แชร์

บทที่ 897

ผู้เขียน: หว่านชิงอิ๋น
“ท่านกล้าใช้คำโกหกเหล่านี้มาหลอกลวงข้า เพื่อปกป้องลั่วชิงยวน!”

“อากาศในห้องมันร้อนก็เลยเจาะหลังคาเลยรึ? ท่านรู้หรือไม่ว่าเสด็จพ่อของท่านทรงพระประชวรจนกระอักเลือด!”

“องค์จักรพรรดิ! ที่ผ่านมาที่ท่านปกป้องท่านอ๋อง ข้าคิดว่าท่านคงรักใคร่กับน้องชายของท่านมาก แต่ในฐานะของกษัตริย์ ท่านจะใช้คำโกหกต่ำช้าเช่นนี้มาหลอกลวงข้าได้อย่างไร ไม่มีใครเชื่อคำพูดของท่านหรอก!”

ไทเฮามีอารมณ์ร้อนรนอย่างมาก พูดไปพูดมาก็ยกมือขึ้นกุมหน้าอกแล้วล้มลงไปข้างหลัง

สีหน้าซีดเผือด เหมือนจะหายใจมิออก

“ไทเฮา! ไทเฮา!”

ทุกคนร้องเสียงหลง

ไทเฮาล้มลงไป แต่ยังคงชี้ไปที่ฟู่จิ่งหานด้วยความโกรธ “องค์จักรพรรดิ หากวันนี้ท่านยังคงปกป้องลั่วชิงยวน ปกป้องคนที่ทำร้ายเสด็จพ่อของท่าน! ท่านก็มิคู่ควรที่จะเป็นลูกมนุษย์!”

“และมิคู่ควรที่จะเป็นกษัตริย์!”

เสียงตะโกนอันดังกังวาน เต็มไปด้วยความคับแค้นและความโกรธกริ้ว

ฟู่งหานมิรู้ว่าจะทำอย่างไรแล้ว

ลั่วชิงยวนรู้ดีว่า หากมิลงโทษนาง ฟู่จิ่งหานคงจะถูกตราหน้าว่าเป็นจักรพรรดิที่มิดี

ขณะที่นางกำลังจะเอ่ยปาก

ฟู่เฉินหวนก็พูดขึ้นก่อน “ไทเฮา ท่านมิจำเป็นต้องบีบบังคับฝ่าบาท พระองค์ทรงทราบดีว่าล
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
ความคิดเห็น (1)
goodnovel comment avatar
ไพทูรย์ ิชินน้ําพอ
ทำไมไม่ให้อ่านอ่ะทีแรกก็ดีนะแต่ตอนนี้กั๊กไม่ใ้อ่านลบทิ้งก็ได้นะเปลืองพื้นที่โทรศัพท์
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 898

    กดวิญญาณหมาป่าเอาไว้เป็นหมาป่าตัวเดียวกับที่เห็นในกะโหลกหมาป่าเป็นสิ่งชั่วร้ายแต่พลังของมันมิแรงมาก ดังนั้นเข็มทิศจึงมิตอบสนองมากนักแต่สำหรับองค์จักรพรรดิสูงสุดที่กำลังป่วยหนักในขณะนี้ ถึงตายได้เลยลั่วชิงยวนขมวดคิ้วมองไทเฮาและคนอื่น ๆ “พวกเจ้าถอยไปหน่อย อย่าขวางแสงแดด”ไทเฮาพยายามระงับความโกรธ และให้ทุกคนถอยไปแสงสว่างขึ้นมาในทันทีลั่วชิงยวนก้มตัวลงข้าง ๆ องค์จักรพรรดิสูงสุด “องค์จักรพรรดิสูงสุด ท่านได้ยินหม่อมฉันพูดหรือไม่เพคะ?”“หากได้ยิน โปรดขยับนิ้วพระหัตถ์ด้วยเพคะ”ลั่วชิงยวนจับข้อมือขององค์จักรพรรดิสูงสุด และรู้สึกว่านิ้วของเขาขยับลั่วชิงยวนดีใจขึ้นมาและพูดต่อด้วยเสียงต่ำว่า “ตอนนี้มีบางอย่างกดทับพระองค์อยู่ หม่อมฉันจะฝังเข็ม พระองค์อาจจะรู้สึกเจ็บปวดชั่วขณะ และอาจจะกระอักเลือดได้เพคะ”องค์จักรพรรดิสูงสุดขยับนิ้วอีกครั้งดังนั้น ลั่วชิงยวนจึงโล่งใจจริง ๆ แล้วมิใช่การฝังเข็ม แต่เป็นการขับไล่หมาป่าตัวนั้นลั่วชิงยวนหันหลังให้ทุกคน เพื่อมิให้ใครเห็นว่านางกำลังทำอะไรจากนั้นจึงเจาะนิ้วของนาง วาดเครื่องรางด้วยเลือดแล้วแปะลงบนร่างกายขององค์จักรพรรดิสูงสุดทันที

