Share

บทที่ 22

Author: หว่านชิงอิ๋น
ทุกคนตกตะลึง เมื่อเงยหน้ามองไป พวกเขาเห็นชายผู้หนึ่งในชุดผ้าทอก้าวเข้ามาอย่างมั่นคงช้า ๆ ด้วยลักษณะท่าทางที่ดุดัน

ฟู่เฉินหวนชำเลืองมองไปที่ลั่วชิงยวนที่เปื้อนเลือดอยู่บนพื้นพลางขมวดคิ้วแน่น เขาตกใจมากเมื่อได้ยินคำพูดที่หนักแน่นของนางเรื่องการตัดความสัมพันธ์ ในเมืองหลวงแห่งนี้จะมีผู้หญิงสักกี่คนที่กล้าตัดความสัมพันธ์กับครอบครัวของตนเช่นนี้?

หลายวันมานี้เขาสังเกตเห็นว่า ลั่วชิงยวนนั้นเปลี่ยนไป แต่เขาไม่เคยคิดเลยว่านางจะกล้าพูดเช่นนี้ น้ำเสียงที่หนักแน่น และจิตใจที่หยิ่งในศักดิ์ศรี ทำให้เขารู้สึกประทับใจเล็กน้อย

หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็เดินเข้ามาในประตู

“กระหม่อมมิทราบว่าท่านอ๋องจะเสด็จมาที่นี่” ลั่วไห่ผิงรีบกำปั้นกำไว้ที่หน้าอกทักทาย “วันนี้กระหม่อมใช้กฎครอบครัวเพื่อสั่งสอนบุตรสาวของกระหม่อม ช่างน่าขายหน้าต่อท่านอ๋องยิ่งนัก”

ลั่วไห่ผิงรู้สึกผิดที่บุตรสาวของเขาทำสิ่งที่ไร้ยางอายเช่นการแต่งงานแทน จึงได้ลดท่าทีลง

ใบหน้าของฟู่เฉินหวนนั้นยังคงเย็นชา เขาเหลือบมองลั่วชิงยวนที่อยู่บนพื้น "ครั้งนี้นางกระทำอันใดผิดกัน เหตุใดท่านถึงได้ใช้กฎครอบครัวเฆี่ยนตีนางเช่นนี้"

ลั่วไห่ผิงหน้าเสี
Locked Chapter
Patuloy ang Pagbabasa sa GoodNovel
I-scan ang code upang i-download ang App

Kaugnay na kabanata

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 23

    เสียงของนางอ่อนแรงมาก แต่ก็ยังสัมผัสได้ถึงเจตจำนง และความดื้อรั้นที่ไม่ยอมแพ้ของนางเขาขมวดคิ้วมุ่น สมบัติอย่างนั้นหรือ? อะไรคือสมบัติที่ลั่วชิงยวนต้องการถึงเพียงนี้กัน?ลั่วเยวี่ยอิงก้าวไปข้างหน้า หวังจะแยกมือของลั่วชิงยวนออก แต่ลั่วชิงยวนมิได้สติ นางกำเสื้อผ้าของฟู่เฉินหวนแน่น โดยไม่มีทีท่าว่าจะปล่อย และยังพึมพำไม่หยุด "เอาสมบัติของแม่ข้าคืนมา! เอาคืนมาให้ข้า!"“ท่านพี่ตื่นเถิด อย่าทำให้เสื้อผ้าของท่านอ๋องเปื้อนสิเจ้าคะ!” ลั่วเยวี่ยอิงพูดขึ้นอย่างร้อนรนอย่างไรก็ตาม ลั่วชิงยวนยังคงจับมันไว้และไม่ยอมปล่อย นางรั้งมันไว้เหมือนฟางเส้นสุดท้ายดวงตาของฟู่เฉินหวนเคร่งขรึม เขาจ้องมองด้วยความขยะแขยง แต่สุดท้ายก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากยอมประนีประนอม "ช่างเถอะ ข้าผู้เป็นอ๋องจะส่งนางกลับเรือนเอง!"เขาก้มลงอุ้มลั่วชิงยวนขึ้นมา แต่ด้วยร่างกายที่หนักอึ้งนี้ แม้แต่ท่านอ๋องที่ฝึกฝนวรยุทธมาตลอดทั้งปี ก็เกือบจะเซทันทีที่ลุกขึ้นเขาอุ้มลั่วชิงยวนขึ้นมาด้วยความยากลำบาก ก่อนจะเดินตามทางที่นางรับใช้บอกไปยังเรือนสายธารเขาวางลั่วชิงยวนลงบนเตียง ใบหน้าของนางซีดเซียวไร้สีเลือด ข้อนิ้วที่จับเสื้อของฟู่

