Share

บทที่ 406

Author: หว่านชิงอิ๋น
ลั่วชิงยวนตะลึงเล็กน้อย รีบสั่งคนเปิดประตูห้องเพื่อยกฟู่อวิ๋นโจวออกมา

เมื่อลั่วชิงยวนสัมผัสโดนข้อมือฟู่อวิ่นโจว เพิ่งพบว่าร่างเขาเยือกเย็นดุจน้ำแข็ง

ภายในห้องอบอุ่นมาก นางป้อนแกงโสมให้เขา ร่างของฟู่อวิ๋นโจวจึงอบอุ่นขึ้นมาหน่อย

ลั่วชิงยวนจับชีพจรให้เขาเพื่อตรวจหาสาเหตุการบาดเจ็บ

มือของฟู่อวิ๋นโจวถูกห่อไว้ และเห็นได้อย่างชัดเจนว่านิ้วก้อยของเขาหายไป

ฟู่อวิ๋นโจวตื่นมาอย่างสะลึมสะลือ เขายันร่างลุกขึ้นนั่ง “ชิงยวน ข้าสร้างปัญหาให้เจ้าหรือ”

ลั้วชิงยวนยกชาร้อนมาให้เขา “ท่านบาดเจ็บ ควรนอนพักผ่อนบนเตียง เหตุใดต้องมาหาหม่อมฉันด้วย”

ฟู่อวิ๋นโจวมองนางอย่างเป็นกังวล ลังเลพักหนึ่งจึงเอ่ยปากอย่างหนักอึ้ง “ชิงยวน เจ้าอุตส่าห์ออกมาได้ ข้ามิอยากต้องเห็นเจ้าจมปลักในบ่อโคลนอีก”

ฟู่อวิ๋นโจวพูดไป สายตามองไปทางนอกประตูอย่างลึกซึ้ง พร้อมเอ่ยพรึมพรำ “ข้าเห็นเจ้าเป็นสหายร่วมป่วยมาโดยตลอด เมื่อข้าเศร้าโศกเสียใจ มีเพียงเจ้าที่ปลอบข้า”

“นับแต่ข้ากำเนิด ชะตาข้าก็มิใช่ของข้าอีกต่อไป ข้าเป็นเพียงหุ่นเชิด เป็นเพียงเครื่องมือ”

“แต่เจ้ามิเหมือนข้า เจ้าอิสระกว่าข้านัก ข้าหวังว่าเจ้าจักปล่อยวางทุกอย่างและเดินออ
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 407

    เสียงฝีเท้าอันหนักแน่น เหยียบลงบนใจคนทีละก้าวหวังว่าฟู่อวิ๋นโจวจักคิดได้มิเช่นนั้นร่างกายของเขา คงต้องทลายลงจริง ๆ ร่างกายเขาไม่มีปัญหามากนัก ที่เป็นปัญหาคือจิตใจหลังจากฟู่อวิ๋นโจวจากไป ก็ไม่มีคนมารบกวนลั่วชิงยวนหลายวันฟู่เฉินหวนเองก็มิได้มาอีก ส่วนลั่วชิงยวนก็มิออกจากเรือน รักษาอาการอย่างสบายใจอยู่หลายวันวันเกิดของลั่วไห่ผิงใกล้มาถึงแล้ว ผู้คนมิน้อยในเมืองหลวงเริ่มจัดเตรียมของกำนัลดังนั้นของของลั่วชิงยวนในหอมหาสมบัติก็เริ่มทยอยขายออกไปบ้างแล้วข่าวสารเหล่านี้จือเฉาออกไปสืบมาให้นางทุกอย่างในร้านโอสถก็เป็นไปได้ดี เพียงแต่ซ่งเชียนฉู่ต้องรับมือกับผู้คนที่จะมาดูดวงจำนวนไม่น้อย ซึ่งปวดหัวไปนิดได้ยินว่า ฟู่เฉินหวนไปที่ร้านหลายครั้ง แต่ทุกครั้งเขาได้แต่จากไปเหตุเพราะมิเจอผู้ใดเลย แต่เขามิได้สงสัยสิ่งใดทั้งนั้นอากาศเริ่มอบอุ่นขึ้นลั่วชิงยวนแกะฝ้ายส่วนหนึ่งออกมาจากในเสื้อจือเฉาแต่งตัวให้นางไปด้วย พร้อมถามไถ่อย่างเป็นห่วง “พระชายา แกะฝ้ายตั้งแต่อากาศเช่นนี้ เมื่อถึงคิมหันต์ฤดู(1)จักทำเช่นไรเจ้าคะ?”“ใส่หนาขนาดนั้นมิได้ มิเช่นนั้นคงร้อนจนเป็นโรคแน่”ลั่วชิงยวนถอนหายใจพร

