Share

บทที่ 899

Author: หว่านชิงอิ๋น
ไทเฮามองเขาด้วยสายตาที่ดุร้าย พลางตวาดเสียงดังว่า “องค์จักรพรรดิ! ท่านถึงกับมิสนใจความเป็นความตายของเสด็จพ่อของท่านเลยหรือ!”

ฟู่จิ่งหานขมวดคิ้ว สีหน้าเคร่งขรึม มิอาจพูดอะไรได้อีก

ไทเฮารู้สึกดีใจอยู่ในใจ นางออกคำสั่ง “ใครก็ได้! จับฟู่เฉินหวนกับลั่วชิงยวนเข้าคุก! เลือกวันประหาร!”

องครักษ์รีบเข้ามาทันที ควบคุมตัวทั้งสองไว้ แล้วกำลังจะพาตัวไป

ลั่วชิงยวนสงบนิ่ง ไม่มีความตื่นตระหนกเลยแม้แต่น้อย

“ช้าก่อน!”

นางมองหมอหลวงหลี่อย่างสงบ ถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา “หมอหลวงหลี่ อาการขององค์จักรพรรดิสูงสุดแย่ลงจริงหรือ?”

“ฝีมือการแพทย์ของเจ้า ไหวหรือไม่?”

อาการขององค์จักรพรรดิสูงสุดตอนนี้ แค่เป็นหมอที่จับชีพจรเป็นก็สามารถดูออกแล้ว

อาการดีขึ้นอย่างชัดเจนขนาดนั้น!

หายใจสะดวกขึ้น ลมหายใจก็คงที่ ชีพจรก็เต้นแรงขึ้น

หมอหลวงหลี่ผู้นี้ต้องการช่วยไทเฮากำจัดนาง กล้าพูดปลดถึงเพียงนี้ หลอกลวงองค์จักรพรรดิและขุนนางทั้งหลาย

คราวนี้เขาตายแน่!

หมอหลวงหลี่รู้สึกผิดอยู่บ้าง แต่ก็ยังกล่าวโทษลั่วชิงยวนอย่างมิเกรงกลัว

“ข้าเป็นหมอหลวงในวังมาหลายปี ย่อมมิผิดพลาด องค์จักรพรรดิสูงสุดอาการหนักขึ้น เพราะถูกท่านทำร้าย
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 900

    องค์จักรพรรดิสูงสุดที่อยู่บนเตียงเอ่ยปากแล้วเปล่งเสียงอย่างแผ่วเบาว่า “หยุด!”ทุกคนตกใจอย่างมาก หันไปมองที่เตียงองค์จักรพรรดิสูงสุดฟื้นแล้ว อีกทั้งยังมีสติสัมปชัญญะ!สีหน้าของไทเฮาก็เปลี่ยนไปอย่างมาก รีบทรุดตัวลงข้างเตียง จับมือองค์จักรพรรดิสูงสุดไว้แน่นแล้วร้องไห้อย่างตื้นตันเหมือนจะห้ามมิให้องค์จักรพรรดิสูงสุดพูดอะไร“หยุดเดี๋ยวนี้…” เสียงขององค์จักรพรรดิสูงสุดแผ่วเบา จมหายไปกับเสียงร้องไห้ของไทเฮาฟู่จิ่งหานได้ยินองค์จักรพรรดิสูงสุดพูดบางสิ่ง จึงรีบก้าวเข้าไปแต่กลับถูกไทเฮาขวางไว้ ฟู่จิ่งหานมองมิเห็น จึงหันไปมองฟู่เฉินหวนฟู่เฉินหวนสะบัดหนีองครักษ์ ก้าวเข้าไปอย่างรวดเร็วด้วยท่าทีดุดันเห็นไทเฮายังคงร้องไห้อยู่ จึงตวาดเสียงดัง “ไทเฮามิอยากให้พวกเราได้ยินสิ่งที่เสด็จพ่อตรัสหรือ!”“ทุกคนถอยไป!”ฟู่เฉินหวนมองไปที่หมอหลวงหลี่ด้วยสายตาที่ดุดันแต่ไทเฮามิสนใจ ยังคงร้องไห้อย่างเศร้าโศก มองฟู่เฉินหวนด้วยสายตาที่ดุดัน แล้วตะโกนว่า “ยังมิรีบลากตัวฟู่เฉินหวนไปอีก!”“คิดปลงพระชนม์องค์จักรพรรดิสูงสุด มีโทษถึงประหาร!”“หรือว่าคำพูดของตัวข้าผู้เป็นไทเฮาไม่มีความหมายแล้ว!”องครัก