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 24

    ฟู่เฉินหวนตัวแข็งทื่อลั่วไห่ผิงโกรธมากเมื่อได้ยิน คนในครอบครัวท่านอ๋องอย่างนั้นหรือ? นั่นก็คือจักรพรรดิ คือราชวงศ์เชียวนะ!เขาตะคอก "ลั่วชิงยวน เจ้ากำลังพูดจาไร้สาระอะไร! เจ้ารู้หรือไม่ว่าการสาปแช่งจักรพรรดิ และไม่เคารพราชวงศ์เป็นความผิดบาปใหญ่แรงแค่ไหน? เจ้าตั้งใจจะฆ่าคนในจวนอัครเสนาบดีงั้นรึ!"ลั่วชิงยวนหัวเราะเยาะ น้ำตาและเลือดยังคงไหลออกมาไม่หยุดนางกำลังจะตายอยู่แล้ว จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับจวนอัครเสนาบดีด้วยหรือ? จวนอัครเสนาบดีจะเป็นเยี่ยงไรนั้นมิเกี่ยวกับนาง หากมิใช่ท่านพ่อซึ่งเป็นท่านอัครเสนาบดีใช้กฎครอบครัวกับนาง นางจะหมดสติไปถึงขั้นโดนคนวางยาเช่นนี้หรือ!หมอกู้พูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึม "ท่านอ๋อง กระหม่อมได้จ่ายยาเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บแล้ว แต่อาการบาดเจ็บนั้นรุนแรงเกินไปสำหรับพระชายา และนางก็ป่วยกะทันหัน กระหม่อมเกรงว่าจะเหลือเพียงไม่กี่ชั่วยามเท่านั้นพ่ะย่ะค่ะ"เมื่อได้ยินเช่นนี้ ฟู่เฉินหวนก็ขมวดคิ้ว มองไปที่ลั่วชิงยวนที่โชกไปด้วยเลือด เขารู้สึกสงสารนางอยู่ครู่หนึ่งได้รับบาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิตจากอาการป่วยกะทันหันอย่างนั้นหรือ? ลั่วชิงยวนอยากจะอ้าปากแย้ง แต่อาการปวดท้อ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 25

    หลังจากที่ทุกคนจากไป ในเรือนมีเพียงแม่นมกู้ที่กำลังสวดมนต์ภาวนาอยู่ที่เรือน นางค้ำกำแพงพลางเดินเข้ามาในห้องอย่างช้า ๆ นางเช็ดน้ำตาขณะเดินเข้ามา มันช่างน่าสะเทือนใจยิ่งนักเมื่อได้ยินลั่วชิงยวนจับมือของจือเฉา นางพยายามเปิดปาก แต่ใบหน้าเต็มไปด้วยความเจ็บปวด ก่อนจะเปล่งเสียงออกมาอย่างยากลำบาก "กล้วย… กล้วยไม้มังกรขนด..."“กล้วยไม้มังกรขนด? พระชายา ท่านพูดว่า กล้วยไม้มังกรขนดใช่หรือไม่? คืออะไรหรือเจ้าคะ?” จือเฉาได้ยินเสียงพระชายาอย่างชัดเจน นางรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาทันทีลั่วชิงยวนพยายามอ้าปาก "ลาน… สัตว์ในตำนาน… หลังตะเกียงหิน..."จือเฉาเป็นคนฉลาด นางสงบลงทันที "หลังตะเกียงหินสัตว์ในตำนานในลานใช่ไหมเจ้าคะ?""ข้าจะไปบัดเดี๋ยวนี้!"จือเฉาไม่รู้ว่าพระชายากำลังพูดถึงอะไร แต่นางจำตะเกียงหินรูปร่างประหลาดได้ นางวิ่งไปที่ลานด้านหลังตะเกียงหินทันที และดึงดอกไม้รวมถึงพืชหลากสีออกมาทีละกำ ก่อนจะหอบพืชกองใหญ่วิ่งกลับไปที่เรือนสายธารนางถือมันไว้ข้างหน้าลั่วชิงยวน "พระชายา ในนี้มีกล้วยไม้มังกรขนดที่ท่านต้องการหรือไม่เจ้าคะ ถ้าไม่มี ข้าจะไปหามันอีกครั้ง!"นางรู้ว่านี่จะต้องเป็นสิ่งที่สามารถช่วย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 26

