Share

บทที่ 903

Penulis: หว่านชิงอิ๋น
เมื่อได้ยินสิ่งนี้ แม่ทัพใหญ่ฉินก็ประหลาดใจและพูดว่า “กลิ่นหอมของดอกไม้เหล่านี้จะกระตุ้นองค์จักรพรรดิสูงสุด! ข้าจำได้ว่า องค์จักรพรรดิสูงสุดทรงไวต่อกลิ่นหอมมาก!”

ลั่วชิงยวนพยักหน้า “นี่เป็นเพียงเหตุผลหนึ่งเท่านั้น”

“ที่สำคัญกว่านั้น กลิ่นดอกไม้อันเข้มข้นเหล่านี้ช่วยปกปิดดอกไม้พิษที่ปลูกไว้ด้านใน!”

ทันทีที่พูดออกมา ใบหน้าของทุกคนก็เปลี่ยนสี

ต่างตกใจเป็นอย่างมาก

“ว่ากระไรนะ?!”

แม้แต่ฟู่เฉินหวนก็ตกตะลึง

ลั่วชิงยวนก้มลง ค้นหาในพุ่มดอกไม้ แล้วดึงต้นหนึ่งขึ้นมาอย่างแรง

รากและลำต้นถูกปกคลุมไปด้วยหนามสีดำ ดอกมีลักษณะฉูดฉาดมาก แต่มีขนาดเล็กกว่าดอกไม้อื่น ๆ เมื่อแฝงตัวกับพุ่มไม้ดอกแล้ว แทบจะมิเห็นความแตกต่างเลย

“นี่คือดอกไม้พิษ เรียกว่าปีกพญามัจจุราช แดงฉานดุจเลือด กลีบดอกสวยงามยิ่ง มีกลิ่นหอมแรง แต่มีพิษ เมื่อสูดดมกลิ่นครั้งแรกจะมิเป็นพิษ ทว่าหากสูดดมเข้าไปเป็นเวลานาน พิษจะแทรกซึมลึกเข้าไปในไขกระดูก”

นี่ก็เป็นดอกไม้ของแคว้นหลีด้วย

ยังเป็นดอกไม้ที่ถูกเพาะพันธุ์โดยจ้าวแห่งพิษ มิพบในที่อื่นทั่วไป

บุคคลที่ซ่อนตัวอยู่ในแคว้นเทียนเชวีย ถูกราชวงศ์ของแคว้นหลีส่งมา

มิเช่นนั้นคนธรรมดาไม่มีทา
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci

Bab terkait

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 904

    ไทเฮาและมหาราชาจารย์เหยียนใบหน้าซีดขาว และแข็งทื่อมากพวกเขาไม่มีอะไรจะพูดฟู่เฉินหวนพูดอย่างเย็นชา “ในเมื่อพิสูจน์แล้วว่า สิ่งที่ลั่วชิงยวนพูดนั้นเป็นเรื่องจริง ที่ว่ามีคนต้องการทำร้ายเสด็จพ่อ ดังนั้นทุกคนในวังมีสิทธิ์ตกเป็นผู้ต้องสงสัย โดยเฉพาะผู้ที่ใกล้ชิดกับเสด็จพ่อ”“มีเพียงลั่วชิงยวนเท่านั้นที่รักษาเสด็จพ่อได้!”“ไทเฮา ท่านมีข้อคัดค้านประการใดหรือไม่?”ใบหน้าของไทเฮาดูน่าเกลียดมาก ผู้ที่ใกล้ชิดกับจักรพรรดิสูงสุด มิได้พูดถึงนางหรือไร?ไทเฮาจ้องมองลั่วชิงยวนด้วยสายตาเย็นชา พูดด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ “ในเมื่อลั่วชิงยวนสามารถค้นพบดอกไม้พิษนี้ได้ นางคงมั่นใจว่าจะสามารถรักษาพิษของจักรพรรดิสูงสุดได้”“เช่นนั้น ข้าก็จะมอบหน้าที่สำคัญนี้ให้ลั่วชิงยวน หากนางมิสามารถล้างพิษ และทำให้การรักษาล่าช้า ตัวข้าจะมิละเว้นนาง!”มีเพียงคนจากแคว้นหลีเท่านั้นที่สามารถล้างพิษนี้ได้ และแม้แต่ในแคว้นหลีเอง คนที่สามารถล้างพิษได้ก็นับว่ามีจำนวนน้อยมากทีเดียวนางมิเชื่อว่าลั่วชิงยวนจะสามารถล้างพิษได้เมื่อถึงตอนนั้น หากนางมิสามารถแก้พิษได้ ก็คอยดูเถิดว่านางจะถูกลงโทษอย่างไร!เมื่อกลับถึงห้อง ไทเฮาสั่

