แชร์

บทที่ 572

ผู้เขียน: หว่านชิงอิ๋น
“หมู่นี้มีคนแปลกหน้าอยู่ในซีหยางบ้างหรือไม่? ที่เรือนมีกระไรน่าสงสัยหรือไม่?”

“ตรัสให้ข้าดูแลหลางหลางให้ดี มิฉะนั้นพระองค์จะสังหารข้าทิ้งเสีย”

เมื่อฟ่านซานเหอเอ่ยเช่นนี้ เขาก็กลืนน้ำลายด้วยความหวาดกลัวและเป็นกังวล

ลั่วชิงยวนสัมผัสได้ถึงความหวาดกลัวของเขาผ่านทางสีหน้า ดูเหมือนว่าเขาจะถูกคำขู่ของฟู่เฉินหวนทำเอาหวาดกลัวแล้วจริง ๆ

แต่นางก็มิคาดคิดว่าฟู่เฉินหวนจะเอ่ยเรื่องนี้กับฟ่านซานเหอขึ้นมาจริง ๆ

“หมู่นี้ซีหยางสงบสุขดีหรือไม่เจ้าคะ?” ลั่วชิงยวนไถ่ถามด้วยความเป็นห่วง

ฟ่านซานเหอผงกศีรษะ “ทุกอย่างเรียบร้อยดี ตระกูลของข้าเองก็มั่นคงยิ่งนัก ไม่มีเรื่องอันใดเกิดขึ้นหรอก”

“เช่นนั้นก็ดี ถึงแม้ว่าหลางหลางจะเป็นคนตระกูลลั่วเพียงผู้เดียวที่เหลืออยู่ แต่ก็ใช่ว่านางจะไร้ผู้หนุนหลัง หากตระกูลของท่านบังอาจรังแกนาง ตำหนักอ๋องย่อมไม่ละเว้นท่านแน่!”

ฟ่านซานเหอผงกศีรษะด้วยสายตาหวาดกลัว

หลังจากนั้นสักพัก ลั่วหลางหลางก็เดินออกมา เห็นอยู่ชัด ๆ ว่ากำลังร้องไห้ “ท่านแม่ของข้าฝังไปแล้ว ข้าจะไปเยี่ยมท่าน”

ฟ่านซานเหอรีบเข้าไปประคองนางแล้วกล่าวว่า “ข้าจักไปกับเจ้าด้วย”

ลั่วหลางหลางมองมาที่ลั่
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 573

    ยามนี้นางหาได้คิดจะมีบุตรกับฟ่านซานเหอแต่อย่างใดไม่ หรือบางทีวันหน้าก็อาจจะไม่ด้วย ฟ่านซานเหอถึงกับจิตใจสั่นสะท้านแล้วลดเสียงลง “หลางหลาง ข้าเองมิอยากทำเช่นนั้นเหมือนกัน ในใจข้ามีเพียงเจ้าและเจ้าก็จะเป็นเพียงผู้เดียวเสมอไป” “ข้าเองก็เกรงว่าสิ่งที่พวกเขาพูดจะฟังดูแสลงหูเกินไปและอาจทำให้เจ้าเสื่อมเสียชื่อเสียงเอาได้ ข้ามิอยากให้เจ้าได้รับความอยุติธรรม” ลั่วหลางหลางขมวดคิ้ว “ยามนี้ข้ามิอยากเอ่ยถึงเรื่องนี้ ตกลงหรือไม่?” ฟ่านซานเหอผงกศีรษะแล้วมิได้เอ่ยถึงเรื่องนั้นอีก …… เมื่อตกเย็น อู๋อิ่งก็ส่งข่าวมาบอกว่าวันนี้เซี่ยหว่านอยู่ที่เรือนตามลำพัง ส่วนสามีผู้นั้นของนางออกไปข้างนอกและยังไม่กลับมาที่เรือน ฉะนั้นค่ำคืนนี้ ลั่วชิงยวนจึงเปลี่ยนเป็นชุดที่เหมาะสมพลางสวมหน้ากากอันแสนอัปลักษณ์ของลั่วชิงยวนแล้วไปที่ถนนฝูลู่ ลั่วอวิ๋นสี่เองก็เปลี่ยนเป็นชุดดำแล้วสวมหมวกคลุมหน้าสีดำสนิท เมื่อมาถึงนอกเรือน นางก็ได้ยินเสียงไอของเด็กหญิงตัวน้อยดังขึ้นทางด้านใน เซี่ยหว่านร้อนใจเสียจนเอ่ยขึ้นมาว่า “อิงอิง อยู่บ้านดี ๆ นะ แม่จักออกไปซื้อยามาให้เจ้า” จากนั้นก็มีเสียงรื้อค้นหีบและตู้ในห้อง คงจะเ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 574

