แชร์

บทที่ 577

ผู้เขียน: หว่านชิงอิ๋น
ลั่วชิงยวนจิตใจสั่นสะท้านพลางขมวดคิ้ว เช่นนั้นเซี่ยหว่านก็รู้ว่านางจัดเตรียมคนมาคอยจับตามองนางอยู่ใกล้เรือนของตนเอง

จากนั้นนางก็สั่งให้บุตรสาวไปขอความช่วยเหลือในตรอก

“เกิดเรื่องอันใดขึ้น? หรือมารดาของเจ้าคิดหมายบอกอันใดข้า?”

นางคิดว่าน่าจะเป็นสิ่งที่นางบอกกับเซี่ยหว่านเมื่อคืนนี้ที่ทำให้นางลังเลใจขึ้นมา

หวังอิงหยิบจดหมายฉบับหนึ่งออกมามอบให้นาง “ท่านแม่สั่งให้ข้ามอบให้ท่านเจ้าค่ะ”

ลั่วชิงยวนรีบเปิดซองจดหมายทันที

ในจดหมายเขียนเอาไว้ว่า ข้ารู้ว่าความจริงที่ท่านอยากจะรู้ สิ่งที่ข้าพูดก่อนหน้านี้ล้วนเป็นคำโกหกจริง ๆ ข้าปิดบังเจ้ามิได้เลย

หากท่านอยากจะรู้ความจริง ข้าก็มีเงื่อนไขเพียงข้อเดียวคือดูแลบุตรสาวของข้าด้วย ข้าเขียนเรื่องจริงทั้งหมดแล้วเก็บเอาไว้เฉพาะในที่ที่มีแต่บุตรสาวของข้าเท่านั้นที่รู้

หากท่านดูแลนางไม่ดี ข่มขู่นางหรือทำร้ายนาง ข้าจะทำลายของชิ้นนั้นเสีย

หากท่านปฏิบัติกับการด้วยความจริงใจ ท่านก็จะได้ทุกอย่างที่ปรารถนา

หลังจากอ่านจดหมายแล้ว ลั่วชิงยวนก็รู้สึกตื่นเต้นอยู่บ้าง

แน่นอนว่าคำพูดเมื่อก่อนหน้านี้ของเซี่ยหว่านล้วนเป็นเท็จ ยามนี้นางจึงอยากรู้อย่างถึงที
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 578

    ผู้ที่นอนอยู่บนพื้นคือเซี่ยหว่านที่เต็มไปด้วยบาดแผล โดยมีบาดแผลใหม่ปรากฏชัดตามใบหน้าและท่อนแขน ในขณะเดียวกัน ศพของนางกำลังนอนอยู่บนถนน เมื่อภาพนี้ ผุดขึ้นมาในหัวของลั่วชิงยวน ตอนนั้นเซี่ยหว่านสาบานว่าตนจะไม่เอ่ยวาจาโป้ปด มิฉะนั้นก็ขอตายโดยไร้ที่ฝัง ยามที่ภาพนี้วูบผ่านเข้ามาในหัวของนาง ลั่วชิงยวนเองก็รู้ว่าเซี่ยหว่านกำลังโกหก ทว่านางก็มิได้คาดคิดว่าผลกรรมจะสนองเร็วเช่นนั้น “ท่านแม่… ท่านแม่เจ้าคะ...” หวังอิงโผเข้าหาเซี่ยหว่านพลางร้องไห้คร่ำครวญด้วยความโศกเศร้า ลั่วชิงยวนเดินเข้ามาตรวจดูร่างกายของเซี่ยหว่าน เห็นอยู่ชัด ๆ ว่ามีบาดแผลตามใบหน้าและมือไม้ แต่บาดแผลกลับประหลาดนักเพราะมีความลึกไม่เท่ากัน ดูอย่างไรก็ไม่เหมือนถูกผู้อื่นจัดการ แต่เหมือนนางจัดการตนเองเสียมากกว่า ริมฝีปากของอีกฝ่ายเขียวคล้ำและมีคราบโลหิตอยู่ตรงมุมปาก เมื่อนางง้างปากของเซี่ยหว่าน ก็มีโลหิตหยดลงมาจากปากของอีกฝ่ายและมีแสงเยียบเย็นส่องประกาย ลั่วชิงยวนรู้สึกตกตะลึง นั่นคือเข็มนี่! หวังฉินโหดเหี้ยมถึงเพียงนั้นเชียวหรือ? “ช่างเป็นสตรีที่น่าเวทนา นางแต่งงานกับคนผิดจนทำลายชีวิตของตนเอง มิหนำซ้ำยามนี้

