แชร์

บทที่ 1129

ผู้เขียน: กานเฟย
น้ำที่ไหลเชี่ยวพุ่งมาซัดเข้าที่ตัวของกลุ่มเซียวหลินเทียนอย่างท่วมท้น ทำเอาพวกเขาโซเซไป

“ระวัง!”

“ยึดไว้!”

คนจำนวนมากบนฝั่งกรีดร้องออกมาแล้วก็เหงื่อออกอย่างเป็นห่วงพวกของเซียวหลินเทียน

กระแสน้ำเช่นนี้หากยืนมิอยู่ ในชั่วพริบตาสามารถซัดพาสมาชิกกลุ่มของเซียวหลินเทียนตกลงไปในน้ำได้เลย

แต่กลุ่มของเซียวหลินเทียนกลับดูแลกันและกัน แม้ว่าจะโดนกระแสน้ำเชี่ยวซัดสาดแต่ก็ไม่มีใครตกลงไปในน้ำ

จักรพรรดิอู่อันเห็นสมาชิกกลุ่มของเซียวหลินเทียนจับมือกันต้านทานคลื่นไว้ก็รู้สึกโล่งใจเล็กน้อย

“องค์ชายสี่มีความสามารถจริง ๆ เมื่อเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงกะทันหันก็ยังสามารถสงบได้เช่นนี้…”

คำชมของจักรพรรดิอู่อันทำให้องค์ชายเว่ยกับองค์ชายคังรู้สึกมิเห็นด้วยนัก

รอยยิ้มแปลก ๆ ปรากฏขึ้นที่มุมปากขององค์ชายคัง ยังเร็วเกินไปที่จะพูดเช่นนี้กระมัง!

องค์ชายเว่ยยิ้มเยาะในใจอย่างดูถูก เสด็จพ่อชื่นชมเขามาก ประเดี๋ยวมาดูกันว่าเขาจะเสียหน้าอย่างไร

เป็นดังที่คาด ยังมิทันที่จักรพรรดิอู่อันจะพูดจบ ก็เห็นกลุ่มของเซียวหลินเทียนที่ด้านล่างนั้น จู่ ๆ สมาชิกหลายคนในกลุ่มที่ยืนอยู่บนกระดานไม้ก็ก้าวพลาดตกลงไปในน้ำ

ในมุมมองของคนบ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1130

    เซียวหลินเทียนมองกล้ามเนื้อของมู่เหลิงแล้วยิ้มอย่างมีความหมาย “หัวหน้ามู่ อยากจะประลองก็มีโอกาสมากมาย ข้าจะให้โอกาสนั้นแก่เจ้าอย่างแน่นอน!”องค์ชายอิงมองคนสองคนเอ่ยคุยกันด้วยรอยยิ้ม แม้ว่าเขาจะเกิดมาพร้อมกับพละกำลังที่ดุร้าย แต่ก็มิใช่คนไร้สมองเขารู้แล้วว่าเหตุใดองค์ชายหนิงถึงเอาโม่เหอเดิมพันมากับจักรพรรดิอู่อัน!แม้ว่าเซียวหลินเทียนจะชนะแล้วได้รับโม่เหอไป เขาก็มิกลัว สถานที่ผีเช่นโม่เหอได้คร่าชีวิตคนของตนไปมากมายในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เขามิเชื่อว่าเซียวหลินเทียนสามารถอยู่รอดในโม่เหอได้สำหรับเหมืองถ่านหินเหล่านั้น องค์ชายอิงก็มิได้อิจฉาตาร้อนเช่นกัน หากเซียวหลินเทียนสามารพาคนไปขุดได้ก็ต้องขนส่งออกมาเขายังหวังว่าจะมีคนช่วยตนไปขุด เช่นนี้เขาจะได้ขวางทางแล้วแย่งชิงมันได้ราษฎรของเว่ยเหนือมิได้มากเท่าฉินตะวันตก แรงงานจึงขาดแคลน แทนที่จะทำเอง เขาชอบที่จะได้อะไรมาโดยมิต้องออกแรงมากกว่า!องค์ชายหนิงอยู่ในเพิงพักผ่อนข้าง ๆ เขามิได้ซ้ำเติมในสถานการณ์ยากลำบากของเซียวหลินเทียน เพียงแค่มองเซียวหลินเทียนอย่างครุ่นคิดเท่านั้นคนนอกดูเอาสนุก ส่วนคนในมองที่หนทางองค์ชายหนิงเองก็เป็นผู้นำทัพ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1131

