Share

บทที่ 994

Author: หว่านชิงอิ๋น
คำพูดนี้เจือด้วยการข่มขู่เล็กน้อย

ลั่วชิงยวนหัวเราะเบา ๆ สมแล้วที่เป็นราชาเผ่านอกด่าน ยังมิดีใจจนหน้ามืดเพียงเพราะได้เจอลูกสาว

ใช่แล้ว นางยังต้องการช่วยฉินเชียนหลี่!

"ตกลง ข้ารับปากกับท่าน"

"ตามแผนของท่าน ข้าจะขึ้นเป็นราชาเผ่านอกด่าน และจะยุติสงครามระหว่างเผ่านอกด่านและแคว้นเทียนเชวียโดยสิ้นเชิง!"

“แต่ท่านต้องปล่อยฉินเชียนหลี่ไป”

ราชาเผ่านอกด่านยิ้มด้วยความพึงพอใจ "เป็นอันตกลง"

เมื่อพูดเช่นนั้น ราชาเผ่านอกด่านก็นอนลงบนเตียงอีกครั้งและพูดว่า "เจ้าคงรู้ทักษะทางการแพทย์ ข้ารู้สึกดีขึ้นแล้ว เจ้าช่วยรักษาข้าต่อเถอะ" “

ลั่วชิงยวนก้าวไปข้างหน้าเพื่อฝังเข็มและเขียนใบเทียบยาให้เขา

ก่อนยื่นให้หล่างมู่ไปนำยามา

หลังจากปรุงยาให้ราชาเผ่านอกด่าน อาการของราชาเผ่านอกด่านก็ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

คืนนั้น ราชาเผ่านอกด่านสั่งให้เรียกหัวหน้าเผ่าทั้งหลายให้มารวมตัวกัน

เมื่อเห็นราชาเผ่านอกด่านนั่งอยู่อย่างสง่าผ่าเผยบนเก้าอี้

ทุกคนต่างก็ตกใจ “ฝ่าบาท ร่างกายของท่าน…”

หล่างชิ่นก็ตกใจเช่นกัน สุขภาพของเสด็จพ่อของเขาดูดีขึ้นมาก ก่อนหน้านี้เขาไม่มีแรงที่จะลุกขึ้นมาด้วยซ้ำ!

ลั่วชิงยวนคนนี้ ทักษะการแพทย
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 995

    ทันทีที่คำพูดเหล่านี้ออกมา ทุกคนก็เริ่มสงสัยหล่างชิ่นอย่างที่คาดไว้องค์หญิงชิงหวยถามเสียงเย็นชา "หล่างชิ่น ท่านเป็นคนติดต่อและให้ความร่วมมือกับตระกูลเหยียน เหตุใดป่านนี้จึงยังไม่มีข่าวจากตระกูลเหยียนเลยเล่า?"“หรือท่านปิดบังอะไรจากพวกเราไว้?”“ใช่ ท่านกำลังซ่อนอะไรบางอย่างไว้หรือไม่? ในเมื่อร่วมมือกัน เหตุใดตระกูลเหยียนมิยื่นมือมาช่วยเราเล่า?”“ถูกต้อง กองทัพของอู่จิ้นมิใช่ว่าเชื่อฟังคำสั่งของตระกูลเหยียนหรอกหรือ เหตุใดพวกเขามิช่วยเราตีเมือง?”คำถามเหล่านี้ทำให้แววตาของหล่างชิ่นเต็มไปด้วยความเกลียดชังอย่างรุนแรง นางมองลั่วชิงยวนด้วยสายตาเฉียบคม“ไม่มีข่าวอะไรจากตระกูลเหยียนเลย ข้ามิได้ปกปิดอะไรทั้งนั้น!”“เสด็จพ่อ ท่านอย่าได้เชื่อคำพูดเหลวไหลของลั่วชิงยวน!”ในที่สุดราชาเผ่านอกด่านก็พูดว่า "หยุดเถียงได้แล้ว" “วันนี้ข้าเรียกพวกเจ้ามาที่นี่ เพียงแค่อยากบอกว่าข้าจะให้ลั่วชิงยวนอยู่ที่นี่”“จนกว่าข้าจะหายดี ไม่มีใครได้รับอนุญาตให้โจมตีเมืองอีก”“จงสงวนกำลังเอาไว้ และอย่าตกหลุมอุบายของผู้อื่น”ประโยคสุดท้ายนี้ทำให้หล่างชิ่นตะลึงลั่วชิงยวนก็ประหลาดใจเช่นกันเหตุใดคำเหล่านี้ดู