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 579

    “คราวนี้ข้าจักต้องเติมเต็มความปรารถนาสุดท้ายของนางให้จงได้” “ยิ่งไปกว่านั้น ความผิดของหวังฉินก็ยากจะให้อภัย!” ลั่วชิงยวนพยักหน้า “เช่นนั้นข้าคงต้องลำบากใต้เท้าเหอจับตัวหวังฉินแล้วเจ้าค่ะ” “ส่วนเรื่องศพของเซี่ยหว่าน ข้าคิดจะเอาไปฝัง” “ท่านก็เห็นแล้ว บุตรสาวของนางยังเล็กนัก ดังนั้นจึงมิควรปล่อยให้นางเผชิญความหวาดกลัวอยู่ในศาลาว่าการ” ใต้เท้าเหอจึงตกปากรับคำ ยามที่นางกำลังจะออกไป หวังอิงก็วิ่งเข้ามาจับมือของลั่วชิงยวนพร้อมน้ำตาอาบใบหน้า “พี่สาว ท่านแม่ของข้ากำลังจะถูกขังอยู่ที่นี่...” ลั่วชิงยวนโน้มตัวลงมาตบไหล่ของนาง “ข้าจักพามารดาของเจ้าไปด้วย พานางไปฝังกันเถอะ ชาตินี้นางต้องทนทุกข์ทรมานมาเกินไปแล้ว ในที่สุดยามนี้นางก็ได้เป็นอิสระเสียที” หวังอิงผงกศีรษะอย่างรู้ความยิ่งนัก อีกฝ่ายล่วงรู้ทุกสิ่งทุกอย่าง ทว่ากลับทำอันใดมิได้เลย มารดาของตนตายจากไปแล้ว สำหรับมารดาของตน นับเป็นการปลดปล่อยโดยแท้จริง ถึงแม้ว่าตนมิใคร่เต็มใจที่จะพรากจากนัก แต่ชาติหน้า ตนก็ยังคงอยากเป็นบุตรสาวของมารดาอีก จากนั้นลั่วชิงยวนก็ไปหาท่านลุงฟ่านจากร้านรับจัดพิธีศพและซื้อโลงสำเร็จรูปมาใบหนึ่ง ท่

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 580

    นางอ่านต่อไป “ฮูหยินใหญ่รอบรู้เรื่องฮวงจุ้ยและการทำนายดวงชะตา ต่อมาระหว่างที่เกิดความวุ่นวายในวังหลวง มีข่าวลือเรื่องที่วิญญาณชั่วร้ายปรากฏขึ้นมา ความสามารถเหล่านั้นที่ฮูหยินใหญ่รู้มากลับกลายเป็นหนามยอกอกบิดาของท่าน เขาเกรงว่าความสามารถของฮูหยินใหญ่จะพลอยทำให้เขาติดร่างแหไปด้วย ทั้งยังเกรงว่าจะสูญเสียตำแหน่งอัครเสนาบดีที่ได้มาด้วยความยากลำบากไป ดังนั้นฮูหยินใหญ่จึงต้องตาย หามีผู้ใดทราบแน่ชัดว่านางตายได้อย่างไร พวกเขารู้แค่เพียงว่าหลังจากคืนนั้น ฮูหยินใหญ่ก็ตายไป มีเรื่องบางอย่างที่คนรับใช้อย่างพวกเรามิบังอาจพูดสุ่มสี่สุ่มห้า ผู้ที่เสียใจกับการตายของฮูหยินใหญ่มากที่สุดก็คือหยวนซื่อ ตัวหยวนซื่อเองก็สงสัยและคิดจะสืบหาสาเหตุการตายของฮูหยินใหญ่ จนในที่สุดก็สืบกลับไปที่บิดาของท่าน หลายวันนั้นนางร้องไห้อยู่ทุกวันและคิดจะทำลายจวนอัครเสนาบดี บางทีบิดาของท่านคงจะเหลืออด หรืออาจจะเกรงว่าข่าวเรื่องที่เขาสังหารฮูหยินใหญ่จะแพร่สะพัดออกไป ดังนั้นหยวนซื่อจึงต้องตายไปด้วย พวกคนรับใช้ที่รู้เรื่องราวภายในต่างได้รับเงินก้อนโตและถูกขับออกจากจวนในปีถัดมา ข้านึกว่าทุกคนก็เป็นดังเช่นข้าที่

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 581

    ลั่วชิงยวนปลอมตัวแล้วลอบเข้ามาในจวนอัครเสนาบดี นางลอบมาที่เรือนอันแสนคุ้นเคย ได้ยินเสียงร้องไห้ของลั่วเยวี่ยอิงดังแว่วขึ้นมาจากภายในห้อง “คนสุดท้ายที่รู้สาเหตุการตายของท่านแม่ตายไปแล้ว นับแต่บัดนี้เป็นต้นไป ใต้หล้านี้ยังจะมีผู้ใดจดจำความคับข้องใจของท่านแม่ได้อีก?” ลั่วไห่ผิงจึงปลอบโยนนางว่า “พ่อจำได้” “พ่อจักจดจำไว้ตลอดไป! มารดาของเจ้าเป็นผู้ที่อ่อนโยนและจิตใจดีงามที่สุดในใต้หล้า” ลั่วเยวี่ยอิงร้องไห้ด้วยท่าทีเศร้าโศก “ท่านพ่อ ท่านต้องจับตัวหวังฉินมาลงโทษให้หนัก ๆ นะเจ้าคะ!” “ยังมีบุตรสาวของเซี่ยหว่านอีก ข้ามิทราบว่ายามนี้นางไปอยู่ที่ใดแล้ว แต่มีคนบอกว่าเห็นนางอยู่กับฝูเสวี่ย ท่านพ่อ ท่านต้องคิดหาทางนะเจ้าคะ!” ลั่วไห่ผิงพยักหน้าแล้วรับรองว่า “พ่อรู้แล้ว วางใจเถอะ พ่อจัดการเรื่องพวกนี้ให้เอง!” “ดึกแล้ว เจ้าควรจะพักผ่อน อย่าเพิ่งคิดอันใดเลย” ลั่วชิงยวนรีบหลบเข้ามุมหนึ่ง เพื่อรอคอยให้ลั่วไห่ผิงออกไปจากเรือน นางลอบสังเกตอยู่สักพักแล้ว ดูเหมือนว่าทาสใบ้จะได้อยู่นอกเรือน ภายในห้อง ลั่วเยวี่ยอิงไล่พวกคนรับใช้พลางดับเทียนราวกับว่ากำลังจะเข้านอนแล้ว เมื่อเรือนทั้งหลังเ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 582