    “กระดานไม้เป็นอะไรไป? เหตุใดมิตรวจสอบก่อนการแข่งขัน?”เซียวหลินเทียนกับสมาชิกกลุ่มเปลี่ยนอาภรณ์แล้วก็มาซักถามอันเจ๋อด้วยใบหน้าเคร่งขรึมอันเจ๋อรับผิดชอบเรื่องกองหนุน เขาเองก็รู้สึกละอายใจเช่นกันที่เป็นเพราะกระดานไม้แผ่นเดียวที่ทำส่งผลกับการเป็นที่หนึ่งของพวกเขา เรื่องนี้พูดไปแล้วก็เป็นเรื่องน่าละอายจริง ๆ!“ขอประทานอภัยพ่ะย่ะค่ะ มันเป็นความผิดของกระหม่อมเอง! กระหม่อมจัดการมิดี พบปัญหาของกระดานไม้มิทันเวลา!”อันเจ๋อต้องการตบตนเองสองสามครั้ง มันเป็นเพราะกระดานไม้พังเสียหาย ถึงทำให้พวกเขาพ่ายแพ้ในการแข่งขันนี้ เขาไม่มีหน้าจะโต้แย้งเลย“นี่เป็นความผิดของเจ้า เจ้ามิสามารถเลี่ยงความรับผิดชอบไปได้!”“อีกอย่าง น้ำที่ต้นน้ำไหลมาอย่างอธิบายมิได้ นี่เป็นความประมาทเลินเล่อของตัวข้าเอง ข้าจะทบทวนตัวเอง!”ความผิดที่น่าจะเป็นของตนเองเซียวหลินเทียนก็มิสามารถเลี่ยงได้ จึงเอ่ยเสียงเย็นชา“วันนี้มันเป็นความผิดของตัวข้ากับอันเจ๋อที่ทำให้ทุกคนพ่ายแพ้ ข้ากับอันเจ๋อจะจดการโบยไม้ทหารไว้สิบไม้! หลังจากจบการแข่งขันแล้วเรามาว่ากัน!”“เรื่องที่ประมาทกันในวันนี้ทุกคนต้องถือเป็นบทเรียน ในการแข่งขันอีกหลายว

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1132

    มีความกล้าหาญ มีไหวพริบ มีความสามารถ และงดงาม พระชายาอ๋องอี้ผู้นี้เป็นสตรีเพียงผู้เดียวที่ที่องค์ชายหนิงเจอตั้งแต่มาถึงฉินตะวันตก!เรื่องที่เซี่ยโฮ่วตานรั่วเฆี่ยนตีคนจนตายเมื่อวานนี้ องค์ชายหนิงรู้สึกว่ามันมีลับลมคมใน ทันทีที่เขาได้ข่าวก็เข้าวังไปปกป้องเซี่ยโฮ่วตานรั่วก่อนเลยหลังจากกลับจากวังไปถึงที่พัก องค์ชายหนิงก็เรียกซินจิ้งแล้วให้นางเล่าเรื่องราวทั้งหมดตั้งแต่ต้นจนจบให้ตนเองฟังโดยละเอียดหลังจากฟังแล้ว องค์ชายหนิงก็พอจะเข้าใจว่ามันเกิดอะไรขึ้น!เขามิโกรธหลิงอวี๋ที่วางแผนกับเซี่ยโฮ่วตานรั่วเขาแค่รู้สึกว่าน่าสนใจ เห็น ๆ อยู่ว่าพระชายาอ๋องอี้เป็นคนฉลาดเช่นนี้ แต่เหตุใดเมื่อก่อนนางกลับเคยมีชื่อเสียงว่าเป็นคนโง่เขลาได้เล่า?คนที่ผู้แข็งแกร่งเคารพคือผู้แข็งแกร่ง!องค์ชายหนิงรู้สึกว่าตนเป็นคนฉลาดมาก ใต้หล้านี้มีคนน้อยนักที่เทียบกับตนได้สิ่งที่เขาขาดคือโอกาส หากเขาเกิดในฉินตะวันตก เขาคงจะใช้ประโยชน์จากสภาพอากาศและสถานที่ตั้งที่เอื้ออำนวยของฉินตะวันตกยึดครองทั้งสี่แคว้นไปแล้วแต่เพราะเขาเกิดในฉีตะวันออก ความทะเยอทะยานทั้งหมดของเขาจึงถูกจำกัดด้วยสภาพอากาศและสถานที่ที่เหมาะสม เขา

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1133

    ในการแข่งขันวันที่สี่ เพราะสามวันแรกเซียวหลินเทียนชนะไปสี่รายการ จึงเพิ่มขวัญกำลังใจได้มาก คนที่มาดูความคึกคักก็เพิ่มมากขึ้นแล้ว ทุกคนต่างตั้งตารอกลุ่มของเซียวหลินเทียนคว้าอันดับหนึ่งในสองรายการของวันนี้แม้ว่าจะมิสามารถเป็นที่หนึ่งได้ทั้งสองรายการ ทว่าหากได้มาหนึ่งในนั้น ก็จะแซงหน้ากลุ่มขององค์ชายหนิงอย่างมั่นคงแล้วแต่การแข่งขันแรกคือการขุดอุโมงค์ ทุกคนในกลุ่มขององค์ชายอิงล้วนแข็งแกร่งมาก แต่กลุ่มของเซียวหลินเทียนกับองค์ชายหนิงมิสามารถเอาชนะความแข็งแกร่งทางกายภาพของพวกเขาได้เลย เซียวหลินเทียนกับองค์ชายหนิงจึงยังคงเป็นคะแนนสี่ต่อสามอยู่การแข่งขันที่สองคือการปีนป่าย นี่คือการแข่งขันความเร็วของแต่ละกลุ่มในการประกอบและสร้างบันไดหากเซียวหลินเทียนชนะการแข่งขันนี้ก็จะเป็นห้าต่อสาม เว้นเสียแต่ว่าองค์ชายหนิงจะคว้าอันดับหนึ่งได้ทั้งสองรายการแข่งขันในวันที่ห้า มิเช่นนั้นก็จะแพ้เซียวหลินเทียนขาดลอยดังนั้น การแข่งขันปีนป่ายจึงเป็นรายการที่สำคัญมากก่อนหน้านี้หลิงอวี๋เคยบอกเซียวหลินเทียนกับท่านจินต้าถึงสิ่งที่ตนรู้เกี่ยวกับบันไดแล้ว หลังจากที่ทั้งสามคนทำงานร่วมกับช่างฝีมือแล้วก็ปรับเปลี่ย

