แชร์

บทที่ 906

ผู้เขียน: หว่านชิงอิ๋น
“หมอที่รักษาผู้คน ควรเป็นดั่งสายลมที่สะอาด สดใส และโปร่งใส แต่มินึกเลยว่าในสำนักหมอหลวงแห่งนี้ จะสกปรกถึงเพียงนี้!”

ลั่วชิงยวนออกแรงเพียงนิด คนตรงหน้าก็ร้องด้วยความเจ็บปวด

“ปล่อยข้า!”

“ท่านยังกล้าใช้กำลังที่สำนักหมอหลวงอีกหรือ?!”

หมอหลวงกลุ่มนั้นพากันล้อมเข้ามา

ดวงตาของลั่วชิงยวนเปลี่ยนเป็นเย็นชา นางลงมือทันที

โครม...

ประตูคลังโอสถถูกกระแทกจนเปิดออก

หมอหลวงหลายคนพากันล้มออกจากประตูทีละคน

มีเสียงร้องด้วยความเจ็บปวดดังขึ้น

ทุกคนตกตะลึง มองสตรีที่ค่อย ๆ เดินออกมาจากคลังโอสถอย่างนิ่งงัน

พวกเขากลัวเกินกว่าจะเข้าไปใกล้

ลั่วชิงยวนเหลือบมองผู้คนบนพื้นอย่างเย็นชา และพูดอย่างเหยียดหยาม “สกปรกเยี่ยงนี้ ยาพวกนี้ข้าก็มิสนใจจะใช้หรอก!”

หลังจากพูดเช่นนั้น ลั่วชิงยวนก็เดินออกไป

ในเวลานี้ หมอหลวงชราคนหนึ่งเดินเข้ามาหานางอย่างช้า ๆ ด้วยการประคองของหมอหลวงอีกคนหนึ่ง

เขาดูแก่มาก ผมเปลี่ยนเป็นสีเทาทั้งศีรษะ และใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยรอยเหี่ยวย่น แต่เขาก็ยังเต็มไปด้วยอำนาจ

ทันทีที่เขามาถึง ทุกคนก็ทำความเคารพและพูดว่า “หัวหน้าสำนักหมอหลวง”

ดูเหมือนว่าบุคคลนี้จะได้รับความเคารพอย่างสูงและมีสถา
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 907

    “แค่ก แค่ก แค่ก…” หัวหน้าสำนักหมอหลวงไอหลายครั้งอย่างเจ็บปวดเขายังคงมองลั่วชิงยวนด้วยความโกรธ เขาหายใจเข้าลึก ๆ แล้วพูดด้วยความยากลำบากว่า “ตลอดหลายปีที่ผ่านมาสำนักหมอหลวงรักษาผู้ป่วยนับมิถ้วนทั้งในและนอกวังหลวง เหตุใดท่านจึงกล่าวหาว่าพวกเราไร้ความสามารถไปได้!”“ข้ามิยอมรับ!”“ข้ามิเชื่อว่า ท่านจะสามารถรักษาองค์จักรพรรดิสูงสุดให้หายได้หรอก!”ลั่วชิงยวนยิ้มและเลิกคิ้ว “ถ้าอย่างนั้นเรามาเดิมพันกันดีหรือไม่?”“หากข้ามิสามารถรักษาองค์จักรพรรดิสูงสุดได้ ข้าจะคุกเข่าสามครั้งและคำนับเก้าครั้งต่อสำนักหมอหลวงเพื่อขอโทษสำนักหมอหลวง! ท่านคิดว่าอย่างไรเล่า!”ทันทีที่คำพูดเหล่านี้หลุดออกมาหัวหน้าสำนักหมอหลวงก็มองดูนางด้วยความตกใจจากนั้นเขาก็พูดว่า "ดี! มาเดิมพันกัน! หากท่านสามารถรักษาองค์จักรพรรดิสูงสุดได้ ข้าก็ไม่มีหน้าจะมีชีวิตอยู่ในใต้หล้านี้อีกต่อไป!"เมื่อได้ยินสิ่งนี้ ลั่วชิงยวนก็ตกใจ “ข้ามิชอบเดิมพันด้วยชีวิต เปลี่ยนเป็นอย่างอื่นดีกว่า”หัวหน้าสำนักหมอหลวงคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “หากท่านสามารถรักษาองค์จักรพรรดิสูงสุดได้ ข้าจะลาออกจากตำแหน่งและเลิกเป็นหมอ! สมุนไพรที่สั่งสมมาหลาย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 908

