แชร์

บทที่ 29

ผู้เขียน: หว่านชิงอิ๋น
ลั่วชิงยวนขยับแขนและมองเขา

นักพรตเต๋าจอมหลอกลวงรีบแก้เชือกที่รัดตัวนางออกทันที "แม่นาง? โอ้ไม่สิ ปรมาจารย์! ช่วงนี้ข้าโชคร้ายยิ่งนัก ท่านช่วยข้าแก้ปัญหานี้ได้หรือไม่?"

เมื่อเห็นใบหน้าที่ตื่นตระหนกและเหงื่อออกมา ลั่วชิงยวนก็รู้ว่าเขานั้นกลัวมากจริง ๆ

นางขยับแขนยืนขึ้นและยืดกล้ามเนื้อ ก่อนจะพูดขึ้นช้า ๆ ว่า "มันแก้ไขมิได้"

เมื่อได้ยินเช่นนั้น หน้าของเขาก็เปลี่ยนสี เขารีบพุ่งเข้าไปหาลั่วชิงยวนและคุกเข่าลง พลางพูดอย่างลนลาน "ข้ารู้ว่าข้าผิดไปแล้ว ข้ามิกล้าโกหกท่านแล้ว หากท่านมีความสามารถจริง ได้โปรดช่วยข้าด้วยเถิด"

ขณะที่เขาพูด เขาควักเงินออกมาจากกระเป๋าทีละใบ "นี่คือเงินที่ข้าหลอกมาได้ ข้าไม่เอาแล้ว ปรมาจารย์ได้โปรดช่วยข้าด้วย!"

เมื่อเห็นธนบัตรเหล่านั้น ลั่วชิงยวนก็ขมวดคิ้ว

นางเคยมองเงินเหมือนมูล แต่ตอนนี้นางมีแผนที่จะตัดความสัมพันธ์กับตระกูลลั่ว และเงินจากตำหนักอ๋องก็ไม่ตกเข้ามาในกระเป๋าของนางแน่ ดังนั้นนางจึงต้องประหยัดเงินไว้บ้าง มิเช่นนั้นหากมีอะไรเกิดขึ้นจะลำบาก

นางหยิบธนบัตรนั้น คิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูดว่า "หายนะบนร่างกายของเจ้านั้นยากจะแก้ไข ในเมื่อได้ทำสิ่งเลวร้ายเอาไว้มา
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 30

    ขณะที่รับประทานอาหาร ลั่วชิงยวนก็ใช้ความคิดไปด้วย ลั่วไห่ผิงเชิญนักพรตเต๋ามาเพื่อขับไล่วิญญาณชั่วร้าย ด้วยท่าทางที่จริงจัง ราวกับว่าเขาคิดว่านางมีวิญญาณชั่วร้ายสิงอยู่จริง ๆหากเขามิได้มีความลับอะไร ทำไมเขาถึงคิดว่านางถูกวิญญาณร้ายสิงกัน? วิญญาณร้ายในจวนนี้มาจากที่ใด?“จือเฉา ท่านอ๋องเสด็จกลับไปแล้วหรือยัง?”จือเฉาพยักหน้า "ท่านอ๋องเสด็จกลับไปตั้งแต่เมื่อคืนแล้วเจ้าค่ะ ท่านอัครเสนาบดีบอกท่านอ๋องเกี่ยวกับให้นักพรตเต๋ามาทำพิธีขับไล่สิ่งชั่วร้ายที่เกาะพระชายาอยู่ แล้วจึงจะมอบพระชายาที่เป็นปกติกลับคืนให้แก่ท่านอ๋องเจ้าค่ะ"ลั่วชิงยวนเลิกคิ้วขึ้นอย่างช่วยไม่ได้ "เจ้าคิดว่าตอนนี้ข้าไม่ปกติอย่างนั้นรึ?"ผิดปกติตรงไหนกัน เพียงเพราะนางทวงถามสมบัติของแม่อย่างนั้นหรือ?สิ่งนี้ทำให้นางแน่ใจมากยิ่งขึ้น ลั่วไห่ผิงทำอะไรผิดไว้เป็นแน่! เขาถึงได้กลัวเรื่องที่เกี่ยวข้องกับแม่ของนาง“บางทีอาจเป็นเพราะพระชายาบอกว่าจะตัดขาดความสัมพันธ์กระมังเจ้าคะ ห้ามพูดคำนี้ออกมาอีกเด็ดขาดนะเจ้าคะ หากท่านไม่มีบ้าน อีกทั้งตำหนักอ๋องก็...” เมื่อถึงเวลานั้น อาจจะต้องใช้ชีวิตข้างถนนจริง ๆ ก็ได้ลั่วชิงยวนยิ้มเบา ๆ "

