Share

บทที่ 910

Author: หว่านชิงอิ๋น
“เจ้ากำลังพูดว่าร้ายข้ารึ?”

ลั่วชิงยวนมิแปลกใจกับการมาถึงของฟู่เฉินหวน นางได้ยินเสียงเขามานานแล้ว

นางเลิกคิ้ว พูดอย่างมั่นใจ “หม่อมฉันกำลังพูดความจริงเพคะ หม่อมฉันหาได้ว่าร้ายท่านไม่”

ฟู่เฉินหวนเดินเข้ามา มองไปที่จักรพรรดิสูงสุดที่ดูเหมือนจะมีจิตใจดีอยู่บนเตียง แล้วถามว่า “เสด็จพ่อ ท่านรู้สึกเช่นไรบ้าง?”

จักรพรรดิสูงสุดหันหน้าหนีด้วยความโกรธ มิสนใจเขาแม้แต่น้อย

ฟู่เฉินหวนทำอะไรมิถูกอยู่หน่อย ๆ

มองไปที่ลั่วชิงยวน

ลั่วชิงยวนเลิกคิ้ว และทำท่าทางว่ามันมิเกี่ยวกับนาง

ฟู่เฉินหวนกล่าวว่า “ข้าได้ส่งคนไปแล้ว”

“หากเร็วหน่อย ห้าวันหกวันน่าจะมีข่าวกลับมา”

ลั่วชิงยวนพยักหน้า

“ข้าจะอยู่กับเสด็จพ่อเอง เจ้าไปพักผ่อนเถอะ”

ลั่วชิงยวนรู้สึกกระหายน้ำมาก ดังนั้นนางจึงลุกขึ้นและพูดว่า “องค์จักรพรรดิสูงสุดทรงมีจิตใจแจ่มใส การพูดคุยกับพระองค์จะช่วยให้พระองค์ฟื้นตัวได้"

“เข้าใจแล้ว”

ฟู่เฉินหวนรับปาก นั่งบนเก้าอี้ข้างเตียง และเริ่มพูดคุยกับพ่อของเขา

แต่เขาพบว่า มิว่าเขาจะพูดอะไร พ่อของเขาก็มิตอบสนอง

สิ่งนี้ทำให้เขาสับสนมาก เหตุใดลั่วชิงยวนจึงเสวนากับพ่อของเขาได้นานขนาดนั้น

ลั่วชิงยวนเดินออกจากห
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 911

    หลังจากปกครองหกตำหนักมาหลายปี นี่เป็นครั้งแรกที่นางตัดสินผิดพลาด“แต่ครั้งนี้ที่นางรักษาองค์จักรพรรดิสูงสุด ก็อาจเป็นโอกาสสำหรับเราด้วย”“ตราบใดที่องค์จักรพรรดิสูงสุดสิ้นพระชนม์ระหว่างการรักษาของนาง ลั่วชิงยวนจะต้องตายแน่นอน”“ไม่มีใครปกป้องนางได้!”มหาราชาจารย์เหยียนพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง “นี่เป็นโอกาสสุดท้ายของเราด้วย”“หากสามารถล้างพิษปีกพญามัจจุราชจากองค์จักรพรรดิสูงสุดได้ขึ้นมา เราทุกคนจะตายกันหมด ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ท่านปลอมแปลงพระราชโองการของฝ่าบาทกี่ครั้ง ฝ่าบาทจะต้องสงสัยแน่นอน”พระเนตรของไทเฮาเย็นลงเล็กน้อย แสดงความเด็ดเดี่ยวขึ้นมา “วางใจเถอะ แม้ว่าเขาจะฟื้นตัวขึ้นมาได้จริง ๆ แต่ข้าก็ยังมีวิธีควบคุมเขาได้”“ท้ายที่สุดแล้ว ทุกคนมีสิ่งที่พวกเขาใส่ใจมากที่สุดเสมอ”มีความเย็นเยียบในดวงตาของไทเฮาระคนความโศกเศร้าเล็กน้อย…… ยามรุ่งเช้า ลั่วชิงยวนปรุงยาและส่งไปยังตำหนักของจักรพรรดิองค์สูงสุดฟู่เฉินหวนที่อยู่ด้านข้างอดมิได้ที่จะหาว ใบหน้าของเขาแสดงถึงความเหนื่อยล้า ดูเหมือนว่าจะมิได้นอนทั้งคืนเมื่อลั่วชิงยวนมาถึง เขาก็ไปนอนพักที่เรือนข้างสักหน่อยทุกวันจะมีคนในวัง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 912

