Share

บทที่ 19

Author: หว่านชิงอิ๋น
ดวงตาของลั่วชิงยวนเปลี่ยนเป็นเย็นชา นางจงใจเบียดตัวไปทางเฉียงเวย "ข้าตัวใหญ่จริง ๆ นั่นแหละ และข้าก็สามารถทับเจ้าตายได้ เจ้าเชื่อหรือไม่?"

เฉียงเวยถูกเบียดเข้ามุม นางถูกบีบระหว่างลั่วชิงยวนและลั่วเยวี่ยอิง ลั่วชิงยวนเบียดจนมีพื้นที่ว่าง ก่อนจะกวักมือเรียกจือเฉาที่อยู่นอกรถม้า ตบพื้นที่ว่างข้างตัว และเอ่ยขึ้น "จือเฉา ขึ้นมา"

จือเฉายิ้มและรีบเข้ามาในรถม้า "พระชายา ท่านใจดีจริง ๆ เจ้าค่ะ"

เฉียงเวยบิดตัวไปมา และเอ่ยอย่างไม่พอใจ "พระชายารถม้าคันเล็กนิดเดียว เหตุใดท่านถึงได้นำนางรับใช้ขึ้นมาด้วยเล่าเจ้าคะ! ดูสิเบียดคุณหนูรองหมดแล้ว!”

ลั่วเยวี่ยอิงรู้สึกอึดอัดมาก จนนางแทบจะหายใจไม่ออก

"พวกเจ้าเบียดกันแล้วเกี่ยวอะไรกับข้า? ถ้าใครมิอยากเบียดก็ลงไปสิ" ลั่วชิงยวนตะคอกเสียงเย็น อาศัยขนาดของตัวเองเบียดเข้าไปอีก

แม้ว่าร่างกายจะอ่อนแอ แต่น้ำหนักก็หนักพอควร ไม่ว่าเฉียงเวยจะผลักกลับแค่ไหน นางก็ไม่ขยับเลยสักนิด ราวกับภูเขาลูกเล็ก ๆ

ท้ายที่สุดลั่วเยวี่ยอิงก็ทนมิไหวอีกต่อไป นางไล่นางรับใช้สองคนออกจากรถม้า จึงมีพื้นที่ที่กว้างขึ้น

ลั่วเยวี่ยอิงรู้สึกโมโหเป็นอย่างมาก แต่นางก็ทำอะไรมิได้ ได้แต่นั่
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 20

    "แม่นมกู้ ในกล่องว่างเปล่าไม่มีสิ่งใดอยู่เลย!" นางขมวดคิ้วและรีบลุกขึ้นเพื่อมองหาแม่นมกู้แม่นมกู้เพิ่งจะเดินมาถึงตู้ นางเหลือบมองไปที่กล่องเปล่าอย่างตกใจ "ไม่มีสิ่งใดเลยหรือเจ้าคะ?""ใครเอาสมบัติของแม่คุณหนูไปกัน!" ทันใดนั้นแม่นมกู้ก็รู้สึกเป็นกังวลใจขึ้นมา ลั่วชิงยวนขมวดคิ้วพลางนึกคิด สมบัตินี้มิน่าจะเพิ่งหายไป ก่อนหน้านี้ต้องมีคนมาแอบเอามันไปเป็นแน่ เพียงแต่ลั่วชิงยวนและแม่นมกู้ไม่ทันได้สังเกตเท่านั้นหลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง นางก็ขมวดคิ้ว “ลั่วเยวี่ยอิง!” นางรีบสาวเท้าเดินออกจากห้องไปทันทีมีเพียงลั่วเยวี่ยอิงเท่านั้นที่เคยพานางรับใช้มาที่ห้องของนาง ในเวลานั้นลั่วชิงยวนคิดว่า นางคือน้องสาวสุดที่รัก และไม่เคยคิดสงสัยในตัวของลั่วเยวี่ยอิงเลย นอกจากลั่วเยวี่ยอิงแล้ว ใครจะกล้าแตะต้องสมบัติของแม่นางกัน!เมื่อก่อนนางมิได้ใส่ใจกับเรื่องเหล่านี้ แต่เมื่อมาเห็นผังฮวงจุ้ยของตระกูลลั่ว นางก็รู้สึกสงสัยเป็นอย่างมาก และต้องการตรวจสอบให้ได้ว่าแม่ของลั่วชิงยวนเป็นใครกัน! และนางเป็นปรมาจารย์ฮวงจุ้ยจากแคว้นหลี่หรือไม่ ? ถ้าหากใช่ ก็น่าจะเป็นคนที่นางรู้จักความคิดเร่งด่วนนี้ ทำให้นาง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 21