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 408

    โสมร้อยปี หากนางทายไม่ผิด เป็นยาในมือของซ่งเชียนฉู่!ก่อนหน้านี้นางบาดเจ็บ ซ่งเชียนฉู่มารักษานางถึงตำหนัก นางนำเครื่องยาสมุนไพรหายากมากหลายมาอย่างใจกว้าง และมอบยาให้กับฟู่เฉินหวนส่วนหนึ่งด้วยในนั้น มีโสมร้อยปีอยู่ด้วย!แต่ฟู่เฉินหวน กลับนำโอสถที่มีค่ามากมายเช่นนี้ มอบให้ลั่วไห่ผิง!ลั่วไห่ผิงมันคู่ควรอย่างไรกัน!ลั่วชิงยวนหันไปมองฟู่เฉินหวนอย่างตกตะลึง ในสายตานางมีแต่การเค้นถามแต่ฟู่เฉินหวนกลับไม่มีการอธิบายใด ๆ พวกเขาต่างรู้ดี การให้ภาพอายุหมื่นปีเพื่อแสดงความกตัญญูนั้น เสแสร้งเพียงไหน!หลังงานเลี้ยงผ่านไป นางหาโอกาสลากฟู่เฉินหวนเข้าไปในสวนดอกไม้ที่ไร้ผู้คน“ท่านอ๋อง ท่านหมายความเยี่ยงไร? ท่านมอบของกำนัลเองมิพอ ท่านเตรียมให้หม่อมฉันด้วยงั้นหรือ? หม่อมฉันต้องขอบคุณความใส่ใจของท่านหรือไม่?”สายตาของฟู่เฉินหวนซับซ้อนขึ้น สองมือไคว้ไว้ด้านหลัง “บ่าวเป็นผู้เตรียม”ลั่วชิงยวนหลุดหัวเราะเบาอย่างไม่น่าเชื่อ “บ่าวเตรียมหรือ? โสมร้อยปีก็บ่าวเตรียมหรือ? หากหม่อมฉันจำมิผิด นั่นเป็นเครื่องยาสมุนไพรที่แม่นางซ่งให้หม่อมฉันไว้รักษาบาดแผล!”สายตาของฟู่เฉินหวนเยือกเย็นลง “นี่เป็นสิ่งที่ข

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 409

    ฟู่เฉินหวนตั้งใจสั่งคนเตรียมของกำนัลให้ลั่วชิงยวนโดยเฉพาะ เพราะเขารู้ว่านางเกลียดลั่วไห่ผิง นางไม่มีทางเลือกของกำนัลแน่เขาให้คนเตรียมเผื่อ เพราะอยากรับมือให้ผ่าน ๆ ไป มิคิดว่านางจะเป็นการตอบสนองเช่นนี้ กลับกลายเป็นเขาที่ตัดสินใจโดยคิดไปเอง!“ลั่วชิงยวน! ข้าเตือนเจ้าเป็นครั้งสุดท้าย! อย่าได้มีความคิดเหลวไหล! เจ้าอยากตายย่อมได้ แต่อย่ากระทบถึงตำหนักอ๋อง!”โทสะฟู่เฉินหวนปะทุ จึงเอ่ยพูดคำรุนแรงอย่างควบคุมไม่ได้ขณะนี้เอง ร่างตรงทางแยก ในที่สุดก็เดินออกมาจับฟู่เฉินหวนที่กำลังโมโหไว้ และพูดปลอบเสียงเล็ก “ท่านอ๋อง ไม่ทรงกริ้วหนาเพคะ วันนี้มีแขกมากหลายเช่นนี้ หากมีผู้ประสงค์ร้ายได้ยินเข้า เกรงว่าจะซุบซิบนินทาเรื่องของท่านและท่านพี่อีกนะเพคะ”ลั่วเยวี่ยอิงท่าทีเข้าใจหัวอกผู้อื่น ทำลั่วชิงยวนที่อยู่อีกด้านดูไม่มีเหตุผลขึ้นมาฟู่เฉินหวนเห็นลั่วเยวี่ยอิง น้ำเสียงผ่อนลงในทันที “มิเป็นไร”ลั่วเยวี่ยอิงพยักหน้า นางกวาดตาลง เอ่ยพูดอย่างเป็นห่วงด้วยเสียงแผ่วเบา “ช่วงนี้หม่อมฉันมิได้ไปที่ตำหนัก มิรู้ว่าบาดแผลของท่านอ๋องเป็นเยี่ยงไรบ้างเพคะ?”ฟู่เฉินหวนเอ่ยตอบ “มิเป็นไร แค่แผลเล็ก”ลั่วเยวี่ย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 410