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 899

    ไทเฮามองเขาด้วยสายตาที่ดุร้าย พลางตวาดเสียงดังว่า “องค์จักรพรรดิ! ท่านถึงกับมิสนใจความเป็นความตายของเสด็จพ่อของท่านเลยหรือ!”ฟู่จิ่งหานขมวดคิ้ว สีหน้าเคร่งขรึม มิอาจพูดอะไรได้อีกไทเฮารู้สึกดีใจอยู่ในใจ นางออกคำสั่ง “ใครก็ได้! จับฟู่เฉินหวนกับลั่วชิงยวนเข้าคุก! เลือกวันประหาร!”องครักษ์รีบเข้ามาทันที ควบคุมตัวทั้งสองไว้ แล้วกำลังจะพาตัวไปลั่วชิงยวนสงบนิ่ง ไม่มีความตื่นตระหนกเลยแม้แต่น้อย“ช้าก่อน!”นางมองหมอหลวงหลี่อย่างสงบ ถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา “หมอหลวงหลี่ อาการขององค์จักรพรรดิสูงสุดแย่ลงจริงหรือ?”“ฝีมือการแพทย์ของเจ้า ไหวหรือไม่?”อาการขององค์จักรพรรดิสูงสุดตอนนี้ แค่เป็นหมอที่จับชีพจรเป็นก็สามารถดูออกแล้วอาการดีขึ้นอย่างชัดเจนขนาดนั้น!หายใจสะดวกขึ้น ลมหายใจก็คงที่ ชีพจรก็เต้นแรงขึ้นหมอหลวงหลี่ผู้นี้ต้องการช่วยไทเฮากำจัดนาง กล้าพูดปลดถึงเพียงนี้ หลอกลวงองค์จักรพรรดิและขุนนางทั้งหลายคราวนี้เขาตายแน่!หมอหลวงหลี่รู้สึกผิดอยู่บ้าง แต่ก็ยังกล่าวโทษลั่วชิงยวนอย่างมิเกรงกลัว“ข้าเป็นหมอหลวงในวังมาหลายปี ย่อมมิผิดพลาด องค์จักรพรรดิสูงสุดอาการหนักขึ้น เพราะถูกท่านทำร้าย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 900

    องค์จักรพรรดิสูงสุดที่อยู่บนเตียงเอ่ยปากแล้วเปล่งเสียงอย่างแผ่วเบาว่า “หยุด!”ทุกคนตกใจอย่างมาก หันไปมองที่เตียงองค์จักรพรรดิสูงสุดฟื้นแล้ว อีกทั้งยังมีสติสัมปชัญญะ!สีหน้าของไทเฮาก็เปลี่ยนไปอย่างมาก รีบทรุดตัวลงข้างเตียง จับมือองค์จักรพรรดิสูงสุดไว้แน่นแล้วร้องไห้อย่างตื้นตันเหมือนจะห้ามมิให้องค์จักรพรรดิสูงสุดพูดอะไร“หยุดเดี๋ยวนี้…” เสียงขององค์จักรพรรดิสูงสุดแผ่วเบา จมหายไปกับเสียงร้องไห้ของไทเฮาฟู่จิ่งหานได้ยินองค์จักรพรรดิสูงสุดพูดบางสิ่ง จึงรีบก้าวเข้าไปแต่กลับถูกไทเฮาขวางไว้ ฟู่จิ่งหานมองมิเห็น จึงหันไปมองฟู่เฉินหวนฟู่เฉินหวนสะบัดหนีองครักษ์ ก้าวเข้าไปอย่างรวดเร็วด้วยท่าทีดุดันเห็นไทเฮายังคงร้องไห้อยู่ จึงตวาดเสียงดัง “ไทเฮามิอยากให้พวกเราได้ยินสิ่งที่เสด็จพ่อตรัสหรือ!”“ทุกคนถอยไป!”ฟู่เฉินหวนมองไปที่หมอหลวงหลี่ด้วยสายตาที่ดุดันแต่ไทเฮามิสนใจ ยังคงร้องไห้อย่างเศร้าโศก มองฟู่เฉินหวนด้วยสายตาที่ดุดัน แล้วตะโกนว่า “ยังมิรีบลากตัวฟู่เฉินหวนไปอีก!”“คิดปลงพระชนม์องค์จักรพรรดิสูงสุด มีโทษถึงประหาร!”“หรือว่าคำพูดของตัวข้าผู้เป็นไทเฮาไม่มีความหมายแล้ว!”องครัก