    ลั่วชิงยวนที่บอบช้ำได้บาดแผลเพิ่มขึ้นมาอีกนางเงยหน้าขึ้นด้วยความไม่อยากเชื่อ มองดูท่านพ่อที่เกรี้ยวกราด นางรู้สึกไม่พอใจ "เหตุใดถึงได้ตบตีข้า?"นางรู้สึกโกรธและเจ็บปวดใจ ลั่วชิงยวนก่ออาชญากรรมอะไรอย่างนั้นหรือ ทำไมรอบตัวถึงได้มีแต่คนเยี่ยงนี้ แม้แต่พ่อของนางก็ยังทุบตีนางโดยไร้เหตุผล ทั้ง ๆ ที่ลั่วเยวี่ยอิงเป็นคนเอาสมบัติของแม่นางไปก่อน!ผิดอะไรที่นางอยากได้สมบัติของแม่นางคืน?"เจ้ายังจะกล้าเถียงอีกรึ!" ลั่วไห่ผิงโกรธจัด และตบหน้านางอีกครั้งลั่วชิงยวนเวียนหัวมาก นางไม่มีแม้แต่แรงที่จะหลบหลีก การที่ถูกตบถึงสองคราทำให้ภาพเบื้องหน้าของนางเป็นสีดำ ศีรษะของนางบวมจนทนกับความเจ็บปวดนี้ไม่ไหว เลือดค่อย ๆ ไหลหยดลงบนพื้นนางกำฝ่ามือแน่น เต็มไปด้วยความโกรธ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นและมองตรงไปที่ลั่วไห่ผิงอย่างไม่พอใจ "ข้าทำอะไรผิดอย่างงั้นหรือ? ข้าเพียงแค่ต้องการสิ่งสมบัติของแม่ข้าคืนมาก็เท่านั้น! แต่ท่านพ่อกลับตบตีข้าอย่างไร้เหตุผล ท่านลำเอียงเกินไปหรือไม่!"ในความทรงจำ ลั่วชิงยวนต่างหากที่เป็นผู้ได้รับความรัก และเป็นที่ชื่นชอบของผู้คนมาตั้งแต่เด็ก แต่หลังจากป่วยหนักร่างกายของนางก็อ้วนขึ้น ตั้งแ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 22

    ทุกคนตกตะลึง เมื่อเงยหน้ามองไป พวกเขาเห็นชายผู้หนึ่งในชุดผ้าทอก้าวเข้ามาอย่างมั่นคงช้า ๆ ด้วยลักษณะท่าทางที่ดุดันฟู่เฉินหวนชำเลืองมองไปที่ลั่วชิงยวนที่เปื้อนเลือดอยู่บนพื้นพลางขมวดคิ้วแน่น เขาตกใจมากเมื่อได้ยินคำพูดที่หนักแน่นของนางเรื่องการตัดความสัมพันธ์ ในเมืองหลวงแห่งนี้จะมีผู้หญิงสักกี่คนที่กล้าตัดความสัมพันธ์กับครอบครัวของตนเช่นนี้?หลายวันมานี้เขาสังเกตเห็นว่า ลั่วชิงยวนนั้นเปลี่ยนไป แต่เขาไม่เคยคิดเลยว่านางจะกล้าพูดเช่นนี้ น้ำเสียงที่หนักแน่น และจิตใจที่หยิ่งในศักดิ์ศรี ทำให้เขารู้สึกประทับใจเล็กน้อยหลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็เดินเข้ามาในประตู“กระหม่อมมิทราบว่าท่านอ๋องจะเสด็จมาที่นี่” ลั่วไห่ผิงรีบกำปั้นกำไว้ที่หน้าอกทักทาย “วันนี้กระหม่อมใช้กฎครอบครัวเพื่อสั่งสอนบุตรสาวของกระหม่อม ช่างน่าขายหน้าต่อท่านอ๋องยิ่งนัก”ลั่วไห่ผิงรู้สึกผิดที่บุตรสาวของเขาทำสิ่งที่ไร้ยางอายเช่นการแต่งงานแทน จึงได้ลดท่าทีลงใบหน้าของฟู่เฉินหวนนั้นยังคงเย็นชา เขาเหลือบมองลั่วชิงยวนที่อยู่บนพื้น "ครั้งนี้นางกระทำอันใดผิดกัน เหตุใดท่านถึงได้ใช้กฎครอบครัวเฆี่ยนตีนางเช่นนี้"ลั่วไห่ผิงหน้าเสี

