หลิงอวี๋ได้ยินคำพูดของมู่หรงชิ่งก็ตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง นางมองมู่หรงชิ่งอย่างสงสัยนี่มันหมายความว่าอะไร?มู่หรงชิ่งรู้จักแม่ของตนจริง ๆ หรือ?มันจะเป็นไปได้เยี่ยงไรกัน?แต่แล้วหลิงอวี๋ก็นึกถึงจี้หยกจากราชวงศ์มู่หรงชิ้นนั้นที่อยู่ในของที่ระลึกของหลานฮุ่ยจวน หรือว่ามู่หรงชิ่งก็รู้ถึงการมีอยู่ของจี้หยกนี้ด้วยเช่นกัน?“ได้สิ!”หลิงอวี๋พยักหน้า เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญมาก เวลานี้ยังมิสะดวกที่จะพูด จึงทำได้เพียงหาเวลาอื่นการแข่งขันเป็นไปอย่างคึกคัก กลุ่มของแต่ละแคว้นล้วนต้องการชัยชนะ ทำได้ดีกันทีเดียวกลุ่มของเซียวหลินเทียนเป็นกลุ่มสุดท้ายเวลาที่สามกลุ่มแรกข้ามแม่น้ำนั้นถูกควบคุมอยู่ภายในเวลาธูปดอกเดียว และทุกกลุ่มต่างมีคนที่ตกน้ำเมื่อคำนวณเช่นนี้แล้ว ช่องว่างของแต่ละกลุ่มมิได้ใหญ่มาก เซียวหลินเทียนแอบคำนวณอยู่ในใจว่าคะแนนรวมของฉีตะวันออกนั้นมากกว่าของเยวี่ยใต้เพียงห้าแต้ม ปัจจุบันเป็นอันดับหนึ่งการข้ามแม่น้ำนั้นขอเพียงร่วมมือกันเป็นอย่างดี ไม่มีอะไรผิดพลาด ภายในเวลานั้นก็จะมิเสียคะแนนมากเกินไปขอเพียงคนของตนระวังมิให้ตกน้ำ ห้าแต้มนี้สามารถแซงหน้าฉีตะวันออกและเป็นที่หนึ่งในรายก
น้ำที่ไหลเชี่ยวพุ่งมาซัดเข้าที่ตัวของกลุ่มเซียวหลินเทียนอย่างท่วมท้น ทำเอาพวกเขาโซเซไป“ระวัง!”“ยึดไว้!”คนจำนวนมากบนฝั่งกรีดร้องออกมาแล้วก็เหงื่อออกอย่างเป็นห่วงพวกของเซียวหลินเทียนกระแสน้ำเช่นนี้หากยืนมิอยู่ ในชั่วพริบตาสามารถซัดพาสมาชิกกลุ่มของเซียวหลินเทียนตกลงไปในน้ำได้เลยแต่กลุ่มของเซียวหลินเทียนกลับดูแลกันและกัน แม้ว่าจะโดนกระแสน้ำเชี่ยวซัดสาดแต่ก็ไม่มีใครตกลงไปในน้ำจักรพรรดิอู่อันเห็นสมาชิกกลุ่มของเซียวหลินเทียนจับมือกันต้านทานคลื่นไว้ก็รู้สึกโล่งใจเล็กน้อย“องค์ชายสี่มีความสามารถจริง ๆ เมื่อเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงกะทันหันก็ยังสามารถสงบได้เช่นนี้…”คำชมของจักรพรรดิอู่อันทำให้องค์ชายเว่ยกับองค์ชายคังรู้สึกมิเห็นด้วยนักรอยยิ้มแปลก ๆ ปรากฏขึ้นที่มุมปากขององค์ชายคัง ยังเร็วเกินไปที่จะพูดเช่นนี้กระมัง!องค์ชายเว่ยยิ้มเยาะในใจอย่างดูถูก เสด็จพ่อชื่นชมเขามาก ประเดี๋ยวมาดูกันว่าเขาจะเสียหน้าอย่างไรเป็นดังที่คาด ยังมิทันที่จักรพรรดิอู่อันจะพูดจบ ก็เห็นกลุ่มของเซียวหลินเทียนที่ด้านล่างนั้น จู่ ๆ สมาชิกหลายคนในกลุ่มที่ยืนอยู่บนกระดานไม้ก็ก้าวพลาดตกลงไปในน้ำในมุมมองของคนบ