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 901

    น้ำเสียงของลั่วชิงยวนเปลี่ยนไปกะทันหัน และเฉียบคมยิ่งขึ้นทว่า สีหน้าของไทเฮากลับซีดลงรอยยิ้มที่ยากจะสังเกตเห็นปรากฏขึ้นที่มุมริมฝีปากของฟู่เฉินหวน ลั่วชิงยวนหาวิธีล่อลวงไทเฮาได้แนบเนียนจริง ๆนางน่าจะรู้ดีอยู่แล้วถึงสภาพร่างกายของจักรพรรดิสูงสุด ดังนั้นนางจึงจงใจแกล้งทำเป็นล้มเหลว เพื่อให้ไทเฮารับรองหมอหลวงหลี่แต่ตอนนี้ต่อหน้าคนจำนวนมาก ไทเฮามิอาจถอยได้แล้ว อีกทั้งนางก็อธิบายอะไรมิได้ด้วยในตอนนั้นเอง เสียงที่ทุ้มลึกและสง่างามดังมาจากภายนอก... “สาวน้อยคนนี้เป็นแค่ชายาอ๋องผู้สำเร็จราชการ กล้าดีอย่างไรมาทำท่าทีเช่นนี้ต่อไทเฮา?”เมื่อหันกลับมาเขาเห็นว่าผู้ที่มาคือมหาราชาจารย์เหยียนพี่ชายของไทเฮาเหยียนลั่วชิงยวนเคยได้พบกับมหาราชาจารย์เหยียนหลายครั้ง แต่ส่วนใหญ่แล้วมหาราชาจารย์เหยียนดูเคร่งขรึมและเก็บงำถ้อยคำฟู่เฉินหวนพูดอย่างใจเย็น“มหาราชาจารย์เหยียน มิจำเป็นต้องรีบไปตำหนิลั่วชิงยวน ลั่วชิงยวนมีผลงานในการรักษาองค์จักรพรรดิสูงสุด ตอนนี้การตั้งข้อสงสัยต่อหมอหลวงหลี่และไทเฮาก็นับว่าสมเหตุสมผล”“ทั้งหมดก็เพราะนางใส่ใจเรื่องอาการป่วยของจักรพรรดิสูงสุดมากเกินไป”“มหาราชาจารย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 902

    ทันทีที่คำพูดเหล่านี้ออกมา ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นก็ตกตะลึงจนหน้าซีดเผือด“ว่ากระไรนะ?”“อย่าได้พูดเหลวไหล!” ขุนนางทุกคนต่างตกตะลึงฟู่เฉินหวนก็ประหลาดใจเช่นกัน เขาขมวดคิ้วมองไปทางลั่วชิงยวนด้วยสายตาลึกซึ้งไทเฮาและมหาราชาจารย์เหยียนมองหน้ากัน แววตาเผยถึงความตึงเครียดอย่างปิดมิมิดความลับนี้ไม่มีใครล่วงรู้มาได้ตั้งนานหลายปีครั้งแรกที่มีคนเอ่ยปากขึ้น ลั่วชิงยวนเป็นคนเอ่ยขึ้นมาพวกเขาจะมิตื่นตระหนกได้อย่างไร?“ลั่วชิงยวน เจ้ารู้หรือไม่ว่าการลอบสังหารองค์จักรพรรดิสูงสุดเป็นอาชญากรรมร้ายแรงเพียงใด เจ้ากล่าวหาว่า องค์จักรพรรดิสูงสุดถูกคนวางยาพิษ โดยไม่มีหลักฐานน่ะหรือ”“มิเช่นนั้น ก็สมควรตัดหัวเจ้าด้วยความผิดฐานหลอกลวงผู้คน!” ไทเฮาตรัสอย่างเฉียบขาดเมื่อดูจากพฤติกรรมของไทเฮาแล้ว ดูเหมือนว่าจะมั่นใจว่านางไม่มีหลักฐานพวกเขาทำเรื่องทั้งหมดนี้ไว้ได้อย่างแนบเนียน ไม่มีทางหาหลักฐานได้แน่แต่ที่จริงแล้ว พระตำหนักนี้เองก็เป็นหลักฐานในเวลานี้ ฟู่เฉินหวนก้าวไปข้างหน้าจับมือของลั่วชิงยวนไว้แล้วพูดว่า “หากไม่มีหลักฐานที่แน่ชัด ก็อย่าไปข้องเกี่ยวด้วยเลย”ฟู่เฉินหวนมองนางด้วยสีหน้าจริงจัง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 903

    เมื่อได้ยินสิ่งนี้ แม่ทัพใหญ่ฉินก็ประหลาดใจและพูดว่า “กลิ่นหอมของดอกไม้เหล่านี้จะกระตุ้นองค์จักรพรรดิสูงสุด! ข้าจำได้ว่า องค์จักรพรรดิสูงสุดทรงไวต่อกลิ่นหอมมาก!”ลั่วชิงยวนพยักหน้า “นี่เป็นเพียงเหตุผลหนึ่งเท่านั้น”“ที่สำคัญกว่านั้น กลิ่นดอกไม้อันเข้มข้นเหล่านี้ช่วยปกปิดดอกไม้พิษที่ปลูกไว้ด้านใน!”ทันทีที่พูดออกมา ใบหน้าของทุกคนก็เปลี่ยนสีต่างตกใจเป็นอย่างมาก“ว่ากระไรนะ?!”แม้แต่ฟู่เฉินหวนก็ตกตะลึงลั่วชิงยวนก้มลง ค้นหาในพุ่มดอกไม้ แล้วดึงต้นหนึ่งขึ้นมาอย่างแรงรากและลำต้นถูกปกคลุมไปด้วยหนามสีดำ ดอกมีลักษณะฉูดฉาดมาก แต่มีขนาดเล็กกว่าดอกไม้อื่น ๆ เมื่อแฝงตัวกับพุ่มไม้ดอกแล้ว แทบจะมิเห็นความแตกต่างเลย“นี่คือดอกไม้พิษ เรียกว่าปีกพญามัจจุราช แดงฉานดุจเลือด กลีบดอกสวยงามยิ่ง มีกลิ่นหอมแรง แต่มีพิษ เมื่อสูดดมกลิ่นครั้งแรกจะมิเป็นพิษ ทว่าหากสูดดมเข้าไปเป็นเวลานาน พิษจะแทรกซึมลึกเข้าไปในไขกระดูก”นี่ก็เป็นดอกไม้ของแคว้นหลีด้วยยังเป็นดอกไม้ที่ถูกเพาะพันธุ์โดยจ้าวแห่งพิษ มิพบในที่อื่นทั่วไปบุคคลที่ซ่อนตัวอยู่ในแคว้นเทียนเชวีย ถูกราชวงศ์ของแคว้นหลีส่งมามิเช่นนั้นคนธรรมดาไม่มีทา