    ลั่วชิวยวนเงยหน้า มองเขาด้วยสายตาเยือกเย็นทีหนึ่ง ลุกขึ้นลงจากรถม้าทันทีและเดินเข้าตำหนักโดยมิหันกลับมามองฟู่เฉินหวนตะลึง เขาขมวดคิ้วแน่น ในใจเอ่อล้นไปด้วยโทสะเขาคิดมาทั้งทาง เดิมทีอยากอธิบายกับนางผู้ใดจะรู้ว่านางจะมิใส่ใจสักกระผีก ก้าวขาลงจากรถม้าเดินเข้าตำหนักไปซูโหยวรีบขึ้นหน้า “ท่านอ๋อง เมื่อครู่มีคนส่งข่าวมา งานล่าสัตว์วสันตฤดูใกล้มาถึงแล้วพ่ะย่ะค่ะ จึงอยากเชิญท่านเข้าวังเพื่อปรึกษา”น้ำเสียงฟู่เฉินหวนรำคาญใจ “ไม่ไป”เขาเดินเข้าเรือนในก้าวใหญ่ และเอ่ยเสียงเย็น “ความคิดมิอยู่บนชาติแคว้น คิดแต่เรื่องเล่นทั้งวัน วันหนึ่งต้องเล่นจนตำแหน่งจักรพรรดิหายแน่!”ซูโหยวชะงักเล็กน้อย และมิกล้าเอ่ยตอบท่านอ๋องร่วมงานเลี้ยงที่จวนอัครมหาเสนาบดีแล้ว โมโหสิ่งใดมากัน?ไฉนราวกับทรงเสวยดินปืนมาเลยเล่า?……หลังจบงานเลี้ยงลั่วไห่ผิง แม้ลั่วชิงยวนและฟู่เฉินหวนจะอยู่ใต้ชายคาเดียวกัน แต่กลับมิได้เจอหน้ากันอีกประตูเรือนของนางมักปิดไว้ ทุกวันนอกจากจือเฉาและแม่นมเติ้งที่เข้าไปส่งข้าวให้นาง ไม่มีผู้ใดอื่นเข้าออกอีกส่วนลั่วชิงยวนนั้นได้กลับไปค้าขายในร้านแต่นานแล้วตอนดึก ๆ นางจึงแอบกลับตำห

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 411

    เหนือศีรษะนางกลับเป็นเสียงอุทานเจ็บปวด “เจ้าเหยียบข้าทำไม!”เฉินเสี้ยวหานเจ็บจวนแทบยกเท้าขึ้นมากอดซ่งเชียนฉู่ได้ยินเสียงนี้จึงเงยหน้ามองเขา วินาทีที่เห็นเฉินเสี้ยวหาน หัวใจที่ลนลานของนางจึงเริ่มรู้สึกวางใจขึ้น“ท่านเองหรือ? ท่านมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร?” ซ่งเชียนฉู่รู้สึกคล้ายไอมืดมนรอบด้านเริ่มซาลงเล็กน้อยแต่มิรู้ว่าเป็นเพียงความรู้สึกนางหรือไม่“ข้าเห็นเจ้าแต่ไกลแล้ว เรียกเจ้าเจ้าก็มิได้ยิน เห็นเจ้าเดินเข้ามาในตรอก จึงอ้อมมารอเจ้าที่นี่ แต่กลับได้ยินเสียงกรีดร้องของเจ้า ข้าก็คิดว่าเกิดเรื่องอันใดขึ้นเสียอีก”เฉินเสี้ยวหานพูดไปพร้อมเดินไป และเก็บผักผลไม้ที่ร่วงกระจายเต็มพื้นเข้าในตระกร้าทีละอย่างซ่งเชียนฉู่เดินตามหลังเขาอย่างกังวลใจ นางดึงชายเสื้อเขาไว้ “ไม่มีสิ่งใดจริงหรือ?”นางมิกล้าแม้แต่ลืมตามอง“จริง ๆ เจ้าตื่นกลัวเพราะสิ่งใดกัน? เหงื่อเจ้าท่วมหัวแล้วดูสิ!” เฉินเสี้ยวหายพูดไป พร้อมซับเหงื่อบนหน้าผากของนางซ่งเชียนฉู่ตกใจจนลืมตาขึ้น ระยะใกล้เช่นนี้ นางถอยหลังก้าวหนึ่งอย่างลนลาน“เจ้าเจออันตรายใดรึ?” เฉินเสี้ยวหานถามอย่างเป็นห่วง และสำรวจรอบด้าน แต่กลับมิพบความผิดปกติใด

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 412

    หางขนาดยักษ์เส้นหนึ่งขดอยู่บนพื้น และส่งเสียงเกล็ดขูดกับหินผู้ที่ได้ยินเย็นวาบที่สันหลังทุกสรรพสิ่งมืดมิดขึ้นมาทันควัน มีเพียงปลายทางที่ทอแสงลั่วชิงยวนค่อย ๆ ก้าวฝีเท้าหนักแน่นเดินไปด้านหน้า นางรู้ว่าตนได้ก้าวสู่เขตอาคมของมันแล้วนางมองไปทางงูยักษ์ภายในแสงเบื้องหน้าอย่างหวาดระแวงงูยักษ์นั้นอ้าปากกว้าง ขู่ฟ่อด้วยความพิโรธ เสียงที่แหบพร่าปนกับความโมโหดังขึ้น “ชายหนุ่มผู้นั้นคือผู้ใด?”“ชายหนุ่มข้างกายนางคือผู้ใด!”โทสะดั่งไฟโหม ไอเข่นฆ่าพุ่งแรงกล้าลั่วชิงยวนตะลึง นี่เขาถามสิ่งนี้ขึ้นก่อนหรือ?ดูท่ามันมิอยากสังหารซ่งเชียนฉู่แต่แล้วมันกลับรับรู้ถึงความคิดนาง เสียงหัวเราะอ่อนแอดังขึ้น “เจ้าสังหารข้า นางเองก็จักตาย”ร่างของลั่วชิงยวนสั่นคลอน“เจ้าว่ากระไรนะ?”เสียงของชายหนุ่มทุ้มต่ำกลับแฝงไปด้วยความแหบพร่า “ข้าและนางได้ผูกพันธะชีวิตเสียนานแล้ว หากเจ้ามิเชื่อ สามารถดูได้ว่าที่สะบักหลังของนางมีตราพันธะหรือไม่”“เพื่อสิ่งใดกัน”ลั่วชิงยวนได้ยินแล้วมีแต่ความตะลึง คิดย้อนไปถึงเรื่องที่เกิดขึ้นวันนั้น ที่ซ่งเชียนฉู่ถูกมันดึงลงกลางบ่อน้ำหลังจากนั้นนางไปช่วยซ่งเฉียนฉู่กลับมาได