    ยามนี้ ใบหน้าของลั่วเยวี่ยอิงก็ซีดลงด้วยความตกใจ นางซ่อนตัวอยู่ในอ้อมแขนของฟู่เฉินหวน"ท่าน... ท่านเป็นคนหรือเป็นผีกันแน่?""แล้วเจ้าคิดว่าข้าเหมือนคนหรือผีกันเล่า?" ลั่วชิงยวนยิ้มอย่างเย็นชาลั่วไห่ผิงรู้สึกตกใจ ลั่วชิงยวนนั้นมิเป็นไรจริง ๆ อย่านั้นหรือ? ท่านหมอบอกว่าสิ้นหวังไปแล้วมิใช่หรือ? เห็นนางอาเจียนเป็นเลือดเยี่ยงนั้น คิดว่าอย่างไรนางก็คงมิรอดแน่! แต่ตอนนี้กลับวิ่งมาอยู่ตรงหน้าของเขาเสียได้"ท่านพี่ ท่านพี่อย่าได้ทำให้คนอื่นตกใจกลัวเยี่ยงนี้เลยเจ้าค่ะ" ลั่วเยวี่ยอิงแสร้งทำเป็นกลัว และซ่อนตัวในอ้อมแขนของฟู่เฉินหวนฟู่เฉินหวนมองลั่วชิงยวนด้วยสายตาที่ซับซ้อน ท่านหมอกู้ถึงกับบอกว่าสิ้นหวัง แล้วเหตุใดนางถึงยังมีชีวิตอยู่ได้?เมื่อเห็นว่าลั่วเยวี่ยอิงตกใจกลัว ลั่วไห่ผิงก็ลุกขึ้นยืนด้วยความโกรธ และมองไปที่ลั่วชิงยวนด้วยสายตาที่เฉียบคม "เจ้ายังอยู่รอดได้ก็นับว่าเป็นโชคดีของเจ้า เหตุใดถึงไม่พักผ่อน แต่กลับวิ่งมาที่นี่เพื่อทำให้น้องสาวเจ้าตกใจกลัว! เจ้าเป็นพี่ประสาอะไรกัน!"ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น คนที่ถูกต่อว่าก็คือลั่วชิงยวนเสมอนางยิ้มอย่างเย็นชา "พวกเจ้าอยากให้ข้าตายไม่ใช่รึ? ข้าม

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 27

    ลั่วชิงยวนโกรธมาก นางเตะประตูอย่างแรง ลั่วไห่ผิงหลีกเลี่ยงเรื่องของแม่นางอย่างเห็นได้ชัด มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่? ลั่วไห่ผิงมีความลับอะไรกัน? "พระชายา เหตุใดพวกเขาถึงขังท่านไว้เช่นนี้เล่าเจ้าคะ?" จือเฉาไปหาอาหารและนำกลับมา แต่ประตูกลับถูกล็อกไว้"ข้าไม่เป็นไร เจ้าไม่ต้องเป็นกังวล" ลั่วชิงยวนนั่งลงบนเก้าอี้อย่างอ่อนแรง คิดหาวิธีการตรวจสอบต่อไปในความเงียบ ท้องก็ร้องโครกครากด้วยความหิว แต่ประตูและหน้าต่างต่างก็ถูกล็อก จือเฉามิสามารถนำอาหารเข้ามาได้ ลั่วชิงยวนทำได้เพียงอดทนกับความหิว และนอนลงบนเตียงเพื่อหลับหนีความหิว……รุ่งสางของวันถัดมา ก่อนที่ลั่วชิงยวนจะตื่นขึ้นมา นางได้ยินเสียงปลดล็อกกุญแจ นางลืมตาขึ้นอย่างสะลึมสะลือ และเห็นนักพรตเต๋าในชุดสีเหลือง ถือดาบไม้ท้อ สั่นกระดิ่ง และเดินเข้ามาพลางพึมพำอะไรอยู่ในปากลั่วชิงยวนพยุงร่างกายของตัวเองขึ้นมา พลางขมวดคิ้ว นักพรตเต๋า?“มีวิญญาณชั่วร้ายล้อมรอบสถานที่แห่งนี้” นักพรตเต๋าสังเกตห้องอย่างเคร่งขรึม จากนั้นดวงตาของเขาก็จับจ้องไปที่ร่างของลั่วชิงยวน "วิญญาณชั่วร้ายรวมตัวกันอยู่ที่นางผู้นี้นี่เอง"จากนั้นลั่วไห่ผิงก็เดินเข้ามาในห้อง พร

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 28

    เมื่อพระอาทิตย์ขึ้น ลั่วชิงยวนที่ถูกมัดไว้กับเก้าอี้ในห้อง อาบแดดที่ส่องเข้ามาจากประตู และผล็อยหลับไปหลายครั้งจนกระทั่งนักพรตเต๋าเดินมาถึงด้านหน้า และบังแสงแดดตรงหน้านางลั่วชิงยวนตื่นขึ้นมา นางเงยหน้าขึ้นและมองดูนักพรตเต๋าที่เทโอสถเม็ดออกมาจากขวด“แม่นางกินโอสถนี้ซะ วิญญาณร้ายจะไม่สามารถเข้าใกล้ท่านได้อีก” นักพรตเต๋ากล่าวอย่างเคร่งขรึม และกรอกโอสถไปที่ปากของนางลั่วชิงยวนหรี่ตาลงเล็กน้อย ดวงตาของนางเย็นยะเยือก "ท่านแน่ใจหรือว่าโอสถนี้สามารถขับไล่วิญญาณชั่วร้ายได้"“แม่นาง อาตมาพบเจอมามากมาย โอสถนี้สามารถรักษาท่านจากสิ่งชั่วร้ายได่เป็นแน่! มีเพียงวิธีนี้เท่านั้นที่จะสามารถขับไล่สิ่งชั่วร้ายออกจากจวนอัครเสนาบดีได้อย่างสมบูรณ์! อาตมาหวังว่าแม่นางจะให้ความร่วมมือ!” นักพรตเต๋าอธิบายเกลี้ยกล่อมให้นางกินโอสถแต่ในระยะอันใกล้เช่นนี้ ลั่วชิงยวนได้กลิ่นของเม็ดโอสถอย่างชัดเจนนางมองไปที่นักพรตเต๋าด้วยรอยยิ้มเย็น ๆ บนริมฝีปาก "ขับไล่สิ่งชั่วร้ายอย่างนั้นรึ? เมื่อกินโอสถนี้เข้าไปจะทำให้ข้าสับสนเป็นบ้า และถึงขั้นสูญเสียความทรงจำต่างหาก!"ขณะนั้นเอง นางรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่า นักพรตเต๋าตัวแ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 29