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 996

    ลั่วชิงยวนมิได้หลบเลยแม้แต่น้อย กลับจ้องมองอีกฝ่ายด้วยสายตาคมกริบ“คนที่ฆ่าพี่ชายเจ้าคือหล่างชิ่นต่างหาก!”“เจ้าคิดว่านางเพียงส่งพวกเจ้าไปโจมตีเมืองจริง ๆ หรือ? นางกำลังใช้การโจมตีเมืองเพื่อกำจัดพวกเจ้าต่างหาก!”กริชหยุดที่หน้าอกของลั่วชิงยวน โดยมิแทงลงไปชิงหวยสบตากับนาง "เจ้าหมายความว่าอย่างไร?"ลั่วชิงยวนเอ่ยด้วยน้ำเสียงมิรีบร้อน "หล่างมู่เกือบตายเพราะหล่างชิ่น หลอกให้เขาบุกโจมตีจนตกหลุมพรางในเมือง"“หลังจากที่หล่างมู่ติดกับดัก นางรีบถอนตัวออกไปทันที ปล่อยโอกาสที่ดีที่สุดในการช่วยชีวิตหล่างมู่ไป”ลั่วชิงยวนเลิกคิ้ว “หากนางต้องการฆ่าหล่างมู่ นางย่อมต้องการฆ่าพวกเจ้าด้วยเช่นกัน มิเช่นนั้นนางจะทำข้อตกลงกับตระกูลเหยียนได้อย่างไร”ชิงหวยตกใจมากเมื่อได้ยินสิ่งนี้ "ว่ากระไรนะ? เจ้าว่าอะไรกับตระกูลเหยียนนะ? เจ้ารู้อะไรบางอย่างใช่หรือไม่?"“พูดมาเร็ว!”ลั่วชิงยวนมิรีบร้อนที่จะพูด นางขยับตัวเล็กน้อยแล้วพูดว่า "ปล่อยข้าก่อนสิ"ชิงหวยลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นลุกขึ้นและขยิบตาให้ผู้คนรอบตัวมีคนเข้ามาปลดโซ่ให้ลั่วชิงยวนทันทีลั่วชิงยวนลูบข้อมือเบา ๆ แล้วค่อย ๆ ลุกขึ้นนางพูดอย่างใจ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 997

    เดิมทีนางตั้งใจจะตรงไปยังเมืองผิงหนิงโดยทันทีแต่ในทันใดนั้น ก็มีเสียงบางอย่างดังขึ้นในป่าข้างหน้าลั่วชิงยวนสะดุ้งตกใจ นางรีบย่ำเท้าลงเบา ๆ และค่อย ๆ ย่องเข้าไปใกล้เมื่อเดินเข้าไปในพุ่มไม้ จู่ ๆ กลิ่นอายสังหารก็เข้าโจมตีนาง ดาบเล่มหนึ่งจ่อที่คอของนาง“อย่าขยับ!” อีกฝ่ายขู่อย่างเย็นชาอีกฝ่ายถามอย่างเคร่งเครียดว่า "ค่ายขององค์ชายหล่างมู่ของเจ้าอยู่ที่ใด?"ลั่วชิงยวนสะดุ้งหันกลับมาและเห็นว่าเป็นทหารของแคว้นเทียนเชวีย“ข้าเอง ลั่วชิงยวน” นางพูดทันทีอีกฝ่ายตกใจ “พระชายา?”“พระชายาหนีออกมาได้หรือ? เยี่ยมเลย! ท่านอ๋องอยู่ทางโน้น!”ลั่วชิงยวนตกใจมาก ฟู่เฉินหวนก็อยู่ที่นี่ด้วยนางเดินตามทหารไปทันที และมาถึงด้านหลังเนินเขานางเห็นคนยืนเอามือไพล่หลังอยู่ใต้แสงจันทร์“ฟู่เฉินหวน!” ลั่วชิงยวนตะโกนด้วยความตื่นเต้นที่มิอาจซ่อนฟู่เฉินหวนตกใจและดูมีความสุขเมื่อเห็นว่านางยังสบายดี"เจ้า..."ในขณะนั้นเอง ก็มีเสียงฝีเท้าดังขึ้นจากด้านหนึ่ง ดูเหมือนจะมีคนจำนวนมิน้อย“หน่วยลาดตระเวนมาแล้ว ท่านอ๋อง กระหม่อมจะล่อพวกเขาออกไป”เซียวชูนำผู้คนวิ่งไปในทิศทางอื่นทันทีลั่วชิงยวนไม่มีเวลาพูดอ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 998