    โอหังจริง ๆ!สตรีผู้นี้อายุยังน้อย แต่คำพูดกลับยโสโอหังเสียเหลือเกิน!ลั่วชิงยวนเก็บเข็มเงิน แล้วพูดด้วยน้ำเสียงดูแคลน "โรคของท่านมิใช่ว่ารักษาได้ยาก และท่านก็มิใช่คนแรกที่ข้าได้พบกับอาการเช่นนี้"“แต่ไฉนข้าต้องรักษาท่านด้วย?”“รอจนการเดิมพันจบลง ท่านมอบยาทั้งหมดของท่านแก่ข้าเมื่อไร ข้าถึงจะพิจารณารักษาโรคของท่าน”หัวหน้าสำนักหมอหลวงตกใจเมื่อได้ยินสิ่งนี้ เนื้อตัวก็สั่นด้วยความโกรธ“ท่าน!”ลั่วชิงยวนยกยิ้มเบา ๆ “ท่านต้องดูแลร่างกายให้ดี อย่าอารมณ์เสียให้มากนัก มิเช่นนั้นท่านอาจอยู่มิทันได้เห็นผลการเดิมพัน!”หลังจากที่ลั่วชิงยวนพูดจบ นางก็เปิดประตูแล้วเดินออกไปชายชราผู้นี้แก่หงำเหงือกแล้ว แต่ยังหยิ่งยโสมิน้อยทว่าเหตุใดเขาถึงถูกพิษปีกพญามัจจุราชด้วยเล่า นี่เป็นเพราะตระกูลเหยียนกำลังควบคุมเขาด้วยหรือ?แต่ก็ดูเหมือนจะมิใช่ นั่นเพราะเมื่อเวลาผ่านไปนานเข้า พิษปีกพญามัจจุราชจะทำให้เขาจะกลายเป็นเหมือนจักรพรรดิสูงสุดซึ่งก็มิต่างอะไรกับความตาย ดังนั้นจึงมิอาจใช้วิธีนี้ควบคุมเขาได้เมื่อออกจากห้อง ก็เห็นหมอหลวงอีกคนหนึ่งรออยู่ข้างนอก ซึ่งเขาคือศิษย์ของหัวหน้าสำนักหมอหลวง“ท่านมิไ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 909

    ลั่วชิงยวนมองไปที่เซิ่งไป่ชวน ยกยิ้มเบา ๆ “ต่อไปข้าจะมาหาเจ้า ให้เจ้าช่วยข้าหาสมุนไพรอีก”“หากแม่นางต้องการสิ่งใดก็เรียกหาข้าได้เสมอขอรับ” เซิ่งไป่ชวนยิ้มอย่างสุภาพจากนั้นลั่วชิงยวนก็ออกจากสำนักหมอหลวงไปเมื่อกลับมาที่ตำหนักของจักรพรรดิสูงสุด นางจึงเริ่มต้มยาและป้อนยาให้จักรพรรดิสูงสุดแม้ว่าจักรพรรดิสูงสุดจะมิสามารถพูดหรือเคลื่อนไหวได้ แต่เขาก็ยังได้สติอยู่ตลอดลั่วชิงยวนคิดว่า การเป็นเช่นนี้ตลอดปีคงเป็นเรื่องที่ยากลำบากจากนั้นเขาก็เริ่มพูดคุยกับเขา“ฝ่าบาท พระองค์น่าจะทรงทราบว่า ผู้ใดเป็นคนที่ทำร้ายพระองค์ใช่หรือไม่เพคะ”“ในเมื่อพระองค์ยังมีสติ ทั้งยังสามารถพยักพระพักตร์ หรือส่ายพระพักตร์เพื่อแสดงความต้องการได้ แล้วเหตุใดมิตรัสความจริงให้คนอื่นรู้หรือเพคะ”จักรพรรดิสูงสุดส่ายหน้า ดวงตาเต็มไปด้วยความสิ้นหวังลั่วชิงยวนคาดเดา “พระองค์ทรงกลัวว่า พวกเขาจะทำร้ายองค์จักรพรรดิ หรือทำร้ายฟู่เฉินหวนหรือเพคะ?”ดวงตาของจักรพรรดิสูงสุดเป็นประกาย จากนั้นจึงพยักหน้าดูเหมือนเขาจะมิได้คาดหวังว่านางจะเดาเหตุผลได้ จึงมองนางอย่างซาบซึ้ง“หากจะทำร้ายแม้กระทั่งลูกชายแท้ ๆ ของตน ก็ดูจะโหดเ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 910