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 31

    “พระชายาเจ้าคะ เหตุใดนักพรตเต๋าคนนั้นถึงใจจดใจจ่อกับท่านขนาดนี้ พระชายาจะช่วยเขาแก้ไสยศาสตร์จริง ๆ หรือเจ้าคะ? แต่บ่าวคิดว่าเขาไม่ใช่คนดี” จือเฉาถามอย่างสงสัยลั่วชิงยวนหัวเราะเบา ๆ “สายตาเจ้าช่างเฉียบแหลมนัก ดีกว่าพ่อข้ามาก” “ไสยศาสตร์ไม่เป็นอันตรายถึงชีวิตแน่นอน แม้ว่าเขาจะทำเรื่องเลวร้ายไปบ้าง แต่ก็ไม่ใช่คนเลวร้ายมาก จะไม่มีผลกรรมที่น่าสลดใจอะไร” “เขาจะโชคร้ายมากยิ่งขึ้น หากเขายังหลอกลวงต่อไป ทุกเรื่องจะไม่ราบรื่น ข้าจะหลอกเขาหน่อย จะทำให้เขากลับไปสู่ทางที่ถูกต้องได้ ถือว่าทำบุญ” “มหาเสนาบดีจะตอบรับคำร้องขอของนักต้มตุ๋นนี้เสมอ เขาคงคิดไม่ถึงแน่ คนโกหกผู้นั้นถูกพระชายาของเราปราบแล้ว" ลั่วชิงยวนได้ยิน ก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะเบา ๆ ตอนกลางคืน รถม้าค่อย ๆ ออกห่างจากเมืองหลวง รอบข้างดูมืดมิดไปหมด มีเพียงแสงจันทร์ส่องสว่างทางข้างหน้า เดิมทีจือเฉายังไม่รู้สึกกลัว แต่ค่อย ๆ รู้สึก สถานที่ที่รถม้าไปยิ่งเปลี่ยวมากขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งสองด้านล้วนเป็นป่าทึบ บางครั้งก็มีเสียงนกร้อง ช่างน่ากลัวนัก “พระชายา เราจะไปไหนกันหรือเจ้าคะ?” จือเฉาดึงแขนเสื้อของลั่วชิงยวนด้วยความกลัว “ถึงแล้วเจ้

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 32

    ว่างเปล่า! จือเฉาแอบมองผ่านระหว่างนิ้ว แล้วก็ตกใจทันที “หือ? ว่างเปล่า? ” ลั่วชิงยวนไม่อยากจะเชื่อ ก็กระโดดเข้าไปในโลงศพพร้อมคบเพลิง ก้มลงตรวจดูอย่างละเอียด ลูบภายในโลงศพ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าไม่มีกับดัก หรือช่องลับอะไรซ่อนอยู่ ค้นหาอย่างละเอียด แท้จริงแล้วเป็นโลงศพที่ว่างเปล่า ไม่มีอะไรเลย “หรือว่ามีคนเปิดโลงศพก่อนพวกเราเจ้าคะ?” จือเฉาถามอย่างสงสัย ลั่วชิงยวนส่ายหัว “ฝาโลงปิดสนิทมาก ถ้ามีคนเคยเปิดมาก่อน จะต้องมีร่องรอย” “อย่างนั้นก็หมายความว่า... ” จือเฉาขมวดคิ้วและคิด ลั่วชิงยวนขมวดคิ้ว แววตาเย็นชาเล็กน้อย “ตั้งแต่การฝังศพ นี่ก็เป็นโลงศพที่ว่างเปล่า” สมบัติอะไรกันล่ะ? แม้แต่ศพของแม่นางก็ไม่มี จือเฉาตกใจมาก “พระชายา ท่านแม่ของท่านยังมีชีวิตอยู่!” ลั่วชิงยวนก็คิดอย่างนี้เช่นกัน แอบกำหมัดแน่น และพูดว่า “ข้าไม่รู้” ถ้าแม่ของนางยังมีชีวิตอยู่ แล้วทำไมต้องแกล้งตาย? หากเป็นเพราะต้องแกล้งตายด้วยเหตุผลบางอย่าง งั้นลั่วไห่ผิงต้องห้ามนางไม่ให้ไปค้นหาสมบัติของแม่นางขนาดนั้น ตามเหตุผลแล้วน่าจะช่วยแม่ของนางปิดบังความจริงว่ายังมีชีวิตอยู่ ถ้าเป็นเช่นนั้น ลั่วไห่ผิงน่าจะปกป

