Share

บทที่ 897

Author: หว่านชิงอิ๋น
“ท่านกล้าใช้คำโกหกเหล่านี้มาหลอกลวงข้า เพื่อปกป้องลั่วชิงยวน!”

“อากาศในห้องมันร้อนก็เลยเจาะหลังคาเลยรึ? ท่านรู้หรือไม่ว่าเสด็จพ่อของท่านทรงพระประชวรจนกระอักเลือด!”

“องค์จักรพรรดิ! ที่ผ่านมาที่ท่านปกป้องท่านอ๋อง ข้าคิดว่าท่านคงรักใคร่กับน้องชายของท่านมาก แต่ในฐานะของกษัตริย์ ท่านจะใช้คำโกหกต่ำช้าเช่นนี้มาหลอกลวงข้าได้อย่างไร ไม่มีใครเชื่อคำพูดของท่านหรอก!”

ไทเฮามีอารมณ์ร้อนรนอย่างมาก พูดไปพูดมาก็ยกมือขึ้นกุมหน้าอกแล้วล้มลงไปข้างหลัง

สีหน้าซีดเผือด เหมือนจะหายใจมิออก

“ไทเฮา! ไทเฮา!”

ทุกคนร้องเสียงหลง

ไทเฮาล้มลงไป แต่ยังคงชี้ไปที่ฟู่จิ่งหานด้วยความโกรธ “องค์จักรพรรดิ หากวันนี้ท่านยังคงปกป้องลั่วชิงยวน ปกป้องคนที่ทำร้ายเสด็จพ่อของท่าน! ท่านก็มิคู่ควรที่จะเป็นลูกมนุษย์!”

“และมิคู่ควรที่จะเป็นกษัตริย์!”

เสียงตะโกนอันดังกังวาน เต็มไปด้วยความคับแค้นและความโกรธกริ้ว

ฟู่งหานมิรู้ว่าจะทำอย่างไรแล้ว

ลั่วชิงยวนรู้ดีว่า หากมิลงโทษนาง ฟู่จิ่งหานคงจะถูกตราหน้าว่าเป็นจักรพรรดิที่มิดี

ขณะที่นางกำลังจะเอ่ยปาก

ฟู่เฉินหวนก็พูดขึ้นก่อน “ไทเฮา ท่านมิจำเป็นต้องบีบบังคับฝ่าบาท พระองค์ทรงทราบดีว่าล
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App
Comments (1)
goodnovel comment avatar
ไพทูรย์ ิชินน้ําพอ
ทำไมไม่ให้อ่านอ่ะทีแรกก็ดีนะแต่ตอนนี้กั๊กไม่ใ้อ่านลบทิ้งก็ได้นะเปลืองพื้นที่โทรศัพท์
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 898

    กดวิญญาณหมาป่าเอาไว้เป็นหมาป่าตัวเดียวกับที่เห็นในกะโหลกหมาป่าเป็นสิ่งชั่วร้ายแต่พลังของมันมิแรงมาก ดังนั้นเข็มทิศจึงมิตอบสนองมากนักแต่สำหรับองค์จักรพรรดิสูงสุดที่กำลังป่วยหนักในขณะนี้ ถึงตายได้เลยลั่วชิงยวนขมวดคิ้วมองไทเฮาและคนอื่น ๆ “พวกเจ้าถอยไปหน่อย อย่าขวางแสงแดด”ไทเฮาพยายามระงับความโกรธ และให้ทุกคนถอยไปแสงสว่างขึ้นมาในทันทีลั่วชิงยวนก้มตัวลงข้าง ๆ องค์จักรพรรดิสูงสุด “องค์จักรพรรดิสูงสุด ท่านได้ยินหม่อมฉันพูดหรือไม่เพคะ?”“หากได้ยิน โปรดขยับนิ้วพระหัตถ์ด้วยเพคะ”ลั่วชิงยวนจับข้อมือขององค์จักรพรรดิสูงสุด และรู้สึกว่านิ้วของเขาขยับลั่วชิงยวนดีใจขึ้นมาและพูดต่อด้วยเสียงต่ำว่า “ตอนนี้มีบางอย่างกดทับพระองค์อยู่ หม่อมฉันจะฝังเข็ม พระองค์อาจจะรู้สึกเจ็บปวดชั่วขณะ และอาจจะกระอักเลือดได้เพคะ”องค์จักรพรรดิสูงสุดขยับนิ้วอีกครั้งดังนั้น ลั่วชิงยวนจึงโล่งใจจริง ๆ แล้วมิใช่การฝังเข็ม แต่เป็นการขับไล่หมาป่าตัวนั้นลั่วชิงยวนหันหลังให้ทุกคน เพื่อมิให้ใครเห็นว่านางกำลังทำอะไรจากนั้นจึงเจาะนิ้วของนาง วาดเครื่องรางด้วยเลือดแล้วแปะลงบนร่างกายขององค์จักรพรรดิสูงสุดทันที