    “เจ้า่กำลังโกหกข้า! เรื่องเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นเจ้าที่แสร้งทำ!”“ข้าไม่มีทางเชื่อ!”“จะมีเรื่องไร้สาระเช่นนี้เกิดขึ้นได้เยี่ยงไร?!”ลั่วเยวี่ยอิงรู้สึกสะเทือนใจมากจนนางทรุดตัวลง พร้อมตะวาดใส่ลั่วชิงยวนด้วยความโกรธเกรี้ยวเมื่อพิจารณาจากท่าทีของลั่วเยวี่ยอิงแล้ว ​​จึงรู้ได้ว่าเนื้อความของจดหมายฉบับนี้ส่งผลกระทบต่อจิตใจนางมากเพียงใด แต่นางกลับเลือกที่จะไม่เชื่อเรื่องราวเหล่านั้นลั่วชิงยวนเย้ยหยัน “เจ้ามิอยากยอมรับความจริงที่ว่าเจ้าเกลียดคนผิดมาเป็นเวลาหลายปีแล้วก็ตามใจ อยากเชื่ออย่างไรก็แล้วแต่เจ้า”“เช่นนั้น ข้าคงมิโน้มน้าวเจ้าไปกว่านี้ และจากนี้ข้ามิขอไว้ชีวิตเจ้าอย่างเห็นแก่มิตรภาพระหว่างแม่ของเจ้ากับข้าอีกต่อไป”นางวางความจริงไว้ตรงหน้าลั่วเยวี่ยอิงแล้ว ไม่ว่าลั่วเยวี่ยอิงจะเชื่อหรือไม่ ล้วนมิได้อยู่การควบคุมของนางแล้วดวงตาของลั่วเยวี่ยอิงเปลี่ยนเป็นเย็นชา นางกำจดหมายไว้แน่น ก่อนที่จะจ้องมองไปยังลั่วชิงยวนด้วยความขุ่นเคืองลั่วชิงยวนหันหลังกลับและจากไปทันทีนางออกจากจวนอัครเสนาบดีไปอย่างเงียบ ๆลั่วเยวี่ยอิงนั่งอยู่บนเตียง นางอ่านเนื้อความของจดหมายซ้ำแล้วซ้ำอีกอย่างไม่

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 583

    นางอดไม่ได้ที่จะถามลิ่นฝูเสวี่ยด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา “ทำไมวันนี้ท่านมิเร่งข้า?”ลิ่นฝูเสวี่ยลอยออกไปนั่งบนราวบันได นางแกว่งขาไปด้วยขณะมองดูผู้คนที่กระตือรือร้นอยู่ด้านล่าง “พวกเขามาที่นี่เพื่อพบเจ้า”“ดูข้าสิ? ข้ามิรู้กระทั่งวิธีร่ายรำเทพเหมันต์ด้วยซ้ำ” ลั่วชิงยวนยิ้มเบา ๆลิ่นฝูเสวี่ยเลิกคิ้วและมองดูนาง "อย่าคิดว่าข้ามิรู้ ท่านได้เรียนรู้รำเทพเหมันต์มานานแล้ว ท่านได้เรียนรู้ทุกสิ่งที่ข้าร่ายรำไปแล้ว"“ตอนนี้ท่านเป็นลูกศิษย์ของลิ่นฝูเสวี่ย ท่านคู่ควรกับชื่อของท่านอย่างแท้จริง”ลั่วชิงยวนอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว "ไฉนวันนี้เจ้าทำตัวแปลก ๆ"“ก็แค่อารมณ์อ่อนไหวเท่านั้น” ลิ่นฝูเสวี่ยยิ้มและหันไปมองนาง “ข้าว่า ข้าร่ายรำมามากพอแล้ว”“ความยึดติดอย่างหนักหนาของข้า คือเรื่องที่ข้าเสียใจที่ไม่มีใครสืบทอดทักษะของข้า แต่บัดนี้ท่านได้เรียนรู้ทักษะทั้งหมดของข้าแล้ว คนเหล่านี้ล้วนมาที่นี่เพราะท่าน ข้าคิดว่า…”ทันใดนั้น ลั่วชิงยวนก็เริ่มกังวล นางกำมือแน่นโดยไม่รู้ตัวนางเกรงว่าคำพูดต่อไปของลิ่นฝูเสวี่ยคือ ‘ถึงเวลาจากกันแล้ว’“ข้าคิดว่า.. .ท่านควรให้ค่าฝึกสอนหรืออะไรสักอย่างกับข้าหรือไม่?”เมื่อได