    “เจ้ากำลังพูดว่าร้ายข้ารึ?”ลั่วชิงยวนมิแปลกใจกับการมาถึงของฟู่เฉินหวน นางได้ยินเสียงเขามานานแล้วนางเลิกคิ้ว พูดอย่างมั่นใจ “หม่อมฉันกำลังพูดความจริงเพคะ หม่อมฉันหาได้ว่าร้ายท่านไม่”ฟู่เฉินหวนเดินเข้ามา มองไปที่จักรพรรดิสูงสุดที่ดูเหมือนจะมีจิตใจดีอยู่บนเตียง แล้วถามว่า “เสด็จพ่อ ท่านรู้สึกเช่นไรบ้าง?”จักรพรรดิสูงสุดหันหน้าหนีด้วยความโกรธ มิสนใจเขาแม้แต่น้อยฟู่เฉินหวนทำอะไรมิถูกอยู่หน่อย ๆมองไปที่ลั่วชิงยวนลั่วชิงยวนเลิกคิ้ว และทำท่าทางว่ามันมิเกี่ยวกับนางฟู่เฉินหวนกล่าวว่า “ข้าได้ส่งคนไปแล้ว”“หากเร็วหน่อย ห้าวันหกวันน่าจะมีข่าวกลับมา”ลั่วชิงยวนพยักหน้า“ข้าจะอยู่กับเสด็จพ่อเอง เจ้าไปพักผ่อนเถอะ”ลั่วชิงยวนรู้สึกกระหายน้ำมาก ดังนั้นนางจึงลุกขึ้นและพูดว่า “องค์จักรพรรดิสูงสุดทรงมีจิตใจแจ่มใส การพูดคุยกับพระองค์จะช่วยให้พระองค์ฟื้นตัวได้"“เข้าใจแล้ว”ฟู่เฉินหวนรับปาก นั่งบนเก้าอี้ข้างเตียง และเริ่มพูดคุยกับพ่อของเขาแต่เขาพบว่า มิว่าเขาจะพูดอะไร พ่อของเขาก็มิตอบสนองสิ่งนี้ทำให้เขาสับสนมาก เหตุใดลั่วชิงยวนจึงเสวนากับพ่อของเขาได้นานขนาดนั้นลั่วชิงยวนเดินออกจากห

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 911

    หลังจากปกครองหกตำหนักมาหลายปี นี่เป็นครั้งแรกที่นางตัดสินผิดพลาด“แต่ครั้งนี้ที่นางรักษาองค์จักรพรรดิสูงสุด ก็อาจเป็นโอกาสสำหรับเราด้วย”“ตราบใดที่องค์จักรพรรดิสูงสุดสิ้นพระชนม์ระหว่างการรักษาของนาง ลั่วชิงยวนจะต้องตายแน่นอน”“ไม่มีใครปกป้องนางได้!”มหาราชาจารย์เหยียนพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง “นี่เป็นโอกาสสุดท้ายของเราด้วย”“หากสามารถล้างพิษปีกพญามัจจุราชจากองค์จักรพรรดิสูงสุดได้ขึ้นมา เราทุกคนจะตายกันหมด ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ท่านปลอมแปลงพระราชโองการของฝ่าบาทกี่ครั้ง ฝ่าบาทจะต้องสงสัยแน่นอน”พระเนตรของไทเฮาเย็นลงเล็กน้อย แสดงความเด็ดเดี่ยวขึ้นมา “วางใจเถอะ แม้ว่าเขาจะฟื้นตัวขึ้นมาได้จริง ๆ แต่ข้าก็ยังมีวิธีควบคุมเขาได้”“ท้ายที่สุดแล้ว ทุกคนมีสิ่งที่พวกเขาใส่ใจมากที่สุดเสมอ”มีความเย็นเยียบในดวงตาของไทเฮาระคนความโศกเศร้าเล็กน้อย…… ยามรุ่งเช้า ลั่วชิงยวนปรุงยาและส่งไปยังตำหนักของจักรพรรดิองค์สูงสุดฟู่เฉินหวนที่อยู่ด้านข้างอดมิได้ที่จะหาว ใบหน้าของเขาแสดงถึงความเหนื่อยล้า ดูเหมือนว่าจะมิได้นอนทั้งคืนเมื่อลั่วชิงยวนมาถึง เขาก็ไปนอนพักที่เรือนข้างสักหน่อยทุกวันจะมีคนในวัง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 912

    ลั่วเยวี่ยอิง!นางมาได้อย่างไร!“ท่านอ๋อง เหตุใดท่านมิรอหม่อมฉัน” ลั่วเยวี่ยอิงก้าวไปข้างหน้าและคล้องแขนของฟู่เฉินหวนเอาไว้ลั่วชิงยวนตกใจ และมองไปที่ฟู่เฉินหวนด้วยสายตามิเชื่อ “เหตุใดท่านจึงพานางมาที่นี่?”ฟู่เฉินหวนขมวดคิ้วลั่วเยวี่ยอิงรีบตอบทันที “ในฐานะภรรยาของท่านอ๋อง ข้าย่อมมาทำหน้าที่ของลูกสะใภ้ เพื่อดูแลเสด็จพ่อ”ลั่วเยวี่ยอิงกล่าวด้วยน้ำเสียงที่ดูอบอุ่นและเป็นมิตรลั่วชิงยวนมองดูฉากนี้ พวกเขาดูเหมือนคู่รักหวานชื่น และนางเป็นคนนอกทว่าในช่วงเวลาสำคัญที่ต้องรักษาจักรพรรดิสูงสุด นางจะปล่อยให้ลั่วเยวี่ยอิงเข้าใกล้ได้อย่างไร“บาดแผลเจ้าหายแล้วรึ? ถึงได้มาที่นี่เพื่อดูแลองค์จักรพรรดิสูงสุด เจ้าแน่ใจหรือว่ามิได้มาสร้างภาระ?”ได้ยินเช่นนี้การแสดงออกของลั่วเยวี่ยอิงเปลี่ยนไปความเจ็บปวดที่ฝ่ามือของนางยังคงทำให้นางมิสามารถขยับมือได้ผ้าพันแผลถูกพันไว้อย่างแน่นหนาหมอหลวงบอกว่า มือของนางอาจมิสามารถใช้กำลังได้อีกต่อไป และมิสามารถถือของหนักได้แล้ว นั่นจะต่างอะไรกับคนพิการ?ทั้งหมดนี้เป็นเพราะลั่วชิงยวน!ดวงตาของลั่วเยวี่ยอิงเต็มไปด้วยความเกลียดชัง นางเอ่ยอย่างเย็นชา “พี่หญิ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 913