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 899

    ไทเฮามองเขาด้วยสายตาที่ดุร้าย พลางตวาดเสียงดังว่า “องค์จักรพรรดิ! ท่านถึงกับมิสนใจความเป็นความตายของเสด็จพ่อของท่านเลยหรือ!”ฟู่จิ่งหานขมวดคิ้ว สีหน้าเคร่งขรึม มิอาจพูดอะไรได้อีกไทเฮารู้สึกดีใจอยู่ในใจ นางออกคำสั่ง “ใครก็ได้! จับฟู่เฉินหวนกับลั่วชิงยวนเข้าคุก! เลือกวันประหาร!”องครักษ์รีบเข้ามาทันที ควบคุมตัวทั้งสองไว้ แล้วกำลังจะพาตัวไปลั่วชิงยวนสงบนิ่ง ไม่มีความตื่นตระหนกเลยแม้แต่น้อย“ช้าก่อน!”นางมองหมอหลวงหลี่อย่างสงบ ถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา “หมอหลวงหลี่ อาการขององค์จักรพรรดิสูงสุดแย่ลงจริงหรือ?”“ฝีมือการแพทย์ของเจ้า ไหวหรือไม่?”อาการขององค์จักรพรรดิสูงสุดตอนนี้ แค่เป็นหมอที่จับชีพจรเป็นก็สามารถดูออกแล้วอาการดีขึ้นอย่างชัดเจนขนาดนั้น!หายใจสะดวกขึ้น ลมหายใจก็คงที่ ชีพจรก็เต้นแรงขึ้นหมอหลวงหลี่ผู้นี้ต้องการช่วยไทเฮากำจัดนาง กล้าพูดปลดถึงเพียงนี้ หลอกลวงองค์จักรพรรดิและขุนนางทั้งหลายคราวนี้เขาตายแน่!หมอหลวงหลี่รู้สึกผิดอยู่บ้าง แต่ก็ยังกล่าวโทษลั่วชิงยวนอย่างมิเกรงกลัว“ข้าเป็นหมอหลวงในวังมาหลายปี ย่อมมิผิดพลาด องค์จักรพรรดิสูงสุดอาการหนักขึ้น เพราะถูกท่านทำร้าย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 900

    องค์จักรพรรดิสูงสุดที่อยู่บนเตียงเอ่ยปากแล้วเปล่งเสียงอย่างแผ่วเบาว่า “หยุด!”ทุกคนตกใจอย่างมาก หันไปมองที่เตียงองค์จักรพรรดิสูงสุดฟื้นแล้ว อีกทั้งยังมีสติสัมปชัญญะ!สีหน้าของไทเฮาก็เปลี่ยนไปอย่างมาก รีบทรุดตัวลงข้างเตียง จับมือองค์จักรพรรดิสูงสุดไว้แน่นแล้วร้องไห้อย่างตื้นตันเหมือนจะห้ามมิให้องค์จักรพรรดิสูงสุดพูดอะไร“หยุดเดี๋ยวนี้…” เสียงขององค์จักรพรรดิสูงสุดแผ่วเบา จมหายไปกับเสียงร้องไห้ของไทเฮาฟู่จิ่งหานได้ยินองค์จักรพรรดิสูงสุดพูดบางสิ่ง จึงรีบก้าวเข้าไปแต่กลับถูกไทเฮาขวางไว้ ฟู่จิ่งหานมองมิเห็น จึงหันไปมองฟู่เฉินหวนฟู่เฉินหวนสะบัดหนีองครักษ์ ก้าวเข้าไปอย่างรวดเร็วด้วยท่าทีดุดันเห็นไทเฮายังคงร้องไห้อยู่ จึงตวาดเสียงดัง “ไทเฮามิอยากให้พวกเราได้ยินสิ่งที่เสด็จพ่อตรัสหรือ!”“ทุกคนถอยไป!”ฟู่เฉินหวนมองไปที่หมอหลวงหลี่ด้วยสายตาที่ดุดันแต่ไทเฮามิสนใจ ยังคงร้องไห้อย่างเศร้าโศก มองฟู่เฉินหวนด้วยสายตาที่ดุดัน แล้วตะโกนว่า “ยังมิรีบลากตัวฟู่เฉินหวนไปอีก!”“คิดปลงพระชนม์องค์จักรพรรดิสูงสุด มีโทษถึงประหาร!”“หรือว่าคำพูดของตัวข้าผู้เป็นไทเฮาไม่มีความหมายแล้ว!”องครัก