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 584

    ลั่วชิงยวนตกตะลึงเล็กน้อย นางจึงเงยหน้าขึ้นมองพบว่าเป็นฟู่เฉินหวนทันใดนั้นเขาก็ยกเท้าขึ้นเตะบุรุษผู้นั้นออกไปจากนั้นก็มีเสียงร้องด้วยความตกใจดังมาจากด้านล่าง “อ๋องผู้สำเร็จราชการกำลังทุบตีชาวบ้าน!”“อ๋องผู้สำเร็จราชการลงมือทำร้ายผู้บริสุทธิ์!”“กฎแห่งราชวงศ์ยังมีอยู่หรือไม่?”คำพูดเหล่านี้ทำให้เกิดความโกลาหลในหอทันทีผู้คนต่างพากันรุดไปข้างหน้าเพื่อโจมตีฟู่เฉินหวน แต่เขากลับยืนอยู่ตรงหน้าลั่วชิงยวน พร้อมกับลงมืออย่างไม่เกรงกลัวสิ่งใด จนทำให้ผู้คนจำนวนมากได้รับบาดเจ็บโชคดีที่ผุ้คุ้มกันในหอค่อนข้างแข็งแกร่ง ทั้งยังควบคุมสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็วไม่ไกลกันนัก ฝูจ้าวก็อยากจะก้าวออกไปเช่นกันสายตาเฉียบคมของฟู่เฉินหวนจับจ้องไปยังลั่วชิงยวน จากนั้นก็คว้าข้อมือนางไว้ แล้วดึงนางออกจากสถานการณ์ตรงหน้าก่อนที่จะวิ่งขึ้นไปยังชั้นบนประตูถูกปิดลงฟู่เฉินหวนยืนพิงกำแพงด้วยความโกรธบนใบหน้า พร้อมทั้งประจันหน้ากับลั่วชิงยวน “วันนี้เจ้าต้องออกจากหอฝูเสวี่ย ข้าไม่อนุญาตให้เจ้าร่ายรำที่นี่ในฐานะฝูเสวี่ยอีกต่อไป!"ลั่วชิงยวนขมวดคิ้ว "เพราะเหตุใดเพคะ?"‘เพราะเจ้าเป็นพระชายาของอ๋องเช่นข้า!’ฟู

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 585

    “ไม่ช้าก็เร็วตัวตนของเจ้าจะถูกเปิดเผย”เดิมที่เขากลัวว่านางจะถูกเปิดเผยตัวตนกลัวว่านางจะถูกดึงให้เข้าไปพัวพันกับเขา หลังจากที่ตัวตนของนางถูกเปิดเผยแสงในดวงตาของลั่วชิงยวนหรี่ลงลั่วชิงยวนไม่ตอบนางรับปากกับลิ่นฝูเสวี่ยไปแล้วว่าวันนี้จะเป็นการแสดงครั้งสุดท้ายลิ่นฝูเสวี่ยไม่มีความยึดติดใด ๆ อีกต่อไปแล้ว สาเหตุการตายของมารดานางก็ชัดเจนแล้ว ไม่มีความจำเป็นที่ต้องร่ายรำต่อไปแต่อย่างใดสัญญาระหว่างลิ่นฝูเสวี่ยเป็นเพียงการเติมเต็มความปรารถนาที่ยังไม่บรรลุผลของนาง แลกกับเบาะแสการตายของมารดาเมื่อรถม้ามาถึงประตูด้านหลังของจวนอ๋อง ฟู่เฉินหวนก็เหลือบมองนางแล้วพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มลึกว่า “เปลี่ยนอาภรณ์แล้วไปที่ห้องตำรา”“ข้ามีเรื่องจะถามเจ้า”หลังจากพูดเช่นนั้น ฟู่เฉินหวนก็ลุกขึ้นและลงจากรถม้าไปเมื่อกลับมาถึงจวน หลังจากลั่วชิงยวนเปลี่ยนอาภรณ์แล้ว นางก็เข้าไปในห้องตำราของฟู่เฉินหวนทันทีแต่นางกลับบังเอิญได้ยินเซียวชูรายงานในห้องตำราว่า “สวีซงหย่วนเป็นนักฆ่าสำนักอู๋จี๋จริง ๆ แต่หลังจากที่สวีซงหย่วนตายลง ก็ไม่มีข่าวคราวเกี่ยวกับสำนักอู๋จี๋เลยแม้แต่น้อย ไม่เพียงเท่านั้น พวกเขายังหยุดทำกา