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 905

    เมื่อนึกไปถึงอำนาจของตระกูลเหยียน ก็ทำให้นางตระหนักถึงปัญหานี้ได้ทันทีเผ่านอกด่านพวกนี้จะต้องเกี่ยวข้องกับตระกูลเหยียน บางทีอาจมีความสัมพันธ์แบบร่วมมือบางอย่างเผ่านอกด่านส่งกะโหลกหมาป่ามาเพื่อทำร้ายจักรพรรดิสูงสุด และตระกูลเหยียนก็ช่วยพวกเขากำจัดฉินเฉียนหลี่?แม้จะเป็นเพียงการคาดเดา แต่ก็เป็นเรื่องที่ต้องระวังฟู่เฉินหวนขมวดคิ้ว “ข้าจะกลับไปจัดกำลังคนให้สืบข่าวคราวจากทางฉินเชียนหลี่”ลั่วชิงยวนพยักหน้าหลังจากที่ฟู่เฉินหวนจากไป ลั่วชิงยวนยังคงฝังเข็มจักรพรรดิสูงสุดต่อไปก่อนอื่น นางได้เขียนใบเทียบยาเพื่อรักษาลำคอของจักรพรรดิสูงสุดแม้ว่านี่จะมิใช่สาเหตุหลักที่ทำให้จักรพรรดิสูงสุดสูญเสียเสียงของเขาไปก็ตามแต่การต้มยานั้น นางมิกล้าให้คนอื่นทำแทนนางจึงไปรับยาที่สำนักหมอหลวงด้วยตนเอง แต่เมื่อมาถึง สำนักหมอหลวงทั้งหมดกลับดูเหมือนเตรียมพร้อมรับศึกใหญ่อยู่ทุกคนมองนางด้วยสายตามิเป็นมิตรลั่วชิงยวนเดินตรงเข้าไป มุ่งหน้าไปยังคลังยา และเห็นหมอหลวงหนุ่มคนหนึ่ง นางกำลังจะเปิดปากถามแต่อีกฝ่ายกลับก้มหน้าลง ก่อนวิ่งหนีไปด้วยความตื่นตระหนก‘เกิดอะไรขึ้น?’นางเดินตรงเข้าไปในคลังยา

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 906

    “หมอที่รักษาผู้คน ควรเป็นดั่งสายลมที่สะอาด สดใส และโปร่งใส แต่มินึกเลยว่าในสำนักหมอหลวงแห่งนี้ จะสกปรกถึงเพียงนี้!”ลั่วชิงยวนออกแรงเพียงนิด คนตรงหน้าก็ร้องด้วยความเจ็บปวด“ปล่อยข้า!”“ท่านยังกล้าใช้กำลังที่สำนักหมอหลวงอีกหรือ?!”หมอหลวงกลุ่มนั้นพากันล้อมเข้ามาดวงตาของลั่วชิงยวนเปลี่ยนเป็นเย็นชา นางลงมือทันทีโครม... ประตูคลังโอสถถูกกระแทกจนเปิดออกหมอหลวงหลายคนพากันล้มออกจากประตูทีละคนมีเสียงร้องด้วยความเจ็บปวดดังขึ้นทุกคนตกตะลึง มองสตรีที่ค่อย ๆ เดินออกมาจากคลังโอสถอย่างนิ่งงันพวกเขากลัวเกินกว่าจะเข้าไปใกล้ลั่วชิงยวนเหลือบมองผู้คนบนพื้นอย่างเย็นชา และพูดอย่างเหยียดหยาม “สกปรกเยี่ยงนี้ ยาพวกนี้ข้าก็มิสนใจจะใช้หรอก!”หลังจากพูดเช่นนั้น ลั่วชิงยวนก็เดินออกไปในเวลานี้ หมอหลวงชราคนหนึ่งเดินเข้ามาหานางอย่างช้า ๆ ด้วยการประคองของหมอหลวงอีกคนหนึ่งเขาดูแก่มาก ผมเปลี่ยนเป็นสีเทาทั้งศีรษะ และใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยรอยเหี่ยวย่น แต่เขาก็ยังเต็มไปด้วยอำนาจทันทีที่เขามาถึง ทุกคนก็ทำความเคารพและพูดว่า “หัวหน้าสำนักหมอหลวง”ดูเหมือนว่าบุคคลนี้จะได้รับความเคารพอย่างสูงและมีสถา