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 33

    “อะไรนะ นางขุดหลุมศพแม่ของนางรึ?!” ในห้องหนังสือ มีเสียงตกใจออกมา ชายผู้หนึ่งลุกขึ้นทุบโต๊ะ เซียวชูพยักหน้า “พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมเห็นกับตา แต่ในโลงศพแม่ของนาง ว่างเปล่าพ่ะย่ะค่ะ” เมื่อได้ยิน ฟู่เฉินหวนก็ตกใจมากยิ่งขึ้น “ว่างเปล่า?” เขาหรี่ตาลงเล็กน้อย มีแสงลึกล้ำในดวงตา “ไม่น่าแปลกใจ ที่ลั่วไห่ผิงหลีกเลี่ยงเรื่องเถ้ากระดูกของแม่นาง แล้วยังต้องเชิญนักพรตเต๋ามาขับไล่ผีให้ลั่วชิงยวน นี่ลั่วไห่ผิงซ่อนความลับลับลมคมในอะไรไว้กันแน่? ” เป็นเพราะจู่ ๆ ลั่วไห่ผิงพูดออกมาว่า ต้องการเชิญคนมาขับไล่วิญญาณร้าย เขาจึงเกิดความสงสัย จึงเซียวชูไปจับตาดูความเคลื่อนไหวของจวนอัครอัครเสนาบดีตลอดเวลา คิดไม่ถึงว่าจะพบความลับจริง ๆ ซูโหยวที่อยู่ข้าง ๆ อดไม่ได้ที่จะรู้สึก “คุณหนูลั่วกล้าหาญมากจริง ๆ ยังขุดหลุมศพแม่ของตน หากพ่อของนางรู้ เกรงว่าจะเฆี่ยนนางจนตาย” “ใช่ หากไม่ได้เห็นด้วยตาข้าเอง ข้าคงไม่เชื่อ มันคงนอกรีตเกินไป” เซียวชูก็ถอนหายใจ ฟู่เฉินหวนขมวดคิ้ว มีความคิดซับซ้อนซูโหยวอดไม่ได้ที่จะพูดว่า “ท่านอ๋องทรงคิดว่า สิ่งที่เขากำลังหานั้นเกี่ยวข้องกับแม่ของลั่วชิงยวนด้วยหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ” ฟู

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 34

    “อ๊า…” ยามดึกก็มีเสียงกรีดร้องมาจากจวนมหาเสนาบดีอันเงียบสงัด ปลุกคนที่หลับหลายคนให้ตื่นทันที ลั่วเยวี่ยอิงลืมตาขึ้นทันที เสียงอะไร?! นางตะโกนเรียกทาสใบ้โดยไม่รู้ตัว แต่คืนนี้ทุกคนถูกขอให้อยู่ในห้องของตนและไม่อนุญาตให้ออกมา ทาสใบ้ไม่ได้อยู่ในลานจวน เรียกนางนางก็ไม่ได้ยิน รอบ ๆ มืดมิดสนิทไปหมด นางยืนขึ้นจุดตะเกียงอย่างตกใจหวาดผวา หากไม่มืดบางทีก็อาจจะไม่กลัว แต่ขณะที่นางเดินไปที่แสงเทียน จู่ ๆ ร่างหนึ่งก็รีบวิ่งไปที่ประตู ทุบอย่างบ้าคลั่ง ปัง ปัง ปัง… พร้อมกับเสียงคำรามและเสียงกรีดร้องที่เลือนราง ลั่วเยวี่ยอิงหน้าซีดด้วยความหวาดกลัว กรีดร้องและหมอบลงกับพื้นทันที ขดตัวอยู่ในมุม มองดูร่างที่ชัดเจนตรงประตู เสียงเคาะประตูห้องอย่างบ้าคลั่ง นางขนพองสยองเกล้าทั้งตัว หวาดกลัวมาก"พ่อ..."“โฮก… คืนชีวิตข้ามา คืนชีวิตข้ามา!” ลั่วชิงยวนยกมือขึ้นและทุบประตูอย่างบ้าคลั่ง เสียงคำรามดังกึกก้อง ลั่วเยวี่ยอิงหวาดกลัวมากจนตัวสั่น หลับตาและไม่กล้ามองเลย ลั่วชิงยวนรู้ว่า เวลานี้ลั่วเยวี่ยอิงต้องตกใจตายแน่นอน ก็ไถลลงสู่พื้นทีละนิด ค่อย ๆ หลบหนีไป ไม่มีเสียงแล้ว ลั่วเยวี่ยอิงรวบรวมความ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 35

    “นักพรตเต๋า สถานการณ์เป็นเยี่ยงไรบ้าง? ปราบวิญญาณร้ายได้หรือไม่? ” ลั่วไห่ผิงถามอย่างเคร่งขรึม นักพรตเต๋าจอมหลอกลวงปาดเหงื่อแล้วพูดว่า “วิญญาณร้ายนี้ร้ายกาจนัก ข้าไล่นางออกจากจวนอัครเสนาบดีชั่วคราว ไม่มีอะไรแล้ว” ได้ยินเช่นนี้ ลั่วไห่ผิงก็โล่งใจหน่อย มองไปทางห้องทันที แล้วพูดว่า “ลูกสาวของข้าล่ะ” “เมื่อคืนนี้ลูกสาวของท่านก็ถูกวิญญาณร้ายทรมานอย่างหนัก ตอนนี้หลับไปแล้ว หลังตื่นน่าจะกลับมาเป็นปกติ” ได้ยินเช่นนี้ ลั่วไห่ผิงก็โล่งใจมากขึ้น “งั้นก็ดี ข้าหวังว่า นักพรตเต๋าจะอยู่ต่ออีกสักสองวัน ให้แน่ใจว่าวิญญาณร้ายนี้จะไม่กลับมา! ข้าจะตอบแทนรางวัลให้ท่านอย่างงามเป็นแน่!” “ขอรับ” นักพรตเต๋าจอมหลอกลวงสีหน้านิ่งไม่ไหวติง ไม่มีการตอบสนองต่อเงินเลย ลั่วไห่ผิงยิ่งมั่นใจว่า ท่านอาจารย์ผู้นี้ช่างเก่งกาจที่จริงแล้วเป็นเพราะว่า เงินนี้ก็จะมอบให้กับลั่วชิงยวนด้วย ไม่อาจตกไปอยู่ในมือของเขาได้ นักพรตเต๋าจอมหลอกลวงเพียงต้องการให้เรื่องนี้ยุติลง คุณหญิงท่านนั้นสามารถให้ของที่แก้ไสยศาสตร์แก่เขา เงินไม่สำคัญเท่ากับชีวิต …… ลั่วชิงยวนที่ไม่ได้นอนทั้งคืน ทั้งไปขุดโลงศพที่หลุมศพของบรรพบุรุษ ทั้