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 413

    ลั่วชิงยวนพยักหน้า “ดึกเพียงนี้แล้ว กลับห้องพักผ่อนเถิด”“รัฐทายาทเฉิน ท่านเองก็ไปพักผ่อนเถิด ข้าขอคุยกับเชียนฉู่หน่อย”เฉินเสี้ยวหานมิได้ถามมาก และกลับห้องไปก่อนลั่วชิงยวนพาซ่งเชียนฉู่เข้าห้อง ซ่งเชียนฉู่จับแขนเสื้อของนางไว้อย่างเป็นกังวล “มันใช่หรือไม่? มันมาแล้วใช่หรือไม่?”ลั่วชิงยวนพยักหน้าด้วยสีหน้าหนักอึ้งในใจซ่งเชียนฉู่เคร่งเครียดยิ่งขึ้น นางนั่งลงบนเตียงด้วยแววตามืดหม่น และสีหน้าเจ็บปวด “เหตุใด ไฉนมันยังมิปล่อยข้าไปอีก?”“ต้องให้ข้าตายก่อนหรือจึงจะปล่อยข้าไป…”หลังออกจากจวนนอกเมือง ซ่งเชียนฉู่จึงเริ่มชีวิตใหม่ นางมิคิดว่า สิ่งนี้จะมาพัวพันนางอีก และเกี่ยวความผวาส่วนลึกในใจของนางออกมาลั่วชิงยวนพูดอธิบาย “เขามิได้มาสังหารเจ้า”“เชียนฉู่ ข้าขอดูสะบักหลังเจ้าหน่อย”ซ่งเชียนฉู่ตะลึงเล็กน้อย “ไฉนต้องมาดูสะบักหลังข้า?”นางรู้สึกมิเข้าใจ แต่ก็ยังเปลื้องอาภรณ์ออกลั่วชิงยวนดึงเสื้อที่หลังคอของนางลง ตราประทับอสรพิษสีแดงตกสู่นัยน์ตาชิงยวน!“เหตุใดรึ? บนไหล่ข้ามีอะไรงั้นหรือ?” ซ่งเชียนฉู่หันหัวพยายามมอง แต่อย่างไรก็มองมิเห็น“รอยประทับ นี่เป็นของที่เขาทิ้งไว้บนตัวเจ้า” น้

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 414

    ลั่วไห่ผิง!สิ่งที่นางคาดเดา มาเร็วกว่าที่คิดลั่วไห่ผิงสวมใส่อาภรณ์แพรสีหมึก มิทำตัวเป็นจุดสนใจ แต่ก็ปกปิดกลิ่นอายน่าเกรงขามของผู้อยู่ตำแหน่งสูงมิได้แต่นิดหว่างคิ้วของเขาเต็มไปด้วยความอ่อนแอ ใต้ตาดำคล้ำ สีหน้าราวกับคนป่วยลั่วชิงยวนเห็นไอป่วยที่หว่างคิ้วของเขา แม้จะยังมิปรากฏอย่างแจ่มแจ้ง แต่น่าจะใกล้แล้ว“เจ้าน่ะหรืเซียนฉู่?” ลั่งไห่ผิงเดินขึ้นหน้าและนั่งลง“ขอรับ” ลั่วชิงยวนเอ่ยตอบ“เหตุใดมิเผยโฉมจริงให้ผู้อื่นเห็นเล่า?” สายตาลั่วไห่ผิงประเมินนางอย่างน่าเกรงขามลั่วชิงยวนเอ่ยตอบเบา ๆ “เคยประสบเหตุอัคคี โฉมหน้าอัปลักษณ์ กลัวจะทำผู้อื่นตกใจ”ลั่วไห่ผิงพยักหน้า จากนั้นจึงเอ่ย “ใต้เท้าหวังเป็นผู้แนะนำเจ้าให้กับข้า เขาบอกว่าเจ้าทำนายแม่นนัก ข้าจึงมาเพื่อพิสูจน์โดยเฉพาะ”เพื่อให้ข่าวนี้ส่งถึงหูลั่วไห่ผิง นางมิได้หาเพียงใต้เท้าหวังผู้เดียวเพราะช่วงนี้นางเองก็รู้จักคนในราชสำนักมามิน้อย ย่อมต้องใช้เส้นสายของนางให้เต็มที่“เช่นนั้นความเครียดของท่าน คือช่วงนี้ดวงซวยค่อนข้างหนัก มิว่าเรื่องใด ๆ ก็มิราบรื่นใช่หรือไม่?”ลั่วชิงยวนเอ่ยถามได้ยินดังนี้ดวงตาของลั่วไห่ผิงลุกวาว “เจ้าพ