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 901

    น้ำเสียงของลั่วชิงยวนเปลี่ยนไปกะทันหัน และเฉียบคมยิ่งขึ้นทว่า สีหน้าของไทเฮากลับซีดลงรอยยิ้มที่ยากจะสังเกตเห็นปรากฏขึ้นที่มุมริมฝีปากของฟู่เฉินหวน ลั่วชิงยวนหาวิธีล่อลวงไทเฮาได้แนบเนียนจริง ๆนางน่าจะรู้ดีอยู่แล้วถึงสภาพร่างกายของจักรพรรดิสูงสุด ดังนั้นนางจึงจงใจแกล้งทำเป็นล้มเหลว เพื่อให้ไทเฮารับรองหมอหลวงหลี่แต่ตอนนี้ต่อหน้าคนจำนวนมาก ไทเฮามิอาจถอยได้แล้ว อีกทั้งนางก็อธิบายอะไรมิได้ด้วยในตอนนั้นเอง เสียงที่ทุ้มลึกและสง่างามดังมาจากภายนอก... “สาวน้อยคนนี้เป็นแค่ชายาอ๋องผู้สำเร็จราชการ กล้าดีอย่างไรมาทำท่าทีเช่นนี้ต่อไทเฮา?”เมื่อหันกลับมาเขาเห็นว่าผู้ที่มาคือมหาราชาจารย์เหยียนพี่ชายของไทเฮาเหยียนลั่วชิงยวนเคยได้พบกับมหาราชาจารย์เหยียนหลายครั้ง แต่ส่วนใหญ่แล้วมหาราชาจารย์เหยียนดูเคร่งขรึมและเก็บงำถ้อยคำฟู่เฉินหวนพูดอย่างใจเย็น“มหาราชาจารย์เหยียน มิจำเป็นต้องรีบไปตำหนิลั่วชิงยวน ลั่วชิงยวนมีผลงานในการรักษาองค์จักรพรรดิสูงสุด ตอนนี้การตั้งข้อสงสัยต่อหมอหลวงหลี่และไทเฮาก็นับว่าสมเหตุสมผล”“ทั้งหมดก็เพราะนางใส่ใจเรื่องอาการป่วยของจักรพรรดิสูงสุดมากเกินไป”“มหาราชาจารย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 902

    ทันทีที่คำพูดเหล่านี้ออกมา ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นก็ตกตะลึงจนหน้าซีดเผือด“ว่ากระไรนะ?”“อย่าได้พูดเหลวไหล!” ขุนนางทุกคนต่างตกตะลึงฟู่เฉินหวนก็ประหลาดใจเช่นกัน เขาขมวดคิ้วมองไปทางลั่วชิงยวนด้วยสายตาลึกซึ้งไทเฮาและมหาราชาจารย์เหยียนมองหน้ากัน แววตาเผยถึงความตึงเครียดอย่างปิดมิมิดความลับนี้ไม่มีใครล่วงรู้มาได้ตั้งนานหลายปีครั้งแรกที่มีคนเอ่ยปากขึ้น ลั่วชิงยวนเป็นคนเอ่ยขึ้นมาพวกเขาจะมิตื่นตระหนกได้อย่างไร?“ลั่วชิงยวน เจ้ารู้หรือไม่ว่าการลอบสังหารองค์จักรพรรดิสูงสุดเป็นอาชญากรรมร้ายแรงเพียงใด เจ้ากล่าวหาว่า องค์จักรพรรดิสูงสุดถูกคนวางยาพิษ โดยไม่มีหลักฐานน่ะหรือ”“มิเช่นนั้น ก็สมควรตัดหัวเจ้าด้วยความผิดฐานหลอกลวงผู้คน!” ไทเฮาตรัสอย่างเฉียบขาดเมื่อดูจากพฤติกรรมของไทเฮาแล้ว ดูเหมือนว่าจะมั่นใจว่านางไม่มีหลักฐานพวกเขาทำเรื่องทั้งหมดนี้ไว้ได้อย่างแนบเนียน ไม่มีทางหาหลักฐานได้แน่แต่ที่จริงแล้ว พระตำหนักนี้เองก็เป็นหลักฐานในเวลานี้ ฟู่เฉินหวนก้าวไปข้างหน้าจับมือของลั่วชิงยวนไว้แล้วพูดว่า “หากไม่มีหลักฐานที่แน่ชัด ก็อย่าไปข้องเกี่ยวด้วยเลย”ฟู่เฉินหวนมองนางด้วยสีหน้าจริงจัง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 903

    เมื่อได้ยินสิ่งนี้ แม่ทัพใหญ่ฉินก็ประหลาดใจและพูดว่า “กลิ่นหอมของดอกไม้เหล่านี้จะกระตุ้นองค์จักรพรรดิสูงสุด! ข้าจำได้ว่า องค์จักรพรรดิสูงสุดทรงไวต่อกลิ่นหอมมาก!”ลั่วชิงยวนพยักหน้า “นี่เป็นเพียงเหตุผลหนึ่งเท่านั้น”“ที่สำคัญกว่านั้น กลิ่นดอกไม้อันเข้มข้นเหล่านี้ช่วยปกปิดดอกไม้พิษที่ปลูกไว้ด้านใน!”ทันทีที่พูดออกมา ใบหน้าของทุกคนก็เปลี่ยนสีต่างตกใจเป็นอย่างมาก“ว่ากระไรนะ?!”แม้แต่ฟู่เฉินหวนก็ตกตะลึงลั่วชิงยวนก้มลง ค้นหาในพุ่มดอกไม้ แล้วดึงต้นหนึ่งขึ้นมาอย่างแรงรากและลำต้นถูกปกคลุมไปด้วยหนามสีดำ ดอกมีลักษณะฉูดฉาดมาก แต่มีขนาดเล็กกว่าดอกไม้อื่น ๆ เมื่อแฝงตัวกับพุ่มไม้ดอกแล้ว แทบจะมิเห็นความแตกต่างเลย“นี่คือดอกไม้พิษ เรียกว่าปีกพญามัจจุราช แดงฉานดุจเลือด กลีบดอกสวยงามยิ่ง มีกลิ่นหอมแรง แต่มีพิษ เมื่อสูดดมกลิ่นครั้งแรกจะมิเป็นพิษ ทว่าหากสูดดมเข้าไปเป็นเวลานาน พิษจะแทรกซึมลึกเข้าไปในไขกระดูก”นี่ก็เป็นดอกไม้ของแคว้นหลีด้วยยังเป็นดอกไม้ที่ถูกเพาะพันธุ์โดยจ้าวแห่งพิษ มิพบในที่อื่นทั่วไปบุคคลที่ซ่อนตัวอยู่ในแคว้นเทียนเชวีย ถูกราชวงศ์ของแคว้นหลีส่งมามิเช่นนั้นคนธรรมดาไม่มีทา