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 36

    ลั่วเยวี่ยอิงตื่นขึ้นมาด้วยความงุนงง เมื่อเห็นนาง มีสีหน้าระแวงและพูดว่า “เจ้า...” ลั่วชิงยวนรีบพูดขัดด้วยเสียงสะอื้นว่า “ทำไมน้องถึงดูซีดเซียวได้ถึงเพียงนี้ เมื่อคืนเกิดเรื่องอะไรขึ้นรึ? ถึงทำให้น้องสาวตกใจเยี่ยงนี้ เป็นความผิดของพี่เอง” สายตาของลั่วเยวี่ยอิงเต็มไปด้วยความประหลาดใจ ทาสใบ้ที่ยืนอยู่ในลานได้ยินเช่นนี้ ก็โล่งใจมาก ดูท่าจะถูกวิญญาณร้ายเข้าสิงมาก่อนจริงๆ ขับไล่วิญญาณร้ายไปแล้วก็กลับมาเป็นปกติ ลั่วชิงยวนลูบชามยาที่ร้อน ๆ นางตักน้ำแกงยาหนึ่งช้อน ป้อนให้ลั่วเยวี่ยอิง “น้องสาว กินยาเถิด” ลั่วเยวี่ยอิงจ้องมองนางอย่างหน้าบูดบึ้ง เอ่ยปากเรียกทาสใบ้ แต่ลั่วชิงยวนยิ้ม และตักน้ำแกงยาร้อน ๆ หนึ่งช้อนยัดเข้าไปในปากของลั่วเยวี่ยอิง “น้องสาว กินยาอย่างเชื่อฟังสิ กินยาแล้วถึงจะดีขึ้นนะ” ในปากของลั่วเยวี่ยอิงพองขึ้นทันทีหลังจากกินยาสมุนไพรร้อน ๆ ไปหนึ่งช้อน นางยันร่างที่อ่อนแอให้ลุกขึ้น อยากจะเรียกทาสใบ้ แต่จู่ ๆ เสียงก็แหบแห้งเมื่อนางอ้าปาก จือเฉาตอบสนองอย่างเร็ว เดินเข้าไปจับลั่วเยวี่ยอิงทันที หญิงสาวผู้นี้เคยทำร้ายพระชายามาสามสี่ครั้งแล้ว คราวนี้ถึงทีแก้แค้น ลั่วชิง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 37

    จือเฉาหยิบโอสถทาแผลขึ้นมาทันที ใช้เข็มเจาะตุ่มอย่างระวัง แล้วจึงทาโอสถก่อนพันแผล …… หลังมื้อเย็น ลั่วไห่ผิงก็มาด้วยความโกรธจัด ลั่วชิงยวนลุกขึ้นเข้าไปทักทายว่า “ท่านพ่อ” ลั่วไห่ผิงเดินมาด้วยความโกรธ ยกฝ่ามือขึ้นตบอย่างแรง เพียะ… เสียงตบหน้าดังขึ้น ลั่วชิงยวนถูกตบจนเลือดออกที่มุมปาก ในขณะนั้น นางแผ่เจตนาฆ่าในสายตาที่เย็นชา พลางหลับตาระงับความโกรธไว้ เงยหน้าขึ้นมอง แววตาที่ชัดเจน เต็มไปด้วยความสับสนและน้อยใจ “ท่านพ่อ…” ลั่วไห่ผิงเต็มไปด้วยความโกรธ “ยังจะเสแสร้ง ข้าถามเจ้าหน่อย แผลพองเต็มปากของน้องสาวเจ้า นางทำตัวเองหรืออย่างไร? รู้ไหมว่าเกือบจะทำลายลำคอของนางแล้ว ข้าคิดว่า ก่อนนี้เจ้าถูกวิญญาณชั่วร้ายเข้าสิง ไล่ผีวิญญาณร้ายให้เจ้าก็จะดีขึ้นแล้ว! ใครจะรู้ว่าเจ้ากำลังซ่อนจิตใจที่ชั่วร้าย และต้องการจะฆ่าน้องสาวของเจ้าเอง!” ลั่วไห่ผิงพลันน้ำตาไหลด้วยความน้อยใจ “ท่านพ่อ ข้าจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่า ก่อนหน้านี้เกิดอะไรขึ้น แต่ทำไมท่านไม่ฟังข้าอธิบายก่อนที่จะตีข้าล่ะ? ท่านพ่อเคยรักข้ามากที่สุดไม่ใช่หรือ?” ดูท่าทางน้อยใจของนางสิ ทำให้ลั่วไห่ผิงเบื่อหน่าย หัวบวมด้วยความโกรธอีกครั