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1134

    ยังมิทันที่องค์ชายเว่ยจะได้โต้แย้งหลี่ว์เซียง องค์ชายคังก็ยิ้มพลางเอ่ย “พี่ใหญ่ น้องสี่เป็นตัวแทนฉินตะวันตกออกไปสู้ พวกเราก็ควรรอดูชัยชนะของเขาสิ!”“เขาสามารถคิดบันไดที่ล้ำหน้าออกมาได้ นี่คือความภาคภูมิใจของเสด็จพ่อ และเป็นความโชคดีของฉินตะวันตกของเราด้วย!”จ้าวฮุยพยักหน้า ในที่สุดองค์ชายคังก็เปิดกว้างแล้วตอนนี้จักรพรรดิอู่อันคิดถึงแค่การชนะแล้วได้สองเมืองมาเท่านั้น เขามีความคาดหวังกับเซียวหลินเทียนเป็นอย่างมากเขาจะฟังคำพูดที่มิเป็นผลดีต่อเซียวหลินเทียนไปได้เยี่ยงไร!มีสุภาษิตพื้นบ้านกล่าวไว้ว่า ยิ่งปีนขึ้นไปสูง เมื่อตกลงมาก็จะยิ่งน่าสงสารในทำนองเดียวกัน ต่อหน้าจักรพรรดิอู่อัน ยิ่งยกเซียวหลินเทียนขึ้นสูงเท่าไหร่ เมื่อถึงเวลาที่เซียวหลินเทียนพ่ายแพ้ ช่องว่างในใจของจักรพรรดิอู่อันก็จะยิ่งใหญ่ขึ้นแล้วก็จะยิ่งโกรธเซียวหลินเทียนมากขึ้นแน่นอนว่าจักรพรรดิอู่อันชื่นชมในคำพูดขององค์ชายคัง เขาเหลือบมององค์ชายเว่ยอย่างมิพอใจ พลางตำหนิ“น้องสองของเจ้าพูดถูก ตอนนี้องค์ชายสี่เป็นตัวแทนฉินตะวันตกไปแข่งขัน เขาสามารถคิดค้นบันไดที่สู้อีกสามแคว้นได้ พวกเราก็ควรจะมีความสุขไปกับเขา!”“เหตุใดเล

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1135

    “นั่นสิ การแข่งขันในสามวันแรกก็ดูดีอยู่หรอก มาวันนี้มีพิรุธเสียแล้ว! ท่านอ๋องอี้ ท่านนำทัพมิได้จริง ๆ! ยอมรับความพ่ายแพ้ไปเถิด!”มีคนเอ่ยขึ้นมาอย่างดูถูก “ดูกลุ่มขององค์ชายอิงสิ พวกเขาล้วนเป็นชายร่างกำยำทั้งนัน กลุ่มของท่านอ๋องอี้ ทหารเหล่านี้ล้วนดูป่วยไข้ เทียบมิได้เลยจริง ๆ!”องค์ชายหนิงเห็นว่ากลุ่มของมู่หรงเหยียนซงตามพวกเขามาทันแล้ว จึงทำท่าทางให้ทหารที่เข็นเกวียนเร่งความเร็วขึ้น“อ๋องอี้ ข้าขอไปก่อนแล้ว!”ตอนที่องค์ชายหนิงแซงหน้ารถของเซียวหลินเทียนไป สายตาก็จ้องมองโครงแปลก ๆ นั้นอีกครั้ง เขารู้สึกว่าของวิเศษที่เซียวหลินเทียนคิดว่าจะได้ชัยชนะคือโครงนี้เขาคิดมิออกถึงประโยชน์ของโครงนี้เลย จึงทำได้แค่แอบคาดเดาเท่านั้นเมื่อเห็นว่ามีเพียงระยะห่างห้าร้อยเมตรแล้ว เซียวหลินเทียนจึงสัญญาณมือ เมื่อเผยอวี้เห็นก็ฉายยิ้ม ตอนนี้ถึงคราวที่พวกเขาต้องแสดงบ้างแล้วสินะพวกทหารก้าวไปข้างหน้าทันที แล้วติดตั้งยางหุ้มไว้บนล้อแต่ละล้อด้วยความรวดเร็วคนที่มาดูความคึกคักอยู่ข้างนอกเห็นว่าเกวียนบรรทุกบันไดของท่านอ๋องอี้หยุดลง และทหารเหล่านั้นกำลังซ่อมล้ออยู่ คนที่ตั้งตารอให้เซียวหลินเทียนพ่ายแพ้ก็ก่