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 901

    น้ำเสียงของลั่วชิงยวนเปลี่ยนไปกะทันหัน และเฉียบคมยิ่งขึ้นทว่า สีหน้าของไทเฮากลับซีดลงรอยยิ้มที่ยากจะสังเกตเห็นปรากฏขึ้นที่มุมริมฝีปากของฟู่เฉินหวน ลั่วชิงยวนหาวิธีล่อลวงไทเฮาได้แนบเนียนจริง ๆนางน่าจะรู้ดีอยู่แล้วถึงสภาพร่างกายของจักรพรรดิสูงสุด ดังนั้นนางจึงจงใจแกล้งทำเป็นล้มเหลว เพื่อให้ไทเฮารับรองหมอหลวงหลี่แต่ตอนนี้ต่อหน้าคนจำนวนมาก ไทเฮามิอาจถอยได้แล้ว อีกทั้งนางก็อธิบายอะไรมิได้ด้วยในตอนนั้นเอง เสียงที่ทุ้มลึกและสง่างามดังมาจากภายนอก... “สาวน้อยคนนี้เป็นแค่ชายาอ๋องผู้สำเร็จราชการ กล้าดีอย่างไรมาทำท่าทีเช่นนี้ต่อไทเฮา?”เมื่อหันกลับมาเขาเห็นว่าผู้ที่มาคือมหาราชาจารย์เหยียนพี่ชายของไทเฮาเหยียนลั่วชิงยวนเคยได้พบกับมหาราชาจารย์เหยียนหลายครั้ง แต่ส่วนใหญ่แล้วมหาราชาจารย์เหยียนดูเคร่งขรึมและเก็บงำถ้อยคำฟู่เฉินหวนพูดอย่างใจเย็น“มหาราชาจารย์เหยียน มิจำเป็นต้องรีบไปตำหนิลั่วชิงยวน ลั่วชิงยวนมีผลงานในการรักษาองค์จักรพรรดิสูงสุด ตอนนี้การตั้งข้อสงสัยต่อหมอหลวงหลี่และไทเฮาก็นับว่าสมเหตุสมผล”“ทั้งหมดก็เพราะนางใส่ใจเรื่องอาการป่วยของจักรพรรดิสูงสุดมากเกินไป”“มหาราชาจารย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 902

    ทันทีที่คำพูดเหล่านี้ออกมา ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นก็ตกตะลึงจนหน้าซีดเผือด“ว่ากระไรนะ?”“อย่าได้พูดเหลวไหล!” ขุนนางทุกคนต่างตกตะลึงฟู่เฉินหวนก็ประหลาดใจเช่นกัน เขาขมวดคิ้วมองไปทางลั่วชิงยวนด้วยสายตาลึกซึ้งไทเฮาและมหาราชาจารย์เหยียนมองหน้ากัน แววตาเผยถึงความตึงเครียดอย่างปิดมิมิดความลับนี้ไม่มีใครล่วงรู้มาได้ตั้งนานหลายปีครั้งแรกที่มีคนเอ่ยปากขึ้น ลั่วชิงยวนเป็นคนเอ่ยขึ้นมาพวกเขาจะมิตื่นตระหนกได้อย่างไร?“ลั่วชิงยวน เจ้ารู้หรือไม่ว่าการลอบสังหารองค์จักรพรรดิสูงสุดเป็นอาชญากรรมร้ายแรงเพียงใด เจ้ากล่าวหาว่า องค์จักรพรรดิสูงสุดถูกคนวางยาพิษ โดยไม่มีหลักฐานน่ะหรือ”“มิเช่นนั้น ก็สมควรตัดหัวเจ้าด้วยความผิดฐานหลอกลวงผู้คน!” ไทเฮาตรัสอย่างเฉียบขาดเมื่อดูจากพฤติกรรมของไทเฮาแล้ว ดูเหมือนว่าจะมั่นใจว่านางไม่มีหลักฐานพวกเขาทำเรื่องทั้งหมดนี้ไว้ได้อย่างแนบเนียน ไม่มีทางหาหลักฐานได้แน่แต่ที่จริงแล้ว พระตำหนักนี้เองก็เป็นหลักฐานในเวลานี้ ฟู่เฉินหวนก้าวไปข้างหน้าจับมือของลั่วชิงยวนไว้แล้วพูดว่า “หากไม่มีหลักฐานที่แน่ชัด ก็อย่าไปข้องเกี่ยวด้วยเลย”ฟู่เฉินหวนมองนางด้วยสีหน้าจริงจัง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 903