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 904

    ไทเฮาและมหาราชาจารย์เหยียนใบหน้าซีดขาว และแข็งทื่อมากพวกเขาไม่มีอะไรจะพูดฟู่เฉินหวนพูดอย่างเย็นชา “ในเมื่อพิสูจน์แล้วว่า สิ่งที่ลั่วชิงยวนพูดนั้นเป็นเรื่องจริง ที่ว่ามีคนต้องการทำร้ายเสด็จพ่อ ดังนั้นทุกคนในวังมีสิทธิ์ตกเป็นผู้ต้องสงสัย โดยเฉพาะผู้ที่ใกล้ชิดกับเสด็จพ่อ”“มีเพียงลั่วชิงยวนเท่านั้นที่รักษาเสด็จพ่อได้!”“ไทเฮา ท่านมีข้อคัดค้านประการใดหรือไม่?”ใบหน้าของไทเฮาดูน่าเกลียดมาก ผู้ที่ใกล้ชิดกับจักรพรรดิสูงสุด มิได้พูดถึงนางหรือไร?ไทเฮาจ้องมองลั่วชิงยวนด้วยสายตาเย็นชา พูดด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ “ในเมื่อลั่วชิงยวนสามารถค้นพบดอกไม้พิษนี้ได้ นางคงมั่นใจว่าจะสามารถรักษาพิษของจักรพรรดิสูงสุดได้”“เช่นนั้น ข้าก็จะมอบหน้าที่สำคัญนี้ให้ลั่วชิงยวน หากนางมิสามารถล้างพิษ และทำให้การรักษาล่าช้า ตัวข้าจะมิละเว้นนาง!”มีเพียงคนจากแคว้นหลีเท่านั้นที่สามารถล้างพิษนี้ได้ และแม้แต่ในแคว้นหลีเอง คนที่สามารถล้างพิษได้ก็นับว่ามีจำนวนน้อยมากทีเดียวนางมิเชื่อว่าลั่วชิงยวนจะสามารถล้างพิษได้เมื่อถึงตอนนั้น หากนางมิสามารถแก้พิษได้ ก็คอยดูเถิดว่านางจะถูกลงโทษอย่างไร!เมื่อกลับถึงห้อง ไทเฮาสั่

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 905

    เมื่อนึกไปถึงอำนาจของตระกูลเหยียน ก็ทำให้นางตระหนักถึงปัญหานี้ได้ทันทีเผ่านอกด่านพวกนี้จะต้องเกี่ยวข้องกับตระกูลเหยียน บางทีอาจมีความสัมพันธ์แบบร่วมมือบางอย่างเผ่านอกด่านส่งกะโหลกหมาป่ามาเพื่อทำร้ายจักรพรรดิสูงสุด และตระกูลเหยียนก็ช่วยพวกเขากำจัดฉินเฉียนหลี่?แม้จะเป็นเพียงการคาดเดา แต่ก็เป็นเรื่องที่ต้องระวังฟู่เฉินหวนขมวดคิ้ว “ข้าจะกลับไปจัดกำลังคนให้สืบข่าวคราวจากทางฉินเชียนหลี่”ลั่วชิงยวนพยักหน้าหลังจากที่ฟู่เฉินหวนจากไป ลั่วชิงยวนยังคงฝังเข็มจักรพรรดิสูงสุดต่อไปก่อนอื่น นางได้เขียนใบเทียบยาเพื่อรักษาลำคอของจักรพรรดิสูงสุดแม้ว่านี่จะมิใช่สาเหตุหลักที่ทำให้จักรพรรดิสูงสุดสูญเสียเสียงของเขาไปก็ตามแต่การต้มยานั้น นางมิกล้าให้คนอื่นทำแทนนางจึงไปรับยาที่สำนักหมอหลวงด้วยตนเอง แต่เมื่อมาถึง สำนักหมอหลวงทั้งหมดกลับดูเหมือนเตรียมพร้อมรับศึกใหญ่อยู่ทุกคนมองนางด้วยสายตามิเป็นมิตรลั่วชิงยวนเดินตรงเข้าไป มุ่งหน้าไปยังคลังยา และเห็นหมอหลวงหนุ่มคนหนึ่ง นางกำลังจะเปิดปากถามแต่อีกฝ่ายกลับก้มหน้าลง ก่อนวิ่งหนีไปด้วยความตื่นตระหนก‘เกิดอะไรขึ้น?’นางเดินตรงเข้าไปในคลังยา