    ก่อนไป นางเหลือบมองฟู่เฉินหวนอย่างหมดหนทาง ฟู่เฉินหวนพยายามอดกลั้น เล็บของเขาเกือบจะจิกเข้าไปในฝ่ามือ และมิหันไปมองลั่วเยวี่ยอิงในท้ายที่สุด ลั่วเยวี่ยอิงก็ซักเสื้อผ้า แต่อาการบาดเจ็บที่มือของนางก็แย่ลงเช่นกันนางมิได้พูดอะไรออกมา แต่เมื่อลั่วชิงยวนนำยามา นางก็ต้องการหยิบชามยาจากมือของลั่วชิงยวน“พี่หญิงให้ข้าทำเถิด”นางเอื้อมมือไปหยิบมัน และทันทีที่นางแตะชามก็เจ็บจนต้องสูดหายใจลึก ๆ แล้วกดมือลงไปที่ข้อมือของตัวเองนางตั้งใจเผยให้เห็นแผลที่ฝ่ามืออย่างจงใจมีรอยมีดชัดเจน และบริเวณรอบแผลยังคงบวมและดูสาหัสมากลั่วชิงยวนเหลือบมองนางโดยมิพูดอะไร และเดินตรงไปป้อนยาให้จักรพรรดิสูงสุดใครจะรู้ว่าลั่วเยวี่ยอิงจะมิยอมรามือ “พี่หญิง ให้ข้าป้อนยาให้เสด็จพ่อเถิด”ลั่วชิงยวนวางยาบนเก้าอี้ ยืนขึ้นและลุกจากที่นั่ง แล้วพูดอย่างเย็นชา “หากเจ้ากล้าทำยาหกใส่องค์จักรพรรดิสูงสุด ก็จงไสหัวออกไปเสีย”ลั่วชิงยวนจงใจใช้คำพูดเพื่อยั่วยุอีกฝ่าย อยากให้ลั่วเยวี่ยอิงรีบจากไปเร็ว ๆลั่วเยวี่ยอิงหยิบชามยาขึ้นมา ใช้มือที่บาดเจ็บจับช้อนอย่างระมัดระวัง แล้วป้อนยาให้จักรพรรดิสูงสุดจักรพรรดิสูงสุดหลับตาและปิ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 914

    หลังจากพูดอย่างนั้น ลั่วชิงยวนก็เดินออกไปอย่างเย็นชาหัวใจของฟู่เฉินหวนตึงเครียดขึ้นมาทันที“ท่านอ๋อง...” ลั่วเยวี่ยอิงเรียกเบา ๆฟู่เฉินหวนรู้สึกราวกับว่า เชือกที่ตึงอยู่ในหัวของเขากำลังจะขาด “ไปกันเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปทำแผล”ลั่วชิงยวนต้มยาอีกครั้ง แล้วกลับมาป้อนให้จักรพรรดิสูงสุดกว่าจะรู้ตัว เวลาก็ล่วงเข้าสู่ยามค่ำคืนเสียแล้วคืนนี้แสงจันทร์สว่างเป็นพิเศษ และลั่วชิงยวนก็นั่งลงบนพื้นโดยเอนหลังนั่งพิงเตียงแล้วเริ่มสนทนากับจักรพรรดิสูงสุด“คืนนี้หม่อมฉันจะอยู่กับพระองค์เอง ฟู่เฉินหวนคงไม่มีเวลาหรอกเพคะ”“หม่อมฉันคิดว่า ตอนนี้คงมีคนมากมายจับจ้องพระองค์กับหม่อมฉันอยู่ พระอาการของพระองค์คงมิสามารถหายได้ในระยะเวลาอันสั้น ผู้ที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังผู้นี้ ต้องถูกจับตัวออกมาให้ได้เพคะ”“มิเช่นนั้น ในภายภาคหน้า เขาจะใช้วิธีการที่คล้ายกันนี้ทำร้ายพระองค์อีกครั้งเป็นแน่ และยากจะป้องกัน”“แต่หม่อมฉันมิสามารถจับตาดูพระองค์ได้ตลอดเวลา จริงใช่หรือไม่เพคะ?”จักรพรรดิสูงสุดคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ รู้สึกว่าสมเหตุสมผล จึงพยักหน้ารับ“เช่นนั้น พระองค์ก็ทรงร่วมมือกับหม่อมฉันเถิดเพคะ แล้วลากคนผู้นี