    ลั่วชิงยวนขยับแขนและมองเขานักพรตเต๋าจอมหลอกลวงรีบแก้เชือกที่รัดตัวนางออกทันที "แม่นาง? โอ้ไม่สิ ปรมาจารย์! ช่วงนี้ข้าโชคร้ายยิ่งนัก ท่านช่วยข้าแก้ปัญหานี้ได้หรือไม่?"เมื่อเห็นใบหน้าที่ตื่นตระหนกและเหงื่อออกมา ลั่วชิงยวนก็รู้ว่าเขานั้นกลัวมากจริง ๆนางขยับแขนยืนขึ้นและยืดกล้ามเนื้อ ก่อนจะพูดขึ้นช้า ๆ ว่า "มันแก้ไขมิได้"เมื่อได้ยินเช่นนั้น หน้าของเขาก็เปลี่ยนสี เขารีบพุ่งเข้าไปหาลั่วชิงยวนและคุกเข่าลง พลางพูดอย่างลนลาน "ข้ารู้ว่าข้าผิดไปแล้ว ข้ามิกล้าโกหกท่านแล้ว หากท่านมีความสามารถจริง ได้โปรดช่วยข้าด้วยเถิด"ขณะที่เขาพูด เขาควักเงินออกมาจากกระเป๋าทีละใบ "นี่คือเงินที่ข้าหลอกมาได้ ข้าไม่เอาแล้ว ปรมาจารย์ได้โปรดช่วยข้าด้วย!"เมื่อเห็นธนบัตรเหล่านั้น ลั่วชิงยวนก็ขมวดคิ้วนางเคยมองเงินเหมือนมูล แต่ตอนนี้นางมีแผนที่จะตัดความสัมพันธ์กับตระกูลลั่ว และเงินจากตำหนักอ๋องก็ไม่ตกเข้ามาในกระเป๋าของนางแน่ ดังนั้นนางจึงต้องประหยัดเงินไว้บ้าง มิเช่นนั้นหากมีอะไรเกิดขึ้นจะลำบากนางหยิบธนบัตรนั้น คิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูดว่า "หายนะบนร่างกายของเจ้านั้นยากจะแก้ไข ในเมื่อได้ทำสิ่งเลวร้ายเอาไว้มา

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 30

    ขณะที่รับประทานอาหาร ลั่วชิงยวนก็ใช้ความคิดไปด้วย ลั่วไห่ผิงเชิญนักพรตเต๋ามาเพื่อขับไล่วิญญาณชั่วร้าย ด้วยท่าทางที่จริงจัง ราวกับว่าเขาคิดว่านางมีวิญญาณชั่วร้ายสิงอยู่จริง ๆหากเขามิได้มีความลับอะไร ทำไมเขาถึงคิดว่านางถูกวิญญาณร้ายสิงกัน? วิญญาณร้ายในจวนนี้มาจากที่ใด?“จือเฉา ท่านอ๋องเสด็จกลับไปแล้วหรือยัง?”จือเฉาพยักหน้า "ท่านอ๋องเสด็จกลับไปตั้งแต่เมื่อคืนแล้วเจ้าค่ะ ท่านอัครเสนาบดีบอกท่านอ๋องเกี่ยวกับให้นักพรตเต๋ามาทำพิธีขับไล่สิ่งชั่วร้ายที่เกาะพระชายาอยู่ แล้วจึงจะมอบพระชายาที่เป็นปกติกลับคืนให้แก่ท่านอ๋องเจ้าค่ะ"ลั่วชิงยวนเลิกคิ้วขึ้นอย่างช่วยไม่ได้ "เจ้าคิดว่าตอนนี้ข้าไม่ปกติอย่างนั้นรึ?"ผิดปกติตรงไหนกัน เพียงเพราะนางทวงถามสมบัติของแม่อย่างนั้นหรือ?สิ่งนี้ทำให้นางแน่ใจมากยิ่งขึ้น ลั่วไห่ผิงทำอะไรผิดไว้เป็นแน่! เขาถึงได้กลัวเรื่องที่เกี่ยวข้องกับแม่ของนาง“บางทีอาจเป็นเพราะพระชายาบอกว่าจะตัดขาดความสัมพันธ์กระมังเจ้าคะ ห้ามพูดคำนี้ออกมาอีกเด็ดขาดนะเจ้าคะ หากท่านไม่มีบ้าน อีกทั้งตำหนักอ๋องก็...” เมื่อถึงเวลานั้น อาจจะต้องใช้ชีวิตข้างถนนจริง ๆ ก็ได้ลั่วชิงยวนยิ้มเบา ๆ "