    “หากเจ้ากล้าลงมือก็ลองดูสิ” ลั่วชิงยวนใช้มือข้างหนึ่งจับตัวหวังอิง ส่วนมืออีกข้างถือเข็มเงินเอาไว้ เซี่ยหว่านมิทราบว่าเกิดเรื่องอันใดขึ้น แต่นางจวนจะร้องไห้อยู่แล้ว “ได้โปรดเถอะ หากเจ้าประสงค์สิ่งใดก็บอกข้ามา! แต่อย่าทำร้ายบุตรสาวของข้าเลย!” ลั่วเยวี่ยอิงก็เอ่ยข่มขู่ด้วยน้ำเสียงที่ฉายแววแค้นเคืองว่า “ลั่วชิงยวน เจ้ามันต่ำช้านัก! รีบปล่อยหวังอิงเสีย มิฉะนั้นวันนี้เจ้าไม่มีทางก้าวออกจากประตูบานนี้ไปได้แน่!” เมื่อทาสใบ้ได้ยินเสียง เขาก็รีบชักมีดสั้นออกมาแล้วมองพวกนางด้วยสายตาคุกคาม ราวกับว่าพร้อมจะสังหารพวกนางได้ทุกเมื่อ ลั่วชิงยวนยิ้มเยาะ “ข้ามาวันนี้ก็เพราะอยากจะล่วงรู้สิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างมารดาของข้ากับหยวนซื่อ ข้าอยากทราบสาเหตุการตายของพวกนาง!” “เซี่ยหว่าน บุตรสาวของเจ้าเกิดมาทั้งอ่อนแอและติดพิษ เจ้ามีสามีเช่นนั้น ไม่เพียงแต่เจ้าจะโดนทรมาทรกรรม ทว่าบุตรสาวของเจ้าเองก็รู้สึกหวาดกลัวไปด้วย นางมิอาจใช้ชีวิตตามปกติได้เลย” “ขืนเป็นเช่นนี้ต่อไป นางคงอยู่รอดได้ไม่เกินสามปี” “หากเจ้าบอกความจริงกับข้าล่ะก็ ข้าสามารถช่วยนางได้! ให้พวกเจ้าแม่ลูกได้หลุดพ้นจากบุรุษผู้นั้นไปตลอดกาล

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 575

    “เซี่ยหว่าน สิ่งที่ข้าอยากจะรู้คือความจริงของเรื่องราว หาใช่ผู้ใดสังหารผู้ใดไม่” “เจ้าควรจะคิดให้ดี ๆ ก่อนพูด” เซี่ยหว่านคุกเข่าลงกับพื้นพลางเอ่ยด้วยน้ำเสียงร้อนใจว่า “สิ่งที่ข้ากล่าวมาเป็นความจริง พวกนางสองคนผู้หนึ่งเป็นฮูหยิน ส่วนอีกผู้หนึ่งเป็นอนุ พวกนางย่อมเข้ากันมิได้อยู่แล้ว” “เดิมทีนายท่านรักใคร่ฮูหยินใหญ่ ทว่าต่อมาเนื่องจากความสัมพันธ์ร้าวฉาน ต่อมานายท่านก็หลงรักหยวนซื่อแล้วรับหยวนซื่อเข้ามาเป็นอนุ” “ฮูหยินใหญ่มิอาจทนหยวนซื่อได้ นางจึงพาลเกลียดชังนายท่านไปด้วย” “ครั้งหนึ่งเกือบทำให้นายท่านต้องสังเวยชีวิตแล้ว” “เมื่อหยวนซื่อทราบเรื่องนี้เข้า นางกลับคุมแค้นและวางยาพิษฮูหยินใหญ่” “ถึงแม้ว่าพวกนางมิได้ต่อสู้กันอย่างดุเดือด แต่พวกนางก็หมายจะให้ตายกันไปข้างหนึ่ง” “ข้าก็มิทราบรายละเอียดมากไปกว่านี้แล้ว ที่ข้ารู้ก็มีเพียงเท่านี้!” หลังจากเซี่ยหว่านพูดจบ อีกฝ่ายก็ร่ำไห้วิงวอน “ได้โปรดอย่าทำร้ายบุตรสาวของข้า! ได้โปรดเถอะ!” เซี่ยหว่านมองไม่เห็นและมิทราบว่าลั่วชิงยวนปฏิบัติกับหวังอิงอย่างไร นางเป็นห่วงความปลอดภัยของบุตรสาวทั้งยังรู้สึกหวาดกลัวสุดขีดอีกด้วย เมื่อลั่วเย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 576