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1136

    มันเป็นไปมิได้!คนจำนวนมิน้อยเบิกตาโตด้วยความงุนงง แม้ว่าพวกเขาจะมิได้ลงสนามด้วยตัวเอง แต่เกวียนบรรทุกบันไดหนัก ๆ นั่นดูทหารเข็นแล้วน่าจะออกแรงมากแล้วในชั่วพริบตามันจะง่ายดายเช่นนี้ได้เยี่ยงไร“เมื่อครู่ทหารพวกนั้นดูเหมือนจะใส่อะไรไปที่ล้อรถนะ!”มีคนตาแหลมคมมองเห็น เพียงแต่มันอยู่ไกลจึงเห็นมิชัดเจนหนึ่งร้อยเมตร… สองร้อยเมตร...จากที่ทหารเข็นเร็วขึ้นเรื่อย ๆ เกวียนบรรทุกบันไดของเซียวหลินเทียนจึงแซงหน้ารถของมู่หรงเหยียนซงไปแล้วมู่หรงเหยียนซงมองปราดเดียวก็เห็นความแตกต่างของล้อเกวียนบรรทุกบันไดของเซียวหลินเทียนกับของตนเองได้ในทันทีเดิมทีล้อรถเป็นล้อไม้ เมื่อหุ้มด้วยยางหนา ๆ เข้าไป ก็ทำให้ให้ล้อไม้หมุนได้เร็วขึ้นและง่ายขึ้นด้วย!มู่หรงเหยียนซงมองล้อรถนั้นอย่างอึ้ง ๆ นี่มันหลักการอะไรกัน!เขามิเคยคิดฝันเลยว่า เซียวหลินเทียนจะคิดเรื่องการหุ้มยางที่ล้อรถออกมาได้แต่ต้องยอมรับว่า การหุ้มยางที่ล้อรถมันทำให้ล้อหมุนได้นุ่มนวลขึ้น แล้วทหารก็ดูประหยัดแรงไปได้เยอะเลยส่วนข้างหน้านั้น ความเร็วขององค์ชายหนิงก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน แล้วก็เร่งแซงองค์ชายอิงไปแล้วองค์ชายหนิงเพิ่งชนะการแข่งขันไ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1137

    ท่ามกลางสายตาของทุกคนที่จับจ้องมาก็ได้เห็นโครงแปลก ๆ นั้นค่อย ๆ ยกสูงขึ้นทีละนิดหลังจากนั้นมินาน ก็ข้ามบันไดที่พาดอยู่บนกำแพงขึ้นไป และเผยอวี้ก็ปีนขึ้นไปก่อนอย่างคล่องแคล่ว เอาบันไดเสริมไปติดไว้บนกำแพงเมือง“พี่น้องทั้งหลาย ลุกมา! ทำให้พวกเขาเห็นว่าเราได้สร้างยุคใหม่ขึ้นแล้ว!”เผยอวี้มิสามารถควบคุมความตื่นเต้นของตนได้อีกต่อไป บันไดเช่นนี้เป็นสิ่งที่กลุ่มพวกเขาสร้างขึ้นอย่างเป็นเอกลักษณ์มิเหมือนใคร และล้ำหน้าทักษะการสร้างบันไดของแคว้นอื่นไปมาก!“ท่านอ๋องอี้ทรงทำดีมากพ่ะย่ะค่ะ/เพคะ!”บรรดาคนที่มาดูความคึกคักเหล่านั้นเห็นว่าบันไดของฉินตะวันตกวางอยู่บนกำแพงเมืองแล้วก็ส่งเสียงชอบใจกันดังสนั่นทันที“รีบขึ้นไปเร็วเข้า! เอาธงของเราไปปักไว้บนกำแพงเมืองเสีย!”จักรพรรดิอู่อันเห็นว่าบันไดของอีกสามแคว้นยังประกอบมิเสร็จ ครั้งนี้เซียวหลินเทียนต้องชนะอย่างแน่นอน เขาจึงยืนขึ้นอย่างตื่นเต้น รอให้ธงฉินตะวันตกปักบนกำแพงเมืองแสดงชัยชนะห้าต่อสาม หากวันพรุ่งชนะอีกหนึ่งรายการองค์ชายหนิงก็จะพ่ายแพ้แล้ว!แต่องค์ชายเว่ยกลับแอบยิ้มร้ายตอนนี้จักรพรรดิอู่อันตื่นเต้นมากแค่ไหน อีกประเดี๋ยวเมื่อคนของเซี