    ฟู่เฉินหวนตกตะลึง ขมวดคิ้วมองนาง "เจ้าใช้ตราประทับมังกรขององค์จักรพรรดิสูงสุดมาบีบบังคับข้ารึ?"ปรากฏว่าเสด็จพ่อมอบตราประทับมังกรให้นางไปแล้วลั่วชิงยวนมีท่าทีแน่วแน่ "ท่านคิดว่าอย่างไรก็อย่างนั้น"“หากนี่เป็นวิธีเดียวที่จะทำให้ท่านจากไปได้ เช่นนั้นก็ถือว่าหม่อมฉันใช้ตราประทับมังกรเพื่อบีบบังคับท่านแล้วกัน”“หากขัดคำสั่งหม่อมฉัน นั่นก็หมายถึงการขัดคำสั่งขององค์จักรพรรดิสูงสุด อ๋องผู้สำเร็จราชการ หวังว่าท่านจะไตร่ตรองอย่างรอบคอบ”ฟู่เฉินหวนกำมือแน่น มองดวงลั่วชิงยวนด้วยแววตาเย็นชา ใจเขารู้สึกขมขื่น“มีเหตุผลอื่นอีกหรือไม่ที่ทำให้เจ้าต้องอยู่กับพวกนอกด่าน?”ท่าทีของลั่วชิงยวนนั้นแน่วแน่มาก ต้องมีเรื่องอื่นใดปิดบังเขาไว้หัวใจของลั่วชิงยวนตึงเครียด นางมิอาจบอกเรื่องของลั่วอิงได้เพราะมันเกี่ยวข้องกับความลับที่มิอาจเปิดเผยได้มากมาย"ไม่มีหรอกเพคะ!"“หม่อมฉันเพียงต้องการยุติสงครามในเร็ววัน มิอยากสู้อีกต่อไปแล้ว”“ในหมู่เผ่านอกด่านมีช่องโหว่ หม่อมฉันมิอาจละทิ้งโอกาสอันยิ่งใหญ่นี้ได้ เชื่อหม่อมฉันเถิดเพคะ!”“หากหม่อมฉันสามารถรับมือต่อการปิดล้อมตีเมืองผิงหนิงได้หลายสิบวัน หม่อมฉัน

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 999

    “ข้ามิได้อยากให้เขาตาย และข้าก็มิได้อยากทำร้ายเขาด้วย”“ข้าแค่อยากให้เขายอมจำนนต่อข้า ยอมเป็นทาสของข้าอย่างเต็มใจก็เท่านั้น”“แต่เป็นเขาเองที่มิยอมจำนน โดนข้าฝังแมลงกู่เข้าไปแล้ว ก็ยังคิดจะต่อต้านข้า”“ตั้งแต่ข้าโตมา นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ข้าได้พบกับคนกระดูกแข็งเช่นนี้”“แต่ข้ามิเชื่อว่าเขาจะทนได้ไหว รอให้ข้าตัดเอ็นมือเขาแล้ว เขาก็จะขยับมิได้อีก และจะไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากยอมจำนนต่อข้า!”“ต่อให้เป็นหมาที่ต้องคอยดูแลตลอดเวลา แต่ข้าก็ยังพอใจกับมัน”หล่างชิ่นยิ้มอย่างภาคภูมิใจ ในนัยน์ตาของนางส่องประกายร้อนแรงลั่วชิงยวนมองนางด้วยสายตาเย็นชา "เจ้าทรมานได้เพียงร่างกายของเขา และขังไว้ได้ก็แค่ร่างกายของเขาเท่านั้น"“จิตวิญญาณทหาร จะไม่มีวันยอมจำนน!”เสียงของนางแหลมคมประโยคนั้นดุจดั่งค้อนหนักที่ฟาดหัวใจของหล่างชิ่นจนแตกสลายใบหน้าของหล่างชิ่นเปลี่ยนเป็นเขียวคล้ำหันมามองนางอย่างโกรธจัดทันใดนั้นฉินเชียนหลี่ในกรงเหล็กก็หัวเราะออกมา"ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า..."“หล่างชิ่น เจ้าได้ยินหรือไม่ ทุกคนรู้ดีว่า มิว่าเจ้าจะทรมานข้าเยี่ยงไรข้าก็ไม่มีวันยอมจำนน!”ฉินเชียนหลี่ในกรงเงยหน้าขึ้

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1000

    “ค่ายของชนเผ่าหลายเผ่าถูกโจมตีพร้อม ๆ กัน เรายังมิรู้ว่ากองทัพศัตรูมาจากที่ใด”ลั่วชิงยวนชะงักเล็กน้อย คาดมิถึงว่าฟู่เฉินหวนจะเคลื่อนไหวเร็วเพียงนี้จากตอนที่เขาออกจากเผ่านอกด่านมาจนถึงตอนนี้ น่าจะผ่านไปเพียงสองถึงสามชั่วยามเท่านั้นดูเหมือนว่าเมื่อกลับไปแล้วเขาจะเคลื่อนพลในทันทีราชาเผ่านอกด่านก็ประหลาดใจเล็กน้อยเช่นกัน จากนั้นเขาก็ออกคำสั่ง "แต่ละเผ่าจะต้องปกป้องค่ายของตนให้ดี ป้องกันศัตรูอย่างเต็มกำลัง แต่ห้ามบุ่มบ่าม ต้องระวังศัตรูอาจใช้แผนล่อเสือออกจากถ้ำ""หากมีความคืบหน้าในการศึก จงรายงานทันที""พ่ะย่ะค่ะ!"ลั่วชิงยวนรออยู่ในค่ายทั้งวัน คอยฟังข่าวการศึกอยู่เสมอการลอบโจมตีในวันแรกกินเวลาหนึ่งวัน และในที่สุดพวกเขาก็ล่าถอยไปอย่างไรเสีย เผ่านอกด่านแต่ละเผ่าก็แข็งแกร่งมาก วันนี้ศัตรูเพียงแค่ได้เปรียบเพราะเป็นการลอบโจมตี ศึกจึงดำเนินไปตลอดทั้งวันหลังจากฟ้ามืด หัวหน้าเผ่าต่าง ๆ ก็มารวมตัวกันในกระโจมของราชาเผ่านอกด่านหล่างชิ่นก็ผ่านศึกอันดุเดือดมาเช่นกัน ตอนนี้นางดูสะบักสะบอมเล็กน้อย นางพูดด้วยความโกรธว่า "การลอบโจมตีของกองทัพแคว้นเทียนเชวียคราวนี้ เห็นได้ชัดว่าพวกเขารู้ถ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1001

