แชร์

บทที่ 20

ผู้เขียน: หว่านชิงอิ๋น
"แม่นมกู้ ในกล่องว่างเปล่าไม่มีสิ่งใดอยู่เลย!" นางขมวดคิ้วและรีบลุกขึ้นเพื่อมองหาแม่นมกู้

แม่นมกู้เพิ่งจะเดินมาถึงตู้ นางเหลือบมองไปที่กล่องเปล่าอย่างตกใจ "ไม่มีสิ่งใดเลยหรือเจ้าคะ?"

"ใครเอาสมบัติของแม่คุณหนูไปกัน!" ทันใดนั้นแม่นมกู้ก็รู้สึกเป็นกังวลใจขึ้นมา

ลั่วชิงยวนขมวดคิ้วพลางนึกคิด สมบัตินี้มิน่าจะเพิ่งหายไป ก่อนหน้านี้ต้องมีคนมาแอบเอามันไปเป็นแน่ เพียงแต่ลั่วชิงยวนและแม่นมกู้ไม่ทันได้สังเกตเท่านั้น

หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง นางก็ขมวดคิ้ว “ลั่วเยวี่ยอิง!”

นางรีบสาวเท้าเดินออกจากห้องไปทันที

มีเพียงลั่วเยวี่ยอิงเท่านั้นที่เคยพานางรับใช้มาที่ห้องของนาง ในเวลานั้นลั่วชิงยวนคิดว่า นางคือน้องสาวสุดที่รัก และไม่เคยคิดสงสัยในตัวของลั่วเยวี่ยอิงเลย นอกจากลั่วเยวี่ยอิงแล้ว ใครจะกล้าแตะต้องสมบัติของแม่นางกัน!

เมื่อก่อนนางมิได้ใส่ใจกับเรื่องเหล่านี้ แต่เมื่อมาเห็นผังฮวงจุ้ยของตระกูลลั่ว นางก็รู้สึกสงสัยเป็นอย่างมาก และต้องการตรวจสอบให้ได้ว่าแม่ของลั่วชิงยวนเป็นใครกัน! และนางเป็นปรมาจารย์ฮวงจุ้ยจากแคว้นหลี่หรือไม่ ?

ถ้าหากใช่ ก็น่าจะเป็นคนที่นางรู้จัก

ความคิดเร่งด่วนนี้ ทำให้นาง
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 21

    ลั่วชิงยวนที่บอบช้ำได้บาดแผลเพิ่มขึ้นมาอีกนางเงยหน้าขึ้นด้วยความไม่อยากเชื่อ มองดูท่านพ่อที่เกรี้ยวกราด นางรู้สึกไม่พอใจ "เหตุใดถึงได้ตบตีข้า?"นางรู้สึกโกรธและเจ็บปวดใจ ลั่วชิงยวนก่ออาชญากรรมอะไรอย่างนั้นหรือ ทำไมรอบตัวถึงได้มีแต่คนเยี่ยงนี้ แม้แต่พ่อของนางก็ยังทุบตีนางโดยไร้เหตุผล ทั้ง ๆ ที่ลั่วเยวี่ยอิงเป็นคนเอาสมบัติของแม่นางไปก่อน!ผิดอะไรที่นางอยากได้สมบัติของแม่นางคืน?"เจ้ายังจะกล้าเถียงอีกรึ!" ลั่วไห่ผิงโกรธจัด และตบหน้านางอีกครั้งลั่วชิงยวนเวียนหัวมาก นางไม่มีแม้แต่แรงที่จะหลบหลีก การที่ถูกตบถึงสองคราทำให้ภาพเบื้องหน้าของนางเป็นสีดำ ศีรษะของนางบวมจนทนกับความเจ็บปวดนี้ไม่ไหว เลือดค่อย ๆ ไหลหยดลงบนพื้นนางกำฝ่ามือแน่น เต็มไปด้วยความโกรธ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นและมองตรงไปที่ลั่วไห่ผิงอย่างไม่พอใจ "ข้าทำอะไรผิดอย่างงั้นหรือ? ข้าเพียงแค่ต้องการสิ่งสมบัติของแม่ข้าคืนมาก็เท่านั้น! แต่ท่านพ่อกลับตบตีข้าอย่างไร้เหตุผล ท่านลำเอียงเกินไปหรือไม่!"ในความทรงจำ ลั่วชิงยวนต่างหากที่เป็นผู้ได้รับความรัก และเป็นที่ชื่นชอบของผู้คนมาตั้งแต่เด็ก แต่หลังจากป่วยหนักร่างกายของนางก็อ้วนขึ้น ตั้งแ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 22