    เมื่อได้ยินสิ่งนี้ แม่ทัพใหญ่ฉินก็ประหลาดใจและพูดว่า “กลิ่นหอมของดอกไม้เหล่านี้จะกระตุ้นองค์จักรพรรดิสูงสุด! ข้าจำได้ว่า องค์จักรพรรดิสูงสุดทรงไวต่อกลิ่นหอมมาก!”ลั่วชิงยวนพยักหน้า “นี่เป็นเพียงเหตุผลหนึ่งเท่านั้น”“ที่สำคัญกว่านั้น กลิ่นดอกไม้อันเข้มข้นเหล่านี้ช่วยปกปิดดอกไม้พิษที่ปลูกไว้ด้านใน!”ทันทีที่พูดออกมา ใบหน้าของทุกคนก็เปลี่ยนสีต่างตกใจเป็นอย่างมาก“ว่ากระไรนะ?!”แม้แต่ฟู่เฉินหวนก็ตกตะลึงลั่วชิงยวนก้มลง ค้นหาในพุ่มดอกไม้ แล้วดึงต้นหนึ่งขึ้นมาอย่างแรงรากและลำต้นถูกปกคลุมไปด้วยหนามสีดำ ดอกมีลักษณะฉูดฉาดมาก แต่มีขนาดเล็กกว่าดอกไม้อื่น ๆ เมื่อแฝงตัวกับพุ่มไม้ดอกแล้ว แทบจะมิเห็นความแตกต่างเลย“นี่คือดอกไม้พิษ เรียกว่าปีกพญามัจจุราช แดงฉานดุจเลือด กลีบดอกสวยงามยิ่ง มีกลิ่นหอมแรง แต่มีพิษ เมื่อสูดดมกลิ่นครั้งแรกจะมิเป็นพิษ ทว่าหากสูดดมเข้าไปเป็นเวลานาน พิษจะแทรกซึมลึกเข้าไปในไขกระดูก”นี่ก็เป็นดอกไม้ของแคว้นหลีด้วยยังเป็นดอกไม้ที่ถูกเพาะพันธุ์โดยจ้าวแห่งพิษ มิพบในที่อื่นทั่วไปบุคคลที่ซ่อนตัวอยู่ในแคว้นเทียนเชวีย ถูกราชวงศ์ของแคว้นหลีส่งมามิเช่นนั้นคนธรรมดาไม่มีทา

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 904

    ไทเฮาและมหาราชาจารย์เหยียนใบหน้าซีดขาว และแข็งทื่อมากพวกเขาไม่มีอะไรจะพูดฟู่เฉินหวนพูดอย่างเย็นชา “ในเมื่อพิสูจน์แล้วว่า สิ่งที่ลั่วชิงยวนพูดนั้นเป็นเรื่องจริง ที่ว่ามีคนต้องการทำร้ายเสด็จพ่อ ดังนั้นทุกคนในวังมีสิทธิ์ตกเป็นผู้ต้องสงสัย โดยเฉพาะผู้ที่ใกล้ชิดกับเสด็จพ่อ”“มีเพียงลั่วชิงยวนเท่านั้นที่รักษาเสด็จพ่อได้!”“ไทเฮา ท่านมีข้อคัดค้านประการใดหรือไม่?”ใบหน้าของไทเฮาดูน่าเกลียดมาก ผู้ที่ใกล้ชิดกับจักรพรรดิสูงสุด มิได้พูดถึงนางหรือไร?ไทเฮาจ้องมองลั่วชิงยวนด้วยสายตาเย็นชา พูดด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ “ในเมื่อลั่วชิงยวนสามารถค้นพบดอกไม้พิษนี้ได้ นางคงมั่นใจว่าจะสามารถรักษาพิษของจักรพรรดิสูงสุดได้”“เช่นนั้น ข้าก็จะมอบหน้าที่สำคัญนี้ให้ลั่วชิงยวน หากนางมิสามารถล้างพิษ และทำให้การรักษาล่าช้า ตัวข้าจะมิละเว้นนาง!”มีเพียงคนจากแคว้นหลีเท่านั้นที่สามารถล้างพิษนี้ได้ และแม้แต่ในแคว้นหลีเอง คนที่สามารถล้างพิษได้ก็นับว่ามีจำนวนน้อยมากทีเดียวนางมิเชื่อว่าลั่วชิงยวนจะสามารถล้างพิษได้เมื่อถึงตอนนั้น หากนางมิสามารถแก้พิษได้ ก็คอยดูเถิดว่านางจะถูกลงโทษอย่างไร!เมื่อกลับถึงห้อง ไทเฮาสั่

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 905

    เมื่อนึกไปถึงอำนาจของตระกูลเหยียน ก็ทำให้นางตระหนักถึงปัญหานี้ได้ทันทีเผ่านอกด่านพวกนี้จะต้องเกี่ยวข้องกับตระกูลเหยียน บางทีอาจมีความสัมพันธ์แบบร่วมมือบางอย่างเผ่านอกด่านส่งกะโหลกหมาป่ามาเพื่อทำร้ายจักรพรรดิสูงสุด และตระกูลเหยียนก็ช่วยพวกเขากำจัดฉินเฉียนหลี่?แม้จะเป็นเพียงการคาดเดา แต่ก็เป็นเรื่องที่ต้องระวังฟู่เฉินหวนขมวดคิ้ว “ข้าจะกลับไปจัดกำลังคนให้สืบข่าวคราวจากทางฉินเชียนหลี่”ลั่วชิงยวนพยักหน้าหลังจากที่ฟู่เฉินหวนจากไป ลั่วชิงยวนยังคงฝังเข็มจักรพรรดิสูงสุดต่อไปก่อนอื่น นางได้เขียนใบเทียบยาเพื่อรักษาลำคอของจักรพรรดิสูงสุดแม้ว่านี่จะมิใช่สาเหตุหลักที่ทำให้จักรพรรดิสูงสุดสูญเสียเสียงของเขาไปก็ตามแต่การต้มยานั้น นางมิกล้าให้คนอื่นทำแทนนางจึงไปรับยาที่สำนักหมอหลวงด้วยตนเอง แต่เมื่อมาถึง สำนักหมอหลวงทั้งหมดกลับดูเหมือนเตรียมพร้อมรับศึกใหญ่อยู่ทุกคนมองนางด้วยสายตามิเป็นมิตรลั่วชิงยวนเดินตรงเข้าไป มุ่งหน้าไปยังคลังยา และเห็นหมอหลวงหนุ่มคนหนึ่ง นางกำลังจะเปิดปากถามแต่อีกฝ่ายกลับก้มหน้าลง ก่อนวิ่งหนีไปด้วยความตื่นตระหนก‘เกิดอะไรขึ้น?’นางเดินตรงเข้าไปในคลังยา