    หล่างมู่ก้าวไปข้างหน้าและคุกเข่าลง "ขอเสด็จพ่อโปรดให้โอกาสข้าได้แก้ตัวครั้งนี้ ข้าจะขับไล่ศัตรูออกไปให้ได้!"เดิมทีมีเพียงการต่อสู้ระหว่างหล่างชิ่นและหล่างมู่เท่านั้นแต่คราวนี้ชิงหวยก็เข้าร่วมด้วย "ฝ่าบาท ในเมื่อท่านว่าควรเลือกจากพวกเรา เช่นนั้นข้าก็สามารถทำหน้าที่สำคัญนี้ได้เช่นกัน!"ทันทีที่คำพูดเหล่านี้ออกมา หล่างชิ่นก็ขมวดคิ้วและมองนางเมื่อเห็นพฤติกรรมของหล่างชิ่น ผู้คนจากชนเผ่าอื่นก็แข่งขันกันเพื่อชิงตำแหน่งผู้บัญชาการทัพทันทีเกรงว่ายามนี้พวกเขาทุกคนรู้กันหมดแล้วว่า หล่างชิ่นกำลังสมคบคิดกับตระกูลเหยียน และต้องการกำจัดหัวหน้าเผ่าอื่น ๆ ดังนั้นพวกเขาจะปล่อยให้หล่างชิ่นเป็นผู้บัญชาการทัพได้อย่างไรนางมีแต่จะส่งหัวหน้าเผ่าต่าง ๆ ไปตายเท่านั้น!ลั่วชิงยวนยังใช้โอกาสนี้พูด "ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ข้าเองก็อยากลองแย่งชิงดูบ้าง"“ข้ารู้จักเมืองผิงหนิงดี รวมทั้งพวกทหารที่ป้องกันเมืองอยู่ด้วย ข้ามั่นใจว่าข้าสามารถชนะได้ และยังสามารถเจรจาสงบศึกได้ด้วย”ทันทีที่คำพูดเหล่านี้หลุดออกไป ทุกคนก็ตกตะลึงหล่างชิ่นตะคอกอย่างเย็นชา "น่าขัน นี่เป็นเรื่องของเผ่านอกด่านของเรา เกี่ยวอะไรกับเจ้า?"

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1002

    เสียงร้องด้วยความเจ็บปวดดังขึ้นทุกคนต่างตกตะลึงอย่างมากลั่วชิงยวนก็ตกใจเช่นกัน นกอินทรีจิกหล่างชิ่น นางยกมือขึ้นกุมใบหน้า เลือดไหลออกมามิหยุดนกอินทรีตัวนั้นบินกลับมาอีกครั้ง และร่อนลงบนแขนของลั่วชิงยวนลั่วชิงยวนหันหน้าไปมองด้วยความตกใจ ดวงตาของนกเหยี่ยวคู่นั้นแหลมคม เต็มไปด้วยความฉลาดสายตาของนกเหยี่ยวนั้น ในบางส่วนช่างคล้ายคลึงกับมนุษย์“เจ้าเฉลียวฉลาดเพียงนี้เชียวหรือ?”เดิมทีนางคิดว่า นี่เป็นแผนการของราชาเผ่านอกด่านที่ทำให้นกอินทรีร่อนลงมาเกาะนางแต่มิคาดคิดว่านกอินทรีจะปกป้องนางและเข้าโจมตีหล่างชิ่นเช่นนี้นกอินทรีเอียงศีรษะ แล้วมองนางลั่วชิงยวนอดมิได้ที่จะเอื้อมมือไปลูบหัวของมันมันกะพริบตาโดยไม่มีท่าทีขัดขืนและโกรธเคืองทุกคนรอบข้างยิ่งตกใจมากขึ้นไปอีกหล่างชิ่นมองดูฉากนี้ด้วยความมิเชื่อ "เป็นแบบนี้ได้อย่างไร…?"ไม่มีใครสามารถสัมผัสเทพปีกอินทรีได้“สวรรค์ ลั่วชิงยวนเป็นใครกันแน่ เทพปีกอินทรีมิจิกนางแม้แต่น้อย”“แถมยังดูเชื่องอีกด้วย!”ทุกคนต่างตกตะลึงกันหมดส่วนราชาเผ่านอกด่านนั้นกลับไพล่มือไว้ด้านหลัง แสดงรอยยิ้มพอใจ“ข้ามิได้ดูผิดไปแน่ เจ้าคือลูกสาวของข้

