Share

บทที่ 115

Penulis: ฉินอันอัน
ใคร?

ใครคือผู้ที่จะทำให้อ๋องฉีเดือดร้อน?

แต่ชีหยวนไม่ได้พูดอะไรอีก นางลงจากรถม้าและเดินเข้าประตูตรงมุมบ้านของตระกูลชีโดยตรง

ลมพัดแขนเสื้อของนางขึ้น และเซียวอวิ๋นถิงเพิ่งพบว่า นางผอมจนน่าสงสารไปหน่อยจริง ๆ

หลายปีมานี้ นางดิ้นรนในชนบทอย่างยากลำบาก หลังจากกลับมา ยังต้องวางแผนสารพัด ทุ่มเทแรงกายแรงใจเช่นนี้ คงจะแปลกถ้าสามารถขุนให้อ้วนขึ้นได้

เซียวอวิ๋นถิงลดตาลง และปาเป่าก็รีบถามเขา: “ท่านอ๋อง ท่าน…...”

“ไป ตรวจสอบคนทางนั้นดู! คนผู้นั้นก็น่าจะทรมานพอประมาณแล้ว? ไปตรวจดูหน่อย!” เซียวอวิ๋นถิงกดหว่างคิ้วของเขา

ฟังจากคำพูดนี้ของเขา มันชัดเจนว่าเขาเชื่อชีหยวนอย่างเต็มที่

ปาเป่าตอบรับด้วยเสียงต่ำ แล้วขับรถม้าออกไป

ที่ตระกูลชี พอทราบว่าชีหยวนกลับมาแล้ว นางหวังก็รีบเรียกนางเข้าไป ถามด้วยความไม่พอใจเท่าไรนัก “ไฉนถึงไปนานเช่นนี้!”

“องค์หญิงใหญ่มีคำพูดที่ต้องกำชับข้า ดังนั้นจึงใช้เวลานานไปเสียหน่อย” ชีหยวนถามอย่างเรียบเฉย “ฮูหยินมีเรื่องอันใดหรือ?”

นางหวังกลั้นอารมณ์ที่ยากต่อการจัดการ ถ้านางไม่ได้มีเรื่องอะไรหรือไม่มีธุระ ก็ไม่คู่ควรที่จะคุยกับลูกสาวคนนี้แล้วหรือไง?

คนไม่ที่รู้ จะแยกออกได้
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci

Bab terkait

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 116

    ตอนนี้จากกำไลวงเดียว ชีหยวนสามารถเห็นถึงความผิดปกติ ก็แสดงให้เห็นว่าข้อนี้มีความสำคัญแค่ไหนแม้แต่นางหวังก็ไม่ได้สังเกตเห็นความแตกต่างนี้แต่ความแตกต่างที่ประจวบเหมาะนี้เอง ที่บางครั้งอาจส่งผลให้ทั้งครอบครัวต้องสูญเสียอนาคตหรือกระทั่งชีวิตได้ทุกคนต่างถอนหายใจด้วยความโล่งใจท่านโหวผู้เฒ่าถามชีหยวน: “อาศัยเพียงสิ่งนี้หรือ?”ชีหยวนเลิกคิ้วขึ้น: “ก็ไม่ใช่ หลังจากที่ข้ารู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ ข้าก็เคยจับตาดูนาง พบว่าสาวใช้และแม่นมข้างกายนางออกจากจวนบ่อยกว่าบ่าวรับใช้ทั่วไป และขยันขันแข็งนัก มักจะออกไปเมื่อวานรอบหนึ่ง พอวันรุ่งขึ้นก็ออกไปอีกรอบ”หญิงสาวที่อาศัยต่างถิ่น ไฉนเลยจะมีธุระให้ออกไปได้บ่อยครั้งนัก?ท่านโหวผู้เฒ่าจ้องมองชีเจิ้นด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความตำหนิหากเจ้าบ้านระมัดระวังมากกว่านี้ คงจะรู้เรื่องนี้แน่นอนชีเจิ้นก็รู้สึกอับอายเช่นกันท่านโหวผู้เฒ่าถอนหายใจ “อาหยวน เจ้านี่เก่งจริงๆ”แน่นอนว่าเก่งอยู่แล้ว กฏมารยาทความรู้ไม่มีขาด ทั้งยังสามารถชนะใจองค์หญิงใหญ่ สามารถเชิญองค์หญิงใหญ่ให้ลงจากเขาได้อีกด้วยแต่ชีหยวนส่ายหน้า: “ท่านปู่ ท่านพ่อ ยังเร็วเกินไปที่จะชมเชย ป