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 23

    เสียงของนางอ่อนแรงมาก แต่ก็ยังสัมผัสได้ถึงเจตจำนง และความดื้อรั้นที่ไม่ยอมแพ้ของนางเขาขมวดคิ้วมุ่น สมบัติอย่างนั้นหรือ? อะไรคือสมบัติที่ลั่วชิงยวนต้องการถึงเพียงนี้กัน?ลั่วเยวี่ยอิงก้าวไปข้างหน้า หวังจะแยกมือของลั่วชิงยวนออก แต่ลั่วชิงยวนมิได้สติ นางกำเสื้อผ้าของฟู่เฉินหวนแน่น โดยไม่มีทีท่าว่าจะปล่อย และยังพึมพำไม่หยุด "เอาสมบัติของแม่ข้าคืนมา! เอาคืนมาให้ข้า!"“ท่านพี่ตื่นเถิด อย่าทำให้เสื้อผ้าของท่านอ๋องเปื้อนสิเจ้าคะ!” ลั่วเยวี่ยอิงพูดขึ้นอย่างร้อนรนอย่างไรก็ตาม ลั่วชิงยวนยังคงจับมันไว้และไม่ยอมปล่อย นางรั้งมันไว้เหมือนฟางเส้นสุดท้ายดวงตาของฟู่เฉินหวนเคร่งขรึม เขาจ้องมองด้วยความขยะแขยง แต่สุดท้ายก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากยอมประนีประนอม "ช่างเถอะ ข้าผู้เป็นอ๋องจะส่งนางกลับเรือนเอง!"เขาก้มลงอุ้มลั่วชิงยวนขึ้นมา แต่ด้วยร่างกายที่หนักอึ้งนี้ แม้แต่ท่านอ๋องที่ฝึกฝนวรยุทธมาตลอดทั้งปี ก็เกือบจะเซทันทีที่ลุกขึ้นเขาอุ้มลั่วชิงยวนขึ้นมาด้วยความยากลำบาก ก่อนจะเดินตามทางที่นางรับใช้บอกไปยังเรือนสายธารเขาวางลั่วชิงยวนลงบนเตียง ใบหน้าของนางซีดเซียวไร้สีเลือด ข้อนิ้วที่จับเสื้อของฟู่

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 24

    ฟู่เฉินหวนตัวแข็งทื่อลั่วไห่ผิงโกรธมากเมื่อได้ยิน คนในครอบครัวท่านอ๋องอย่างนั้นหรือ? นั่นก็คือจักรพรรดิ คือราชวงศ์เชียวนะ!เขาตะคอก "ลั่วชิงยวน เจ้ากำลังพูดจาไร้สาระอะไร! เจ้ารู้หรือไม่ว่าการสาปแช่งจักรพรรดิ และไม่เคารพราชวงศ์เป็นความผิดบาปใหญ่แรงแค่ไหน? เจ้าตั้งใจจะฆ่าคนในจวนอัครเสนาบดีงั้นรึ!"ลั่วชิงยวนหัวเราะเยาะ น้ำตาและเลือดยังคงไหลออกมาไม่หยุดนางกำลังจะตายอยู่แล้ว จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับจวนอัครเสนาบดีด้วยหรือ? จวนอัครเสนาบดีจะเป็นเยี่ยงไรนั้นมิเกี่ยวกับนาง หากมิใช่ท่านพ่อซึ่งเป็นท่านอัครเสนาบดีใช้กฎครอบครัวกับนาง นางจะหมดสติไปถึงขั้นโดนคนวางยาเช่นนี้หรือ!หมอกู้พูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึม "ท่านอ๋อง กระหม่อมได้จ่ายยาเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บแล้ว แต่อาการบาดเจ็บนั้นรุนแรงเกินไปสำหรับพระชายา และนางก็ป่วยกะทันหัน กระหม่อมเกรงว่าจะเหลือเพียงไม่กี่ชั่วยามเท่านั้นพ่ะย่ะค่ะ"เมื่อได้ยินเช่นนี้ ฟู่เฉินหวนก็ขมวดคิ้ว มองไปที่ลั่วชิงยวนที่โชกไปด้วยเลือด เขารู้สึกสงสารนางอยู่ครู่หนึ่งได้รับบาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิตจากอาการป่วยกะทันหันอย่างนั้นหรือ? ลั่วชิงยวนอยากจะอ้าปากแย้ง แต่อาการปวดท้อ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 25

    หลังจากที่ทุกคนจากไป ในเรือนมีเพียงแม่นมกู้ที่กำลังสวดมนต์ภาวนาอยู่ที่เรือน นางค้ำกำแพงพลางเดินเข้ามาในห้องอย่างช้า ๆ นางเช็ดน้ำตาขณะเดินเข้ามา มันช่างน่าสะเทือนใจยิ่งนักเมื่อได้ยินลั่วชิงยวนจับมือของจือเฉา นางพยายามเปิดปาก แต่ใบหน้าเต็มไปด้วยความเจ็บปวด ก่อนจะเปล่งเสียงออกมาอย่างยากลำบาก "กล้วย… กล้วยไม้มังกรขนด..."“กล้วยไม้มังกรขนด? พระชายา ท่านพูดว่า กล้วยไม้มังกรขนดใช่หรือไม่? คืออะไรหรือเจ้าคะ?” จือเฉาได้ยินเสียงพระชายาอย่างชัดเจน นางรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาทันทีลั่วชิงยวนพยายามอ้าปาก "ลาน… สัตว์ในตำนาน… หลังตะเกียงหิน..."จือเฉาเป็นคนฉลาด นางสงบลงทันที "หลังตะเกียงหินสัตว์ในตำนานในลานใช่ไหมเจ้าคะ?""ข้าจะไปบัดเดี๋ยวนี้!"จือเฉาไม่รู้ว่าพระชายากำลังพูดถึงอะไร แต่นางจำตะเกียงหินรูปร่างประหลาดได้ นางวิ่งไปที่ลานด้านหลังตะเกียงหินทันที และดึงดอกไม้รวมถึงพืชหลากสีออกมาทีละกำ ก่อนจะหอบพืชกองใหญ่วิ่งกลับไปที่เรือนสายธารนางถือมันไว้ข้างหน้าลั่วชิงยวน "พระชายา ในนี้มีกล้วยไม้มังกรขนดที่ท่านต้องการหรือไม่เจ้าคะ ถ้าไม่มี ข้าจะไปหามันอีกครั้ง!"นางรู้ว่านี่จะต้องเป็นสิ่งที่สามารถช่วย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 26