    ลั่วเยวี่ยอิง!นางมาได้อย่างไร!“ท่านอ๋อง เหตุใดท่านมิรอหม่อมฉัน” ลั่วเยวี่ยอิงก้าวไปข้างหน้าและคล้องแขนของฟู่เฉินหวนเอาไว้ลั่วชิงยวนตกใจ และมองไปที่ฟู่เฉินหวนด้วยสายตามิเชื่อ “เหตุใดท่านจึงพานางมาที่นี่?”ฟู่เฉินหวนขมวดคิ้วลั่วเยวี่ยอิงรีบตอบทันที “ในฐานะภรรยาของท่านอ๋อง ข้าย่อมมาทำหน้าที่ของลูกสะใภ้ เพื่อดูแลเสด็จพ่อ”ลั่วเยวี่ยอิงกล่าวด้วยน้ำเสียงที่ดูอบอุ่นและเป็นมิตรลั่วชิงยวนมองดูฉากนี้ พวกเขาดูเหมือนคู่รักหวานชื่น และนางเป็นคนนอกทว่าในช่วงเวลาสำคัญที่ต้องรักษาจักรพรรดิสูงสุด นางจะปล่อยให้ลั่วเยวี่ยอิงเข้าใกล้ได้อย่างไร“บาดแผลเจ้าหายแล้วรึ? ถึงได้มาที่นี่เพื่อดูแลองค์จักรพรรดิสูงสุด เจ้าแน่ใจหรือว่ามิได้มาสร้างภาระ?”ได้ยินเช่นนี้การแสดงออกของลั่วเยวี่ยอิงเปลี่ยนไปความเจ็บปวดที่ฝ่ามือของนางยังคงทำให้นางมิสามารถขยับมือได้ผ้าพันแผลถูกพันไว้อย่างแน่นหนาหมอหลวงบอกว่า มือของนางอาจมิสามารถใช้กำลังได้อีกต่อไป และมิสามารถถือของหนักได้แล้ว นั่นจะต่างอะไรกับคนพิการ?ทั้งหมดนี้เป็นเพราะลั่วชิงยวน!ดวงตาของลั่วเยวี่ยอิงเต็มไปด้วยความเกลียดชัง นางเอ่ยอย่างเย็นชา “พี่หญิ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 913

    ก่อนไป นางเหลือบมองฟู่เฉินหวนอย่างหมดหนทาง ฟู่เฉินหวนพยายามอดกลั้น เล็บของเขาเกือบจะจิกเข้าไปในฝ่ามือ และมิหันไปมองลั่วเยวี่ยอิงในท้ายที่สุด ลั่วเยวี่ยอิงก็ซักเสื้อผ้า แต่อาการบาดเจ็บที่มือของนางก็แย่ลงเช่นกันนางมิได้พูดอะไรออกมา แต่เมื่อลั่วชิงยวนนำยามา นางก็ต้องการหยิบชามยาจากมือของลั่วชิงยวน“พี่หญิงให้ข้าทำเถิด”นางเอื้อมมือไปหยิบมัน และทันทีที่นางแตะชามก็เจ็บจนต้องสูดหายใจลึก ๆ แล้วกดมือลงไปที่ข้อมือของตัวเองนางตั้งใจเผยให้เห็นแผลที่ฝ่ามืออย่างจงใจมีรอยมีดชัดเจน และบริเวณรอบแผลยังคงบวมและดูสาหัสมากลั่วชิงยวนเหลือบมองนางโดยมิพูดอะไร และเดินตรงไปป้อนยาให้จักรพรรดิสูงสุดใครจะรู้ว่าลั่วเยวี่ยอิงจะมิยอมรามือ “พี่หญิง ให้ข้าป้อนยาให้เสด็จพ่อเถิด”ลั่วชิงยวนวางยาบนเก้าอี้ ยืนขึ้นและลุกจากที่นั่ง แล้วพูดอย่างเย็นชา “หากเจ้ากล้าทำยาหกใส่องค์จักรพรรดิสูงสุด ก็จงไสหัวออกไปเสีย”ลั่วชิงยวนจงใจใช้คำพูดเพื่อยั่วยุอีกฝ่าย อยากให้ลั่วเยวี่ยอิงรีบจากไปเร็ว ๆลั่วเยวี่ยอิงหยิบชามยาขึ้นมา ใช้มือที่บาดเจ็บจับช้อนอย่างระมัดระวัง แล้วป้อนยาให้จักรพรรดิสูงสุดจักรพรรดิสูงสุดหลับตาและปิ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 914

    หลังจากพูดอย่างนั้น ลั่วชิงยวนก็เดินออกไปอย่างเย็นชาหัวใจของฟู่เฉินหวนตึงเครียดขึ้นมาทันที“ท่านอ๋อง...” ลั่วเยวี่ยอิงเรียกเบา ๆฟู่เฉินหวนรู้สึกราวกับว่า เชือกที่ตึงอยู่ในหัวของเขากำลังจะขาด “ไปกันเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปทำแผล”ลั่วชิงยวนต้มยาอีกครั้ง แล้วกลับมาป้อนให้จักรพรรดิสูงสุดกว่าจะรู้ตัว เวลาก็ล่วงเข้าสู่ยามค่ำคืนเสียแล้วคืนนี้แสงจันทร์สว่างเป็นพิเศษ และลั่วชิงยวนก็นั่งลงบนพื้นโดยเอนหลังนั่งพิงเตียงแล้วเริ่มสนทนากับจักรพรรดิสูงสุด“คืนนี้หม่อมฉันจะอยู่กับพระองค์เอง ฟู่เฉินหวนคงไม่มีเวลาหรอกเพคะ”“หม่อมฉันคิดว่า ตอนนี้คงมีคนมากมายจับจ้องพระองค์กับหม่อมฉันอยู่ พระอาการของพระองค์คงมิสามารถหายได้ในระยะเวลาอันสั้น ผู้ที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังผู้นี้ ต้องถูกจับตัวออกมาให้ได้เพคะ”“มิเช่นนั้น ในภายภาคหน้า เขาจะใช้วิธีการที่คล้ายกันนี้ทำร้ายพระองค์อีกครั้งเป็นแน่ และยากจะป้องกัน”“แต่หม่อมฉันมิสามารถจับตาดูพระองค์ได้ตลอดเวลา จริงใช่หรือไม่เพคะ?”จักรพรรดิสูงสุดคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ รู้สึกว่าสมเหตุสมผล จึงพยักหน้ารับ“เช่นนั้น พระองค์ก็ทรงร่วมมือกับหม่อมฉันเถิดเพคะ แล้วลากคนผู้นี