บทล่าสุด

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1288

    ทันทีที่คำกล่าวเหล่านี้หลุดออกมาร่างกายของฟู่เฉินหวนก็แข็งทื่อดวงตาของฉินอี้เต็มไปด้วยความคาดหวังอันร้อนแรงตั้งแต่เล็กจนโต แม้เขาจะเป็นองค์ชาย แต่ก็มีเพียงมิกี่คนที่ให้ความเคารพเขาแม้กระทั่งน้องสาวของเขาเองก็มักจะลงมือทำร้ายเขาบ่อย ๆ โดยมิไว้หน้ากันเลยแม้แต่น้อยส่วนคนที่อยู่ตรงหน้าเขาคืออ๋องผู้เป็นเทพสงครามเทพแห่งแคว้นเทียนเชวียและผู้สำเร็จราชการผู้ยิ่งใหญ่ในใต้หล้าเขาจึงตั้งตารอที่จะได้เห็นฟู่เฉินหวนคุกเข่าด้วยความเคารพฟู่เฉินหวนกำหมัดแน่นซ้ำแล้วซ้ำเล่าที่จริงเขาสามารถเจรจากับฉินอี้ได้ และมีเงื่อนไขต่าง ๆ มากมายที่เขาสามารถพูดคุยกับอีกฝ่ายได้ทว่าการเจรจาต้องอาศัยยุทธวิธีและที่สำคัญกว่านั้นคือ ต้องมีจิตใจที่สงบมั่นคงแต่ในเวลานี้ ฟู่เฉินหวนมิสามารถทำเช่นนั้นได้เขาแทบจะรอมิไหวแล้วดวงตาของเขาขรึมลง พลางยกเสื้อคลุมขึ้นและคุกเข่าลงเสียงดังตึงเมื่อเข่ากระทบพื้นนั้นเจือไปด้วยความอึดอัดกลัดกลุ้ม แต่เป็นเสียงที่ฉินอี้ฟังแล้วรู้สึกสบายหูเป็นอย่างยิ่งมิอาจปฏิเสธได้ว่าตอนนี้เขาพอใจอย่างถึงที่สุดนี่เป็นความรู้สึกที่เขาพยายามเสาะหามาตลอดหลายปีแต่ก็มิเคยได้มันมาโดยเฉพา

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1287

    ในห้องขังอันเงียบงัน เสียงเฆี่ยนตีดังชัดเจนจนเหมือนได้ยินเสียงผิวหนังฉีกออกเป็นชิ้น ๆทำเอาคนที่ได้ยินรู้สึกใจสั่นที่มุมตรงทางเดิน บุรุษสวมหน้ากากที่อยู่ข้างหลังฉินอี้กำหมัดแน่นในทันทีฝ่ามือถูกจิกจนเกือบจะเลือดออกฟู่เฉินหวนที่ได้ยินเสียงนั้นก็รู้สึกเป็นห่วงและอดมิได้ที่จะพุ่งไปหาแต่ฉินอี้คว้าข้อมือของเขาเอาไว้“เฉินชีจะมาช่วยนางเอง”“หากตอนนี้เจ้าถูกจับได้ก็ช่วยนางออกไปมิได้ แล้วพวกเจ้าก็จะต้องตายอยู่ที่นี่”“ด้วยตัวตนของเจ้า มีแต่จะต้องเผชิญกับจุดจบที่น่าอนาถยิ่งกว่าเดิม”ฟู่เฉินหวนกำหมัดแน่น เขาก้าวถอยหลังมาหนึ่งก้าวและอดทนต่อไปฝ่ามือของเขาเหงื่อออกเมื่อได้ยินเสียงเฆี่ยนตีอย่างต่อเนื่องแต่ไม่มีเสียงร้องของความเจ็บปวด ก็สามารถบอกได้ว่า ลั่วชิงยวนกำลังทุกข์ทรมานกับความเจ็บปวดมากเพียงใดนั่นทำให้ฟู่เฉินหวนรู้สึกปวดใจเป็นอย่างมากทว่าเขาทำได้เพียงเฝ้ามองจากที่ไกล ๆ มิสามารถเข้าไปใกล้หรือช่วยนางได้เสียงแส้ดังขึ้นอย่างมิหยุดหย่อน และเสียงแส้ในแต่ละครั้งนั้นดูเหมือนจะฟาดลงไปที่หัวใจของฟู่เฉินหวนจนเลือดสด ๆ ไหลออกมาเป็นทางเวลาเหมือนจะผ่านไปอย่างเชื่องช้า และเสียงแส้น