บทล่าสุด

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1878

    หลิงอวี๋ยังคงซ่อนตัวอยู่ในน้ำลุงของเก๋อฮุ่ยหนิงคงถูกพิษของหลิงอวี๋จนตาบอดไปแล้ว ดังนั้นเก๋อฮุ่ยหนิงจะยิ่งไม่มีทางปล่อยตนไปแต่เก๋อฮุ่ยหนิงมิสามารถอยู่ที่ท่าเรือได้นานนัก ข้าหลวงเก๋อต้องรีบกลับไปรับตำแหน่งที่เมืองหลวงแดนเทพ จะเดินทางล่าช้าไปเพราะมาตามหาตนมิได้ขอเพียงตนซ่อนตัวอยู่จนถึงตอนค่ำ ก็จะขึ้นฝั่งโดยที่รอดพ้นจากสายตาของทุกคนได้ แล้ววันพรุ่งค่อยไปตามหาป้าวซวนเก๋อฮุ่ยหนิงมิสามารถอยู่ที่ท่าเรือได้นานดังเช่นที่หลิงอวี๋บอกไว้จริง ๆ นางพาลุงของนางไปหาหมอ แต่หมอทั่วไปที่ท่าเรือเหล่านี้ก็ไม่มีใครสามารถรักษาดวงตาของท่านลุงให้หายดีได้ลูกพี่ลูกน้องคนโตได้ยินข่าวก็รีบมาทันที เขาทั้งโกรธทั้งเคืองเก๋อฮุ่ยหนิง แต่ติดที่อำนาจของตระกูลเก๋อ ทำให้เขามิกล้าบ่นมากเกินไป“พี่ใหญ่ เป็นข้าเองที่ทำให้ท่านลุงลำบาก แต่ผู้ร้ายคือหมอเจียง ข้าจะให้ภาพเหมือนของนางกับพี่ใหญ่ พี่ใหญ่ต้องสังหารนางล้างแค้นให้ท่านลุงให้จงได้นะ!”เก๋อฮุ่ยหนิงรีบวาดรูปหลิงอวี๋มอบให้ลูกพี่ลูกน้องคนโตของนาง และสุดท้ายนางก็มอบเงินส่วนตัวทั้งหมดให้กับลูกพี่ลูกน้องคนโตไป เพื่อให้เขาไปหาหมอที่มีชื่อเสียงมารักษาดวงตาของท่านลุงหล

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1877

    “ตา… ตาของข้า!”ผู้ดูแลหลัวลุงของเก๋อฮุ่ยหนิงยกมือทั้งสองขึ้นปิดตาไว้อย่างเจ็บปวดเก๋อฮุ่ยหนิงทั้งโกรธทั้งกังวล นางจึงตะโกนบอกลูกหาบที่ตามมา “รีบไปจับตัวสตรีผู้นั้นไว้ อย่าปล่อยให้นางหนีไปได้!”เมื่อคนพวกนั้นเห็นว่าผู้ดูแลถูกหลิงอวี๋ทำให้บาดเจ็บ พวกเขาจึงพากันกระโดดลงน้ำไปจับตัวหลิงอวี๋ ตามคำสั่งของเก๋อฮุ่ยหนิงส่วนเก๋อฮุ่ยหนิงก็ประคองผู้ดูแลหลัว “ท่านลุง ข้าจะพาท่านไปหาหมอ!”หลิงอวี๋กระโดดลงไปในน้ำ แล้วนางก็ว่ายน้ำไปที่เรือเหล่านั้นเรือบรรทุกสินค้าจอดเทียบกันอยู่สะเปะสะปะ และกระจายกันอยู่เต็มบริเวณโดยรอบหลิงอวี๋ว่ายน้ำออกไปไกลภายในลมหายใจเดียว แล้วจึงกล้าโผล่ขึ้นมาหายใจบนผิวน้ำอย่างเงียบ ๆ โดยอาศัยเรือบังเอาไว้ จากนั้นก็ว่ายน้ำต่อไปเนื่องด้วยการอาศัยเรือเหล่านั้นบดบังไว้ ทำให้หลิงอวี๋สามารถหลบเลี่ยงพวกลูกหาบที่ลงน้ำมาได้ชั่วคราวแต่นางมิสามารถขึ้นฝั่งได้ ตอนนี้เป็นตอนกลางวัน หากนางขึ้นฝั่งไป ด้วยเนื้อตัวเปียกโชกเช่นนี้ จะต้องดึงดูดความสนใจของทุกคนอย่างแน่นอน แล้วลุงของเก๋อฮุ่ยหนิงก็จะจับตัวนางได้หลิงอวี๋เกาะเชือกของเรือลำหนึ่งที่ลอยอยู่บนผิวน้ำไว้ชั่วคราว ใจของนางเป็นห่ว