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 915

    จักรพรรดิสูงสุดมองนางอย่างเหยียดหยาม ราวกับกำลังถามว่านางกำลังดูแคลนผู้ใดอยู่ลั่วชิงยวนปล่อยม่านเตียงลง นั่งบนเก้าอี้ หลับตาเอนหลังพิงพนักพิง“วางพระทัยเถิดเพคะ หม่อมฉันจะปกป้องพระองค์เอง”ฟู่เฉินหวนจะมิออกไปโดยไม่มีเหตุผล และลั่วเยวี่ยอิงจะมิปวดท้องโดยไม่มีสาเหตุไทเฮาต้องการล่อให้ฟู่เฉินหวนออกไปเพื่อที่จะได้ลงมือในความเงียบงันก็มีเสียงเปิดประตูดังขึ้นคนรับใช้ในวังซึ่งแต่งกายเป็นขันทีค่อย ๆ เดินเข้ามาเขาเดินอย่างรวดเร็ว ลั่วชิงยวนหลับตาอยู่ แต่ยังรู้สึกได้ถึงบรรยากาศที่เย็นเยียบและรุนแรงขันทีเดินเข้ามาใกล้เตียงจู่ ๆ ลั่วชิงยวนก็พูดว่า “ถึงเวลาแล้วหรือ?”ขันทีตกใจมาก จึงก้มศีรษะลงแล้วตอบว่า “รายงานพระชายา ถึงเวลาแล้วขอรับ”“เชิญพระชายาหลบออกไปด้วยขอรับ”ทุกวันจะมีคนมาเปลี่ยนกระโถน และช่วยจักรพรรดิสูงสุดเปลี่ยนอาภรณ์แม้แต่กลางคืนก็เช่นกันลั่วชิงยวนลุกขึ้นยืน แต่ค่อย ๆ เดินเข้ามาหาเขา เลิกคิ้วแล้วพูดว่า “เจ้านี่ดูมิค่อยคุ้นหน้าเลยนะ ช่วงนี้ดูเหมือนจะมิเคยมาที่นี่เลย”ขันทีถอยไปสองก้าวแล้วตอบว่า “บ่าวเคยมาที่นี่ครั้งหนึ่งแล้ว เราสับเปลี่ยนกันปฏิบัติหน้าที่ นี่เป็น

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 916

    จักรพรรดิสูงสุดบนเตียงบรรทม มีด้ายเงินพันอยู่รอบคอของเขาจักรพรรดิสูงสุดหายใจมิออกจนใบหน้าแดงก่ำไปหมดลั่วชิงยวนดึงกริชออกมาจากใต้หมอนของจักรพรรดิสูงสุด และตัดด้ายเงินออกจักรพรรดิสูงสุดได้แต่สูดลมหายใจเข้าปอดอีกครั้งทันใดนั้น ก็มีแมลงสีดำตัวหนึ่งคลานไปตามด้ายเงินที่ขาดด้ายเงินถูกดึงขึ้นไปอย่างรวดเร็วลั่วชิงยวนเงยหน้าขึ้นมองและเห็นร่างสีทมิฬบนขอบหลังคาที่ทะลุ และเงานั้นก็มองลงมาด้วยลั่วชิงยวนมองเห็นเพียงดวงตาของอีกฝ่าย และอดมิได้ที่จะตกใจเป็นเขาแน่!คนจากแคว้นหลีคนนั้นเขามิเพียงแค่ใช้กู่ควบคุมเส้นด้ายได้ แต่ยังสามารถฆ่าคนจากระยะไกลได้อีกด้วยดวงตาของนางเปลี่ยนเป็นเย็นชา และกระโดดขึ้นไปบนหลังคาอย่างรวดเร็ว เงาร่างทมิฬก็วิ่งหนีไป ลั่วชิงยวนก็ไล่ตามเขาไปทันทีอีกฝ่ายมีร่างผอมบาง ดูคล้ายสตรี แต่ขาและเท้าในยามที่ใช้วิชาตัวเบาแข็งแกร่งมากมิต่างจากบุรุษและเห็นได้ว่าเขาคุ้นเคยกับวังแห่งนี้มาก เขาหลบหนีเข้าไปยังบริเวณที่มืดไปตลอดทาง พยายามหลีกหนีให้พ้นสายตาของลั่วชิงยวนลั่วชิงยวนไล่ตามเขาไปอย่างสุดกำลัง มิยอมให้รอดไปได้เด็ดขาด!สำหรับจักรพรรดิสูงสุดนั้น มีฟู่เฉินหวนอยู่ด้