    ยามนี้ ใบหน้าของลั่วเยวี่ยอิงก็ซีดลงด้วยความตกใจ นางซ่อนตัวอยู่ในอ้อมแขนของฟู่เฉินหวน"ท่าน... ท่านเป็นคนหรือเป็นผีกันแน่?""แล้วเจ้าคิดว่าข้าเหมือนคนหรือผีกันเล่า?" ลั่วชิงยวนยิ้มอย่างเย็นชาลั่วไห่ผิงรู้สึกตกใจ ลั่วชิงยวนนั้นมิเป็นไรจริง ๆ อย่านั้นหรือ? ท่านหมอบอกว่าสิ้นหวังไปแล้วมิใช่หรือ? เห็นนางอาเจียนเป็นเลือดเยี่ยงนั้น คิดว่าอย่างไรนางก็คงมิรอดแน่! แต่ตอนนี้กลับวิ่งมาอยู่ตรงหน้าของเขาเสียได้"ท่านพี่ ท่านพี่อย่าได้ทำให้คนอื่นตกใจกลัวเยี่ยงนี้เลยเจ้าค่ะ" ลั่วเยวี่ยอิงแสร้งทำเป็นกลัว และซ่อนตัวในอ้อมแขนของฟู่เฉินหวนฟู่เฉินหวนมองลั่วชิงยวนด้วยสายตาที่ซับซ้อน ท่านหมอกู้ถึงกับบอกว่าสิ้นหวัง แล้วเหตุใดนางถึงยังมีชีวิตอยู่ได้?เมื่อเห็นว่าลั่วเยวี่ยอิงตกใจกลัว ลั่วไห่ผิงก็ลุกขึ้นยืนด้วยความโกรธ และมองไปที่ลั่วชิงยวนด้วยสายตาที่เฉียบคม "เจ้ายังอยู่รอดได้ก็นับว่าเป็นโชคดีของเจ้า เหตุใดถึงไม่พักผ่อน แต่กลับวิ่งมาที่นี่เพื่อทำให้น้องสาวเจ้าตกใจกลัว! เจ้าเป็นพี่ประสาอะไรกัน!"ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น คนที่ถูกต่อว่าก็คือลั่วชิงยวนเสมอนางยิ้มอย่างเย็นชา "พวกเจ้าอยากให้ข้าตายไม่ใช่รึ? ข้าม

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 27

    ลั่วชิงยวนโกรธมาก นางเตะประตูอย่างแรง ลั่วไห่ผิงหลีกเลี่ยงเรื่องของแม่นางอย่างเห็นได้ชัด มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่? ลั่วไห่ผิงมีความลับอะไรกัน? "พระชายา เหตุใดพวกเขาถึงขังท่านไว้เช่นนี้เล่าเจ้าคะ?" จือเฉาไปหาอาหารและนำกลับมา แต่ประตูกลับถูกล็อกไว้"ข้าไม่เป็นไร เจ้าไม่ต้องเป็นกังวล" ลั่วชิงยวนนั่งลงบนเก้าอี้อย่างอ่อนแรง คิดหาวิธีการตรวจสอบต่อไปในความเงียบ ท้องก็ร้องโครกครากด้วยความหิว แต่ประตูและหน้าต่างต่างก็ถูกล็อก จือเฉามิสามารถนำอาหารเข้ามาได้ ลั่วชิงยวนทำได้เพียงอดทนกับความหิว และนอนลงบนเตียงเพื่อหลับหนีความหิว……รุ่งสางของวันถัดมา ก่อนที่ลั่วชิงยวนจะตื่นขึ้นมา นางได้ยินเสียงปลดล็อกกุญแจ นางลืมตาขึ้นอย่างสะลึมสะลือ และเห็นนักพรตเต๋าในชุดสีเหลือง ถือดาบไม้ท้อ สั่นกระดิ่ง และเดินเข้ามาพลางพึมพำอะไรอยู่ในปากลั่วชิงยวนพยุงร่างกายของตัวเองขึ้นมา พลางขมวดคิ้ว นักพรตเต๋า?“มีวิญญาณชั่วร้ายล้อมรอบสถานที่แห่งนี้” นักพรตเต๋าสังเกตห้องอย่างเคร่งขรึม จากนั้นดวงตาของเขาก็จับจ้องไปที่ร่างของลั่วชิงยวน "วิญญาณชั่วร้ายรวมตัวกันอยู่ที่นางผู้นี้นี่เอง"จากนั้นลั่วไห่ผิงก็เดินเข้ามาในห้อง พร