    มือที่กำลังเหวี่ยงอยู่กลางอากาศพลันหยุดชะงักลง เซี่ยหว่านวางค้อนแล้วคุกเข่าลงกับพื้น จากนั้นก็โน้มตัวไปที่ขอบเตียงแล้วเอื้อมมือไปสัมผัสเด็กน้อยบนเตียง “อิงอิง? อิงอิง เจ้าเป็นอันใดหรือไม่?” หวังอิงจับมือของเซี่ยหว่าน “ท่านแม่เจ้าค่ะ ข้ามิเป็นอันใด” “ข้าเพิ่งจะอาการกำเริบ แต่ยามนี้มิเป็นอันใดแล้ว” หวังอิงรีบอธิบายเพราะเกรงว่ามารดาจะเป็นห่วง เมื่อได้ยินว่าน้ำเสียงของเด็กน้อยหาได้มีอันใดผิดปกติ เซี่ยหว่านก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก แต่ทันใดนั้นก็พลันรู้สึกตกตะลึงขึ้นมาทันที หวังอิงมักจะล้มป่วยทุกสองสามวัน ในฐานะที่เป็นมารดา นางย่อมล่วงรู้เรื่องนี้เป็นอย่างดี เมื่อก่อนทุกครั้งที่นางล้มป่วยจำเป็นต้องกินยาต้านพิษเพื่อบรรเทาอาการ ทว่ายามนี้กลับอาการดีขึ้นโดยมิต้องกินยาต้านพิษ ลั่วชิงยวนผู้นี้เก่งฉกาจเสียจนสามารถรักษาโรคของบุตรสาวตนได้จริง ๆ หรือ? แท้ที่จริงแล้ว ลั่วชิงยวนเองก็ทราบดีว่าอาการของหวังอิงมีสาเหตุมาจากพิษที่อยู่ในร่างกาย และเป็นเพราะพิษจึงทำให้อีกฝ่ายกลายเป็นเช่นนี้ ดูเหมือนว่าจะมียาต้านพิษอยู่ด้วย ดังนั้นสิ่งที่ควบคุมเซี่ยหว่านก็คือ พิษในตัวบุตรสาวของอีกฝ่าย แต่คร

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 577

    ลั่วชิงยวนจิตใจสั่นสะท้านพลางขมวดคิ้ว เช่นนั้นเซี่ยหว่านก็รู้ว่านางจัดเตรียมคนมาคอยจับตามองนางอยู่ใกล้เรือนของตนเอง จากนั้นนางก็สั่งให้บุตรสาวไปขอความช่วยเหลือในตรอก “เกิดเรื่องอันใดขึ้น? หรือมารดาของเจ้าคิดหมายบอกอันใดข้า?” นางคิดว่าน่าจะเป็นสิ่งที่นางบอกกับเซี่ยหว่านเมื่อคืนนี้ที่ทำให้นางลังเลใจขึ้นมา หวังอิงหยิบจดหมายฉบับหนึ่งออกมามอบให้นาง “ท่านแม่สั่งให้ข้ามอบให้ท่านเจ้าค่ะ” ลั่วชิงยวนรีบเปิดซองจดหมายทันที ในจดหมายเขียนเอาไว้ว่า ข้ารู้ว่าความจริงที่ท่านอยากจะรู้ สิ่งที่ข้าพูดก่อนหน้านี้ล้วนเป็นคำโกหกจริง ๆ ข้าปิดบังเจ้ามิได้เลย หากท่านอยากจะรู้ความจริง ข้าก็มีเงื่อนไขเพียงข้อเดียวคือดูแลบุตรสาวของข้าด้วย ข้าเขียนเรื่องจริงทั้งหมดแล้วเก็บเอาไว้เฉพาะในที่ที่มีแต่บุตรสาวของข้าเท่านั้นที่รู้ หากท่านดูแลนางไม่ดี ข่มขู่นางหรือทำร้ายนาง ข้าจะทำลายของชิ้นนั้นเสีย หากท่านปฏิบัติกับการด้วยความจริงใจ ท่านก็จะได้ทุกอย่างที่ปรารถนา หลังจากอ่านจดหมายแล้ว ลั่วชิงยวนก็รู้สึกตื่นเต้นอยู่บ้าง แน่นอนว่าคำพูดเมื่อก่อนหน้านี้ของเซี่ยหว่านล้วนเป็นเท็จ ยามนี้นางจึงอยากรู้อย่างถึงที

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 578

    ผู้ที่นอนอยู่บนพื้นคือเซี่ยหว่านที่เต็มไปด้วยบาดแผล โดยมีบาดแผลใหม่ปรากฏชัดตามใบหน้าและท่อนแขน ในขณะเดียวกัน ศพของนางกำลังนอนอยู่บนถนน เมื่อภาพนี้ ผุดขึ้นมาในหัวของลั่วชิงยวน ตอนนั้นเซี่ยหว่านสาบานว่าตนจะไม่เอ่ยวาจาโป้ปด มิฉะนั้นก็ขอตายโดยไร้ที่ฝัง ยามที่ภาพนี้วูบผ่านเข้ามาในหัวของนาง ลั่วชิงยวนเองก็รู้ว่าเซี่ยหว่านกำลังโกหก ทว่านางก็มิได้คาดคิดว่าผลกรรมจะสนองเร็วเช่นนั้น “ท่านแม่… ท่านแม่เจ้าคะ...” หวังอิงโผเข้าหาเซี่ยหว่านพลางร้องไห้คร่ำครวญด้วยความโศกเศร้า ลั่วชิงยวนเดินเข้ามาตรวจดูร่างกายของเซี่ยหว่าน เห็นอยู่ชัด ๆ ว่ามีบาดแผลตามใบหน้าและมือไม้ แต่บาดแผลกลับประหลาดนักเพราะมีความลึกไม่เท่ากัน ดูอย่างไรก็ไม่เหมือนถูกผู้อื่นจัดการ แต่เหมือนนางจัดการตนเองเสียมากกว่า ริมฝีปากของอีกฝ่ายเขียวคล้ำและมีคราบโลหิตอยู่ตรงมุมปาก เมื่อนางง้างปากของเซี่ยหว่าน ก็มีโลหิตหยดลงมาจากปากของอีกฝ่ายและมีแสงเยียบเย็นส่องประกาย ลั่วชิงยวนรู้สึกตกตะลึง นั่นคือเข็มนี่! หวังฉินโหดเหี้ยมถึงเพียงนั้นเชียวหรือ? “ช่างเป็นสตรีที่น่าเวทนา นางแต่งงานกับคนผิดจนทำลายชีวิตของตนเอง มิหนำซ้ำยามนี้