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 906

    “หมอที่รักษาผู้คน ควรเป็นดั่งสายลมที่สะอาด สดใส และโปร่งใส แต่มินึกเลยว่าในสำนักหมอหลวงแห่งนี้ จะสกปรกถึงเพียงนี้!”ลั่วชิงยวนออกแรงเพียงนิด คนตรงหน้าก็ร้องด้วยความเจ็บปวด“ปล่อยข้า!”“ท่านยังกล้าใช้กำลังที่สำนักหมอหลวงอีกหรือ?!”หมอหลวงกลุ่มนั้นพากันล้อมเข้ามาดวงตาของลั่วชิงยวนเปลี่ยนเป็นเย็นชา นางลงมือทันทีโครม... ประตูคลังโอสถถูกกระแทกจนเปิดออกหมอหลวงหลายคนพากันล้มออกจากประตูทีละคนมีเสียงร้องด้วยความเจ็บปวดดังขึ้นทุกคนตกตะลึง มองสตรีที่ค่อย ๆ เดินออกมาจากคลังโอสถอย่างนิ่งงันพวกเขากลัวเกินกว่าจะเข้าไปใกล้ลั่วชิงยวนเหลือบมองผู้คนบนพื้นอย่างเย็นชา และพูดอย่างเหยียดหยาม “สกปรกเยี่ยงนี้ ยาพวกนี้ข้าก็มิสนใจจะใช้หรอก!”หลังจากพูดเช่นนั้น ลั่วชิงยวนก็เดินออกไปในเวลานี้ หมอหลวงชราคนหนึ่งเดินเข้ามาหานางอย่างช้า ๆ ด้วยการประคองของหมอหลวงอีกคนหนึ่งเขาดูแก่มาก ผมเปลี่ยนเป็นสีเทาทั้งศีรษะ และใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยรอยเหี่ยวย่น แต่เขาก็ยังเต็มไปด้วยอำนาจทันทีที่เขามาถึง ทุกคนก็ทำความเคารพและพูดว่า “หัวหน้าสำนักหมอหลวง”ดูเหมือนว่าบุคคลนี้จะได้รับความเคารพอย่างสูงและมีสถา

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 907

    “แค่ก แค่ก แค่ก…” หัวหน้าสำนักหมอหลวงไอหลายครั้งอย่างเจ็บปวดเขายังคงมองลั่วชิงยวนด้วยความโกรธ เขาหายใจเข้าลึก ๆ แล้วพูดด้วยความยากลำบากว่า “ตลอดหลายปีที่ผ่านมาสำนักหมอหลวงรักษาผู้ป่วยนับมิถ้วนทั้งในและนอกวังหลวง เหตุใดท่านจึงกล่าวหาว่าพวกเราไร้ความสามารถไปได้!”“ข้ามิยอมรับ!”“ข้ามิเชื่อว่า ท่านจะสามารถรักษาองค์จักรพรรดิสูงสุดให้หายได้หรอก!”ลั่วชิงยวนยิ้มและเลิกคิ้ว “ถ้าอย่างนั้นเรามาเดิมพันกันดีหรือไม่?”“หากข้ามิสามารถรักษาองค์จักรพรรดิสูงสุดได้ ข้าจะคุกเข่าสามครั้งและคำนับเก้าครั้งต่อสำนักหมอหลวงเพื่อขอโทษสำนักหมอหลวง! ท่านคิดว่าอย่างไรเล่า!”ทันทีที่คำพูดเหล่านี้หลุดออกมาหัวหน้าสำนักหมอหลวงก็มองดูนางด้วยความตกใจจากนั้นเขาก็พูดว่า "ดี! มาเดิมพันกัน! หากท่านสามารถรักษาองค์จักรพรรดิสูงสุดได้ ข้าก็ไม่มีหน้าจะมีชีวิตอยู่ในใต้หล้านี้อีกต่อไป!"เมื่อได้ยินสิ่งนี้ ลั่วชิงยวนก็ตกใจ “ข้ามิชอบเดิมพันด้วยชีวิต เปลี่ยนเป็นอย่างอื่นดีกว่า”หัวหน้าสำนักหมอหลวงคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “หากท่านสามารถรักษาองค์จักรพรรดิสูงสุดได้ ข้าจะลาออกจากตำแหน่งและเลิกเป็นหมอ! สมุนไพรที่สั่งสมมาหลาย