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 904

    ไทเฮาและมหาราชาจารย์เหยียนใบหน้าซีดขาว และแข็งทื่อมากพวกเขาไม่มีอะไรจะพูดฟู่เฉินหวนพูดอย่างเย็นชา “ในเมื่อพิสูจน์แล้วว่า สิ่งที่ลั่วชิงยวนพูดนั้นเป็นเรื่องจริง ที่ว่ามีคนต้องการทำร้ายเสด็จพ่อ ดังนั้นทุกคนในวังมีสิทธิ์ตกเป็นผู้ต้องสงสัย โดยเฉพาะผู้ที่ใกล้ชิดกับเสด็จพ่อ”“มีเพียงลั่วชิงยวนเท่านั้นที่รักษาเสด็จพ่อได้!”“ไทเฮา ท่านมีข้อคัดค้านประการใดหรือไม่?”ใบหน้าของไทเฮาดูน่าเกลียดมาก ผู้ที่ใกล้ชิดกับจักรพรรดิสูงสุด มิได้พูดถึงนางหรือไร?ไทเฮาจ้องมองลั่วชิงยวนด้วยสายตาเย็นชา พูดด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ “ในเมื่อลั่วชิงยวนสามารถค้นพบดอกไม้พิษนี้ได้ นางคงมั่นใจว่าจะสามารถรักษาพิษของจักรพรรดิสูงสุดได้”“เช่นนั้น ข้าก็จะมอบหน้าที่สำคัญนี้ให้ลั่วชิงยวน หากนางมิสามารถล้างพิษ และทำให้การรักษาล่าช้า ตัวข้าจะมิละเว้นนาง!”มีเพียงคนจากแคว้นหลีเท่านั้นที่สามารถล้างพิษนี้ได้ และแม้แต่ในแคว้นหลีเอง คนที่สามารถล้างพิษได้ก็นับว่ามีจำนวนน้อยมากทีเดียวนางมิเชื่อว่าลั่วชิงยวนจะสามารถล้างพิษได้เมื่อถึงตอนนั้น หากนางมิสามารถแก้พิษได้ ก็คอยดูเถิดว่านางจะถูกลงโทษอย่างไร!เมื่อกลับถึงห้อง ไทเฮาสั่

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 905

    เมื่อนึกไปถึงอำนาจของตระกูลเหยียน ก็ทำให้นางตระหนักถึงปัญหานี้ได้ทันทีเผ่านอกด่านพวกนี้จะต้องเกี่ยวข้องกับตระกูลเหยียน บางทีอาจมีความสัมพันธ์แบบร่วมมือบางอย่างเผ่านอกด่านส่งกะโหลกหมาป่ามาเพื่อทำร้ายจักรพรรดิสูงสุด และตระกูลเหยียนก็ช่วยพวกเขากำจัดฉินเฉียนหลี่?แม้จะเป็นเพียงการคาดเดา แต่ก็เป็นเรื่องที่ต้องระวังฟู่เฉินหวนขมวดคิ้ว “ข้าจะกลับไปจัดกำลังคนให้สืบข่าวคราวจากทางฉินเชียนหลี่”ลั่วชิงยวนพยักหน้าหลังจากที่ฟู่เฉินหวนจากไป ลั่วชิงยวนยังคงฝังเข็มจักรพรรดิสูงสุดต่อไปก่อนอื่น นางได้เขียนใบเทียบยาเพื่อรักษาลำคอของจักรพรรดิสูงสุดแม้ว่านี่จะมิใช่สาเหตุหลักที่ทำให้จักรพรรดิสูงสุดสูญเสียเสียงของเขาไปก็ตามแต่การต้มยานั้น นางมิกล้าให้คนอื่นทำแทนนางจึงไปรับยาที่สำนักหมอหลวงด้วยตนเอง แต่เมื่อมาถึง สำนักหมอหลวงทั้งหมดกลับดูเหมือนเตรียมพร้อมรับศึกใหญ่อยู่ทุกคนมองนางด้วยสายตามิเป็นมิตรลั่วชิงยวนเดินตรงเข้าไป มุ่งหน้าไปยังคลังยา และเห็นหมอหลวงหนุ่มคนหนึ่ง นางกำลังจะเปิดปากถามแต่อีกฝ่ายกลับก้มหน้าลง ก่อนวิ่งหนีไปด้วยความตื่นตระหนก‘เกิดอะไรขึ้น?’นางเดินตรงเข้าไปในคลังยา