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 917

    “เกิดเรื่องอันใดขึ้นหรือ?” เซิ่งไป่ชวนถามอย่างกังวลลั่วเยวี่ยอิงกำลังจะพูด แต่ในขณะนั้น นางนึกถึงสิ่งที่น่าสะพรึงกลัววังหลวงในคืนนี้ดูผิดปกติอย่างยิ่ง แม้แต่สำนักหมอหลวงก็ยังดูแปลกไปด้วยทั้งหมดนี้เป็นแผนของตระกูลเหยียนแน่ ๆอำนาจของพวกเขายิ่งใหญ่มากนางจะกล้าต่อต้านพวกเขาจริงหรือ?“แม่นาง?” เซิงไป่ชวนมองดูนางอย่างงุนงง “เกิดเรื่องอันใดขึ้นกันแน่?”ลั่วเยวี่ยอิงรู้สึกสับสนอย่างมากควรบอกไปหรือไม่?หากมิพูดอะไรเลย ฟู่เฉินหวนอาจตายได้ เพราะคมมีดนั้นเกือบจะแทงโดนจุดสำคัญ!ทว่าหากพูดออกไป ฟู่เฉินหวนอาจได้รับการช่วยเหลือ และตระกูลเหยียนคงมิปล่อยนางไป!…… ภายใต้แสงจันทร์ ลั่วชิงยวนไล่ตามเงาร่างนั้น ผ่านสวนที่เต็มไปด้วยต้นท้อเมื่อลั่วชิงยวนไล่เขาจนออกจากสวนท้อ เงาร่างนั้นกลับหายไปหายไปเร็วขนาดนี้ได้อย่างไร?คงจะยังอยู่แถวนี้แน่ด้านหน้ามีตำหนักอยู่แห่งหนึ่ง รอบ ๆ เต็มไปด้วยต้นไม้ สภาพแวดล้อมดีมาก แต่อยู่ในส่วนที่ห่างไกลไปหน่อยลั่วชิงยวนสังเกตเห็นว่า ตำหนักแห่งนี้ดูเหมือนจะเป็นตำหนักเพียงแห่งเดียวในบริเวณนี้หรือว่าคนชุดดำจะหนีเข้าไปข้างในแล้ว?ลั่วชิงยวนเดินไปข้างหน้า

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 918

    ทารกมีกลิ่นอายชั่วร้ายจาง ๆ กระจายออกมาลั่วชิงยวนใจหายวาบทันทีนางจำได้ว่า นางได้จัดการสะสางทุกสิ่งที่เฝิงซีเคยประสบมาก่อนไปจนหมดแล้วกลิ่นอายชั่วร้ายในตัวเด็กคนนี้ มาจากที่ใดกัน?“อวี้เอ๋อร์ อย่าร้อง อย่าร้อง แม่อยู่นี่แล้ว!” เฝิงซีกล่อมลูกน้อยอย่างอ่อนโยนจากนั้นนางเตรียมจะปลดอาภรณ์เพื่อให้นมลูกทันใดนั้นการเคลื่อนไหวของนางก็ชะงักไป ก่อนจะมองไปยังลั่วชิงยวน "พระชายายังมีเรื่องอื่นใดอีกหรือไม่? หากไม่มีแล้ว ท่านกลับไปเถิด"ลั่วชิงยวนพยักหน้า “ขออภัยที่มารบกวนท่านแล้วเพคะ”นางหันกลับและจากไปนางกำนัลส่งนางออกจากพระตำหนักชุนซานลั่วชิงยวนมองย้อนกลับไปด้วยความสงสัยในใจว่า คนชุดดำจะไปที่ใดได้อีกนอกจากเข้าไปในตำหนักชุนซาน?แต่เวลาผ่านไปนานแล้ว นางตามจับมิทันเสียแล้ว อีกคนแค่เปลี่ยนอาภรณ์แล้วก็สามารถเดินไปเดินมาในวังได้ตามปกติจับตัวมิได้แล้วดังนั้นลั่วชิงยวนจึงทำได้แค่หันหลังกลับไปทางเดิมตราบใดที่จักรพรรดิสูงสุดปลอดภัย หากจักรพรรดิมิเป็นอะไร มิช้าก็เร็วไทเฮาจะต้องลงมืออีกแน่แต่การจับคนชุดดำคนนี้ อาจจะลำบากสักหน่อยขณะที่ไล่ตามมือสังหาร ลั่วชิงยวนมิได้สังเกตว่า วังหลวงเง