Latest chapter

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1416

    “เจ้ารีบอะไรนักหนา รอมาตั้งนานแล้ว รออีกสักหน่อยจะเป็นกระไร”เมื่อได้ยินดังนั้น อวี๋ตันเฟิ่งก็หยุดมือลั่วชิงยวนเดินเข้าไปคว้าตัวโหยวเซียงไว้ให้โฉวสือชีมัดนางไว้แน่นหนา จากนั้นจึงปลุกโหยวเซียงให้ฟื้นขึ้นมาเมื่อฟื้นคืนสติ โหยวเซียงก็จ้องหน้าลั่วชิงยวนเขม็งอย่างโกรธแค้น “เจ้ากล้าจับข้า เจ้าคอยดูเถอะว่าจะตายอย่างไร!”ลั่วชิงยวนย่อตัวลงนั่งตรงหน้านาง แล้วหัวเราะเบา ๆ “ใช่แล้ว ใครจะกล้าแตะต้องคุณหนูใหญ่เมืองแห่งภูตผีเล่า”“น่าเสียดาย เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้ บิดามารดาของเจ้าไปปล้นเขามา มิใช่ของพวกเขามาแต่เดิม ย่อมมิใช่ของเจ้าเช่นกัน”“ถึงเวลาคืนเจ้าของตัวจริงแล้ว”โหยวเซียงจ้องเขม็งนางอย่างโกรธแค้น “เจ้าพูดจาเหลวไหลอะไร! เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้เป็นของบิดามารดาข้ามาแต่เดิม!”เมื่อได้ยินดังนั้น ลั่วชิงยวนก็ประหลาดใจ “หรือว่าต่งอวิ๋นซิ่วมิได้บอกความจริงแก่เจ้า”“ก็ถูกแล้ว เรื่องน่าอับอายเช่นนี้ นางจะบอกลูกสาวได้อย่างไร”“เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้มิใช่เพียงถูกบิดามารดาเจ้ายึดมาเท่านั้น แต่ยังใช้วิธีการที่น่ารังเกียจในการยึดครองด้วย!”“เดาว่าจนถึงตอนนี้เจ้าก็คงยังมิรู้เลยว่าศัตรูของเจ้าคือผ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1415

    โหยวเซียงกัดฟันพูดด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบลั่วชิงยวนมองไปที่อวี๋โหรว หลายวันมานี้อวี๋โหรวผอมซูบไปมาก“เจ้าจับตัวอวี๋โหรวมาเพื่อล่อข้ามาที่นี่รึ?”ลั่วชิงยวนหรี่ตามองโหยวเซียง“แต่เจ้ามิน่าจะมีความสามารถพอที่จะพาอวี๋โหรวออกจากวังหลวงไปได้”“เวินซินถงเป็นคนทำใช่หรือไม่?”“เจ้าทำข้อตกลงอะไรกับนางไว้?”โหยวเซียงหัวเราะเยาะ “อยากรู้รึ?”“คุกเข่าอ้อนวอนข้าสิ”“เจ้าอ้อนวอนข้า ข้าถึงจะบอกเจ้าว่าผู้ใดจับตัวอวี๋โหรวมา และผู้ใดร่วมมือกับข้าวางแผนให้เจ้ามาที่เมืองแห่งภูตผี”ลั่วชิงยวนมองท่าทีหยิ่งยโสของโหยวเซียงแล้วก็อดมิได้ที่จะหัวเราะเบา ๆ นางกวาดสายตามองไปรอบ ๆ แล้วถามว่า “ต่งอวิ๋นซิ่วมิมาด้วยรึ?”“เมื่อครู่นี้คนที่ต่อสู้กับข้าก็คือนางใช่หรือไม่?”เมื่อได้ยินน้ำเสียงเยาะเย้ยของลั่วชิงยวน โหยวเซียงก็โกรธจัด ในใจนางตกใจ ลั่วชิงยวนรู้แล้วหรือว่ามารดาของนางเป็นใคร“สารเลว!”นางบีบคออวี๋โหรวอย่างแรงเพื่อข่มขู่ลั่วชิงยวน “จะคุกเข่าหรือไม่?!”“ลั่วชิงยวน เจ้ามีโอกาสแค่ครั้งเดียว!”“หากเจ้ามิยอมคุกเข่ายอมจำนนแต่โดยดี ข้าจะหักคอนางเดี๋ยวนี้!”กล่าวจบ โหยวเซียงก็ออกแรงบีบบีบจนอวี๋โหรวหาย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1414

