แชร์

บทที่ 20

ผู้เขียน: หว่านชิงอิ๋น
"แม่นมกู้ ในกล่องว่างเปล่าไม่มีสิ่งใดอยู่เลย!" นางขมวดคิ้วและรีบลุกขึ้นเพื่อมองหาแม่นมกู้

แม่นมกู้เพิ่งจะเดินมาถึงตู้ นางเหลือบมองไปที่กล่องเปล่าอย่างตกใจ "ไม่มีสิ่งใดเลยหรือเจ้าคะ?"

"ใครเอาสมบัติของแม่คุณหนูไปกัน!" ทันใดนั้นแม่นมกู้ก็รู้สึกเป็นกังวลใจขึ้นมา

ลั่วชิงยวนขมวดคิ้วพลางนึกคิด สมบัตินี้มิน่าจะเพิ่งหายไป ก่อนหน้านี้ต้องมีคนมาแอบเอามันไปเป็นแน่ เพียงแต่ลั่วชิงยวนและแม่นมกู้ไม่ทันได้สังเกตเท่านั้น

หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง นางก็ขมวดคิ้ว “ลั่วเยวี่ยอิง!”

นางรีบสาวเท้าเดินออกจากห้องไปทันที

มีเพียงลั่วเยวี่ยอิงเท่านั้นที่เคยพานางรับใช้มาที่ห้องของนาง ในเวลานั้นลั่วชิงยวนคิดว่า นางคือน้องสาวสุดที่รัก และไม่เคยคิดสงสัยในตัวของลั่วเยวี่ยอิงเลย นอกจากลั่วเยวี่ยอิงแล้ว ใครจะกล้าแตะต้องสมบัติของแม่นางกัน!

เมื่อก่อนนางมิได้ใส่ใจกับเรื่องเหล่านี้ แต่เมื่อมาเห็นผังฮวงจุ้ยของตระกูลลั่ว นางก็รู้สึกสงสัยเป็นอย่างมาก และต้องการตรวจสอบให้ได้ว่าแม่ของลั่วชิงยวนเป็นใครกัน! และนางเป็นปรมาจารย์ฮวงจุ้ยจากแคว้นหลี่หรือไม่ ?

ถ้าหากใช่ ก็น่าจะเป็นคนที่นางรู้จัก

ความคิดเร่งด่วนนี้ ทำให้นาง
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 21

    ลั่วชิงยวนที่บอบช้ำได้บาดแผลเพิ่มขึ้นมาอีกนางเงยหน้าขึ้นด้วยความไม่อยากเชื่อ มองดูท่านพ่อที่เกรี้ยวกราด นางรู้สึกไม่พอใจ "เหตุใดถึงได้ตบตีข้า?"นางรู้สึกโกรธและเจ็บปวดใจ ลั่วชิงยวนก่ออาชญากรรมอะไรอย่างนั้นหรือ ทำไมรอบตัวถึงได้มีแต่คนเยี่ยงนี้ แม้แต่พ่อของนางก็ยังทุบตีนางโดยไร้เหตุผล ทั้ง ๆ ที่ลั่วเยวี่ยอิงเป็นคนเอาสมบัติของแม่นางไปก่อน!ผิดอะไรที่นางอยากได้สมบัติของแม่นางคืน?"เจ้ายังจะกล้าเถียงอีกรึ!" ลั่วไห่ผิงโกรธจัด และตบหน้านางอีกครั้งลั่วชิงยวนเวียนหัวมาก นางไม่มีแม้แต่แรงที่จะหลบหลีก การที่ถูกตบถึงสองคราทำให้ภาพเบื้องหน้าของนางเป็นสีดำ ศีรษะของนางบวมจนทนกับความเจ็บปวดนี้ไม่ไหว เลือดค่อย ๆ ไหลหยดลงบนพื้นนางกำฝ่ามือแน่น เต็มไปด้วยความโกรธ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นและมองตรงไปที่ลั่วไห่ผิงอย่างไม่พอใจ "ข้าทำอะไรผิดอย่างงั้นหรือ? ข้าเพียงแค่ต้องการสิ่งสมบัติของแม่ข้าคืนมาก็เท่านั้น! แต่ท่านพ่อกลับตบตีข้าอย่างไร้เหตุผล ท่านลำเอียงเกินไปหรือไม่!"ในความทรงจำ ลั่วชิงยวนต่างหากที่เป็นผู้ได้รับความรัก และเป็นที่ชื่นชอบของผู้คนมาตั้งแต่เด็ก แต่หลังจากป่วยหนักร่างกายของนางก็อ้วนขึ้น ตั้งแ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 22