Latest chapter

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1418

    ร่างที่เดินออกมาจากฝูงชนนั้นมีท่าทางคุกคามยิ่งนักลั่วชิงยวนหรี่ตาลงเล็กน้อย นั่นคือสตรีที่นางเห็นในความทรงจำของอวี๋ตันเฟิ่งต่งอวิ๋นซิ่ว!โหยวเซียงดิ้นรนพลางเงยหน้ามองต่งอวิ๋นซิ่วด้วยดวงตาแดงก่ำ “ท่านแม่… เป็นความผิดของลูกเองที่ปล่อยให้พวกมันขึ้นเขามาได้”หากมิใช่เพราะลั่วชิงยวนรู้ทางลับของวัดร้างแห่งนั้น พวกนางคงไม่มีทางขึ้นเขามาได้ง่ายดายถึงเพียงนี้!ต่งอวิ๋นซิ่วมองด้วยความเจ็บปวดแล้วตวาดใส่ลั่วชิงยวน “ปล่อยลูกสาวข้าเดี๋ยวนี้! มิเช่นนั้นข้าจะทำให้พวกเจ้าตายเยี่ยงไร้ที่ฝัง!”ลั่วชิงยวนหัวเราะเบา ๆ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงดูถูกเหยียดหยาม “เมื่อคืนยังพยายามทำลายวิญญาณที่เหลือของอวี๋ตันเฟิ่งอยู่เลย วันนี้เจ้าลืมไปแล้วหรือว่าศัตรูของเจ้าคือใคร?”“ใครกันแน่ที่จะตายแบบไร้ที่ฝัง ยังบอกมิได้หรอก”เมื่อได้ยินดังนั้น ต่งอวิ๋นซิ่วก็สะดุ้งเฮือก สีหน้าเปลี่ยนไปอย่างมากท่าทางของนางดูตึงเครียดขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด แต่ก็ยังพยายามซ่อนไว้ได้ดีนางมองลั่วชิงยวนอย่างใจเย็น แล้วกล่าวว่า “ในเมื่อพวกเจ้ามาถึงเมืองแห่งภูตผี ก็คงต้องการของล้ำค่าของเมืองแห่งภูตผีสินะ”“พวกเจ้าอยากได้อะไร ข้าสามารถให้เจ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1417

    นางปฏิเสธอย่างหนักแน่นลั่วชิงยวนกลับยกยิ้มอย่างพึงพอใจแล้วค่อย ๆ ลุกขึ้น “พานางไปด้วย ไปวัดร้าง!”พวกเนางมุ่งหน้าไปทางทิศใต้ โหยวเซียงดิ้นรนตลอดทาง แต่โฉวสือชีและคนใบ้จ้องมองทุกการกระทำของนางอย่างใกล้ชิด มิเปิดโอกาสให้นางหลบหนีไปได้แม้แต่น้อยเมื่อเดินไปได้ไกลมากพอสมควร เสียงไก่ขันยามรุ่งอรุณก็ดังขึ้นแล้วในที่สุดพวกเขาก็มาถึงวัดร้างแห่งนั้นในวัดร้างมีพระพุทธรูปที่เป็นซากปรักหักพังล้มลงบนพื้น ดูเหมือนว่าที่นี่จะไม่มีใครมานานแล้วเมื่อมองหาอย่างละเอียดก็พบรอยเท้าบนพื้นลั่วชิงยวนมั่นใจยิ่งขึ้น นี่คือสถานที่ที่ถูกต้อง!โหยวเซียงจ้องมองทุกการกระทำของลั่วชิงยวนอย่างกระวนกระวาย เกรงว่าลั่วชิงยวนจะพบกลไกเข้าแต่ลั่วชิงยวนกลับสังเกตปฏิกิริยาของโหยวเซียง ค่อย ๆ เดินไปในแต่ละที่โดยอาศัยการสังเกตปฏิกิริยาโหยวเซียงสุดท้ายลั่วชิงยวนจึงเพ่งเล็งไปที่ผนังด้านหนึ่งแล้วเริ่มค้นหากลไกเสียงเปิดกลไกดังแกร๊กดังขึ้นประตูบานหนึ่งบนพื้นพลันเปิดออกหลังจากที่ลั่วชิงยวนเปิดประตูแล้วก็พบว่าด้านล่างยังมีประตูอีกบานหนึ่ง และบนนั้นก็มีกลไกเช่นกันแต่สำหรับลั่วชิงยวนแล้วเรื่องนี้ง่ายมากเมื่อประต