บทล่าสุด

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1234

    เสียงกลองศึกดังขึ้นกองทัพแคว้นหลีบุกมาถึงชายแดนอีกครั้งและครั้งนี้ ฟู่เฉินหวนนำทัพออกรบด้วยตัวเองเฉินชีควบม้าอยู่หน้ากองทัพแคว้นหลีเมื่อเห็นฟู่เฉินหวน เขาก็ยกยิ้มเย็นชา “ในที่สุดเจ้าก็มิเป็นเต่าหัวหดแล้ว! ช่างหาได้ยากนัก!”ฟู่เฉินหวนมองเขาด้วยแววตาเย็นชา “นางอยู่ที่ไหน?”เฉินชีหรี่ตาลง ยกยิ้มมุมปากอย่างผู้มีชัย “ฆ่าตายไปแล้ว”แววตาของฟู่เฉินหวนเต็มไปด้วยจิตสังหาร“เป็นอย่างไร? จะสู้กับข้าจนตายไปข้างหนึ่งหรือไม่?” ดวงตาของเฉินชีลุกโชน อยากจะลงมือเต็มทีแล้วฟู่เฉินหวนชักกระบี่กระโจนเข้าใส่ในชั่วขณะนั้น เซียวชูก็ใจกระตุกวูบเฉินชียกยิ้มอย่างผู้มีชัย รีบชักกระบี่กระโดดขึ้น วันนี้เขาจะฆ่าฟู่เฉินหวนด้วยมือของเขาเอง!กระบี่ยาวในมือของทั้งสองฟาดฟันกันจนเกิดเสียงดังสนั่นจิตสังหารแผ่ซ่านไปทั่วขณะต่อสู้ ฟู่เฉินหวนเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา “เฉินชี เจ้าคิดว่าใครจะเป็นผู้ชนะ”“ไร้สาระ แน่นอนว่าต้องเป็นข้า! เฉินชีคนนี้มิเคยพ่ายแพ้!” เฉินชีหัวเราะอย่างเย็นชา แล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงโอหังฟู่เฉินหวนใช้พลังทั้งหมดต้านทานการโจมตีของเฉินชี พลางกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ต่อหน้ากองทัพ หาก

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1233

    คนที่เขาต้องการฆ่าคือฟู่เฉินหวน!......ในห้องใต้ดินแห่งหนึ่งมีแผนที่แขวนอยู่บนผนัง บนโต๊ะมีแบบจำลองขนาดใหญ่ ที่นี่คือสถานที่สำหรับวางกลยุทธ์ฟู่เฉินหวนที่ใบหน้าซีดเซียวกำลังดื่มชา “แค่ก แค่ก แค่ก แค่ก...”เซียวชูรีบลูบหลังให้ท่านอ๋อง “ท่านอ๋อง ร่างกายของท่านแย่ลงเรื่อย ๆ อยู่ที่ห้องใต้ดินมิได้แล้วพ่ะย่ะค่ะ ข้างล่างนี้หนาวเย็นเกินไป”หลังจากที่ฟู่เฉินหวนหยุดไอก็โบกมือ “หากออกไปจะถูกเฉินชีหาเจอ”“เขาเป็นชาวแคว้นหลี มีวิธีมากมายในการตามหาข้า”“มีเพียงที่นี่เท่านั้นที่อยู่ได้ พลังหยินปกปิดพลังหยางจึงหามิพบ”เซียวชูกล่าวอย่างจนใจ “มีเพียงท่านอ๋องเท่านั้นที่คิดวิธีนี้ออก”ที่นี่คือห้องใต้ดินของสัปเหร่อในสุสานเดิมทีห้องใต้ดินนี้ใช้สำหรับเก็บอาหารของสัปเหร่อ ตอนนี้ด้านบนเต็มไปด้วยหลุมศพในห้องใต้ดินนั้นหนาวเย็นมาก อาภรณ์หนาแค่ไหนก็มิสามารถต้านทานความหนาวเย็นได้หนึ่งถึงสองเดือนมานี้ ท่านอ๋องอาศัยอยู่ที่นี่ เพราะต้องหลบหนีการตามล่าของเฉินชีคอยวางแผนในซีหลิงอย่างลับ ๆ และควบคุมสถานการณ์ทั้งหมดจนถึงตอนนี้ยังมิเคยแพ้ มิเพียงแต่มิให้กองทัพแคว้นหลีบุกเข้าซีหลิงได้เท่านั้น แต่ยั