    ทุกคนตกตะลึง เมื่อเงยหน้ามองไป พวกเขาเห็นชายผู้หนึ่งในชุดผ้าทอก้าวเข้ามาอย่างมั่นคงช้า ๆ ด้วยลักษณะท่าทางที่ดุดันฟู่เฉินหวนชำเลืองมองไปที่ลั่วชิงยวนที่เปื้อนเลือดอยู่บนพื้นพลางขมวดคิ้วแน่น เขาตกใจมากเมื่อได้ยินคำพูดที่หนักแน่นของนางเรื่องการตัดความสัมพันธ์ ในเมืองหลวงแห่งนี้จะมีผู้หญิงสักกี่คนที่กล้าตัดความสัมพันธ์กับครอบครัวของตนเช่นนี้?หลายวันมานี้เขาสังเกตเห็นว่า ลั่วชิงยวนนั้นเปลี่ยนไป แต่เขาไม่เคยคิดเลยว่านางจะกล้าพูดเช่นนี้ น้ำเสียงที่หนักแน่น และจิตใจที่หยิ่งในศักดิ์ศรี ทำให้เขารู้สึกประทับใจเล็กน้อยหลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็เดินเข้ามาในประตู“กระหม่อมมิทราบว่าท่านอ๋องจะเสด็จมาที่นี่” ลั่วไห่ผิงรีบกำปั้นกำไว้ที่หน้าอกทักทาย “วันนี้กระหม่อมใช้กฎครอบครัวเพื่อสั่งสอนบุตรสาวของกระหม่อม ช่างน่าขายหน้าต่อท่านอ๋องยิ่งนัก”ลั่วไห่ผิงรู้สึกผิดที่บุตรสาวของเขาทำสิ่งที่ไร้ยางอายเช่นการแต่งงานแทน จึงได้ลดท่าทีลงใบหน้าของฟู่เฉินหวนนั้นยังคงเย็นชา เขาเหลือบมองลั่วชิงยวนที่อยู่บนพื้น "ครั้งนี้นางกระทำอันใดผิดกัน เหตุใดท่านถึงได้ใช้กฎครอบครัวเฆี่ยนตีนางเช่นนี้"ลั่วไห่ผิงหน้าเสี

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 23

    เสียงของนางอ่อนแรงมาก แต่ก็ยังสัมผัสได้ถึงเจตจำนง และความดื้อรั้นที่ไม่ยอมแพ้ของนางเขาขมวดคิ้วมุ่น สมบัติอย่างนั้นหรือ? อะไรคือสมบัติที่ลั่วชิงยวนต้องการถึงเพียงนี้กัน?ลั่วเยวี่ยอิงก้าวไปข้างหน้า หวังจะแยกมือของลั่วชิงยวนออก แต่ลั่วชิงยวนมิได้สติ นางกำเสื้อผ้าของฟู่เฉินหวนแน่น โดยไม่มีทีท่าว่าจะปล่อย และยังพึมพำไม่หยุด "เอาสมบัติของแม่ข้าคืนมา! เอาคืนมาให้ข้า!"“ท่านพี่ตื่นเถิด อย่าทำให้เสื้อผ้าของท่านอ๋องเปื้อนสิเจ้าคะ!” ลั่วเยวี่ยอิงพูดขึ้นอย่างร้อนรนอย่างไรก็ตาม ลั่วชิงยวนยังคงจับมันไว้และไม่ยอมปล่อย นางรั้งมันไว้เหมือนฟางเส้นสุดท้ายดวงตาของฟู่เฉินหวนเคร่งขรึม เขาจ้องมองด้วยความขยะแขยง แต่สุดท้ายก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากยอมประนีประนอม "ช่างเถอะ ข้าผู้เป็นอ๋องจะส่งนางกลับเรือนเอง!"เขาก้มลงอุ้มลั่วชิงยวนขึ้นมา แต่ด้วยร่างกายที่หนักอึ้งนี้ แม้แต่ท่านอ๋องที่ฝึกฝนวรยุทธมาตลอดทั้งปี ก็เกือบจะเซทันทีที่ลุกขึ้นเขาอุ้มลั่วชิงยวนขึ้นมาด้วยความยากลำบาก ก่อนจะเดินตามทางที่นางรับใช้บอกไปยังเรือนสายธารเขาวางลั่วชิงยวนลงบนเตียง ใบหน้าของนางซีดเซียวไร้สีเลือด ข้อนิ้วที่จับเสื้อของฟู่