Latest chapter

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1213

    สายลมหนาวพัดผ่านมา ปอยผมของลั่วชิงยวนปลิวไสวตัดกับผ้าคลุมสีขาว ทำให้ร่างบางของนางดูราวกับจะปลิวหายไปกับสายลมในตอนนั้นก็มีขบวนคนเดินมาเมื่อเห็นบุคคลที่อยู่ข้างหน้าในชั่วขณะที่สบตากันก็เกิดอารมณ์ที่ซับซ้อนเมื่อเฉินชีเห็นฟู่เฉินหวน เขายกยิ้มอย่างเย็นชา โอบนางไว้แน่นขึ้นลั่วชิงยวนไร้เรี่ยวแรงจะขัดขืน“เฉินชี! เจ้ายังกล้ามาอีกรึ!” ฟู่เฉินหวนมีสีหน้าบึ้งตึง โทสะปะทุในใจองครักษ์รีบเข้ามาล้อมเฉินชีและลั่วชิงยวนไว้เฉินชีจำใจปล่อยลั่วชิงยวนแล้วกล่าวด้วยรอยยิ้ม “อาเหลา ข้าจะรอเจ้า”กล่าวจบ เขาก็ใช้วิชาตัวเบากระโดดหนีไปองครักษ์รีบไล่ตามส่วนลั่วชิงยวนยืนนิ่งอยู่กับที่ มองฟู่เฉินหวนที่ค่อย ๆ เดินเข้ามาหาฟู่เฉินหวนมีสีหน้าบึ้งตึง แววตาซับซ้อนนั้นแฝงไปด้วยความโกรธ“บทเรียนเมื่อวานคงยังมิเพียงพอ เจ้ายังกล้าแอบออกจากตำหนักมาพบเฉินชีอีกรึ?!”ลั่วชิงยวนไร้เรี่ยวแรงจะอธิบาย ได้แต่ยิ้มอย่างเศร้าสร้อย “หากท่านคิดเช่นนั้น หม่อมฉันก็มิมีทางเลือก”“เหตุใดหม่อมฉันจึงมาอยู่ที่นี่ ในใจของท่านน่าจะรู้ดีกว่าหม่อมฉัน”เมื่อคืนฟู่เฉินหวนมิสามารถเค้นวิธีใช้เข็มทิศอาณัติสวรรค์จากนางได้ จึงส่งนา

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1212

    ทั้งสองหันไปมองจึงเห็นเฉินชีที่แผ่รังสีอำมหิตเดินเข้ามาอย่างเชื่องช้าเฉินชีมองลั่วฉิงด้วยสายตาเย็นชา “เจ้ากำลังทำอะไร?”ลั่วฉิงถอยหลังด้วยความตื่นตระหนก “ข้าสิต้องถามเจ้า เหตุใดจึงส่งกองทัพมากะทันหัน? นี่มิได้อยู่ในแผนของเรา และเจ้าก็มิได้บอกข้าล่วงหน้า”เฉินชีหรี่ตาลง “ข้าจะทำอะไรต้องรายงานเจ้าด้วยรึ? เจ้าเป็นใคร? กล้าดีอย่างไรมาขัดขวางข้า?”ลั่วฉิงรู้สึกตื่นตระหนกเล็กน้อย นางรีบคว้าเข็มทิศอาณัติสวรรค์มาถือไว้ เพราะกลัวว่าของล้ำค่าที่ได้มาจะหายไป“เฉินชี! ข้าแค่ต้องการสิ่งที่เราตกลงกันไว้ตั้งแต่แรก!”เฉินชีมองลั่วชิงยวน ใบหน้าเต็มไปด้วยความโหดเหี้ยม ก่อนจะพุ่งเข้าไปบีบคอของลั่วฉิงแล้วต่อยเข้าที่หน้าอกของลั่วฉิงลั่วฉิงกระอักเลือด ร่างกระเด็นออกไปนอกหน้าต่างลั่วชิงยวนได้ยินเสียงร่างตกกระทบพื้นจากที่สูง จึงรู้ว่าที่นี่คือชั้นสองน่าจะเป็นโรงเตี๊ยมเฉินชีเดินไปที่หน้าต่าง มองลงไป เห็นเพียงร่างของลั่วฉิงวิ่งหนีหัวซุกหัวซุนหายไปในฝูงชนเดิมทีเฉินชีอยากจะตามไป แต่ลังเลอยู่ครู่หนึ่งก็มิได้ตามไปหากลั่วฉิงตาย ลั่วชิงยวนก็จะไม่มีภัยคุกคาม นางอาจจะมิยอมไปแคว้นหลีกับเขาเช่นนั