เซียวหลินเทียนมองกล้ามเนื้อของมู่เหลิงแล้วยิ้มอย่างมีความหมาย “หัวหน้ามู่ อยากจะประลองก็มีโอกาสมากมาย ข้าจะให้โอกาสนั้นแก่เจ้าอย่างแน่นอน!”องค์ชายอิงมองคนสองคนเอ่ยคุยกันด้วยรอยยิ้ม แม้ว่าเขาจะเกิดมาพร้อมกับพละกำลังที่ดุร้าย แต่ก็มิใช่คนไร้สมองเขารู้แล้วว่าเหตุใดองค์ชายหนิงถึงเอาโม่เหอเดิมพันมากับจักรพรรดิอู่อัน!แม้ว่าเซียวหลินเทียนจะชนะแล้วได้รับโม่เหอไป เขาก็มิกลัว สถานที่ผีเช่นโม่เหอได้คร่าชีวิตคนของตนไปมากมายในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เขามิเชื่อว่าเซียวหลินเทียนสามารถอยู่รอดในโม่เหอได้สำหรับเหมืองถ่านหินเหล่านั้น องค์ชายอิงก็มิได้อิจฉาตาร้อนเช่นกัน หากเซียวหลินเทียนสามารพาคนไปขุดได้ก็ต้องขนส่งออกมาเขายังหวังว่าจะมีคนช่วยตนไปขุด เช่นนี้เขาจะได้ขวางทางแล้วแย่งชิงมันได้ราษฎรของเว่ยเหนือมิได้มากเท่าฉินตะวันตก แรงงานจึงขาดแคลน แทนที่จะทำเอง เขาชอบที่จะได้อะไรมาโดยมิต้องออกแรงมากกว่า!องค์ชายหนิงอยู่ในเพิงพักผ่อนข้าง ๆ เขามิได้ซ้ำเติมในสถานการณ์ยากลำบากของเซียวหลินเทียน เพียงแค่มองเซียวหลินเทียนอย่างครุ่นคิดเท่านั้นคนนอกดูเอาสนุก ส่วนคนในมองที่หนทางองค์ชายหนิงเองก็เป็นผู้นำทัพ
“กระดานไม้เป็นอะไรไป? เหตุใดมิตรวจสอบก่อนการแข่งขัน?”เซียวหลินเทียนกับสมาชิกกลุ่มเปลี่ยนอาภรณ์แล้วก็มาซักถามอันเจ๋อด้วยใบหน้าเคร่งขรึมอันเจ๋อรับผิดชอบเรื่องกองหนุน เขาเองก็รู้สึกละอายใจเช่นกันที่เป็นเพราะกระดานไม้แผ่นเดียวที่ทำส่งผลกับการเป็นที่หนึ่งของพวกเขา เรื่องนี้พูดไปแล้วก็เป็นเรื่องน่าละอายจริง ๆ!“ขอประทานอภัยพ่ะย่ะค่ะ มันเป็นความผิดของกระหม่อมเอง! กระหม่อมจัดการมิดี พบปัญหาของกระดานไม้มิทันเวลา!”อันเจ๋อต้องการตบตนเองสองสามครั้ง มันเป็นเพราะกระดานไม้พังเสียหาย ถึงทำให้พวกเขาพ่ายแพ้ในการแข่งขันนี้ เขาไม่มีหน้าจะโต้แย้งเลย“นี่เป็นความผิดของเจ้า เจ้ามิสามารถเลี่ยงความรับผิดชอบไปได้!”“อีกอย่าง น้ำที่ต้นน้ำไหลมาอย่างอธิบายมิได้ นี่เป็นความประมาทเลินเล่อของตัวข้าเอง ข้าจะทบทวนตัวเอง!”ความผิดที่น่าจะเป็นของตนเองเซียวหลินเทียนก็มิสามารถเลี่ยงได้ จึงเอ่ยเสียงเย็นชา“วันนี้มันเป็นความผิดของตัวข้ากับอันเจ๋อที่ทำให้ทุกคนพ่ายแพ้ ข้ากับอันเจ๋อจะจดการโบยไม้ทหารไว้สิบไม้! หลังจากจบการแข่งขันแล้วเรามาว่ากัน!”“เรื่องที่ประมาทกันในวันนี้ทุกคนต้องถือเป็นบทเรียน ในการแข่งขันอีกหลายว