    ทันทีที่คนใบ้หันมาเห็นจึงรีบเข้ามาย่อตัวลงข้างนางแล้วช่วยประคองนางไว้ลั่วชิงยวนเช็ดเลือดที่มุมปาก ใบหน้าซีดเผือดกว่าเดิม“ข้ามิเป็นอะไร”นางเงยหน้าขึ้นมองอวี๋ตันเฟิ่งที่อยู่กลางอากาศ ในที่สุดจิตวิญญาณของนางก็สมบูรณ์แล้วบนใบหน้าซีดขาวนั้นปรากฏรอยยิ้ม รอยยิ้มนั้นทั้งพึงพอใจและเย่อหยิ่ง“ในที่สุดข้าก็ได้… เป็นอิสระแล้ว! ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า...”อวี๋ตันเฟิ่งหัวเราะลั่น ทำเอาป่าทั้งผืนเกิดพายุโหมกระหน่ำคนใบ้รีบยกมือขึ้นช่วยลั่วชิงยวนปัดป้องฝุ่นและใบไม้ที่ปลิวว่อน......จู่ ๆ ต่งอวิ๋นซิ่วก็กระอักเลือดออกมาเต็มปาก จากนั้นหมดสติล้มลงบนพื้น“ท่านแม่!”โหยวเซียงตกใจ รีบเข้าไปประคองนาง “ท่านแม่! ท่านแม่! ท่านเป็นอะไรไป!”หลังจากตะโกนเรียกอยู่นาน มารดาของนางก็มิฟื้นโหยวเซียงโกรธจนกัดฟันพูด “ลั่วชิงยวน สารเลว!”“เจ้าคอยดูเถอะ!”......ผ่านไปครู่ใหญ่ อวี๋ตันเฟิ่งถึงจะสงบสติอารมณ์ลงได้ลมพายุในป่าก็สงบลงเช่นกันถูหมิงที่อยู่ข้าง ๆ จึงค่อย ๆ ขยับเข้ามาใกล้ฉีเสวี่ยเวยที่ยังคงตกตะลึงมองภาพเหตุการณ์เมื่อครู่ด้วยความมิอยากเชื่อ “เมื่อกี้เกิดอะไรขึ้น?”“ต่อไปพวกเราต้องทำอะไร?”ลั่วชิงยวน

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1413

    คนของถูหมิงตายไปหมดแล้ว เหลือเพียงฉีเสวี่ยเวยเท่านั้นในขณะที่พวกเขาเดินทางไปยังถ้ำแห่งที่หกในคืนนั้นผลลัพธ์ที่ได้กลับน่าผิดหวังเพราะในถ้ำว่างเปล่า“ดูเหมือนว่าพวกเราจะมาช้าไปก้าวหนึ่ง”ถูหมิงขมวดคิ้ว “เหลืออีกหนึ่งชิ้น ทำอย่างไรดี? หรือว่าความพยายามทั้งหมดของเราจะสูญเปล่า?”พวกเขาวุ่นวายมาหลายวัน เดินทางไปเกือบทั่วทั้งภูเขาแล้วหากสมบัติหายไปเช่นนี้ เขาคงต้องฆ่าสตรีผู้นี้เป็นแน่!ลั่วชิงยวนขมวดคิ้วครุ่นคิด แล้วกล่าวว่า “เหลืออีกหนึ่งชิ้นก็เหลืออีกหนึ่งชิ้น”“หาที่ปลอดภัยก่อน”จากนั้นพวกเขาก็มายังป่าที่ค่อนข้างสะอาด ไม่มีพุ่มไม้หรือวัชพืชหนาแน่นบนพื้นมากนัก ค่อนข้างโปร่งโล่งหีบทั้งห้าใบวางอยู่บนพื้นลั่วชิงยวนกล่าวว่า “เปิดหีบกันเถิด”ทันใดนั้นดวงตาของถูหมิงก็เป็นประกาย “เปิดได้หรือ?”เขาเห็นว่าบนหีบมีแต่อักขระสีเลือดปกคลุมอยู่ จึงยั้งมือไว้หลายครั้งแม้จะอยากเปิดก็ตามเมื่อได้ยินเช่นนี้จึงรีบเปิดหีบทันทีแต่เมื่อเปิดออกแล้ว ร่างกายของเขาก็แข็งทื่อไปศพ?!ทั้งยังเป็นศพที่ถูกชำแหละอีกด้วย?ฉีเสวี่ยเวยก็ตกใจกลัวลั่วชิงยวนกลับสงบสติอารมณ์ สั่งให้โฉวสือชีและคนใบ้ช่วย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1412

    “ใครกัน?!”ลั่วชิงยวนหรี่ตาลงเล็กน้อย แล้วตอบเสียงแผ่ว “ซูเซียง”“แต่ตอนนี้ควรเรียกนางว่าโหยวเซียง”“ภารกิจที่พวกเจ้าได้รับก็เป็นเพียงการละเล่นของนางเท่านั้น”“นางต้องการให้พวกเจ้าฆ่ากันเอง”และภารกิจหนังหน้าของหญิงงามที่ฉีเสวี่ยเวยได้รับ ก็คงเป็นการล่อลวงให้ฉีเสวี่ยเวยมาฆ่านางหากสามารถยืมมือคนอื่นฆ่าคนได้ โหยวเซียงก็มิจำเป็นต้องเปิดเผยตัวตนเพียงแต่โหยวเซียงคาดมิถึงว่าฉีเสวี่ยเวยจะฆ่านางมิได้ กระทั่งโหยวเซียงเองก็ฆ่านางมิได้“โหยวเซียงหรือ? นางเป็นคนของเมืองแห่งภูตผีแห่งนี้หรือ?” ฉีเสวี่ยเวยมองนางอย่างมิเชื่อสายตา“มิแปลกใจเลย… นางท้องแก่ถึงเพียงนั้นยังกล้ามาที่นี่ได้”ลั่วชิงยวนเห็นว่าใกล้รุ่งสางแล้ว จึงให้โฉวสือชีแก้เชือกที่มัดฉีเสวี่ยเวยไว้“ข้าจะยังมิฆ่าเจ้าตอนนี้”“มิว่าเรื่องที่เจ้ากล่าวมาจะเป็นจริงหรือไม่ก็มิสำคัญ ข้าก็มิกลัวว่าเจ้าจะไปบอกเรื่องนี้กับถูหมิง”“หากเจ้าไปบอก เรื่องเดียวที่จะเป็นผลเสียต่อพวกข้าก็คือต้องแบกหีบเพิ่มอีกมิกี่ใบ”“เพียงเท่านั้น”มิใช่เรื่องคอขาดบาดตายที่นางทำเป็นร่วมมือกับถูหมิง ก็เพียงต้องการใช้คนของเขาไปขวางทางศพชายที่ถูกผนึกไว้ในถ้ำ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1411