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 907

    “แค่ก แค่ก แค่ก…” หัวหน้าสำนักหมอหลวงไอหลายครั้งอย่างเจ็บปวดเขายังคงมองลั่วชิงยวนด้วยความโกรธ เขาหายใจเข้าลึก ๆ แล้วพูดด้วยความยากลำบากว่า “ตลอดหลายปีที่ผ่านมาสำนักหมอหลวงรักษาผู้ป่วยนับมิถ้วนทั้งในและนอกวังหลวง เหตุใดท่านจึงกล่าวหาว่าพวกเราไร้ความสามารถไปได้!”“ข้ามิยอมรับ!”“ข้ามิเชื่อว่า ท่านจะสามารถรักษาองค์จักรพรรดิสูงสุดให้หายได้หรอก!”ลั่วชิงยวนยิ้มและเลิกคิ้ว “ถ้าอย่างนั้นเรามาเดิมพันกันดีหรือไม่?”“หากข้ามิสามารถรักษาองค์จักรพรรดิสูงสุดได้ ข้าจะคุกเข่าสามครั้งและคำนับเก้าครั้งต่อสำนักหมอหลวงเพื่อขอโทษสำนักหมอหลวง! ท่านคิดว่าอย่างไรเล่า!”ทันทีที่คำพูดเหล่านี้หลุดออกมาหัวหน้าสำนักหมอหลวงก็มองดูนางด้วยความตกใจจากนั้นเขาก็พูดว่า "ดี! มาเดิมพันกัน! หากท่านสามารถรักษาองค์จักรพรรดิสูงสุดได้ ข้าก็ไม่มีหน้าจะมีชีวิตอยู่ในใต้หล้านี้อีกต่อไป!"เมื่อได้ยินสิ่งนี้ ลั่วชิงยวนก็ตกใจ “ข้ามิชอบเดิมพันด้วยชีวิต เปลี่ยนเป็นอย่างอื่นดีกว่า”หัวหน้าสำนักหมอหลวงคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “หากท่านสามารถรักษาองค์จักรพรรดิสูงสุดได้ ข้าจะลาออกจากตำแหน่งและเลิกเป็นหมอ! สมุนไพรที่สั่งสมมาหลาย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 908

    โอหังจริง ๆ!สตรีผู้นี้อายุยังน้อย แต่คำพูดกลับยโสโอหังเสียเหลือเกิน!ลั่วชิงยวนเก็บเข็มเงิน แล้วพูดด้วยน้ำเสียงดูแคลน "โรคของท่านมิใช่ว่ารักษาได้ยาก และท่านก็มิใช่คนแรกที่ข้าได้พบกับอาการเช่นนี้"“แต่ไฉนข้าต้องรักษาท่านด้วย?”“รอจนการเดิมพันจบลง ท่านมอบยาทั้งหมดของท่านแก่ข้าเมื่อไร ข้าถึงจะพิจารณารักษาโรคของท่าน”หัวหน้าสำนักหมอหลวงตกใจเมื่อได้ยินสิ่งนี้ เนื้อตัวก็สั่นด้วยความโกรธ“ท่าน!”ลั่วชิงยวนยกยิ้มเบา ๆ “ท่านต้องดูแลร่างกายให้ดี อย่าอารมณ์เสียให้มากนัก มิเช่นนั้นท่านอาจอยู่มิทันได้เห็นผลการเดิมพัน!”หลังจากที่ลั่วชิงยวนพูดจบ นางก็เปิดประตูแล้วเดินออกไปชายชราผู้นี้แก่หงำเหงือกแล้ว แต่ยังหยิ่งยโสมิน้อยทว่าเหตุใดเขาถึงถูกพิษปีกพญามัจจุราชด้วยเล่า นี่เป็นเพราะตระกูลเหยียนกำลังควบคุมเขาด้วยหรือ?แต่ก็ดูเหมือนจะมิใช่ นั่นเพราะเมื่อเวลาผ่านไปนานเข้า พิษปีกพญามัจจุราชจะทำให้เขาจะกลายเป็นเหมือนจักรพรรดิสูงสุดซึ่งก็มิต่างอะไรกับความตาย ดังนั้นจึงมิอาจใช้วิธีนี้ควบคุมเขาได้เมื่อออกจากห้อง ก็เห็นหมอหลวงอีกคนหนึ่งรออยู่ข้างนอก ซึ่งเขาคือศิษย์ของหัวหน้าสำนักหมอหลวง“ท่านมิไ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 909

    ลั่วชิงยวนมองไปที่เซิ่งไป่ชวน ยกยิ้มเบา ๆ “ต่อไปข้าจะมาหาเจ้า ให้เจ้าช่วยข้าหาสมุนไพรอีก”“หากแม่นางต้องการสิ่งใดก็เรียกหาข้าได้เสมอขอรับ” เซิ่งไป่ชวนยิ้มอย่างสุภาพจากนั้นลั่วชิงยวนก็ออกจากสำนักหมอหลวงไปเมื่อกลับมาที่ตำหนักของจักรพรรดิสูงสุด นางจึงเริ่มต้มยาและป้อนยาให้จักรพรรดิสูงสุดแม้ว่าจักรพรรดิสูงสุดจะมิสามารถพูดหรือเคลื่อนไหวได้ แต่เขาก็ยังได้สติอยู่ตลอดลั่วชิงยวนคิดว่า การเป็นเช่นนี้ตลอดปีคงเป็นเรื่องที่ยากลำบากจากนั้นเขาก็เริ่มพูดคุยกับเขา“ฝ่าบาท พระองค์น่าจะทรงทราบว่า ผู้ใดเป็นคนที่ทำร้ายพระองค์ใช่หรือไม่เพคะ”“ในเมื่อพระองค์ยังมีสติ ทั้งยังสามารถพยักพระพักตร์ หรือส่ายพระพักตร์เพื่อแสดงความต้องการได้ แล้วเหตุใดมิตรัสความจริงให้คนอื่นรู้หรือเพคะ”จักรพรรดิสูงสุดส่ายหน้า ดวงตาเต็มไปด้วยความสิ้นหวังลั่วชิงยวนคาดเดา “พระองค์ทรงกลัวว่า พวกเขาจะทำร้ายองค์จักรพรรดิ หรือทำร้ายฟู่เฉินหวนหรือเพคะ?”ดวงตาของจักรพรรดิสูงสุดเป็นประกาย จากนั้นจึงพยักหน้าดูเหมือนเขาจะมิได้คาดหวังว่านางจะเดาเหตุผลได้ จึงมองนางอย่างซาบซึ้ง“หากจะทำร้ายแม้กระทั่งลูกชายแท้ ๆ ของตน ก็ดูจะโหดเ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 910