Latest chapter

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1416

    “เจ้ารีบอะไรนักหนา รอมาตั้งนานแล้ว รออีกสักหน่อยจะเป็นกระไร”เมื่อได้ยินดังนั้น อวี๋ตันเฟิ่งก็หยุดมือลั่วชิงยวนเดินเข้าไปคว้าตัวโหยวเซียงไว้ให้โฉวสือชีมัดนางไว้แน่นหนา จากนั้นจึงปลุกโหยวเซียงให้ฟื้นขึ้นมาเมื่อฟื้นคืนสติ โหยวเซียงก็จ้องหน้าลั่วชิงยวนเขม็งอย่างโกรธแค้น “เจ้ากล้าจับข้า เจ้าคอยดูเถอะว่าจะตายอย่างไร!”ลั่วชิงยวนย่อตัวลงนั่งตรงหน้านาง แล้วหัวเราะเบา ๆ “ใช่แล้ว ใครจะกล้าแตะต้องคุณหนูใหญ่เมืองแห่งภูตผีเล่า”“น่าเสียดาย เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้ บิดามารดาของเจ้าไปปล้นเขามา มิใช่ของพวกเขามาแต่เดิม ย่อมมิใช่ของเจ้าเช่นกัน”“ถึงเวลาคืนเจ้าของตัวจริงแล้ว”โหยวเซียงจ้องเขม็งนางอย่างโกรธแค้น “เจ้าพูดจาเหลวไหลอะไร! เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้เป็นของบิดามารดาข้ามาแต่เดิม!”เมื่อได้ยินดังนั้น ลั่วชิงยวนก็ประหลาดใจ “หรือว่าต่งอวิ๋นซิ่วมิได้บอกความจริงแก่เจ้า”“ก็ถูกแล้ว เรื่องน่าอับอายเช่นนี้ นางจะบอกลูกสาวได้อย่างไร”“เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้มิใช่เพียงถูกบิดามารดาเจ้ายึดมาเท่านั้น แต่ยังใช้วิธีการที่น่ารังเกียจในการยึดครองด้วย!”“เดาว่าจนถึงตอนนี้เจ้าก็คงยังมิรู้เลยว่าศัตรูของเจ้าคือผ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1415

    โหยวเซียงกัดฟันพูดด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบลั่วชิงยวนมองไปที่อวี๋โหรว หลายวันมานี้อวี๋โหรวผอมซูบไปมาก“เจ้าจับตัวอวี๋โหรวมาเพื่อล่อข้ามาที่นี่รึ?”ลั่วชิงยวนหรี่ตามองโหยวเซียง“แต่เจ้ามิน่าจะมีความสามารถพอที่จะพาอวี๋โหรวออกจากวังหลวงไปได้”“เวินซินถงเป็นคนทำใช่หรือไม่?”“เจ้าทำข้อตกลงอะไรกับนางไว้?”โหยวเซียงหัวเราะเยาะ “อยากรู้รึ?”“คุกเข่าอ้อนวอนข้าสิ”“เจ้าอ้อนวอนข้า ข้าถึงจะบอกเจ้าว่าผู้ใดจับตัวอวี๋โหรวมา และผู้ใดร่วมมือกับข้าวางแผนให้เจ้ามาที่เมืองแห่งภูตผี”ลั่วชิงยวนมองท่าทีหยิ่งยโสของโหยวเซียงแล้วก็อดมิได้ที่จะหัวเราะเบา ๆ นางกวาดสายตามองไปรอบ ๆ แล้วถามว่า “ต่งอวิ๋นซิ่วมิมาด้วยรึ?”“เมื่อครู่นี้คนที่ต่อสู้กับข้าก็คือนางใช่หรือไม่?”เมื่อได้ยินน้ำเสียงเยาะเย้ยของลั่วชิงยวน โหยวเซียงก็โกรธจัด ในใจนางตกใจ ลั่วชิงยวนรู้แล้วหรือว่ามารดาของนางเป็นใคร“สารเลว!”นางบีบคออวี๋โหรวอย่างแรงเพื่อข่มขู่ลั่วชิงยวน “จะคุกเข่าหรือไม่?!”“ลั่วชิงยวน เจ้ามีโอกาสแค่ครั้งเดียว!”“หากเจ้ามิยอมคุกเข่ายอมจำนนแต่โดยดี ข้าจะหักคอนางเดี๋ยวนี้!”กล่าวจบ โหยวเซียงก็ออกแรงบีบบีบจนอวี๋โหรวหาย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1414