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 117

    สีหน้าของชีเจิ้นซีดลงเรื่อย ๆ พอเขารู้สึกตัว เขาก็รู้สึกถึงเหงื่อเย็นบนแผ่นหลัง ขนลุกไปทั้งตัวอ๋องฉีเป็นหมาป่าที่ทะเยอทะยานและหิวโหยอย่างแท้จริง!และไม่รู้ว่าเขารู้ภารกิจของตนได้อย่างไร ถึงกับติดสินบนหานเยว่เอ๋ออย่างลับๆ ให้หานเยว่เอ๋อทำหน้าที่เป็นเบี้ยลับในการล้วงหาข้อมูลอาจเป็นเพราะการสืบไม่เกิดผล เมื่อเร็ว ๆ นี้อ๋องฉีจึงได้เปิดเผยความตั้งใจที่จะเกี่ยวดองหากแต่งงานกันแล้ว ก็จะกลายเป็นครอบครัวเดียวกันไม่ใช่หรือ?ชีเจิ้นถามกับตัวเอง ถ้าเขาได้เกี่ยวดองกับอ๋องฉี เช่นนั้น จะยังสามารถรักษาจุดยืนของเขาไว้ไม่เอนเอียงไปทางอ๋องฉีได้หรือไม่?คำตอบคือไม่ได้ขุนนางผู้ได้รับใช้เคียงบ่าเคียงไหล่กษัตริย์ เรื่องดีที่จะถูกจารึกไว้ในหน้าหนึ่งของลำดับวงศ์ตระกูลเช่นนี้ ไม่มีชายใดจะปฏิเสธได้ แน่นอนว่าเพื่อประโยชน์ของตัวเองและตระกูลชี เขาจะเข้าข้างลูกเขย ยอมต่อสู้เพื่ออนาคตของลูกเขยและตระกูลของเขาทว่า มันเป็นเรื่องปกติที่เขาจะรู้หลักการเหล่านี้แต่เหตุไฉนชีหยวนถึงรู้ได้?ชีเจิ้นมองพิจารณาชีหยวนอย่างจริงจังเยี่ยงนี้เป็นครั้งแรก ถามด้วยเสียงทุ้มลึกอย่างฉับพลัน: “เจ้าเป็นใครกันแน่?”นี่คือบุต

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 118

    โชคดีที่เขาไม่ได้ดื่มชา มิเช่นนั้นลองดูบุตรชายเขาสิ น่าเขินอายแค่ไหน!ท่านโหวผู้เฒ่าปรับสีหน้าให้สุขุม ส่งเสียงไอสองครั้ง ดุด้วยเสียงต่ำว่า “อย่าพูดเหลวไหล!”เขาเพียงแต่ต้องการจะแก้ไขปัญหานี้ แม้ว่าเมื่อถึงเวลานั้นเขาจะต้องคุกเข่าคำนับต่ออ๋องฉีก็ตาม ตราบใดที่สามารถจัดการปัญหานี้ได้ก็จะชนะแล้วทำอะไรพอประมาณ เพื่อง่ายต่อการพบกันวันหน้าเป็นจริงที่ว่ามดสามารถต่อสู้กับมดได้ แต่หากมดต่อสู้กับนกขมิ้น นั่นมันเสียสติอย่างยิ่ง?ตอนนี้ล่วงเกินอ๋องฉี เป็นเพียงเรื่องสุดวิสัย มีผู้คนจำนวนมากคอยจับตาดูพวกเขาอยู่ ตระกูลชีแบกรับชื่อเสียงว่าสมคบคิดกับท่านอ๋องไม่ไหวทว่า ใครจะไร้เดียงสาถึงขั้นคิดจะสังหารท่านอ๋องกันล่ะ?ชีหยวนกลับแสดงสีหน้าจริงจัง ยืดตัวตรง นางยิ้มอย่างเย็นชา: “มิได้พูดเหลวไหลเจ้าค่ะ ตระกูลชีตอนนี้เป็นหนามยอกอกของอ๋องฉี จำต้องกำจัดให้เร็วที่สุด”ชีเจิ้นไม่เชื่อ เรื่องนี้เดิมทีอ๋องฉีเป็นคนผิดก่อน พวกเขาก็แค่สู้กลับอ๋องฉีไม่ใช่คนบ้าเสียหน่อย ที่จะรีบร้อนกำจัดจวนโหวขนาดนั้น?เห็นถึงทัศนคติของพวกเขา ชีหยวนก็ไม่ได้พูดอะไรมาก เพียงแค่ยิ้มเล็กน้อย “ท่านปู่ ท่านพ่อ ข้าเหนื่อยเล็กน้อย