    “เจ้ากำลังพูดว่าร้ายข้ารึ?”ลั่วชิงยวนมิแปลกใจกับการมาถึงของฟู่เฉินหวน นางได้ยินเสียงเขามานานแล้วนางเลิกคิ้ว พูดอย่างมั่นใจ “หม่อมฉันกำลังพูดความจริงเพคะ หม่อมฉันหาได้ว่าร้ายท่านไม่”ฟู่เฉินหวนเดินเข้ามา มองไปที่จักรพรรดิสูงสุดที่ดูเหมือนจะมีจิตใจดีอยู่บนเตียง แล้วถามว่า “เสด็จพ่อ ท่านรู้สึกเช่นไรบ้าง?”จักรพรรดิสูงสุดหันหน้าหนีด้วยความโกรธ มิสนใจเขาแม้แต่น้อยฟู่เฉินหวนทำอะไรมิถูกอยู่หน่อย ๆมองไปที่ลั่วชิงยวนลั่วชิงยวนเลิกคิ้ว และทำท่าทางว่ามันมิเกี่ยวกับนางฟู่เฉินหวนกล่าวว่า “ข้าได้ส่งคนไปแล้ว”“หากเร็วหน่อย ห้าวันหกวันน่าจะมีข่าวกลับมา”ลั่วชิงยวนพยักหน้า“ข้าจะอยู่กับเสด็จพ่อเอง เจ้าไปพักผ่อนเถอะ”ลั่วชิงยวนรู้สึกกระหายน้ำมาก ดังนั้นนางจึงลุกขึ้นและพูดว่า “องค์จักรพรรดิสูงสุดทรงมีจิตใจแจ่มใส การพูดคุยกับพระองค์จะช่วยให้พระองค์ฟื้นตัวได้"“เข้าใจแล้ว”ฟู่เฉินหวนรับปาก นั่งบนเก้าอี้ข้างเตียง และเริ่มพูดคุยกับพ่อของเขาแต่เขาพบว่า มิว่าเขาจะพูดอะไร พ่อของเขาก็มิตอบสนองสิ่งนี้ทำให้เขาสับสนมาก เหตุใดลั่วชิงยวนจึงเสวนากับพ่อของเขาได้นานขนาดนั้นลั่วชิงยวนเดินออกจากห

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 911

    หลังจากปกครองหกตำหนักมาหลายปี นี่เป็นครั้งแรกที่นางตัดสินผิดพลาด“แต่ครั้งนี้ที่นางรักษาองค์จักรพรรดิสูงสุด ก็อาจเป็นโอกาสสำหรับเราด้วย”“ตราบใดที่องค์จักรพรรดิสูงสุดสิ้นพระชนม์ระหว่างการรักษาของนาง ลั่วชิงยวนจะต้องตายแน่นอน”“ไม่มีใครปกป้องนางได้!”มหาราชาจารย์เหยียนพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง “นี่เป็นโอกาสสุดท้ายของเราด้วย”“หากสามารถล้างพิษปีกพญามัจจุราชจากองค์จักรพรรดิสูงสุดได้ขึ้นมา เราทุกคนจะตายกันหมด ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ท่านปลอมแปลงพระราชโองการของฝ่าบาทกี่ครั้ง ฝ่าบาทจะต้องสงสัยแน่นอน”พระเนตรของไทเฮาเย็นลงเล็กน้อย แสดงความเด็ดเดี่ยวขึ้นมา “วางใจเถอะ แม้ว่าเขาจะฟื้นตัวขึ้นมาได้จริง ๆ แต่ข้าก็ยังมีวิธีควบคุมเขาได้”“ท้ายที่สุดแล้ว ทุกคนมีสิ่งที่พวกเขาใส่ใจมากที่สุดเสมอ”มีความเย็นเยียบในดวงตาของไทเฮาระคนความโศกเศร้าเล็กน้อย…… ยามรุ่งเช้า ลั่วชิงยวนปรุงยาและส่งไปยังตำหนักของจักรพรรดิองค์สูงสุดฟู่เฉินหวนที่อยู่ด้านข้างอดมิได้ที่จะหาว ใบหน้าของเขาแสดงถึงความเหนื่อยล้า ดูเหมือนว่าจะมิได้นอนทั้งคืนเมื่อลั่วชิงยวนมาถึง เขาก็ไปนอนพักที่เรือนข้างสักหน่อยทุกวันจะมีคนในวัง