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 24

    ฟู่เฉินหวนตัวแข็งทื่อลั่วไห่ผิงโกรธมากเมื่อได้ยิน คนในครอบครัวท่านอ๋องอย่างนั้นหรือ? นั่นก็คือจักรพรรดิ คือราชวงศ์เชียวนะ!เขาตะคอก "ลั่วชิงยวน เจ้ากำลังพูดจาไร้สาระอะไร! เจ้ารู้หรือไม่ว่าการสาปแช่งจักรพรรดิ และไม่เคารพราชวงศ์เป็นความผิดบาปใหญ่แรงแค่ไหน? เจ้าตั้งใจจะฆ่าคนในจวนอัครเสนาบดีงั้นรึ!"ลั่วชิงยวนหัวเราะเยาะ น้ำตาและเลือดยังคงไหลออกมาไม่หยุดนางกำลังจะตายอยู่แล้ว จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับจวนอัครเสนาบดีด้วยหรือ? จวนอัครเสนาบดีจะเป็นเยี่ยงไรนั้นมิเกี่ยวกับนาง หากมิใช่ท่านพ่อซึ่งเป็นท่านอัครเสนาบดีใช้กฎครอบครัวกับนาง นางจะหมดสติไปถึงขั้นโดนคนวางยาเช่นนี้หรือ!หมอกู้พูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึม "ท่านอ๋อง กระหม่อมได้จ่ายยาเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บแล้ว แต่อาการบาดเจ็บนั้นรุนแรงเกินไปสำหรับพระชายา และนางก็ป่วยกะทันหัน กระหม่อมเกรงว่าจะเหลือเพียงไม่กี่ชั่วยามเท่านั้นพ่ะย่ะค่ะ"เมื่อได้ยินเช่นนี้ ฟู่เฉินหวนก็ขมวดคิ้ว มองไปที่ลั่วชิงยวนที่โชกไปด้วยเลือด เขารู้สึกสงสารนางอยู่ครู่หนึ่งได้รับบาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิตจากอาการป่วยกะทันหันอย่างนั้นหรือ? ลั่วชิงยวนอยากจะอ้าปากแย้ง แต่อาการปวดท้อ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 25

    หลังจากที่ทุกคนจากไป ในเรือนมีเพียงแม่นมกู้ที่กำลังสวดมนต์ภาวนาอยู่ที่เรือน นางค้ำกำแพงพลางเดินเข้ามาในห้องอย่างช้า ๆ นางเช็ดน้ำตาขณะเดินเข้ามา มันช่างน่าสะเทือนใจยิ่งนักเมื่อได้ยินลั่วชิงยวนจับมือของจือเฉา นางพยายามเปิดปาก แต่ใบหน้าเต็มไปด้วยความเจ็บปวด ก่อนจะเปล่งเสียงออกมาอย่างยากลำบาก "กล้วย… กล้วยไม้มังกรขนด..."“กล้วยไม้มังกรขนด? พระชายา ท่านพูดว่า กล้วยไม้มังกรขนดใช่หรือไม่? คืออะไรหรือเจ้าคะ?” จือเฉาได้ยินเสียงพระชายาอย่างชัดเจน นางรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาทันทีลั่วชิงยวนพยายามอ้าปาก "ลาน… สัตว์ในตำนาน… หลังตะเกียงหิน..."จือเฉาเป็นคนฉลาด นางสงบลงทันที "หลังตะเกียงหินสัตว์ในตำนานในลานใช่ไหมเจ้าคะ?""ข้าจะไปบัดเดี๋ยวนี้!"จือเฉาไม่รู้ว่าพระชายากำลังพูดถึงอะไร แต่นางจำตะเกียงหินรูปร่างประหลาดได้ นางวิ่งไปที่ลานด้านหลังตะเกียงหินทันที และดึงดอกไม้รวมถึงพืชหลากสีออกมาทีละกำ ก่อนจะหอบพืชกองใหญ่วิ่งกลับไปที่เรือนสายธารนางถือมันไว้ข้างหน้าลั่วชิงยวน "พระชายา ในนี้มีกล้วยไม้มังกรขนดที่ท่านต้องการหรือไม่เจ้าคะ ถ้าไม่มี ข้าจะไปหามันอีกครั้ง!"นางรู้ว่านี่จะต้องเป็นสิ่งที่สามารถช่วย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 26

    ยามนี้ ใบหน้าของลั่วเยวี่ยอิงก็ซีดลงด้วยความตกใจ นางซ่อนตัวอยู่ในอ้อมแขนของฟู่เฉินหวน"ท่าน... ท่านเป็นคนหรือเป็นผีกันแน่?""แล้วเจ้าคิดว่าข้าเหมือนคนหรือผีกันเล่า?" ลั่วชิงยวนยิ้มอย่างเย็นชาลั่วไห่ผิงรู้สึกตกใจ ลั่วชิงยวนนั้นมิเป็นไรจริง ๆ อย่านั้นหรือ? ท่านหมอบอกว่าสิ้นหวังไปแล้วมิใช่หรือ? เห็นนางอาเจียนเป็นเลือดเยี่ยงนั้น คิดว่าอย่างไรนางก็คงมิรอดแน่! แต่ตอนนี้กลับวิ่งมาอยู่ตรงหน้าของเขาเสียได้"ท่านพี่ ท่านพี่อย่าได้ทำให้คนอื่นตกใจกลัวเยี่ยงนี้เลยเจ้าค่ะ" ลั่วเยวี่ยอิงแสร้งทำเป็นกลัว และซ่อนตัวในอ้อมแขนของฟู่เฉินหวนฟู่เฉินหวนมองลั่วชิงยวนด้วยสายตาที่ซับซ้อน ท่านหมอกู้ถึงกับบอกว่าสิ้นหวัง แล้วเหตุใดนางถึงยังมีชีวิตอยู่ได้?เมื่อเห็นว่าลั่วเยวี่ยอิงตกใจกลัว ลั่วไห่ผิงก็ลุกขึ้นยืนด้วยความโกรธ และมองไปที่ลั่วชิงยวนด้วยสายตาที่เฉียบคม "เจ้ายังอยู่รอดได้ก็นับว่าเป็นโชคดีของเจ้า เหตุใดถึงไม่พักผ่อน แต่กลับวิ่งมาที่นี่เพื่อทำให้น้องสาวเจ้าตกใจกลัว! เจ้าเป็นพี่ประสาอะไรกัน!"ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น คนที่ถูกต่อว่าก็คือลั่วชิงยวนเสมอนางยิ้มอย่างเย็นชา "พวกเจ้าอยากให้ข้าตายไม่ใช่รึ? ข้าม