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 119

    ชีอวิ๋นถิงปิดหน้าโดยไม่รู้ว่าตนทำอะไรผิดอีกหรือเป็นเพราะเรื่องที่ชิงซงไปเผาศาลบรรพบุรุษ?แต่นั่นไม่ถูกต้อง หลังจากเผาศาลบรรพบุรุษแล้ว ท่านพ่อและคนอื่น ๆ ยิ่งควรคิดว่าชีหยวนเป็นสัตว์เดรัจฉาน และไล่นางออกไปทันทีมิใช่หรือ?เช่นนั้น แล้วมันเป็นเพราะอะไรล่ะ?!หลังจากที่ชีเจิ้นออกไป ชีอวิ๋นถิงก็เอามือปิดหน้า คิดอย่างเหม่อลอยอยู่นาน และดุใส่หญิงรับใช้ที่อยู่ข้างๆ “ไป! ไปเชิญคุณหนูหานมา เร็วเข้า!”เขาอยากถามนักว่า เกิดอะไรขึ้นกันแน่!ท่าทีของสาวรับใช้ล้วนแปลกประหลาดมากยังคงเป็นแม่นมของชีอวิ๋นถิงที่ก้าวออกมา ถอนหายใจ “คุณชาย ล้มเลิกความคิดนี้เสียเถอะ ท่านจะไม่มีวันได้พบกับคุณหนูหานอีกแล้ว”ไม่ได้พบอีกแล้ว?ชีอวิ๋นถิงตกตะลึง พ่อแม่ของหานเยว่เอ๋อล้วนเสียชีวิตทั้งคู่ และครอบครัวของนางไม่ใช่คนดี ดังนั้นนางจึงถูกฝากไว้ให้ตระกูลชีดูแล นางเป็นเหมือนคนในตระกูลชี ภายภาคหน้าจะแต่งงานก็ต้องอยู่ในตระกูลชีเหตุใดจึงไม่ได้พบกันอีกต่อไป?นอกจากนี้ คำพูดนี้เหตุใดจึงฟังดูคุ้นเคยนัก?ดูเหมือนเขาจะเคยได้ยินประโยคนี้มาก่อนในเวลาอื่นเมื่อไหร่กันนะ?เขาจำได้แล้ว เป็นตอนที่นางหวังบอกกับเขาอย่างจริงจ

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 120

    อ๋องฉีช่างใช้ไม่ได้เสียจริง มีสัมพันธ์ลักลอบเป็นชู้กับลูกสาวบุญธรรมของคนอื่น ทั้งยังสืบข่าวในเรือนของคนอื่นอีกด้วย นี่มันใช้ได้ที่ไหนกัน?ผู้ตรวจการโจวปิดสาส์นด้วยความฉับไว เขาเองก็ขมวดคิ้วและส่ายหัว ใช้ไม่ได้ ใช้ไม่ได้จริงๆ!ขณะที่เขากำลังคิดเช่นนี้อยู่ เลขาก็เข้ามาแจ้งเรื่องที่หานเยว่เอ๋อกำลังคุกเข่าอยู่ด้านนอกผู้ตรวจการโจวตอบรับ จำได้ทันทีว่าหานเยว่เอ๋อเป็นลูกสาวของสหายเก่าของเขาทว่า.....เขาลุกขึ้นยืน คิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วก็ออกไปด้วยตัวเองหานเยว่เอ๋อยังคงคุกเข่าอยู่บนพื้นกระเบื้อง ผู้คนเดินเข้าออกหน้าประตู หลายคนก็จับตามองไปที่ตัวนางผู้ตรวจการโจวลงบันไดมาหยุดอยู่ตรงหน้านาง: “ลุกขึ้นเถิด! เจ้ามาที่นี่ มีเรื่องอันใดรึ?”หานเยว่เอ๋อสะอื้นไห้และร้องออกมา: “ท่านอาโจว! เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับท่านอ๋อง! ท่านอ๋องไม่ได้ขอให้ข้าสืบหาข่าวของตระกูลชีเป็นการส่วนตัว ทุกอย่างข้าทำด้วยตัวข้าเอง! ข้ากับท่านอ๋อง…...”เมื่อนางกล่าวถึงตรงนี้ นางก็คร่ำครวญและแก้มของนางก็แดงก่ำ “ข้าและท่านอ๋องต่างก็รักใคร่กัน อันที่จริงแล้ว ข้าและท่านอ๋องต่างก็รู้ใจกันมาเป็นเวลานานแล้ว! ด้วยเหตุนี้ ระหว่างคน

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 121

    เสียงกัมปนาทดังขึ้น ราวอสนีบาตสายหนึ่งฟาดลงมา ฉีอ๋องถามอย่างตกตะลึงว่า “พระราชทานสมรสอะไรกัน พระราชทานสมรสอะไร?”เขาเป็นโอรสมังกร ยิ่งเป็นบุตรชายแท้ๆ ของเสี่ยวหลิ่วกุ้ยเฟย ยามอยู่ในวังนอกจากรัชทายาท นับว่าฐานะของเขาสูงที่สุดและได้รับความรักจากฮ่องเต้มากที่สุดด้วยนับตั้งแต่เด็ก ฮ่องเต้หย่งชางก็นำความรู้สึกผิดต่อพระชายาหลิ่วมาไว้ที่ตัวเขา ตามใจเขาอย่างมากเจ็ดขวบเขาก็ได้รับการแต่งตั้งเป็นอ๋อง ที่ดินศักดินาคือมณฑลเหอหนานซึ่งเป็นดินแดนอันอุดมสมบูรณ์ในที่ราบภาคกลาง แม้จะยังมิได้ย้ายไปประจำที่ที่ดินศักดินา แต่องครักษ์ที่มอบให้เขาก็เพิ่มจำนวนไปถึงห้าหมื่นแล้วและเนื่องจากเขายังไม่ได้แต่งงาน ฮ่องเต้หย่งชางจึงอนุญาตให้เขาเข้าออกวังได้ตามใจ กระทั่งตัดใจให้เขาย้ายไปอยู่ที่เขตศักดินาไม่ได้ด้วยความโปรดปรานเช่นนี้ เขาจะไม่เกิดความคิดอื่นขึ้นมาได้อย่างไร?รัชทายาท?รัชทายาทแล้วอย่างไร?!หากมิใช่เพราะตอนนั้นฮองเฮาเฝิงเจ้าเล่ห์เพทุบาย แล้วยังมีตระกูลเฝิงที่ควบคุมการป้องกันในเมืองหลวง กุมทรัพย์สินเงินทองอยู่ในมือ ฮองเฮาเฝิงจะมีโอกาสเป็นฮองเฮาได้อย่างไรรัชทายาทยิ่งไม่ต้องพูดถึง! ร่างกายอ่อนแอ