Bab terbaru

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1416

    “เจ้ารีบอะไรนักหนา รอมาตั้งนานแล้ว รออีกสักหน่อยจะเป็นกระไร”เมื่อได้ยินดังนั้น อวี๋ตันเฟิ่งก็หยุดมือลั่วชิงยวนเดินเข้าไปคว้าตัวโหยวเซียงไว้ให้โฉวสือชีมัดนางไว้แน่นหนา จากนั้นจึงปลุกโหยวเซียงให้ฟื้นขึ้นมาเมื่อฟื้นคืนสติ โหยวเซียงก็จ้องหน้าลั่วชิงยวนเขม็งอย่างโกรธแค้น “เจ้ากล้าจับข้า เจ้าคอยดูเถอะว่าจะตายอย่างไร!”ลั่วชิงยวนย่อตัวลงนั่งตรงหน้านาง แล้วหัวเราะเบา ๆ “ใช่แล้ว ใครจะกล้าแตะต้องคุณหนูใหญ่เมืองแห่งภูตผีเล่า”“น่าเสียดาย เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้ บิดามารดาของเจ้าไปปล้นเขามา มิใช่ของพวกเขามาแต่เดิม ย่อมมิใช่ของเจ้าเช่นกัน”“ถึงเวลาคืนเจ้าของตัวจริงแล้ว”โหยวเซียงจ้องเขม็งนางอย่างโกรธแค้น “เจ้าพูดจาเหลวไหลอะไร! เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้เป็นของบิดามารดาข้ามาแต่เดิม!”เมื่อได้ยินดังนั้น ลั่วชิงยวนก็ประหลาดใจ “หรือว่าต่งอวิ๋นซิ่วมิได้บอกความจริงแก่เจ้า”“ก็ถูกแล้ว เรื่องน่าอับอายเช่นนี้ นางจะบอกลูกสาวได้อย่างไร”“เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้มิใช่เพียงถูกบิดามารดาเจ้ายึดมาเท่านั้น แต่ยังใช้วิธีการที่น่ารังเกียจในการยึดครองด้วย!”“เดาว่าจนถึงตอนนี้เจ้าก็คงยังมิรู้เลยว่าศัตรูของเจ้าคือผ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1415

    โหยวเซียงกัดฟันพูดด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบลั่วชิงยวนมองไปที่อวี๋โหรว หลายวันมานี้อวี๋โหรวผอมซูบไปมาก“เจ้าจับตัวอวี๋โหรวมาเพื่อล่อข้ามาที่นี่รึ?”ลั่วชิงยวนหรี่ตามองโหยวเซียง“แต่เจ้ามิน่าจะมีความสามารถพอที่จะพาอวี๋โหรวออกจากวังหลวงไปได้”“เวินซินถงเป็นคนทำใช่หรือไม่?”“เจ้าทำข้อตกลงอะไรกับนางไว้?”โหยวเซียงหัวเราะเยาะ “อยากรู้รึ?”“คุกเข่าอ้อนวอนข้าสิ”“เจ้าอ้อนวอนข้า ข้าถึงจะบอกเจ้าว่าผู้ใดจับตัวอวี๋โหรวมา และผู้ใดร่วมมือกับข้าวางแผนให้เจ้ามาที่เมืองแห่งภูตผี”ลั่วชิงยวนมองท่าทีหยิ่งยโสของโหยวเซียงแล้วก็อดมิได้ที่จะหัวเราะเบา ๆ นางกวาดสายตามองไปรอบ ๆ แล้วถามว่า “ต่งอวิ๋นซิ่วมิมาด้วยรึ?”“เมื่อครู่นี้คนที่ต่อสู้กับข้าก็คือนางใช่หรือไม่?”เมื่อได้ยินน้ำเสียงเยาะเย้ยของลั่วชิงยวน โหยวเซียงก็โกรธจัด ในใจนางตกใจ ลั่วชิงยวนรู้แล้วหรือว่ามารดาของนางเป็นใคร“สารเลว!”นางบีบคออวี๋โหรวอย่างแรงเพื่อข่มขู่ลั่วชิงยวน “จะคุกเข่าหรือไม่?!”“ลั่วชิงยวน เจ้ามีโอกาสแค่ครั้งเดียว!”“หากเจ้ามิยอมคุกเข่ายอมจำนนแต่โดยดี ข้าจะหักคอนางเดี๋ยวนี้!”กล่าวจบ โหยวเซียงก็ออกแรงบีบบีบจนอวี๋โหรวหาย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1414