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1876

    “น้องหญิง!”ในเวลาเพียงชั่วพริบตานั้น หลิงอวี๋ก็นึกถึงสิ่งเหล่านี้ขึ้นมาได้ นางจึงดึงป้าวซวนเอาไว้ “เราไปดูที่ริมแม่น้ำกันเถิด เรือพวกนั้นกำลังบรรทุกสินค้ากันอยู่ ดูน่าสนใจยิ่งนัก!”เมื่อป้าวซวนถูกหลิงอวี๋ดึงตัวไปเช่นนั้น นางก็ตามไปอย่างมิอาจยื้อตนเองไว้ได้“น้องหญิง เก๋อฮุ่ยหนิงจะทำร้ายพวกเรา!”หลิงอวี๋เดินไปพลางกระซิบไปด้วย “เจ้าอย่าได้หันไปดู ทำเป็นว่ามิรู้เรื่องอะไรทั้งนั้น และเมื่อไปถึงเรือเหล่านั้น ข้าจะวิ่งไปด้านหนึ่ง ส่วนเจ้าก็วิ่งไปอีกด้านหนึ่ง พยายามวิ่งไปในที่ที่มีคนอยู่เป็นจำนวนมากเข้าไว้!”“พี่หญิง เกิดเรื่องอันใดขึ้นกันแน่?”ป้าวซวนตกใจกลัวจนสีหน้าเปลี่ยน “เก๋อฮุ่ยหนิงจะทำร้ายพวกเราด้วยเหตุใด? ท่านพ่อของนางยังต้องการเจ้าอยู่มิใช่หรือ?”“ข้าเล่าให้ฟังมิทันแล้ว หลังจากที่เจ้าหนีออกไปให้พยายามหลีกเลี่ยงพวกนาง แล้วซ่อนตัวจนถึงวันพรุ่ง จากนั้นค่อยมาหาข้าที่ใต้หอสังเกตการณ์ที่สูงที่สุดของท่าเรือ!”“หากว่าข้ามิมา เจ้าก็มิต้องรอ หาทางกลับไปหาครอบครัวด้วยตนเองเสีย!”หลิงอวี๋หันไปมอง แล้วก็เห็นว่าลูกหาบเหล่านั้นมิเดินอย่างเชื่องช้าแล้ว แต่กลับวิ่งมาทางพวกนางอย่างรวดเร็ว ดั

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1875

    สองวันต่อมา เรือก็มาถึงท่าเรือฟู่จี๋ตามกำหนดการเดินทาง แล้วก็เป็นไปตามที่จื่ออวิ๋นบอก เมื่อเรือจอดเทียบท่า ผู้คุมเรือก็ให้ทุกคนลงจากเรือไปพักผ่อนครึ่งวันเหล่าสตรีของตระกูลเก๋ออยู่บนเรือกันมาหลายวันแล้ว เมื่อสามารถขึ้นไปเดินบนบกกันได้ทุกคนก็ต่างลงจากเรือกันอย่างกระตือรือร้น แม้แต่ฮูหยินเก๋อเองก็รอมิไหวที่จะลงจากเรือไปสูดอากาศบริสุทธิ์เช่นกันข้าหลวงเก๋อก็เชิญเฉียวไป๋ไปดื่มสุราและกินอาหารที่ภัตตาคาร เฉียวไป๋ก็พร่ำบ่นกับตระกูลเก๋อมาหลายวันแล้ว จึงยากที่จะปฏิเสธการเชื้อเชิญแล้วตามเขาไปเก๋อฮุ่ยหนิงเห็นว่าเฉียวไป๋ไปแล้ว นางก็แอบยิ้ม นางให้จื่ออวิ๋นไปแจ้งท่านลุงเอาไว้ล่วงหน้าแล้ว ที่เหลือก็คือนางต้องหลอกล่อหลิงอวี๋ไปยังถิ่นของท่านลุง“หมอเจียง พวกเราก็ลงไปเดินเล่นกันเถิด ข้าได้ยินมาว่าท่าเรือฟู่จี๋แห่งนี้คึกคักมาก และสามารถเลือกหาของดี ๆ ได้มากมายทีเดียว!”แม้ว่าป้าวซวนจะมิได้เมาเรือแล้ว แต่นางก็ยังคงมิชอบความรู้สึกที่ต้องอยู่บนเรืออยู่ดี เมื่อได้ยินดังนั้น นางจึงดึงหลิงอวี๋แล้วออดอ้อน “พี่หญิง เราก็ลงไปเดินเล่นกันเถิด!”หลิงอวี๋เห็นว่าทุกคนไปกันหมดแล้ว นางก็มิอยากอยู่บนเรือเช่นกัน ดั

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1874

    ในขณะที่เซียวหลินเทียนกำลังยุ่งอยู่กับการตามหาหลิงอวี๋ และฟื้นฟูตำหนักปีกเงินขึ้นมาอีกครั้งนั้น ทางด้านหลิงอวี๋ก็เตรียมตัวจะออกเดินทางไปเมืองหลวงแดนเทพพร้อมกับครอบครัวของข้าหลวงเก๋อแล้วเพื่อเป็นการลดความเหนื่อยล้าของฮูหยินผู้เฒ่าเก๋อจากการเดินทางทั้งทางเรือและทางรถม้า ข้าหลวงเก๋อจึงเลือกที่จะเดินทางไปยังเมืองหลวงแดนเทพทางน้ำแทนตระกูลเก๋อเช่าเรือขนาดใหญ่สองลำ ลำหนึ่งสำหรับบรรทุกสัมภาระ และอีกลำหนึ่งสำหรับโดยสารคนข้าหลวงเก๋อได้รับการเลื่อนตำแหน่งครั้งนี้ คงจะมิกลับไปที่เมืองจงกวนอีกแล้ว ดังนั้นเขาจึงนำข้าวของเครื่องใช้ที่มีค่าและคนรับใช้ทั้งหมดที่เต็มใจจะติดตามเขาไปที่เมืองหลวงแดนเทพไปด้วยเรือใหญ่มีอยู่สามชั้น ชั้นล่างสุดเป็นที่พักอาศัยของคนรับใช้ ข้าหลวงเก๋อกับบุรุษในตระกูลเก๋อพักกันที่ชั้นสาม ส่วนเหล่าญาติฝ่ายสตรีก็พักอยู่ที่ชั้นสองสองพี่น้องหลิงอวี๋กับป้าวซวนก็ได้พักในห้องเดียวกัน แม้ว่าจะเล็กไปสักหน่อย แต่พวกนางทั้งสองก็รู้สึกว่าเพียงพอแล้วเส้นทางน้ำนี้ถือว่าเป็นแม่น้ำที่ใหญ่ที่สุดในแดนเทพ แบ่งออกเป็นแม่น้ำในและแม่น้ำนอกเส้นทางที่พวกนางเดินทางกันอยู่นี้คือแม่น้ำนอก ซึ่ง