มีความกล้าหาญ มีไหวพริบ มีความสามารถ และงดงาม พระชายาอ๋องอี้ผู้นี้เป็นสตรีเพียงผู้เดียวที่ที่องค์ชายหนิงเจอตั้งแต่มาถึงฉินตะวันตก!เรื่องที่เซี่ยโฮ่วตานรั่วเฆี่ยนตีคนจนตายเมื่อวานนี้ องค์ชายหนิงรู้สึกว่ามันมีลับลมคมใน ทันทีที่เขาได้ข่าวก็เข้าวังไปปกป้องเซี่ยโฮ่วตานรั่วก่อนเลยหลังจากกลับจากวังไปถึงที่พัก องค์ชายหนิงก็เรียกซินจิ้งแล้วให้นางเล่าเรื่องราวทั้งหมดตั้งแต่ต้นจนจบให้ตนเองฟังโดยละเอียดหลังจากฟังแล้ว องค์ชายหนิงก็พอจะเข้าใจว่ามันเกิดอะไรขึ้น!เขามิโกรธหลิงอวี๋ที่วางแผนกับเซี่ยโฮ่วตานรั่วเขาแค่รู้สึกว่าน่าสนใจ เห็น ๆ อยู่ว่าพระชายาอ๋องอี้เป็นคนฉลาดเช่นนี้ แต่เหตุใดเมื่อก่อนนางกลับเคยมีชื่อเสียงว่าเป็นคนโง่เขลาได้เล่า?คนที่ผู้แข็งแกร่งเคารพคือผู้แข็งแกร่ง!องค์ชายหนิงรู้สึกว่าตนเป็นคนฉลาดมาก ใต้หล้านี้มีคนน้อยนักที่เทียบกับตนได้สิ่งที่เขาขาดคือโอกาส หากเขาเกิดในฉินตะวันตก เขาคงจะใช้ประโยชน์จากสภาพอากาศและสถานที่ตั้งที่เอื้ออำนวยของฉินตะวันตกยึดครองทั้งสี่แคว้นไปแล้วแต่เพราะเขาเกิดในฉีตะวันออก ความทะเยอทะยานทั้งหมดของเขาจึงถูกจำกัดด้วยสภาพอากาศและสถานที่ที่เหมาะสม เขา
ในการแข่งขันวันที่สี่ เพราะสามวันแรกเซียวหลินเทียนชนะไปสี่รายการ จึงเพิ่มขวัญกำลังใจได้มาก คนที่มาดูความคึกคักก็เพิ่มมากขึ้นแล้ว ทุกคนต่างตั้งตารอกลุ่มของเซียวหลินเทียนคว้าอันดับหนึ่งในสองรายการของวันนี้แม้ว่าจะมิสามารถเป็นที่หนึ่งได้ทั้งสองรายการ ทว่าหากได้มาหนึ่งในนั้น ก็จะแซงหน้ากลุ่มขององค์ชายหนิงอย่างมั่นคงแล้วแต่การแข่งขันแรกคือการขุดอุโมงค์ ทุกคนในกลุ่มขององค์ชายอิงล้วนแข็งแกร่งมาก แต่กลุ่มของเซียวหลินเทียนกับองค์ชายหนิงมิสามารถเอาชนะความแข็งแกร่งทางกายภาพของพวกเขาได้เลย เซียวหลินเทียนกับองค์ชายหนิงจึงยังคงเป็นคะแนนสี่ต่อสามอยู่การแข่งขันที่สองคือการปีนป่าย นี่คือการแข่งขันความเร็วของแต่ละกลุ่มในการประกอบและสร้างบันไดหากเซียวหลินเทียนชนะการแข่งขันนี้ก็จะเป็นห้าต่อสาม เว้นเสียแต่ว่าองค์ชายหนิงจะคว้าอันดับหนึ่งได้ทั้งสองรายการแข่งขันในวันที่ห้า มิเช่นนั้นก็จะแพ้เซียวหลินเทียนขาดลอยดังนั้น การแข่งขันปีนป่ายจึงเป็นรายการที่สำคัญมากก่อนหน้านี้หลิงอวี๋เคยบอกเซียวหลินเทียนกับท่านจินต้าถึงสิ่งที่ตนรู้เกี่ยวกับบันไดแล้ว หลังจากที่ทั้งสามคนทำงานร่วมกับช่างฝีมือแล้วก็ปรับเปลี่ย