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 27

    ลั่วชิงยวนโกรธมาก นางเตะประตูอย่างแรง ลั่วไห่ผิงหลีกเลี่ยงเรื่องของแม่นางอย่างเห็นได้ชัด มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่? ลั่วไห่ผิงมีความลับอะไรกัน? "พระชายา เหตุใดพวกเขาถึงขังท่านไว้เช่นนี้เล่าเจ้าคะ?" จือเฉาไปหาอาหารและนำกลับมา แต่ประตูกลับถูกล็อกไว้"ข้าไม่เป็นไร เจ้าไม่ต้องเป็นกังวล" ลั่วชิงยวนนั่งลงบนเก้าอี้อย่างอ่อนแรง คิดหาวิธีการตรวจสอบต่อไปในความเงียบ ท้องก็ร้องโครกครากด้วยความหิว แต่ประตูและหน้าต่างต่างก็ถูกล็อก จือเฉามิสามารถนำอาหารเข้ามาได้ ลั่วชิงยวนทำได้เพียงอดทนกับความหิว และนอนลงบนเตียงเพื่อหลับหนีความหิว……รุ่งสางของวันถัดมา ก่อนที่ลั่วชิงยวนจะตื่นขึ้นมา นางได้ยินเสียงปลดล็อกกุญแจ นางลืมตาขึ้นอย่างสะลึมสะลือ และเห็นนักพรตเต๋าในชุดสีเหลือง ถือดาบไม้ท้อ สั่นกระดิ่ง และเดินเข้ามาพลางพึมพำอะไรอยู่ในปากลั่วชิงยวนพยุงร่างกายของตัวเองขึ้นมา พลางขมวดคิ้ว นักพรตเต๋า?“มีวิญญาณชั่วร้ายล้อมรอบสถานที่แห่งนี้” นักพรตเต๋าสังเกตห้องอย่างเคร่งขรึม จากนั้นดวงตาของเขาก็จับจ้องไปที่ร่างของลั่วชิงยวน "วิญญาณชั่วร้ายรวมตัวกันอยู่ที่นางผู้นี้นี่เอง"จากนั้นลั่วไห่ผิงก็เดินเข้ามาในห้อง พร

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 28

    เมื่อพระอาทิตย์ขึ้น ลั่วชิงยวนที่ถูกมัดไว้กับเก้าอี้ในห้อง อาบแดดที่ส่องเข้ามาจากประตู และผล็อยหลับไปหลายครั้งจนกระทั่งนักพรตเต๋าเดินมาถึงด้านหน้า และบังแสงแดดตรงหน้านางลั่วชิงยวนตื่นขึ้นมา นางเงยหน้าขึ้นและมองดูนักพรตเต๋าที่เทโอสถเม็ดออกมาจากขวด“แม่นางกินโอสถนี้ซะ วิญญาณร้ายจะไม่สามารถเข้าใกล้ท่านได้อีก” นักพรตเต๋ากล่าวอย่างเคร่งขรึม และกรอกโอสถไปที่ปากของนางลั่วชิงยวนหรี่ตาลงเล็กน้อย ดวงตาของนางเย็นยะเยือก "ท่านแน่ใจหรือว่าโอสถนี้สามารถขับไล่วิญญาณชั่วร้ายได้"“แม่นาง อาตมาพบเจอมามากมาย โอสถนี้สามารถรักษาท่านจากสิ่งชั่วร้ายได่เป็นแน่! มีเพียงวิธีนี้เท่านั้นที่จะสามารถขับไล่สิ่งชั่วร้ายออกจากจวนอัครเสนาบดีได้อย่างสมบูรณ์! อาตมาหวังว่าแม่นางจะให้ความร่วมมือ!” นักพรตเต๋าอธิบายเกลี้ยกล่อมให้นางกินโอสถแต่ในระยะอันใกล้เช่นนี้ ลั่วชิงยวนได้กลิ่นของเม็ดโอสถอย่างชัดเจนนางมองไปที่นักพรตเต๋าด้วยรอยยิ้มเย็น ๆ บนริมฝีปาก "ขับไล่สิ่งชั่วร้ายอย่างนั้นรึ? เมื่อกินโอสถนี้เข้าไปจะทำให้ข้าสับสนเป็นบ้า และถึงขั้นสูญเสียความทรงจำต่างหาก!"ขณะนั้นเอง นางรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่า นักพรตเต๋าตัวแ