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1873

    “เหยี่ยวผู้กล้าควรกางปีกบินให้สูง และลอยตัวให้อยู่เหนือเก้าชั้นฟ้า!”เซียวหลินเทียนพูดสิ่งที่เหวินเหรินจิ้นบอกตนออกไปอย่างใจเย็นนี่คือคำพูดที่เหวินเหรินจิ้นพูดกับสือหรงตอนที่ให้เขาออกมาจริง ๆ ตอนนั้นนอกจากเขากับเหวินเหรินจิ้นก็ไม่มีใครอยู่อีกเมื่อสือหรงเห็นว่าคำตอบของเซียวหลินเทียนถูกต้อง ใบหน้าของเขาก็กลับซีดลงทันที ราวกับว่าเขาถูกโจมตีอย่างหนัก“ท่านเจ้าตำหนัก… ท่านเจ้าตำหนักสิ้นแล้วหรือ?”หากมิได้เป็นเช่นนั้น เซียวหลินเทียนจะมีป้ายผู้นำของตำหนักปีกเงินได้อย่างไร และจะรู้ได้อย่างไรว่าเหวินเหรินจิ้นพูดอะไรกับเขา!“อืม ร่างของเขาจะถูกเก็บไว้ในสุสานใต้ดินของตำหนักปีกเงินเป็นการชั่วคราว แล้วในภายหน้าเมื่อข้าสามารถฟื้นคืนตำหนักปีกเงินมาได้ ก็ค่อยนำไปฝังให้ดี ๆ!”แล้วเซียวหลินเทียนก็เอ่ยออกมาอย่างเศร้าใจ“พรึ่บ…”สือหรงคุกเข่าลง แล้วน้ำตาของเขาก็ไหลลงมาอย่างควบคุมมิได้เดิมทีเขาคิดว่าจะหลบไปสักประมาณปีครึ่ง แล้วเจ้าตำหนักก็คงจะเรียกพวกเขากลับไป เมื่อถึงเวลานั้นตำหนักปีกเงินก็จะรุ่งโรจน์เหมือนในอดีตอีกครั้ง ไหนเลยจะคาดคิดว่า การลาจากของเจ้าตำหนักในครั้งนี้จะเป็นการจากลากันไปตลอด

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1872

    กระทั่งลงมาจากภูเขาแล้ว เซียวหลินเทียนก็ให้เหยี่ยวดำจิ่วเทียนไปส่งจดหมายให้กับฉินซาน แล้วตนกับเผยอวี้ก็มุ่งหน้าไปที่หมู่บ้านตงหยวน ซึ่งอยู่ห่างจากตำหนักปีกเงินหลายสิบลี้ เพื่อตามหาสือหรงลูกศิษย์คนสำคัญของเหวินเหรินจิ้น อีกทั้งยังเป็นผู้พิทักษ์ฝ่ายซ้ายของตำหนักปีกเงินด้วยเซียวหลินเทียนไม่มีทางจะไปตามหาคนในรายชื่อของเหวินเหรินจิ้นทีละคนได้ หากเขาคิดที่จะรวบรวมลูกศิษย์ทั้งหมดของตำหนักปีกเงินที่เหวินเหรินจิ้นสั่งให้ออกจากตำหนักโดยเร็ว สือหรงผู้นี้ก็คือบุคคลที่เป็นกุญแจสำคัญเหวินเหรินจิ้นเคยบอกไว้ว่า หากตามหาสือหรงพบ พวกเขาก็จะสามารถตามลูกศิษย์ทั้งหมดกลับมาได้ เพราะว่าสือหรงมีช่องทางติดต่อของพวกเขาทุกคนแต่กระทั่งเซียวหลินเทียนกับเผยอวี้มาถึงหมู่บ้านตงหยวน ก็สายเกินไปเสียแล้ว ชาวบ้านส่วนใหญ่ในหมู่บ้านตงหยวนถูกสังหารหมู่ และทางการก็กำลังนำคนมาเคลื่อนย้ายศพแต่ละศพออกไปเซียวหลินเทียนและเผยอวี้สวมหน้ากากผิวหนังมนุษย์แล้ว เผยอวี้จึงแสร้งทำเป็นเข้าไปตามหาญาติเพื่อสอบถามข้อมูลเมื่อถามไปจึงได้รู้ว่าเมื่อคืนหมู่บ้านตงหยวนถูกโจรกลุ่มหนึ่งมาปล้นทรัพย์ ตระกูลที่มีฐานะดีในหมู่บ้านส่วนใหญ่จึงถูก