ยังมิทันที่องค์ชายเว่ยจะได้โต้แย้งหลี่ว์เซียง องค์ชายคังก็ยิ้มพลางเอ่ย “พี่ใหญ่ น้องสี่เป็นตัวแทนฉินตะวันตกออกไปสู้ พวกเราก็ควรรอดูชัยชนะของเขาสิ!”“เขาสามารถคิดบันไดที่ล้ำหน้าออกมาได้ นี่คือความภาคภูมิใจของเสด็จพ่อ และเป็นความโชคดีของฉินตะวันตกของเราด้วย!”จ้าวฮุยพยักหน้า ในที่สุดองค์ชายคังก็เปิดกว้างแล้วตอนนี้จักรพรรดิอู่อันคิดถึงแค่การชนะแล้วได้สองเมืองมาเท่านั้น เขามีความคาดหวังกับเซียวหลินเทียนเป็นอย่างมากเขาจะฟังคำพูดที่มิเป็นผลดีต่อเซียวหลินเทียนไปได้เยี่ยงไร!มีสุภาษิตพื้นบ้านกล่าวไว้ว่า ยิ่งปีนขึ้นไปสูง เมื่อตกลงมาก็จะยิ่งน่าสงสารในทำนองเดียวกัน ต่อหน้าจักรพรรดิอู่อัน ยิ่งยกเซียวหลินเทียนขึ้นสูงเท่าไหร่ เมื่อถึงเวลาที่เซียวหลินเทียนพ่ายแพ้ ช่องว่างในใจของจักรพรรดิอู่อันก็จะยิ่งใหญ่ขึ้นแล้วก็จะยิ่งโกรธเซียวหลินเทียนมากขึ้นแน่นอนว่าจักรพรรดิอู่อันชื่นชมในคำพูดขององค์ชายคัง เขาเหลือบมององค์ชายเว่ยอย่างมิพอใจ พลางตำหนิ“น้องสองของเจ้าพูดถูก ตอนนี้องค์ชายสี่เป็นตัวแทนฉินตะวันตกไปแข่งขัน เขาสามารถคิดค้นบันไดที่สู้อีกสามแคว้นได้ พวกเราก็ควรจะมีความสุขไปกับเขา!”“เหตุใดเล
“นั่นสิ การแข่งขันในสามวันแรกก็ดูดีอยู่หรอก มาวันนี้มีพิรุธเสียแล้ว! ท่านอ๋องอี้ ท่านนำทัพมิได้จริง ๆ! ยอมรับความพ่ายแพ้ไปเถิด!”มีคนเอ่ยขึ้นมาอย่างดูถูก “ดูกลุ่มขององค์ชายอิงสิ พวกเขาล้วนเป็นชายร่างกำยำทั้งนัน กลุ่มของท่านอ๋องอี้ ทหารเหล่านี้ล้วนดูป่วยไข้ เทียบมิได้เลยจริง ๆ!”องค์ชายหนิงเห็นว่ากลุ่มของมู่หรงเหยียนซงตามพวกเขามาทันแล้ว จึงทำท่าทางให้ทหารที่เข็นเกวียนเร่งความเร็วขึ้น“อ๋องอี้ ข้าขอไปก่อนแล้ว!”ตอนที่องค์ชายหนิงแซงหน้ารถของเซียวหลินเทียนไป สายตาก็จ้องมองโครงแปลก ๆ นั้นอีกครั้ง เขารู้สึกว่าของวิเศษที่เซียวหลินเทียนคิดว่าจะได้ชัยชนะคือโครงนี้เขาคิดมิออกถึงประโยชน์ของโครงนี้เลย จึงทำได้แค่แอบคาดเดาเท่านั้นเมื่อเห็นว่ามีเพียงระยะห่างห้าร้อยเมตรแล้ว เซียวหลินเทียนจึงสัญญาณมือ เมื่อเผยอวี้เห็นก็ฉายยิ้ม ตอนนี้ถึงคราวที่พวกเขาต้องแสดงบ้างแล้วสินะพวกทหารก้าวไปข้างหน้าทันที แล้วติดตั้งยางหุ้มไว้บนล้อแต่ละล้อด้วยความรวดเร็วคนที่มาดูความคึกคักอยู่ข้างนอกเห็นว่าเกวียนบรรทุกบันไดของท่านอ๋องอี้หยุดลง และทหารเหล่านั้นกำลังซ่อมล้ออยู่ คนที่ตั้งตารอให้เซียวหลินเทียนพ่ายแพ้ก็ก่