาของข้า หากเซี่ยโฮ่วตานรั่วมิสามารถลงมือกับพวกนางได้ มิแน่ว่าอาจจะมาระบายความโกรธที่ศพของหลี่ว์กังก็ได้! เจ้าหาคนสักสองสามคนไปเฝ้าที่หลุมศพหลี่ว์กังไว้ในตอนที่พวกเซี่ยโฮ่วตานรั่วยังมิออกจากฉินตะวันตก ป้องกันไว้ก่อน!”ก่อนหน้านี้หลี่ว์จงเจ๋อยังมิเห็นด้วยเท่าไร คิดว่าคนตายไปแล้วเซี่ยโฮ่วตานรั่วคงมิทำอันใดกับคนตายหรอกทว่าด้วยความเชื่อใจที่มีต่อหลิงอวี๋ หลี่ว