    ทันทีที่คนใบ้หันมาเห็นจึงรีบเข้ามาย่อตัวลงข้างนางแล้วช่วยประคองนางไว้ลั่วชิงยวนเช็ดเลือดที่มุมปาก ใบหน้าซีดเผือดกว่าเดิม“ข้ามิเป็นอะไร”นางเงยหน้าขึ้นมองอวี๋ตันเฟิ่งที่อยู่กลางอากาศ ในที่สุดจิตวิญญาณของนางก็สมบูรณ์แล้วบนใบหน้าซีดขาวนั้นปรากฏรอยยิ้ม รอยยิ้มนั้นทั้งพึงพอใจและเย่อหยิ่ง“ในที่สุดข้าก็ได้… เป็นอิสระแล้ว! ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า...”อวี๋ตันเฟิ่งหัวเราะลั่น ทำเอาป่าทั้งผืนเกิดพายุโหมกระหน่ำคนใบ้รีบยกมือขึ้นช่วยลั่วชิงยวนปัดป้องฝุ่นและใบไม้ที่ปลิวว่อน......จู่ ๆ ต่งอวิ๋นซิ่วก็กระอักเลือดออกมาเต็มปาก จากนั้นหมดสติล้มลงบนพื้น“ท่านแม่!”โหยวเซียงตกใจ รีบเข้าไปประคองนาง “ท่านแม่! ท่านแม่! ท่านเป็นอะไรไป!”หลังจากตะโกนเรียกอยู่นาน มารดาของนางก็มิฟื้นโหยวเซียงโกรธจนกัดฟันพูด “ลั่วชิงยวน สารเลว!”“เจ้าคอยดูเถอะ!”......ผ่านไปครู่ใหญ่ อวี๋ตันเฟิ่งถึงจะสงบสติอารมณ์ลงได้ลมพายุในป่าก็สงบลงเช่นกันถูหมิงที่อยู่ข้าง ๆ จึงค่อย ๆ ขยับเข้ามาใกล้ฉีเสวี่ยเวยที่ยังคงตกตะลึงมองภาพเหตุการณ์เมื่อครู่ด้วยความมิอยากเชื่อ “เมื่อกี้เกิดอะไรขึ้น?”“ต่อไปพวกเราต้องทำอะไร?”ลั่วชิงยวน

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1413

    คนของถูหมิงตายไปหมดแล้ว เหลือเพียงฉีเสวี่ยเวยเท่านั้นในขณะที่พวกเขาเดินทางไปยังถ้ำแห่งที่หกในคืนนั้นผลลัพธ์ที่ได้กลับน่าผิดหวังเพราะในถ้ำว่างเปล่า“ดูเหมือนว่าพวกเราจะมาช้าไปก้าวหนึ่ง”ถูหมิงขมวดคิ้ว “เหลืออีกหนึ่งชิ้น ทำอย่างไรดี? หรือว่าความพยายามทั้งหมดของเราจะสูญเปล่า?”พวกเขาวุ่นวายมาหลายวัน เดินทางไปเกือบทั่วทั้งภูเขาแล้วหากสมบัติหายไปเช่นนี้ เขาคงต้องฆ่าสตรีผู้นี้เป็นแน่!ลั่วชิงยวนขมวดคิ้วครุ่นคิด แล้วกล่าวว่า “เหลืออีกหนึ่งชิ้นก็เหลืออีกหนึ่งชิ้น”“หาที่ปลอดภัยก่อน”จากนั้นพวกเขาก็มายังป่าที่ค่อนข้างสะอาด ไม่มีพุ่มไม้หรือวัชพืชหนาแน่นบนพื้นมากนัก ค่อนข้างโปร่งโล่งหีบทั้งห้าใบวางอยู่บนพื้นลั่วชิงยวนกล่าวว่า “เปิดหีบกันเถิด”ทันใดนั้นดวงตาของถูหมิงก็เป็นประกาย “เปิดได้หรือ?”เขาเห็นว่าบนหีบมีแต่อักขระสีเลือดปกคลุมอยู่ จึงยั้งมือไว้หลายครั้งแม้จะอยากเปิดก็ตามเมื่อได้ยินเช่นนี้จึงรีบเปิดหีบทันทีแต่เมื่อเปิดออกแล้ว ร่างกายของเขาก็แข็งทื่อไปศพ?!ทั้งยังเป็นศพที่ถูกชำแหละอีกด้วย?ฉีเสวี่ยเวยก็ตกใจกลัวลั่วชิงยวนกลับสงบสติอารมณ์ สั่งให้โฉวสือชีและคนใบ้ช่วย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1412

    “ใครกัน?!”ลั่วชิงยวนหรี่ตาลงเล็กน้อย แล้วตอบเสียงแผ่ว “ซูเซียง”“แต่ตอนนี้ควรเรียกนางว่าโหยวเซียง”“ภารกิจที่พวกเจ้าได้รับก็เป็นเพียงการละเล่นของนางเท่านั้น”“นางต้องการให้พวกเจ้าฆ่ากันเอง”และภารกิจหนังหน้าของหญิงงามที่ฉีเสวี่ยเวยได้รับ ก็คงเป็นการล่อลวงให้ฉีเสวี่ยเวยมาฆ่านางหากสามารถยืมมือคนอื่นฆ่าคนได้ โหยวเซียงก็มิจำเป็นต้องเปิดเผยตัวตนเพียงแต่โหยวเซียงคาดมิถึงว่าฉีเสวี่ยเวยจะฆ่านางมิได้ กระทั่งโหยวเซียงเองก็ฆ่านางมิได้“โหยวเซียงหรือ? นางเป็นคนของเมืองแห่งภูตผีแห่งนี้หรือ?” ฉีเสวี่ยเวยมองนางอย่างมิเชื่อสายตา“มิแปลกใจเลย… นางท้องแก่ถึงเพียงนั้นยังกล้ามาที่นี่ได้”ลั่วชิงยวนเห็นว่าใกล้รุ่งสางแล้ว จึงให้โฉวสือชีแก้เชือกที่มัดฉีเสวี่ยเวยไว้“ข้าจะยังมิฆ่าเจ้าตอนนี้”“มิว่าเรื่องที่เจ้ากล่าวมาจะเป็นจริงหรือไม่ก็มิสำคัญ ข้าก็มิกลัวว่าเจ้าจะไปบอกเรื่องนี้กับถูหมิง”“หากเจ้าไปบอก เรื่องเดียวที่จะเป็นผลเสียต่อพวกข้าก็คือต้องแบกหีบเพิ่มอีกมิกี่ใบ”“เพียงเท่านั้น”มิใช่เรื่องคอขาดบาดตายที่นางทำเป็นร่วมมือกับถูหมิง ก็เพียงต้องการใช้คนของเขาไปขวางทางศพชายที่ถูกผนึกไว้ในถ้ำ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1411