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 579

    “คราวนี้ข้าจักต้องเติมเต็มความปรารถนาสุดท้ายของนางให้จงได้” “ยิ่งไปกว่านั้น ความผิดของหวังฉินก็ยากจะให้อภัย!” ลั่วชิงยวนพยักหน้า “เช่นนั้นข้าคงต้องลำบากใต้เท้าเหอจับตัวหวังฉินแล้วเจ้าค่ะ” “ส่วนเรื่องศพของเซี่ยหว่าน ข้าคิดจะเอาไปฝัง” “ท่านก็เห็นแล้ว บุตรสาวของนางยังเล็กนัก ดังนั้นจึงมิควรปล่อยให้นางเผชิญความหวาดกลัวอยู่ในศาลาว่าการ” ใต้เท้าเหอจึงตกปากรับคำ ยามที่นางกำลังจะออกไป หวังอิงก็วิ่งเข้ามาจับมือของลั่วชิงยวนพร้อมน้ำตาอาบใบหน้า “พี่สาว ท่านแม่ของข้ากำลังจะถูกขังอยู่ที่นี่...” ลั่วชิงยวนโน้มตัวลงมาตบไหล่ของนาง “ข้าจักพามารดาของเจ้าไปด้วย พานางไปฝังกันเถอะ ชาตินี้นางต้องทนทุกข์ทรมานมาเกินไปแล้ว ในที่สุดยามนี้นางก็ได้เป็นอิสระเสียที” หวังอิงผงกศีรษะอย่างรู้ความยิ่งนัก อีกฝ่ายล่วงรู้ทุกสิ่งทุกอย่าง ทว่ากลับทำอันใดมิได้เลย มารดาของตนตายจากไปแล้ว สำหรับมารดาของตน นับเป็นการปลดปล่อยโดยแท้จริง ถึงแม้ว่าตนมิใคร่เต็มใจที่จะพรากจากนัก แต่ชาติหน้า ตนก็ยังคงอยากเป็นบุตรสาวของมารดาอีก จากนั้นลั่วชิงยวนก็ไปหาท่านลุงฟ่านจากร้านรับจัดพิธีศพและซื้อโลงสำเร็จรูปมาใบหนึ่ง ท่

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 580

    นางอ่านต่อไป “ฮูหยินใหญ่รอบรู้เรื่องฮวงจุ้ยและการทำนายดวงชะตา ต่อมาระหว่างที่เกิดความวุ่นวายในวังหลวง มีข่าวลือเรื่องที่วิญญาณชั่วร้ายปรากฏขึ้นมา ความสามารถเหล่านั้นที่ฮูหยินใหญ่รู้มากลับกลายเป็นหนามยอกอกบิดาของท่าน เขาเกรงว่าความสามารถของฮูหยินใหญ่จะพลอยทำให้เขาติดร่างแหไปด้วย ทั้งยังเกรงว่าจะสูญเสียตำแหน่งอัครเสนาบดีที่ได้มาด้วยความยากลำบากไป ดังนั้นฮูหยินใหญ่จึงต้องตาย หามีผู้ใดทราบแน่ชัดว่านางตายได้อย่างไร พวกเขารู้แค่เพียงว่าหลังจากคืนนั้น ฮูหยินใหญ่ก็ตายไป มีเรื่องบางอย่างที่คนรับใช้อย่างพวกเรามิบังอาจพูดสุ่มสี่สุ่มห้า ผู้ที่เสียใจกับการตายของฮูหยินใหญ่มากที่สุดก็คือหยวนซื่อ ตัวหยวนซื่อเองก็สงสัยและคิดจะสืบหาสาเหตุการตายของฮูหยินใหญ่ จนในที่สุดก็สืบกลับไปที่บิดาของท่าน หลายวันนั้นนางร้องไห้อยู่ทุกวันและคิดจะทำลายจวนอัครเสนาบดี บางทีบิดาของท่านคงจะเหลืออด หรืออาจจะเกรงว่าข่าวเรื่องที่เขาสังหารฮูหยินใหญ่จะแพร่สะพัดออกไป ดังนั้นหยวนซื่อจึงต้องตายไปด้วย พวกคนรับใช้ที่รู้เรื่องราวภายในต่างได้รับเงินก้อนโตและถูกขับออกจากจวนในปีถัดมา ข้านึกว่าทุกคนก็เป็นดังเช่นข้าที่