บทล่าสุด

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1254

    โฉวสือชีได้ยินดังนั้นก็มองนางด้วยความตกใจ“นักบวชหญิงหรือ?!”ลั่วชิงยวนมีสีหน้าสงบนิ่ง กล่าวอย่างใจเย็น “ใช่ มีเพียงข้าได้เป็นนักบวชหญิงเท่านั้น ข้าจึงจะสามารถยกเลิกกฎและระเบียบที่มิยุติธรรมและช่วยคนที่พวกเจ้าอยากช่วยได้”“มิเช่นนั้นถึงแม้ว่าพวกเจ้าจะฆ่าคนไปมากเท่าใด ภายใต้กฎระเบียบนี้ก็ยังคงมีคนมากมายถูกใส่ร้าย ถูกบังคับให้เป็นทาสเหมือนเดิม”หลังจากที่โฉวสือชีฟังจบก็รู้สึกหวั่นไหวเพียงแต่ยังมองลั่วชิงยวนด้วยความมิวางใจ “เจ้าทำได้จริงหรือ?”“แน่นอน มิเช่นนั้นข้าจะมาที่นี่เพื่ออะไร?”โฉวสือชีมองหญิงสาวตรงหน้า เห็นได้ชัดว่านางอ่อนแอและซีดเซียวราวกับจะตายได้ทุกเมื่อกลัวว่าหากร่วมมือกับนาง นางจะตายก่อนที่การใหญ่จะสำเร็จแต่แววตาและน้ำเสียงที่หนักแน่นนั้นกลับทำให้น่าเชื่อถืออย่างบอกมิถูกเห็นว่าโฉวสือชียังคงลังเล ลั่วชิงยวนจึงหยิบเข็มทิศอาณัติสวรรค์ออกมาแล้วใช้สายตาชี้ไปทางตู้เฟิงเฉินที่อยู่บนพื้น“ข้าเห็นอดีตของเขา”“เหตุผลของการมีอยู่ของทาสเป็นสิ่งที่ข้ามิคาดคิด ครอบครัวของเขาถูกทำร้าย แต่มิใช่เหตุผลอันชอบธรรมที่ทำให้เขาทำร้ายผู้บริสุทธิ์ได้”“เขาต่างจากผู้กระทำความผิดตรง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1253

    กล่าวจบ นางก็พูดต่อ “หากข้าอยากอยู่ในเมืองหลวงก็ต้องทำภารกิจปราบพวกเจ้าให้สำเร็จ”โฉวสือชีหัวเราะอย่างเย็นชา “ปราบหรือ? พวกข้าเป็นคน มิใช่สัตว์ เจ้าจะใช้เรื่องแก้ยันต์ผนึกวิญญาณมาขู่ให้พวกเราเชื่อฟังหรือ?”แต่แววตาของลั่วชิงยวนกลับลุกโชนดั่งเพลิง นางยกยิ้มกล่าวด้วยเสียงแผ่วเบา “หามิได้”“ข้าจะพาพวกเจ้า หนีออกจากค่ายทาสนักโทษ”โฉวสือชีได้ยินดังนั้นก็ตกใจมากค่ายทาสนักโทษมีค่ายกลและกลไก ไม่มีใครหนีออกไปได้ง่าย ๆ ยิ่งไปกว่านั้น การป้องกันภายนอกก็แน่นหนา“เจ้าอยู่ในสภาพนี้ ยังจะพาพวกข้าหนีออกจากค่ายทาสนักโทษอีก? อย่าว่าแต่เจ้าทำมิได้เลย ถึงเจ้าจะทำได้ แต่พวกข้าจะเชื่อเจ้าได้อย่างไร?”ลั่วชิงยวนฟังออกว่าโฉวสือชีอยากจะร่วมมือ มิเช่นนั้นคงมินั่งอยู่ที่นี่เพื่อลองใจนาง“เพราะมิใช่แค่พวกเจ้าที่ต้องการแก้ยันต์ผนึกวิญญาณ ข้าคิดว่าสหายและครอบครัวของพวกเจ้าก็ต้องการแก้ยันต์ผนึกวิญญาณเหมือนกัน”คำพูดของลั่วชิงยวนทำให้โฉวสือชีพูดมิออกมองปฏิกิริยาของโฉวสือชีแล้ว ลั่วชิงยวนก็รู้ว่าวิธีของนางถูกต้อง“ข้าอยากรู้ว่า เหตุใดพวกเจ้าถูกสลักยันต์ผนึกวิญญาณแล้วแต่ยังหนีออกมาได้?”โฉวสือชีขมวดคิ้ว