บทล่าสุด

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1392

    เมื่อเดินเข้าไปในประตูหิน ภาพที่ปรากฏแก่สายตาคือห้องโถงขนาดใหญ่ มิได้โอ่อ่าสง่างามดังท้องพระโรงก่อนหน้านี้เครื่องเรือนภายในที่แห่งนี้คล้ายกับห้องโถงสำหรับต้อนรับแขกของบ้านทั่วไป การตกแต่งจัดวางทุกอย่างล้วนแฝงไว้ด้วยความอบอุ่นบนผนังมีภาพเขียนและตัวอักษะแขวนไว้ บนโต๊ะมีแจกันและกระถางต้นไม้หลังฉากกั้นลายดอกไม้และนกมีโต๊ะเตี้ยและกระถางธูปวางหันหน้าไปทางหน้าต่าง ด้านนอกเป็นทุ่งหญ้าที่มีดอกไม้และพืชพรรณส่งกลิ่นหอมอยู่ภายนอกปรากฏภาพหนึ่งขึ้นมาในห้วงความคิดของนาง ชายหญิงคู่หนึ่งนั่งอยู่ตรงหน้าต่าง จิบสุราอุ่นพลางชมหิมะความงดงามในใต้หล้ามนุษย์คงไม่มีสิ่งใดเกินกว่านี้แล้วอีกด้านหนึ่งยังมีพิณโบราณวางพิงกำแพงไว้ มีอาวุธตั้งเรียงรายทั้งดาบ หอก กระบี่ ง้าว สตรีบรรเลงพิณ บุรุษฝึกกระบี่ ซึ่งเป็นดั่งภาพเทพเซียนคู่หนึ่งน่าเสียดายที่สายพิณของพิณโบราณนั้นขาดสะบั้นลั่วชิงยวนค่อย ๆ ลูบพิณโบราณ ในใจกลับเกิดความรู้สึกเศร้าสร้อยขึ้นมา“ด้านในนี้ดูเหมือนจะใหญ่โตมาก ไปเดินหากันเถิดว่ามีอะไรให้กินหรือไม่”หงไห่กล่าวพลางเดินไปยังด้านหลังคนอื่นก็เดินตามเขาเข้าไปยังด้านหลังเมื่อออกไปแล้ว ทิวท

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1391

    สะพานเหล็กหนักอึ้งร่วงลงหายลับไปจากสายตาลั่วชิงยวนท่ามกลางลมพายุ ร่างผอมบางนั้นก็หายวับไปจากสายตาเช่นกัน“คนใบ้!” ลั่วชิงยวนตกตะลึง หายใจมิออกรีบวิ่งไปที่ริมหน้าผาทันทีโฉวสือชีดึงนางไว้ได้ทันท่วงที “ระวัง!”สายลมยังคงหวีดหวิวอยู่ระหว่างหน้าผา วิญญาณอาฆาตนับมิถ้วนออกมารอบด้าน ส่งเสียงกรีดร้องโหยหวนแหลมสูงบาดแก้วหูลั่วชิงยวนมองไปยังหน้าผาที่ลึกสุดหยั่งถึง หัวใจของนางร่วงลงสู่ก้นเหวไปแล้วอีกนิดเดียว!อีกนิดเดียวเท่านั้น!ทั้งสามมีสีหน้าสิ้นหวังทันใดนั้นเอง หงไห่ก็ตะโกน “เชือกตึงแล้ว เขายังมิตาย!”เมื่อมองอย่างละเอียด ปรากฏว่าเชือกที่โยนออกไปเมื่อครู่นั้นกลับตึงขึ้นมาโฉวสือชีรีบช่วยดึงเชือกลั่วชิงยวนที่หมอบอยู่ริมหน้าผามองลงไป จึงเห็นร่างที่ส่ายไปมาอยู่ในหุบเหวเล็กจิ๋วราวกับผงธุลีเม็ดหนึ่งที่อาจถูกลมพัดปลิวไปได้ทุกเมื่อลั่วชิงยวนกังวลใจอย่างยิ่ง รีบเข้าไปช่วยดึงเชือกในที่สุดมือข้างหนึ่งก็ปีนขึ้นมาถึงขอบหน้าผาทั้งสามออกแรงช่วยกันดึงคนใบ้ขึ้นมาได้เมื่อขึ้นมาถึง คนใบ้ก็ล้มลงหมดแรงอยู่บนพื้น หอบหายใจอย่างหนักหัวใจของลั่วชิงยวนจึงค่อยสงบลง แล้วนั่งลงพักผ่อนอยู่บ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1390