Latest chapter

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1288

    ทันทีที่คำกล่าวเหล่านี้หลุดออกมาร่างกายของฟู่เฉินหวนก็แข็งทื่อดวงตาของฉินอี้เต็มไปด้วยความคาดหวังอันร้อนแรงตั้งแต่เล็กจนโต แม้เขาจะเป็นองค์ชาย แต่ก็มีเพียงมิกี่คนที่ให้ความเคารพเขาแม้กระทั่งน้องสาวของเขาเองก็มักจะลงมือทำร้ายเขาบ่อย ๆ โดยมิไว้หน้ากันเลยแม้แต่น้อยส่วนคนที่อยู่ตรงหน้าเขาคืออ๋องผู้เป็นเทพสงครามเทพแห่งแคว้นเทียนเชวียและผู้สำเร็จราชการผู้ยิ่งใหญ่ในใต้หล้าเขาจึงตั้งตารอที่จะได้เห็นฟู่เฉินหวนคุกเข่าด้วยความเคารพฟู่เฉินหวนกำหมัดแน่นซ้ำแล้วซ้ำเล่าที่จริงเขาสามารถเจรจากับฉินอี้ได้ และมีเงื่อนไขต่าง ๆ มากมายที่เขาสามารถพูดคุยกับอีกฝ่ายได้ทว่าการเจรจาต้องอาศัยยุทธวิธีและที่สำคัญกว่านั้นคือ ต้องมีจิตใจที่สงบมั่นคงแต่ในเวลานี้ ฟู่เฉินหวนมิสามารถทำเช่นนั้นได้เขาแทบจะรอมิไหวแล้วดวงตาของเขาขรึมลง พลางยกเสื้อคลุมขึ้นและคุกเข่าลงเสียงดังตึงเมื่อเข่ากระทบพื้นนั้นเจือไปด้วยความอึดอัดกลัดกลุ้ม แต่เป็นเสียงที่ฉินอี้ฟังแล้วรู้สึกสบายหูเป็นอย่างยิ่งมิอาจปฏิเสธได้ว่าตอนนี้เขาพอใจอย่างถึงที่สุดนี่เป็นความรู้สึกที่เขาพยายามเสาะหามาตลอดหลายปีแต่ก็มิเคยได้มันมาโดยเฉพา

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1287

    ในห้องขังอันเงียบงัน เสียงเฆี่ยนตีดังชัดเจนจนเหมือนได้ยินเสียงผิวหนังฉีกออกเป็นชิ้น ๆทำเอาคนที่ได้ยินรู้สึกใจสั่นที่มุมตรงทางเดิน บุรุษสวมหน้ากากที่อยู่ข้างหลังฉินอี้กำหมัดแน่นในทันทีฝ่ามือถูกจิกจนเกือบจะเลือดออกฟู่เฉินหวนที่ได้ยินเสียงนั้นก็รู้สึกเป็นห่วงและอดมิได้ที่จะพุ่งไปหาแต่ฉินอี้คว้าข้อมือของเขาเอาไว้“เฉินชีจะมาช่วยนางเอง”“หากตอนนี้เจ้าถูกจับได้ก็ช่วยนางออกไปมิได้ แล้วพวกเจ้าก็จะต้องตายอยู่ที่นี่”“ด้วยตัวตนของเจ้า มีแต่จะต้องเผชิญกับจุดจบที่น่าอนาถยิ่งกว่าเดิม”ฟู่เฉินหวนกำหมัดแน่น เขาก้าวถอยหลังมาหนึ่งก้าวและอดทนต่อไปฝ่ามือของเขาเหงื่อออกเมื่อได้ยินเสียงเฆี่ยนตีอย่างต่อเนื่องแต่ไม่มีเสียงร้องของความเจ็บปวด ก็สามารถบอกได้ว่า ลั่วชิงยวนกำลังทุกข์ทรมานกับความเจ็บปวดมากเพียงใดนั่นทำให้ฟู่เฉินหวนรู้สึกปวดใจเป็นอย่างมากทว่าเขาทำได้เพียงเฝ้ามองจากที่ไกล ๆ มิสามารถเข้าไปใกล้หรือช่วยนางได้เสียงแส้ดังขึ้นอย่างมิหยุดหย่อน และเสียงแส้ในแต่ละครั้งนั้นดูเหมือนจะฟาดลงไปที่หัวใจของฟู่เฉินหวนจนเลือดสด ๆ ไหลออกมาเป็นทางเวลาเหมือนจะผ่านไปอย่างเชื่องช้า และเสียงแส้น