    ทุกคนตกตะลึง เมื่อเงยหน้ามองไป พวกเขาเห็นชายผู้หนึ่งในชุดผ้าทอก้าวเข้ามาอย่างมั่นคงช้า ๆ ด้วยลักษณะท่าทางที่ดุดันฟู่เฉินหวนชำเลืองมองไปที่ลั่วชิงยวนที่เปื้อนเลือดอยู่บนพื้นพลางขมวดคิ้วแน่น เขาตกใจมากเมื่อได้ยินคำพูดที่หนักแน่นของนางเรื่องการตัดความสัมพันธ์ ในเมืองหลวงแห่งนี้จะมีผู้หญิงสักกี่คนที่กล้าตัดความสัมพันธ์กับครอบครัวของตนเช่นนี้?หลายวันมานี้เขาสังเกตเห็นว่า ลั่วชิงยวนนั้นเปลี่ยนไป แต่เขาไม่เคยคิดเลยว่านางจะกล้าพูดเช่นนี้ น้ำเสียงที่หนักแน่น และจิตใจที่หยิ่งในศักดิ์ศรี ทำให้เขารู้สึกประทับใจเล็กน้อยหลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็เดินเข้ามาในประตู“กระหม่อมมิทราบว่าท่านอ๋องจะเสด็จมาที่นี่” ลั่วไห่ผิงรีบกำปั้นกำไว้ที่หน้าอกทักทาย “วันนี้กระหม่อมใช้กฎครอบครัวเพื่อสั่งสอนบุตรสาวของกระหม่อม ช่างน่าขายหน้าต่อท่านอ๋องยิ่งนัก”ลั่วไห่ผิงรู้สึกผิดที่บุตรสาวของเขาทำสิ่งที่ไร้ยางอายเช่นการแต่งงานแทน จึงได้ลดท่าทีลงใบหน้าของฟู่เฉินหวนนั้นยังคงเย็นชา เขาเหลือบมองลั่วชิงยวนที่อยู่บนพื้น "ครั้งนี้นางกระทำอันใดผิดกัน เหตุใดท่านถึงได้ใช้กฎครอบครัวเฆี่ยนตีนางเช่นนี้"ลั่วไห่ผิงหน้าเสี

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 23

    เสียงของนางอ่อนแรงมาก แต่ก็ยังสัมผัสได้ถึงเจตจำนง และความดื้อรั้นที่ไม่ยอมแพ้ของนางเขาขมวดคิ้วมุ่น สมบัติอย่างนั้นหรือ? อะไรคือสมบัติที่ลั่วชิงยวนต้องการถึงเพียงนี้กัน?ลั่วเยวี่ยอิงก้าวไปข้างหน้า หวังจะแยกมือของลั่วชิงยวนออก แต่ลั่วชิงยวนมิได้สติ นางกำเสื้อผ้าของฟู่เฉินหวนแน่น โดยไม่มีทีท่าว่าจะปล่อย และยังพึมพำไม่หยุด "เอาสมบัติของแม่ข้าคืนมา! เอาคืนมาให้ข้า!"“ท่านพี่ตื่นเถิด อย่าทำให้เสื้อผ้าของท่านอ๋องเปื้อนสิเจ้าคะ!” ลั่วเยวี่ยอิงพูดขึ้นอย่างร้อนรนอย่างไรก็ตาม ลั่วชิงยวนยังคงจับมันไว้และไม่ยอมปล่อย นางรั้งมันไว้เหมือนฟางเส้นสุดท้ายดวงตาของฟู่เฉินหวนเคร่งขรึม เขาจ้องมองด้วยความขยะแขยง แต่สุดท้ายก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากยอมประนีประนอม "ช่างเถอะ ข้าผู้เป็นอ๋องจะส่งนางกลับเรือนเอง!"เขาก้มลงอุ้มลั่วชิงยวนขึ้นมา แต่ด้วยร่างกายที่หนักอึ้งนี้ แม้แต่ท่านอ๋องที่ฝึกฝนวรยุทธมาตลอดทั้งปี ก็เกือบจะเซทันทีที่ลุกขึ้นเขาอุ้มลั่วชิงยวนขึ้นมาด้วยความยากลำบาก ก่อนจะเดินตามทางที่นางรับใช้บอกไปยังเรือนสายธารเขาวางลั่วชิงยวนลงบนเตียง ใบหน้าของนางซีดเซียวไร้สีเลือด ข้อนิ้วที่จับเสื้อของฟู่