Pinakabagong kabanata

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1272

    แม้แต่นักทำนายก็มิสามารถทำนายเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่นนี้ได้เมื่อจู่ ๆ ก็ถูกลั่วชิงยวนท้าทาย จั๋วฉ่างตงจึงทำอะไรมิถูกไปชั่วขณะ แรงกดดันหายไปหมด“เจ้ารอได้เลย!” จั๋วฉ่างตงจ้องมองนางอย่างดุดัน แล้วหันหลังเดินจากไปคนอื่น ๆ ก็เดินออกไปด้วยทุกคนต่างรู้สึกสับสน“ช่างแปลกประหลาด เหตุใดนางจึงรู้ทุกอย่าง? บนใต้หล้านี้คงไม่มีผู้ใดเก่งกาจปานนั้นกระมัง? มิต้องทำนายก็รู้แล้วน่ะหรือ?”“ใครจะรู้ ดูท่าทางอ่อนแอของนาง มิรู้ว่าสามวันหลังจะเป็นเช่นไร รอดูเรื่องสนุกกันดีกว่า”หลังจากที่ทุกคนออกไปแล้ว ลั่วชิงยวนก็พยายามพยุงตัวเองเดินเข้าไปในเรือนเมื่อเข้าไปในเรือน ลั่วชิงยวนก็ทนมิไหว พลันทรุดตัวลงกับพื้นนางเป็นฝ่ายท้าทาย กำหนดวันประลองคืออีกสามวัน นางจึงมีเวลาพักสามวันหากให้ประลองตอนนี้ ร่างกายของนางคงทนมิไหวเมื่อนางพักผ่อนได้สักพักแล้ว ก็พยายามลุกขึ้นไปปิดประตูทันใดนั้นมีเงาร่างหนึ่งปรากฏขึ้นที่หน้าประตู ขวางนางไว้เมื่อเห็นผู้มาเยือน ลั่วชิงยวนก็ตกใจเล็กน้อยอวี๋โหรวถือขวดยามายื่นให้นางอวี๋โหรวเตี้ยกว่านาง ตัวเล็ก หน้าตาน่ารักอ่อนโยน“รับไปเถิด ข้าจะมิทำร้ายเจ้า”“ข้ารู้” ลั่วชิง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1271

    ลั่วชิงยวนมองทุกคนด้วยแววตาเย็นชา ถึงแม้ภายนอกจะดูอ่อนแอ แต่แววตากลับดุร้ายราวกับสัตว์ป่าทำให้ทุกคนใจกระตุกเริ่มรู้สึกหวาดกลัวจั๋วฉ่างตงจ้องมองนาง “เจ้าเก่งนักก็ฆ่าข้าสิ ข้ามิเชื่อหรอกว่าเจ้าจะกล้าฆ่าคนที่นี่!”“เจ้าอยากลองดูรึ?” ลั่วชิงยวนออกแรงบีบ บีบจนจั๋วฉ่างตงหายใจมิออก ดิ้นรนสุดกำลังอย่างสิ้นหวังตอนนี้ลั่วชิงยวนใช้พลังทั้งหมดที่มี ร่างกายอ่อนแอ แต่ยังพยายามฝืนไว้บุรุษที่สั่งให้ตีนางเอ่ยขึ้น “ลั่วชิงยวน อย่าคิดว่าเจ้าถูกเลือกเข้ามาเป็นกรณีพิเศษแล้วจะมีอภิสิทธิ์”“หากเจ้ากล้าทำร้ายนาง ข้าจะทำให้เจ้าตายอย่างไร้ที่ฝัง”ลั่วชิงยวนหันไปมองคนพูดแล้วยกยิ้มเย้ยหยัน “แน่นอนว่าข้ามีอภิสิทธิ์มากกว่าคนไร้ค่าเช่นเจ้า”รอยยิ้มและแววตาที่ดูถูกเหยียดหยามนั้น ทำให้เซี่ยหลิงรู้สึกกระทบอย่างแรง เขาจ้องมองลั่วชิงยวนด้วยความโกรธ“เจ้าพูดว่าอะไรนะ?!”ลั่วชิงยวนมิกลัวการข่มขู่ ยังคงกล่าวด้วยรอยยิ้ม“อายุยี่สิบแปดแล้ว ยังเป็นแค่นักบวชชั้นผู้น้อย”“หากเจ้ามิใช่คนไร้ค่าแล้วคืออะไรเล่า?”สิ้นคำนั้น คนรอบข้างก็กลืนน้ำลายด้วยความประหม่าพูดเช่นนี้ได้หรือ?อายุเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับสำนักนั