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 122

    แต่งงาน?!แต่งงานบ้านบ้าบออะไร!เพียงครู่เดียว ขันทีสวีก็เข้ามาอย่างเร่งร้อนฉีอ๋องเหลือบมองเขาทีหนึ่ง มิได้กล่าวสิ่งใดแต่ขันทีสวีรู้ดีว่า นี่เป็นความหมายว่าจงอย่างพร่ำเรื่องไร้สาระ เขาจึงก้าวสองสามก้าวแล้วลดเสียงลงว่า “ท่านอ๋อง แม่นางหานแอบหนีออกไปพบผู้ตรวจการโจวของสำนักตรวจการอย่างลับๆ คุกเข่าที่หน้าประตูขอร้องให้ผู้ตรวจการโจวส่งนางกลับตระกูลชีขอรับ”เขากล่าวจบก็มองสีหน้าของฉีอ๋อง จากนั้นก็ไม่กล้ากล่าวสิ่งใดอีก ได้แต่ถอยไปยืนอยู่ด้านข้างในห้องเงียบงันเป็นเวลานาน บรรยากาศกดดันไร้สุ้มเสียงเป็นเวลานานหลังจากนั้น ฉีอ๋องก็กวาดของทั้งหมดบนโต๊ะลงพื้น ถ้วยน้ำชาและแจกันลายสีครามประดุจฟ้าหลังฝนอันล้ำค่า ล้วนหล่นลงบนพื้น บังเกิดเสียงดังสนั่นขันทีสวีมีสีหน้าหวาดหวั่น “ท่านอ๋องรักษาสุขภาพด้วยพ่ะย่ะค่ะ”ดี! ดี! ดีนัก!ดวงตาของฉีอ๋องเปล่งแสงเยียบเย็นออกมา ประดุจหมาป่าที่ถูกทำให้โมโหตัวหนึ่งหานเยว่เอ๋อช่างดีนัก! กล่าวกระไรว่าที่ไปหาผู้ตรวจการโจวก็เพื่อตน นางจะรับความผิดทั้งหมดไว้เองแต่ลูกไม้เล็กๆ เช่นนี้จะตบตาฉีอ๋องได้อย่างไร?นางจงใจทำให้เรื่องใหญ่ชัดๆในวังจึงได้ประกาศราชโองการพร

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 123

    หัวใจทั้งดวงของหานเยว่เอ๋อเต้นระรัว ตลอดทั้งคืนล้วนไม่อาจข่มตาเช้าวันรุ่งขึ้นเมื่อลืมตาขึ้นมา กระทั่งมาอยู่ต่อหน้ากระจกแต่งตัว นางจึงได้กล้าเชื่อว่า ตนได้กลายเป็นว่าที่พระชายาของฉีอ๋องในอนาคตแล้วราชโองการจากโอรสสวรรค์ ทรงให้คำมั่นด้วยพระองค์เองดังนั้น ทั่วทั้งเมืองหลวง ไม่สิ หลังจากที่สารถูกส่งไปยังที่ต่างๆ ผู้คนทั่วหล้าย่อมได้รู้ว่า นางจะกลายเป็นพระชายาของฉีอ๋องแล้วได้เชิดหน้าชูตาเสียที ช่างสาแก่ใจเหลือเกิน!นางสางผมของตนอย่างช้าๆ ค่อยๆ คลี่ยิ้มออกมาหน้ากระจกอย่างลำพองชีจิ่น ชีหยวนอะไรกัน?นังโง่ชีจิ่นนั่นตายไปแล้วส่วนนังชีหยวนนั่นเหอะเหอะ คิดว่าตัวเองแน่ ต่อให้นางสามารถเลียนแบบลายมือของนางปลอมจดหมายแล้วอย่างไร?นางอาศัยเพียงตนเอง ก็สามารถสร้างหนทางออกมาอีกสายได้เช่นกัน!นังบ่าวชั้นต่ำที่กลับมาจากชนบทนั่นไม่มีทางจินตนาการออกว่า ฐานะ ‘พระชายา’ นี้สูงส่งเพียงใดนับจากบัดนี้ไป ยามที่ชีหยวนพบนาง จะต้องคุกเข่าถือรองเท้าให้นางอย่างต่ำต้อยนบนอบ (คุกเขาแทบเท้านาง)เหลียนเอ๋อร์ที่อยู่ข้างกายนางก็แย้มยิ้มอย่างเบิกบานเช่นเดียวกัน ยิ่งเสี่ยงผลตอบแทนก็ยิ่งสูงจริงๆ เมื่อวานยังไม