    “ไป!”ลั่วชิงยวนมิลืมที่จะปิดประตูบานนั้นก่อนออกไป แล้วรีบดึงร่างคนใบ้ข้ามสะพานไปอย่างรวดเร็ว“เร็วเข้า!”พวกนางรีบขึ้นไปบนสะพานเหล็ก เมื่อมองลงไปก็เห็นความมืดมิดและหุบเหวลึกไร้ที่สิ้นสุด ความรู้สึกโคลงเคลงนั้นทำให้ทุกคนรู้สึกว่าตนอาจจะพลัดตกลงไปได้ทุกเมื่อหัวใจทุกคนแทบจะกระโจนออกมาจากอกแต่ในเวลานี้พวกเขากลับมิได้มีเวลาสนใจสิ่งใดมากนัก จำต้องอดทนต่อความหวาดกลัวแล้ววิ่งข้ามไปยังอีกฝั่งของสะพานโดยที่มือกำโซ่เหล็กไว้แน่นเมื่อวิ่งไปได้ครึ่งทาง คนที่อยู่ด้านหลังก็...ไล่ตามมาแล้ว!ลั่วชิงยวนใจหายวูบ เผลอชะงักฝีเท้าแต่คนใบ้กลับคว้าแขนของนางไว้ มิอนุญาตให้นางหันหลังกลับไปลั่วชิงยวนมองเขา แล้วกล่าวว่า “หากพวกเขาฟันโซ่เหล็กขาด พวกเราทั้งหมดจะมิรอด”มิรู้ว่าสะพานเหล็กบนหน้าผาแห่งนี้มีมานานเท่าไหร่แล้ว ไม่มีผู้ใดซ่อมแซมในเวลานี้เอง ร่างของเตี่ยฉุยก็พุ่งออกมา “ท่านแม่ ข้าจะไปขวางพวกเขาเอง!”ลั่วชิงยวนหยิบเข็มทิศอาณัติสวรรค์ออกมา แล้วมองไปยังคนใบ้ “เจ้าจับข้าไว้ให้แน่น!”คนใบ้พยักหน้าจากนั้นนางก็กรีดนิ้ววาดวงเวทอัญเชิญวิญญาณอีกครั้งระหว่างหน้าผาเกิดลมพายุโหมกระหน่ำ กระแสลมรา

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1389

    หลังจากที่ลั่วชิงยวนเดินเข้าไปสำรวจก็รีบลงมือไขกลไกเสียงจากด้านหลังใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ ทำเอาโฉวสือชีและหงไห่ต่างหวาดหวั่น ทั้งสองกำอาวุธในมือแน่น เตรียมพร้อมต่อสู้ทุกเมื่อในขณะที่พวกโฉวสือชีเห็นเงาโผล่มาจากมุมหัวใจก็แทบหลุดออกจากอกมีเสียงดังแก๊ก!กลไกเปิดออกแล้ว!ลั่วชิงยวนรีบผลักประตูหิน “รีบเข้ามาเร็วเข้า!”ในเวลานั้นนางเห็นซูเซียงกระโจนเข้ามาด้วยจิตสังหารขณะพาชายชุดดำอีกหกคนวิ่งตามมาอย่างรวดเร็วพวกนางรีบเข้าไปในประตูหิน แล้วช่วยกันปิดประตูหินลั่วชิงยวนเห็นกลไกอยู่ที่กำแพงจึงรีบกดกลไก ทำให้เกิดเสียงดังแก๊ก แล้วประตูหินก็ปิดลงอีกครั้งคนที่อยู่ด้านนอกทุบประตูหินอย่างแรง แต่ประตูมิขยับเขยื้อนทุกคนจึงค่อย ๆ ถอนหายใจด้วยความโล่งใจ“ไปกันเถอะ”ลั่วชิงยวนหันหลังกลับไป ด้านหลังเป็นสถานที่คล้ายท้องพระโรงขนาดใหญ่ตำแหน่งที่พวกเขาอยู่นั้นอยู่บริเวณด้านข้างของท้องพระโรง มีบันไดหินสูงตระหง่าน“บนภูเขาลูกนี้มีสถานที่เช่นนี้ด้วยหรือนี่” หงไห่กล่าวด้วยความตกตะลึงลั่วชิงยวนมองไปยังธงด้านหลังตำแหน่งที่ประทับสูงส่งของท้องพระโรง และการจัดวางตกแต่งสถานที่แห่งนี้ ดูโอ่อ่าสง่างามยิ่

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1388

    ทันทีที่ได้ยินคำพูดนั้น โฉวสือชีและหงไห่ต่างตกตะลึงเป็นอย่างยิ่ง“ที่แท้ก็เป็นนางนั่นเอง”“แต่สตรีตั้งครรภ์คนหนึ่งจะสามารถจัดการเรื่องมากมายถึงเพียงนี้ได้อย่างไร”ลั่วชิงยวนก็ขมวดคิ้วครุ่นคิด “นั่นสิ นางดูเหมือนจะรู้จักที่นี่ดีกว่าพวกเราทุกคน แต่ท้องแก่ถึงเพียงนั้นแล้ว นางทำได้อย่างไร?”ที่นี่ก็อยู่เกือบครึ่งทางขึ้นภูเขาแล้วแม้กระทั่งถูหมิงและพรรคพวกก็ต้องสูญเสียชีวิตไปมากมายเมื่อพวกเขามาถึงจุดนี้ หากซูเซียงมาถึงที่นี่ก่อนและยังรู้เรื่องราวมากมายถึงเพียงนี้ แล้วนางมีชีวิตรอดมาได้อย่างไรเป็นไปมิได้เลยที่จะทำสิ่งมากมายขนาดนี้ด้วยการใช้ผงไล่งูเพียงอย่างเดียว“สตรีผู้นี้ต้องมีคนช่วยแน่นอน หากนางทำเพียงลำพัง ก็เป็นไปมิได้ที่จะเคลื่อนย้ายพวกข้าทั้งแปดคนไปยังสถานที่ต่าง ๆ ได้ในชั่วข้ามคืน”“จงระมัดระวังให้มาก”โฉวสือชีมิได้รู้จักโหยวเซียง และมิรู้ภูมิหลังของโหยวเซียงเช่นกันลั่วชิงยวนพยักหน้า จากนั้นก็หยิบกิ่งไม้ขึ้นมาวาดบนพื้นนางวาดเส้นทางที่เคยเดินผ่านกันมา แล้วกำหนดเส้นทางที่จะเดินในวันพรุ่ง“ที่นี่ดูเหมือนจะเป็นถ้ำงูที่สร้างขึ้นมาเพื่อเลี้ยงงูโดยเฉพาะ ในเมื่อเป็นสิ่งที่มนุษ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1387