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1416

    “เจ้ารีบอะไรนักหนา รอมาตั้งนานแล้ว รออีกสักหน่อยจะเป็นกระไร”เมื่อได้ยินดังนั้น อวี๋ตันเฟิ่งก็หยุดมือลั่วชิงยวนเดินเข้าไปคว้าตัวโหยวเซียงไว้ให้โฉวสือชีมัดนางไว้แน่นหนา จากนั้นจึงปลุกโหยวเซียงให้ฟื้นขึ้นมาเมื่อฟื้นคืนสติ โหยวเซียงก็จ้องหน้าลั่วชิงยวนเขม็งอย่างโกรธแค้น “เจ้ากล้าจับข้า เจ้าคอยดูเถอะว่าจะตายอย่างไร!”ลั่วชิงยวนย่อตัวลงนั่งตรงหน้านาง แล้วหัวเราะเบา ๆ “ใช่แล้ว ใครจะกล้าแตะต้องคุณหนูใหญ่เมืองแห่งภูตผีเล่า”“น่าเสียดาย เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้ บิดามารดาของเจ้าไปปล้นเขามา มิใช่ของพวกเขามาแต่เดิม ย่อมมิใช่ของเจ้าเช่นกัน”“ถึงเวลาคืนเจ้าของตัวจริงแล้ว”โหยวเซียงจ้องเขม็งนางอย่างโกรธแค้น “เจ้าพูดจาเหลวไหลอะไร! เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้เป็นของบิดามารดาข้ามาแต่เดิม!”เมื่อได้ยินดังนั้น ลั่วชิงยวนก็ประหลาดใจ “หรือว่าต่งอวิ๋นซิ่วมิได้บอกความจริงแก่เจ้า”“ก็ถูกแล้ว เรื่องน่าอับอายเช่นนี้ นางจะบอกลูกสาวได้อย่างไร”“เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้มิใช่เพียงถูกบิดามารดาเจ้ายึดมาเท่านั้น แต่ยังใช้วิธีการที่น่ารังเกียจในการยึดครองด้วย!”“เดาว่าจนถึงตอนนี้เจ้าก็คงยังมิรู้เลยว่าศัตรูของเจ้าคือผ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1415

    โหยวเซียงกัดฟันพูดด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบลั่วชิงยวนมองไปที่อวี๋โหรว หลายวันมานี้อวี๋โหรวผอมซูบไปมาก“เจ้าจับตัวอวี๋โหรวมาเพื่อล่อข้ามาที่นี่รึ?”ลั่วชิงยวนหรี่ตามองโหยวเซียง“แต่เจ้ามิน่าจะมีความสามารถพอที่จะพาอวี๋โหรวออกจากวังหลวงไปได้”“เวินซินถงเป็นคนทำใช่หรือไม่?”“เจ้าทำข้อตกลงอะไรกับนางไว้?”โหยวเซียงหัวเราะเยาะ “อยากรู้รึ?”“คุกเข่าอ้อนวอนข้าสิ”“เจ้าอ้อนวอนข้า ข้าถึงจะบอกเจ้าว่าผู้ใดจับตัวอวี๋โหรวมา และผู้ใดร่วมมือกับข้าวางแผนให้เจ้ามาที่เมืองแห่งภูตผี”ลั่วชิงยวนมองท่าทีหยิ่งยโสของโหยวเซียงแล้วก็อดมิได้ที่จะหัวเราะเบา ๆ นางกวาดสายตามองไปรอบ ๆ แล้วถามว่า “ต่งอวิ๋นซิ่วมิมาด้วยรึ?”“เมื่อครู่นี้คนที่ต่อสู้กับข้าก็คือนางใช่หรือไม่?”เมื่อได้ยินน้ำเสียงเยาะเย้ยของลั่วชิงยวน โหยวเซียงก็โกรธจัด ในใจนางตกใจ ลั่วชิงยวนรู้แล้วหรือว่ามารดาของนางเป็นใคร“สารเลว!”นางบีบคออวี๋โหรวอย่างแรงเพื่อข่มขู่ลั่วชิงยวน “จะคุกเข่าหรือไม่?!”“ลั่วชิงยวน เจ้ามีโอกาสแค่ครั้งเดียว!”“หากเจ้ามิยอมคุกเข่ายอมจำนนแต่โดยดี ข้าจะหักคอนางเดี๋ยวนี้!”กล่าวจบ โหยวเซียงก็ออกแรงบีบบีบจนอวี๋โหรวหาย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1414

    ทันทีที่คนใบ้หันมาเห็นจึงรีบเข้ามาย่อตัวลงข้างนางแล้วช่วยประคองนางไว้ลั่วชิงยวนเช็ดเลือดที่มุมปาก ใบหน้าซีดเผือดกว่าเดิม“ข้ามิเป็นอะไร”นางเงยหน้าขึ้นมองอวี๋ตันเฟิ่งที่อยู่กลางอากาศ ในที่สุดจิตวิญญาณของนางก็สมบูรณ์แล้วบนใบหน้าซีดขาวนั้นปรากฏรอยยิ้ม รอยยิ้มนั้นทั้งพึงพอใจและเย่อหยิ่ง“ในที่สุดข้าก็ได้… เป็นอิสระแล้ว! ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า...”อวี๋ตันเฟิ่งหัวเราะลั่น ทำเอาป่าทั้งผืนเกิดพายุโหมกระหน่ำคนใบ้รีบยกมือขึ้นช่วยลั่วชิงยวนปัดป้องฝุ่นและใบไม้ที่ปลิวว่อน......จู่ ๆ ต่งอวิ๋นซิ่วก็กระอักเลือดออกมาเต็มปาก จากนั้นหมดสติล้มลงบนพื้น“ท่านแม่!”โหยวเซียงตกใจ รีบเข้าไปประคองนาง “ท่านแม่! ท่านแม่! ท่านเป็นอะไรไป!”หลังจากตะโกนเรียกอยู่นาน มารดาของนางก็มิฟื้นโหยวเซียงโกรธจนกัดฟันพูด “ลั่วชิงยวน สารเลว!”“เจ้าคอยดูเถอะ!”......ผ่านไปครู่ใหญ่ อวี๋ตันเฟิ่งถึงจะสงบสติอารมณ์ลงได้ลมพายุในป่าก็สงบลงเช่นกันถูหมิงที่อยู่ข้าง ๆ จึงค่อย ๆ ขยับเข้ามาใกล้ฉีเสวี่ยเวยที่ยังคงตกตะลึงมองภาพเหตุการณ์เมื่อครู่ด้วยความมิอยากเชื่อ “เมื่อกี้เกิดอะไรขึ้น?”“ต่อไปพวกเราต้องทำอะไร?”ลั่วชิงยวน