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1211

    นางเอ่ยปากอย่างอ่อนแรง “ได้”ลั่วฉิงพยุงนางขึ้น แล้วโยนนางลงบนเก้าอี้ลั่วชิงยวนไร้เรี่ยวแรงจะพูด “ข้าต้องการสมุนไพร”มือทั้งสองข้างของนางวางอยู่บนที่วางแขน แท่งเหล็กยังคงปักอยู่ เลือดไหลอาบมิหยุด ขยับร่างกายมิได้เลยลั่วฉิงมองนางอย่างเย็นชา ก่อนจะกดมือของนางไว้แล้วดึงแท่งเหล็กออกอย่างรวดเร็ว“กรี๊ด”ลั่วชิงยวนร้องลั่นด้วยความเจ็บปวดลั่วฉิงโน้มตัวลงมองนางด้วยสายตาเย็นชา “ก่อนหน้านี้เจ้ามิเคยกลัวความเจ็บปวดเช่นนี้ ลั่วเหลา”ลั่วชิงยวนตัวสั่น มองนางด้วยความตกใจ“นี่ก็เป็นสิ่งที่ฟู่เฉินหวนบอกเจ้าเช่นนั้นหรือ?” ลั่วชิงยวนรู้สึกทั้งโกรธและสิ้นหวังในใจลั่วฉิงนำยามาทำแผลให้พลางหัวเราะอย่างดูถูก “มินึกเลยว่านักบวชระดับสูงลั่วเหลาผู้มีพรสวรรค์มาตั้งแต่เด็ก ถูกอาจารย์เอ็นดูทะนุถนอมมาโดยตลอด สุดท้ายกลับพ่ายแพ้ให้กับบุรุษ”ในน้ำเสียงของลั่วฉิงแฝงไปด้วยความอิจฉาริษยาลั่วชิงยวนมองนางด้วยแววตาเย็นชา “ข้ากับเจ้ามิเคยมีเรื่องบาดหมางกันมิใช่หรือ”แววตาของลั่วฉิงเต็มไปด้วยความเกลียดชัง มองนางอย่างเย็นชา “ในสายตาของเจ้า อาจจะไม่มีเรื่องบาดหมาง”“แต่สำหรับข้า เรื่องบาดหมางนั้นใหญ่หลวงนัก

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1210

    “กรี๊ด” ลั่วชิงยวนกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด ได้แต่ขดตัวอยู่บนพื้น ตัวสั่นเทาด้วยความเจ็บปวดรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่า แท่งเหล็กถูกแทงลึกลงไปอีก ความรู้สึกที่กระดูกถูกแยกออกจากกันนั้นทำให้เจ็บปวดจนอยากตาย“ดี ยังมิยอมบอกอีกใช่หรือไม่”ลั่วฉิงหยิบแท่งเหล็กอีกอันแทงเข้าไปในมืออีกข้างของลั่วชิงยวนอย่างแรงตลอดทั้งคืน ลั่วชิงยวนถูกทรมานจนเหมือนตายแล้วเกิดขึ้นใหม่ หลายครั้งที่สลบไปเพราะความเจ็บปวด แล้วก็ถูกปลุกให้ตื่นขึ้นมาด้วยความเจ็บปวดจนในที่สุด คอของนางก็แหบแห้งจนส่งเสียงร้องมิได้ด้วยซ้ำฟ้าสางแล้ว แสงแดดสาดส่องเข้ามา ลั่วชิงยวนนอนแน่นิ่งอยู่บนพื้นราวกับแอ่งโคลนเปียก มิขยับเขยื้อนเลยแม้แต่น้อยเลือดเปรอะเปื้อนอาภรณ์ของนางจนเป็นสีแดงฉาน แสงแดดส่องกระทบกองเลือดจนเป็นประกาย......ตำหนักอ๋องมีเสียงคำรามด้วยความโกรธดังมาจากห้องตำรา“ยังไม่มีใครมารายงานข้าสักคน! รีบไปหา! ออกไปหาให้หมด!”ฟู่เฉินหวนโกรธจัด มึนหัวจนต้องเอามือยันโต๊ะไว้ถึงแม้จะนั่งลงเพื่อจัดการเรื่องต่าง ๆ แต่ก็ยังมิสามารถสงบสติอารมณ์ได้ ร้อนรุ่มใจยิ่งนักได้แต่หวังว่านางจะออกจากตำหนักไปเองจือเฉายังคงอยู่ที่หน้าประ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1209