    ทันทีที่คนใบ้หันมาเห็นจึงรีบเข้ามาย่อตัวลงข้างนางแล้วช่วยประคองนางไว้ลั่วชิงยวนเช็ดเลือดที่มุมปาก ใบหน้าซีดเผือดกว่าเดิม“ข้ามิเป็นอะไร”นางเงยหน้าขึ้นมองอวี๋ตันเฟิ่งที่อยู่กลางอากาศ ในที่สุดจิตวิญญาณของนางก็สมบูรณ์แล้วบนใบหน้าซีดขาวนั้นปรากฏรอยยิ้ม รอยยิ้มนั้นทั้งพึงพอใจและเย่อหยิ่ง“ในที่สุดข้าก็ได้… เป็นอิสระแล้ว! ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า...”อวี๋ตันเฟิ่งหัวเราะลั่น ทำเอาป่าทั้งผืนเกิดพายุโหมกระหน่ำคนใบ้รีบยกมือขึ้นช่วยลั่วชิงยวนปัดป้องฝุ่นและใบไม้ที่ปลิวว่อน......จู่ ๆ ต่งอวิ๋นซิ่วก็กระอักเลือดออกมาเต็มปาก จากนั้นหมดสติล้มลงบนพื้น“ท่านแม่!”โหยวเซียงตกใจ รีบเข้าไปประคองนาง “ท่านแม่! ท่านแม่! ท่านเป็นอะไรไป!”หลังจากตะโกนเรียกอยู่นาน มารดาของนางก็มิฟื้นโหยวเซียงโกรธจนกัดฟันพูด “ลั่วชิงยวน สารเลว!”“เจ้าคอยดูเถอะ!”......ผ่านไปครู่ใหญ่ อวี๋ตันเฟิ่งถึงจะสงบสติอารมณ์ลงได้ลมพายุในป่าก็สงบลงเช่นกันถูหมิงที่อยู่ข้าง ๆ จึงค่อย ๆ ขยับเข้ามาใกล้ฉีเสวี่ยเวยที่ยังคงตกตะลึงมองภาพเหตุการณ์เมื่อครู่ด้วยความมิอยากเชื่อ “เมื่อกี้เกิดอะไรขึ้น?”“ต่อไปพวกเราต้องทำอะไร?”ลั่วชิงยวน

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1413

    คนของถูหมิงตายไปหมดแล้ว เหลือเพียงฉีเสวี่ยเวยเท่านั้นในขณะที่พวกเขาเดินทางไปยังถ้ำแห่งที่หกในคืนนั้นผลลัพธ์ที่ได้กลับน่าผิดหวังเพราะในถ้ำว่างเปล่า“ดูเหมือนว่าพวกเราจะมาช้าไปก้าวหนึ่ง”ถูหมิงขมวดคิ้ว “เหลืออีกหนึ่งชิ้น ทำอย่างไรดี? หรือว่าความพยายามทั้งหมดของเราจะสูญเปล่า?”พวกเขาวุ่นวายมาหลายวัน เดินทางไปเกือบทั่วทั้งภูเขาแล้วหากสมบัติหายไปเช่นนี้ เขาคงต้องฆ่าสตรีผู้นี้เป็นแน่!ลั่วชิงยวนขมวดคิ้วครุ่นคิด แล้วกล่าวว่า “เหลืออีกหนึ่งชิ้นก็เหลืออีกหนึ่งชิ้น”“หาที่ปลอดภัยก่อน”จากนั้นพวกเขาก็มายังป่าที่ค่อนข้างสะอาด ไม่มีพุ่มไม้หรือวัชพืชหนาแน่นบนพื้นมากนัก ค่อนข้างโปร่งโล่งหีบทั้งห้าใบวางอยู่บนพื้นลั่วชิงยวนกล่าวว่า “เปิดหีบกันเถิด”ทันใดนั้นดวงตาของถูหมิงก็เป็นประกาย “เปิดได้หรือ?”เขาเห็นว่าบนหีบมีแต่อักขระสีเลือดปกคลุมอยู่ จึงยั้งมือไว้หลายครั้งแม้จะอยากเปิดก็ตามเมื่อได้ยินเช่นนี้จึงรีบเปิดหีบทันทีแต่เมื่อเปิดออกแล้ว ร่างกายของเขาก็แข็งทื่อไปศพ?!ทั้งยังเป็นศพที่ถูกชำแหละอีกด้วย?ฉีเสวี่ยเวยก็ตกใจกลัวลั่วชิงยวนกลับสงบสติอารมณ์ สั่งให้โฉวสือชีและคนใบ้ช่วย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1412

    “ใครกัน?!”ลั่วชิงยวนหรี่ตาลงเล็กน้อย แล้วตอบเสียงแผ่ว “ซูเซียง”“แต่ตอนนี้ควรเรียกนางว่าโหยวเซียง”“ภารกิจที่พวกเจ้าได้รับก็เป็นเพียงการละเล่นของนางเท่านั้น”“นางต้องการให้พวกเจ้าฆ่ากันเอง”และภารกิจหนังหน้าของหญิงงามที่ฉีเสวี่ยเวยได้รับ ก็คงเป็นการล่อลวงให้ฉีเสวี่ยเวยมาฆ่านางหากสามารถยืมมือคนอื่นฆ่าคนได้ โหยวเซียงก็มิจำเป็นต้องเปิดเผยตัวตนเพียงแต่โหยวเซียงคาดมิถึงว่าฉีเสวี่ยเวยจะฆ่านางมิได้ กระทั่งโหยวเซียงเองก็ฆ่านางมิได้“โหยวเซียงหรือ? นางเป็นคนของเมืองแห่งภูตผีแห่งนี้หรือ?” ฉีเสวี่ยเวยมองนางอย่างมิเชื่อสายตา“มิแปลกใจเลย… นางท้องแก่ถึงเพียงนั้นยังกล้ามาที่นี่ได้”ลั่วชิงยวนเห็นว่าใกล้รุ่งสางแล้ว จึงให้โฉวสือชีแก้เชือกที่มัดฉีเสวี่ยเวยไว้“ข้าจะยังมิฆ่าเจ้าตอนนี้”“มิว่าเรื่องที่เจ้ากล่าวมาจะเป็นจริงหรือไม่ก็มิสำคัญ ข้าก็มิกลัวว่าเจ้าจะไปบอกเรื่องนี้กับถูหมิง”“หากเจ้าไปบอก เรื่องเดียวที่จะเป็นผลเสียต่อพวกข้าก็คือต้องแบกหีบเพิ่มอีกมิกี่ใบ”“เพียงเท่านั้น”มิใช่เรื่องคอขาดบาดตายที่นางทำเป็นร่วมมือกับถูหมิง ก็เพียงต้องการใช้คนของเขาไปขวางทางศพชายที่ถูกผนึกไว้ในถ้ำ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1411