    “แม้จะต้องยอมตายไปพร้อมกับถูหมิง ข้าก็ยินดี!”เมื่อได้ยินดังนั้น ลั่วชิงยวนก็ตกตะลึง แต่ก็ยังคงสงสัยอยู่บ้าง“แต่เจ้าสนิทสนมกับถูหมิงถึงเพียงนั้น น่าจะมีโอกาสฆ่าเขาได้นับครั้งมิถ้วน”ฉีเสวี่ยเวยขมวดคิ้วแน่น ดวงตาแดงก่ำ “แท้จริงแล้วคนผู้นั้นระแวดระวังตัวมาก หากมิใช่เพราะต้องการลดความระแวดระวังของเขา ข้ากับชายมากหน้าหลายตาก็คงมิ...”เมื่อกล่าวถึงตรงนี้ ฉีเสวี่ยเวยก็เม้มริมฝีปากแน่นหลังจากกล้ำกลืนความรู้สึกแล้ว จึงกล่าวต่อ “ในป่าครั้งนั้นเป็นครั้งแรกที่เขาใกล้ชิดข้า เดิมทีตอนนั้นข้ามีโอกาสที่จะฆ่าเขาได้!”“แต่เจ้าปีศาจฝูเหมิ่งนั่นบังเอิญมาขวาง!”“หากมิใช่เพราะเขา ข้าคงทำสำเร็จไปแล้ว!”ฉีเสวี่ยเวยกัดฟันพูด เต็มไปด้วยความเคียดแค้นลั่วชิงยวนรู้สึกประหลาดใจ เมื่อเห็นสีหน้าของฉีเสวี่ยเวย ในดวงตาของนางเต็มไปด้วยความแค้น ดูมิเหมือนคนโกหกทำให้นางเปลี่ยนทัศนคติที่มีต่อฉีเสวี่ยเวยไปบ้างขณะที่ลั่วชิงยวนยังคงครุ่นคิด ฉีเสวี่ยเวยก็มองมาที่นาง “เจ้ายังมิเชื่อข้าหรือ?”“ขอเพียงเจ้าฆ่าถูหมิงได้ ข้าจะทำทุกอย่างเพื่อเจ้า! ข้าจะบอกสิ่งที่เจ้าอยากรู้ทุกอย่าง!”ลั่วชิงยวนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1410

    ลั่วชิงยวนนอนนิ่งอยู่บนเตียง มิกล้าขยับกายทว่างูตัวนั้นกลับกัดข้อเท้านางอย่างแรงหนึ่งครั้ง จากนั้นก็รีบเลื้อยหนีไปรออยู่ครู่หนึ่ง ฉีเสวี่ยเวยเห็นว่าคนที่นอนอยู่บนเตียงไม่มีความเคลื่อนไหวใด ๆ จึงเปิดประตูเข้ามานางมิอาจมั่นใจได้ว่าพวกคนใบ้จะกลับมาเมื่อใด จึงมิกล้าเสียเวลานานหลังจากปิดประตูอย่างระแวดระวังแล้ว นางก็มายังปลายเตียง จ้องมองข้อเท้าของลั่วชิงยวนอย่างละเอียด ปรากฏว่าถูกงูกัดจริง ๆ นางต้องตายเพราะพิษนี้แน่นอน!ทันใดนั้นเอง ฉีเสวี่ยเวยก็ชักกริชออกมาแล้วเดินไปยังหัวเตียง ค่อย ๆ จรดใบมีดลงบนใบหน้าของลั่วชิงยวนแต่ในพริบตานั้นเอง ลั่วชิงยวนก็ลืมตาขึ้นมาจ้องมองนางด้วยสายตาอาฆาตแค้นฉีเสวี่ยเวยพลันตกใจ แต่ก็มิได้หนีในทันที เพราะนางคิดว่าลั่วชิงยวนโดนพิษงูเข้าไปแล้ว อย่างไรก็ต้องตายอยู่ดีลั่วชิงยวนรีบคว้าข้อมือของฉีเสวี่ยเวยไว้เพื่อแย่งชิงกริชมาจากนางฉีเสวี่ยเวยก็ลงมือโจมตีเช่นกัน เพียงแต่นางคาดมิถึงว่าสตรีผู้นี้ที่ถูกพิษแล้วจะยังมีพละกำลังมากมายถึงเพียงนี้หลังจากทั้งสองต่อสู้กันครู่หนึ่งในห้อง ฉีเสวี่ยเวยก็พ่ายแพ้ ถูกลั่วชิงยวนจับกดไว้บนโต๊ะฉีเสวี่ยเวยตกใจมาก “เจ้า