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1252

    โฉวสือชีลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แล้วจึงถอดเสื้อนั่งขัดสมาธิตรงหน้าลั่วชิงยวนลั่วชิงยวนหยิบยันต์ออกมาแปะลงบนรอยสักพลันมีแสงสีทองปรากฏขึ้นบนรอยสัก“เห็นหรือไม่ นี่แสดงว่ายันต์ผนึกวิญญาณมีอยู่จริง”“เมื่อแก้ยันต์ผนึกวิญญาณแล้ว ที่นี่ก็จะมีเพียงรอยสักและแผลเป็น จะไม่มีอักขระเวทแสงสีทองนี้อีก”ลั่วชิงยวนพยายามอธิบายให้พวกเขาฟังหากสามารถตกลงกันได้ด้วยดีก็ดีที่สุด นางมิอยากลงมือต่อสู้อีกแล้วนางสู้มิได้จริง ๆ หงไห่และคนอื่น ๆ ฟังเข้าใจ จึงพยักหน้า “เช่นนั้นเจ้ารีบแก้ยันต์ผนึกวิญญาณให้เขาเถิด”ลั่วชิงยวนก็บังเอิญทำได้ ใต้หล้านี้มีมิกี่คนที่แก้ยันต์ผนึกวิญญาณได้ และนางเป็นหนึ่งในนั้นเพียงแต่ร่างกายของนางตอนนี้จะยิ่งเสียพลังมากขึ้นนางหยิบยันต์ออกมา ก่อนจะใช้มีดกรีดนิ้วเพื่อใช้เลือดวาดยันต์ จากนั้นแปะลงบนหลังของโฉวสือชี วงแหวนแห่งเวทสีทองปรากฏขึ้นซึมเข้าไปในรอยแผลเป็นของยันต์ผนึกวิญญาณไม่มีปฏิกิริยาใดอีก“เสร็จแล้ว” ลั่วชิงยวนกล่าวอย่างใจเย็นโฉวสือชีหันไปมองไหล่ของตัวเอง ดูเหมือนจะมิรู้สึกอะไร “เสร็จแล้วหรือ?”ลั่วชิงยวนจึงทดสอบให้พวกเขาดู ในรอยสักของยันต์ผนึกวิญญาณไม่มีอักขระเว

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1251

    แต่ที่นี่มิได้มีแค่หงไห่คนเดียวยังมีคนชั่วร้ายอีกหลายคนเมื่อพวกเขาลงมือ ลั่วชิงยวนก็ถูกรุมซ้อมจนไร้ทางสู้สุดท้ายก็ถูกหงไห่จับตัวได้ และถูกกดร่างลงกับพื้นแน่นหงไห่หยิบมีดเล่มใหญ่ออกมา ซึ่งยังคงมีคราบเลือดแห้งกรังติดอยู่“ให้ข้าดูหน่อย จะตัดมือข้างไหนก่อนดี?”หงไห่พูดพลางจับข้อมือของนางกดลงพื้นใบมีดคมกริบวางลงบนข้อมือของนางและเคลื่อนไหวไปมาดูว่าจะกรีดตรงไหนดี“ข้างนี้แหละ”เมื่อเห็นว่าหงไห่จะลงมือแล้ว ลั่วชิงยวนก็ร้อนใจ พยายามดิ้นรนแต่ก็ดิ้นมิหลุดจนกระทั่งเงยหน้าขึ้นมองโฉวสือชีเดินผ่านมา ในที่สุดเขาก็ปิดตำราตำราที่คุ้นเคยเล่มนั้นทำให้ลั่วชิงยวนตกใจอาคมนักบวชหญิง!ในขณะที่หงไห่กำลังจะฟันลงมา ลั่วชิงยวนก็ตะโกนด้วยความร้อนใจ—“ข้าแก้ยันต์ผนึกวิญญาณได้!”โฉวสือชีตกใจ รีบหันกลับมาตะโกน “หยุด!”หงไห่ก็หยุดมือทันทีเขาปักมีดลงพื้นแล้วถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา “เจ้าแก้ยันต์ผนึกวิญญาณได้รึ?”“เจ้าเป็นแค่นักบวชหญิงที่เพิ่งมา เจ้าจะแก้ได้อย่างไร”“พวกข้าจับนักบวชหญิงมามากมาย ไม่มีใครแก้ได้สักคน”“หากเจ้ากล้าหลอกลวงพวกข้า ข้าจะหั่นเจ้าเป็นชิ้น ๆ!”ลั่วชิงยวนรีบกล่าว “ข้าทำได

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1250

    ผู้ชายหลายคนจับภรรยาและน้องสาวของตู้เฟิงเฉินไป แล้วลากเข้าไปในห้องเสียงร้องโหยหวนดังระงมตู้เฟิงเฉินร้อนใจ อยากจะช่วยพวกนาง แต่ก็ทำอะไรมิได้“พวกสัตว์เดรัจฉาน!” ตู้เฟิงเฉินพยายามวิ่งเข้าไป แต่กลับถูกฟาดลงไปนอนกับพื้น เขายังลุกขึ้นวิ่งเข้าไปขัดขวางอีกครั้ง“พวกเราสำนึกผิดแล้ว เหตุใดจึงทำกับพวกเราเช่นนี้!” หญิงสาวร้องไห้ดิ้นรน แต่ก็ถูกตบหน้ามิหยุดชายที่ตบนางกล่าวว่า “ทาสก็คือทาส! นี่คือประโยชน์ของพวกเจ้า!”“พวกเจ้าไม่มีสิทธิ์ขัดขืน ยอมรับอย่างสงบก็พอ!”พูดจบ ก็ลากหญิงสาวเข้าไปในห้องแล้วปิดประตูมีเสียงดิ้นรนและกรีดร้องดังมาจากในห้องตู้เฟิงเฉินทรุดตัวร้องเอ่ยนามภรรยาและน้องสาวด้วยความสิ้นหวัง ก่อนจะใช้แรงทั้งหมดที่มีพุ่งชนประตูแต่กลับถูกชายหลายคนจับกดลงพื้นในตอนนั้น ลั่วชิงยวนราวกับสัมผัสได้ถึงความเจ็บปวดของเขาลั่วชิงยวนน้ำตาคลอตู้เฟิงเฉินมิยอมแพ้ พยายามดิ้นรนเข้าไปช่วย แต่กลับถูกรุมซ้อมจนหัวแตก นอนคว่ำอยู่หน้าประตูอย่างอ่อนแรงได้แต่มองประตูที่ถูกเปิดออก มีคนออกมา แล้วมีคนใหม่เข้าไปอีกเมื่อเห็นคนที่เขารักถูกทรมาน เขาก็เกลียดชังจนอยากจะทำลายใต้หล้าที่มิยุติธรรมผืนนี