    “แม้จะต้องยอมตายไปพร้อมกับถูหมิง ข้าก็ยินดี!”เมื่อได้ยินดังนั้น ลั่วชิงยวนก็ตกตะลึง แต่ก็ยังคงสงสัยอยู่บ้าง“แต่เจ้าสนิทสนมกับถูหมิงถึงเพียงนั้น น่าจะมีโอกาสฆ่าเขาได้นับครั้งมิถ้วน”ฉีเสวี่ยเวยขมวดคิ้วแน่น ดวงตาแดงก่ำ “แท้จริงแล้วคนผู้นั้นระแวดระวังตัวมาก หากมิใช่เพราะต้องการลดความระแวดระวังของเขา ข้ากับชายมากหน้าหลายตาก็คงมิ...”เมื่อกล่าวถึงตรงนี้ ฉีเสวี่ยเวยก็เม้มริมฝีปากแน่นหลังจากกล้ำกลืนความรู้สึกแล้ว จึงกล่าวต่อ “ในป่าครั้งนั้นเป็นครั้งแรกที่เขาใกล้ชิดข้า เดิมทีตอนนั้นข้ามีโอกาสที่จะฆ่าเขาได้!”“แต่เจ้าปีศาจฝูเหมิ่งนั่นบังเอิญมาขวาง!”“หากมิใช่เพราะเขา ข้าคงทำสำเร็จไปแล้ว!”ฉีเสวี่ยเวยกัดฟันพูด เต็มไปด้วยความเคียดแค้นลั่วชิงยวนรู้สึกประหลาดใจ เมื่อเห็นสีหน้าของฉีเสวี่ยเวย ในดวงตาของนางเต็มไปด้วยความแค้น ดูมิเหมือนคนโกหกทำให้นางเปลี่ยนทัศนคติที่มีต่อฉีเสวี่ยเวยไปบ้างขณะที่ลั่วชิงยวนยังคงครุ่นคิด ฉีเสวี่ยเวยก็มองมาที่นาง “เจ้ายังมิเชื่อข้าหรือ?”“ขอเพียงเจ้าฆ่าถูหมิงได้ ข้าจะทำทุกอย่างเพื่อเจ้า! ข้าจะบอกสิ่งที่เจ้าอยากรู้ทุกอย่าง!”ลั่วชิงยวนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1410

    ลั่วชิงยวนนอนนิ่งอยู่บนเตียง มิกล้าขยับกายทว่างูตัวนั้นกลับกัดข้อเท้านางอย่างแรงหนึ่งครั้ง จากนั้นก็รีบเลื้อยหนีไปรออยู่ครู่หนึ่ง ฉีเสวี่ยเวยเห็นว่าคนที่นอนอยู่บนเตียงไม่มีความเคลื่อนไหวใด ๆ จึงเปิดประตูเข้ามานางมิอาจมั่นใจได้ว่าพวกคนใบ้จะกลับมาเมื่อใด จึงมิกล้าเสียเวลานานหลังจากปิดประตูอย่างระแวดระวังแล้ว นางก็มายังปลายเตียง จ้องมองข้อเท้าของลั่วชิงยวนอย่างละเอียด ปรากฏว่าถูกงูกัดจริง ๆ นางต้องตายเพราะพิษนี้แน่นอน!ทันใดนั้นเอง ฉีเสวี่ยเวยก็ชักกริชออกมาแล้วเดินไปยังหัวเตียง ค่อย ๆ จรดใบมีดลงบนใบหน้าของลั่วชิงยวนแต่ในพริบตานั้นเอง ลั่วชิงยวนก็ลืมตาขึ้นมาจ้องมองนางด้วยสายตาอาฆาตแค้นฉีเสวี่ยเวยพลันตกใจ แต่ก็มิได้หนีในทันที เพราะนางคิดว่าลั่วชิงยวนโดนพิษงูเข้าไปแล้ว อย่างไรก็ต้องตายอยู่ดีลั่วชิงยวนรีบคว้าข้อมือของฉีเสวี่ยเวยไว้เพื่อแย่งชิงกริชมาจากนางฉีเสวี่ยเวยก็ลงมือโจมตีเช่นกัน เพียงแต่นางคาดมิถึงว่าสตรีผู้นี้ที่ถูกพิษแล้วจะยังมีพละกำลังมากมายถึงเพียงนี้หลังจากทั้งสองต่อสู้กันครู่หนึ่งในห้อง ฉีเสวี่ยเวยก็พ่ายแพ้ ถูกลั่วชิงยวนจับกดไว้บนโต๊ะฉีเสวี่ยเวยตกใจมาก “เจ้า