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 24

    ฟู่เฉินหวนตัวแข็งทื่อลั่วไห่ผิงโกรธมากเมื่อได้ยิน คนในครอบครัวท่านอ๋องอย่างนั้นหรือ? นั่นก็คือจักรพรรดิ คือราชวงศ์เชียวนะ!เขาตะคอก "ลั่วชิงยวน เจ้ากำลังพูดจาไร้สาระอะไร! เจ้ารู้หรือไม่ว่าการสาปแช่งจักรพรรดิ และไม่เคารพราชวงศ์เป็นความผิดบาปใหญ่แรงแค่ไหน? เจ้าตั้งใจจะฆ่าคนในจวนอัครเสนาบดีงั้นรึ!"ลั่วชิงยวนหัวเราะเยาะ น้ำตาและเลือดยังคงไหลออกมาไม่หยุดนางกำลังจะตายอยู่แล้ว จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับจวนอัครเสนาบดีด้วยหรือ? จวนอัครเสนาบดีจะเป็นเยี่ยงไรนั้นมิเกี่ยวกับนาง หากมิใช่ท่านพ่อซึ่งเป็นท่านอัครเสนาบดีใช้กฎครอบครัวกับนาง นางจะหมดสติไปถึงขั้นโดนคนวางยาเช่นนี้หรือ!หมอกู้พูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึม "ท่านอ๋อง กระหม่อมได้จ่ายยาเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บแล้ว แต่อาการบาดเจ็บนั้นรุนแรงเกินไปสำหรับพระชายา และนางก็ป่วยกะทันหัน กระหม่อมเกรงว่าจะเหลือเพียงไม่กี่ชั่วยามเท่านั้นพ่ะย่ะค่ะ"เมื่อได้ยินเช่นนี้ ฟู่เฉินหวนก็ขมวดคิ้ว มองไปที่ลั่วชิงยวนที่โชกไปด้วยเลือด เขารู้สึกสงสารนางอยู่ครู่หนึ่งได้รับบาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิตจากอาการป่วยกะทันหันอย่างนั้นหรือ? ลั่วชิงยวนอยากจะอ้าปากแย้ง แต่อาการปวดท้อ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 25

    หลังจากที่ทุกคนจากไป ในเรือนมีเพียงแม่นมกู้ที่กำลังสวดมนต์ภาวนาอยู่ที่เรือน นางค้ำกำแพงพลางเดินเข้ามาในห้องอย่างช้า ๆ นางเช็ดน้ำตาขณะเดินเข้ามา มันช่างน่าสะเทือนใจยิ่งนักเมื่อได้ยินลั่วชิงยวนจับมือของจือเฉา นางพยายามเปิดปาก แต่ใบหน้าเต็มไปด้วยความเจ็บปวด ก่อนจะเปล่งเสียงออกมาอย่างยากลำบาก "กล้วย… กล้วยไม้มังกรขนด..."“กล้วยไม้มังกรขนด? พระชายา ท่านพูดว่า กล้วยไม้มังกรขนดใช่หรือไม่? คืออะไรหรือเจ้าคะ?” จือเฉาได้ยินเสียงพระชายาอย่างชัดเจน นางรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาทันทีลั่วชิงยวนพยายามอ้าปาก "ลาน… สัตว์ในตำนาน… หลังตะเกียงหิน..."จือเฉาเป็นคนฉลาด นางสงบลงทันที "หลังตะเกียงหินสัตว์ในตำนานในลานใช่ไหมเจ้าคะ?""ข้าจะไปบัดเดี๋ยวนี้!"จือเฉาไม่รู้ว่าพระชายากำลังพูดถึงอะไร แต่นางจำตะเกียงหินรูปร่างประหลาดได้ นางวิ่งไปที่ลานด้านหลังตะเกียงหินทันที และดึงดอกไม้รวมถึงพืชหลากสีออกมาทีละกำ ก่อนจะหอบพืชกองใหญ่วิ่งกลับไปที่เรือนสายธารนางถือมันไว้ข้างหน้าลั่วชิงยวน "พระชายา ในนี้มีกล้วยไม้มังกรขนดที่ท่านต้องการหรือไม่เจ้าคะ ถ้าไม่มี ข้าจะไปหามันอีกครั้ง!"นางรู้ว่านี่จะต้องเป็นสิ่งที่สามารถช่วย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 26

    ยามนี้ ใบหน้าของลั่วเยวี่ยอิงก็ซีดลงด้วยความตกใจ นางซ่อนตัวอยู่ในอ้อมแขนของฟู่เฉินหวน"ท่าน... ท่านเป็นคนหรือเป็นผีกันแน่?""แล้วเจ้าคิดว่าข้าเหมือนคนหรือผีกันเล่า?" ลั่วชิงยวนยิ้มอย่างเย็นชาลั่วไห่ผิงรู้สึกตกใจ ลั่วชิงยวนนั้นมิเป็นไรจริง ๆ อย่านั้นหรือ? ท่านหมอบอกว่าสิ้นหวังไปแล้วมิใช่หรือ? เห็นนางอาเจียนเป็นเลือดเยี่ยงนั้น คิดว่าอย่างไรนางก็คงมิรอดแน่! แต่ตอนนี้กลับวิ่งมาอยู่ตรงหน้าของเขาเสียได้"ท่านพี่ ท่านพี่อย่าได้ทำให้คนอื่นตกใจกลัวเยี่ยงนี้เลยเจ้าค่ะ" ลั่วเยวี่ยอิงแสร้งทำเป็นกลัว และซ่อนตัวในอ้อมแขนของฟู่เฉินหวนฟู่เฉินหวนมองลั่วชิงยวนด้วยสายตาที่ซับซ้อน ท่านหมอกู้ถึงกับบอกว่าสิ้นหวัง แล้วเหตุใดนางถึงยังมีชีวิตอยู่ได้?เมื่อเห็นว่าลั่วเยวี่ยอิงตกใจกลัว ลั่วไห่ผิงก็ลุกขึ้นยืนด้วยความโกรธ และมองไปที่ลั่วชิงยวนด้วยสายตาที่เฉียบคม "เจ้ายังอยู่รอดได้ก็นับว่าเป็นโชคดีของเจ้า เหตุใดถึงไม่พักผ่อน แต่กลับวิ่งมาที่นี่เพื่อทำให้น้องสาวเจ้าตกใจกลัว! เจ้าเป็นพี่ประสาอะไรกัน!"ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น คนที่ถูกต่อว่าก็คือลั่วชิงยวนเสมอนางยิ้มอย่างเย็นชา "พวกเจ้าอยากให้ข้าตายไม่ใช่รึ? ข้าม