    “แม้จะต้องยอมตายไปพร้อมกับถูหมิง ข้าก็ยินดี!”เมื่อได้ยินดังนั้น ลั่วชิงยวนก็ตกตะลึง แต่ก็ยังคงสงสัยอยู่บ้าง“แต่เจ้าสนิทสนมกับถูหมิงถึงเพียงนั้น น่าจะมีโอกาสฆ่าเขาได้นับครั้งมิถ้วน”ฉีเสวี่ยเวยขมวดคิ้วแน่น ดวงตาแดงก่ำ “แท้จริงแล้วคนผู้นั้นระแวดระวังตัวมาก หากมิใช่เพราะต้องการลดความระแวดระวังของเขา ข้ากับชายมากหน้าหลายตาก็คงมิ...”เมื่อกล่าวถึงตรงนี้ ฉีเสวี่ยเวยก็เม้มริมฝีปากแน่นหลังจากกล้ำกลืนความรู้สึกแล้ว จึงกล่าวต่อ “ในป่าครั้งนั้นเป็นครั้งแรกที่เขาใกล้ชิดข้า เดิมทีตอนนั้นข้ามีโอกาสที่จะฆ่าเขาได้!”“แต่เจ้าปีศาจฝูเหมิ่งนั่นบังเอิญมาขวาง!”“หากมิใช่เพราะเขา ข้าคงทำสำเร็จไปแล้ว!”ฉีเสวี่ยเวยกัดฟันพูด เต็มไปด้วยความเคียดแค้นลั่วชิงยวนรู้สึกประหลาดใจ เมื่อเห็นสีหน้าของฉีเสวี่ยเวย ในดวงตาของนางเต็มไปด้วยความแค้น ดูมิเหมือนคนโกหกทำให้นางเปลี่ยนทัศนคติที่มีต่อฉีเสวี่ยเวยไปบ้างขณะที่ลั่วชิงยวนยังคงครุ่นคิด ฉีเสวี่ยเวยก็มองมาที่นาง “เจ้ายังมิเชื่อข้าหรือ?”“ขอเพียงเจ้าฆ่าถูหมิงได้ ข้าจะทำทุกอย่างเพื่อเจ้า! ข้าจะบอกสิ่งที่เจ้าอยากรู้ทุกอย่าง!”ลั่วชิงยวนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1410

    ลั่วชิงยวนนอนนิ่งอยู่บนเตียง มิกล้าขยับกายทว่างูตัวนั้นกลับกัดข้อเท้านางอย่างแรงหนึ่งครั้ง จากนั้นก็รีบเลื้อยหนีไปรออยู่ครู่หนึ่ง ฉีเสวี่ยเวยเห็นว่าคนที่นอนอยู่บนเตียงไม่มีความเคลื่อนไหวใด ๆ จึงเปิดประตูเข้ามานางมิอาจมั่นใจได้ว่าพวกคนใบ้จะกลับมาเมื่อใด จึงมิกล้าเสียเวลานานหลังจากปิดประตูอย่างระแวดระวังแล้ว นางก็มายังปลายเตียง จ้องมองข้อเท้าของลั่วชิงยวนอย่างละเอียด ปรากฏว่าถูกงูกัดจริง ๆ นางต้องตายเพราะพิษนี้แน่นอน!ทันใดนั้นเอง ฉีเสวี่ยเวยก็ชักกริชออกมาแล้วเดินไปยังหัวเตียง ค่อย ๆ จรดใบมีดลงบนใบหน้าของลั่วชิงยวนแต่ในพริบตานั้นเอง ลั่วชิงยวนก็ลืมตาขึ้นมาจ้องมองนางด้วยสายตาอาฆาตแค้นฉีเสวี่ยเวยพลันตกใจ แต่ก็มิได้หนีในทันที เพราะนางคิดว่าลั่วชิงยวนโดนพิษงูเข้าไปแล้ว อย่างไรก็ต้องตายอยู่ดีลั่วชิงยวนรีบคว้าข้อมือของฉีเสวี่ยเวยไว้เพื่อแย่งชิงกริชมาจากนางฉีเสวี่ยเวยก็ลงมือโจมตีเช่นกัน เพียงแต่นางคาดมิถึงว่าสตรีผู้นี้ที่ถูกพิษแล้วจะยังมีพละกำลังมากมายถึงเพียงนี้หลังจากทั้งสองต่อสู้กันครู่หนึ่งในห้อง ฉีเสวี่ยเวยก็พ่ายแพ้ ถูกลั่วชิงยวนจับกดไว้บนโต๊ะฉีเสวี่ยเวยตกใจมาก “เจ้า