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1270

    โฉวสือชีเป็นห่วง จึงรีบขึ้นหลังม้าไปหาสมุนไพรเมื่อตื่นขึ้นมา ลั่วชิงยวนอยู่บนรถม้าที่กำลังมุ่งหน้าเข้าวังหลวงบนรถม้ามีเพียงนางผู้เดียวหน้าอกยังคงเจ็บปวด นางพยายามพยุงตัวเองขึ้นนั่งแล้วเปิดม่านถามสารถี “ใครสั่ง?”“แม่ทัพเฉินชีขอรับ”เดิมทีลั่วชิงยวนอยากให้สารถีหยุดรถม้า แต่มินานก็เข้าวังหลวงแล้วจึงมิทันนางนั่งสมาธิปรับลมหายใจอยู่ครู่หนึ่ง ความเจ็บปวดจึงบรรเทาลงบ้างนางมิรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นหลังจากที่สลบไปเหตุใดเฉินชีจึงส่งนางเข้าวังที่อยู่ของสำนักนักบวชก็อยู่ในวัง เพียงแต่ที่ตั้งค่อนข้างห่างไกลและพื้นที่กว้างขวาง ปกติแล้วคนในวังจะมิไปที่นั่นหลังจากที่สารถีส่งนางเข้าวังแล้ว นางก็ลงจากรถม้าแล้วเดินต่อไปอีกไกลร่างกายและจิตใจอ่อนล้า อยากจะพักผ่อนให้เพียงพอเมื่อผลักประตูเข้าไป แล้วเห็นภาพตรงหน้าก็ตกใจประตูห้องเปิดกว้างข้าวของเครื่องใช้ของนางถูกโยนออกมากองระเกะระกะเต็มลานไปหมดหลังจากที่เลือกเรือนนี้ในวันนั้น นางก็ออกจากวังและมิได้มาหลายวัน และกลับกลายเป็นเช่นนี้ทันใดนั้น ก็มีจิตสังหารพุ่งมาจากด้านหลังลั่วชิงยวนรีบหันกลับไป เห็นตาข่ายขนาดใหญ่พุ่งเข้ามาคลุมตัวนางไ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1269

    “เขามีค่าพอหรือ?”“เขามิคู่ควรได้รับความรักจากเจ้า!”“เขานึกว่าฉายามัจจุราชอำมหิตของข้าได้มาเปล่า ๆ หรือไร? แล้วเหตุใดข้าจึงต้องคืนเจ้าให้เขาด้วย?”“มาถึงจุดจบเช่นนี้ ล้วนเป็นเพราะเขาทำตัวเอง”เฉินชียิ้มอย่างผู้มีชัย มิเสียใจกับสิ่งที่ทำ ยังรู้สึกดีใจที่สังหารได้รวดเร็วมิเช่นนั้นหากลั่วชิงยวนมาขวางเสียก่อน คงมิได้สังหารเขาเป็นแน่“หุบปาก!” ลั่วชิงยวนรู้สึกเหมือนถูกเข็มทิ่มแทง ความรู้สึกที่ซับซ้อนถาโถมจนทำให้นางรู้สึกอึดอัดลั่วชิงยวนกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ส่งศพเขากลับไป!”เฉินชียกยิ้มมุมปาก “ได้”ลั่วชิงยวนเสียใจมาก เสียใจที่มิได้บอกเฉินชีว่ามิให้เขาฆ่าฟู่เฉินหวนนางเองก็มินึกว่าฟู่เฉินหวนจะมาที่แคว้นหลีเพื่อตามหานางถึงแม้ว่าจะตัดสินใจมิหันหลังกลับไปแล้ว แต่นางก็มิเคยคิดว่าเขาจะตายเมื่อออกจากป่า ลั่วชิงยวนใช้มือยันต้นไม้ พลันกระอักเลือดออกมาคำโต“เจ้าเป็นอะไรหรือไม่!” โฉวสือชีตกใจ รีบเข้าไปพยุงนางลั่วชิงยวนเช็ดเลือดที่มุมปากออก แล้วหันกลับไปมอง เห็นทหารแบกศพออกไปแต่ลั่วชิงยวนมิกล้ามองต่อแล้วหัวใจเจ็บปวด น้ำตาไหลอาบแก้มนางกำมือแน่น พยายามสะกดกลั้นอารมณ์เฉินชี