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 27

    ลั่วชิงยวนโกรธมาก นางเตะประตูอย่างแรง ลั่วไห่ผิงหลีกเลี่ยงเรื่องของแม่นางอย่างเห็นได้ชัด มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่? ลั่วไห่ผิงมีความลับอะไรกัน? "พระชายา เหตุใดพวกเขาถึงขังท่านไว้เช่นนี้เล่าเจ้าคะ?" จือเฉาไปหาอาหารและนำกลับมา แต่ประตูกลับถูกล็อกไว้"ข้าไม่เป็นไร เจ้าไม่ต้องเป็นกังวล" ลั่วชิงยวนนั่งลงบนเก้าอี้อย่างอ่อนแรง คิดหาวิธีการตรวจสอบต่อไปในความเงียบ ท้องก็ร้องโครกครากด้วยความหิว แต่ประตูและหน้าต่างต่างก็ถูกล็อก จือเฉามิสามารถนำอาหารเข้ามาได้ ลั่วชิงยวนทำได้เพียงอดทนกับความหิว และนอนลงบนเตียงเพื่อหลับหนีความหิว……รุ่งสางของวันถัดมา ก่อนที่ลั่วชิงยวนจะตื่นขึ้นมา นางได้ยินเสียงปลดล็อกกุญแจ นางลืมตาขึ้นอย่างสะลึมสะลือ และเห็นนักพรตเต๋าในชุดสีเหลือง ถือดาบไม้ท้อ สั่นกระดิ่ง และเดินเข้ามาพลางพึมพำอะไรอยู่ในปากลั่วชิงยวนพยุงร่างกายของตัวเองขึ้นมา พลางขมวดคิ้ว นักพรตเต๋า?“มีวิญญาณชั่วร้ายล้อมรอบสถานที่แห่งนี้” นักพรตเต๋าสังเกตห้องอย่างเคร่งขรึม จากนั้นดวงตาของเขาก็จับจ้องไปที่ร่างของลั่วชิงยวน "วิญญาณชั่วร้ายรวมตัวกันอยู่ที่นางผู้นี้นี่เอง"จากนั้นลั่วไห่ผิงก็เดินเข้ามาในห้อง พร

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 28

    เมื่อพระอาทิตย์ขึ้น ลั่วชิงยวนที่ถูกมัดไว้กับเก้าอี้ในห้อง อาบแดดที่ส่องเข้ามาจากประตู และผล็อยหลับไปหลายครั้งจนกระทั่งนักพรตเต๋าเดินมาถึงด้านหน้า และบังแสงแดดตรงหน้านางลั่วชิงยวนตื่นขึ้นมา นางเงยหน้าขึ้นและมองดูนักพรตเต๋าที่เทโอสถเม็ดออกมาจากขวด“แม่นางกินโอสถนี้ซะ วิญญาณร้ายจะไม่สามารถเข้าใกล้ท่านได้อีก” นักพรตเต๋ากล่าวอย่างเคร่งขรึม และกรอกโอสถไปที่ปากของนางลั่วชิงยวนหรี่ตาลงเล็กน้อย ดวงตาของนางเย็นยะเยือก "ท่านแน่ใจหรือว่าโอสถนี้สามารถขับไล่วิญญาณชั่วร้ายได้"“แม่นาง อาตมาพบเจอมามากมาย โอสถนี้สามารถรักษาท่านจากสิ่งชั่วร้ายได่เป็นแน่! มีเพียงวิธีนี้เท่านั้นที่จะสามารถขับไล่สิ่งชั่วร้ายออกจากจวนอัครเสนาบดีได้อย่างสมบูรณ์! อาตมาหวังว่าแม่นางจะให้ความร่วมมือ!” นักพรตเต๋าอธิบายเกลี้ยกล่อมให้นางกินโอสถแต่ในระยะอันใกล้เช่นนี้ ลั่วชิงยวนได้กลิ่นของเม็ดโอสถอย่างชัดเจนนางมองไปที่นักพรตเต๋าด้วยรอยยิ้มเย็น ๆ บนริมฝีปาก "ขับไล่สิ่งชั่วร้ายอย่างนั้นรึ? เมื่อกินโอสถนี้เข้าไปจะทำให้ข้าสับสนเป็นบ้า และถึงขั้นสูญเสียความทรงจำต่างหาก!"ขณะนั้นเอง นางรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่า นักพรตเต๋าตัวแ