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1286

    ภายในห้องบรรทมอันโอ่อ่าฉินอี้เดินมาที่ข้างเตียงด้วยร่างกายที่เต็มไปด้วยบาดแผลยามนี้เกาเหมียวเหมี่ยวได้ทำแผลและกินโอสถเรียบร้อยแล้ว แต่ใบหน้าของนางยังคงซีดอยู่เล็กน้อยเมื่อเห็นฉินอี้เดินมาหาด้วยใบหน้าฟกช้ำและเปื้อนเลือด เกาเหมียวเหมี่ยวจึงมองเขาด้วยความมิอยากเชื่อ“ท่านแพ้ลั่วชิงยวนรึ?”ฉินอี้ขมวดคิ้วเป็นปม พลางมองบาดแผลของเกาเหมียวเหมี่ยวด้วยความกังวลและพูดว่า “เหมียวเหมี่ยว บาดแผลเจ้าสาหัสมาก ช่วงสองวันนี้เจ้าควรพักผ่อนให้ดีก่อน อย่าเพิ่งเดินไปไหนมาไหนเลย”ทว่าเกาเหมียวเหมี่ยวกลับมิได้สนใจในความห่วงใยของฉินอี้นางจ้องมองฉินอี้ด้วยความโมโหแล้วยกฝ่ามือฟาดไปหนึ่งฉาดฉินอี้มิประหลาดใจแม้แต่น้อย แต่กลับมองเกาเหมียวเหมี่ยวด้วยสีหน้าจริงจังและเป็นห่วง“เหมียวเหมี่ยว...”เกาเหมียวเหมี่ยวโมโหมากจนเอามือฟาดเขาสองครั้งติดต่อกันและแสดงความเกรี้ยวกราดออกมา “ขยะไร้ค่า! ขยะไร้ค่า!”“ท่านเป็นถึงองค์ชายผู้สูงส่ง แต่กลับถูกลั่วชิงยวนจัดการจนมีสภาพเช่นนี้ อับอายจนมิรู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ใด!”เกาเหมียวเหมี่ยวโกรธจนแทบอยากจะฉีกลั่วชิงยวนเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยดวงตาของฉินอี้หรี่ลง แต่กลับมิได

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1285

    แต่ขณะที่ทั้งสองคนกำลังต่อสู้กันอย่างสูสีวิชาฝ่ามือที่จู่โจมเข้ามาอย่างฉับพลันของลั่วชิงยวนทำให้ฉินอี้มิทันตั้งตัว เขาถูกรัวหมัดใส่อย่างต่อเนื่องจนลอยกระเด็นออกไป และกระอักเลือดออกมาการต่อสู้สิ้นจบลงในพริบตาเดียวหลายคนที่อยู่รอบด้านล้วนเห็นมิชัด“เมื่อครู่เกิดกระไรขึ้น?”“ต่อสู้กันอยู่มิใช่หรือ? เหตุใดจู่ ๆ ฉินอี้ถึงแพ้ได้เล่า?”ลั่วชิงยวนมองฉินอี้ด้วยสายตาเย็นชา “ดูเหมือนวรยุทธ์ขององค์ชายใหญ่จะเป็นอย่างที่คนเขาลือกันนะเพคะ”เทียบกับคนทั่วไปแล้ว วรยุทธ์ของฉินอี้ก็ถือว่ามิได้อ่อนด้อยเลยแต่สำหรับคนที่เป็นถึงองค์ชายนั้นช่างดูอ่อนแอนักเมื่อครู่ที่ลั่วชิงยวนลองทดสอบ ดูเหมือนว่าเขายังคงมีทักษะวรยุทธ์แบบเดียวกับที่เคยเรียนมาเมื่อก่อน และมิได้มีความก้าวหน้ามากนักเป็นเช่นนี้ได้อย่างไรหากฉินอี้เพียรพยายามมากกว่านี้ ผลลัพธ์ก็คงมิเป็นเช่นนี้ฉินอีจ้องนางด้วยโทสะ ดูเหมือนจะเจ็บใจที่วรยุทธ์ของตนอ่อนด้อยเกินไป ทำให้เสียงวิพากษ์วิจารณ์รอบข้างยิ่งบาดหูมากขึ้นไปอีกเขากัดฟันพลางกำหมัดแน่น และพุ่งเข้าหาลั่วชิงยวนอย่างดุร้ายเขามิยอมพ่ายแพ้เช่นนี้หรอกแต่เขากลับมิสามารถเอาชนะลั่วชิงย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1284