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1409

    “แน่นอน”“อีกอย่าง เมื่อหาของเหล่านี้ครบแล้วเมืองแห่งภูตผีทั้งเมืองก็จะเป็นของพวกเรา แล้วยังต้องขึ้นเขาไปเอาของเล็ก ๆ น้อย ๆ นั่นหาปะไร”คำพูดนี้กระตุ้นความโลภในใจของทุกคนที่อยู่ตรงนั้นอย่างมิต้องสงสัยพวกเขาจึงมิลังเลอีกต่อไป รีบติดตามลั่วชิงยวนไปยังเส้นทางเดิมตลอดทางยังมีงูมากมาย ลั่วชิงยวนก็หาสมุนไพรบางชนิดตลอดทางแล้วมอบให้ทุกคนผูกติดไว้บนตัวและทาตามเท้า เพื่อให้กลิ่นของสมุนไพรนั้นช่วยไล่งูดังนั้นการเดินทางของพวกเขาจึงราบรื่นดี เมื่อยามค่ำคืนมาเยือนพวกเขาก็ออกมาจากบ่อน้ำพุร้อนนั้นอีกครั้งพวกเขากลับมายังหมู่บ้านเดิมในช่วงกลางดึกสงัดในหมู่บ้านยังมีอาหารหลงเหลืออยู่ ดังนั้นทุกคนจึงหยุดพักกินอาหารกันก่อนเมื่อฟื้นฟูพละกำลังได้แล้วคนทั้งหมดก็ออกเดินทางต่อมาถึงสุสานเดิม ยามนี้วิญญาณอาฆาตเต็มไปทั่วทั้งภูเขา พลังหยินแผ่ซ่านไปทั่วเมื่อลั่วชิงยวนมาถึงที่แห่งนั้นก็พบว่าปากถ้ำเปิดออกแล้วมีคนกล่าวขึ้นว่า “วันนั้นฝูเหมิ่งก็มาที่นี่!”ลั่วชิงยวนตกใจเล็กน้อยเมื่อเข้าไปในถ้ำแล้ว ภาพที่ปรากฏด้านในนั้นมิเปลี่ยนแปลงมากนัก สิ่งที่เปลี่ยนไปเพียงอย่างเดียวคือโลงศพที่ถูกล่ามโซ่นั้นระเบ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1408

    เมื่อได้ยินดังนั้น ความโลภก็ปรากฏในดวงตาของถูหมิง ใครเล่าจะมิปรารถนาสมบัติของเมืองแห่งภูตผี เขาตอบตกลงในทันที “ได้”ลั่วชิงยวนกล่าวต่อว่า “แต่การนำของสิ่งนี้มาจะต้องเผชิญกับอันตรายบ้าง ดังนั้นอาจจะต้องมีคนของเจ้าสละชีวิต”“แต่คนมากก็แบ่งกันได้น้อย คนตายไปบ้างก็มิจำเป็นต้องสนใจความเป็นความตายของพวกเขา”“ความลับนี้ข้าบอกเพียงเจ้าเท่านั้น เจ้าอย่าได้แพร่งพรายให้ผู้ใดรู้เชียว”“โดยเฉพาะฉีเสวี่ยเวย”เมื่อได้ยินดังนั้นถูหมิงก็หันกลับไปมอง แต่ไหนแต่ไรมาเขาก็มิเคยสนใจความเป็นความตายของคนเหล่านั้นอยู่แล้ว“หาได้มีปัญหาไม่!”ถูหมิงรับปากอย่างง่ายดาย แต่ลั่วชิงยวนกลับยังคงระแวดระวัง “ยังมีเรื่องที่ต้องบอกเจ้าอีกอย่าง กองทัพของเมืองแห่งภูตผีถูกพวกข้าปลุกปั่นแล้ว คาดว่าอีกมินานคงไล่ตามมา”“ก่อนที่จะหาของทั้งหกชิ้นพบ อย่าได้คิดที่จะทำสิ่งใดนอกเหนือจากนี้ ท้ายที่สุดแล้ว พวกเราต้องร่วมมือกันต่อสู้กับศัตรู หากถูกพวกมันจับได้คงไม่มีใครมีจุดจบที่ดี”สีหน้าของถูหมิงเปลี่ยนไปเล็กน้อย มิคาดคิดว่าสตรีผู้นี้จะเก่งกาจมากถึงเพียงนี้ กระทั่งปลุกกองทัพของเมืองแห่งภูตผีขึ้นมาได้ดูเหมือนว่าสิ่งที่นางต้

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status