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1268

    โลหิตสาดกระเซ็นเปรอะเปื้อนชายกระโปรงของลั่วชิงยวนในพริบตาร่างไร้วิญญาณบนพื้นเจิ่งนองไปด้วยเลือด เนื้อหนังปะปนจนแยกมิออก อนาถเกินกว่าจะมองภาพตรงหน้าของลั่วชิงยวนเต็มไปด้วยเลือดสีแดงฉาน นางเจ็บแปลบที่อก ความโกรธแค้นเต็มอกทำให้นางพลันชักกระบี่ออกมาอย่างแรงแล้วชี้ไปที่เฉินชีด้วยความดุดันเฉินชีมองนางด้วยแววตาที่ซับซ้อน นัยน์ตาของเขายังคงเต็มไปด้วยความหยิ่งยโสและความก้าวร้าว เขาหัวเราะออกมา“ไยเล่า? เจ้ายังคงปวดใจอีกรึ? มิใช่ว่าตัดใจแล้วรึ?”“มิใช่ว่าตัดขาดกับเขาแล้วหรือไร?”“เหตุใดจึงโกรธเช่นนี้? มิกล้ามองแม้แต่ศพของเขาเลยงั้นรึ?”ทันใดนั้น เฉินชีใช้มือคว้าใบมีดที่คมกริบเดินเข้าหานางโลหิตไหลลงตามข้อมือของเขาลั่วชิงยวนจ้องมองเขาด้วยแววตาดุดัน นางดึงกระบี่ออกมาแทงเข้าที่หน้าอกของเฉินชีอย่างแรงแล้วตะโกนด้วยความโกรธ “ข้าเกลียดเขา ข้าจะฆ่าเขาด้วยมือของข้าเอง! ใครใช้ให้เจ้ามายุ่ง!”เฉินชีตกใจ มองนางด้วยความประหลาดใจจากนั้นก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่ง “ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า...”“ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้เองหรือ?”ทันใดนั้น เฉินชีก็คุกเข่าลงแต่กลับกล่าวด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา “เรื่

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1267

    นางรีบเข้าไปดูเฉินชีในชุดเกราะเดินมาหานางอย่างองอาจ บนใบหน้ามีรอยยิ้มหยิ่งผยองเขาเดินเข้ามาหมายจะกอดนาง “คิดถึงข้าหรือ?”ยังมิทันได้สัมผัสลั่วชิงยวน มือของลั่วชิงยวนก็ยันหน้าอกของเขาไว้นางมองเฉินชีด้วยแววตาเย็นชา “ฟู่เฉินหวนอยู่ที่ใด?”เฉินชีเลิกคิ้ว “ที่แท้เจ้ามาเพราะเขา ข้าจะพาเจ้าไปดูเขาเอง”ในป่าเงียบสงัดลั่วชิงยวนเดินตามเฉินชี เดินผ่านต้นไม้ใบหญ้า หัวใจนางเต้นระรัวมือเปียกชื้นไปด้วยเหงื่อมิรู้ว่าเพราะเหตุใด นางถึงรู้สึกกลัวผลลัพธ์ยังมิทันได้ยินเสียงของฟู่เฉินหวน เฉินชีก็หยุดเดินเขาหลีกทางให้ แล้วโน้มตัวเข้ามากระซิบข้างหูนางด้วยรอยยิ้ม“ดูสิ เขาอยู่ตรงนี้”“อาเหลา ข้าแก้แค้นให้เจ้าแล้ว”ภาพที่ปรากฏต่อหน้าคือฟู่เฉินหวนที่นอนนิ่งอยู่บนพื้นเลือดท่วมกาย ไร้ซึ่งลมหายใจบนร่างกายและใบหน้าเต็มไปด้วยรอยจากคมดาบแต่ยังคงจำได้ว่านั่นคือฟู่เฉินหวน!ในชั่วขณะนั้น ลั่วชิงยวนราวกับถูกบีบคอ นางหายใจมิออกจนแทบจะยืนมิอยู่เขาตายแล้วเขาตายแล้วหรือ?!เขาจะตายได้อย่างไรลั่วชิงยวนตกตะลึงราวกับถูกฟ้าผ่า นางมองศพนั้นด้วยดวงตาแดงก่ำเฉินชีจงใจเข้ามาใกล้นาง “อาเหลา ข้าแก้แ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1266

    แต่เขามิได้อยากฆ่าลั่วชิงยวน คนที่มีความสามารถเช่นนี้ หากสามารถใช้งานได้ก็สามารถลบล้างคำครหาที่ว่าเขามีพรสวรรค์ธรรมดาได้เก่งกาจด้วยตัวเองอาจจะมิได้ยิ่งใหญ่เสมอไปทว่าหากสามารถปราบคนที่เก่งกว่าสิบเท่า ร้อยเท่าได้ นั่นแหละที่น่าเกรงขาม!เหมือนกับลั่วชิงยวน!“ได้ ข้าจะหาวิธี” ฉินอี้ตอบรับอย่างใจเย็น......เพื่อหายา ลั่วชิงยวนจึงพักอยู่ที่โรงเตี๊ยมในเมืองหลวงหลายวันแล้วให้สิบวายร้ายไปตามหาบัวถวายตามโรงหมอและร้านโอสถแต่สุดท้ายก็มิพบโฉวสือชีกล่าวว่า “ก่อนหน้านี้สมุนไพรชนิดนี้หาได้มิยาก แต่ช่วงนี้มิรู้ว่าเป็นอะไร หาบัวถวายมิได้เลย”“ตามหาไปทั่วก็ไม่มีใครมี จะขโมยก็ไม่มีที่ให้ขโมย”โฉวสือชีรู้สึกจนปัญญาเป็นครั้งแรกลั่วชิงยวนมีสีหน้าเคร่งขรึม เหตุใดจู่ ๆ บัวถวายจึงหายากขึ้นมา“ถามโรงหมอและร้านโอสถหรือยังว่าเมื่อใดจะมีมาขาย?”โฉวสือชีกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ถามแล้ว แต่พวกเขาก็บอกว่าไม่มี มิรู้ว่าเมื่อใดจะมี”“แต่ข้าดูแล้ว ตอนนี้คงจะหายาก”“ถึงมี ก็คงไม่มีใครยอมขาย”ลั่วชิงยวนอดมิได้ที่จะไอออกมา “แค่กแค่กแค่กแค่ก...”“ดูเหมือนว่าร่างกายของเจ้าจะแย่ลงแล้ว” โฉวสือชีมองนางด