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1413

    คนของถูหมิงตายไปหมดแล้ว เหลือเพียงฉีเสวี่ยเวยเท่านั้นในขณะที่พวกเขาเดินทางไปยังถ้ำแห่งที่หกในคืนนั้นผลลัพธ์ที่ได้กลับน่าผิดหวังเพราะในถ้ำว่างเปล่า“ดูเหมือนว่าพวกเราจะมาช้าไปก้าวหนึ่ง”ถูหมิงขมวดคิ้ว “เหลืออีกหนึ่งชิ้น ทำอย่างไรดี? หรือว่าความพยายามทั้งหมดของเราจะสูญเปล่า?”พวกเขาวุ่นวายมาหลายวัน เดินทางไปเกือบทั่วทั้งภูเขาแล้วหากสมบัติหายไปเช่นนี้ เขาคงต้องฆ่าสตรีผู้นี้เป็นแน่!ลั่วชิงยวนขมวดคิ้วครุ่นคิด แล้วกล่าวว่า “เหลืออีกหนึ่งชิ้นก็เหลืออีกหนึ่งชิ้น”“หาที่ปลอดภัยก่อน”จากนั้นพวกเขาก็มายังป่าที่ค่อนข้างสะอาด ไม่มีพุ่มไม้หรือวัชพืชหนาแน่นบนพื้นมากนัก ค่อนข้างโปร่งโล่งหีบทั้งห้าใบวางอยู่บนพื้นลั่วชิงยวนกล่าวว่า “เปิดหีบกันเถิด”ทันใดนั้นดวงตาของถูหมิงก็เป็นประกาย “เปิดได้หรือ?”เขาเห็นว่าบนหีบมีแต่อักขระสีเลือดปกคลุมอยู่ จึงยั้งมือไว้หลายครั้งแม้จะอยากเปิดก็ตามเมื่อได้ยินเช่นนี้จึงรีบเปิดหีบทันทีแต่เมื่อเปิดออกแล้ว ร่างกายของเขาก็แข็งทื่อไปศพ?!ทั้งยังเป็นศพที่ถูกชำแหละอีกด้วย?ฉีเสวี่ยเวยก็ตกใจกลัวลั่วชิงยวนกลับสงบสติอารมณ์ สั่งให้โฉวสือชีและคนใบ้ช่วย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1412

    “ใครกัน?!”ลั่วชิงยวนหรี่ตาลงเล็กน้อย แล้วตอบเสียงแผ่ว “ซูเซียง”“แต่ตอนนี้ควรเรียกนางว่าโหยวเซียง”“ภารกิจที่พวกเจ้าได้รับก็เป็นเพียงการละเล่นของนางเท่านั้น”“นางต้องการให้พวกเจ้าฆ่ากันเอง”และภารกิจหนังหน้าของหญิงงามที่ฉีเสวี่ยเวยได้รับ ก็คงเป็นการล่อลวงให้ฉีเสวี่ยเวยมาฆ่านางหากสามารถยืมมือคนอื่นฆ่าคนได้ โหยวเซียงก็มิจำเป็นต้องเปิดเผยตัวตนเพียงแต่โหยวเซียงคาดมิถึงว่าฉีเสวี่ยเวยจะฆ่านางมิได้ กระทั่งโหยวเซียงเองก็ฆ่านางมิได้“โหยวเซียงหรือ? นางเป็นคนของเมืองแห่งภูตผีแห่งนี้หรือ?” ฉีเสวี่ยเวยมองนางอย่างมิเชื่อสายตา“มิแปลกใจเลย… นางท้องแก่ถึงเพียงนั้นยังกล้ามาที่นี่ได้”ลั่วชิงยวนเห็นว่าใกล้รุ่งสางแล้ว จึงให้โฉวสือชีแก้เชือกที่มัดฉีเสวี่ยเวยไว้“ข้าจะยังมิฆ่าเจ้าตอนนี้”“มิว่าเรื่องที่เจ้ากล่าวมาจะเป็นจริงหรือไม่ก็มิสำคัญ ข้าก็มิกลัวว่าเจ้าจะไปบอกเรื่องนี้กับถูหมิง”“หากเจ้าไปบอก เรื่องเดียวที่จะเป็นผลเสียต่อพวกข้าก็คือต้องแบกหีบเพิ่มอีกมิกี่ใบ”“เพียงเท่านั้น”มิใช่เรื่องคอขาดบาดตายที่นางทำเป็นร่วมมือกับถูหมิง ก็เพียงต้องการใช้คนของเขาไปขวางทางศพชายที่ถูกผนึกไว้ในถ้ำ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1411