บทล่าสุด

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1254

    โฉวสือชีได้ยินดังนั้นก็มองนางด้วยความตกใจ“นักบวชหญิงหรือ?!”ลั่วชิงยวนมีสีหน้าสงบนิ่ง กล่าวอย่างใจเย็น “ใช่ มีเพียงข้าได้เป็นนักบวชหญิงเท่านั้น ข้าจึงจะสามารถยกเลิกกฎและระเบียบที่มิยุติธรรมและช่วยคนที่พวกเจ้าอยากช่วยได้”“มิเช่นนั้นถึงแม้ว่าพวกเจ้าจะฆ่าคนไปมากเท่าใด ภายใต้กฎระเบียบนี้ก็ยังคงมีคนมากมายถูกใส่ร้าย ถูกบังคับให้เป็นทาสเหมือนเดิม”หลังจากที่โฉวสือชีฟังจบก็รู้สึกหวั่นไหวเพียงแต่ยังมองลั่วชิงยวนด้วยความมิวางใจ “เจ้าทำได้จริงหรือ?”“แน่นอน มิเช่นนั้นข้าจะมาที่นี่เพื่ออะไร?”โฉวสือชีมองหญิงสาวตรงหน้า เห็นได้ชัดว่านางอ่อนแอและซีดเซียวราวกับจะตายได้ทุกเมื่อกลัวว่าหากร่วมมือกับนาง นางจะตายก่อนที่การใหญ่จะสำเร็จแต่แววตาและน้ำเสียงที่หนักแน่นนั้นกลับทำให้น่าเชื่อถืออย่างบอกมิถูกเห็นว่าโฉวสือชียังคงลังเล ลั่วชิงยวนจึงหยิบเข็มทิศอาณัติสวรรค์ออกมาแล้วใช้สายตาชี้ไปทางตู้เฟิงเฉินที่อยู่บนพื้น“ข้าเห็นอดีตของเขา”“เหตุผลของการมีอยู่ของทาสเป็นสิ่งที่ข้ามิคาดคิด ครอบครัวของเขาถูกทำร้าย แต่มิใช่เหตุผลอันชอบธรรมที่ทำให้เขาทำร้ายผู้บริสุทธิ์ได้”“เขาต่างจากผู้กระทำความผิดตรง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1253

    กล่าวจบ นางก็พูดต่อ “หากข้าอยากอยู่ในเมืองหลวงก็ต้องทำภารกิจปราบพวกเจ้าให้สำเร็จ”โฉวสือชีหัวเราะอย่างเย็นชา “ปราบหรือ? พวกข้าเป็นคน มิใช่สัตว์ เจ้าจะใช้เรื่องแก้ยันต์ผนึกวิญญาณมาขู่ให้พวกเราเชื่อฟังหรือ?”แต่แววตาของลั่วชิงยวนกลับลุกโชนดั่งเพลิง นางยกยิ้มกล่าวด้วยเสียงแผ่วเบา “หามิได้”“ข้าจะพาพวกเจ้า หนีออกจากค่ายทาสนักโทษ”โฉวสือชีได้ยินดังนั้นก็ตกใจมากค่ายทาสนักโทษมีค่ายกลและกลไก ไม่มีใครหนีออกไปได้ง่าย ๆ ยิ่งไปกว่านั้น การป้องกันภายนอกก็แน่นหนา“เจ้าอยู่ในสภาพนี้ ยังจะพาพวกข้าหนีออกจากค่ายทาสนักโทษอีก? อย่าว่าแต่เจ้าทำมิได้เลย ถึงเจ้าจะทำได้ แต่พวกข้าจะเชื่อเจ้าได้อย่างไร?”ลั่วชิงยวนฟังออกว่าโฉวสือชีอยากจะร่วมมือ มิเช่นนั้นคงมินั่งอยู่ที่นี่เพื่อลองใจนาง“เพราะมิใช่แค่พวกเจ้าที่ต้องการแก้ยันต์ผนึกวิญญาณ ข้าคิดว่าสหายและครอบครัวของพวกเจ้าก็ต้องการแก้ยันต์ผนึกวิญญาณเหมือนกัน”คำพูดของลั่วชิงยวนทำให้โฉวสือชีพูดมิออกมองปฏิกิริยาของโฉวสือชีแล้ว ลั่วชิงยวนก็รู้ว่าวิธีของนางถูกต้อง“ข้าอยากรู้ว่า เหตุใดพวกเจ้าถูกสลักยันต์ผนึกวิญญาณแล้วแต่ยังหนีออกมาได้?”โฉวสือชีขมวดคิ้ว