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1265

    ของประดับบนตู้ ม้วนตำราที่เปิดอยู่บนโต๊ะ ยังคงเหมือนกับตอนที่นางยังมีชีวิตอยู่ก่อนจะตายเพียงแต่ประตูและหน้าต่างปิดสนิท ทำให้รู้สึกอึดอัดเล็กน้อยนางเปิดหน้าต่างแล้วไปนั่งลงบนเตียงพลางมองภาพวาดอาวุธในม้วนตำราตอนนั้นนางดูสิ่งนี้ก็เพื่อเลือกอาวุธที่เหมาะมือตำรายังคงเปิดค้างอยู่หน้านี้แม้แต่ลมก็มิเคยพัดพลิกหน้ากระดาษเลยหรือ?ความรู้สึกนี้ทำให้นางรู้สึกราวกับกลับไปยังวันนั้น ชั่วขณะนั้น ประหนึ่งว่าเวลามิเคยผ่านไปมินาน นางกำนัลก็นำอาภรณ์และของใช้ต่าง ๆ มาให้ลั่วชิงยวนจัดวางสิ่งของตามความเคยชิน แล้วจึงออกจากห้องไปเมื่อออกไปก็เห็นเฉินชีเขาเดินเข้ามาด้วยท่าทีกอดอก “อาเหลาสมกับเป็นอาเหลาจริง ๆ”ลั่วชิงยวนมองไปรอบ ๆ ด้วยความประหม่า แล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา “อย่าเรียกข้าว่าอาเหลาอีก”ตอนนี้นางยังมิอยากให้ใครรู้ว่านางคือนักบวชหญิงคนก่อนที่ตายไปแล้วเนื่องจากยังมิพบตัวคนที่สังหารนาง จึงมิอาจเปิดเผยได้“ก็ได้ เช่นนั้นจะให้ข้าเรียกเจ้าว่าอะไร? ชิงยวนรึ? ข้ามิชอบเลย” เฉินชีครุ่นคิดลั่วชิงยวนมองเขาอย่างใจเย็น “ตามใจเจ้า”นางเดินจากไปเฉินชีเดินตาม “เช่นนั้นก็เรียกเจ้าว่าอาเห

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1264

    นางเดินไปที่รถม้า แล้วเข้าไปนั่ง“เข้าวัง”ในขณะที่นั่งลงนั้นราวกับว่านางกำลังนั่งลงบนบัลลังก์ หาใช่รถม้าไม่โฉวสือชีมองร่างบอบบางนั้นด้วยแววตาที่ลุกโชน นางช่างดูสูงส่งและมีอำนาจรถม้าค่อย ๆ ออกเดินทางตรงเข้าวังหลวงผู้คนบนถนนลุกขึ้น มิเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นเพียงแต่ในใจของพวกเขาไม่มีความแค้นและความเกลียดชังอีกต่อไป“แยกย้ายกันเถิด”ผู้คนแยกย้ายกันไปราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นสิบวายร้ายต่างตกตะลึง หงไห่มิรู้ว่าจะเก็บมีดในมือไว้ที่ใด“สถานการณ์นี้มันอะไรกัน! คนพวกนี้ใจเสาะเสียไม่มี ยอมแพ้ง่าย ๆ เช่นนี้เลยน่ะรึ” หงไห่กล่าวด้วยน้ำเสียงดูถูกโฉวสือชีกลับหัวเราะเบา ๆ “พวกเราเลือกถูกคนแล้ว”หงไห่มิเข้าใจ พลันถามต่อ “พวกเรามิตามเข้าวังหรือ?”“มิจำเป็น ไม่มีใครทำร้ายนางได้” โฉวสือชีมองไปในระยะไกลแล้วพาทุกคนออกจากถนนเสวียนอู่มินานถนนเสวียนอู่ก็กลับมาเป็นปกติ แต่คนที่แอบดูอยู่กลับยังคงตกตะลึงมิหาย มิสามารถดึงสติกลับมาได้สำหรับฉินอี้แล้ว เขามิแปลกใจ นั่นเป็นความสามารถของนักบวชหญิงทุกยุคทุกสมัยแต่นักบวชหญิงได้รับความเคารพนับถือ ผู้คนต่างเชื่อฟังและทำตามคำสั่งของนักบวชหญิงลั่วชิง

I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status