Bab terbaru

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 496  

    หากว่ามี เช่นนั้นก็ต้องเลี้ยงดูให้ดี หากว่าไม่มี เช่นนั้นก็ต้องคิดหาหนทางเลือกเด็กสักคนในตระกูลมาเป็นบุตรบุญธรรมของเขา เพื่อจะได้เป็นทายาทสืบทอดวงศ์ตระกูล ขณะที่กำลังคิดสะระตะ เขาพลันได้ยินเสียงลมหายใจระลอกหนึ่งพัดผ่านข้างใบหู เสียงลมหายใจ! ทว่าในห้องมีเขาอยู่เพียงคนเดียว! เสี้ยวพริบตาเดียวสวีฮว่านพลันรู้สึกเส้นขนลุกชันไปทั่วทั้งตัว สติหลุดออกจากร่าง และทันใดนั้นก็คิดจะหมุนศีรษะกลับไปโดยสัญชาตญาณ ทว่าจังหวะที่เขากำลังคิดจะผินศีรษะกลับไป กริชเล่มหนึ่งก็ปักลงบนลำคอของเขาอย่างเงียบเชียบไร้เสียง หลังจากนั้นเขาได้ยินเสียงหัวเราะเบา ๆ เสียงนี้ชัดเจนว่าเป็นเสียงของดรุณีน้อยงามเพริศพริ้งสดใส เหมือนกับเสียงของบุตรสาวของเขาที่เข้ามาออดอ้อนเขาในยามปกติ ทว่าในเสี้ยวขณะนี้เวลานี้ เขากลับไม่รู้สึกว่าเสียงนั่นกำลังออดอ้อนสักนิด! เพื่อแสดงออกถึงความซื่อสัตย์สุจริตของตนเองแล้ว เรือนของเขายังต้องเช่าอาศัย และในเมื่อเรือนยังต้องเช่าอาศัย ดังนั้นในเรือนย่อมไม่สามารถมีบ่าวรับใช้ที่มากเกินไปได้ ยิ่งไปกว่านั้นยังไม่สามารถมียามเฝ้าเรือนได้ด้วย ดังนั้นองครักษ์เหล่านั้นของเขา ล้วนแต่ถูกเลี

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 495  

    อาภรณ์ชุดใหม่ในเรือนตัดเย็บเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว ปีนี้นับเป็นปีที่หาได้ยากที่เหล่าดรุณีสกุลสวีจะได้สวมเสื้อคลุมขนสัตว์ออกไปเที่ยวชมพระโพธิสัตว์ สกุลสวีทั้งเบื้องบนเบื้องล่างต่างปีติยินดี แม้แต่ฮูหยินสวีก็ยังแต่งกายด้วยอาภรณ์ชุดใหม่ทั้งตัว ในปีนี้นางสวมเสื้อนวมสองชั้นที่ทำจากผ้าไหมฝูกวงซึ่งเป็นแบบที่ทันสมัยที่สุด ข้างนอกคลุมด้วยเสื้อคลุมขนนกยูง มองแล้วดูหรูหราเจิดจ้าจับตา เดิมทีนางรู้สึกประหม่าอยู่เล็กน้อย ก่อนออกจากเรือนยังถึงขั้นถามสวีฮว่านขึ้นมาเป็นพิเศษว่า “วันนี้เป็นวันที่สาม ต้องขึ้นเขาไปกราบไหว้พระโพธิสัตว์ จุดธูปทอนน้ำมัน ทว่าก็มีบรรดาสตรีผู้มีหน้ามีตาในเมืองหลวงไปที่นั่นด้วยเช่นกัน พวกเราแต่งกายเช่นนี้ เหมาะสมแล้วหรือ?” หลายปีที่ผ่านมานี้ บรรดาสตรีในสกุลสวีได้ชื่อว่ามัธยัสถ์เรียบง่ายมาตลอด แต่กระนั้นก็ไม่มีใครดูถูกดูแคลนพวกนาง ใครต่างก็รู้ว่าในเมืองหลวงสวีฮว่านขึ้นชื่อว่าสุจริตมือสะอาด งานเลี้ยงของคนอื่น งานสังสรรค์สุราของคนอื่น เขาไม่เคยไปร่วมเลยสักครา เพราะไปกินของคนอื่น ย่อมเลี่ยงไม่ได้ต้องเชิญคนอื่นมากินเลี้ยงตอบแทนกลับในภายหลัง ใต้เท้าสวีเคร่งครัดในความสุจร