บทล่าสุด

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1326

    ลั่วชิงยวนนิ่งอึ้งไปกลัวหรือก็เคยกลัวอยู่เหมือนกันแต่ยามนี้กลัวไปจะมีประโยชน์อะไรนางส่ายหน้า “เมื่อก่อนกลัว ตอนนี้มิกลัวแล้ว”“เหตุใด?” อวี๋โหรวสงสัย“เพราะเขามิได้บ้าคลั่งถึงเพียงนั้น ทุกสิ่งที่เขาทำล้วนมีจุดมุ่งหมาย”“ข้ามีประโยชน์ต่อเขา เขาย่อมอดทนต่อข้า”อวี๋โหรวได้ฟังแล้วก็พยักหน้าครุ่นคิด แต่ก็ยังรู้สึกมิเข้าใจอยู่ดี“แต่ว่า... เท่าที่ข้ารู้จักเฉินชี เขาสามารถทำได้ทุกวิถีทางเพื่อบรรลุเป้าหมาย เหตุใดจึงยอมอ่อนข้อให้เจ้าถึงเพียงนี้”“สำหรับเขาแล้ว เจ้าคงต่างจากคนอื่น”ลั่วชิงยวนยกยิ้มกล่าว “อาจจะใช่”นางคิดว่าความแตกต่างที่ว่านั้นน่าจะเป็นเพราะโอสถจตุรธาตุเพียงแต่อาจเป็นไปได้ว่าโอสถจตุรธาตุออกฤทธิ์ต่อเฉินชีต่างจากออกฤทธิ์ต่อผู้อื่นเล็กน้อยถึงอย่างนั้นสภาพที่ฟู่เฉินหวนต้องเผชิญเมื่อก่อนนั้นก็มิค่อยพบเจอในหมู่คนอื่น ๆขณะพูดคุยกันก็มาถึงตลาดมืดแล้วที่นี่อยู่ในหุบเขาที่รกร้างว่างเปล่านอกเมืองหลวง รถม้ามิสามารถเข้าไปมิ คนที่มาที่นี่ล้วนเดินเท้ามารอบด้านมืดมิดจนมองมิเห็นสิ่งใดบรรยากาศค่อนข้างวังเวงแต่เมื่อเดินผ่านหน้าผาเข้าไป สิ่งที่ปรากฏแก่สายตาคือแสงไฟสว

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1325

    มินานข่าวนี้ก็แพร่สะพัดไปทั่วเมืองหลวงทว่านายท่านมู่มิได้กล่าวโทษนักบวชระดับสูง เพราะมู่หยวนหยวนทิ้งจดหมายไว้แล้วจากไปเองเนื่องจากวันนี้อวี๋โหรวออกจากวังพอดี ทั้งสองจึงไปกินอาหารด้วยกันที่โรงเตี๊ยมบังเอิญเห็นประกาศตามหาวางอยู่บนโต๊ะ“หนึ่งแสนตำลึง นายท่านมู่ผู้นี้ช่างใจป้ำยิ่งนัก” อวี๋โหรวตกตะลึงกับเนื้อหาในประกาศลั่วชิงยวนอดมิได้ที่จะเสียดาย “เขาสามารถเสนอเงินได้ถึงหนึ่งแสนตำลึง เหตุใดยังต้องส่งมู่หยวนหยวนเข้าวัง แม้ว่าเขาจะส่งนางเข้าวังได้ แต่อาจจะมิได้มากถึงหนึ่งแสนตำลึงด้วยซ้ำ”อวี๋โหรวกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “คิดว่านายท่านมู่คงต้องการชื่อเสียงเกียรติยศ และต้องการเป็นหนึ่งในแปดตระกูลใหญ่ แต่ก็มิพอใจที่จะอยู่ในอันดับสุดท้าย”ขณะที่กำลังพูดอยู่นั้น จู่ ๆ อวี๋โหรวก็เกิดความสับสนขึ้นมา จึงถามว่า “แต่เขาจะแน่ใจได้อย่างไรว่ามู่หยวนหยวนจะนำชื่อเสียงเกียรติยศมาให้เขาได้?”ลั่วชิงยวนก็อึ้งไปครู่หนึ่ง ไม่มีทางรู้เรื่องนี้ได้บางทีตระกูลมู่อาจจะมีความลับอื่นซ่อนไว้ก็เป็นได้“ประเดี๋ยวกินข้าวเสร็จแล้ว เราก็ไปหาบัวถวายกัน ข้าได้ข่าวมาว่ามีคนครอบครองบัวถวาย”“มิได้นำมาขายอย่างเปิดเผย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1324