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1286

    ภายในห้องบรรทมอันโอ่อ่าฉินอี้เดินมาที่ข้างเตียงด้วยร่างกายที่เต็มไปด้วยบาดแผลยามนี้เกาเหมียวเหมี่ยวได้ทำแผลและกินโอสถเรียบร้อยแล้ว แต่ใบหน้าของนางยังคงซีดอยู่เล็กน้อยเมื่อเห็นฉินอี้เดินมาหาด้วยใบหน้าฟกช้ำและเปื้อนเลือด เกาเหมียวเหมี่ยวจึงมองเขาด้วยความมิอยากเชื่อ“ท่านแพ้ลั่วชิงยวนรึ?”ฉินอี้ขมวดคิ้วเป็นปม พลางมองบาดแผลของเกาเหมียวเหมี่ยวด้วยความกังวลและพูดว่า “เหมียวเหมี่ยว บาดแผลเจ้าสาหัสมาก ช่วงสองวันนี้เจ้าควรพักผ่อนให้ดีก่อน อย่าเพิ่งเดินไปไหนมาไหนเลย”ทว่าเกาเหมียวเหมี่ยวกลับมิได้สนใจในความห่วงใยของฉินอี้นางจ้องมองฉินอี้ด้วยความโมโหแล้วยกฝ่ามือฟาดไปหนึ่งฉาดฉินอี้มิประหลาดใจแม้แต่น้อย แต่กลับมองเกาเหมียวเหมี่ยวด้วยสีหน้าจริงจังและเป็นห่วง“เหมียวเหมี่ยว...”เกาเหมียวเหมี่ยวโมโหมากจนเอามือฟาดเขาสองครั้งติดต่อกันและแสดงความเกรี้ยวกราดออกมา “ขยะไร้ค่า! ขยะไร้ค่า!”“ท่านเป็นถึงองค์ชายผู้สูงส่ง แต่กลับถูกลั่วชิงยวนจัดการจนมีสภาพเช่นนี้ อับอายจนมิรู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ใด!”เกาเหมียวเหมี่ยวโกรธจนแทบอยากจะฉีกลั่วชิงยวนเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยดวงตาของฉินอี้หรี่ลง แต่กลับมิได

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1285

    แต่ขณะที่ทั้งสองคนกำลังต่อสู้กันอย่างสูสีวิชาฝ่ามือที่จู่โจมเข้ามาอย่างฉับพลันของลั่วชิงยวนทำให้ฉินอี้มิทันตั้งตัว เขาถูกรัวหมัดใส่อย่างต่อเนื่องจนลอยกระเด็นออกไป และกระอักเลือดออกมาการต่อสู้สิ้นจบลงในพริบตาเดียวหลายคนที่อยู่รอบด้านล้วนเห็นมิชัด“เมื่อครู่เกิดกระไรขึ้น?”“ต่อสู้กันอยู่มิใช่หรือ? เหตุใดจู่ ๆ ฉินอี้ถึงแพ้ได้เล่า?”ลั่วชิงยวนมองฉินอี้ด้วยสายตาเย็นชา “ดูเหมือนวรยุทธ์ขององค์ชายใหญ่จะเป็นอย่างที่คนเขาลือกันนะเพคะ”เทียบกับคนทั่วไปแล้ว วรยุทธ์ของฉินอี้ก็ถือว่ามิได้อ่อนด้อยเลยแต่สำหรับคนที่เป็นถึงองค์ชายนั้นช่างดูอ่อนแอนักเมื่อครู่ที่ลั่วชิงยวนลองทดสอบ ดูเหมือนว่าเขายังคงมีทักษะวรยุทธ์แบบเดียวกับที่เคยเรียนมาเมื่อก่อน และมิได้มีความก้าวหน้ามากนักเป็นเช่นนี้ได้อย่างไรหากฉินอี้เพียรพยายามมากกว่านี้ ผลลัพธ์ก็คงมิเป็นเช่นนี้ฉินอีจ้องนางด้วยโทสะ ดูเหมือนจะเจ็บใจที่วรยุทธ์ของตนอ่อนด้อยเกินไป ทำให้เสียงวิพากษ์วิจารณ์รอบข้างยิ่งบาดหูมากขึ้นไปอีกเขากัดฟันพลางกำหมัดแน่น และพุ่งเข้าหาลั่วชิงยวนอย่างดุร้ายเขามิยอมพ่ายแพ้เช่นนี้หรอกแต่เขากลับมิสามารถเอาชนะลั่วชิงย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1284