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 494  

    “ไม่!” ชีหยวนส่ายหน้า มองเซียวอวิ๋นถิงตรง ๆ พลางถามว่า “ท่านอ๋อง หากต้องให้คนอื่นมาพูดแทนท่านปู่และท่านพ่อของข้าน้อย ตรงกันข้าม ขอให้คนของท่านยื่นฎีกาไม่ไว้วางใจท่านพ่อและท่านปู่ของข้าน้อยด้วยดีกว่า!” เหล่าจ้าวคิดในใจ นี่เขาไม่ได้ฟังผิดไปกระมัง? คุณหนูใหญ่สกุลชีเสียสติไปแล้วหรือ?! ทว่าเซียวอวิ๋นถิงกลับเข้าใจความหมายของชีหยวนได้ในทันที การลักลอบค้าขายสิ่งของผิดกฎหมายและการสมรู้ร่วมคิดกับข้าศึกขายชาติให้อริศัตรูถือเป็นแผนการอันชั่วช้าเลวร้ายมากเกินไปจริง ๆ เหตุผลที่ผู่อู๋ย่งทำเช่นนี้ ก็เพราะรู้ดีว่าเรื่องนี้ไม่ว่าจะสำเร็จหรือล้มเหลวก็สามารถทำให้สกุลชีสูญเสียความน่าเชื่อถือในสายพระเนตรของฮ่องเต้หย่งชางนับจากนี้ไปตลอดกาล แม้ภายหลังจะหาตัวคนร้ายที่แท้จริงเจอแล้วก็ตาม ทว่าหากว่า หากว่าชีหยวนถูกลอบสังหารครั้งแล้วครั้งเล่า และคนในราชสำนักล้วนพากันรุมโจมตีสกุลชี หวังทำลายสกุลชีให้สิ้นซากไป ทว่าต่อมากลับได้ค้นพบความลับในภายหลังว่าเงินตำลึงจำนวนมหาศาลถูกซุกซ่อนไว้ในเรือนเช่าของสกุลสวี ไหนจะคนเหล่านั้นที่เซียวอวิ๋นถิงได้ส่งไปที่จี้โจวแล้วด้วย… เช่นนั้นในตอนนี้ยิ่งทำให้เรื่องราวใหญ่โตอื

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 493  

    ตอนที่นางกลับมาถึงหอหมิงเยว่ เซียวอวิ๋นถิงคอยอยู่บนชั้นสองแล้ว เขาคุ้นเคยกับสถานที่แห่งนี้ราวกับเดินกลับเรือนของตนเอง ชีหยวนขมวดคิ้วเล็กน้อย แต่เมื่อคิดได้ว่ามีเรื่องสำคัญ ก็มิได้พูดอะไรมาก เพียงแต่นั่งลง และเอ่ยขึ้นอย่างตรงประเด็น “ข้าน้อยจัดการสังหารสวีซินเฉียวแล้ว เขามิได้เปิดเผยข้อมูลใดที่เป็นประโยชน์” หนนี้เหล่าจ้าวแอบติดตามมาด้วย วิชายุทธ์ของเหล่าจ้าวนับว่าเลิศล้ำ ดังนั้นต่อให้จะอยู่ห่างไกล เขาก็สามารถได้ยินบทสนทนาของคุณหนูใหญ่สกุลชี มิหนำซ้ำ… ยังพูดอย่างฉะฉานมั่นใจในเหตุผลมากเสียด้วย ทว่าเซียวอวิ๋นถิงกลับไม่รู้สึกถึงความผิดปกติแม้แต่น้อย เขามุ่นหัวคิ้วขึ้น พลางกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง “มีคนแอบติดตามเจ้า” อำนาจของขันทีผู้ใหญ่ประจำกรมขันทีราชพิธีมิใช่เล่น ๆ ยิ่งไปกว่านั้นองครักษ์เสื้อแพรยังแทรกซึมเข้าไปได้ทุกที่ กล่าวได้ว่า นับแต่เสี้ยวขณะที่ชีหยวนถูกลอบสังหาร ทุกการเคลื่อนไหวของนางอยู่ในกำมือของพวกเขาหมดแล้ว ชีหยวนเปล่งเสียงรับคำเบา ๆ สีหน้าท่าทางสงบสุขุมยิ่งนัก “ข้าน้อยทราบแล้ว ดังนั้นหลังจากข้าน้อยสังหารสวีซินเฉียว พวกเขาจะคิดว่าอย่างไร?” จะคิดว่าอย่างไรหร

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 492  

    คนเรายามที่ตกอยู่ในภาวะตื่นตระหนกอย่างรุนแรง ก็มักจะเผลอใช้ความคิดฟุ้งซ่านมากลบเกลื่อนความหวาดกลัวและความตกใจของตนเองเสมอ ชีหยวนเผากริชด้วยไฟจนร้อนจัด ก่อนจะดึงหน้านิ่งและเสียบมันเข้าไปที่กระดูกสะบักซ้ายของสวีซินเฉียว จนแทงทะลุไปอีกด้านหนึ่งของเขา ทว่าหนนี้สวีซินเฉียวแม้แต่เสียงร้องก็ยังเปล่งออกมาไม่ได้ ทรุดลงกับพื้นทั้งร่างสั่นเทาและชักกระตุก ดวงตาฉายประกายหวาดกลัว ชีหยวนหยัดกายขึ้นยืน ก่อนจะหมุนตัวกลับไปอย่างเรียบเฉยและส่งยิ้มให้สวีซินเฉียวพลางเอ่ยว่า “ใต้เท้าสวี ท่านจะไม่พูดก็ย่อมได้ ข้าเข้าใจ ว่าเรื่องนี้เกี่ยวพันกับชีวิตของคนในสกุล ท่านจะไม่พูดก็เป็นเรื่องธรรมดา เช่นนั้นพวกเราค่อยพบกันอีกครั้งในยุทธจักรเถิด” นางเอ่ยพลาง ก็ส่ายเทียนไขในมือของตนเองไปมา “ข้าจะส่งท่านเดินทางครั้งสุดท้าย เผาท่านไม่ให้เหลือซาก จะได้ประหยัดแม้กระทั่งโลงศพด้วย ถือเป็นการทำประโยชน์เล็ก ๆ น้อย ๆ เพื่อชาวบ้านจี้โจวไปด้วย” ชาวหว่าล่ารุกรานเข้ามาทุกปี ชาวบ้านในที่แห่งนั้นเผชิญหายนะทุกข์ทรมานกันไปแล้วตั้งเท่าใด?! พวกเขาโหดร้ายป่าเถื่อน บุรุษถูกสังหารทันที ส่วนสตรีและเด็กก็กวาดต้อนกลับไปยังทุ่งหญ