    คืนต่อมา ลั่วชิงยวนนำรถม้ามาจอดรออยู่มิไกลจากหน้าประตูคฤหาสน์ตระกูลมู่ตามเวลา แล้วกำชับโฉวสือชีให้ดูแลรถม้าจากนั้นก็แอบเข้าไปในคฤหาสน์ตระกูลมู่เพื่อรับมู่หยวนหยวนมู่หยวนหยวนได้ทิ้งจดหมายไว้หนึ่งฉบับ ในจดหมายเขียนว่า นางมิต้องการอยู่ในคฤหาสน์อีกต่อไป และแสดงเจตจำนงว่ามิต้องการเข้าวังด้วยจากนั้นก็แอบมารอคอยลั่วชิงยวนอยู่ตรงมุมกำแพงอย่างเงียบเชียบเนื่องจากคำพูดของเวินซินถงที่บอกแก่นายท่านมู่ นายท่านมู่จึงให้ความสำคัญอย่างมาก เขาเพิ่มผู้คุ้มกันมากมายที่ด้านนอกเรือนของมู่หยวนหยวนลั่วชิงยวนใช้เวลาอยู่สักพักจึงสามารถแอบเข้าไปยังมุมด้านนอกเรือนของมู่หยวนหยวนได้“ท่านมาแล้ว” มู่หยวนหยวนตื่นเต้นยิ่งนักลั่วชิงยวนทำท่าให้เงียบ จากนั้นมอบอาภรณ์บุรุษให้นาง “รีบใส่เสีย ข้าจะได้พาเจ้าไป”มู่หยวนหยวนรีบเปลี่ยนชุดทันใดลั่วชิงยวนพานางปีนข้ามกำแพงท่ามกลางความมืด หลบหลีกผู้คุ้มกันที่เดินตรวจตรา แล้วหลบหนีออกจากคฤหาสน์ตระกูลมู่จนกระทั่งมาถึงมุมถนนก็รีบขึ้นรถม้ามู่หยวนหยวนยังคงมองกลับไปด้วยความหวาดหวั่น เมื่อรถม้าเคลื่อนตัวไปยังประตูเมือง ในใจของนางก็บังเกิดความคาดหวัง“พวกเราจะออกไปได้แ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1323

    “เรื่องอันใด?”ลั่วชิงยวนเอ่ยถึงเรื่องสำคัญ “บอกภายนอกไปว่าเจ้าแก้ไขปัญหาของตระกูลมู่ครั้งนี้ได้ และยังแก้ปัญหาเรื่องสำนักเทียนฉยงได้ด้วย ข้าจะมิแย่งความดีความชอบกับเจ้า”“และจะมิเปิดเผยความจริงให้คนอื่นรู้”เมื่อได้ยินดังนั้น เวินซินถงก็ตกตะลึง พลันมองนางด้วยความมิอยากจะเชื่อลั่วชิงยวนกล่าวต่อ “แต่ข้าต้องการให้เจ้าช่วยเหลือ”“ข้าต้องการส่งมู่หยวนหยวนออกจากเมืองหลวง ออกไปจากตระกูลมู่”“นี่เป็นสิ่งที่ข้ารับปากนางไว้”“เลยต้องการความช่วยเหลือจากเจ้า”เมื่อเวินซินถงได้ฟังดังนั้นก็ยิ่งตกตะลึง จากนั้นก็ถามว่า “นี่คือวิธีที่ท่านแก้ปัญหาเรื่องสำนักเทียนฉยงหรือ? ท่านทราบความจริงแล้วหรือ?”นี่แหละคือวิถีของศิษย์พี่น่าเสียดายที่นางไม่มีความสามารถแข็งแกร่งเท่าศิษย์พี่ จึงทำให้นางมีไม่มีความกล้าหาญเช่นนี้“ใช่” ลั่วชิงยวนมิได้ปิดบัง“บางครั้งการใช้กำลังก็มิสามารถแก้ไขปัญหาได้ทั้งหมด ท้ายที่สุดแล้ว ไม่มีผู้ใดกล้ารับประกันว่าตนเองจะชนะหรือพ่ายแพ้”“โดยเฉพาะกับสิ่งที่ร้ายกาจอย่างสำนักเทียนฉยง หากถูกพวกมันตามรังควานก็ต้องเจอไปชั่วชีวิต และการรับมือกับพวกมันจะยิ่งยากขึ้น”ลั่วชิงยวนกำชั