    โชคดีที่หลังจากเดินไปได้ประมาณหนึ่งชั่วยาม พวกเขาก็พบกระท่อมหลังหนึ่งเป็นกระท่อมที่ฝังตัวอยู่บนผนังหิน มองดูคล้ายถ้ำมากกว่าที่นี่ค่อนข้างทรุดโทรม มีฝุ่นจับหนาเตอะ ดูเหมือนจะไม่มีใครอาศัยอยู่มานานแล้วแต่ในกระท่อมมีฟางปูไว้หนามากและค่อนข้างแห้ง ทุกคนจึงตัดสินใจพักที่นี่ก่อนลั่วชิงยวนตรวจสอบ แล้วกล่าวว่า “ที่นี่ดูเหมือนจะเป็นที่ที่คนเลี้ยงงูเคยอาศัยอยู่”ที่มุมห้องมีตะกร้าใส่งูจำนวนมากวางอยู่ ทว่ายามนี้ด้านในนัน้ว่างเปล่าลั่วชิงยวนล้างทำความสะอาดหม้อและชาม ก่อนจะนำมาต้มยาระหว่างที่รอก็พันแผลให้คนใบ้อีกครั้งคนใบ้คงจะเจ็บปวดแผลมาก จึงได้ตื่นขึ้นมาพอดีกับที่ลั่วชิงยวนกำลังนำยามาให้เขา “เจ้าดวงแข็งถึงเพียงนี้ คงมิตายง่าย ๆ หรอก”คนใบ้รับชามยาไป ลังเลเล็กน้อยก่อนเขียนบนพื้นว่าซูเซียงมีพิรุธลั่วชิงยวนพยักหน้า “ข้ารู้แล้ว แต่ถ้ามิใช่เพราะซูเซียง ข้าก็หาเจ้ามิพบ”ดูเหมือนว่าในยามนั้นซูเซียงจะสู้กับคนใบ้ด้วยอากาศโดยรอบเย็นลงเรื่อย ๆ โฉวสือชีจึงก่อไฟให้แรงขึ้น แล้วกล่าวว่า “ยามนี้น่าจะกลางคืนแล้ว”“พวกเจ้าพักผ่อนเถอะ ข้าจะเฝ้ายามให้”ลั่วชิงยวนพิงกำแพง แต่กลับนอนมิหลับนาง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1386

    ล้วนเป็นงูทั้งนั้น!ยั้วเยี้ยเต็มไปหมด!ด้านบนเป็นตาข่ายที่สานจากเถาวัลย์และด้านบนนั้นก็มีงูขดอยู่เต็มไปหมดบางครั้งก็มีงูตกลงมาในน้ำด้วยโฉวสือชีกล่าวด้วยความหวาดหวั่น “คนมากมายในป่าแห่งนี้ล้วนถูกลากตัวไป แล้วตกลงมาจากหลุมบนสุด ถูกงูพวกนั้นกัดกินจนหมดสิ้น”“ข้ากับพวกเขาก็พบกันที่นี่เช่นกัน แต่ช่วยไว้ได้แค่หงไห่เท่านั้น”เมื่อได้ยินดังนั้น หัวใจของลั่วชิงยวนก็ดิ่งวูบคนใบ้ก็ถูกลากไปเช่นกัน เขาจะตกมาอยู่ในที่แห่งนี้ด้วยหรือไม่?นางมองไปยังสุดปลายสะพานโซ่ ที่นั่นเป็นพื้นที่ราบ แต่ก็มืดสนิทจนมองอะไรมิเห็น“ข้าจะไปที่นั่น” ลั่วชิงยวนหยิบกระบี่ห้วงสวรรค์ขึ้นมา แล้วมุ่งหน้าไปยังสะพานเหล็กลอยน้ำโฉวสือชีห้ามมิได้ ทำได้เพียงวางหงไห่ลง แล้วจับจ้องร่างของลั่วชิงยวนอย่างระมัดระวังหากมีอันตรายใด ๆ จะได้เข้าช่วยเหลือได้ทันท่วงทีลั่วชิงยวนรีบเดินข้ามสะพานลอย พยายามมิให้เปียกน้ำ เพราะน้ำจะชะล้างผงไล่งูที่เท้าเมื่อวิ่งไปถึงจึงเห็นคนใบ้นอนอยู่บนพื้นจริง ๆนางรีบแบกคนใบ้ขึ้นมา โชคดีที่บริเวณใกล้เคียงไม่มีงู เขาจึงมิได้ถูกงูกัดลั่วชิงยวนแบกร่างเขาขึ้นบนหลังอย่างยากลำบากแล้วกัดฟันประค