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1232

    “จะได้มิต้องกังวล”ลั่วอวิ๋นสี่ได้ยินดังนั้นก็รู้สึกใจหายดวงตาใต้หน้ากากของนางแดงก่ำ อยากจะพูดบางอย่างออกมาแต่ก็พูดมิออกนางจึงลุกขึ้นเดินออกจากห้องไปอย่างเงียบเชียบเมื่ออยู่คนเดียวแล้วก็พิงกำแพงร้องไห้ออกมาเหตุใดญาติพี่น้องของนางจึงต้องจากไปทีละคนลั่วชิงยวนเอนหลังพิงเตียงพลางครุ่นคิด นางรู้ว่าคำพูดนั้นโหดร้าย ทว่าเจ็บแต่จบดีกว่าเจ็บเรื้อรังบางทีในภายภาคหน้านางอาจจะหาวิธีรักษาชีวิตได้ ถึงตอนนั้นค่อยบอกข่าวนี้กับพวกนาง อาจจะเป็นเรื่องน่ายินดีก็เป็นได้หลังจากกินยาแล้วลั่วชิงยวนก็พักผ่อนครึ่งวัน จากนั้นจึงออกเดินทางไปซีหลิงต้องเดินทางอย่างช้า ๆ ร่างกายของลั่วชิงยวนมิสามารถทนต่อการเดินทางไกลได้อีกแล้วจึงต้องหยุดพักบ่อยครั้งในคืนที่แสงจันทร์กระจ่าง ลั่วชิงยวนจะใช้เข็มทิศอาณัติสวรรค์ ซึ่งพลังที่ดูดซับมาจะทำให้ความเหนื่อยล้าหายไปใช้เวลาประมาณครึ่งเดือนจึงถึงซีหลิงส่วนเฉินชีนั้นเดินทางไปกลับหนึ่งรอบแล้วในวันที่เดินทางถึงซีหลิง ลั่วชิงยวนพักอยู่ที่โรงเตี๊ยม ส่วนฉู่จิ้งรีบไปหาซ่งเชียนฉู่เขาจึงแยกทางกับพวกนางลั่วชิงยวนคิดว่าควรจะให้ลั่วอวิ๋นสี่กลับไปได้แล้ว จึงให้จือเฉ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1231

    บัดนี้การต่อสู้ระหว่างทั้งสองกองทัพหยุดลงแล้ว แต่ยังคงอยู่ในสถานการณ์ตึงเครียดต่อไปถึงแม้ว่าเฉินชีอยากจะฆ่าฟู่เฉินหวน แต่ก็มิยอมให้คนของตัวเองตายอย่างสูญเปล่าหากพูดถึงกลยุทธ์ แม้แต่เฉินชียังต้องยอมรับว่าฟู่เฉินหวนเก่งกาจมาก ถือเป็นศัตรูที่แข็งแกร่งการจะฆ่าเขานั้นมิใช่เรื่องง่ายดังนั้นจึงหยุดรบก่อนแล้วค่อยหาโอกาสหลายวันมานี้ เขาปลอมตัวเข้าไปในซีหลิงเพื่อสืบข่าวและสังเกตการณ์การป้องกันของซีหลิงแต่การป้องกันของซีหลิงนั้นแปลกประหลาด เพราะมิเห็นเลยว่าคนอยู่ที่ไหน มิรู้ว่าที่ใดมีกำลังพลมาก ที่ใดมีกำลังพลน้อยแม้แต่ร่องรอยของฟู่เฉินหวนก็ยังมิแน่นอนเขาคิดว่าตัวเองสามารถเข้าไปในซีหลิงได้โดยไม่มีใครรู้ บนใต้หล้านี้มีน้อยคนนักที่จะมีวรยุทธ์สูงส่งเทียบเท่าเขาแต่กลับหามิพบแม้กระทั่งที่ซ่อนของฟู่เฉินหวนมีค่ายประจำการอยู่มิน้อย แต่เฉินชีก็ดูออกว่าทั้งหมดล้วนเป็นภาพลวงตาที่ใช้หลอกล่อเขาวันนี้เฉินชียังคงเดินไปมาในซีหลิงเพื่อสำรวจไปรอบ ๆ และทันใดนั้นก็ได้รับจดหมายฉบับหนึ่งเมื่อเห็นเนื้อความในจดหมาย สีหน้าของเขาพลันเปลี่ยนไปก่อนจะรีบควบม้าออกไปทันที......อากาศกลับมาหนาวเย็น ล