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1322

    เวินซินถงมองคนตรงหน้าด้วยความตกใจร่างทั้งร่างแข็งทื่อไปหมด“เจ้ารู้ได้อย่างไร...”ดวงตาลั่วชิงยวนฉายแววเย็นชา “เข้าไปคุยกัน”เวินซินถงตะลึงงัน มือที่กำลังบีบคอลั่วชิงยวนค่อย ๆ คลายออกจากนั้นก็ลุกขึ้นยืนลั่วชิงยวนก็พลิกตัวลุกขึ้นตามเซี่ยหลิงที่อยู่ข้าง ๆ เห็นดังนั้นก็อดมิได้ที่จะขมวดคิ้ว มองไปยังเวินซินถง “ท่านนักบวชระดับสูง!”เขาต้องการเตือนท่านนักบวชระดับสูงว่าอย่าใจอ่อนเวินซินถงกล่าวอย่างเย็นชา “ข้ามีเรื่องจะถามนาง”“พวกเจ้ามิต้องตามมา”กล่าวจบ นางก็พาลั่วชิงยวนเข้าไปในห้องเพียงลำพังหลังจากปิดประตูแล้วเวินซินถงก็มองนางด้วยสายตาหวาดระแวง “เจ้าได้ยินชื่ออาถังมาจากที่ใด”นี่เป็นชื่อที่ศิษย์พี่ตั้งให้นาง มีเพียงศิษย์พี่และท่านอาจารย์เท่านั้นที่เคยเรียกนางด้วยชื่อนี้แล้วลั่วชิงยวนได้ยินมาจากที่ใด?ลั่วชิงยวนตัดสินใจตั้งแต่วินาทีที่เอ่ยชื่อนี้ออกมานางมิอาจควบคุมเวินซินถงได้จริง ๆ แต่ลั่วเหลาทำได้!วันนี้เวินซินถงตั้งใจจะสังหารนาง จนถึงกับสังหารคนไปก่อนแล้วสองชีวิตแต่นางมิเพียงแต่จะตายมิได้เท่านั้น ยังต้องทำตามที่รับปากฉีหงและมู่หยวนหยวนไว้ให้สำเร็จด้วยมีเพียงต้

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1321

    “ลั่วชิงยวน!” เวินซินถงเดือดดาลยิ่งนักนางยกมือขึ้นตบลั่วชิงยวนลั่วชิงยวนถอยหลังในทันที แล้วยกมือขึ้นป้องกัน ต่อสู้กับเวินซินถงหลายกระบวนท่าทันใดนั้นเซี่ยหลิงก็พุ่งเข้ามาพร้อมกับเหล่าผู้คุ้มกันที่เข้ามาล้อมไว้ลั่วชิงยวนต่อต้านอย่างสุดกำลัง ต่อสู้กันอยู่ครู่หนึ่ง แต่สุดท้ายก็ถูกเวินซินถงกดไหล่จับตัวไว้ได้อย่างแน่นหนา“วันนี้มิว่าอย่างไรข้าก็จะมิปล่อยเจ้าไป! ต่อให้เฉินชีมาก็ไร้ประโยชน์!”“เซี่ยหลิง ลงมือ!”เวินซินถงออกคำสั่งด้วยน้ำเสียงเย็นชาลั่วชิงยวนหัวเราะเยาะ “ปากท่านนักบวชระดับสูงบอกว่ามิกลัวเฉินชี เหตุใดจึงให้เซี่ยหลิงลงมือ หากข้าตาย เฉินชีจะได้มาแก้แค้นเซี่ยหลิง มิแก้แค้นท่านใช่หรือไม่?”คำพูดนี้ทำให้สีหน้าของเวินซินถงและเซี่ยหลิงแปรเปลี่ยนไปเวินซินถงเหมือนถูกเปิดโปง คว้าคอนางอย่างแรงด้วยความเดือดดาล “ดี หากเจ้าอยากตายด้วยน้ำมือข้า ข้าก็จะสนองให้!”เวินซินถงบีบคอลั่วชิงยวนอย่างแรงเส้นเลือดที่หน้าผากลั่วชิงยวนปูดโปน ความรู้สึกหายใจมิออกทำให้นางตาแดงก่ำนางจับมือของเวินซินถงไว้แน่น แล้วกัดฟันออกแรงเหวี่ยงเวินซินถงลงกับพื้นลั่วชิงยวนมิลังเล กระโจนเข้าไปคร่อมเวิ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1320

    ลั่วชิงยวนไปหาโฉวสือชี ให้เขาจัดเตรียมรถม้าและสิ่งของจำเป็นสำหรับการเดินทางอีกทั้งยังวางแผนเส้นทาง หลังจากออกจากเมืองหลวงแล้วควรไปที่ใด จึงจะสามารถหลบหนีการติดตามของคนตระกูลมู่ได้ดีที่สุดหลังจากจัดการเรียบร้อยแล้ว ลั่วชิงยวนก็กลับไปยังบ้านตระกูลมู่และตอนนี้ผู้ที่รอคอยอยู่ในเรือนก็คือเวินซินถงและเซี่ยหลิงอีกทั้งยังมีผู้คุ้มกันอีกหลายสิบคนเวินซินถงนั่งอยู่บนเก้าอี้ เอ่ยปากอย่างเย็นชาด้วยท่าทางทรงอำนาจ “ถึงเวลาที่จะต้องทำตามสัญญาแล้ว”ลั่วชิงยวนชะงักเล็กน้อย มิเข้าใจความหมายของเวินซินถงนางกล่าวอย่างเย็นชา “ในเมื่อท่านนักบวชระดับสูงมาถึงที่นี่แล้ว ก็น่าจะเห็นว่าปัญหาของตระกูลมู่ได้รับการแก้ไขแล้ว”“ไม่มีคนของสำนักเทียนฉยงแล้ว”“หากจะต้องทำตามสัญญา ก็ควรเป็นท่านนักบวชระดับสูงที่ต้องทำตาม”“เหตุใดจึงทำราวกับจะลงโทษข้า?”เวินซินถงลุกขึ้นจากเก้าอี้ หัวเราะเบา ๆ “ใช่ สำนักเทียนฉยงไม่มีแล้ว”“แต่ข้าเป็นคนทำ เจ้ามีส่วนเกี่ยวข้องอะไร?”เวินซินถงยกยิ้มอย่างเย็นชา สายตาเย็นเยียบมองลั่วชิงยวน ในดวงตายังมีรอยยิ้มเมื่อคำพูดนี้หลุดออกมา ลั่วชิงยวนก็ตกตะลึงนางคาดมิถึงว่าเวินซินถงจะ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1319