บทล่าสุด

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1221

    ลั่วชิงยวนตกใจเล็กน้อยแล้วยื่นมือออกไปนอกช่อง พยายามดึงถุงเข้ามาแล้วหยิบขวดยาออกมาทีละขวดหลังจากตรวจสอบดูว่ามียาอะไรบ้าง ลั่วชิงยวนก็กินยาเม็ดหนึ่งนางกำลังจะถามฉู่จิ้งว่าหายาพวกนี้มาจากที่ใด แต่เมื่อมองไปที่มุมห้องก็กลายเป็นว่าฉู่จิ้งขดตัวหลับไปเสียแล้วลั่วชิงยวนลากผ้าห่มมาห่มให้เขาเมื่อเข้าเหมันตฤดู พลังของฉู่จิ้งจะอ่อนแอลง ทำให้เขาง่วงนอนและต้องจำศีล ปกติแล้วจะมิค่อยตื่นขึ้นมาการออกไปหายาคงจะต้องใช้พลังทั้งหมดที่มียาที่นำมาเพียงพอสำหรับพวกเขาใช้ในช่วงระยะเวลาหนึ่ง ได้แต่หวังว่าเหมันตฤดูจะผ่านพ้นไปโดยเร็วในห้องลับที่มืดมิด ลั่วชิงยวนได้แต่นอนและกินเท่านั้น มองมิเห็นแสงตะวัน มีเพียงความมืดมิดมิรู้จบห้วงเวลาแห่งความทุกข์ทรมานช่างยาวนานเหลือเกินเสบียงแห้งแข็งราวกับหิน ทั้งแห้งและแข็งจนกลืนลำบาก กลืนลงไปแล้วก็เหมือนกินใบมีด เจ็บคอมากบาดแผลทั่วร่างก็มิสามารถล้างทำความสะอาดได้ ได้แต่ใช้ผ้าสะอาดเช็ดรอบแผล ทายาและพันแผลใหม่ทุกวันถึงแม้ว่าบาดแผลส่วนใหญ่จะมิแย่ลง แต่ก็มิได้ดีขึ้นเลยในห้องลับนั้นหนาวเหน็บ หนาวจนต้องห่มผ้าห่มสองผืนแต่ก็ยังคงรู้สึกหนาวผิวแห้งแตกไปหมด บางค

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1220

    ลั่วฉิงรีบกลับไปที่ตำหนัก ค้นหาทั่วทุกซอกทุกมุมแต่ก็มิพบลั่วชิงยวนนางขมวดคิ้ว ลั่วชิงยวนถูกซ่อนไว้ที่ใดกันแน่!กลยุทธ์จักจั่นลอกคราบนี้เป็นฝีมือของลั่วชิงยวนเอง หรือฟู่เฉินหวนเป็นผู้บงการ?หากเป็นฟู่เฉินหวน แล้วเขาคิดจะทำอะไร!ลั่วฉิงออกจากตำหนักอ๋องด้วยความโกรธ และส่งคนไปเฝ้าประตูหน้าและประตูหลังของตำหนักอ๋องไว้หากลั่วชิงยวนปรากฏตัว ต้องจับนางให้ได้ในทันที!ในเมื่อเฉินชีไปซีหลิงแล้ว ก็ต้องสู้กับฟู่เฉินหวนจนตายไปข้างหนึ่ง มีเพียงช่วงเวลานี้เท่านั้นที่สามารถจับลั่วชิงยวนได้ มิเช่นนั้นก็จะไม่มีโอกาสอีก!......ลั่วชิงยวนถูกกัดจนสะดุ้งตื่นความเจ็บปวดที่ข้อเท้าทำให้นางสะดุ้งตื่น นางลืมตาขึ้นอย่างงุนงง เมื่อพยุงตัวเองลุกขึ้นนั่งก็เห็นงูนอนขดอยู่ข้างเท้าของนาง และกัดนางเข้าทันทีที่รู้สึกตัว นางก็รู้สึกเจ็บปวดที่ท้องอย่างรุนแรงนางก้มลงมองใต้แสงสลัว เมื่อเห็นเลือดไหลนองพื้นใต้ชายกระโปรงก็ตกใจสุดขีดขณะที่ลูบท้อง น้ำตาของลั่วชิงยวนก็ไหลรินไม่มีแล้ว!ไม่มีลูกแล้ว!เป็นเช่นนี้ได้อย่างไร?ลั่วชิงยวนมิรู้ว่าตัวเองสลบไปนานเท่าใด แต่นึกถึงคืนที่ถูกขังไว้ ยาที่ฟู่เฉินหวนกรอกให้นา