Latest chapter

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1298

    อวี๋โหรวก็ประหลาดใจ นางมิคาดคิดว่าลั่วชิงยวนจะล่วงรู้ความคิดเล็ก ๆ น้อย ๆ ของนาง อีกทั้งยังไปเอาเรื่องจั๋วฉ่างตงเพื่อนางและทำร้ายจั๋วฉ่างตงจนอยู่ในสภาพเช่นนั้นการกระทำของนางคล้ายคลึงกับลั่วเหลาในสมัยก่อนยิ่งนักนางชอบใจมาก“กินยาเสีย” ลั่วชิงยวนรินยาให้อวี๋โหรวเดินเข้าไปดมแล้วก็รู้สึกประหลาดใจ “ในนี้มีบัวถวายผสมด้วยหรือ?”“เจ้ากินไปเถิด”“อาการบาดเจ็บของเจ้าน่าจะทุเลาลงเพราะยานี้”ลั่วชิงยวนกล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “อาการบาดเจ็บภายในของเจ้าก็มิได้ดีไปกว่าข้าหรอก รีบกินเสีย”อวี๋โหรวจำต้องยอมดื่มยานั้นลั่วชิงยวนนั่งลงข้าง ๆ รินน้ำชาหนึ่งถ้วย แล้วกล่าวว่า “ต่อไปจั๋วฉ่างตงจะต้องหาเรื่องเจ้าอีกเป็นแน่ เจ้าจะปิดบังตนเองอีกมิได้”“ในเมื่อฝีมือของเจ้าทำให้จั๋วฉ่างตงริษยาได้ เช่นนั้นก็อย่าได้เกรงใจนาง!”“ส่วนทางด้านนักบวชระดับสูง ข้าคิดว่านางคงจะให้ความสำคัญกับผู้ที่มีความสามารถ มิใช่ผู้ที่ประจบสอพลอ”นี่คือความเข้าใจที่ลั่วชิงยวนมีต่อเวินซินถงจั๋วฉ่างตงสามารถเป็นคนสนิทข้างกายของนางได้ ย่อมเป็นเพราะจั๋วฉ่างตงมีฝีมือที่แข็งแกร่งในสำนักนักบวช มิใช่เพราะจั๋วฉ่างตงประจบสอพลอเก่

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1297

    ลั่วชิงยวนคว้าตัวจั๋วฉ่างตง “คุกเข่าลง! ขอโทษ! รับปากด้วยว่าจะมิรังแกนางอีก!”เมื่อเสียงอันดุดันดังขึ้น ทุกคนต่างตกตะลึงจั๋วฉ่างตงมีหรือจะยินยอม ดวงตาแดงก่ำของนางจ้องมองลั่วชิงยวนอย่างเดือดดาล “สารเลว!”เพียะ!ลั่วชิงยวนตบหน้านางอย่างมิปรานี“ข้ามิรังเกียจที่จะตบเจ้าจนกว่าจะยอม”“ยามนี้ตบหน้ายังทนได้ หากบีบให้ข้าใช้ท่วงท่าอื่น ระวังวรยุทธ์ของเจ้าจะไร้ค่า!”ลั่วชิงยวนข่มขู่ด้วยน้ำเสียงเย็นชาจั๋วฉ่างตงกัดริมฝีปากล่างด้วยความโกรธแค้นและอัปยศอดสูเดิมทีนางเป็นหญิงสาวที่หน้าตางดงาม ทว่ายามนี้กลับถูกลั่วชิงยวนทำร้ายจนยับเยิน แทบจะจำเค้าเดิมมิได้“ข้ามิได้มีความอดทนมากนัก เร็วเข้า!”ยามนี้มีผู้คนมากมายได้ยินเสียงอึกทึกจึงมามุงดูเหตุการณ์น่าตื่นเต้นรวมตัวกันอยู่หน้าประตูเรือนพลางกระซิบกระซาบกัน“ลั่วชิงยวนผู้นี้ช่างกล้าหาญนัก”“จั๋วฉ่างตงไปยั่วโมโหนางอีกแล้วหรือ?”เมื่อได้ยินเสียงจากภายนอก จั๋วฉ่างตงก็แทบจะหลั่งน้ำตา มีผู้คนมากมายมองดูอยู่ นางกลับต้องคุกเข่าขอโทษอวี๋โหรว!ขณะที่ลั่วชิงยวนหมดความอดทนและกำลังจะลงมือจั๋วฉ่างตงก็กลั้นน้ำตาไว้พลางคุกเข่าลง ตรงหน้าอวี๋โหรวอว