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1252

    โฉวสือชีลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แล้วจึงถอดเสื้อนั่งขัดสมาธิตรงหน้าลั่วชิงยวนลั่วชิงยวนหยิบยันต์ออกมาแปะลงบนรอยสักพลันมีแสงสีทองปรากฏขึ้นบนรอยสัก“เห็นหรือไม่ นี่แสดงว่ายันต์ผนึกวิญญาณมีอยู่จริง”“เมื่อแก้ยันต์ผนึกวิญญาณแล้ว ที่นี่ก็จะมีเพียงรอยสักและแผลเป็น จะไม่มีอักขระเวทแสงสีทองนี้อีก”ลั่วชิงยวนพยายามอธิบายให้พวกเขาฟังหากสามารถตกลงกันได้ด้วยดีก็ดีที่สุด นางมิอยากลงมือต่อสู้อีกแล้วนางสู้มิได้จริง ๆ หงไห่และคนอื่น ๆ ฟังเข้าใจ จึงพยักหน้า “เช่นนั้นเจ้ารีบแก้ยันต์ผนึกวิญญาณให้เขาเถิด”ลั่วชิงยวนก็บังเอิญทำได้ ใต้หล้านี้มีมิกี่คนที่แก้ยันต์ผนึกวิญญาณได้ และนางเป็นหนึ่งในนั้นเพียงแต่ร่างกายของนางตอนนี้จะยิ่งเสียพลังมากขึ้นนางหยิบยันต์ออกมา ก่อนจะใช้มีดกรีดนิ้วเพื่อใช้เลือดวาดยันต์ จากนั้นแปะลงบนหลังของโฉวสือชี วงแหวนแห่งเวทสีทองปรากฏขึ้นซึมเข้าไปในรอยแผลเป็นของยันต์ผนึกวิญญาณไม่มีปฏิกิริยาใดอีก“เสร็จแล้ว” ลั่วชิงยวนกล่าวอย่างใจเย็นโฉวสือชีหันไปมองไหล่ของตัวเอง ดูเหมือนจะมิรู้สึกอะไร “เสร็จแล้วหรือ?”ลั่วชิงยวนจึงทดสอบให้พวกเขาดู ในรอยสักของยันต์ผนึกวิญญาณไม่มีอักขระเว

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1251

    แต่ที่นี่มิได้มีแค่หงไห่คนเดียวยังมีคนชั่วร้ายอีกหลายคนเมื่อพวกเขาลงมือ ลั่วชิงยวนก็ถูกรุมซ้อมจนไร้ทางสู้สุดท้ายก็ถูกหงไห่จับตัวได้ และถูกกดร่างลงกับพื้นแน่นหงไห่หยิบมีดเล่มใหญ่ออกมา ซึ่งยังคงมีคราบเลือดแห้งกรังติดอยู่“ให้ข้าดูหน่อย จะตัดมือข้างไหนก่อนดี?”หงไห่พูดพลางจับข้อมือของนางกดลงพื้นใบมีดคมกริบวางลงบนข้อมือของนางและเคลื่อนไหวไปมาดูว่าจะกรีดตรงไหนดี“ข้างนี้แหละ”เมื่อเห็นว่าหงไห่จะลงมือแล้ว ลั่วชิงยวนก็ร้อนใจ พยายามดิ้นรนแต่ก็ดิ้นมิหลุดจนกระทั่งเงยหน้าขึ้นมองโฉวสือชีเดินผ่านมา ในที่สุดเขาก็ปิดตำราตำราที่คุ้นเคยเล่มนั้นทำให้ลั่วชิงยวนตกใจอาคมนักบวชหญิง!ในขณะที่หงไห่กำลังจะฟันลงมา ลั่วชิงยวนก็ตะโกนด้วยความร้อนใจ—“ข้าแก้ยันต์ผนึกวิญญาณได้!”โฉวสือชีตกใจ รีบหันกลับมาตะโกน “หยุด!”หงไห่ก็หยุดมือทันทีเขาปักมีดลงพื้นแล้วถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา “เจ้าแก้ยันต์ผนึกวิญญาณได้รึ?”“เจ้าเป็นแค่นักบวชหญิงที่เพิ่งมา เจ้าจะแก้ได้อย่างไร”“พวกข้าจับนักบวชหญิงมามากมาย ไม่มีใครแก้ได้สักคน”“หากเจ้ากล้าหลอกลวงพวกข้า ข้าจะหั่นเจ้าเป็นชิ้น ๆ!”ลั่วชิงยวนรีบกล่าว “ข้าทำได

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1250

    ผู้ชายหลายคนจับภรรยาและน้องสาวของตู้เฟิงเฉินไป แล้วลากเข้าไปในห้องเสียงร้องโหยหวนดังระงมตู้เฟิงเฉินร้อนใจ อยากจะช่วยพวกนาง แต่ก็ทำอะไรมิได้“พวกสัตว์เดรัจฉาน!” ตู้เฟิงเฉินพยายามวิ่งเข้าไป แต่กลับถูกฟาดลงไปนอนกับพื้น เขายังลุกขึ้นวิ่งเข้าไปขัดขวางอีกครั้ง“พวกเราสำนึกผิดแล้ว เหตุใดจึงทำกับพวกเราเช่นนี้!” หญิงสาวร้องไห้ดิ้นรน แต่ก็ถูกตบหน้ามิหยุดชายที่ตบนางกล่าวว่า “ทาสก็คือทาส! นี่คือประโยชน์ของพวกเจ้า!”“พวกเจ้าไม่มีสิทธิ์ขัดขืน ยอมรับอย่างสงบก็พอ!”พูดจบ ก็ลากหญิงสาวเข้าไปในห้องแล้วปิดประตูมีเสียงดิ้นรนและกรีดร้องดังมาจากในห้องตู้เฟิงเฉินทรุดตัวร้องเอ่ยนามภรรยาและน้องสาวด้วยความสิ้นหวัง ก่อนจะใช้แรงทั้งหมดที่มีพุ่งชนประตูแต่กลับถูกชายหลายคนจับกดลงพื้นในตอนนั้น ลั่วชิงยวนราวกับสัมผัสได้ถึงความเจ็บปวดของเขาลั่วชิงยวนน้ำตาคลอตู้เฟิงเฉินมิยอมแพ้ พยายามดิ้นรนเข้าไปช่วย แต่กลับถูกรุมซ้อมจนหัวแตก นอนคว่ำอยู่หน้าประตูอย่างอ่อนแรงได้แต่มองประตูที่ถูกเปิดออก มีคนออกมา แล้วมีคนใหม่เข้าไปอีกเมื่อเห็นคนที่เขารักถูกทรมาน เขาก็เกลียดชังจนอยากจะทำลายใต้หล้าที่มิยุติธรรมผืนนี