    “แม้จะต้องยอมตายไปพร้อมกับถูหมิง ข้าก็ยินดี!”เมื่อได้ยินดังนั้น ลั่วชิงยวนก็ตกตะลึง แต่ก็ยังคงสงสัยอยู่บ้าง“แต่เจ้าสนิทสนมกับถูหมิงถึงเพียงนั้น น่าจะมีโอกาสฆ่าเขาได้นับครั้งมิถ้วน”ฉีเสวี่ยเวยขมวดคิ้วแน่น ดวงตาแดงก่ำ “แท้จริงแล้วคนผู้นั้นระแวดระวังตัวมาก หากมิใช่เพราะต้องการลดความระแวดระวังของเขา ข้ากับชายมากหน้าหลายตาก็คงมิ...”เมื่อกล่าวถึงตรงนี้ ฉีเสวี่ยเวยก็เม้มริมฝีปากแน่นหลังจากกล้ำกลืนความรู้สึกแล้ว จึงกล่าวต่อ “ในป่าครั้งนั้นเป็นครั้งแรกที่เขาใกล้ชิดข้า เดิมทีตอนนั้นข้ามีโอกาสที่จะฆ่าเขาได้!”“แต่เจ้าปีศาจฝูเหมิ่งนั่นบังเอิญมาขวาง!”“หากมิใช่เพราะเขา ข้าคงทำสำเร็จไปแล้ว!”ฉีเสวี่ยเวยกัดฟันพูด เต็มไปด้วยความเคียดแค้นลั่วชิงยวนรู้สึกประหลาดใจ เมื่อเห็นสีหน้าของฉีเสวี่ยเวย ในดวงตาของนางเต็มไปด้วยความแค้น ดูมิเหมือนคนโกหกทำให้นางเปลี่ยนทัศนคติที่มีต่อฉีเสวี่ยเวยไปบ้างขณะที่ลั่วชิงยวนยังคงครุ่นคิด ฉีเสวี่ยเวยก็มองมาที่นาง “เจ้ายังมิเชื่อข้าหรือ?”“ขอเพียงเจ้าฆ่าถูหมิงได้ ข้าจะทำทุกอย่างเพื่อเจ้า! ข้าจะบอกสิ่งที่เจ้าอยากรู้ทุกอย่าง!”ลั่วชิงยวนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1410

    ลั่วชิงยวนนอนนิ่งอยู่บนเตียง มิกล้าขยับกายทว่างูตัวนั้นกลับกัดข้อเท้านางอย่างแรงหนึ่งครั้ง จากนั้นก็รีบเลื้อยหนีไปรออยู่ครู่หนึ่ง ฉีเสวี่ยเวยเห็นว่าคนที่นอนอยู่บนเตียงไม่มีความเคลื่อนไหวใด ๆ จึงเปิดประตูเข้ามานางมิอาจมั่นใจได้ว่าพวกคนใบ้จะกลับมาเมื่อใด จึงมิกล้าเสียเวลานานหลังจากปิดประตูอย่างระแวดระวังแล้ว นางก็มายังปลายเตียง จ้องมองข้อเท้าของลั่วชิงยวนอย่างละเอียด ปรากฏว่าถูกงูกัดจริง ๆ นางต้องตายเพราะพิษนี้แน่นอน!ทันใดนั้นเอง ฉีเสวี่ยเวยก็ชักกริชออกมาแล้วเดินไปยังหัวเตียง ค่อย ๆ จรดใบมีดลงบนใบหน้าของลั่วชิงยวนแต่ในพริบตานั้นเอง ลั่วชิงยวนก็ลืมตาขึ้นมาจ้องมองนางด้วยสายตาอาฆาตแค้นฉีเสวี่ยเวยพลันตกใจ แต่ก็มิได้หนีในทันที เพราะนางคิดว่าลั่วชิงยวนโดนพิษงูเข้าไปแล้ว อย่างไรก็ต้องตายอยู่ดีลั่วชิงยวนรีบคว้าข้อมือของฉีเสวี่ยเวยไว้เพื่อแย่งชิงกริชมาจากนางฉีเสวี่ยเวยก็ลงมือโจมตีเช่นกัน เพียงแต่นางคาดมิถึงว่าสตรีผู้นี้ที่ถูกพิษแล้วจะยังมีพละกำลังมากมายถึงเพียงนี้หลังจากทั้งสองต่อสู้กันครู่หนึ่งในห้อง ฉีเสวี่ยเวยก็พ่ายแพ้ ถูกลั่วชิงยวนจับกดไว้บนโต๊ะฉีเสวี่ยเวยตกใจมาก “เจ้า

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status