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1296

    จั๋วฉ่างตงเดินออกมาจากห้องนัยน์ตาของลั่วชิงยวนฉายแววมุ่งสังหาร “ที่แท้เจ้าก็มิใช่เต่าหดหัวในกระดองนี่”จั๋วฉ่างตงจ้องมองนางด้วยสีหน้าดุดัน แล้วเดินลงมาอย่างช้า ๆ “ลั่วชิงยวน ข้าขอเตือนให้เจ้าสำรวมตนเสียบ้าง!”กล่าวพลางกวาดสายตามองไปยังคนที่นอนกองอยู่บนพื้น แล้วตวาดเสียงดัง “ปล่อยพวกเขา!”ลั่วชิงยวนบุกเข้ามาทำร้ายคนถึงเรือนของนาง นี่มิใช่การตบหน้านางต่อหน้าธารกำนัลหรอกหรือ!แม้จะพ่ายแพ้ให้แก่ลั่วชิงยวนที่หอรักษ์ดารา แต่ก็มิได้หมายความว่านางจะต้องหวาดกลัวลั่วชิงยวน!ลั่วชิงยวนเตะไปที่คนเหล่านั้น แล้วยอมปล่อยพวกเขาให้เป็นอิสระคนเหล่านั้นกลิ้งตัวลงบนพื้นทีละคนก่อนจะรีบลุกขึ้นยืนอย่างลนลาน หมายจะหลบไปอยู่ด้านหลังจั๋วฉ่างตงทว่าในเวลานี้เอง ริมฝีปากของลั่วชิงยวนก็ยกยิ้มเย็นเยียบ กระโจนเข้าหาจั๋วฉ่างตงอย่างรวดเร็วแล้วใช้มือคว้าจับที่คอเสื้อของนางจั๋วฉ่างตงขัดขืนโดยสัญชาตญาณ แต่นางได้รับบาดเจ็บ จะเป็นสู้ลั่วชิงยวนได้อย่างไรทันใดนั้นก็ถูกลั่วชิงยวนเหวี่ยงลงกับพื้น แล้วตบหน้าอย่างแรงจนผมเผ้าของจั๋วฉ่างตงยุ่งเหยิงขณะที่ตั้งตัวมิทันเสียงฝ่ามือกระทบใบหน้านั้นหนักแน่น เสียงดังสนั

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1295

    “ดังนั้น...”“เรื่องเช่นนี้มิได้เกิดขึ้นเพียงครั้งหรือสองครั้ง”“นักบวชระดับสูงไว้วางใจนาง ข้าก็ทำได้เพียงทนรับมือ เมื่อก่อนยังพอขัดขืนได้บ้าง แต่เมื่อเวลาผ่านไปนานเข้าก็เลิกขัดขืนเพราะเสียแรงเปล่า”น้ำเสียงของอวี๋โหรวราบเรียบ ทว่าลั่วชิงยวนได้ฟังแล้วกลับรู้สึกหดหู่ใจ“เป็นเช่นนี้มานานแล้วหรือ? กี่ปีแล้ว?”หรือว่าในตอนที่นางยังอยู่ อวี๋โหรวต้องทนทุกข์ทรมานกับเรื่องเหล่านี้?อวี๋โหรวกลับส่ายหน้า “ข้าก็จำมิได้แล้วว่ากี่ปี”“อาจารย์ของข้าจากไปเสียนานแล้ว ไม่มีผู้ใดคอยช่วยเหลือข้า”“ดังนั้นข้าจึงต้องใช้บัวถวายรักษาอาการบาดเจ็บมาตลอด เพียงแต่ช่วงนี้หาซื้อมิได้แล้ว ข้าจึงเหลือเพียงดอกสุดท้าย”เมื่อลั่วชิงยวนได้ยินเช่นนี้ก็รู้สึกปวดร้าวใจหลายปีมานี้ นางมิเคยสังเกตเห็นความทุกข์ทรมานของอวี๋โหรวเลยเพราะอวี๋โหรวมิเคยปริปากบอกผู้ใด ในสถานที่ที่คนอ่อนแอต้องพ่ายแพ้แก่ผู้แข็งแกร่งเช่นนี้ ดูเหมือนนางจะรู้ดีว่าบอกผู้ใดไปก็ไร้ประโยชน์หลายปีมานี้นางอดทนมาได้อย่างไรก็มิอาจรู้ได้“จั๋วฉ่างตงบาดเจ็บอยู่แท้ ๆ ยังอุตส่าห์มาหาเรื่องเจ้าอีก ข้าว่านางคงเบื่อหน่ายการมีชีวิตเต็มทีแล้ว”แววตาของลั่