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1219

    “แต่ก่อนหน้านี้ท่านอ๋องก็เคยรับลั่วเยวี่ยอิงเป็นพระชายารองมาก่อน เรื่องของลั่วเยวี่ยอิงกับเหยียนผิงเซียวก็ดังไปทั่ว ท่านอ๋องยังแต่งงานกับลั่วเยวี่ยอิง”“ตอนนั้นท่านยังมิรู้สึกเสียหน้า เหตุใดจึงมารู้สึกตอนที่พระชายาอ๋องทำให้ท่านเสียหน้าเล่า!”“ใช่ นี่มันมากเกินไปแล้ว!”“ก่อนหน้านี้พระชายาอ๋องยังเป็นถึงมหาปราชญ์ ทั้งยังได้รับการแต่งตั้งเป็นองค์หญิงด้วย! ท่านอ๋องช่างอาจหาญนัก บอกว่าจะฆ่าก็ฆ่า!”“ท่านก็มิได้ฆ่าอย่างเปิดเผย แค่ไฟไหม้ พระชายาจึงสิ้นใจไป ใครจะมีหลักฐานว่าท่านเป็นคนฆ่า เฮ้อ...”“น่าสงสารพระชายา ต้องอดทนมาตลอดชีวิต”เพียงวันเดียว ชื่อเสียงของฟู่เฉินหวนก็เสื่อมเสียลงอย่างมากจือเฉาคุกเข่าร้องไห้อยู่ท่ามกลางซากปรักหักพังครึ่งวัน เดิมทีอยากจะออกจากตำหนักอ๋องไปแต่กลับถูกองครักษ์ขวางไว้ “เจ้าออกจากตำหนักมิได้”“เหตุใด? พระชายาจากไปแล้ว ข้ามิอยากอยู่ในที่แห่งนี้แล้ว!” จือเฉาพูดพลางน้ำตาไหล“ไม่มีเหตุผล เจ้าไปมิได้”กล่าวจบ องครักษ์สองคนก็ลากจือเฉาไปขังไว้ในเรือนอีกแห่ง“ปล่อยข้า! ปล่อยข้า!”“พวกเจ้าจะทำอะไร!”ประตูลั่นดาล จือเฉาทุบประตูอย่างสุดกำลังแต่ก็ไร้ผลสุดท้ายก

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1218

    ฟู่เฉินหวนยังคงนิ่งเงียบ มิเอ่ยคำใดสักคำจักรพรรดิสูงสุดโกรธจัด พลันตบหน้าฟู่เฉินหวนเข้าไปอีกสองฉาดอย่างแรงจนตัวเองเกือบล้มลงไปที่พื้นดีที่ขันทีรีบเข้ามาพยุงไว้ได้ทันจักรพรรดิสูงสุดชี้นิ้วไปที่ฟู่เฉินหวนด้วยความโกรธจัดจนแทบหายใจมิออก “เจ้ามันโหดร้ายเกินไปแล้ว!”ฟู่เฉินหวนยังคงมีสีหน้าเรียบเฉย “คนที่อยากได้สิ่งที่ยิ่งใหญ่ ก็ต้องยอมเสียสละบ้างเป็นธรรมดา”“เจ้าอยากให้ข้าตายใช่หรือไม่!” จักรพรรดิสูงสุดโกรธจนแทบคลั่ง อยากจะเข้าไปเตะซ้ำอีกสักสองที แต่แล้วก็วูบหมดสติไปจักรพรรดิสูงสุดเป็นลมล้มพับไปหมอหลวงรีบมาตรวจชีพจรและตรวจร่างกายอย่างละเอียด เมื่อแน่ใจว่าไม่มีอันตราย ฟู่เฉินหวนก็ขอตัวออกไปเขาเดินไปเข้าเฝ้าจักรพรรดิที่ห้องทรงพระอักษรทั้งที่ยังมีรอยฝ่ามือแดงปรากฏอยู่บนใบหน้าฟู่อวิ๋นโจวตอนนี้ร้อนใจยิ่งกว่าจักรพรรดิสูงสุด รีบถามทันที “ลั่วชิงยวนปลอดภัยดีใช่หรือไม่?”ฟู่เฉินหวนยังคงตอบเหมือนเดิม “นางตายแล้ว”ฟู่อวิ๋นโจวตัวแข็งทื่อทันใด ตะลึงงันราวถูกฟ้าผ่าเขาจ้องมองฟู่เฉินหวนด้วยความตกใจ ดวงตาพลันกลายเป็นสีแดงก่ำด้วยความโกรธ จากนั้นวิ่งเข้ามากระชากคอเสื้อฟู่เฉินหวน“ฟู่เฉินหว