    “อีกอย่างคือสำนักเทียนฉยงก็ไม่ใช่พวกดีอะไร หากมู่หยวนหยวนข้องแวะกับสำนักเทียนฉยงจะมีจุดจบเช่นไร เจ้าต้องคิดให้ดี”ลั่วชิงยวนอยากช่วยเหลือพวกเขาแต่สำหรับสถานการณ์ของฉีหง นางก็ไร้ความสามารถเขาใช้ตัวเขาเองเป็นเครื่องสังเวย หลอมรวมเข้ากับวงแหวนแห่งเวท เมื่อออกจากสภาพแวดล้อมนี้ พลังก็จะอ่อนแอลงมากมู่หยวนหยวนกลับยกยิ้มแล้วกล่าวว่า “ข้าสามารถปกป้องตนเองได้”“และจะปกป้องเขาด้วย”เมื่อเห็นสายตาแน่วแน่และเปี่ยมด้วยความหวังของมู่หยวนหยวน ลั่วชิงยวนก็สะเทือนใจบางทีเพียงแค่ได้อยู่กับคนที่รัก อุปสรรคใด ๆ ก็มิน่าหวาดกลัวนี่ทำให้ลั่วชิงยวนเจ็บปวดใจอดมิได้ที่จะนึกถึงฟู่เฉินหวนสุดท้ายแล้วเขากับนางก็ดูเหมือนจะไม่มีจุดจบที่ดี หรือว่ามิควรพบเจอกันตั้งแต่แรกเริ่มกันแน่ ช่างเป็นโชคชะตาที่เล่นตลกมิให้พวกเขาอยู่ด้วยกัน แต่กลับจัดให้พวกเขาได้พบกันเมื่อได้สติ ลั่วชิงยวนก็ข่มความเจ็บปวดในใจ และกล่าวกับฉีหง “เจ้าต้องออกจากคฤหาสน์ตระกูลมู่ไปก่อนสองวัน เพื่อให้แน่ใจว่าที่นี่ไม่มีสิ่งชั่วร้ายอยู่ที่นี่อีก”“ข้าจะให้คนไปเตรียมรถม้าและอาหาร สองวันให้หลัง ข้าจะส่งมู่หยวนหยวนออกจากเมือง”“เส้นทาง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1318

    “ข้ามิได้เห็นแก่ตัวแล้วต้องการครอบครองนางแต่เพียงผู้เดียว และมิได้มิคำนึงถึงชื่อเสียงของนางแล้วจะพานางหนีตามไป”“แต่เป็นเพราะหวงกุ้ยเฟยในวังได้ส่งมือสังหารมาลอบสังหารนางตั้งแต่ก่อนหน้านี้แล้ว”“แต่ถึงแม้บิดาของนางจะเห็นหลักฐานที่ข้ามอบให้ก็ยังมิยอมเชื่อ ยืนกรานที่จะให้นางเข้าวังไปเสี่ยงชีวิต เพื่อแสวงหาสิ่งที่เลื่อนลอยเพื่อตระกูล”ลั่วชิงยวนจดสิ่งที่ฉีหงพูดลงบนกระดาษทีละคำขณะที่ให้มู่หยวนหยวนดูก็ถามว่า “เจ้าเป็นคนของสำนักเทียนฉยงหรือ?”ฉีหงตอบ “มิใช่”“ข้าถูกบีบคั้นจนไร้ทางออก สุดท้ายจึงจำต้องเข้าร่วมสำนักเทียนฉยง มีเพียงวิธีนี้เท่านั้นจึงจะสามารถปกป้องหยวนหยวนได้”“คนที่ข้าสังหาร ไม่มีผู้ใดบริสุทธิ์สักคน”“พวกเขาปลอมแปลงข่าวสาร หลอกลวงหยวนหยวนและหลอกลวงข้า”“เมื่อวางวงแหวนแห่งเวทแล้ว หยวนหยวนออกไปมิได้ พวกเขาก็พยายามหาทางนำหยวนหยวนออกไปเพื่อส่งเข้าวัง”“ข้าทำได้เพียงเท่านี้ สังหารคนตระกูลมู่ให้สิ้น หยวนหยวนจึงจะเป็นอิสระ”“แต่ข้าคาดมิถึงว่า พวกเขาจะเชิญนักบวชระดับสูงมา”“นักบวชระดับสูงไร้ความสามารถ กลับเป็นเจ้าที่มองทะลุภาพลวงตาได้!”เมื่อกล่าวจบ ฉีหงก็ข่มขู่ “หากเจ้าคิด

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status