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1294

    ชายหลายคนก้าวเข้ามารุมทำร้ายอวี๋โหรวในทันทีจั๋วฉ่างตงเปิดกล่องใบหนึ่งออก หมอกดำทมิฬพลันลอยออกมาแล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ “เจ้ายังกล้าสอดมือเข้ามายุ่งเรื่องของลั่วชิงยวนอีก เห็นทีจะยังมีเรี่ยวแรงอยู่ ข้าคงทรมานเจ้ายังมิพอ”“วันนี้เจ้าจงลิ้มรสภูตผีร้ายแห่งหุบเขาฝังศพให้สาสม”จั๋วฉ่างตงใช้ยันต์แผ่นหนึ่งควบคุมหมอกดำทมิฬให้รวมตัวกันกลางอากาศ แล้วพุ่งเข้าโจมตีอวี๋โหรวอย่างรุนแรงอวี๋โหรวกำลังต้านทานการโจมตีของบุรุษเหล่านั้นอยู่ในชั่วขณะต่อมา หมอกดำทมิฬก็พุ่งเข้าใส่ กระแทกเข้าที่ท้องของนางราวกับจะฉีกร่างนางออกเป็นชิ้น ๆ ความเจ็บปวดรุนแรงแล่นปราดเข้าจู่โจมหมอกดำทมิฬนั้นทะลุผ่านร่างของนางไปอวี๋โหรวร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด ล้มลงกระแทกพื้นอย่างแรง เจ็บปวดจนร่างกายสั่นเทา มิอาจลุกขึ้นได้บุรุษเหล่านั้นจับแขนของนางแล้วกระชากให้นางลุกขึ้นหมอกดำทมิฬนั้นพุ่งเข้ากระแทกท้องของนางอีกครั้ง แล้วทะลุผ่านไปอย่างรุนแรงอวัยวะภายในสั่นสะท้านก่อให้เกิดความเจ็บปวดรุนแรง ทำให้อวี๋โหรวสั่นไปทั้งร่าง เจ็บปวดจนริมฝีปากสั่นระริก ใบหน้าซีดเผือดนางไม่มีเรี่ยวแรงที่จะตอบโต้ได้เลยเป็นเช่นนี้ซ้

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1293

    นางมองเขาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความมิพอใจนางเป็นถึงองค์หญิง ความรักของนางนั้นสูงส่งยิ่งนัก เฉินชีควรจะคุกเข่ารับมันไว้ แต่น่าเสียดายที่เขาปฏิเสธนางอย่างเย็นชา! มิหนำซ้ำยังทำให้นางอับอายขายหน้าอีกด้วย!นางมิพอใจและมิเต็มใจอย่างยิ่งเฉินชียิ่งเป็นแบบนี้ นางก็ยิ่งอยากเอาชนะเขาให้ได้!เฉินชีมองนางด้วยความประหลาดใจ แววตาของเขาเต็มไปด้วยความรังเกียจแต่เขาก็ยังคงแย่งกระบี่ในมือเกาเหมียวเหมี่ยวมา แล้วกดศีรษะของนางลง ก่อนจะจุมพิตลงบนริมฝีปากของนางอย่างมิลังเลหัวใจของเกาเหมียวเหมี่ยวเต้นแรงราวกับจะกระโดดออกมาจากอกของนางจูบของเฉินชีนั้นเร่าร้อนและรุนแรงอย่างมิอาจต้านทานได้เกาเหมียวเหมี่ยวถูกจูบจนหมดแรง แทบจะทรุดตัวลงแต่ในขณะที่นางคิดว่าเฉินชีจะทำอะไรต่อไป เฉินชีกลับผลักนางออกอย่างแรงไร้ซึ่งความปรานีก่อนเดินจากไปอย่างสง่างามโดยมิแม้แต่จะหันมามองนางด้วยซ้ำเกาเหมียวเหมี่ยวล้มลงนั่งกับพื้นพลางมองแผ่นหลังของเฉินชีด้วยความตกตะลึงเสียงเย็นชาของเฉินชีดังขึ้นว่า “สิ่งที่ท่านให้ข้าทำ ข้าทำแล้ว เรื่องนี้จบแค่นี้”“หากท่านยังคงใช้เรื่องนี้มาขู่ข้าอีก ข้าจะมิเกรงใจท่านแน่”เฉินชีเดิ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1292

    ลั่วชิงยวนมองอวี๋โหรวด้วยความประหลาดใจ อวี๋โหรวกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “คราวก่อนเจ้ามิได้ถามข้าหรอกหรือว่ามีสิ่งนี้หรือไม่ นี่เป็นดอกสุดท้ายที่ข้าเหลืออยู่”“คราวนี้เจ้าถูกฮองเฮาทำร้ายบาดเจ็บสาหัส ข้าคิดว่าเจ้าย่อมต้องการสิ่งนี้เป็นแน่ จึงได้นำมาให้”ลั่วชิงยวนได้ฟังก็รู้สึกตื้นตันใจยิ่งนัก นางมิคาดคิดว่าอวี๋โหรวจะมอบสิ่งนี้แก่นางด้วยว่ายามนี้ ต่อให้หาทั่วทั้งเมืองหลวงก็หาสิ่งนี้มิได้แล้ว“ขอบคุณ” ลั่วชิงยวนกล่าวอย่างซาบซึ้งใจยามนี้นางต้องการสิ่งนี้ยิ่งนัก“มิต้องเกรงใจ” อวี๋โหรวแย้มยิ้มจากนั้นทั้งสองก็เข้าวังไปด้วยกัน กลับไปยังที่พำนักของสำนักนักบวชของพวกนางการใช้บัวถวายนั้นจำต้องใช้สมุนไพรอื่นร่วมด้วย อวี๋โหรวจึงไปยังคลังโอสถเพื่อนำสมุนไพรมามากมายลั่วชิงยวนจึงก่อไฟต้มยาในลานหลังจากกินยาเข้าไป ลั่วชิงยวนก็รู้สึกถึงกระแสความอบอุ่นแผ่ซ่านไปทั่วร่างสิ่งนี้มีสรรพคุณหลักในการรักษาบาดแผลภายในและฟื้นฟูลมปราณ แต่เมื่อบาดแผลภายในหายดีแล้วย่อมส่งผลดีต่อบาดแผลภายนอกด้วยเช่นกันอวี๋โหรวเห็นว่าหลังจากนางกินยาแล้วสีหน้าของนางก็ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด“ดูเหมือนว่ายานี้จะได้ผลดีกับเจ้าย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1291