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1249

    นางยัดเศษผ้าจากชุดที่ถูกกระชากจนขาดเข้าไปในปากของตู้เฟิงเฉินแล้วหยิบผ้าคลุมสีดำขึ้นมาคลุมร่างปกปิดอาภรณ์ที่ขาดวิ่นนางก้มลง แววตามิหวาดกลัวเหมือนก่อนหน้านี้แล้วจ้องมองตู้เฟิงเฉินอย่างเย็นชา“ข่มขืนหญิงสาวยี่สิบสามคน คนชั่วช้าเช่นเจ้า แม้แต่จะปราบเจ้า ข้ายังรังเกียจ”เมื่อตู้เฟิงเฉินรู้ตัวว่าถูกหลอกก็โกรธจัด จ้องมองนางด้วยดวงตาแดงก่ำ พยายามดิ้นรนสุดกำลังแต่ก็ดิ้นมิหลุดลั่วชิงยวนหยิบมีดมากรีดเสื้อของเขา แล้วฉีกออกอย่างแรงแน่นอนที่ไหล่ของเขาก็มียันต์ผนึกวิญญาณเช่นเดียวกันเหตุใดพวกเขาจึงมีเหมือนกันหมดนางรู้แค่ว่าแคว้นหลีมีสถานที่แห่งหนึ่งที่ใช้คุมขังนักโทษโดยเฉพาะมีคนชั่วร้ายที่ก่ออาชญากรรมหรือคนที่ทรยศแคว้นหลี พวกเขาจะมิตาย แต่จะถูกขังไว้ที่นั่นแต่คนชั่วร้ายทั้งสิบคนนี้ พวกเขาหนีออกมาจากที่นั่นได้หรือ?พวกเขามีชื่อเสียงโด่งดัง เดินทางไปทั่วแคว้นหลีมานานแล้วตามปกติควรจะปราบพวกเขาที่นี่ แล้วค่อยส่งไปขังเมื่อตั้งสติได้ ลั่วชิงยวนก็เอื้อมมือไปกระชากหน้ากากของตู้เฟิงเฉินออกลอกออกทีละชั้น ในที่สุดก็เผยใบหน้าที่แท้จริงใบหน้าที่ดูเด็ดเดี่ยวมิได้น่าเกลียดเหมือนที่ลั่ว

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1248

    ลมพัดกระโชกแรงความสงบในยามราตรีราวกับถูกกำจัดไปอย่างรุนแรง พลังที่แปลกประหลาดบุกรุกเข้ามาเมื่อความรู้สึกมิสงบบันดาลขึ้น ลั่วชิงยวนก็ตื่นขึ้นทันทีแต่ก็สายไปแล้ว มีเสียงหัวเราะของบุรุษดังมาจากในความมืด ในวินาทีต่อมาไหล่ของลั่วชิงยวนก็ถูกจับ แล้วลากออกไปจากห้องลั่วชิงยวนถูกโยนลงพื้นอย่างแรง รู้สึกเจ็บปวดไปทั่วทั้งร่างมีคนก่อไฟไว้ในลาน คนชั่วร้ายทั้งเก้าคนกำลังนั่งเล่นอยู่ในลานนอกจากชายคนหนึ่งที่กำลังอ่านหนังสือ คนอื่น ๆ ต่างจ้องมองลั่วชิงยวนตู้เฟิงเฉินนั่งยอง ๆ จิกผมของลั่วชิงยวนเพื่อให้นางแหงนหน้าขึ้น“โอ้โห ครั้งนี้ส่งสาวงามที่อ่อนแอมาให้พวกเรา จุ๊ จุ๊...”ตู้เฟิงเฉินมีใบหน้าที่ค่อนข้างดูดี แต่แววตาบ่งบอกถึงความเจ้าชู้โดยเฉพาะดวงตาคู่นั้นที่มองลั่วชิงยวนราวกับจะกลืนกิน ช่างน่าขนลุก“คิดหรือว่าครั้งนี้ข้าจะยอมพวกเจ้า ใครจะมาก่อน?” ตู้เฟิงเฉินถามอย่างใจร้อนคนอื่น ๆ มิพูด ตู้เฟิงเฉินหัวเราะเบา ๆ “เรื่องดี ๆ เช่นนี้ยังมิกระตือรือร้นกันอีกรึ? เช่นนั้นข้าก็มิเกรงใจแล้ว”กล่าวจบก็ใช้นิ้วเชยคางของลั่วชิงยวน “เช่นนั้นข้าจะเป็นคนแรกที่ได้สนุกเอง”จากนั้นคว้าคอเสื้อของลั่วชิ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1247