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1249

    นางยัดเศษผ้าจากชุดที่ถูกกระชากจนขาดเข้าไปในปากของตู้เฟิงเฉินแล้วหยิบผ้าคลุมสีดำขึ้นมาคลุมร่างปกปิดอาภรณ์ที่ขาดวิ่นนางก้มลง แววตามิหวาดกลัวเหมือนก่อนหน้านี้แล้วจ้องมองตู้เฟิงเฉินอย่างเย็นชา“ข่มขืนหญิงสาวยี่สิบสามคน คนชั่วช้าเช่นเจ้า แม้แต่จะปราบเจ้า ข้ายังรังเกียจ”เมื่อตู้เฟิงเฉินรู้ตัวว่าถูกหลอกก็โกรธจัด จ้องมองนางด้วยดวงตาแดงก่ำ พยายามดิ้นรนสุดกำลังแต่ก็ดิ้นมิหลุดลั่วชิงยวนหยิบมีดมากรีดเสื้อของเขา แล้วฉีกออกอย่างแรงแน่นอนที่ไหล่ของเขาก็มียันต์ผนึกวิญญาณเช่นเดียวกันเหตุใดพวกเขาจึงมีเหมือนกันหมดนางรู้แค่ว่าแคว้นหลีมีสถานที่แห่งหนึ่งที่ใช้คุมขังนักโทษโดยเฉพาะมีคนชั่วร้ายที่ก่ออาชญากรรมหรือคนที่ทรยศแคว้นหลี พวกเขาจะมิตาย แต่จะถูกขังไว้ที่นั่นแต่คนชั่วร้ายทั้งสิบคนนี้ พวกเขาหนีออกมาจากที่นั่นได้หรือ?พวกเขามีชื่อเสียงโด่งดัง เดินทางไปทั่วแคว้นหลีมานานแล้วตามปกติควรจะปราบพวกเขาที่นี่ แล้วค่อยส่งไปขังเมื่อตั้งสติได้ ลั่วชิงยวนก็เอื้อมมือไปกระชากหน้ากากของตู้เฟิงเฉินออกลอกออกทีละชั้น ในที่สุดก็เผยใบหน้าที่แท้จริงใบหน้าที่ดูเด็ดเดี่ยวมิได้น่าเกลียดเหมือนที่ลั่ว

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1248

    ลมพัดกระโชกแรงความสงบในยามราตรีราวกับถูกกำจัดไปอย่างรุนแรง พลังที่แปลกประหลาดบุกรุกเข้ามาเมื่อความรู้สึกมิสงบบันดาลขึ้น ลั่วชิงยวนก็ตื่นขึ้นทันทีแต่ก็สายไปแล้ว มีเสียงหัวเราะของบุรุษดังมาจากในความมืด ในวินาทีต่อมาไหล่ของลั่วชิงยวนก็ถูกจับ แล้วลากออกไปจากห้องลั่วชิงยวนถูกโยนลงพื้นอย่างแรง รู้สึกเจ็บปวดไปทั่วทั้งร่างมีคนก่อไฟไว้ในลาน คนชั่วร้ายทั้งเก้าคนกำลังนั่งเล่นอยู่ในลานนอกจากชายคนหนึ่งที่กำลังอ่านหนังสือ คนอื่น ๆ ต่างจ้องมองลั่วชิงยวนตู้เฟิงเฉินนั่งยอง ๆ จิกผมของลั่วชิงยวนเพื่อให้นางแหงนหน้าขึ้น“โอ้โห ครั้งนี้ส่งสาวงามที่อ่อนแอมาให้พวกเรา จุ๊ จุ๊...”ตู้เฟิงเฉินมีใบหน้าที่ค่อนข้างดูดี แต่แววตาบ่งบอกถึงความเจ้าชู้โดยเฉพาะดวงตาคู่นั้นที่มองลั่วชิงยวนราวกับจะกลืนกิน ช่างน่าขนลุก“คิดหรือว่าครั้งนี้ข้าจะยอมพวกเจ้า ใครจะมาก่อน?” ตู้เฟิงเฉินถามอย่างใจร้อนคนอื่น ๆ มิพูด ตู้เฟิงเฉินหัวเราะเบา ๆ “เรื่องดี ๆ เช่นนี้ยังมิกระตือรือร้นกันอีกรึ? เช่นนั้นข้าก็มิเกรงใจแล้ว”กล่าวจบก็ใช้นิ้วเชยคางของลั่วชิงยวน “เช่นนั้นข้าจะเป็นคนแรกที่ได้สนุกเอง”จากนั้นคว้าคอเสื้อของลั่วชิ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1247