    ลั่วชิงยวนตกตะลึง อารมณ์ความรู้สึกของนางดำดิ่งเป็นไปตามที่นางคาดเดาเอาไว้ว่ามิเหลือแม้แต่ศพอย่างนั้นหรือ?“มิพบศพด้วยซ้ำ” อวี๋โหรวกล่าวเสียงขรึมดวงตาของลั่วชิงยวนหม่นลง ดูเหมือนว่าร่างนั้นจะถูกกำจัดไปแล้วจริง ๆ ส่วนจะกำจัดอย่างไรและทิ้งไว้ที่ไหน บางทีอาจมีเพียงฆาตกรเท่านั้นที่รู้“น่าเสียดายจริง ๆ” ลั่วชิงยวนทอดถอนใจด้วยความเสียดายอวี๋โหรวจ้องนางด้วยสายตาจริงจังและพูดอย่างหนักแน่น “มิน่าเสียดายหรอก ข้าเชื่อว่าเจ้าจะกลายเป็นนางคนต่อไป!”ทันใดนั้น สายตาที่จริงจังของอวี๋โหรวก็ทำให้ลั่วชิงยวนรู้สึกเย็นวาบไปถึงสันหลังและยังสงสัยด้วยว่าอวี๋โหรวจะสังเกตเห็นอะไรบางอย่างหรือไม่ทว่าแม้แต่ศิษย์น้องหญิงก็จำนางมิได้ อีกทั้งอวี๋โหรวก็มิได้สนิทสนมกับนาง แล้วจะจำนางได้อย่างไรลั่วชิงยวนยิ้มและกล่าวว่า “ข้าจะถือว่านั่นคือคำปลอบใจก็แล้วกัน”อวี๋โหรวพูดอย่างจริงจัง “ข้ามิได้ปลอบใจเจ้า ข้าพูดจริง”หลังจากนั้น อวี๋โหรวก็ยิ้มอีกครั้งและพูดว่า “ทางข้ายังพอมียาอยู่บ้าง หากเจ้าต้องการอะไรก็บอกข้าได้เลย”ลั่วชิงยวนมิค่อยเข้าใจว่า เหตุใดอวี๋โหรวถึงทำดีกับนางนางมิค่อยรู้จักอวี๋โหรวมากนัก ในภาพจ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1283

    หรือเป็นเพราะเขาเชื่อมั่นในพลังความแข็งแกร่งของลั่วชิงยวน?แต่เมื่อมาครุ่นคิดดูตอนนี้ สตรีที่สามารถทำให้เซินฉีหลงใหลได้ถึงเพียงนี้คงไม่มีทางที่จะเป็นขยะไร้ค่าแม้จะมิได้แข็งแกร่งกว่าเฉินชี แต่ก็เป็นคนที่สามารถต่อกรกับเขาได้อย่างสูสีเพราะเช่นนี้เขาจึงมิแลเกาเหมียวเหมี่ยวเลยด้วยซ้ำ……เมื่อกลับมาถึงห้องลั่วชิงยวนก็นั่งลงพักผ่อนเฉินชีเดินตามเข้ามาและนั่งลงข้าง ๆ นาง พร้อมกับรินชาสองจอก“สมแล้วที่เป็นอาเหลา มีเพียงเจ้าเท่านั้นที่กล้าทำให้เกาเหมียวเหมี่ยวตกอยู่ในสภาพเช่นนั้น! ข้าชอบ!” มีแสงประกายเจิดจ้าส่องสว่างในดวงตาของเฉินชีสายตาของเขาดูเหมือนอยากจะกลืนกินลั่วชิงยวนเข้าไปทั้งตัวลั่วชิงยวนพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “เกาเหมียวเหมี่ยวได้รับบาดเจ็บสาหัส ฝ่าบาทกับฮองเฮาคงมิยอมปล่อยข้าไปแน่ คงต้องให้เจ้าช่วยออกหน้าให้แล้ว”เฉินชียิ้มมุมปาก “วางใจได้ มีข้าอยู่ทั้งคน”ลั่วชิงยวนที่ยังกังวลอยู่เล็กน้อยกำชับด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “เฉินชี ครั้งนี้เจ้าจะยืนนิ่งดูดายอีกมิได้แล้ว เพราะหากข้าตาย แผนทั้งหมดของเจ้าก็จะสูญเปล่า”“ใต้หล้านี้ไม่มีลั่วเหลาคนที่สองหรอกนะ”เฉินชีพยักหน้าอย่างจริงจ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1282

    เลือดสด ๆ ยังคงไหลมิหยุด ไหลนองไปตามร่องลึกของลวดลายวงเวทบนพื้นดินคาดมิถึงว่ามันจะค่อย ๆ ทำให้อักษรเวทของวงเวทส่องแสงขึ้นจากนั้นหมอกสีเขียวจาง ๆ ก็กระจายฟุ้งอยู่รอบตัวลั่วชิงยวนสิ่งเหล่านั้นล้วนเป็นไอโอสถทั้งสิ้นหอรักษ์ดาราแห่งนี้ยังเป็นสถานที่ที่สามารถกลั่นไอโอสถจากเลือดได้ และไอโอสถเหล่านี้ก็สามารถรักษาร่างกายที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสได้ลั่วชิงยวนหลับตาและสูดลมหายใจด้วยความเพลิดเพลิน ทำให้ร่างกายที่ปวดร้าวของนางดูเหมือนจะผ่อนคลายลงนี่อาจจะเป็นความหมายของการมีอยู่ของแท่นประลองหอรักษ์ดาราแต่ไอโอสถนี้ก็จางลงอย่างรวดเร็วลั่วชิงยวนปล่อยเกาเหมียวเหมี่ยว นางยืนขึ้นพร้อมกับยืดเส้นยืดสาย และเดินลงจากแท่นประลองคนอื่นที่อยู่รอบ ๆ ต่างมองมาที่นางด้วยสายตาที่หวาดกลัวมากขึ้น และพวกเขาก็มิกล้าพูดจาดูถูกเหยียดหยามนางเหมือนก่อนหน้านี้อีกต่อไปแล้วลั่วชิงยวนกวาดตามองอย่างเรียบเฉย จากนั้นก็มองไปที่เฉินชีด้วยสายตาลึกซึ้งแล้วเดินจากไปเกาเหมียวเหมี่ยวที่ได้รับบาดเจ็บถูกปลดแส้ออกอย่างรวดเร็วและถูกช่วยลงจากแท่นประลอง นางกัดฟันแน่นพลางจ้องตามหลังลั่วชิงยวนที่กำลังเดินออกไปครู่ต่อมา นางก็เห