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1230

    “ท่านแม่... ท่านอย่าทิ้งข้าไปอีกเลย ท่านไปที่ใด ข้าก็จะไปที่นั่น!”เมื่อจือเฉาได้ยินดังนั้นก็ตกใจฉู่จิ้งเลิกคิ้วด้วยความประหลาดใจ“เจ้ามีลูกชายโตถึงเพียงนี้ตั้งแต่เมื่อใด?”เสียงนี้ฟังดูแล้วน่าจะอายุมากกว่าลั่วชิงยวนเสียอีกลั่วชิงยวนกล่าวอย่างจนใจ “ก็... อยู่ ๆ ก็มี...”หลังจากกล่าวจบ นางก็มองไปที่ลั่วอวิ๋นสี่ “ตอนนี้วรยุทธ์ของเจ้าเป็นอย่างไรบ้าง? มิต้องการเขาแล้วใช่หรือไม่?”ลั่วอวิ๋นสี่พยักหน้า “แข็งแกร่งขึ้นมากแล้ว น่าจะปกป้องพี่หญิงได้แล้ว”“ส่วนเตี่ยฉุย ให้เขาตามเจ้าไปเถิด”ลั่วชิงยวนตอบรับ “ได้ เมื่อไปถึงซีหลิงแล้วข้าจะหาวิธีพาเขาออกมา”......ลั่วฉิงถูกขังอยู่ในวงเวท พยายามดิ้นรนออกไป แต่ก็ออกไปมิได้วงเวทนี้ขังนางไว้อย่างแน่นหนาเมื่อเห็นเลือดถูกดูดออกไปจากร่าง ลั่วฉิงก็รู้สึกหวาดกลัวอย่างมากนางจะตายที่นี่มิได้!นางรอแล้วรอเล่า ในที่สุดเมื่อฟ้าเริ่มสางก็มีคนเดินผ่านมาลั่วฉิงราวกับพบเจอผู้ช่วยชีวิต นางนอนคว่ำอยู่บนพื้น แล้วยื่นมือออกไป “ช่วยข้าด้วย...”ชายที่แบกจอบตกใจ รีบนั่งยอง ๆ และกล่าวถาม “แม่นาง เจ้าเป็นอะไร? จะไปหาหมอหรือไม่?”ลั่วฉิงเห็นเขาเข้ามาในเ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1229

    ร่างนั้นขวางหน้าลั่วฉิงไว้แล้วเข้าโรมรันต่อสู้กับลั่วฉิงหลังจากปะทะกันหลายกระบวนท่า ถึงแม้จะเสียเปรียบเล็กน้อย แต่ก็สามารถขวางลั่วฉิงไว้ได้ลั่วชิงยวนถือเข็มทิศตามหาตำแหน่งของฉู่จิ้งเมื่อเห็นการต่อสู้ที่ดุเดือดก็ตกใจเล็กน้อย แล้วรีบวิ่งเข้าไปปลดวงเวทปล่อยตัวฉู่จิ้งออกมาเมื่อลั่วฉิงเห็นลั่วชิงยวนมาก็พลันตกตะลึง และถูกฝ่ามือตบจนกระเด็นไปหลายเมตรนางเงยหน้าขึ้นด้วยความตกใจ “ลั่วชิงยวน เจ้านี่เอง!”ลั่วชิงยวนมองนางด้วยแววตาเย็นชา “วงเวทของเจ้ายังอ่อนหัดนัก”“ข้าจะมอบให้เจ้าอีกหนึ่ง”ลั่วชิงยวนหรี่ตาลง หยิบเข็มทิศอาณัติสวรรค์ออกมา“นองเลือดแปดทิศ!”ทันใดนั้น วงเวทสีทองที่ใหญ่โตมโหฬารพลันผุดขึ้นแผ่ขยายไปบนท้องฟ้าปกคลุมลั่วฉิงไว้ลั่วฉิงอยากจะหนี แต่หนีมิพ้นนางกางมือออก เห็นเหมือนเส้นไหมสีแดงลอยขึ้นมาจากฝ่ามือถูกวงเวทดูดเข้าไปจากนั้นนางก็ตระหนักได้ด้วยความตกใจว่า นี่คือเลือดของนาง!ลั่วชิงยวนมองนางด้วยแววตาเย็นชา “ภายในเจ็ดวัน เจ้าจะกลายเป็นศพแห้ง”“เดิมทีข้าเห็นแก่มิตรภาพแห่งสำนัก จึงจะไว้ชีวิตเจ้า แต่เจ้ากลับรบกวนข้ามิเลิก กัดมิยอมปล่อย”“เจ้าต้องการเข็มทิศอาณัติสวรรค

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1228

    แต่ลั่วชิงยวนกลับมิเปลี่ยนสีหน้า ในดวงตามีเพียงความเย็นชามือกำกริชแน่น“ไม่มีใครอยากเป็นนักโทษของผู้อื่น หม่อมฉันก็เช่นกัน”“มาถึงขั้นนี้ ท่านกับหม่อมฉันก็เป็นศัตรูกันแล้ว”“อย่ามาใช้น้ำเสียงเหยียดหยามมาสั่งหม่อมฉันอีก”“หม่อมฉัน ลั่วชิงยวน มิเกี่ยวข้องอะไรกับท่านอีกต่อไป!”กล่าวจบ ลั่วชิงยวนก็คว้าปอยผมมาตัดขาดทันใดแล้วปล่อยให้ปลิวไปในอากาศ“หม่อมฉันตัดด้ายที่ผูกพันท่านกับหม่อมฉันด้วยมือของหม่อมฉันเอง นับจากนี้เราจะกลายเป็นคนแปลกหน้าของกันและกันเท่านั้น”“หากท่านยังมารบกวนอีก หม่อมฉันจะฆ่าท่านโดยมิลังเล”ใต้ความมืดมิดยามรัตติกาล แววตาของลั่วชิงยวนช่างเย็นชาเหลือเกินแววตาที่มิคุ้นเคยราวกับมองคนแปลกหน้า ในดวงตาไม่มีความรักใคร่หลงเหลืออยู่อีกแล้วการตัดครั้งนี้ถือว่าตัดความอาลัยทั้งหมดของนางแล้วนับจากนี้ นางจะมิหันหลังกลับไปอีก!ลั่วชิงยวนก้าวเท้าเดินจะจากไปแต่ฟู่เฉินหวนกลับพุ่งเข้ามา คว้าไหล่ของนาง หมายจะบีบคอเพื่อควบคุมนางพลังที่รุนแรงทำให้นางรู้สึกกดดัน พยายามหลบหลีกอย่างสุดกำลังร่างกายของนางตอนนี้มิอาจสู้กับฟู่เฉินหวนได้เลย ลั่วชิงยวนจึงได้แต่ใช้กลอุบายถอยหลั