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1871

    หวงฝู่หลินก็เหมือนกับเซียวหลินเทียน ในตอนนี้มีคนที่จะต้องเร่งตามหาให้พบ ดังนั้นแม้ว่าจะมีความขัดแย้งต่อกัน แต่เมื่อเผชิญหน้ากับศัตรูที่แข็งแกร่ง พวกเขาก็ทำได้เพียงต้องร่วมมือกันจึงจะต่อต้านศัตรูได้หวงฝู่หลินมองตำหนักปีกเงินที่ค่อนข้างหดหู่นี้ แล้วเอ่ยด้วยเสียงทุ้ม “เซียวหลินเทียน วันนี้เจ้าเปิดเผยเรื่องที่เจ้ามีกระบี่คุนอู๋อยู่ในมือไปแล้ว มหาปราชญ์ไม่มีทางปล่อยเจ้าไปง่าย ๆ แน่!”“พวกเราต้องรีบรวบรวมกลุ่มที่สามารถต่อสู้กับมหาปราชญ์ให้ได้โดยเร็วที่สุด ก่อนที่มหาปราชญ์จะรวมกำลังคนมาจัดการกับเจ้า!”“เจ้าลงจากภูเขาไปรวบรวมบรรดาลูกศิษย์ของตำหนักปีกเงินมา ส่วนข้าจะช่วยหาคนมาสร้างตำหนักปีกเงินขึ้นใหม่เอง!”“หากเจ้าหาลูกสาวของข้าพบก่อน ก็ให้ส่งข้อความมาหาข้า! และหากข้าพบหลิงอวี๋ ข้าก็จะแจ้งเจ้าทันทีเช่นกัน!”เซียวหลินเทียนพยักหน้าโดยมิต้องคิด “ตกลง! เช่นนั้นพวกเราก็แยกกันเป็นสองกลุ่มไปดำเนินการ!”“เผยอวี้ เราลงจากภูเขากันก่อนเถอะ!”หวงฝู่หลินมองเผยอวี้แล้วเอ่ยออกมา “ประเดี๋ยวก่อน…”เขาหยิบยาหนึ่งขวดออกมาจากแหวนพระสุเมรุของตน แล้วโยนไปที่เผยอวี้ “พลังของเจ้าต่ำเกินไป หากเจ้าติดตามเขาก็จ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 1870

    เซียวหลินเทียนฟังแล้วก็ทั้งโกรธทั้งโมโห ก่อนหน้านี้ที่หานเหมยบอกมิได้ละเอียดถึงเพียงนี้ และหานเหมยก็มิเคยบอกด้วยว่าใบหน้าของหลิงอวี๋ถูกจ้าวหรุ่ยหรุ่ยกรีดจนเป็นแผลความทรงจำของหานเหมยสูญหายไปบางส่วน ซึ่งนี่ก็คือผลกระทบที่ได้มาจากการถูกผนึก ดังนั้นจะโทษหานเหมยก็มิได้เมื่อได้ยินว่าหลิงอวี๋สูญเสียวรยุทธ์ไป ทั้งยังถูกเสวี่ยเหมยกลั่นแกล้งอีก เซียวหลินเทียนก็คิดเพียงอยากจะแทงเสวี่ยเหมยและลิ่งหูหลินผู้นั้นให้ตายไปเสียส่วนเรื่องที่หวงฝู่หลินรับหลิงอวี๋เป็นน้องสาวบุญธรรมนั้น เซียวหลินเทียนมิได้คิดเป็นจริงเป็นจังอะไร เขาหรือจะมิรู้ว่าหวงฝู่หลินไม่มีทางรับหลิงอวี๋เป็นน้องสาวบุญธรรมจริง ๆ หรอก“ท่านเจ้าวังของเราให้ป้าวเฉิงไปตามหาหลิงอวี๋ เพราะต้องการจะขอตำรับยาที่นางมีอยู่ในมือ มิใช่เพราะต้องการจะทำให้นางลำบาก!”ปี้ซงอธิบายทุกสิ่งออกมาอย่างชัดเจนแม้ว่าเซียวหลินเทียนจะรู้สึกว่าเขาไม่มีทางพูดความจริงออกมาทั้งหมด แต่ก็ยังเชื่อไปกว่าครึ่งอยู่ดีหลังจากครุ่นคิดดูแล้ว เซียวหลินเทียนก็รู้สึกว่า ในเมื่อหวงฝู่หมิงจูถูกเสวี่ยเหมยจับตัวไป และเสวี่ยเหมยก็เป็นผู้ร้ายที่ลักพาตัวหลิงอวี๋ไปด้วย เช่นนั้นก

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status