    ในชั่วขณะนั้น นางเกือบจะคิดว่าตัวเองกำลังฝันไป เหตุใดนางจึงเห็นลั่วฉิงแต่คำพูดของลั่วฉิงในวินาทีต่อมา ทำให้นางรู้สึกราวกับตกอยู่ในหุบเหวลึก“แม้แต่ท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการก็ยังจัดการคนดื้อรั้นเช่นเจ้ามิได้ ต้องให้ข้ามาเองเลยหรือ”ร่างของลั่วชิงยวนสั่นเทามิหยุด หนาวเหน็บจนแทบจะไร้ความรู้สึกน้ำตาที่ไหลอาบใบหน้าซีดเซียวหยดลงบนพื้นทีละหยดลั่วชิงยวนมองไปรอบ ๆ แล้วพบว่าที่นี่คือห้องห้องหนึ่งแต่มิใช่ในตำหนักอ๋อง“เหตุใดข้าจึงมาอยู่ที่นี่” นางจำได้ว่าหลังจากที่จือเฉาทายาให้แล้วนางก็หลับไปลั่วฉิงหัวเราะเบา ๆ “แน่นอนว่าฟู่เฉินหวนส่งเจ้ามาให้ข้า”“เขาเค้นคำตอบจากเจ้ามิได้ จึงต้องให้ข้ามาจัดการเอง”ได้ยินดังนั้น หัวใจของลั่วชิงยวนก็แตกสลายเป็นเสี่ยง ๆ อีกครั้งเขายังคิดว่าตัวเองยังโหดร้ายมิพออีกหรือ จึงส่งนางให้ลั่วฉิงเช่นนี้นี่ต้องการทรมานนางจนตายจึงจะหายแค้นหรืออย่างไรลั่วฉิงหยิบกล่องใบหนึ่งมาเปิดออก ข้างในเต็มไปด้วยแท่งเหล็กขนาดเท่าหัวแม่มือแล้วกล่าวอย่างแผ่วเบา “เจ้าน่าจะรู้ว่าข้าต้องการอะไร”“หากตอนนี้เจ้าบอกวิธีใช้เข็มทิศอาณัติสวรรค์ ข้าจะไว้ชีวิตเจ้า”“หากพลาดโอกาสนี้

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1208

    ในวินาทีต่อมา องครักษ์ก็กรูกันเข้ามาลากลั่วชิงยวนออกไปที่ลานหลังจากกดนางลงกับพื้นก็ใช้หวายฟาดลงบนร่างของนางอย่างมิปรานีความเจ็บปวดแล่นริ้ว ลั่วชิงยวนจิกเล็บลงบนพื้นหิมะจนเป็นรอยลึกจือเฉากระโจนเข้ามาจากนอกลาน “หยุด! หยุด!”“ท่านอ๋อง เหตุใดจึงทำกับพระชายาเช่นนี้ พระชายาทำผิดอันใดหรือเพคะ!”“ท่านอ๋อง ขอได้โปรดปล่อยพระชายาเถิดเพคะ! ตั้งแต่เข้าเหมันตฤดู แผลบนร่างของพระชายาก็ยังมิหาย! หากโบยเช่นนี้ต่อไปคงจะสิ้นใจเป็นแน่เพคะ!”“ท่านอ๋องทรงพระกรุณาด้วยเพคะ!” จือเฉาโผเข้ากอดลั่วชิงยวนเพื่อรับหวายแทนแต่กลับถูกองครักษ์ดึงตัวออกไปจือเฉาร้องขอความเมตตาสุดเสียง แต่บุรุษที่ยืนอยู่ใต้ชายคากลับมีสีหน้าเรียบเฉย นัยน์ตาฉายแววเย็นชาไร้ซึ่งความอบอุ่น“พระชายา...” จือเฉาร้อนใจ แทบจะเป็นลมเพราะร้องไห้หนักลั่วชิงยวนเจ็บปวดจนแทบมิได้ยินเสียงของจือเฉา มีเพียงความเจ็บปวดมิรู้จบ ยาวนานราวกับไม่มีที่สิ้นสุดหลังจากที่ลั่วชิงยวนสลบไป ฟู่เฉินหวนจึงสั่งให้หยุดแล้วจากไปด้วยความโกรธจือเฉาโผเข้าหาลั่วชิงยวน เมื่อเอื้อมมือไปสัมผัสก็พบว่ามือเปื้อนไปด้วยเลือด นางรีบชักมือกลับมองเลือดที่ไหลนองเต็มพื

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1207

    ฟู่เฉินหวนกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา แววตาที่น่ารังเกียจนั้นทำให้หัวใจของลั่วชิงยวนเจ็บปวดราวกับถูกเข็มทิ่มแทงลั่วชิงยวนกัดฟันพลางกลั้นน้ำตาไว้ “ท่านมิได้บอกว่าจะเชื่อหม่อมฉันหรอกหรือเพคะ?”“หากหม่อมฉันบอกท่านทั้งหมด ท่านก็จะเชื่อหม่อมฉันมิใช่หรือเพคะ!”ฟู่เฉินหวนมีแววตาเย็นชา มองนางอย่างเฉยเมย “แต่เจ้าบอกข้าทั้งหมดแล้วหรือยังเล่า? เจ้ายังคงปิดบัง ยังคงหลอกลวง!”เสียงตำหนินั้นเต็มไปด้วยความโกรธทำให้หัวใจของลั่วชิงยวนแทบแตกสลาย“ฟู่เฉินหวน วันนี้ท่านมาก็เพื่อหลอกลวงหม่อมฉันอีกแล้วใช่หรือไม่”“จุดประสงค์สุดท้ายของท่านคือ หลอกล่อให้หม่อมฉันบอกวิธีใช้เข็มทิศอาณัติสวรรค์ เพราะลั่วฉิงใช้มันมิได้ ใช่หรือไม่!”ลั่วชิงยวนตะโกนด้วยความโกรธ“หม่อมฉันช่างโง่เขลาที่เชื่อใจท่าน บอกความลับทั้งหมดให้ท่านฟัง แต่ท่านก็หลอกลวงหม่อมฉันอีกครั้ง...”พูดไปน้ำตาของลั่วชิงยวนก็ไหลรินในเวลานี้ หัวใจของลั่วชิงยวนราวกับถูกควักออกมาผ่าเป็นสองซีกเจ็บปวดเจียนตายแต่ฟู่เฉินหวนกลับมิเปลี่ยนสีหน้า แววตายิ่งเย็นชาขึ้นเขาบีบคอของนางด้วยความโกรธ“ในเมื่อเจ้ารู้แล้ว ข้าก็ขี้เกียจเสแสร้งกับเจ้าแล้ว”“เข็มท