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1227

    นางสะบัดมือ ผงยาพุ่งเข้าใส่ใบหน้าของฉู่จิ้งฉู่จิ้งมึนหัวทันที“เป็นเจ้านี่เอง!” ฉู่จิ้งโยนคนที่อยู่ในอ้อมแขนออกไปลั่วฉิงตีลังกาลงพื้นอย่างมั่นคง แล้วมองฉู่จิ้งด้วยสายตาเย็นชา “ที่แท้ก็ต้องปลอมตัวเป็นเด็กคนนี้จริง ๆ ถึงจะหลอกเจ้าได้สินะ”“ตอนนั้นเฉินเซี่ยวหานมีโอกาสใช้ซ่งเชียนฉู่มาข่มขู่เจ้า แต่เขากลับมิทำ ทำให้แผนของข้าล้มเหลวครั้งแล้วครั้งเล่า ช่างโง่เขลาสิ้นดี!”“วันนี้ข้าจะควักดีงูของเจ้าด้วยตัวเอง!”“จัดการเจ้าแล้วข้าค่อยไปจัดการลั่วชิงยวน!”เมื่อได้ยินดังนั้น สีหน้าของฉู่จิ้งก็เปลี่ยนไปลั่วชิงยวนคงจะตกอยู่ในอันตรายเขามิอยากต่อสู้กับนาง ตัดสินใจรีบหันหลังวิ่งหนีแต่บนพื้นกลับมีแสงสีทองส่องประกายวงเวทสีทองอยู่ใต้เท้าของเขาเขาออกไปมิได้!ลั่วฉิงเดินเข้ามาหาช้า ๆ พลางหัวเราะอย่างเย็นชา “เจ้าคิดว่าข้ามิได้เตรียมตัวเลยงั้นรึ?”“มีโอกาสล่อเจ้าออกมาได้เช่นนี้ ข้าจะปล่อยให้เจ้าหนีไปได้อย่างไรเล่า”ลั่วฉิงถือกระบี่ยาวเข้ามา แววตาเต็มไปด้วยความกระหายเลือดนางจะควักดีของเขาทั้งเป็น!ถึงตอนนั้น มิเพียงแต่อาการบาดเจ็บของนางจะหายเท่านั้น แต่ยังจะทำให้พลังเพิ่มขึ้นอีกด้วย!

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1226

    ลั่วชิงยวนหยิบยันต์ออกมาจากแขนเสื้อ แล้วถือไว้ในมือ วินาทีต่อมายันต์นั้นลุกไหม้เป็นเถ้าถ่าน พลังหยินอันรุนแรงพวยพุ่งออกมาลั่วฉิงตกใจมากนางเห็นยันต์ลุกไหม้ก่อนที่มิติจะเปิดออก ทันใดนั้นงูยักษ์ก็พุ่งทะยานออกมาจากมิติมันอ้าปากเปื้อนเลือดขนาดใหญ่พุ่งเข้าหาลั่วฉิงเสียงคำรามดังกึกก้องลั่วฉิงรีบหยิบเข็มทิศอาณัติสวรรค์ออกมา แต่กลับไร้ประโยชน์ นางถูกเสียงคำรามผลักจนกระเด็นออกจากห้อง เข็มทิศอาณัติสวรรค์ในมือหล่นลงพื้นนางตกลงไปที่ห้องโถงชั้นล่าง ได้แต่ลุกขึ้นยืนโซซัดโซเซ และเงยหน้ามองห้องนั้นด้วยความโกรธนางกัดฟันแล้วหันหลังเดินออกไปข้างกายลั่วชิงยวนมีงูยักษ์คอยปกป้อง!แต่ก็ดี ทั้งเข็มทิศอาณัติสวรรค์และดีงู นางต้องการทั้งหมด!ประตูห้องถูกปิดลงอีกครั้งลั่วชิงยวนก้มลงเก็บเข็มทิศอาณัติสวรรค์ที่ตกอยู่บนพื้น ในที่สุดก็วางใจได้เสียทีของอย่างอื่นจะหายไปก็ได้แต่เข็มทิศอาณัติสวรรค์จะหายไปมิได้นางรู้ว่าลั่วฉิงต้องสะกดรอยตามมาแน่นอน จึงจงใจแวะพักที่นี่เพื่อให้ลั่วฉิงมีโอกาสลงมือครู่หนึ่งจือเฉาและฉู่จิ้งก็กลับมา ลั่วชิงยวนรีบพาพวกเขาเดินทางไปซีหลิงในทันทีมิกล้าเสียเวลาอีกบนรถม้า

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status