    ลั่วชิงยวนตกตะลึง อารมณ์ความรู้สึกของนางดำดิ่งเป็นไปตามที่นางคาดเดาเอาไว้ว่ามิเหลือแม้แต่ศพอย่างนั้นหรือ?“มิพบศพด้วยซ้ำ” อวี๋โหรวกล่าวเสียงขรึมดวงตาของลั่วชิงยวนหม่นลง ดูเหมือนว่าร่างนั้นจะถูกกำจัดไปแล้วจริง ๆ ส่วนจะกำจัดอย่างไรและทิ้งไว้ที่ไหน บางทีอาจมีเพียงฆาตกรเท่านั้นที่รู้“น่าเสียดายจริง ๆ” ลั่วชิงยวนทอดถอนใจด้วยความเสียดายอวี๋โหรวจ้องนางด้วยสายตาจริงจังและพูดอย่างหนักแน่น “มิน่าเสียดายหรอก ข้าเชื่อว่าเจ้าจะกลายเป็นนางคนต่อไป!”ทันใดนั้น สายตาที่จริงจังของอวี๋โหรวก็ทำให้ลั่วชิงยวนรู้สึกเย็นวาบไปถึงสันหลังและยังสงสัยด้วยว่าอวี๋โหรวจะสังเกตเห็นอะไรบางอย่างหรือไม่ทว่าแม้แต่ศิษย์น้องหญิงก็จำนางมิได้ อีกทั้งอวี๋โหรวก็มิได้สนิทสนมกับนาง แล้วจะจำนางได้อย่างไรลั่วชิงยวนยิ้มและกล่าวว่า “ข้าจะถือว่านั่นคือคำปลอบใจก็แล้วกัน”อวี๋โหรวพูดอย่างจริงจัง “ข้ามิได้ปลอบใจเจ้า ข้าพูดจริง”หลังจากนั้น อวี๋โหรวก็ยิ้มอีกครั้งและพูดว่า “ทางข้ายังพอมียาอยู่บ้าง หากเจ้าต้องการอะไรก็บอกข้าได้เลย”ลั่วชิงยวนมิค่อยเข้าใจว่า เหตุใดอวี๋โหรวถึงทำดีกับนางนางมิค่อยรู้จักอวี๋โหรวมากนัก ในภาพจ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1283

    หรือเป็นเพราะเขาเชื่อมั่นในพลังความแข็งแกร่งของลั่วชิงยวน?แต่เมื่อมาครุ่นคิดดูตอนนี้ สตรีที่สามารถทำให้เซินฉีหลงใหลได้ถึงเพียงนี้คงไม่มีทางที่จะเป็นขยะไร้ค่าแม้จะมิได้แข็งแกร่งกว่าเฉินชี แต่ก็เป็นคนที่สามารถต่อกรกับเขาได้อย่างสูสีเพราะเช่นนี้เขาจึงมิแลเกาเหมียวเหมี่ยวเลยด้วยซ้ำ……เมื่อกลับมาถึงห้องลั่วชิงยวนก็นั่งลงพักผ่อนเฉินชีเดินตามเข้ามาและนั่งลงข้าง ๆ นาง พร้อมกับรินชาสองจอก“สมแล้วที่เป็นอาเหลา มีเพียงเจ้าเท่านั้นที่กล้าทำให้เกาเหมียวเหมี่ยวตกอยู่ในสภาพเช่นนั้น! ข้าชอบ!” มีแสงประกายเจิดจ้าส่องสว่างในดวงตาของเฉินชีสายตาของเขาดูเหมือนอยากจะกลืนกินลั่วชิงยวนเข้าไปทั้งตัวลั่วชิงยวนพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “เกาเหมียวเหมี่ยวได้รับบาดเจ็บสาหัส ฝ่าบาทกับฮองเฮาคงมิยอมปล่อยข้าไปแน่ คงต้องให้เจ้าช่วยออกหน้าให้แล้ว”เฉินชียิ้มมุมปาก “วางใจได้ มีข้าอยู่ทั้งคน”ลั่วชิงยวนที่ยังกังวลอยู่เล็กน้อยกำชับด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “เฉินชี ครั้งนี้เจ้าจะยืนนิ่งดูดายอีกมิได้แล้ว เพราะหากข้าตาย แผนทั้งหมดของเจ้าก็จะสูญเปล่า”“ใต้หล้านี้ไม่มีลั่วเหลาคนที่สองหรอกนะ”เฉินชีพยักหน้าอย่างจริงจ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1282

    เลือดสด ๆ ยังคงไหลมิหยุด ไหลนองไปตามร่องลึกของลวดลายวงเวทบนพื้นดินคาดมิถึงว่ามันจะค่อย ๆ ทำให้อักษรเวทของวงเวทส่องแสงขึ้นจากนั้นหมอกสีเขียวจาง ๆ ก็กระจายฟุ้งอยู่รอบตัวลั่วชิงยวนสิ่งเหล่านั้นล้วนเป็นไอโอสถทั้งสิ้นหอรักษ์ดาราแห่งนี้ยังเป็นสถานที่ที่สามารถกลั่นไอโอสถจากเลือดได้ และไอโอสถเหล่านี้ก็สามารถรักษาร่างกายที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสได้ลั่วชิงยวนหลับตาและสูดลมหายใจด้วยความเพลิดเพลิน ทำให้ร่างกายที่ปวดร้าวของนางดูเหมือนจะผ่อนคลายลงนี่อาจจะเป็นความหมายของการมีอยู่ของแท่นประลองหอรักษ์ดาราแต่ไอโอสถนี้ก็จางลงอย่างรวดเร็วลั่วชิงยวนปล่อยเกาเหมียวเหมี่ยว นางยืนขึ้นพร้อมกับยืดเส้นยืดสาย และเดินลงจากแท่นประลองคนอื่นที่อยู่รอบ ๆ ต่างมองมาที่นางด้วยสายตาที่หวาดกลัวมากขึ้น และพวกเขาก็มิกล้าพูดจาดูถูกเหยียดหยามนางเหมือนก่อนหน้านี้อีกต่อไปแล้วลั่วชิงยวนกวาดตามองอย่างเรียบเฉย จากนั้นก็มองไปที่เฉินชีด้วยสายตาลึกซึ้งแล้วเดินจากไปเกาเหมียวเหมี่ยวที่ได้รับบาดเจ็บถูกปลดแส้ออกอย่างรวดเร็วและถูกช่วยลงจากแท่นประลอง นางกัดฟันแน่นพลางจ้องตามหลังลั่วชิงยวนที่กำลังเดินออกไปครู่ต่อมา นางก็เห