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 491  

    และทันทีที่ผ้าขี้ริ้วถูกดึงออกมาจากในปาก สวีซินเฉียวไม่แม้แต่จะหยุดชะงักก็อ้าปากหมายจะตะโกนร้องขอความช่วยเหลือทันที แต่ชัดเจนว่าความรวดเร็วของชีหยวนยังเร็วกว่าเขามาก เขายังไม่ทันได้อ้าปากส่งเสียง ชีหยวนก็จัดการยัดผ้าขี้ริ้วกลับเข้าไปในปากของเขาอีกครั้งด้วยความรวดเร็วแล้ว และที่ยัดเข้าไปคราวนี้ก็ลึกยิ่งกว่าคราวก่อน แทบจะจุกเข้าไปถึงด้านในลำคอของสวีซินเฉียว ทำให้สวีซินเฉียวถึงขั้นพะอืดพะอมพยายามสำรอกออกมาหลายครั้ง ระดับความตื่นรู้ของคนหนึ่งคน เทียบเท่ากับระดับความเจ็บปวดทั้งหมดที่เขาได้รับ สำหรับสวีซินเฉียวในยามนี้ก็นับเป็นเช่นนี้ ในที่สุดเขาก็ตระหนักได้ว่า เมื่อใดที่สตรีตรงหน้าเอื้อนเอ่ยวาจาน้ำลายหนึ่งหยดของนางคือตะปูหนึ่งดอก หากไม่เชื่อฟังคำพูดของนางแล้ว นางจะแสดงความน่ากลัวอย่างถึงที่สุดออกมา ชีหยวนผุดยิ้มเล็กน้อยพลางหยิบปิ่นปักผมขึ้นมาและปักกลับไปที่มวยผมดังเดิม จากนั้นค่อยแค่นเสียงหัวเราะออกมาเบา ๆ พลางขยับข้อมือไปมา “ใต้เท้าสวี ดูท่านสิ เหตุใดท่านจึงไม่เชื่อฟังกันบ้างเจ้าคะ? คนที่ไม่เชื่อฟัง จะต้องถูกลงโทษนะเจ้าคะ” เอ่ยพลาง นางก็เลื่อนมือข้างหนึ่งไปปิดปากสวีซินเฉียวไว

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 490

    แต่ยิ่งเป็นเช่นนั้น สวีฮว่านก็ยิ่งระมัดระวังในการกระทำมากขึ้นไปอีกที่จวนไม่เคยจัดงานเลี้ยงหรืองานมหรสพใด ๆ เลยแม้แต่ในงานเลี้ยงวันเกิดของหญิงชรา ก็แค่ให้คนในครอบครัวทานข้าวด้วยกันมื้อเดียวแล้วก็จบกันไปเงินทองในบ้านกองเป็นภูเขา ผ้าไหมผ้าแพรก็มีมากมาย แต่ก็ไม่เคยเอาออกมาใช้แค่เห็นแต่ใช้ไม่ได้ นี่แหละถึงเป็นเรื่องที่อึดอัดใจและกลัดกลุ้มใจที่สุด!นางยังคิดว่าสวีฮว่านคงจะเป็นแบบนี้ไปทั้งชีวิตแล้ว ใครจะรู้ว่าเขาเหมือนจะคิดตกได้ในทันทีสวีฮว่านยิ้มบาง ๆ พูดอย่างมีนัยยะว่า “เมื่อก่อนใช้ไม่ได้ แต่หลังจากนี้จะใช้ได้แล้ว”ฮูหยินสวีฟังไม่เข้าใจว่าเขาหมายความว่าอะไร แต่ก็ดีใจยิ่งนัก รีบเปิดคลังเอาหนังสัตว์ออกมา ตัดเสื้อผ้าใหม่ให้เด็ก ๆ ในบ้านกันคนละชุดที่แห่งนี้เต็มไปด้วยความชื่นมื่นสวีซินเฉียวออกจากบ้านสวีก็ยิ้มแย้มมีความสุขเช่นกันแน่นอนว่ามีความสุขอยู่แล้ว!สิ่งที่เขาทำ เขาก็รู้ตัวดีว่าเป็นความผิดมหันต์ถึงขั้นถูกตัดหัวและฆ่าล้างเก้าชั่วโคตร แต่ตอนนี้ไม่ต้องกลัวแล้ว เพราะมีตระกูลชีเป็นแพะรับบาปไปแล้ววันขึ้นปีใหม่ บังเอิญมีเรื่องมงคล เขาดีใจจนเดินตรงไปที่หอหงเฟิ่นจินที่ค้าขายดีท