    นางเคยได้ยินชื่อเสียงของคนชั่วร้ายทั้งสิบคนนี้ แต่มินึกเลยว่าพวกเขาจะจับคนชั่วร้ายทั้งสิบคนมาจริง ๆ นี่มิใช่เรื่องง่ายและแต่ละคนก็มิใช่ว่าจะรับมือได้ง่าย ๆ ลั่วชิงยวนต้องอยู่ในนี้เป็นเวลาเจ็ดวันภายในเจ็ดวันต้องปราบพวกเขาให้ได้ และต้องรับประกันว่าตัวเองจะมิตายในมือด้วยน้ำมือของพวกเขานักโทษไม่มีสิทธิ์ดื่มน้ำศักดิ์สิทธิ์ ดังนั้นตอนนี้โอสถจตุรธาตุในร่างของลั่วชิงยวนจึงใช้มิได้ผลนางค่อย ๆ เดินไปข้างหน้า ที่ลานชั้นในเงียบสงัด สายลมหนาวพัดผ้าคลุมตัวใหญ่ของนางจนเกิดเสียงผ้าสะบัดไปมาเมื่อมาถึงห้องที่มีคนตาย ในจังหวะที่ผลักประตูเข้าไปก็มีความเย็นยะเยือกพัดเข้ามาปะทะใบหน้าศพนอนอยู่บนพื้นแขนขาถูกแยกออกจากร่าง เลือดไหลนองเต็มพื้นลั่วชิงยวนเตรียมใจไว้แล้วจึงมิตกใจ แต่ก็ยังดีกว่าภาพที่นางจินตนาการไว้มากนางเข้าไปตรวจสอบศพ ดูเหมือนว่าจะตายมิเกินหนึ่งวันบาดแผลร้ายแรงอยู่ตรงกลางระหว่างหน้าอกและท้อง แสดงว่าถูกแทงจากด้านหน้า แผลเรียบเพราะคมมีด ส่วนแขนขาน่าจะถูกตัดหลังจากตายแล้วลั่วชิงยวนตรวจสอบแล้วพบว่าไม่มีร่องรอยการต่อสู้บนศพเหมือนกับยืนอยู่เฉย ๆ แล้วถูกฆ่า ไม่มีแม้แต่รอยฟกช้ำ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1246

    “ข้ารู้มากกว่าเฉินชีเยอะ”ฉินอี้ใจกระตุก สตรีผู้นี้ดูอ่อนแอ แต่กลับพูดจาโอหัง“ข้าเห็นใต้ตาขององค์ชายเป็นสีเขียวคล้ำ แก้มก็ตอบ คงจะกำลังกังวลเรื่องฝึกฝนวรยุทธ์กระมัง” ลั่วชิงยวนกล่าวด้วยรอยยิ้มน้ำเสียงใส ๆ นั้นกลับทำให้ทุกคนตกใจฉินอี้รู้สึกเสียหน้า กล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา “แค่ติดขัดเท่านั้น!”ลั่วชิงยวนหัวเราะเบา ๆ “ทุกคนย่อมพบเจออุปสรรค แต่คนที่เจออุปสรรคห้าปีนั้นหาได้ยาก”คำพูดที่เชื่องช้านั้นทิ่มแทงจุดอ่อนของฉินอี้พูดต่อหน้าคนมากมายเช่นนี้ ฉินอี้โกรธมาก“หุบปาก!”ในใจของฉินอี้ก็ตกใจ เหตุใดสตรีผู้นี้จึงรู้เรื่องนี้ แม้แต่เฉินชียังมิรู้เลยเฉินชีได้ยินดังนั้นก็ประหลาดใจ แล้วหัวเราะเยาะ “ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า... ห้าปีเลยรึ? องค์ชายช่างสมกับคำว่าไร้ความสามารถเสียจริง!”ฉินอี้หน้าแดงก่ำด้วยความโกรธและอับอาย เขามองเฉินชีด้วยความโมโหเฉินชียกยิ้มท้าทาย “องค์ชาย คนที่ข้าพามามิใช่คนไร้ค่า ความสามารถของนางเหนือกว่านักบวชหญิงทุกคนในแคว้นหลี!”คำพูดที่โอหังเช่นนี้ มีเพียงเฉินชีเท่านั้นที่พูดได้แต่คำพูดนี้กลับสร้างศัตรูให้ลั่วชิงยวนมากมายฉินอี้หัวเราะอย่างเย็นชา แล้วกล่าวว่า “เฉินช

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status