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1217

    “พ่ะย่ะค่ะ!”ศพถูกนำออกจากตำหนักอ๋องเฉินชีที่กำลังรีบมาที่ตำหนักอ๋องบังเอิญเห็นเข้า จึงรีบเข้าไปในตำหนักอ๋อง แล้วตรงไปยังเรือนที่ลั่วชิงยวนพักอาศัยก็เห็นเรือนที่ถูกไฟไหม้จนหมดสิ้นเฉินชีตกใจมาก รีบคว้าคอเสื้อคนรับใช้คนหนึ่งมาถามเสียงดัง “ลั่วชิงยวนอยู่ที่ใด!”ท่าทางดุร้ายนั้นทำให้ทุกคนหวาดกลัว“พระชายา... ถูกไฟคลอกสิ้นไปแล้ว!”ได้ยินดังนั้น สีหน้าของเฉินชีก็เปลี่ยนเป็นซีดเผือดทันทีก่อนจะรีบไปที่เรือนด้านหน้า ปรากฏตัวต่อหน้าฟู่เฉินหวน จิตสังหารแผ่ซ่านจนทำให้องครักษ์ในเรือนชักดาบขึ้นมาด้วยความระมัดระวังแล้วเข้าล้อมเฉินชีไว้“ฟู่เฉินหวน ลั่วชิงยวนอยู่ที่ใด!”ฟู่เฉินหวนที่มีสีหน้าเย็นชากล่าวอย่างใจเย็น “ตายแล้ว”เฉินชีโกรธจัด กระโจนเข้าใส่ฟู่เฉินหวน “ไฟไหม้เป็นฝีมือของเจ้าใช่หรือไม่?!”ถึงแม้จะมิใช่เขาที่จุดไฟ ก็ต้องเป็นเขาที่สั่งให้คนจุด!มิเช่นนั้นทั้งตำหนักอ๋อง เหตุใดจึงมีเพียงเรือนของลั่วชิงยวนที่ถูกไฟไหม้!คนในตำหนักมากมาย เหตุใดจึงมีเพียงลั่วชิงยวนคนเดียวที่ตาย!แต่ฟู่เฉินหวนหาได้ปฏิเสธไม่ เขามองเฉินชีด้วยแววตาดุดัน เต็มไปด้วยความเป็นศัตรู“นางทรยศข้า ต่อให้ข้าต้อง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1216

    สุดท้ายเหลือเพียงช่องเล็ก ๆ ที่มีแผ่นไม้ตอกปิดไว้ กลายเป็นหน้าต่างที่เปิดปิดได้ในตอนนั้นลั่วชิงยวนยังรู้สึกโชคดีที่เขามิได้ปิดตายนางไว้หลังกำแพงแต่หลังจากที่ปิดหน้าต่างนั้นแล้วก็ถูกลงกลอนจากด้านนอก บริเวณโดยรอบตกอยู่ในความมืดมิดได้ยินเสียงฝีเท้าที่เดินจากไปห่างไกลออกไปเรื่อย ๆลั่วชิงยวนพิงกำแพงพลางทรุดตัวลงนั่งอย่างอ่อนแรงเมื่อมองค่ายกลขนาดใหญ่แล้วก็รู้สึกหดหู่ใจครั้งนั้นนางช่างรู้เท่ามิถึงการณ์ กลับเป็นผู้สร้างกรงขังตนเองเสียได้เมื่อนานมาแล้ว เพื่อแลกชีวิตของลั่วหลางหลางคืนมานางจึงได้ตั้งค่ายกลผนึกห้องนี้เอาไว้เดิมทีที่นี่ควรจะเป็นเรือนเล็ก ๆ ที่เต็มไปด้วยดอกไม้และต้นไม้ตอนนั้นนางมิเคยคิดเลยว่าสุดท้ายตนเองจะถูกขังไว้ที่นี่ทันใดนั้นนางก็รู้สึกมึนหัวและล้มลงกับพื้นอย่างอ่อนแรง......จือเฉาซื้อของมากมายและกลับมายังตำหนักอ๋องนางถือสมุนไพรเดินไปที่เรือนครั้งนี้ซื้อสมุนไพรมามากมาย ต้องทำให้แผลของพระชายาหายดีได้อย่างแน่นอนแต่เมื่อเข้าไปในเรือนด้านในก็ได้ยินเสียงดังโวยวายมีแต่ความวุ่นวายสับสนจือเฉาตกใจเล็กน้อย เงยหน้าขึ้นมองจึงเห็นแสงไฟลุกไหม้มาจากทางเรือนพระช

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1215

    และสองคือช่วยจือเฉาขนของสิ่งที่ทำให้จือเฉาตกใจคือ เดิมทีนางคิดว่าจะไปที่หอฝูเสวี่ยเพื่อเบิกเงิน แต่กลับพบว่าองครักษ์ช่วยจ่ายเงินให้นางจือเฉางุนงงตลอดทาง มิเข้าใจว่าท่านอ๋องต้องการทำอะไรกันแน่ตอนนี้เป็นเวลากลางคืน ร้านค้าที่เปิดมีมิมาก ดังนั้นจือเฉาจึงต้องวิ่งไปหลายที่โดยเฉพาะการหาสมุนไพร นางแทบจะต้องเคาะประตูโรงหมอและร้านขายยาทั่วเมืองหลวง......ในคืนนั้นลั่วชิงยวนนอนซมอยู่บนเตียง ทันใดนั้นประตูห้องก็ถูกผลักเปิดออกลมหนาวพัดโชยเข้ามา ทำให้ลั่วชิงยวนไอออกมา“แค่กแค่กแค่ก... จือเฉา ดูสิว่าหน้าต่างถูกลมพัดเปิดออกหรือไม่... แค่กแค่กแค่กแค่กแค่ก...”ลั่วชิงยวนไอมิหยุด ได้แต่มุดเข้าไปในผ้าห่มแต่ทันใดนั้น ผ้าห่มก็ถูกกระชากออกลั่วชิงยวนสะดุ้งตื่น เงยหน้าขึ้นจึงเห็นฟู่เฉินหวนนางพยายามพยุงตัวเองลุกขึ้นนั่ง “ท่านจะทำอะไร?”นางอ่อนแอจนแม้แต่การถามในตอนนี้ก็ยังไร้เรี่ยวแรงแต่ฟู่เฉินหวนกลับมิพูดอะไรสักคำจากนั้นองครักษ์ก็กรูกันเข้ามาในห้อง จับแขนของลั่วชิงยวนและลากนางออกจากห้องความหนาวเหน็บถาโถมเข้ามา ลั่วชิงยวนอ้าปากจะพูด แต่กลับถูกองครักษ์ปิดปากไว้แน่นลั่วชิงยวนที่บาด