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 489

    กลางดึก ของขวัญหลากสีสันที่ได้รับในคืนวันปีใหม่กองเต็มโถงบุปผา ทั้งห้องสวีฮว่านมองแวบเดียวก็ขมวดคิ้ว “ใครเป็นคนส่งของโจ่งแจ้งขนาดนี้?”สวีซินเฉียวเดินออกมาจากหลังฉากกั้นด้วยรอยยิ้มกว้าง พลางหัวเราะ “อารอง เป็นข้าเอง! หลานมิใช่เพิ่งกลับมาจากจี้โจวหรือ? ก็เลยตั้งใจเอาของมาคำนับท่านอารองโดยเฉพาะขอรับ”สีหน้าของสวีฮว่านไม่ได้ดูดีขึ้นเลย พอเห็นเขาก็ตวาดเสียงดังทันที “เจ้าคนสารเลว! เจ้าคิดว่านี่เป็นที่ไหนกัน? คิดว่าเจ้าตัวเองเป็นใคร? ตำแหน่งผู้ตรวจการเมือง มันเด่นขนาดนั้น ยังไม่รู้เหรอว่ามีคนจับตาดูอยู่เท่าไหร่? เจ้ากลัวคนอื่นไม่รู้รึไงว่าเจ้ารับสินบนไปมากแค่ไหน?!” สวีซินเฉียวทำปากเบะทันที สีหน้าดูเหมือนน้อยใจ “ท่านอารอง อย่างน้อยก็ท่านช่วยดูของที่หลานเอามาก่อนเถอะ! เมืองจี้โจวน่ะ อะไรที่ไม่ค่อยมี แต่หนังสัตว์นั้นหลากหลายเยอะสุด หลานกลับมาทั้งที จะเอาของฝากมาฝากท่านอาสะใภ้ กับพวกน้อง ๆ สักหน่อย มันก็เป็นเรื่องที่สมควรไม่ใช่หรือไร? ใครจะมาตำหนิได้ล่ะ?”ว่าแล้ว เขาก็หัวเราะระรื่น พลางขยับยื่นหน้ามาใกล้ “ว่าไปแล้ว ท่านอา เราต่างก็รู้อยู่แก่ใจดี นี่ไม่ใช่เพราะท่านอาช่วยเชื่อมโยงให้หลานได้

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 488

    เมื่อเห็นว่าชีหยวนยังเงียบอยู่ เซียวอวิ๋นถิงก็เอ่ยขึ้นก่อน “พวกเขาเป็นครอบครัวทหารตระกูลชีแน่นอน และตลอดหลายปีมานี้ก็มีการติดต่อกับเผ่าหว่าล่าจริง ลักลอบค้าขายเหล็กเถื่อนกับเผ่าหว่าล่า พวกท่านแน่ใจหรือว่าไม่รู้เรื่องนี้เลย?!”ชีเจิ้นไม่สนแล้วว่าคนตรงหน้าคือพระราชนัดดา “พวกเราจะไปทำเรื่องโง่ๆ ทำลายตนเองแบบนั้นได้ยังไง?! ตั้งแต่ไหนแต่ไร แคว้นเรากับเผ่าหว่าล่าก็เป็นศัตรูกันมานาน ญาติพี่น้องของเรากี่คนแล้วที่ต้องตายในมือของเผ่าหว่าล่า เราจะไปสมคบคิดกับพวกมันได้ยังไง?!”สีหน้าของท่านโหวผู้เฒ่าชีซีดขาวราวกับเถ้าถ่านเรื่องคราวนี้เล่นงานเขาจนตั้งตัวไม่ทันจริง ๆจะจัดการยังไงดี? จะทำอย่างไรดีกันแน่?จะติดสินบนเจ้าเมืองทงโจว หม่าเซวียนไหม?ไม่ได้ เรื่องนี้ทำแบบนั้นไม่ได้เบื้องหลังคนพวกนั้นวางแผนมาอย่างดี แสดงว่าจ้องเล่นงานพวกเขาเต็มที่แล้วถ้าให้หม่าเซวียนช่วยกลบเรื่อง จะยิ่งกลายเป็นหลักฐานมัดตัวว่าตระกูลเราสมคบขายชาติครั้งนี้ ดูยังไง ก็เป็นกับดักตายชัด ๆ!เซียวอวิ๋นถิงเคาะนิ้วลงบนโต๊ะหินเบา ๆ “คดีนี้ อย่างช้าบ่ายนี้ถูกส่งไปถึงมือกรมยุทธนาการ เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับกรมยุทธนาการ ยังไง

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status