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1281

    “โอ้สวรรค์ ข้าคงมิได้ตาลายใช่หรือไม่?”“นางไปเอาความกล้ามาจากที่ใดกัน!”ทุกคนในเมืองหลวงต่างรู้ดีว่าเกาเหมียวเหมี่ยวคือใครนางมิเพียงมีสถานะองค์หญิงที่สูงส่งเท่านั้น แต่ยังมีโอกาสที่จะได้สืบราชบัลลังก์ในภายภาคหน้าอีกด้วยเนื่องจากองค์ชายใหญ่มีความสามารถปานกลาง จึงมิเป็นที่โปรดปรานขององค์จักรพรรดิและฮองเฮา ทว่าองค์หญิงผู้นี้กลับแข็งแกร่งและไร้ความปรานี จึงได้รับความโปรดปรานจากพวกเขาไม่มีใครในเมืองหลวงกล้าขัดใจนางเว้นเสียแต่ เฉินชีเพราะนางชอบเขาทว่าแม้จะเป็นเฉินชี แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าคนอื่นเขาก็ให้เกียรตินางมากลั่วชิงยวนผู้นี้กล้ามากถึงขั้นเหยียบย่ำองค์หญิงต่อหน้าธารกำนัลมากมายเช่นนี้!เกาเหมียวเหมี่ยวพยายามดิ้นพร้อมกับก่นด่าไปด้วย “ลั่วชิงยวน ปล่อยข้าเดี๋ยวนี้! หากเจ้ามิปล่อยข้า ข้าจะทำให้เจ้าตายจนหาที่ฝังมิได้เลยคอยดู!”“ท่านนี่พูดมากนัก เงียบเสีย!”ลั่วชิงยวนมองนางด้วยสายตาเย็นชา พลางคว้าแส้แล้วดึงมันอย่างแรงทันใดนั้นแส้ที่คอของเกาเหมียวเหมี่ยวก็รัดแน่นขึ้นบังคับให้เกาเหมียวเหมี่ยวต้องเชิดหน้าขึ้นสูงแต่ยังคงถูกแส้รั้งไว้จนหน้าแดงนางหายใจมิออกจนเส้นเลือดแตกและตา

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1280

    ลั่วชิงยวนถูกแส้ฟาดจนกระอักเลือด ทำให้อาภรณ์ชุดขาวของนางมีรอยเปื้อนสีแดงมีรอยแส้ที่น่าสะเทือนใจพาดอยู่บนหลังของนางเป็นเส้น ๆทุกคนที่อยู่รอบนอกต่างรู้สึกหวาดกลัวมีคนที่อดมิได้ที่จะกระซิบขึ้นว่า “มิยุติธรรมเลย คนหนึ่งมีอาวุธ แต่อีกคนไม่มี นี่มันจงใจแกล้งกันชัด ๆ มิใช่หรือ”“ชู่! พระนางเป็นองค์หญิง ถึงพระนางจะจงใจฆ่าลั่วชิงยวน แล้วใครจะพูดอะไรได้ ระวังไว้เถิด หากนางจับได้ เจ้าได้เดือดร้อนแน่”ทุกทิศมีแต่ความเงียบงันไม่มีใครกล้าพูดอะไรใครใช้ให้เกาเหมียวเหมี่ยวเป็นองค์หญิงเล่า?นางคือองค์หญิงที่ได้รับความโปรดปรานมาตั้งแต่ยังเล็กนางกลายเป็นคนเย่อหยิ่งบ้าอำนาจ และวิธีการของนางเลวทรามมิน้อยไปกว่าเฉินชีเลยทุกคนในที่นี้ล้วนไม่มีใครกล้าขัดทว่ามีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่สามารถช่วยลั่วชิงยวนได้ แต่คนผู้นั้นกลับนั่งนิ่งอยู่บนเก้าอี้ พลางมองลั่วชิงยวนที่ถูกฟาดบนพื้นจนร่างกายเต็มไปด้วยเลือดมีแสงประกายเจิดจ้าอยู่ในดวงตาของเขาและเจือไปด้วยความยินดีปรีดาลั่วชิงยวนกลิ้งไปบนพื้นและทันใดนั้นก็กระอักเลือดออกมาเต็มปากนางเงยหน้าขึ้นมาและเห็นสายตาที่แสดงถึงความตื่นเต้นดีใจของเฉินชี เขาม

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status