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1214

    “หากต้องการแก้ไข มีเพียงการที่หม่อมฉันต้องไปซีหลิงด้วยตัวเอง”ลั่วชิงยวนกล่าวอย่างหนักแน่นนี่เป็นหนทางรอดเดียวของนางเมื่อฟู่เฉินหวนได้ยิน สีหน้าก็เปลี่ยนไปเขามองนางด้วยความสงสัย “นี่เป็นผลลัพธ์เดียวหรือ?”“เพคะ”แต่ฟู่เฉินหวนกลับมิค่อยเชื่อ มองนางด้วยแววตาดุดัน “ไม่มีเข็มทิศอาณัติสวรรค์ จะทำนายได้แม่นยำหรือ?”“แม่นยำเพคะ”“เข็มทิศอาณัติสวรรค์เป็นเพียงตัวช่วย มิใช่สิ่งจำเป็น”“ทิศทางหลักจะมิผิดพลาด”แท้จริงแล้วนางทำนายหนทางรอดของตัวเองการทำนายโชคชะตาบ้านเมือง มีเพียงเข็มทิศอาณัติสวรรค์เท่านั้นที่ทำนายได้กองทัพแคว้นหลีบุกประชิด เป็นนางเองที่บอกให้เฉินชีทำ สิ่งที่นางต้องการทำนายคือเส้นทางของตัวเองหลังจากที่ฟู่เฉินหวนฟังแล้วก็มิได้ตอบ เพียงแค่หันหลังเดินจากไป......ลั่วฉิงกำลังรอข่าวจากฟู่เฉินหวนอย่างกระวนกระวาย เดินวนไปมาด้วยความร้อนใจเมื่อเห็นฟู่เฉินหวนมาแล้ว จึงรีบเข้าไปถาม “เป็นอย่างไรบ้าง? ผลลัพธ์คืออะไร?”ฟู่เฉินหวนตอบ “เป็นภัยพิบัติของซีหลิง”ได้ยินดังนั้น ลั่วฉิงก็ตกใจเล็กน้อย “ภัยพิบัติของซีหลิงหรือ? หมายความว่าอย่างไร? แคว้นหลีต้องการยึดครองซีหลิงงั้นหรื

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1213

    สายลมหนาวพัดผ่านมา ปอยผมของลั่วชิงยวนปลิวไสวตัดกับผ้าคลุมสีขาว ทำให้ร่างบางของนางดูราวกับจะปลิวหายไปกับสายลมในตอนนั้นก็มีขบวนคนเดินมาเมื่อเห็นบุคคลที่อยู่ข้างหน้าในชั่วขณะที่สบตากันก็เกิดอารมณ์ที่ซับซ้อนเมื่อเฉินชีเห็นฟู่เฉินหวน เขายกยิ้มอย่างเย็นชา โอบนางไว้แน่นขึ้นลั่วชิงยวนไร้เรี่ยวแรงจะขัดขืน“เฉินชี! เจ้ายังกล้ามาอีกรึ!” ฟู่เฉินหวนมีสีหน้าบึ้งตึง โทสะปะทุในใจองครักษ์รีบเข้ามาล้อมเฉินชีและลั่วชิงยวนไว้เฉินชีจำใจปล่อยลั่วชิงยวนแล้วกล่าวด้วยรอยยิ้ม “อาเหลา ข้าจะรอเจ้า”กล่าวจบ เขาก็ใช้วิชาตัวเบากระโดดหนีไปองครักษ์รีบไล่ตามส่วนลั่วชิงยวนยืนนิ่งอยู่กับที่ มองฟู่เฉินหวนที่ค่อย ๆ เดินเข้ามาหาฟู่เฉินหวนมีสีหน้าบึ้งตึง แววตาซับซ้อนนั้นแฝงไปด้วยความโกรธ“บทเรียนเมื่อวานคงยังมิเพียงพอ เจ้ายังกล้าแอบออกจากตำหนักมาพบเฉินชีอีกรึ?!”ลั่วชิงยวนไร้เรี่ยวแรงจะอธิบาย ได้แต่ยิ้มอย่างเศร้าสร้อย “หากท่านคิดเช่นนั้น หม่อมฉันก็มิมีทางเลือก”“เหตุใดหม่อมฉันจึงมาอยู่ที่นี่ ในใจของท่านน่าจะรู้ดีกว่าหม่อมฉัน”เมื่อคืนฟู่เฉินหวนมิสามารถเค้นวิธีใช้เข็มทิศอาณัติสวรรค์จากนางได้ จึงส่งนา

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status