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1409

    “แน่นอน”“อีกอย่าง เมื่อหาของเหล่านี้ครบแล้วเมืองแห่งภูตผีทั้งเมืองก็จะเป็นของพวกเรา แล้วยังต้องขึ้นเขาไปเอาของเล็ก ๆ น้อย ๆ นั่นหาปะไร”คำพูดนี้กระตุ้นความโลภในใจของทุกคนที่อยู่ตรงนั้นอย่างมิต้องสงสัยพวกเขาจึงมิลังเลอีกต่อไป รีบติดตามลั่วชิงยวนไปยังเส้นทางเดิมตลอดทางยังมีงูมากมาย ลั่วชิงยวนก็หาสมุนไพรบางชนิดตลอดทางแล้วมอบให้ทุกคนผูกติดไว้บนตัวและทาตามเท้า เพื่อให้กลิ่นของสมุนไพรนั้นช่วยไล่งูดังนั้นการเดินทางของพวกเขาจึงราบรื่นดี เมื่อยามค่ำคืนมาเยือนพวกเขาก็ออกมาจากบ่อน้ำพุร้อนนั้นอีกครั้งพวกเขากลับมายังหมู่บ้านเดิมในช่วงกลางดึกสงัดในหมู่บ้านยังมีอาหารหลงเหลืออยู่ ดังนั้นทุกคนจึงหยุดพักกินอาหารกันก่อนเมื่อฟื้นฟูพละกำลังได้แล้วคนทั้งหมดก็ออกเดินทางต่อมาถึงสุสานเดิม ยามนี้วิญญาณอาฆาตเต็มไปทั่วทั้งภูเขา พลังหยินแผ่ซ่านไปทั่วเมื่อลั่วชิงยวนมาถึงที่แห่งนั้นก็พบว่าปากถ้ำเปิดออกแล้วมีคนกล่าวขึ้นว่า “วันนั้นฝูเหมิ่งก็มาที่นี่!”ลั่วชิงยวนตกใจเล็กน้อยเมื่อเข้าไปในถ้ำแล้ว ภาพที่ปรากฏด้านในนั้นมิเปลี่ยนแปลงมากนัก สิ่งที่เปลี่ยนไปเพียงอย่างเดียวคือโลงศพที่ถูกล่ามโซ่นั้นระเบ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1408

    เมื่อได้ยินดังนั้น ความโลภก็ปรากฏในดวงตาของถูหมิง ใครเล่าจะมิปรารถนาสมบัติของเมืองแห่งภูตผี เขาตอบตกลงในทันที “ได้”ลั่วชิงยวนกล่าวต่อว่า “แต่การนำของสิ่งนี้มาจะต้องเผชิญกับอันตรายบ้าง ดังนั้นอาจจะต้องมีคนของเจ้าสละชีวิต”“แต่คนมากก็แบ่งกันได้น้อย คนตายไปบ้างก็มิจำเป็นต้องสนใจความเป็นความตายของพวกเขา”“ความลับนี้ข้าบอกเพียงเจ้าเท่านั้น เจ้าอย่าได้แพร่งพรายให้ผู้ใดรู้เชียว”“โดยเฉพาะฉีเสวี่ยเวย”เมื่อได้ยินดังนั้นถูหมิงก็หันกลับไปมอง แต่ไหนแต่ไรมาเขาก็มิเคยสนใจความเป็นความตายของคนเหล่านั้นอยู่แล้ว“หาได้มีปัญหาไม่!”ถูหมิงรับปากอย่างง่ายดาย แต่ลั่วชิงยวนกลับยังคงระแวดระวัง “ยังมีเรื่องที่ต้องบอกเจ้าอีกอย่าง กองทัพของเมืองแห่งภูตผีถูกพวกข้าปลุกปั่นแล้ว คาดว่าอีกมินานคงไล่ตามมา”“ก่อนที่จะหาของทั้งหกชิ้นพบ อย่าได้คิดที่จะทำสิ่งใดนอกเหนือจากนี้ ท้ายที่สุดแล้ว พวกเราต้องร่วมมือกันต่อสู้กับศัตรู หากถูกพวกมันจับได้คงไม่มีใครมีจุดจบที่ดี”สีหน้าของถูหมิงเปลี่ยนไปเล็กน้อย มิคาดคิดว่าสตรีผู้นี้จะเก่งกาจมากถึงเพียงนี้ กระทั่งปลุกกองทัพของเมืองแห่งภูตผีขึ้นมาได้ดูเหมือนว่าสิ่งที่นางต้

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status