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1385

    นี่มันเสียงหงไห่มิใช่หรือ!“หงไห่?” ลั่วชิงยวนเอ่ยถามลองเชิงอีกฝ่ายผงะไปเล็กน้อย จากนั้นกล่าวทันที “เจ้าก็มาถึงที่นี่ด้วยหรือ!”ลั่วชิงยวนตกใจ นี่คือโฉวสือชี!ทั้งสองหยุดต่อสู้กันในทันทีลั่วชิงยวนจุดไฟอีกครั้งเพื่อให้แสงส่องสว่างโดยรอบจึงได้เห็นโฉวสือชีที่เนื้อตัวเต็มไปด้วยเลือดส่วนหงไห่นั่งพิงผนังหิน กำลังไอออกมาเป็นเลือด“เขาเป็นอะไร?” ลั่วชิงยวนรีบเข้าไปหาเมื่อเห็นว่าหงไห่ถูกงูกัดที่หลังมือจึงได้รับพิษนางก็รีบนำยาถอนพิษมาให้หงไห่กิน จากนั้นฝังเข็มเพื่อเอาพิษออกหงไห่จึงรอดชีวิตมาได้โฉวสือชีนั่งยอง ๆ บนพื้น ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก “โชคดีที่เจอเจ้า มิเช่นนั้นคราวนี้หงไห่คงมิรอด”ลั่วชิงยวนมองดูสภาพของทั้งสอง เกรงว่าคงต้องเผชิญกับพายุโลหิตมา“พวกเจ้าอยู่ด้วยกันกี่คน? ข้าเจอจวี้ซานในป่า เขาตายแล้ว”ลั่วชิงยวนถามด้วยความเป็นห่วงโฉวสือชีผู้สีหน้าเคร่งขรึมส่ายหน้า “ข้ามิรู้ ในบรรดาคนที่ข้าพบ มีคนตายไปแล้วสามคน ข้าหาเจอแค่หงไห่”“อีกสองคน เกรงว่าจะประสบเคราะห์ร้ายเช่นกัน”เมื่อได้ยินดังนั้น ลั่วชิงยวนก็ใจหายวูบ“อยู่ที่ใด พาข้าไปหน่อย”จากนั้นโฉวสือชีก็พยุงหง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1384

    เมื่อได้ยินคำพูดนั้น ลั่วชิงยวนก็สั่นสะท้านไปทั่วทั้งร่างว่ากระไรนะ?นางรู้สึกมิอยากจะเชื่อเลยแต่ซูเซียงก็มิได้กล่าวต่อ พลันหายตัวไปที่ปากถ้ำเมื่อลั่วชิงยวนหันกลับไปมองด้านบนศีรษะ ก็มีวัตถุขนาดใหญ่ค่อย ๆ บดบังแสงทั้งหมดเมื่อแสงสว่างน้อยนิดแสงสุดท้ายถูกบดบังลง เสียงของซูเซียงก็ดังขึ้น “ไม่มีใครมาช่วยเจ้าได้หรอก จงรอความตายอยู่ในนั้นเช่นเดียวกับผู้อื่นเสียเถอะ!”“อีกสิบวันข้าจะมาเก็บศพเจ้า!”ซูเซียงกัดฟันขณะพูดประโยคสุดท้ายลั่วชิงยวนเชื่อว่าหากซูเซียงมิได้แพ้นาง ซูเซียงคงจะฉีกร่างนางให้แหลกเป็นชิ้น ๆ ไปนานแล้วสู้มิได้จึงเลือกที่จะขังนางให้ตายอยู่ในที่แห่งนี้แผ่นหินด้านบนนั้นดูท่าทางแล้วหนักยิ่งนัก ลั่วชิงยวนเป็นกังวลว่าแผ่นหินจะร่วงลงมาทับซูเซียงหาของเช่นนี้พบ แสดงว่านางคุ้นเคยกับที่นี่เป็นอย่างดี กระทั่งอาจจะเคยฆ่าคนในที่แห่งนี้มาแล้วมากกว่าหนึ่งครั้งด้วยนางอาจจะมาถึงเมืองแห่งภูตผีแห่งนี้นานกว่าทุกคนก็เป็นได้แต่สิ่งที่นางมิเข้าใจคือ เหตุใดปีศาจราคะอย่างตู้เฟิงเฉินจึงกลายเป็นรักเดียวในชีวิตของซูเซียงไปได้?จากความทรงจำที่นางเห็นมา ภรรยาของตู้เฟิงเฉินถูกกระทำอย่างท

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status