    นางจ้องมองไปยังเฉินชีพลางเอ่ยว่า “โอสถนี้ก็แค่บำรุงรักษาร่างกายทั่วไป มิได้มีผลอะไรต่อข้าในยามนี้”เฉินชีกลับกล่าวตอบ “ร่างกายของเจ้าในยามนี้มิอาจกินยาแรงได้ ตำรับยานี้สามารถรักษาบาดแผลภายนอกของเจ้าได้”ลั่วชิงยวนขมวดคิ้วมุ่นมองเขา “แต่ยามนี้ข้าต้องการโอสถรักษาบาดแผลภายใน”“โอสถของเจ้าเพียงรักษาที่ปลายเหตุ มิได้รักษาที่ต้นเหตุ!” เฉินชียังคงยืนกรานในความคิดของตน “วางใจเถิดอาเหลา โอสถที่ข้าให้เจ้ากินนั้นย่อมเหมาะสมแก่เจ้าที่สุด”“เจ้าพักผ่อนให้ดี ข้ายังต้องเข้าวังไปอีกครั้ง”“เรื่องของเกาเหมียวเหมี่ยวยังมิได้สะสาง”“เจ้าพักอยู่ที่นี่ให้สบายใจ ไม่มีผู้ใดกล้าทำร้ายเจ้าหรอก”กล่าวจบ เฉินชีก็จากไปอีกทั้งยังจัดแจงให้คนมาส่งโอสถแก่ลั่วชิงยวนด้วยลั่วชิงยวนพักรักษาตัวอยู่ที่เรือนของเฉินชีสองวันแล้ว ทุกวันจะมีนางรับใช้มาเปลี่ยนผ้าพันแผลและเสื้อผ้าให้ตรงเวลาโอสถที่นำมาให้ก็ล้วนเป็นไปตามตำรับของเฉินชีทว่าลั่วชิงยวนรู้ซึ้งถึงอาการของตนดีว่า ร่างกายของตนนั้นจำต้องได้รับการรักษาด้วยโอสถใดตำรับยาของเฉินชีนั้นเป็นเพียงยาบำรุงร่างกายและให้สารอาหารแก่ร่างกายนี้ แต่การบำรุงเพียงอย่างเดีย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1290

    ขณะพูด เฉินชีก็รีบหยิบขวดโอสถขวดหนึ่งออกมา พลางเทโอสถลูกกลอนหนึ่งเม็ดส่งให้ลั่วชิงยวนกินมันสามารถปกป้องหัวใจของนางได้รถม้าโคลงเคลงไปตลอดทาง เร่งมุ่งหน้าไปยังจวนของเฉินซีอย่างรวดเร็วหลานจีได้ยินเสียงจึงเดินมาที่ลาน นางสงสัยมากว่ามีเรื่องอะไรที่ทำให้ท่านแม่ทัพต้องรีบร้อนออกไปอย่างกะทันหันทว่านางกลับเห็นเฉินชีลงจากรถม้าพร้อมกับอุ้มลั่วชิงยวนที่ได้รับบาดเจ็บ“ท่านแม่ทัพ… นางคือ...” หลานจีรีบสาวเท้าเข้ามาแต่นางกลับถูกเฉินชีผลักออกไปอย่างไร้ความเมตตา “อย่ามาขวางข้า!”หลานจีต้องถอยหลังไปสองก้าวถึงจะทรงตัวไว้ได้เมื่อได้สติ เฉินชีก็เดินไปไกลพร้อมกับสตรีในอ้อมแขนแล้วหลานจีตกตะลึงเหตุใดท่านแม่ทัพถึงต้องเป็นห่วงสตรีนางนั้นถึงเพียงนี้?นางเป็นใครกัน?หลานจีเกิดอาการตื่นตระหนกขึ้นมาอย่างกะทันหันนางตามไปดูด้วยความมิพอใจเฉินชีอุ้มลั่วชิงยวนเข้ามาที่ห้องของตน เขาวางนางลงบนเตียงแล้วเรียกนางรับใช้มาเปลี่ยนอาภรณ์ให้ลั่วชิงยวนนางรับใช้พากันสาละวนเข้า ๆ ออก ๆ เรือนกันยกใหญ่ยามนี้หลั่วชิงยวนหลับไปแล้วจากนั้นเฉินชีก็ออกจากห้องไป และมิรู้ว่าเขาไปที่ใดหลังจากที่นางรับใช้เปลี่ยนอา

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status