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1281

    “โอ้สวรรค์ ข้าคงมิได้ตาลายใช่หรือไม่?”“นางไปเอาความกล้ามาจากที่ใดกัน!”ทุกคนในเมืองหลวงต่างรู้ดีว่าเกาเหมียวเหมี่ยวคือใครนางมิเพียงมีสถานะองค์หญิงที่สูงส่งเท่านั้น แต่ยังมีโอกาสที่จะได้สืบราชบัลลังก์ในภายภาคหน้าอีกด้วยเนื่องจากองค์ชายใหญ่มีความสามารถปานกลาง จึงมิเป็นที่โปรดปรานขององค์จักรพรรดิและฮองเฮา ทว่าองค์หญิงผู้นี้กลับแข็งแกร่งและไร้ความปรานี จึงได้รับความโปรดปรานจากพวกเขาไม่มีใครในเมืองหลวงกล้าขัดใจนางเว้นเสียแต่ เฉินชีเพราะนางชอบเขาทว่าแม้จะเป็นเฉินชี แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าคนอื่นเขาก็ให้เกียรตินางมากลั่วชิงยวนผู้นี้กล้ามากถึงขั้นเหยียบย่ำองค์หญิงต่อหน้าธารกำนัลมากมายเช่นนี้!เกาเหมียวเหมี่ยวพยายามดิ้นพร้อมกับก่นด่าไปด้วย “ลั่วชิงยวน ปล่อยข้าเดี๋ยวนี้! หากเจ้ามิปล่อยข้า ข้าจะทำให้เจ้าตายจนหาที่ฝังมิได้เลยคอยดู!”“ท่านนี่พูดมากนัก เงียบเสีย!”ลั่วชิงยวนมองนางด้วยสายตาเย็นชา พลางคว้าแส้แล้วดึงมันอย่างแรงทันใดนั้นแส้ที่คอของเกาเหมียวเหมี่ยวก็รัดแน่นขึ้นบังคับให้เกาเหมียวเหมี่ยวต้องเชิดหน้าขึ้นสูงแต่ยังคงถูกแส้รั้งไว้จนหน้าแดงนางหายใจมิออกจนเส้นเลือดแตกและตา

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1280

    ลั่วชิงยวนถูกแส้ฟาดจนกระอักเลือด ทำให้อาภรณ์ชุดขาวของนางมีรอยเปื้อนสีแดงมีรอยแส้ที่น่าสะเทือนใจพาดอยู่บนหลังของนางเป็นเส้น ๆทุกคนที่อยู่รอบนอกต่างรู้สึกหวาดกลัวมีคนที่อดมิได้ที่จะกระซิบขึ้นว่า “มิยุติธรรมเลย คนหนึ่งมีอาวุธ แต่อีกคนไม่มี นี่มันจงใจแกล้งกันชัด ๆ มิใช่หรือ”“ชู่! พระนางเป็นองค์หญิง ถึงพระนางจะจงใจฆ่าลั่วชิงยวน แล้วใครจะพูดอะไรได้ ระวังไว้เถิด หากนางจับได้ เจ้าได้เดือดร้อนแน่”ทุกทิศมีแต่ความเงียบงันไม่มีใครกล้าพูดอะไรใครใช้ให้เกาเหมียวเหมี่ยวเป็นองค์หญิงเล่า?นางคือองค์หญิงที่ได้รับความโปรดปรานมาตั้งแต่ยังเล็กนางกลายเป็นคนเย่อหยิ่งบ้าอำนาจ และวิธีการของนางเลวทรามมิน้อยไปกว่าเฉินชีเลยทุกคนในที่นี้ล้วนไม่มีใครกล้าขัดทว่ามีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่สามารถช่วยลั่วชิงยวนได้ แต่คนผู้นั้นกลับนั่งนิ่งอยู่บนเก้าอี้ พลางมองลั่วชิงยวนที่ถูกฟาดบนพื้นจนร่างกายเต็มไปด้วยเลือดมีแสงประกายเจิดจ้าอยู่ในดวงตาของเขาและเจือไปด้วยความยินดีปรีดาลั่วชิงยวนกลิ้งไปบนพื้นและทันใดนั้นก็กระอักเลือดออกมาเต็มปากนางเงยหน้าขึ้นมาและเห็นสายตาที่แสดงถึงความตื่นเต้นดีใจของเฉินชี เขาม

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status