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1409

    “แน่นอน”“อีกอย่าง เมื่อหาของเหล่านี้ครบแล้วเมืองแห่งภูตผีทั้งเมืองก็จะเป็นของพวกเรา แล้วยังต้องขึ้นเขาไปเอาของเล็ก ๆ น้อย ๆ นั่นหาปะไร”คำพูดนี้กระตุ้นความโลภในใจของทุกคนที่อยู่ตรงนั้นอย่างมิต้องสงสัยพวกเขาจึงมิลังเลอีกต่อไป รีบติดตามลั่วชิงยวนไปยังเส้นทางเดิมตลอดทางยังมีงูมากมาย ลั่วชิงยวนก็หาสมุนไพรบางชนิดตลอดทางแล้วมอบให้ทุกคนผูกติดไว้บนตัวและทาตามเท้า เพื่อให้กลิ่นของสมุนไพรนั้นช่วยไล่งูดังนั้นการเดินทางของพวกเขาจึงราบรื่นดี เมื่อยามค่ำคืนมาเยือนพวกเขาก็ออกมาจากบ่อน้ำพุร้อนนั้นอีกครั้งพวกเขากลับมายังหมู่บ้านเดิมในช่วงกลางดึกสงัดในหมู่บ้านยังมีอาหารหลงเหลืออยู่ ดังนั้นทุกคนจึงหยุดพักกินอาหารกันก่อนเมื่อฟื้นฟูพละกำลังได้แล้วคนทั้งหมดก็ออกเดินทางต่อมาถึงสุสานเดิม ยามนี้วิญญาณอาฆาตเต็มไปทั่วทั้งภูเขา พลังหยินแผ่ซ่านไปทั่วเมื่อลั่วชิงยวนมาถึงที่แห่งนั้นก็พบว่าปากถ้ำเปิดออกแล้วมีคนกล่าวขึ้นว่า “วันนั้นฝูเหมิ่งก็มาที่นี่!”ลั่วชิงยวนตกใจเล็กน้อยเมื่อเข้าไปในถ้ำแล้ว ภาพที่ปรากฏด้านในนั้นมิเปลี่ยนแปลงมากนัก สิ่งที่เปลี่ยนไปเพียงอย่างเดียวคือโลงศพที่ถูกล่ามโซ่นั้นระเบ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1408

    เมื่อได้ยินดังนั้น ความโลภก็ปรากฏในดวงตาของถูหมิง ใครเล่าจะมิปรารถนาสมบัติของเมืองแห่งภูตผี เขาตอบตกลงในทันที “ได้”ลั่วชิงยวนกล่าวต่อว่า “แต่การนำของสิ่งนี้มาจะต้องเผชิญกับอันตรายบ้าง ดังนั้นอาจจะต้องมีคนของเจ้าสละชีวิต”“แต่คนมากก็แบ่งกันได้น้อย คนตายไปบ้างก็มิจำเป็นต้องสนใจความเป็นความตายของพวกเขา”“ความลับนี้ข้าบอกเพียงเจ้าเท่านั้น เจ้าอย่าได้แพร่งพรายให้ผู้ใดรู้เชียว”“โดยเฉพาะฉีเสวี่ยเวย”เมื่อได้ยินดังนั้นถูหมิงก็หันกลับไปมอง แต่ไหนแต่ไรมาเขาก็มิเคยสนใจความเป็นความตายของคนเหล่านั้นอยู่แล้ว“หาได้มีปัญหาไม่!”ถูหมิงรับปากอย่างง่ายดาย แต่ลั่วชิงยวนกลับยังคงระแวดระวัง “ยังมีเรื่องที่ต้องบอกเจ้าอีกอย่าง กองทัพของเมืองแห่งภูตผีถูกพวกข้าปลุกปั่นแล้ว คาดว่าอีกมินานคงไล่ตามมา”“ก่อนที่จะหาของทั้งหกชิ้นพบ อย่าได้คิดที่จะทำสิ่งใดนอกเหนือจากนี้ ท้ายที่สุดแล้ว พวกเราต้องร่วมมือกันต่อสู้กับศัตรู หากถูกพวกมันจับได้คงไม่มีใครมีจุดจบที่ดี”สีหน้าของถูหมิงเปลี่ยนไปเล็กน้อย มิคาดคิดว่าสตรีผู้นี้จะเก่งกาจมากถึงเพียงนี้ กระทั่งปลุกกองทัพของเมืองแห่งภูตผีขึ้นมาได้ดูเหมือนว่าสิ่งที่นางต้

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status