    นางเคยได้ยินชื่อเสียงของคนชั่วร้ายทั้งสิบคนนี้ แต่มินึกเลยว่าพวกเขาจะจับคนชั่วร้ายทั้งสิบคนมาจริง ๆ นี่มิใช่เรื่องง่ายและแต่ละคนก็มิใช่ว่าจะรับมือได้ง่าย ๆ ลั่วชิงยวนต้องอยู่ในนี้เป็นเวลาเจ็ดวันภายในเจ็ดวันต้องปราบพวกเขาให้ได้ และต้องรับประกันว่าตัวเองจะมิตายในมือด้วยน้ำมือของพวกเขานักโทษไม่มีสิทธิ์ดื่มน้ำศักดิ์สิทธิ์ ดังนั้นตอนนี้โอสถจตุรธาตุในร่างของลั่วชิงยวนจึงใช้มิได้ผลนางค่อย ๆ เดินไปข้างหน้า ที่ลานชั้นในเงียบสงัด สายลมหนาวพัดผ้าคลุมตัวใหญ่ของนางจนเกิดเสียงผ้าสะบัดไปมาเมื่อมาถึงห้องที่มีคนตาย ในจังหวะที่ผลักประตูเข้าไปก็มีความเย็นยะเยือกพัดเข้ามาปะทะใบหน้าศพนอนอยู่บนพื้นแขนขาถูกแยกออกจากร่าง เลือดไหลนองเต็มพื้นลั่วชิงยวนเตรียมใจไว้แล้วจึงมิตกใจ แต่ก็ยังดีกว่าภาพที่นางจินตนาการไว้มากนางเข้าไปตรวจสอบศพ ดูเหมือนว่าจะตายมิเกินหนึ่งวันบาดแผลร้ายแรงอยู่ตรงกลางระหว่างหน้าอกและท้อง แสดงว่าถูกแทงจากด้านหน้า แผลเรียบเพราะคมมีด ส่วนแขนขาน่าจะถูกตัดหลังจากตายแล้วลั่วชิงยวนตรวจสอบแล้วพบว่าไม่มีร่องรอยการต่อสู้บนศพเหมือนกับยืนอยู่เฉย ๆ แล้วถูกฆ่า ไม่มีแม้แต่รอยฟกช้ำ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1246

    “ข้ารู้มากกว่าเฉินชีเยอะ”ฉินอี้ใจกระตุก สตรีผู้นี้ดูอ่อนแอ แต่กลับพูดจาโอหัง“ข้าเห็นใต้ตาขององค์ชายเป็นสีเขียวคล้ำ แก้มก็ตอบ คงจะกำลังกังวลเรื่องฝึกฝนวรยุทธ์กระมัง” ลั่วชิงยวนกล่าวด้วยรอยยิ้มน้ำเสียงใส ๆ นั้นกลับทำให้ทุกคนตกใจฉินอี้รู้สึกเสียหน้า กล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา “แค่ติดขัดเท่านั้น!”ลั่วชิงยวนหัวเราะเบา ๆ “ทุกคนย่อมพบเจออุปสรรค แต่คนที่เจออุปสรรคห้าปีนั้นหาได้ยาก”คำพูดที่เชื่องช้านั้นทิ่มแทงจุดอ่อนของฉินอี้พูดต่อหน้าคนมากมายเช่นนี้ ฉินอี้โกรธมาก“หุบปาก!”ในใจของฉินอี้ก็ตกใจ เหตุใดสตรีผู้นี้จึงรู้เรื่องนี้ แม้แต่เฉินชียังมิรู้เลยเฉินชีได้ยินดังนั้นก็ประหลาดใจ แล้วหัวเราะเยาะ “ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า... ห้าปีเลยรึ? องค์ชายช่างสมกับคำว่าไร้ความสามารถเสียจริง!”ฉินอี้หน้าแดงก่ำด้วยความโกรธและอับอาย เขามองเฉินชีด้วยความโมโหเฉินชียกยิ้มท้าทาย “องค์ชาย คนที่ข้าพามามิใช่คนไร้ค่า ความสามารถของนางเหนือกว่านักบวชหญิงทุกคนในแคว้นหลี!”คำพูดที่โอหังเช่นนี้ มีเพียงเฉินชีเท่านั้นที่พูดได้แต่คำพูดนี้กลับสร้างศัตรูให้ลั่วชิงยวนมากมายฉินอี้หัวเราะอย่างเย็นชา แล้วกล่าวว่า “เฉินช

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status