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1206

    ฟู่เฉินหวนตกใจมองนางด้วยความประหลาดใจก่อนจะตอบว่า “ได้”“หากเจ้าอธิบายได้ชัดเจน ข้ายินดีเชื่อเจ้าเป็นครั้งสุดท้าย”ได้ยินดังนั้นลั่วชิงยวนก็รู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อยรีบกล่าวทันที “หม่อมฉันชื่อลั่วเหลา แท้จริงแล้วลั่วอิงคืออาจารย์ของหม่อมฉัน หม่อมฉันตายไปแล้วมาเกิดใหม่ในร่างของลั่วชิงยวน”“วันรุ่งขึ้นหลังจากวันแต่งงาน ลั่วชิงยวนก็ปลิดชีพตัวเอง หลังจากนั้นร่างนี้ก็มิใช่ลั่วชิงยวนอีกต่อไป แต่เป็นหม่อมฉัน ลั่วเหลา”“หม่อมฉันเป็นชาวแคว้นหลี”“ดังนั้นความสามารถที่หม่อมฉันมีจึงเป็นสิ่งที่ลั่วชิงยวนไม่มี”“เรื่องน้ำศักดิ์สิทธิ์ของแคว้นหลี หม่อมฉันก็เพิ่งค้นพบตอนที่ไปเผ่านอกด่าน หลังจากที่อาจารย์ค้นพบความลับนี้ ก็พยายามค้นหาวิธีแก้ไขเรื่องน้ำศักดิ์สิทธิ์”“เพราะหากความลับนี้รั่วไหลออกไป จะมีคนมากมายเกิดความโลภ จะทำให้ทั้งใต้หล้าประสบพบความวุ่นวาย เลือดนองแผ่นดิน”“...”ลั่วชิงยวนเล่าความลับทั้งหมดของนางให้เขาฟังโดยมิปิดบังนางรู้สึกว่าคนที่เคยเปิดใจให้กันคงจะมิทรยศกันง่าย ๆตราบใดที่นางจริงใจ มิปิดบังสิ่งใด นางก็จะได้รับการตอบสนองเช่นเดียวกันหลังจากที่นางพูดจบ ฟู่เฉินหวนก็ตกตะลึ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1205

    เหตุใดแคว้นหลีจึงส่งกองทัพมากะทันหันฟู่อวิ๋นโจวเอ่ยถาม “ท่านมหาปราชญ์ ท่านเชี่ยวชาญด้านนี้ พอจะทำนายผลลัพธ์ได้หรือไม่?”“ควรจะรับมืออย่างไร”ขุนนางทั้งหลายต่างมองไปที่ลั่วฉิง ลั่วฉิงไม่มีทางเลือก จึงได้แต่กัดฟันกล่าวว่า “เรื่องนี้... ทำนายได้ แต่หม่อมฉันต้องการเวลาเพคะ”ฟู่อวิ๋นโจวมีสีหน้ากังวล และถามว่า “ท่านมหาปราชญ์ต้องการเวลานานเพียงใด?”ลั่วฉิงลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จึงกล่าวว่า “สามวันเพคะ!”สิ้นคำพูดของนาง หลายคนก็แสดงความมิพอใจ“สามวันหรือ? ซีหลิงอยู่ห่างจากเมืองหลวงราวพันลี้ สามวันกว่าจะบอกผลลัพธ์ จะทันการณ์ได้อย่างไร”“ก่อนหน้านี้พระชายาอ๋องผู้สำเร็จราชการก็มิได้ใช้เวลานานถึงเพียงนั้น”“ใช่ ท่านมหาปราชญ์คงจะมิค่อยมีความสามารถมากถึงเพียงนั้นกระมัง”คำพูดนี้ทำให้ลั่วฉิงหน้าซีดเผือด“สองวัน อย่างเร็วที่สุดก็ต้องสองวัน!” ลั่วฉิงกัดฟันกล่าวในตอนนี้ ฟู่เฉินหวนกล่าวอย่างใจเย็น “แคว้นหลีส่งกองทัพมาโดยมิทราบสาเหตุ ข้าคิดว่าตอนนี้ควรส่งคนไปเจรจากับแคว้นหลีโดยด่วน”“ระหว่างนั้นก็ส่งกองกำลังไปเสริมอย่างลับ ๆ ด้วย อย่าได้พึ่งพาแต่ผลการทำนายของท่านมหาปราชญ์”“หากผลลัพธ์ออกมาแล้ว

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status